คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Im Girl
“เฮ้ย! อย่ามาล้อกันเล่นนะโว้ย ฉันไม่ขำ” ไอ้ผีจูออนที่น่าจะชื่อแชมหรืออะไรสักอย่างตะโกนลั่นให้องค์กรนาซ่าได้ยิน มันจะตะโกนทำไมเนี่ย ฉันสิต้องตะโกน แต่คงไม่พอหรอกต้องร้องให้น้ำตาเป็นสายเลือดด้วย T^T
“ตอบพวกฉันมา ว่าทำไมเจ้าหนูนั่นถึงเรียกเธอว่าพี่สาว” ไอ้ผมซอยนำตาลพูดขึ้นอีกครั้งจากนั้นทุกสายตาก็จ้องมองมาที่ฉันเพียงคนเดียว กดดันนะเฟ้ย สงสารกันบ้าง
“ดะ...เดี๋ยวก่อน ^_^; ฉันจะบอกให้ก็ได้แต่พวกนายห้ามเป็นเหมือนเจ้าเด็กเมื่อกี้นะ เพราะเดี๋ยวฉันไม่มีใครพาไปส่งโรงพยาบาล Y^Y” ฉันพูดอย่างปรงๆ ชีวิต ฮือๆ ทำไมล่ะ ทำไม ทามมาย ชีวิตฉันถึงเป็นแบบนี้มาเมืองไทยไม่ทันข้ามคืนตกต้นไม้ ขาหักหรือเปล่าไม่รู้ ฉันยังมาทำเด็กเป็นเอ๋ออีก แต่อีกเดี๋ยวคงได้มีคนช๊อกน้ำลายฟูมปากกับเรื่องของฉันอีกแน่ ฉันจะโดนจับไหมเนี่ย U_U
“ทำไมเจ้าเด็กนั่นถึงเรียกเธอว่าพี่สาว”
“เพราะ...” ฮึ! เอาว่ะ ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่บอกเป็นบอกตายเป็นตายครับพี่น้องครับ >O<
“...”
“ก็เพราะฉันเป็นผู้หญิงน่ะเซ่ ไอ้เด็กบ้านั้นถึงได้เรียกฉันว่าพี่สาวน่ะ >O<”
“หา! บ้าน่าหน้าอย่างเธอน่ะนะเป็นผู้หญิงฉันไม่เชื่อ T^T”
“พวกเราก็ไม่เชื่อ (. . )( . .)(. . )( . .)” เออ รู้แล้วว่าโลกนี้ไม่มีใครเชื่อหรอกว่าฉันเป็นผู้หญิงน่ะ T^T ฉันชินแล้วฮือๆ
“จะเชื่อหรือไม่เชื่อมันก็เรื่องของพวกนายแต่พาฉันไปส่งโรงบาลก่อนได้ไหม เจ็บขาจนจะชักตายอยู่แล้ว” ฉันตะโกนเรียกสติพวกบ้าที่ยืนเรียงแถวหน้ากระดานเก๊กหล่อหน้างงกันอยู่ให้พาฉันไปส่งโรงพยาบาลได้แล้ว
“เออลืม เฮ้ยพวกเราแบก!” เป็นเสียงประกาสิทธิ ทั้งสี่วิ่งมามาแบกฉันไปที่รถเปิดประทุนสีดำราคาแพงที่จอดอยู่แถวนั้น แล้วพวกมันก็โยนฉันลงบนหลังรถ อ๊ากกกกกกกก! เจ็บนะเฟ้ยโยนมาได้ ไม่ได้เข้าใจหัวอกคนเจ็บบ้างเลยT^T ฉันคิดถูกคิดผิดเนี่ย ที่ให้ไอ้พวกนี้ไปส่งฉันโรงพยาบาลน่ะ
หลังจากทนเจ็บไม่น้อยอยู่นาน และเสียเวลาไปกับการโต้วาทีกันตอนฉันตกต้นไม้ ฉันก็ถึงมือหมอเสียที และผลชันสูตรศพ เฮ้ย ฉันยังไม่ตาย ก็แค่เกือบๆ เท่านั้นแหละ หมอบอกว่าฉันขาหัก เลยต้องเข้าเฝือกไปตามระเบียบ =_=; มันก็น่าจะเป็นแบบนั้นอยู่แล้วนี่ตกต้นไม้สูงขนาดนั้นน่ะ เฮอะๆ แต่นี่ไม่ใช่ปัญหา ปัญหามันอยู่ที่ว่าค่ารักษาพยาบาลกับการกลับห้องของฉันต่างหากที่เป็นปัญหา แล้วใครจะจ่ายให้ตูว่ะเนี่ย =o=;
“ขอบคุณนะค่ะ -0-” ฉันบอกขอบคุณคุณหมอก่อนที่ผู้ช่วยพยาบาลจะเข็นฉันออกมาข้างนอกห้อง ก่อนที่ฉันจะเจอบุรุษหน้าหล่อหัวสี่สี ทำเก๊กกันอยู่หน้าห้อง จะเก๊กไปไหนเนี่ย
“เป็นไรมากหรือเปล่า(. .)” นายคนที่หัวสีเทาและนั่งเสมอฉันตอนแรกถามขึ้นโดยไม่ใช่สรรพนาม ‘นาย’ หรือ ‘เธอ’ สงสัยยังงงๆ อยู่เรื่องฉันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย
“เปล่าไม่เป็นไรก็แค่ ‘ขาหัก’” ฉันเน้นเสียงตรงคำว่าขาหักอย่างหนักแน้น แล้วชี้ไปที่เฝือกซึ่งพันอยู่ที่ขาข้างซ้ายของฉันเอง
“ฉันไม่ได้จะโทษนายหรอกนะ อย่าทำหน้าสำนึกผิดแบบนั้นดิ แต่ว่าฉันโมโหที่พวกเพื่อนของนายไม่รีบพาฉันมาส่งโรงพยาบาลต่างหาก ( *- -)”
“อะไร พวกเราไม่ได้เป็นคนทำเธอตกต้นไม้สักหน่อย แค่พวกฉันพาเธอมาส่งโรงพยาบาลให้เนี่ยก็ดีเท่าไรแล้ว”
“เออ ฉันมันผิดเองที่ตกลงมาจากต้นไม้ ให้ตัวเองขาหักเล่นน่ะ”
“รู้ตัวก็ดี” คนที่น่าจะชื่อแชมพูดขึ้นมากรายๆพร้อมกับชันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินมาที่ฉันกับนายหัวสีเทากำลังคุยกันอยู่
“อะไรของนาย มีปัญหานักหรือไงแค่มาส่งฉันแค่นี้มันจะตายหรือไง” ฉันด่าปาวๆ อยู่บนรถเข็นผู้ป่วย ในขณะที่ไอ้ผีจูออน (ยังไม่ลืมชายาอีกเนอะ) ก็เดิมมาถึงฉันพอดี
“ไม่ตายหรอก แต่ฉันไม่อยากเป็นแฟนแก”
“อะไร? แฟนอะไรของนาย แล้วก็หยุดเรียกฉันด้วยสรรพนามเรียกผู้ชายด้วย -*-”
“พวกเราไม่เชื่อ” ทั้งสี่ตะโกนออกมาเป็นเสียงเดียวกัน พร้อมใจกันซะเหลือเกินนะ
“จะให้ฉันทำยังไงพวกนายถึงจะเชื่อ”
“เอาบัตรประชาชนเธอมาให้พวกเราดูสิ -_-**”
“ถ้าฉันเอามาด้วยอ่ะน่ะ แต่ถึงเอามาพวกนายก็อ่านไม่ออกหรอก” ฉันล่วงมือลงไปในกระเป๋าแล้วชักมือออกมาแบมือให้พวกนั้นเห็นว่าในกระเป๋าฉันไม่มีอะไรเลย_(. .)_ นอกจากกล้องถ่ายรูปที่แควนอยู่ที่คอของฉัน
“ฉันไม่ตกภาษาไทยขนาดอ่านไม่ออกหรอกนะ” นายหัวสีน้ำตาลพูดพร้อมกันเอามือล้วงกระเป๋า เออ แกมันเก่งแต่เท่ล่ะว่ะสมองไม่มี
“โคนนิจิวะ วาตะชิวะ โทชิยะ ยูคิน อีเดสกะ -O-*”
“เฮ้ย แกเป็นคนญี่ปุ่นเหรอ O_o” พวกเขามองฉันด้วยสายตาไม่ค่อยเชื่อสักเท่าไร
“แล้วแต่จะคิด -_-* ว่าแต่พวกนายสี่คนชื่ออะไรกัน ตั้งแต่เมื่อกี้แล้วฉันว่าจะถามแต่ไม่ได้ถาม”
“เหรอ งั้นหวัดดีฉันชื่อโซจู เป็นหัวหน้า Zenith ยินดีที่ได้รู้จัก ^_^” นายหัวสีน้ำตาลแนะนำตัวเองก่อนจะยิ้มน้อยๆ และทำหน้าตาเจ้าเล่ห์
“ฉันชื่อแชมเปญ” นายหัวสีน้ำตาลแดงหรือนายผีจูออนนั่นเอง
“ฉันชื่อ ซีริค (. .)” นายผมเทา
“ฉัน เซทเทิล” นายผมทอง เฮ้ย นี่ไม่มีใครผมสีดำเลยเหรอเนี่ยไอ้พวกนี้มันคนไทยหรือเปล่าว่ะ
“ฉันขอถามอย่างหนึ่ง พวกนายเป็นคนไทยหรือเปล่า”
“ถามอย่างกับพวกฉันเป็นต่างด้าวเลยนะ ^_^” นายโซจูพูดท่าทางกวนประสาทก่อนจะล้วงลูกอมจูปาจุ๊บรส สตอเบอร์รี่ในกระเป๋ากางเกงมาอมไว้ที่ปากแล้วหันมาพูดกับฉันต่อ ทั้งที่ยังออมลูกอมแบบนั้นเนี่ยนะ
“ไม่ต้องสงสัยหรอกพวกเราเป็นลูกครึ่งน่ะ”
“ช่าย พวกเราเป็นลูกครึ่งกันหมดทุกคนเลยล่ะ ^^” นายแชมเปญคงคิดคำพูดของตัวเองออกแล้วมั้งเห็นเงียบไปนานตั้งแต่ตะกี้ (มันก็เงียบกันทุกคนเลยไม่ใช่เหรอนอกจากโซจูน่ะ) ส่วนคนที่ชื่อเซทเทิลเขาเดินไปเอายาตรงล๊อบบี้มาให้ฉันน่ะ สงสัยจะจ่ายเงินให้ด้วยมั้ง ก็ดีเพราะฉันไม่ได้เอากระเป๋าสตางค์มาด้วยเพราะคิดว่าไปแป๊บเดียวก็กลับ เอ จะว่าไปฉันจะกลับห้องยังไงว่ะเนี่ย
“เออเกือบลืม ไอ้แชมแกยังไม่ได้ทำในสิ่งที่แกพูดไว้เลยนะเว้ย”
“ไอ้โซลแกยังจำได้อีกเหรอ T^T”
“ผมจำได้ (. .)”
“ฉันด้วย =_=;”
“หยุดเลยพวกแก จะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ทำไมเนี่ย ปล่อยคำพูดของฉันมันล่องลอยไปกับสายลมเหอะ” พวกนี้มันพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย สรุปตูเป็นตอไม้ใช่ไหมถึงได้ไม่มีใครสนใจเลยน่ะ
“ไม่ได้ไอ้แชม แกไม่ทำก็ออกจาก Zenith ไปซะ”
“โถ่ ไอ้เพื่อนบ้าแกก็รู้ว่าฉันทำใจออกจาก Zenith ไม่ได้”
“งั้นก็ทำตามที่คุณพูดสิครับคุณแชมเปญ (. .)”
“ใช่ แกมันกวนประสาท เรื่องมาก รีบทำรีบจบมันมีอะไรนักหนาว่ะ”
“พวกแกบังคับฉันเหรอ T^T”
“เออ!”
“เออ ก็ได้ฉันจะทำ T^T”
“แล้วพวกฉันจะรอดู ฮิ ๆ”
“ไอ้โซลแกจำไว้เลย TOT”
“คร้าบๆ เดี๋ยวผมจะจำนะครับ ^^” บทสนทนา (ที่ไม่มีฉันอยู่) จบลงแค่นั้นก่อนที่สามเกลอเพื่อนยากจะเดินออกไปยืนหลบมุมอยู่หลังเสาแล้วมองมาที่ฉันกับไอ้ผีจูออน แล้วมาทิ้งมันไว้ทำไมตรงนี้ทำไมไม่พามันไปด้วยเล่า
“ยูคิน”
“อะไร มีปัญหาอะไรกับฉันเหรอ”
“ไม่มีอะไร แต่แค่จะขอให้เธอฟัง” ทำไม? ทำไมต้องทำหน้าจริงจังแบบนั้นด้วยล่ะ น่าสงสัยแหะ
“...” ฉันไม่พูดอะไรหากแต่นั่งฟังอยู่เงียบๆ
“ฟังให้ดีนะ”
“รู้แล้วน่า ฟังอยู่”
“เรามาเป็นแฟนกันเถอะ นะครับที่รัก”
ความคิดเห็น