คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : อุโนะฮานะ X เคมปาจิ ตอนที่8 (จบ)
จากนั้นเวลาก็ผ่านไปอีก 2-3 วัน ในการประชุมหัวหน้าอุโนะฮานะก็ยังไม่มาเช่นเดิม แม้จะมีข่าวว่าเธอออกมาเดินข้างนอกแล้วบ้างก็ตาม
“พอเจ๊ใหญ่ไม่อยู่รู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้แฮะ” เคียวราคุบ่นออกมาในที่ประชุม
“พูดแบบนั้นถ้าหัวหน้าอุโนะฮานะมาได้ยินจะเป็นเรื่องเอานะ” อุคิทาเกะพูด
“น่าๆ เจ๊ใหญ่อุตส่าห์ไม่อยู่ทั้งที” เคียวราคุยังคงพูดต่อแบบไม่กลัวตาย
“ตอนนี้ที่โซลโซไซตี้ยังปกติดี ขอให้ทุกหน่วยทำหน้าที่ของตนต่อไป ส่วนหัวหน้าอุโนะฮานะยังอยู่ในช่วงลาหยุด วันพรุ่งนี้จึงจะกลับมาทำหน้าที่ตามเดิม ขอให้ทุกคนเข้าใจตามนี้ รายงายวันนี้ก็ขอจบเพียงเท่านี้ เลิกประชุมได้”
พอหัวหน้าใหญ่พูดจบเคมปาจิที่เงียบอยู่ตลอดการประชุมก็รีบวิ่งออกไปก่อนใครเพื่อน แต่คนอื่นก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะมันแทบจะเป็นปกติอยู่แล้ว
“เคนจัง~” ยาจิรุกระโดดขึ้นหลังเคมปาจิทันที
“”ยาจิรุ วันนี้กลับไปก่อนเถอะ”
“ทำไมล่ะ เคนจัง”
“ฉันมีที่ๆ ต้องไปก่อน”
“โธ่ เดี๋ยวนี้เคนจังชอบหายไปไหนคนเดียวตลอดเลย แอบไปหาอะไรกินโดยไม่บอกละสิ” ยาจิรุว่า ทำเอาเคมปาจิรีบหาทางแก้ทันที
“เดี๋ยวฉันจะเอาขนมมาฝากก็แล้วกัน”
เท่านั้นล่ะ ยาจิรุก็กระโดดลงอย่างรวดเร็ว
“สัญญาแล้วนะเคนจัง อย่าลืมล่ะ”
“อืม…”
พูดจบเคมปาจิก็รีบวิ่งไปทันที แม้เขาจะวิ่งหลงทางอยู่หลายครั้งหลายครา แต่เป้าหมายก็คือ…หน่วยที่สี่
“อ๊ะ!” อุโนะฮานะที่กำลังเดินกลับห้องหัวหน้าหน่วย อยู่ๆก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นชายที่คุ้นเคยยืนอยู่กลางทางเดิน เธอมองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ
“หัวหน้าซาราคิมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ?”
“…แค่มาเดินเล่น” เคมปาจิตอบพลางหันหน้าไปทางอื่น
เดินเล่น? จะให้เธอเชื่อได้ยังไง หรือต่อให้เป็นจริง แล้วทำไมคนอย่างเคมปาจิถึงคิดจะมาเดินเล่นที่หน่วยเธอด้วย ทั้งที่เมื่อก่อนไม่ชอบที่นี่แม้แต่น้อย ถ้าเขาบอกว่าหลงทางมาเธอยังจะยอมรับได้มากกว่า
เธอไม่เข้าใจชายตรงหน้าเลยจริงๆ…
อุโนะฮานะยิ้มให้เขาเหมือนทุกที ถึงในใจจะสงสัย แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไร แม้ที่เขาพูดมามันฟังดูไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไหร่ก็ตาม
“ยืนคุยแบบนี้คงไม่เหมาะ ฉันคิดว่าเราไปหาที่นั่งคุยกันจะดีกว่า”
เคมปาจิไม่ตอบ แต่ก็เดินตามไปอย่างว่าง่าย…
พอเดินมาถึงห้องหัวหน้าหน่วย ขณะที่อุโนะฮานะกำลังเปิดประตู เคมปาจิก็พูดขึ้นลอยๆ~
“ออกมาเดินแบบนี้…หายแล้วรึไง”
อุโนะฮานะพอได้ยินก็ชะงักไปสักพักก่อนจะหันมาตอบด้วยรอยยิ้ม “ตอนนี้ฉันอาการดีขึ้นมากแล้วค่ะ …”
พูดไม่ทันขาดคำเธอก็รู้สึกวูบขึ้นมาอีกครั้ง จนเกือบล้มลงไป แต่โชคดีที่เคมปาจิเข้ามาพยุงรับเธอได้ทัน แขนทั้งสองข้างที่ช่วยพยุงไหล่เธอให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก แม้ตอนนี้พวกเขาจะอยู่ในสภาพที่ไม่สมควรก็ตาม
“ไหนบอกว่าดีขึ้นไง” เคมปาจิขึ้นเสียงเหมือนอารมณ์เสียนิดๆ แต่คำบ่นที่เหลือกลับถูกกลืนหายไป เมื่อเขาได้กลิ่นที่คุ้นเคยจากตัวของผู้หญิงในอ้อมกอด
เคมปาจิกำลังอึ้ง ส่วนอุโนะฮานะที่คิดจะหันมาขอบคุณก็เกิดชะงักและเบือนหน้าหนีทันที เมื่อใบหน้าของเขาอยู่ใกล้แค่ปลายจมูก…
แต่ใครจะคิดล่ะ ว่าพอเธอเบี่ยงหน้าหนี ลมหายใจอุ่นๆของเคมปาจิก็ปะทะเข้ากับซอกคอของเธออย่างไม่ทันตั้งตัว ใจเธอกระตุกวูบไปครู่หนึ่ง และรู้สึกใบหน้าเริ่มมีเลือดสูบฉีด แต่ยังคงเก็บความรู้สึกเอาไว้ ตัดสินใจหันมาเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้งในระยะประชิด
“ขอบคุณนะคะ” อุโนะฮานะดันตัวของเคมปาจิให้ออกห่าง พอที่ปลายจมูกของเขาจะห่างจากใบหน้าเธอได้ แต่แม้จะดันยังไงใบหน้าของเขาก็ยังคงอยู่ใกล้เธอเสียเหลือเกิน
“หัวหน้าซาราคิ…”
เธอเรียกชื่อเขาแผ่วเบาและอ่อนโยน อยากให้เขารู้สึกตัวและปล่อยเธอออกจากอ้อมกอดเสียที แต่ดูคนตรงหน้าจะไม่รู้สถานการณ์ตอนนี้เอาซะเลย
เคมปาจิตอนนี้จ้องอุโนะฮานะไม่วางตา เหมือนตกอยู่ในภวังค์บางอย่าง แทนที่เขาจะปล่อยเธอกลับดึงเธอเข้ามาช้าๆ ไม่ว่าอุโนะฮานะจะผลักยังไงก็ไม่มีผลกับเขาทั้งนั้น
จากภาพตอนแรกที่แค่เข้าไปช่วยพยุง ตอนนี้กลับกลายเป็นภาพคู่รักที่ยืนกอดกันแนบแน่น ต่างฝ่ายต่างก็จ้องตากันโดยไม่มีใครละสายตา
อุโนะฮานะเมื่อโดนจ้องซะขนาดนี้ ใบหน้าที่พยายามเก็บความรู้สึกเอาไว้เต็มที่ก็เริ่มเก็บไม่อยู่ จนในที่สุดเธอก็ไม่อาจสู้สายตาเขาได้อีก ยิ่งชายคนที่จ้องมองเธอเป็นซาราคิ เคมปาจิ ชายที่เธอไม่เคยคิดว่าเขาจะใช้สายตาอ่อนโยนแบบนั้นมองมาที่เธอได้…
พอรู้สึกตัวอีกที เธอก็เผลอปล่อยให้เขากอดอยู่นานเกินไปเสียแล้ว
“คุณคงไม่คิดจะกอดฉันไว้แบบนี้เรื่อยๆ หรอกใช่มั้ยคะ?” อุโนะฮานะถาม โดยไม่คิดจะมองหน้าชายที่กอดตน
“…”
เมื่อเห็นเคมปาจิยังเอาแต่เงียบ เส้นสติของเธอก็ขาดผึง “หัวหน้าซาราคิ!”
เคมปาจิพอเห็นอุโนะฮานะเริ่มขึ้นเสียงก็ปล่อยเธอจากอ้อมอกทันที แม้อีกใจจะยังไม่อยากปล่อยก็ตาม
“มีอะไรเหรอคะ” อุโนะฮานะถามเมื่อเห็นเคมปาจิเอาแต่จ้องหน้าเธออยู่เหมือนเดิมจนอดสงสัยไม่ได้
“…กลิ่น”
ได้ยินดังนั้นเธอก็งงยิ่งกว่าเดิม “กลิ่นอะไรเหรอคะ?”
ในห้องทำงานของเธอทำความสะอาดทุกวัน นอกจากเธอกับอิซาเนะแล้วก็ไม่ค่อยมีใครเข้ามาใช้งาน ไม่น่าจะมีกลิ่นอะไรได้ เธอไม่เห็นจะได้กลิ่นอะไรด้วยซ้ำ
“กลิ่น…กลิ่นยายังฉุนเหมือนเดิม…” เคมปาจิโกหกหน้าตาย
เธอร้องอ๋อก่อนจะยิ้มให้เขานิดๆ “ตราบใดที่คุณยังอยู่ใกล้ฉัน คงจะได้กลิ่นนี้ไปอีกนาน ฉันหวังว่าคุณจะเริ่มชินกลิ่นกับที่นี่บ้าง” (เฮ้ย! เคมปาจิไม่ใช่หมานะเฟ้ย ไม่ต้องชินกลิ่นก็ได้)
เมื่อเห็นเคมปาจิไม่รับมุข เธอจึงถอนหายใจเบาๆ ก่อนะชวนมาเขานั่ง
“รอสักครู่นะคะ ฉันจะชงชามาให้”
“ไม่ต้องก็…” พูดยังไม่ทันจบอุโนะฮานะก็หายตัวไปเสียแล้ว
เคมปาจิที่อยู่คนเดียว เริ่มมองสำรวจไปรอบห้อง ห้องนี้ไม่ได้กว้างสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับห้องหัวหน้าหน่วยคนอื่นๆ ห้องค่อนข้างโล่ง แต่ที่เขาสงสัยจริงๆคงจะเป็นกลิ่นของห้องนี้ต่างหาก…
“หัวหน้าซาราคิฝากนี่ให้ยาจิรุด้วยนะคะ เธอคงอยากกินมัน” อุโนะฮานะยื่นห่อขนมให้
“ยาจิรุมาที่นี่บ่อยรึไง”
“ส่วนมากก็มากินขนมที่นี่บ่อยๆค่ะ คราวหน้าถ้าคุณจะมาด้วยก็ได้นะคะ^^”
“เธอเปลี่ยนไปนะ”
“??”
“ช่างเถอะ” เคมปาจิตัดบท เขารู้สึกว่าเดี๋ยวนี้อุโนะฮานะมีรอยยิ้มที่เปลี่ยนไป และเขาก็ชอบแบบนี้มากกว่า…
วันต่อมาในการประชุมหัวหน้าหน่วย อุโนะฮานะก็กลับมาทำหน้าที่ตามเดิม ทุกอย่างดูจะเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่…
“มีฮอลโลว์จำนวนมากทางเมืองลูคอนตะวันตก ฉันขอมอบงานนี้ให้หน่วย11เป็นคนจัดการ ส่วนหน่วยสนับสนุน…หน่วย4 มีใครจะค้านไหม?” (อย่างกับคำขอแต่งงาน = =)
“ไม่ค่ะ” อุโนะฮานะยิ้มรับ
“ฉันก็ไม่” เคมปาจิไม่ปฏิเสธเหมือนคราวก่อนๆ
แม้หลายคนจะแปลกใจนิดหน่อย ที่หน่วยที่ไม่ค่อยร่วมงานกัน คราวนี้กลับเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย จนน่าสงสัย แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร ส่วนเคมปาจิและอุโนะฮานะเพียงแค่เหลือบมามองกันแว๊บหนึ่งเท่านั้น
หลังจากเลิกประชุม ยาจิรุก็วิ่งเข้ามาหาเคนปาจิเหมือนทุกที พร้อมกับดึงอุโนฮานะที่กำลังเดินผ่านให้หยุดชะงัก
“มีอะไรเหรอยาจิรุจัง”
“ขอบคุณสำหรับขนมนะ เคนจังเอามาให้กินแล้ว อร่อยมากเลย” ยาจิรุพูดกับอุโนะฮานะ ก่อนจะหันไปทางเคนปาจิ “เคนจังนี่ละก็ ไปหน่วยสี่ก็ไม่บอก นิสัยไม่ดีเลยนะ”
“ก็เอาขนมมาให้แล้วไง…” เคมปาจิออกอาการเซ็ง
“ยาจิรุจัง…ถ้าอยากกินอีกก็ไปได้นะ” อุโนะฮานะยิ้มให้
ภาพตอนนี้คือเคมปาจิกำลังโดนยาจิรุตีหัว โดยมีอุโนะฮานะยืนยิ้มอยู่ข้างๆ บรรยากาศแบบนี้ มันทำให้ดูเหมือนกับ…พวกเขาเป็นพ่อแม่ลูกกันเลย
---จบ---
ความคิดเห็น