ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    war! † สงคราม(รัก)จักรพรรดินี

    ลำดับตอนที่ #2 : สงคราม (รัก) ครั้งที่ I

    • อัปเดตล่าสุด 19 ธ.ค. 56





    สงคราม(รัก)ครั้งที่ I


     
     
                    "สรุปว่ามึงจะไปกับกูด้วย?" เอ็มถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนหิ้วกระเป๋าขึ้นมาเคาะประตูคอนโดยามดึก หลังจากที่ดูรายละเอียดของงานและว้ากรุ่นน้องไปอีกรอบเอ็มก็ต้องวิ่งวุ่นเก็บของเตรียมตัวไปทำงานเพราะงานครั้งนี้ต้องออกนอกสถานที่ และเดินทางคืนนี้แล้วด้วย
     
     
                    "เออ ช่วงนี้กูว่าง" เร็นนอนกระดิกนิ้ว(เท้า)ตอบบนโซฟา ท่าทางน่าหมั่นไส้เสียจนคนมองนึกอยากยกเท้ายันสักปาบ
     
     
                    งานที่ 'เธอ' ทำอยู่คืองานรับจ้างทั่วไป (?) รับทำทุกงานถ้าถูกใจและเธอ 'อยาก' ทำ ประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงนี้ =__=^ งานอดิเรกที่เธอชอบทำคือการถ่ายภาพ การเก็บรายละเอียดในมุมมองต่างๆ ภายใต้เลนส์กล้องส่งผลให้เธอมีสมาธิและสติมากกว่าปกติ (สิบเท่า) เธอรู้ตัวดีเชียวละว่าเป็นคนสมาธิสั้น การทำงานตั้งโต๊ะจึงเป็นทางเลือกสุดท้ายที่เธอจะทำหรืองานอะไรก็ตามที่ต้องอยู่กับเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ เป็นเวลานานๆ ดังนั้นการรับงานที่ 'อยาก' ทำไปเรื่อยๆ จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะกับเธอที่สุด ล่าสุดเธอพึ่งรับงานตามหาโรเบิร์ต แมวอ้วนสุดซ่าที่ริหนีออกจากบ้าน เธอพบว่ามันกำลังแย่งอาหารหมาข้างถนนโชคร้ายในเย็นวันนั้น แต่เพราะงานที่เธอ 'อยาก' ทำ มันมีน้อย(เธอเรื่องมาก)ไอ้พวกรุ่นน้องที่รักมันเลยขยันหางานมาให้โดยการขุดเอาข้ออ้างสารพัดอย่างมาเกลี่ยกล่อมให้เธอรับปากช่วย และถึงจะรู้ว่าพวกมันตั้งใจแต่พอเห็นความพยายามในการสร้างเรื่องของพวกมันแล้วก็สนุก(?)ดีเหมือนกัน  แต่ก็ใช่ว่าเธอจะยอมช่วยทุกงานหรอกนะ อย่างน้อยๆ ก็ต้องขึ้นอยู่กับงานที่รับมาว่าน่าสนใจมากพอที่เธอจะยอมช่วยหรือเปล่า 
     
     
                     "แล้วไง? เลยอยากทำตัวเป็นปริงเกาะติดกูไปทุกที่ว่างั้น"
     
     
                     "มึงมีอะไรน่าสนใจให้กูเกาะวะ จะบอกว่ารวย? ขอโทษตอนนี้กูรวยกว่าเยอะ เสน่ห์รึก็มีแต่ดึงดูดเพศเดียวกัน ทำกับข้าวก็ไม่ได้เรื่อง เกาะมึงไปนานๆ กูคงอดตาย"
     
     
                      เอ็มมองเพื่อนสนิทที่สมควรถูกเธอวางแผนฆากรรมทิ้งอย่างอดกลั่น  เธอส่งเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจที่เถียงไม่ชนะเพราะมันเล่นเอาความจริงมาพูด "เออๆ งั้นมึงก็เชิญทำตัวตามสบายเถอะ อยากไปก็ไป ก็ดีกูจะได้เอารถไปเองขี้เกียจนั่งรถตู้ของทีมงานเหมือนกัน"
     
     
                      "มึงจะเอาคุณทวดขึ้นเขา?" เร็นผงกหัวขึ้นถาม
     
     
                       "เออ"
     
     
                       "แน่ใจว่ามันจะไม่ดับกลางทาง คือกูไม่ช่วยนะขอบอก" เร็นรีบออกตัวเมื่อนึกถึงรถรุ่นคุณทวดที่เจ้าตัวรักนักรักหนา ความคลาสสิกไม่ได้ช่วยให้ไต่ขึ้นเขาได้หรอกนะ
     
     
                        เอ็มถลึงตาดุเพื่อน
                        "อย่ามาดูถูกลูกรักกูนะ ถึงต้นเดือนมันจะเกเรไปหน่อยแต่รับรองว่าคืนนี้ไต่ขึ้นเขาได้สบาย"
     
     
                         "มั่นใจจริงนะ"
     
     
                          "แน่นอน! เพราะกูพึ่งไปแต่งเครื่องใหม่มาแถมทาสีให้ด้วยทั้งคัน รับรองเช้งกระเดะ" เอ็มยื่ดอกตอบอย่างภูมิใจ เธอหมดเงินไปไม่น้อยกับลูกรักคันนี้และหวังว่ามันจะคุ้มกับเงินที่เสียไป
     
     
                           เร็นถอนหายใจมองเพื่อนสนิทอย่างหน่ายๆ " แล้วนี่มึงโทรบอกทางนั่นหรือยังว่าจะขับรถไปเอง?"  เอ็มชี้ที่มือถือ บอกเป็นนัยว่ากำลังโทรอยู่ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปคุยที่นอกระเบียง
     
     
             
                           การเดินทางขึ้นเหลือใช้เวลานานพอสมควร ซึ่งการตื่นตีสามทั้งที่พึ่งนอนได้เพียงสองชั่วโมงเศษก็หาใช่ปัญหาสำหรับสองคู่ซี้ไม่ หลังจากที่ยัดของทุกอย่างลงลูกรัก(รุ่นคุณทวด)เรียบร้อยแล้วเอ็มก็จัดการลากเพื่อนสนิทที่ช็อกกับสีรถใหม่ของเธอขึ้นรถเป็นลำดับต่อไป และกว่ามันจะหาวิธี้ใช้เสียงเจอเธอก็สตาร์ทเครื่องออกมาได้สักพัก
     
     
                          มึงจะช็อกอะไรนักหนากับสีรถกูเนี่ย =__=?
     
     
                         "มึงปรึกษาใครก่อนหรือเปล่าก่อนที่มึงจะลงสี?" เอ็มเหล่มองคนถาม ก่อนจะส่ายหน้า "คุณทวดผมขอโทษที่ไม่ได้อยู่ดูใจ สัญญาว่าครั้งหน้าผมจะแนะนำยัยบ้านี่เรื่องสีให้เอง" เร็น พึมพำ ลูบโครงเหล็ก(?)อย่างเห็นใจ
     
     
                         "มึงบ่นอะไร"
     
     
                         "ปะเปล่า! กูแค่กำลังคิดว่าสีรถมึงนี่สะดุดตาดีโคตรๆ" เร็นตอบเสียงสั่น ยิ้มแห้งๆ ให้เพื่อนสนิท ใช่รถมึงสะดุดตามาก ต่อให้ยืนอยู่ห่างเป็นร้อยเมตรกูก็ยังเห็น
     
     
                         "หึๆ สวยใช่ไหมละ อันที่จริงพี่ที่รู้จักเขาแนะนำสีเขียวสะท้อนแสง(?)ให้ แต่กูถูกใจสีเหลือง(??)มากกว่า ลูกรักกูเลยออกมาเหลืองอะร่ามอย่างที่เห็น ถ้ากูเอานินจาไปทาสีนี้ด้วยมึงคิดว่าไง?"
     
     
                          "ไม่!" เร็นหน้าเครียดเหงื่อแตก เมื่อความคิดชวนจิตตกกำลังจะลามไปยังบิ๊กไบค์สปอร์ตคาร์อีกคันที่นอนนิ่งอยู่ในโรงรถ
                          "กูว่ามันไม่ดีหรอก ปล่อยให้มันใช้สีเดิมแหละดีแล้ว มึงจะเอารถสีเหมือนกันสองคันไปทำไม แค่คันเดียว(กูก็เครียด)พอแล้ว" เร็นเกลี่ยกล่อมเพื่อนเต็มที่ เขายังไม่อยากจิตตกนั่งรถที่สว่างไสวแย้งตาชาวบ้านไปทั่วเป็นเพื่อนคนความรู้สึกช้าหรอก 
     
     
                        "หรออ น่าเสียดายนะ"
     
     
                        เร็นพ่นลมพรืดใหญ่ "แล้วนี่ถ่ายเซ็ตอะไรถึงต้องหิ้วกล้องขึ้นป่า? 'รักษ์โลก' รึไง"
     
     
                        เอ็มส่ายหน้า "ไม่ใกล้เคียงสักนิด 'ลึกลับ ลุ่มหลง เร้าร้อน' หัวข้อของเซ็ตนี้ละ มองยังไงก็ไม่น่าจะเกี่ยวกับโลก แต่ถ้ากามโลกนี่กูเห็นชัดเลย" 
     
     
                         ใช่แล้ว งานที่ผมรับครั้งนี้คือการถ่ายแบบลงนิตยสารปารัส นิตยสารที่ได้รับกระแสความนิยมสูงสุดในปีนี้ เพราะการนำเสนอที่ไม่เหมือนใครบวกกับเนื้อหาของข่าวที่เจาะลึกชนิดเกาะขอบเตียง(?)รู้ทุกองศาที่คนดังหรือดาราขยับตัว เรียกได้ว่าเป็นนิตยสารที่เสือกเรื่องชาวบ้านดีๆ นี่เอง แต่เพราะอย่างนั้นนิตยสารปารัสจึงพุ่งขึ้นชาร์ตอันดับหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว และดารานางแบบนายแบบที่ได้ขึ้นปกนิตยสารเล่มนี้รับรองได้เลยว่า 'ถ้าไม่ดังทำไม่ได้นะค่ะ'
     
     
                         "ว้าวว *O* หัวข้อ Hot ดีนะ ผู้หญิงหรือผู้ชายวะที่เป็นแบบ"
     
     
                        เห็นอาการระริกระรี้ของเพื่อนแล้วเอ็มชักรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่ให้มันมาด้วยแล้วสิ ออกอาการมากไปแล้ว "ทั้งหญิงและชายวะ 3P อีกต่างหาก มึงสนใจจะไปเป็นพีที่สี่ไหมละ รุมตอมชะนีหึ่งกลางดงคงจะเป็นรสชาติใหม่ที่เร้าใจพิลึก" 
     
     
                       เร็นเบ้หน้า "เสียใจ! กูชอบฉายเดี่ยว ไม่นิยมกระแทกร่วมกับคนอื่นเฟ้ย!"
     
     
                        "ถุย! จะเดี่ยวจะหมู่ก็รูชาวบ้านเหอะ" เอ็มด่าเพื่อนอย่างหมั่นไส้ 
     
     
                        "หยาบคาย!" ทำปากยื่นให้รู้ว่างอน
     
     
                        เอ็มเลิกคิ้ว "เถียงกูสิว่าไม่จริง อย่าให้กูแฉขอร้อง" ว่าอย่างเป็นต่อ แล้วสนใจทางโค้งโคตรเยอะตรงหน้า ถึงจะมีเสียงหงิงๆ ดังข้างๆ อย่างน่าสงสารก็หาได้สนใจ  และตลอดระยะการเดินทางทั้งคู่ก็เถียงกันบ้างกัดกันบ้างจนกระทั้งเดินทางมาถึงทางขึ้นเขา สิ่งที่ทำให้เธอรับงานนอกทั้งที่รู้ว่าตัวเองขี้หงุดหงิดขนาดไหนกับอากาศเมื่อไทย(อย่างน้อยก็ในที่ที่อุณหภูมิมากกว่ายี่สิบ)เพราะเธออยากมาเก็บภาพบรรยากาศของน้ำตกในอุทยานแห่งชาติศรีสัชนาลัยนี่ละ ที่สำคัญที่สุดช่วงนี้หน้าหนาวอากาศกำลังดี เหมาะแก่การตั้งแคมป์
     
     
                         09.00 AM
     
                         เอ็มปล่อยให้เพื่อนเดินดูรอบๆ โดยที่ตัวเองไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่อุทยาน แม้ว่าทางทีมงานจะประสานงานไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เพราะเธอมาถึงสถานที่ก่อนจึงไม่อยากเสียเวลา เมื่อมาครบจะได้เดินทางขึ้นไปยังโลเคชั่นถ่ายทำได้ทันที แต่ก็คงอีกราวๆ ชั่วโมงได้...
     
     
                          
                          แชะ แชะ 
     
     
                         "เร็น มึงไปยืนโพท่าสดิกูจะถ่ายรูปให้" เอ็มยกกล้องตัวโปรดราคาหลายหมื่นที่ไม่นับค่าเลนส์ขึ้นเตรียมจับภาพ 
     
     
                        "กูเข้าใจว่ามาพักผ่อนไม่ได้มาเป็นแบบให้มึงนะ" ถึงปากจะบ่นแต่เร็นก็เดินไปโพสท่าให้ช่างภาพมือโปรอย่างเอ็มถ่ายอยู่ดี จะเล่นตัวทำไมในเมื่อเพื่อนสนิทของเขาถ่ายรูปอย่างเจ๋ง ไม่ใช่ว่าใครก็ได้ถ่ายกับเอ็มง่ายๆ เพราะความติสแตกของเอ็มทำให้แทบนับรูปที่เธอถ่ายคนได้และแต่ละรูปก็ดังๆ ทั้งนั้น มีคนทุ่มเงินหลายแสนประมูลภาพถ่ายของเธอแต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่ได้ภาพไปหรอก บอกแล้วว่าเพื่อนของเขามันติส หน้าตาและทัศนคติไม่ผ่านต่อให้เอาเงินสิบล้านมาวางตรงหน้าแม้แต่รูปถ่ายแมลงวันกับกองขี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีปัญญาได้ไปรึเปล่า
     
     
                        แชะ แชะ 
     
     
                       "กูจะอ้วกกับสายตาให้ท่ามึงแล้วอ่ะเร็น" เอ็มลดกล้องลงเช็กภาพ สีหน้าแขยงนิดๆ กับสายตาน่าขนลุกของเพื่อน
     
     
                       คนที่ได้รับคำชมว่าตาเรียวเซ็กซี่ได้ฟังคำวิจารณ์ของเพื่อนแล้วถึงกับสะดุดอาการ มึงนะมึงงง
                       "ปากหมาสัส" เร็นพึมพำ
                       "แล้วนี่เมื่อไหร่ทีมงานมึงจะมา สิบโมงกว่าแล้วนะ" มองนาฬิกาที่เข็มสั้นชี้เลขสิบเข็มยาวชี้เลขหกอย่างสงสัย 
     
     
                       คำถามที่ส่งผลให้เอ็มชะงักกึก หรี่ตาคู่สวยลงอย่างหงุดหงิดทั้งที่พยายามไม่คิดถึงแต่ก็เริ่มเก็บอาการไม่อยู่แล้ว อาการที่เร็นขยับถอนหลังไปนิดเมื่อรู้ว่าตัวเองเปิดประเด็นสนทนาผิดจังหวะไปหน่อย ก็ว่าอยู่ว่าทำไมถึงใจดีอยากถ่ายรูปให้ ที่แท้มันก็ทำฆ่าเวลา คิดแล้วก็แอบนอยด์แหะที่เป็นได้แค่ของขั้นเวลา 
     
     
                        "เอาน่าบ้างทีรถมันคงติด" เร็นปลอบ
     
     
                        เอ็มเหล่ตามองเพื่อน 'ตอบได้แย่มาก'
                        "ขาออกขึ้นเหนือ? รถไฟแวะเปลี่ยนล้อขว้างเลนถนนรึไง" คำประชดที่เร็นได้แต่ยักไหล่เป็นคำตอบ คือบ้างทีเครื่องบินอาจจอดเติมน้ำมันก็ได้นะเอ็ม ยังไม่ทันได้พูดในสิ่งที่คิดโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดังราคาเกือบซื้อจักรยานยนตร์ได้คันนึงก็ดังขัดจังหวะเสียก่อน 
     
     
                          Rrrr~
     
     
                          "สวัสดี" เอ็มรับสายเสียงเรียบ ปลายสายชะงักเล็กน้อยกับน้ำเสียงแข็งๆ ที่ได้รับ
     
     
                          <เอ่อ.สวัสดีค่ะ..คุณเอ็มพรีสค่ะ อีกไม่เกินครึ้งชั่วโมงทีมงานจะเดินทางไปถึงแน่นอนค่ะ ช่วยรอ..>
     
     
                          "ถ้ามีเวลาโทรมาบอกให้รอ ก็ควรจะรู้ว่าพวกคุณสายและสมควรถึงที่หมายแล้วตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน" คำตอกที่ปลายสายได้แต่อึกอัก
     
     
                          <คือ ขอโทษจริงๆ ค่ะ พอดีเกิดปัญหานิดหน่อยระหว่างเดินทางเราจะรีบไปถึงให้เร็วที่สุดค่ะ>
     
     
                          "หวังว่าคงไม่ต้องรอทั้งวัน"
     
     
                          <แน่นอนค่ะ!>
     
     
                          ติ๊ด.
     
     
                         "ว่าไง?"
     
     
                        "ยังไม่ถึง! เฮงซวยชิบ" เอ็มสบถ "ยังไม่ทันเริ่มงานกูก็เห็นแววว่าก้างกำลังจะตำคอกูแล้วเนี่ย!" เธอหัวเสียและในไม่ช้าจะได้มีคนเสียหัวถ้าเธอยังไม่เห็นใครสักคนที่พอจะรองรับอารมณ์ของเธอได้มาให้ด่า
     
     
                         "ใจเย็นน้า" เร็นตบไหล่เพื่อนสนิท  เขารู้ว่าเธอเป็นคนตรงเวลาพอๆ กับที่ทุกคนรู้ว่าเธอเหวี่ยงได้แรงแค่ไหนหากมีใครผิดนัด เร็นเดินไปหยิบน้ำแล้วยื่นให้เพื่อน 
                         "ดื่มซะอย่างน้อยมึงจะได้เย็นลง...จะให้ดีกูว่าราดทั้งตัวเลยดีกว่า" คงเป็นเพราะแดดที่แรงขึ้นอารมณ์ของมันถึงขึ้นตาม เร็นไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ว่าทำไมเอ็มถึงเลือกมาอยู่เมืองร้อนทั้งที่ตัวเองแพ้อาการร้อนมากๆ 
     
     
                          "ชิ!" เอ็มส่งเสียงฮึมฮำในลำคอขณะรับขวดน้ำมาดื่มดับกระหาย
                          "อีกสิบห้านาทีไม่มีใครโผล่หัวมากูไม่รอแม่งแล้ว! โว้ย! ร้อนชิบ!" เอ็มขยี้ผมอย่างหงุดหงิดก่อนจะเดินไปยกของและสัมภาระที่จำเป็นลงจากรถ เตรียมตัวขึ้นเขาโดยไม่คิดจะรอรีมงานที่เหลือ
     
     
     
                         11.00 AM
     
                         เอี๊ยดดดด! ปัง!
     
     
                         ตึก ตึก ตึก ๆ ๆ ๆ
                         "แฮ่กๆ ขอโทษค่ะคุณเอ็มพรีส!! ขอโทษค่ะ ขอโทษTTOTT" เสียงหญิงสาวร้องขอโทษดังลั่นก้มหัวปลกๆ ไม่อายสายตานักท้องเที่ยว เบื้องหน้าคือหญิงสาวร่างโปร่งยืนพิงรถเต๋าสีเหลืองอ๋อยผู้ซึ่งก้มหน้ากอดอกอยู่ในภาวะที่นิ่งจนน่ากลัว ขณะเดียวกันนางแบบนายแบบที่อยู่ในรถตู้ก็ถยอยลงจากรถ
     
     
                        'ราชา' ทายาทนักธุรกิจพันล้านเจ้าของฉายาเจ้าชายแบดบอยก้าวลงจากรถตู้ด้วยท่าทางเบื่อหน่ายกับการเดินทางนิดๆ ด้วยหน้าตาที่หล่อเหลาหาตัวจับยากกับฐานะทางบ้านที่โคตรรวย ทำให้เขาตกเป็นที่สนใจของหลายๆ คน ถึงนิสัยจะเลวร้ายไปบ้างแต่สมบัติที่ต่อท้ายมาพร้อมนามสกุลก็ช่วยให้ข้อเสียเล็กน้อยถูกกลบลงดินได้ไม่ยาก 
                         ร่างสูงในชุดแบรนด์เนมทั้งตัวตั้งแต่แว่นตายันรองเท้าก้าวมาหยุดลงข้างรถตู้ สายตาใต้กรอบแว่นหันไปสนใจร่างโปรงที่ยังก้มหน้าไม่ยอมเงยเล็กน้อย  ผมสั้นระต้นคอทั้งยังสีทองอะร่ามบวกกับสไตล์การแต่งตัวที่ดูทะมัดทะแมงนั่น สามารถดึงดูดสายตาผู้พบเห็นได้ไม่ยาก  และทันทีที่เจ้าของร่างเงยหน้าขึ้นมา นัยน์ตาสีเขียวอมฟ้าเย็นเชียบคู่นั้นก็สะกดการเคลื่อนไหวรอบกายได้ชะงักงัน
     
     
                         !!!
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    :) Jaokha™
     


    ลูกรัก(เฮีย)เอ็ม




    นินจา 250 อาร์
     
     
     
                       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×