คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 8 [100%] Rewritten
"ฉันรู้ว่ามันออกจะกะทันหันไปหน่อย แต่ว่าฉันชอบเธอจริงๆ นั่นแหละ"
บทที่ 8
“อาจัง คูจัง อรุณสวัสดิ์”
“อรุณสวัสดิ์จ้า ฮารุจัง” อายุในชุดไปรเวตสีสดโบกมือให้ ฉันที่เพิ่งลงจากรถไฟจึงรีบวิ่งไปสมทบกับทั้งสองคนซึ่งรออยู่หน้าสถานี
"ขอโทษที่มาช้านะ รอนานมั้ย”
“ไม่หรอกจ้า พวกเราก็เพิ่งมาถึงนี่เอง อีกอย่างฮารุจังก็บ้านไกลด้วยนี่เนอะ” อายุยังคงยิ้มได้ ถึงแม้ว่าฉันจะมาสายไปเกือบสิบนาทีก็ตาม
“ว่าแต่...” สปอร์ตเกิร์ลในชุดกางเกงยีนขาสามส่วนดูทะมัดทะแมงเปรยขึ้น “...สาวโตเกียวเขาแต่งตัวกันแบบนี้เหรอ”
“ดูแปลกเหรอ” ฉันก้มมองตัวเองที่สวมเสื้อไหมพรมสีชมพู กับเอี๊ยมกางเกงขาสั้นสีเทาที่ทำมาจากผ้าทวีต อากาศที่ยังคงเย็นทำให้ฉันต้องหยิบถุงเท้ายาวเหนือเข่ามาสวมคู่กับรองเท้าผ้าใบ เรือนผมที่ปกติฉันมักปล่อยสยาย วันนี้ถูกรวบเป็นหางม้าปัดข้าง เรียกได้ว่าพร้อมลุยกับทุกเครื่องเลยที่นี่เลยล่ะ
“เปล่า น่ารักสุดๆ เลยต่างหาก”
“โอ้ ฮารุจังแต่งหน้านี่นา” อายุเขย่งเท้าเพื่อจะมองใบหน้าที่แต่งแต้มเครื่องสำอางเล็กน้อยของฉันได้ชัดๆ “อ๊ะ ปัดขนตาด้วย นี่ๆ วันหลังสอนอายุกับคูจังแต่งหน้าบ้างสิ”
“หา อย่าเอาฉันไปรวมกิจกรรมสาวจ๋าของพวกเธอนะ” เธอแหว สาวห้าวแถมยังแม๊น~แมนก็แบบนี้ล่ะ “รีบไปกันเถอะ สายๆ คนจะเยอะเอา”
ทัวร์สวนสนุกประจำเมืองเริ่มขึ้นเมื่อหอนาฬิกากลางสวนดอกไม้ตีบอกเวลาสิบโมงตรง คนยังไม่เยอะมาก แต่น่าเสียดายที่เครื่องเล่นต่างๆ ก็ยังไม่พร้อม เราสามคนจึงฆ่าเวลาด้วยเดินดูนั่นนี่เดินตามแผนที่ที่ได้รับมาตอนซื้อตั๋วเข้าชม แม้จะเล็กกว่าสวนสนุกที่โตเกียว แต่ที่นี่ก็ไม่ได้มีแค่สวนสนุก แต่ยังมีโรงงานช็อคโกแลตกับสวนสัตว์รวมอยู่ด้วย ด้านการจัดสถานที่ สวนสนุกแห่งนี้ก็ไม่ได้น้อยหน้ากว่าที่โตเกียวอีกเหมือนกัน ด้วยสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิค การแต่งสวนแบบอิงลิช การ์เดน และบรรยากาศแสนโรแมนติก ทำให้ที่นี่เหมาะแก่การมาเดตมากเลยล่ะ!
“หนึ่ง สอง ชีสสสสสสึ!”
แชะ แชะ แชะ!
ถึงแม้ว่าคนจะยังน้อย แต่สวนสนุกก็ไม่ได้เงียบเหงา เพราะเสียงชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปก็ของอายุดังไม่หยุด พวกเราถ่ายรูปกันเยอะมาก ทั้งรูปเดี่ยว รูปคู่ ส่วนรูปหมู่...บอกตามตรงว่าไม่มีปัญญาจะถ่าย เพราะยังเช้ามาก แล้วบริเวณหน้าโดมกุหลาบที่เรายืนอยู่นี่ก็ไม่มีใครอื่นให้ขอความช่วยเหลือเลย
อันที่จริงพวกเราก็ลองถ่ายด้วยการหันกล้องเข้าหาตัวแล้วนะ แต่ว่ารูปที่ถ่ายได้มันประหลาดไปหน่อย
“เฮ้! กัปตันชมรมกรีฑา” เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหลัง คุมิโกะหันไปมองแล้วจึงโบกมือทักทาย
“ไง พวกชมรมยูโด”
มีกลุ่มเด็กหนุ่มในชุดวอร์มโรงเรียนราวสิบคนกำลังเดินตรงมาทางเรา และหนึ่งในนั้นมีคนที่ฉันรู้จักอยู่ด้วย มาเอดะ โค เพื่อนข้างบ้านของฉันโดดเด่นด้วยส่วนสูงกว่าใครเพื่อน และยังสะพายกระเป๋านักกีฬาใบใหญ่ที่แทบจะนับได้ว่าเป็นอวัยวะที่งอกออกมาจากร่างกาย เขาวิ่งตรงมาทางนี้ พร้อมกับทักทายเสียงดังฟังชัด
“โย่ว ฮารุกะ!”
“หวัดดี”
“อรุณสวัสดิ์จ้า มาเอดะคุง” ยัยตัวเล็กของกลุ่มเรายิ้มแฉ่งอย่างเป็นมิตร โรงเรียนเคย์เซย์ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก เพราะงั้นนักเรียนก็เลยรู้จักกันหมด “ชมรมยูโดมาเที่ยวกันเหรอ”
“จะว่าเที่ยวก็ไม่เชิงหรอก พอดีพวกเราเพิ่งซ้อมวิ่งเสร็จ”
“ในสวนสนุกเนี่ยนะ...?” คุมิโกะขมวดคิ้ว “ไม่รบกวนนักท่องเที่ยวคนอื่นหรือไง”
“ไม่หรอก พวกเราได้รับอนุญาตเป็นพิเศษจากเจ้าของสวนสนุกให้มาซ้อมได้ช่วงก่อนเวลาเปิดทำการน่ะ” โคอธิบาย ซึ่งนั่นจุดประกายในแววตากัปตันชมรมกรีฑาได้เป็นอย่างดี
“เจ๋งอ่ะ! ไปทำอีท่าไหนให้เค้าอนุญาตได้ล่ะ!?”
“ก็..ไม่รู้ เรื่องนี้มีคนในชมรมจัดการให้ ได้ยินว่าเป็นคนรู้จักหรือไม่ก็ญาตินี่แหละ” ไม่ว่าเปล่า โคยั้งชี้ไปที่ผู้ชายใส่แว่น ...แล้วคุมิโกะก็เข้าประชิดหนุ่มแว่นคนนั้นทันที
“พวกเราโดนคูจังทิ้งแล้วล่ะ” อายุยู้ปาก “นี่ๆ เดี๋ยวพวกมาเอดะคุงจะไปไหนต่อเหรอ พวกเราจะไปเล่นเครื่องเล่นล่ะ ถ้าไม่รังเกียจล่ะก็ ไปด้วยกันก็ได้นะ”
“ก็ดีนะ เจ้าพวกนั้นคงอยากพักแล้วล่ะ”
โคตอบรับคำชวน ก่อนจะออกคำสั่งให้สมาชิกชมรมพักได้ตามอัธยาศัย แต่ก็แทบไม่มีใครแตกแถวไปเข้าห้องน้ำหรือนั่งพัก ทั้งหมดตามพวกเราไปตะลุยเครื่องเล่นแทน พวกเราเดินมาตั้งหลักที่ลานว่างกลางสวนสนุก ก่อนจะแยกย้ายกันไปตามความสนใจของแต่ละคน ตอนนี้เหล่าเครื่องเล่นต่างก็พร้อมบริการแล้ว และมันก็ดูดีไม่แพ้สวนสนุกอื่นๆ เพราะมีตั้งแต่ 'เครื่องเล่นแบเบาะ' ระดับเด็กอนุบาล ยัน 'เครื่องเล่นเสียวไส้' อย่างรถไฟเหาะตีลังกา 360 องศา อ้อ! แล้วคุณลองเดาสิว่าเครื่องเล่นแนวไหนที่สาวหวานนุ่มนิ่มอย่างโอซากะ อายุจะพุ่งใส่เป็นอย่างแรก?
...ถ้วยกาแฟหมุน?
ผิด!
...ม้าหมุน?
ก็ผิด!
คำตอบที่ถูกต้องคือ...ฟลายอิ้ง ทาวเวอร์ หรือกระเช้าหมุนลอยฟ้านั่นเองจ้า!
“กรี้ดดดดดด ฮารุกะจัง แย่แล้วๆๆ” ถึงจะอยู่ห่างจากพื้นดินไปหลายสิบฟุตแต่เสียงร้องกรี้ดของโอซากะ อายุ แม่สาวอ่อนหวานก็ยังคงสื่อมาถึงฉัน (เชื่อด้วยว่าชาวบ้านแถวนั้นคงได้ยินกันหมด) แม้ปากจะบอกว่า ‘แย่แล้ว’ แต่สีหน้าและท่าทางนั้นสวนทางกันอย่างที่สุด
“...นั่นกำลังสนุกอยู่ใช่ไหม” โคถาม
“สุดๆ เลยล่ะ” ฉันตอบ
“ว่าแต่เธออยากเล่นอะไรล่ะ”
“อ๋อ...ว่าจะไปลองเจ็ท โคสเตอร์น่ะ” ฉันชี้ไปที่รถไฟเหาะซึ่งมีเสียงกรีดร้องแว่วมาเป็นระยะ
“งั้นไปกันเถอะ” ไม่ว่าเปล่า โคยังคล้องแขนฉันด้วย
“เดี๋ยวก่อนสิ อายุน่ะ...”
“ไม่เป็นไรหรอก” กัปตันชมรมกรีฑาที่เพิ่งกลับมาสมทบเอ่ย “ยัยติ๊งต๊องนั่นฉันดูแลเอง โค นายลากฮารุกะไปได้เลย”
“โอ๊ส!”
หล่อนกับโคขยิบตาให้กันอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วฉันถูกลากออกไปโดยไม่สนใจเสียงโวยวายของสมาชิกชมรมคนอื่นๆ ที่แว่วมาให้ได้ยิน
ฉันแทบคลานลงจากเบาะนั่งของเจ็ท โคสเตอร์...
และแทบต้องตะกายขึ้นมานั่งบนม้านั่งแถวๆ นั้น หัวใจฉันยังคงเต้นรัว เร็ว และแรง ท้องไส้ฉันตีกันปั่นป่วนไป ใบหน้ายังคงร้อนและจดจำแรงลมที่ปะทะเข้ามาเพราะเราเลือกที่นั่งแถวหน้าสุด
บอกได้คำเดียวว่ามันส์โคตรๆ!
“อ่ะนี่” เครื่องดื่มเกลือแร่ซึ่งเปิดฝาแล้วถูกยื่นมาตรงหน้า ฉันรับมาแล้วยกกระดกขึ้นดื่มให้ชื่นใจ
“ขอบใจนะ”
“เดี๋ยวเธอจะไปไหนต่อล่ะ” โคถามพร้อมรอยยิ้มสดใส ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ
“ก็คงกลับไปรวมกลุ่มกับพวกอายุนั่นแหละ ว่าแต่นายเถอะ ไม่มีซ้อมต่อหรือไง” บางทีฉันก็สงสัยนะว่าที่ลากฉันมาเล่นเจ็ท โคสเตอร์นี่เพราะอยากโดดชมรมหรือเปล่า
โคไม่ตอบอะไรในทันที เขายกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาข้อมือ “ต้องกลับไปฝึกต่อที่โรงเรียนน่ะ แต่ยังอีกตั้งสิบนาทีกว่าจะถึงเวลาเรียกรวม”
“อ้อ” ฉันพยักหน้ารับรู้ หลังจากนั้นก็ยกขวดน้ำขึ้นดื่มต่อ สายลมในยามสายพัดมาอีกหนึ่งระลอกช่วยให้ร่างกายที่ชุ่มเหงื่อของฉันรู้สึกดี จะว่าไงดีล่ะ มันทั้งเหนื่อยและสนุกในเวลาเดียวกัน และมีแค่คนข้างๆ เท่านั้นที่รู้ว่าฉันกรี๊ดหูดับตับไหม้
ความเหนื่อยอ่อนทำให้ฉันได้แค่นั่งหอบหายใจฮัก และโคก็คงได้ยินเสียงหอบนั้น เขาจึงไม่ได้ชวนฉันคุยอะไรต่อ ฉันเหม่อมองขบวนรถไฟเหาะที่ส่งเสียงกรีดร้องตลอดเวลานั่นพลางหายใจเข้าหนักๆ พลันนึกถึงช่วงเวลาที่หัวใจฉันเต้นแรงสุดขีดในตอนทิ้งตัวลงในแนวตั้งฉาก ฉันจำได้ว่าตัวเองกรี้ดสุดพลังด้วยความสนุกและลุ้นระทึกในตอนนั้นเอง
แม้จะเป็นการกรีดร้องอย่างสุดเสียงเหมือนกัน...ทว่าต่างกันราวฟ้ากับเหว
ในเวลานี้ฉันกรีดร้องด้วยความสนุกสนาน ทั้งๆ ที่เมื่อวานความกลัวต่างหากที่เค้นเสียงกรีดร้องฉันออกมาอย่างสุดเสียง
ราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันเมื่อคืนวานนั้นเป็นเพียงแค่ฝันร้าย
“นี่” เสียงของคนข้างๆ เรียกฉันออกมาจากห้วงความคิด หนุ่มฮอตประจำโรงเรียนพ่วงด้วยตำแหน่งกัปตันชมรมยูโดมองฉันด้วยนัยน์ตาที่คล้ายว่าจะสื่อความนัยอะไรสักอย่าง กับรอยยิ้มน้อยๆ ที่ใครได้เห็นเป็นต้องละลาย “ฉันรู้ว่ามันออกจะกะทันหันไปหน่อย แต่ว่า...”
“...”
“...ฉันชอบเธอจริงๆ นั่นแหละ”
ลมกรรโชกแรกพัดมาวูบหนึ่ง...แล้วทุกอย่างก็พลันหยุดนิ่ง
เจ็ท โคสเตอร์ชะงักค้างอยู่กลางอากาศ ไร้เสียงกรีดร้อง ไร้เสียงลม ฝน หรืออะไรทั้งนั้น ...โอเคล่ะ ฉันได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นผิดจังหวะ แต่ไม่รู้ว่าที่มันผิดจังหวะนี่เพราะอะไร จะว่าเพราะตื่นเต้นก็ไม่ใช่ ตกใจก็ไม่เชิง แต่ที่แน่ๆ ฉันเพิ่งรู้นี่แหละว่ามาเอดะ โคคิดยังไงกับซากุระซากะ ฮารุกะ
เมื่อกี้...หนุ่มฮอตประจำโรงเรียนพ่วงด้วยตำแหน่งกัปตันชมรมยูโดบอกว่าชอบฉัน
โคชอบฉัน!
“พวกนายเล่นเกมพระราชากันหรือเปล่า” คำถามของฉันนำเรากลับสู่โลกปัจจุบันที่มีเสียงกรี้ดดังลั่นกับเจ็ท โคสเตอร์ที่ทะยานขึ้นไปตามรางวิ่งด้วยความเร็วสูง
“ฮะ?”
“แบบว่า...นายถูกพระราชาลงโทษด้วยการสารภาพ...กับฉัน หรืออะไรทำนองนั้น...รึเปล่า?”
“ไม่นี่” โคตอบหน้าซื่อตาใส แววตาที่เต็มไปด้วยความจริงจังและมุ่งมั่นทำให้ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้แค่พูดเล่นหรือหยอกล้อ ซึ่งนั่นก็ได้ทำลายความคิดที่ว่าเขาอาจถูกเพื่อนๆ ในชมรมแกล้งจนสิ้นซาก (แล้วใครที่ไหนมันจะไปกล้าแกล้งกัปตันฟะ?)
หนุ่มนักยูโดสุดฮอตยังคงยิ้มร่าอยู่แบบนั้น ต่างกับฉันที่ตอนนี้จะพูดอะไรก็ยังลำบาก คำพูดของเขาเล่นงานซะจนฉันเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก และถึงขั้นไปไม่เป็นเลยด้วย
“แต่ฉันจะไม่พูดว่า ‘กรุณาคบกับผมด้วย’ หรอกนะ จะไม่ถามด้วยว่าเธอรู้สึกกับฉันยังไง แบบนั้นน่ะขี้โกงเกินไป อีกอย่างเธอก็คงไม่บ้าพอจะคบกับคนที่เพิ่งมาสนิทกันไม่กี่อาทิตย์หรอกใช่ไหมล่ะ”
น่ะ...นั่นก็ถูกอ่ะ
ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยถูกสารภาพรักหรอกนะ ตอนเข้าย้ายโรงเรียนเพื่อเข้าม.ปลายใหม่ๆ น่ะ ฉันได้รับจดหมายรักทุกวัน ถูกสารภาพรักก็บ่อยครั้ง (แน่นอนว่าหลังจากนั้นจะค่อยๆ หายไปหลังจากทู่ว่าฉันคนเดิมประสาทแตกขนาดไหน) แต่ใครล่ะจะมือไวใจเร็วตกลงคบกับคนที่ตั้งแต่เกิดมายังไม่เห็นหน้า ไม่เคยจ้องตา เอาจริงๆ แม้แต่คุยกันซึ่งๆ หน้าก็ยังไม่เคยด้วยซ้ำ
“แค่อยากถามน่ะ ถ้าเธอยังไม่มีใคร”
“...”
“ให้ฉันดูแลเธอได้ไหม”
“เอ่อ..คือ...” ประโยคสารภาพว่าไปไม่เป็นแล้ว ประโยคนี้นี่แทบจะทำให้ฉันลืมทางกลับบ้านเลยทีเดียว
ใครจะไปคิดล่ะว่าวันหนึ่งจะมีคนเอาประโยคที่ได้ยินบ่อยๆ ในละคร หรือไม่ก็เจอบ่อยๆ ในนิยายมาพูดกับฉันในชีวิตจริง ซ้ำคนพูดยังเป็นหนุ่มรูปงามตามสูตรแป๊ะๆ เลยด้วย
จะเป็นไรไหมถ้าฉันจะหมั่นไส้ตัวเอง
“เธอรังเกียจฉันเหรอ”
“เปล่านะ ไม่ได้รังเกียจ” ฉันบอกเสียงอ่อย “ฉันแค่ไม่รู้ว่าจะต้องวางตัวยังไง”
“ก็ไม่เห็นต้องทำคิดมากอะไร เธอก็เป็นเธอแบบนี้แหละดีแล้ว” โคยิ้มน้อยๆ อย่างอ่อนโยน “ไม่ต้องกังวลหรอก เราจะยังคงเป็นเพื่อนกัน”
“...”
“จนกว่าจะถึงวันที่เธอชัดเจนแล้วว่ารู้สึกยังไงกับฉัน เมื่อถึงตอนนั้นไม่ว่าคำตอบจะเป็นอะไร ต่อให้เธอตอบรับความรู้สึกฉันไม่ได้...”
“...”
“...ฉันก็ยินดี”
สายลมพัดผ่านมาอีกครั้ง โชคดีที่ตอนนี้อากาศอุ่นขึ้นแล้วมันจึงไม่ได้หนาวเย็นเท่าไหร่ พระอาทิตย์ที่ค่อยๆ ลอยขึ้นสูงในยามสายสาดแสงทาบทับต้นซากุระราวกับจะปลุกให้ช่อดอกตูมผลิบาน อีกไม่นานซากุระก็จะบานแล้ว
...แล้วความรักของฉันจะผลิบานอย่างซากุระหรือเปล่านะ
-------------------------------------------------------
16.05.14
ที่แท้...อีกัปตันมันมีจุดประสงค์ค่ะ!!
แฟนคลับเพิ่มเป็น 19 คนแล้ว คราวนี้แทบตีลังกา ม้วนหน้า ม้วนหลังกรี้ดค่ะ
//เปรียบเปรยนะ ชีวิตจริงม้วนหลังกับตีลังกาไม่เป็นค่ะ XP
วันนี้ก็ไม่ชวนเม้าท์อะไรมาก เพราะสังวรณ์แล้วว่าเอาเวลาเม้าท์ไปปั่นนิยายดีก่า
ว่าแต่ว่า...เวลาที่ทุกข์ทรมาณที่สุดของเหล่ารีดเดอร์คืออะไรคะ?
ของบาฮันนี่คือตอนที่ปวดขรี้ แต่มีแมวสองตัวนอนอยู่เต็มตักค่า 555+
17.05.14
โอ้ยยยยยยย อิแม่ เฟบเพิ่มเป็นซาวเอ็ด (ภาษาเหนือ แปลว่า 21) คนแย้วววว
มาเอดะ โค นี่ช่างโรแมนติกและแสนดีจริงๆ นะคะ
แต่อย่างว่า ผู้หญิงเราไม่ได้ชอบผู้ชายแสนดีสักเท่าไหร่
หล่อแบดบอยร้ายๆ ต่างหากที่มักได้แอ้ม //อุ๊ปส์ อิอิ
ความคิดเห็น