คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ไอ้เด็กเจ้าปัญหา
“แกพักห้องนี้ล่ะกันนะ”
“แล้วทำไมถึงให้ฉันพักที่โรงแรมล่ะ -*-” ฉันถามในข้อสงสัยบางอย่างที่ผุดขึ้นมาในสมองเมล็ดถั่วของฉัน แทนที่จะให้ฉันไปพักที่บ้านกลับพาฉันเข้าโรงแรม =O=; เฮ้ย! อย่าเพิ่งคิดมากเราเป็นพี่น้องกันนะ และที่ว่าพาเข้าโรงแรมน่ะ มันเป็นโรงแรมในเครือของครอบครัวฉันเอง คิดลึกกันไปแล้วล่ะสิ (ใครเขาจะไปคิดกันย่ะ)
“เออ พักที่นี่ไปก่อนเหอะ พี่ไม่อยากให้แกไปปวดหัวอยู่ที่บ้าน เชื่อพี่ดีที่สุดนะน้องรัก” พี่ยูคิพูดขึ้นเหมือนพูดส่งๆอ้อมๆ มีความนัย แล้วมันอะไรกันล่ะถึงไม่อยากให้ฉันไปอยู่ที่บ้านน่ะ สงสัยโว้ย!
“ทำไม ตอบฉันมาตรงๆนะ -_-*”
“เออ พี่ยังไม่ได้เคลียร์กับสาวๆ ในสต๊อก เรื่องที่แกจะมาที่นี่ พี่เป็นหวงแกกลัวแกจะเป็นอันตราย” พี่ยูคิพูดออกมาซะหมดเปลือก เฮอะ! นึกว่าเรื่องอะไร ที่แท้ก็เรื่องผู้หญิง
“กลัวพวกนั้นจะมาตบฉันเหรอ ไม่เป็นไร ฉันดูแลตัวเองได้ (. .)O” ฉันพูดพร้อมกับชูกำปั้นลูกผู้หญิงใจนักสู้ขึ้น เห็นงี้ฉันก็มีทักษะการป้องกันตัวสูงนะ เฮอะๆ -. ,-
“เปล่า พี่กลัวพวกนั้นจะย่องไปขย้ำแกตอนกลางคืนตะหาก อีกอย่างฉันไม่อยากเสียสาวๆ ในสต๊อกให้แกนะ ไอ้ยูคิน ทั้ง พอลล่าสาวขาวสวยหมวยเอ็กเซ็กซี่น่ารัก น้องมาเรียสาวลูกครึ่งน่าตาจิ้มลิ้มน่ากินยิ่งกว่ามิสเตอร์โดนัทจุบุจุบุ แล้วไหนจะน้....อ...”
“ไอ้พี่บ้าเอ้ย!” ฉันปิดประตูใส่ไอ้พี่บ้าที่ยืนพร่ำพรรณนาถึงผู้หญิงไม่หยุดปากอยู่หน้าห้อง ไม่รู้ว่าโดนหน้าหรือเปล่า แต่ถึงโดนฉันก็ไม่แคร์ ฮึๆ
หลังจากที่ปิดประตูใส่พี่ชายในไส้แล้ว ฉันก็เดินลากกระเป๋าเดินทางเข้ามาตามทางเดินเปิดดูห้องนั้นทีห้องโน้นที จนมาถึงห้องโถงที่มีโซฟา โอมเทียเตอร์ ทีวี และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ฉันหยุดลากกระเป๋าเดินทางแล้ววางมันไว้ตรงมุมห้อง พลางพาสองเท้าเดินไปที่บานประตูกระจกใส ฉันใช่สองมือเลื่อนผ้าม่านสีขาวสะอาดตาออกก่อนจะค่อยๆ เลื่อนบานประตูให้เปิดรับลมที่พัดผ่านห้องพักของฉัน ตอนนี้ก็ประมาณสี่โมงเย็นแล้วท้องฟ้าที่เคยเป็นสีฟ้าสดใสถูกพระอาทิตย์ที่ลาลับขอบฟ้าอาบแสงให้กลายเป็นสีส้มอ่อนรำไร สายลมที่พัดผ่านตัวฉัน มันเป็นสายลมที่พัดแค่เอื่อยๆ กลิ่นอายของอากาศและบรรยากาศโดยรอบทำให้ฉันที่เดินทางมาไกล รู้สึกผ่อนคลายได้อย่างประหลาด เหมือนความเมื่อยล้าความเครียด และสิ่งต่างๆที่ เข้ามาในชีวิตถูกชะล้างไปพร้อมๆกับสายลม พลันสายตาของฉันก็ไปสะดุดเข้ากับพื้นที่เบื้องล่าง มองเห็นต้นไม้ที่กำลังพลิใบแผ่กิ่งก้าน สาขา ดอกไม้ที่ชูช่อเรียกแมลงมาดมดอมดูดน้ำหวาน ฉันไม่รอช้าที่จะตัดสินใจหยิบกล้องถ่ายรูป (ที่เห็นติดมาด้วยในกระเป๋า) เดินลงไปที่สวนแห่งนั้นทันที
“เฮ้ ยูคินแกจะไปไหนว่ะ” พี่ยูคิที่ฉันคิด(ไปเองคนเดียว)ว่ากลับไปเคลียร์เรื่องผู้หญิงที่บ้านก่อนที่จะให้ฉันเข้าไปอยู่ เรียกขึ้นขณะที่ฉันเดินผ่านลอบบ์บี้ประชาสัมพันธ์ของโรงแรม
“ฉันจะไปสวนดอกไม้ข้างๆ นี่หน่อย -O- พอดีว่ามองจากข้างบนลงมาแล้วเห็นว่าสวยดี เลยจะไปถ่ายรูป” ฉันพูดพร้อมกับชูกล้องในมือให้ดู
“อ๋อ สวนสาธารณะข้างๆ นี่น่ะเหรอ อืม ไปเหอะ แต่อย่ากลับดึกนะโว้ย”
“ถึงพี่จะห้าม แต่พี่คิดเหรอว่าคนอย่างฉันจะยอมฟังน่ะ ^O^” ฉันตะโกนตอบกลับขณะที่เท้าก็วิ่งไปด้วย คนอย่างฉันน่ะชำนาญเรื่องการวิ่งอยู่แล้ว เรื่องสะดุดหน้าทิ่มจูบกับพระแม่ธรณีอย่าได้ห่วงไม่มีทางเกิดขึ้นหรอก (เนื่องจาก she วิ่งไปโรงเรียนทุกวันนั่นเอง)
สวนสาธารณะ Season atmosphere
ฉันเดินไปรอบๆ สวนที่บรรยากาศดีสมชื่อ ที่นี่ดอกไม้สวยๆเยอะอย่างที่คิดแม้จะเป็นดอกไม้พื้นๆ ที่เห็นได้ทั่วไปอย่างดอกกุหลาบก็ตาม มันก็ยังเรียกความสนใจให้ฉันไม่น้อย ฉันเดินถ่ายรูปตรงโน้นทีนี้ทีจนไปหยุดนั่งอยู่บริเวณใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งใกล้ๆ ลานน้ำพุ ที่มีรูปปั้นกามเทพถือสรรักอยู่ตรงกลางสระ
“เฮ้อ -O- เหนื่อยชะมัดแต่ก็คุมค่านะเนี่ย” ฉันพูดกับตัวเองตามแบบฉบับคนนั่งอยู่คนเดียว
“พี่ชายฮือๆ!” จู่ๆ ฉันที่นั่งอยู่ตรงม้านั่งก็ถูกเด็กผู้ชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามากอดพลางร้องให้โยเย ตามประสาเด็ก
“เป็นอะไรน่ะ เจ้าหนูอยู่ดีๆ ก็ร้องไห้เป็นลูกผู้ชายต้องเข็มแข็งสิ” ฉันลูบหัวเด็กน้อยที่เอาแต่ร้องไห้ และพูดปลอบเพื่อหยุดน้ำตาที่รินไหลอาบแก้มของเด็กน้อย
“ฮึก ผมเป็นลูกผู้ชายเพราะฉะนั้นผมจะหยุดร้อง” เด็กน้อยยกแขนขึ้นปาดน้ำตาจนหมดจากใบหน้า พลางเงยหน้า
ขึ้นมามองฉัน
“มีอะไรเจ้าหนู หน้าฉันมีอะไร แล้วร้องไห้ทำไมกันน่ะหือ” ฉันถามในข้อสงสัย
“เครื่องบินบังคับที่ม่ามี้ซื้อให้ มันติดอยู่บนต้นไม้ต้นนั้นอ่ะ ( . .)>>>O” เจ้าหนูนี่พูดขึ้นพร้อมกับชี้ที่ต้นไม้ตรงข้ามม้านั่งที่ฉันนั่งอยู่
“แล้วไง =_=;”
“ผมเอามันลงมาไม่ได้ (. .) ถ้าแม่รู้แม่ต้องตีผมแน่ๆ T^T เลย พี่ชายเอามันลงมาให้ผมหน่อยได้ไหม” เด็กนี่พูดพลางทำสายตาออดอ้อน วิงวอน มาทางฉัน เฮ้ย! ฉันไม่ใช่ลิงนะจะได้ปีนต้นไม้เล่นน่ะ
“ไม่เอา! ฉันไม่ใช่ลิงนะจะให้ไปปีนต้นไม้เก็บของให้น่ะ”
“พี่ชายไม่ยอมช่วยผมเหรอ T^T”
“ใช่”
“ผมก็คิดไปว่าพี่น่าจะเป็นคนเดียวที่ช่วยผมได้แท้ๆ เพราะพอผมเห็นพี่ผมก็รู้สึกได้เลยว่าพระเจ้าทรงมาโปรดสัตว์ตัวน้อยๆ อย่างผม แต่ที่ไหนได้ พี่มันก็ไม่ต่างจากไจแอนท์ในการ์ตูนเรื่องโดเรม่อนที่ผมดูเลย T^T ฮึ ผมไม่ง้อก็ได้ ผมจะพยายามด้วยตัวเองคอยดู” ไอ้เด็กนี่พูดพลางวิ่งไปคว้าไม้กวาด (ใครมันเอามาวางไว้เนี่ย) ที่พิงต้นไม้ข้างๆ แล้ววิ่งไปยังต้นไม้ต้นเดิมที่วิ่งมา แล้วเอาไม้กวาดเขี่ยๆ ตรงกิ่งไม้ที่เครื่องบินบังคับติดอยู่ แต่มันไม่ถึง... =. ,=
“เอาล่ะ พี่จะช่วยก็ได้ -_-” ด้วยความที่สงสารเด็กอย่างสุดซึ้งจากก้นบึ้งของหัวใจ (ก้นบึ้งของหัวใจจริงๆ) ฉันจึงเดินมาที่ไอ้เด็กเครื่องบินมรณะ (เปลี่ยนชายาเสียเลย) พร้อมกับเอ่ยบอก ก่อนตัวเองจะใช้มือข้างหนึ่งเกาะกิ่งไม้ที่ยื่นออกมาแล้วใช้เท้าเหยียบลำต้นเพื่อพาตัวเองขึ้นไปบนกิ่งไม้ที่ใช้มือเกาะเมื่อกี้
“อยู่ตรงไหนเครื่องบินน่ะ” ฉันก้มหน้าลงไปพูดกับไอ้เด็กเครื่องบินมรณะที่ยืนยิ้มหน้าแป้นอยู่ข้างล่างเมื่อพาตัวเองขึ้นมาได้สูงพอสมควร
“อยู่ปลายกิ่งที่พี่ยืนนั่นแหละฮับ ^____^ /” เจ้าเด็กนั่นชี้ให้ดูตรงปลายกิ่ง ขอบอกว่าปลายกิ่งจริงๆ แถมเป็นกิ่งไม้ที่เพิ่งจะงอกใหม่อีกต่างหาก =O=; ถ้าเกิดมันหักล่ะ อ๊ากกกกกกกกก! ไม่อยากจะคิด แต่มาถึงขนาดนี่แล้วจะให้ทำลายความหวังของไอ้เด็กที่มันอยู่ข้างล่างนั่นก็ยังไงอยู่นะ (เห็นอย่างนี้แต่ฉันรักษาคำพูดนะ) เฮ้อ ต้องทำสถานเดียวใช่ไหมเนี่ย
ด้วยความกล้าๆกลัวๆ ของตัวเอง ฉันจึงใช่เท้าเขย่าๆ ตรงโคนกิ่งซึ่งก็เป็นที่ฉันยืนอยู่นั่นเอง แต่เขย่าเท่าไหร่มันก็ไม่ตกลงไปสักที กิ่งก็เล็กนิดเดียวแต่ทำไมมันไม่ยอมหล่นลงไปล่ะ
“นี่ พี่ชายอย่าเอาแต่เขย่ากิ่งมันดิ ปีนไปเก็บมาเลยหรือว่าป๊อดอ่ะ -. ,-” ไอ้เด็กบ้าเอ่ยอย่างท้าทายฉันที่อยู่บนต้นไม้ อ๊ากกกกกกกกกก! คนอย่างอยู่คินยอมได้แต่ห้ามหมิ่นศักดิ์ศรีนะเฟ้ย ของขึ้น!
“คอยดูเหอะไอ้หนู” ฉันตะโกนกลับลงไปแล้วพาตัวเองไต่กิ่งไม้ไปทีละนิดโดยใช้มือสองข้างเกาะกิ่งไม้เหนือหัวไม่มากไว้แน้นและค่อยเขยิบเข้าไปใกล้จนเกือบจะถึงเครื่องบินเจ้าปัญหา ฉันค่อยๆ เอื้อมมือไคว่คว้ามัน อีกนิดเดียวน่า จะถึงแล้ว แต่สิ่งที่ไม่คาดก็เกิดคิดขึ้นพร้อมกับเสียงตะโกนพูดดังขึ้นพร้อมกันในขณะที่ฉัน...
“เย้! พี่ชายเก็บได้แล้ว เฮ้ พี่ชาย!”
“เฮ้ย! มาหักอะไรอาวตอนนี้ ไอ้กิ่งไม้บ้า”
“ถ้าสมมุติว่ามีเทพเจ้าตกลงมาจากฟ้า ฉันจะขอเป็นแฟนให้พวกแกดู!”
ความคิดเห็น