ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บัลลังก์ไพร [E-Book]

    ลำดับตอนที่ #9 : ทุ่งทรายแดง

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 283
      20
      8 ส.ค. 62


    เพราะความโชคร้ายที่เกิดขึ้น ทำให้มีชาวคณะสองคนบาดเจ็บ การเดินทางจึงต้องหยุดชะงัก

    ไปไม่ถึงทุ่งทรายแดงตามกำหนดการที่วางไว้ในวันนั้น แต่ทั้งคู่ทรหดอดทนมาก รู้ดีว่าขบวนตกอยู่ในอาณาเขตที่อันตราย จึงเป็นฝ่ายขอร้องให้ลั่นทมเดินทางต่อไปให้ถึงจุดปลอดภัย ซึ่งพวกเขาพอจะเดินเขยกไปได้ สบชัยอาสาหาบของแทนพัชร ส่วนกระทิงหาบแทนวรมาศ ลั่นทมจึงนำทุกคนออกจากหุบอสรพิษ เดินทางแบบทุลักทุเลสี่กิโลกว่า มาถึงช่องผาแยกก็จวนค่ำ

    ลั่นทมสั่งให้กางเต็นท์รอบกองไฟ ตั้งค่ายอยู่หน้ารอยแยกของช่องเขาขาด ทุกคนสมบุกสมบันมาทั้งวัน แต่ไม่มีน้ำให้อาบ ก็ไม่มีใครปริปากบ่น ผู้ป่วยทั้งสองยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังอาการ อิษฎาซึ่งเป็นคนเดียวในกลุ่มชาวเมืองที่ขนของเวชภัณฑ์มา จ่ายยาให้ลูกสมุนของคู่อริโดยไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก ทั้งสองแม้ร่างกายแข็งแรง แต่เดินทางต่อทันทีที่บาดเจ็บ ทำให้กระเทือนบาดแผล เกิดอาการไข้กลายๆ อิษฎาต้องแจกยาลดไข้ หลังรับประทานอาหารสำเร็จรูป หลายคนนอนหลับพักผ่อนเอาแรงตั้งแต่สามทุ่ม 

    อิษฎาออกมาจากเต็นท์ กวาดมองรอบๆ ฉัตรทิพย์กับลูกน้องหลบเข้าที่พักหมดแล้ว ข้างกองไฟมีเพียงกระทิงกำลังนั่งเติมฟืน ส่วนลั่นทมยืนกอดอกมองเหม่อตรงกึ่งกลางช่องเขา 

    ภูมิประเทศที่เป็นพื้นที่ราบ มีภูเขาใหญ่ตั้งทะมึนสองลูกแต่แยกขาดกัน จะมองว่าสวยหรือน่าพิศวงก็ได้ แหงนมองฟ้าเห็นเพียงหมอกหนา อดีตผู้พันเดินผ่านหน้ากระทิงไป กระทิงมองตาม ก่อนจะละสายตากลับมา นั่งกอดเข่าจ้องเปลวไฟ

    "ทัตติยา น๊อ ทัตติยา เธอจะไม่ตามพี่มาจริงๆ เหรอ พ่อบุญธรรมก็ไม่อยู่ หนทางยาวไกลเหลือเกิน พี่ต้องการเธอจริงๆ นะ" 

    ยิ่งคิดถึงก็ยิ่งเหงา พรานหนุ่มน้อยเอียงคอตก หลับตาพริ้ม ฝันหวานเอา...

    "ถ้าพรุ่งนี้ไข้ยังไม่ลด เราจะพักอีกครึ่งวัน วางใจเถอะ ฉันไม่ให้ใครฝืนพาพวกเขาไป ทั้งที่ยังไม่หายดี" 

    ผู้หญิงตรงหน้าพูดมาเหมือนมีตาหลัง อิษฎาชะงักเท้า

    "ขอบคุณมาก และขอโทษด้วยที่ลูกน้องผมขัดคำสั่งหลายครั้ง ทำให้คุณต้องลำบากใจ"

    น้ำเสียงสุภาพอ่อนโยนนั้น ทำเอาลั่นทมหันกลับมา

    "ฉันไม่ได้ลำบากใจ มันเป็นเรื่องสุดวิสัย"

    "ถ้าพวกเราเดินตามคุณทุกฝีก้าว เรื่องก็จะไม่เกิด"

    รอยยิ้มขันระบายบนริมฝีปาก หล่อนเดินกอดอกผ่านหน้าเขา 

    "หึ ฉันไม่ใช่ครูฝึกทหาร ที่กำลังสอนกฎระเบียบผู้ใต้บังคับบัญชา สั่งให้หันซ้ายหันขวา เดินหน้าถอยหลัง ทุกคนต้องทำตามนั้นเป๊ะ ผู้พันให้เกียรติเกินไปแล้ว"

    "คุณไม่ใช่ครูฝึก เป็นผู้บังคับการ ในป่าโศกแห่งนี้ ใครไม่เคารพเชื่อฟัง ต้องพบกับหายนะ" 

    "ไม่คิดว่าฉันอาจจะกลั่นแกล้ง พาพวกคุณให้มาพบกับความลำบากเหรอ"

    "คุณไม่ทำอย่างนั้นหรอก เพราะเมื่อพวกเราพบความลำบาก คุณคือคนที่ลำบากกว่า ไม่ว่าจะต้องแก้ปัญหา หรือ คอยตอบคำถาม ผมไม่ใช่ฉัตรทิพย์ ไม่ได้คิดกับคุณแบบเขา ผมแค่อยากบอกให้รู้ว่า ผมจะซื่อสัตย์กับคนที่ซื่อสัตย์ คนที่ให้ใจกับเรา ผมจะปกป้องดูแลเขา ไม่มีทางให้เกิดอันตรายใดๆ ฉะนั้น คุณวางใจได้ ผมรับประกันชีวิตของคนที่ภักดีต่อผมทุกคน"

    น้ำเสียงเฉียบขาด จริงจัง แววตาบริสุทธิ์จริงใจ ลั่นทมจ้องตาคู่นั้นนิ่ง 

    "เราไม่มีทางไว้ใจกันเต็มร้อย ถ้าไม่เปิดอกคุยกัน"

    "ผมไม่มีความลับอะไร" 

    นายหญิงแห่งหมู่บ้านไพรพฤกษ์หันหลังกลับ เดินไป

    "ลั่นทม..." เสียงเรียก ทำหล่อนชะงัก แต่ไม่หันกลับมา 

    "ความลับของผมไม่ประสงค์ร้ายต่อคุณ คนที่คุณควรระวัง คือ ผู้ชายคนนั้น!"



    พรานหญิงแห่งป่าโศก เดินกลับมาที่กองไฟ

    "กระทิง ไปนอนได้แล้ว" 

    ชายหนุ่มเงยหน้ามอง ยิ้มซึมๆ 

    "แม่ ให้ผมเฝ้ายามเถอะ อยากคิดอะไรต่ออีกสักพัก" 

    "ตามใจ" ลั่นทมเดินไปสามก้าว ชะงัก หันกลับมา 

    "สร้อยเส้นนั้น...ไม่ได้ให้เขาหรอกเหรอ" 

    กระทิงที่กำสร้อยคอเชือกพร้อมจี้รูปหัวใจอยู่ในมือ แบออก มองแล้วยิ้มแห้งๆ

    "กลัวเขาไม่รับ แล้วจะหน้าแตก" 

    "เป็นผู้ชาย เอาแต่กลัวนู่นกลัวนี่ ชาตินี้จะมีแฟนไหม!" 

    ลั่นทมถอนใจ ส่ายหน้าระอา กระทิงชะงัก กระตุกคิ้ว ทบทวนคำพูดประโยคนั้น แล้วลุกพรวด ละล่ำละลักอย่างตื่นเต้น

    "แม่... แม่หมายความว่า... ผะ...ผมจีบน้องทิพย์ได้เหรอ" 

    ลั่นทมยกมือเท้าสะเอว น้ำเสียงดุ แต่แววตาเอ็นดู "นี่ขออนุญาต หรือประโยคคำถาม ฉันไม่ยกลูกสาวให้ผู้ชายขี้ขลาด ไม่เอาไหนหรอกนะ มาพูดอะไรตอนนี้ ต้องบอกตั้งแต่ก่อนเขาไปเมืองนอกสิ สายไปแล้วย่ะ!" 

    พูดจบ ก็สะบัดหน้าเดินจากไป ทิ้งกระทิงให้กระโดดโลดเต้น ใจเต้นกระหน่ำโครมคราม ด้วยความดีใจสุดๆ

    "ยัง! ยังไม่สายหรอก อย่างน้อยก็ได้ไฟเขียวแล้วเฟ้ยยย กลับไปจะรีบบอกเล๊ยยยยย รอพี่ก่อนน๊าาา ทัตติยาจ๋าาาาา" 



    รุ่งเช้า หลังรับประทานอาหารเสร็จ คณะเก็บเต็นท์ที่พัก เตรียมออกเดินทาง

    วรมาศ และพัชร อาการฟื้นตัวขึ้นมาก เกือบหายเป็นปกติแล้ว ไม่ต้องการเป็นตัวถ่วง ลั่นทมจึงสั่งให้ทุกคนเดินกันสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบ เพราะทุ่งทรายแดงอยู่ไม่ไกล และเป็นจุดหมายปลายทางเดียวของวันนี้ 

    เส้นทางที่ไม่ทุรกันดารมากเหมือนหุบอสรพิษที่ผ่านมา ทำให้ทุกคนเหมือนได้เดินเที่ยวเล่นพักผ่อนไปในตัว โดยเฉพาะกระทิง ร่าเริงแจ่มใสกว่าทุกวัน พูดคุยหยอกล้อกับกลุ่มตำรวจทหารตลอดทาง หลังจากผ่านเหตุการณ์คับขันมาด้วยกันเพียงแค่สองวัน กำแพงที่ขวางกั้นพวกลูกหาบทั้งสองฝ่ายเริ่มสั่นคลอน แม้จะยังไม่ถึงกับสนิทสนม แต่ก็พูดจากันมากขึ้น แม้บางครั้งบทสนทนาจะกลายเป็นชวนทะเลาะ สำหรับกระทิงแล้ว มองเป็นสีสัน ยังดีกว่าเย็นชาห่างเหิน บึ้งตึงใส่กัน ซึ่งกระทิงฉุกคิดขึ้นมาในตอนนั้นเอง เขาจะเป็นสะพานเชื่อมมิตรภาพให้พรรคพวกทั้งแปดคนหันมาสมานสามัคคีกันให้ได้

    ขณะที่ผู้การฉัตรทิพย์ นับวันยิ่งเงียบขรึม ลึกซึ้ง เดาใจยาก แทบไม่ปริปากพูดมาตลอดทาง ไม่มีใครรู้ว่าคิดอะไรอยู่ ผู้พันอิษฎากลับเริ่มละลายพฤติกรรมสันโดษของตนเอง เช่นวันนี้ เดินรั้งท้ายมาคุยกับลั่นทม ทั้งที่ตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง เขาเดินข้างพ่อบ้านคู่ใจมาตลอด 

    "ทำไมถึงรู้เรื่องการแพทย์" 

    คุยเรื่องสัพเพเหระอยู่ครู่หนึ่ง อดีตผู้พันหนุ่มก็ถามประโยคนี้ 

    "ฉันเคยเป็นหมอทหารอยู่กองทัพบกมาระยะหนึ่ง อันที่จริง ก็ไม่เก่งอะไรมาก เพราะถ้าเก่งจริง คงไม่ถูกถอนใบอนุญาต ยึดใบประกอบโรคศิลป์"

    เสียงตอบราบเรียบ เหมือนเล่าเรื่องธรรมดาทั่วไป ชายหนุ่มมองหน้าแวบหนึ่ง

    "ได้ยินมาว่า หมู่บ้านไพรพฤกษ์มีพรานนักล่าที่เก่งกาจ ชื่อเสียงเลื่องลือ ดังไกลไปหลายสิบหมู่บ้าน ฉายา "พยัคฆ์ดง" บุญไทร เขาคือสามีของคุณใช่ไหม แต่ผมไม่ยักกะเห็นเขา" 

    ลั่นทมชะงักเท้า หันข้างมาจ้องหน้า 

    "อดีต" สามี" หล่อนเน้นเสียง "เราเลิกกันเกือบห้าปีแล้ว ทางใครทางมัน เขาไปของเขา ฉันไปของฉัน ไม่เกี่ยวข้องกัน!" น้ำเสียงเข้ม แววตาดุ ก่อนจะหันกลับไปเดินต่อ

    "เขาไปไหน?" ชายหนุ่มก้าวตามติด 

    "ฉันไม่รู้ ต่อให้รู้ ฉันก็ไม่พูด เพราะฉันไม่อยากคุยเรื่องของเขา" 

    "คุณพบร่องรอยน้องสาวผมอีกรึเปล่า เป็นไปได้ไหมว่า เธอได้เข้าหุบอสรพิษด้วย" อิษฎาเปลี่ยนเรื่องทันที เมื่อสังเกตเห็นว่าลั่นทมเริ่มหงุดหงิด

    "ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก มุกมณีมีผู้อารักขา... ไม่สิ มีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วย เธอยังปลอดภัยสบายดี ยังเดินได้ แถมเดินได้เร็วกว่าเราด้วย"

    อิษฎางุนงงวูบ "เพื่อนร่วมทาง? น้องสาวผมมีใครไปด้วยอย่างนั้นเหรอ" 

    "มาดูอะไรนี่เร็ว!" เสียงกระทิงแทรกขัดจังหวะ เขาคุมขบวนอยู่ข้างหน้า ลั่นทมจึงสาวเท้าเร็วผละจากอิษฎาไป คนอื่นเร่งเดินไวขึ้น เพื่อไปยัง "จุด" ที่พรานกระทิงทรุดนั่งยองๆ อยู่

    บัดนั้นเอง คณะท่องป่าโศก เหยียบย่างเข้าสู่อาณาเขต "ทุ่งทรายแดง" แล้ว...

    ตอนนี้ ทุกคนมายืนรุมล้อมซากกวางตัวหนึ่งที่มีสภาพเหลือเพียงกระดูกและเศษเนื้อหนังติดอยู่นิดเดียว โลหิตเปรอะเปื้อนทั่วบริเวณ กลิ่นคาวคละคลุ้ง บางคนผงะถอยหลัง บางคนปิดจมูก พรานกระทิงนั่งยองๆ อยู่ กลอกตาไปมา 

    "ตัวอะไรทำ" สุธีโพล่ง

    "เสือ!!" 

    ทุกคนหันขวับไปมอง ห่างออกไปหน่อย พรานหญิงค่อยๆ ลุกขึ้นยืน เมื่อตรวจรอยเท้าบนดินแล้ว

    คำตอบนั้น เรียกเสียงอุทานจากบางคน

    "ดีนะ หุบอสรพิษเจองู ทุ่งทรายแดงเจอเสือ ไม่ยักกะรู้ว่าเราเข้าป่ามาลึกถึงขนาดนี้แล้ว" ฉัตรทิพย์พูดเหมือนประชดปนสงสัย 

    "ไม่ใช่ แถวนี้ไม่เคยมีเสือ... มันเป็นเสือพลัดถิ่น และไม่ได้มาตัวเดียว" 

    ลั่นทมกล่าวเรียบๆ แววตาคมกริบกวาดมองทั่วบริเวณทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ไพศาล เมื่อแม่บุญธรรมพูดคำว่า "เสือ" กระทิงก็วิ่งไปสำรวจร่องรอยข้างหน้าทันที ก่อนจะวิ่งกลับมา 

    "แม่ อยู่บนเส้นทางของเราแน่ เพิ่งไปได้ไม่นาน มากกว่าสิบตัว!" น้ำเสียงวิตกกังวลมาก

    "เดี๋ยวก่อน เสือไม่ใช่สัตว์สังคม ทำไมถึงมากันเป็นฝูง" สบชัยถาม 

    "มีบางอย่างทำให้พวกมันมารวมตัวกัน..." ลั่นทมตอบ แล้วนิ่งเงียบไป กัดริมฝีปาก แววตาคิดหนัก 

    ...จริงอย่างที่กระทิงว่า ป่าโศก... เปลี่ยนแปลงไปในแบบที่ไม่คุ้นเคยแล้ว ทั้งภูมิประเทศ... ทั้งการเคลื่อนไหวของสัตว์ป่า... ประหลาดผิดเพี้ยนไปหมด... มีอิทธิพลบางอย่างเปลี่ยนวัฏจักรของที่นี่...

    "ถอยไปสามร้อยเมตร เราต้องวางแผนการเดินทางกันใหม่"

    ลั่นทมสั่งการ ทุกคนหันหลังกลับ ใบหูของกระทิงพลันกระดิก โสตประสาทของเขาไวกว่าแม่บุญธรรม "ไม่ทันแล้ว!"

    เสียงร้องของพรานกระทิง ทำทุกคนหันกลับมา ลั่นทมใจหายวาบ นึกด่าตัวเองที่สะเพร่าเลินเล่อ ไม่ทันสังเกตเห็นว่าห่างออกไปสี่ร้อยเมตร ต้นหญ้าสูงบดบังตัวนักล่าพันธุ์ฉกาจไว้ พวกมันดักซุ่มรอคอยโอกาสอยู่แล้ว และเมื่อกลุ่มเหยื่อหันหลังให้ ก็กระโจนออกจากที่ซ่อน ควบตะบึงมาด้วยความเร็วสุดฝีเท้า หมายขย้ำอาหารมื้อใหญ่อันโอชะ 

    เสือโคร่งลายพาดกลอน 16 ตัว...!!  
    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×