ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พายุกุหลาบ [E-Book]

    ลำดับตอนที่ #5 : ก้องภพ บูรณ์พิภพ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.54K
      75
      16 มิ.ย. 62



    -5-


    กรุงเทพฯ ประเทศไทย...

    ชายหนุ่มรูปงามในชุดลำลอง นั่งทอดกายบนเก้าอี้ยาวข้างสระน้ำอย่างสบายอารมณ์ในวันหยุดพักผ่อน วันอาทิตย์ มือสองข้างไขว้รองศีรษะไว้ สวมแว่นตากันแดด มีหนังสือท่องเที่ยวกางคว่ำอยู่บนตัก ปล่อยท่อนขาให้แสงแดดอ่อนๆ ยามบ่ายโลมเลียบรรยากาศเงียบสงบ สายลมพัดบางเบา นกกระจิบร้องน่าฟัง

    นั่นแน่! มาแอบงีบหลับอยู่ตรงนี้เอง สุขีอารมณ์ดีจริงนะ พ่อรูปหล่อ

    เสียงหวานปลุกเรียกเหนือศีรษะ ริมฝีปาก พ่อรูปหล่อ คลี่สยายนิดหนึ่ง ก่อนเจ้าตัวจะดึงแว่นออก กรอกตามองผู้ยืนค้ำหัวอยู่ อ้าปากหาว บิดกายอย่างขี้เกียจครั้งหนึ่ง แล้วลุกขึ้นนั่ง มองหญิงสาวสวยวัยกลางคนตรงหน้า ด้วยสายตารักเคารพ

    วันหยุดทั้งที ต้องพักผ่อนชาร์ตแบตฯ ให้เต็มที่สิครับ น้าเรือง ไม่งั้นจะมีเรี่ยวแรงไปสู้รบตบกระบาลกับใครไหว

    เรืองรำไพ ค้อนขวับ หล่อนคือ น้าสาว (น้องสาวของแม่) และญาติเพียงคนเดียวของเขาที่เหลืออยู่ บิดา มารดาของชายหนุ่ม เสียชีวิตหมดแล้วทั้งคู่ ดิลก กับ เถกิงรมณี ก็เป็นอาของเขาเช่นกัน แต่ไม่ใช่น้องแท้ๆ ของพ่อ เป็นเพียงแค่ญาติบุญธรรมเท่านั้น ตอนพ่อเขายังมีชีวิตอยู่ ได้อุปถัมภ์ค้ำชู แถมมอบตำแหน่งหน้าที่ใหญ่ในบริษัทให้ ทั้งสองจึงมีอำนาจมาก แม้ตอนนี้เขาจะสืบทอดกิจการต่อจากพ่อ เป็นถึงประธานบริษัทแล้ว แต่อำนาจก็ยังไม่นิ่ง ทั้งหมดก็มาจาก ความทะเยอทะยาน มักใหญ่ใฝ่สูงของสองคนนั้น!

    ดู! ฟังพูดเข้า จะไปตบกระบาลใครยะ เดี๋ยวนี้นักเลงใหญ่แล้วนะ เดี๋ยวเถอะ บอกหนูแองจี้ให้กำราบไว้บ้างดีกว่า

    โอ้โห! ท่าจะไม่สำเร็จหรอกครับ

    ทำไม หนูแองจี้เป็นลูกแมวน้อยคอยแต่อ้อนหรือ?”

    เปล่าครับ แองจี้น่ะเป็นมังกร เธอสง่า ฉลาด ปราดเปรียว แต่ผมเป็นจิ้งจอกเก้าหาง เจ้าเล่ห์จะตาย

    ชายหนุ่มยกมือทำท่าข่วนเหมือนเสือดาว น้าสาวหัวเราะคิก

    ย่ะ พ่อจิ้งจอกผู้ยอมศิโรราบแก่มังกรสาว แล้วแม่มังกรสาวของเราน่ะ เมื่อไหร่จะมาหาสักที? น้าคิดถึงนะ ไม่เจอหน้ากันตั้งนานแล้ว

    ช่วงนี้เรียนหนักครับ คงอีกสักพัก...

    ตามฟ้าชะงัก เมื่อมองไปด้านหลังน้าสาว พบคนที่ไม่อยากเจอหน้าที่สุด กำลังเดินตรงเข้ามา เรืองรำไพหันไปมองตาม อึ้งไป ก่อนจะขอตัวกับหลานชายไปทำขนมต่อ แล้วเดินสวนตัวทั้งคู่ไปแบบไม่ทัก

    ไง ฟ้า วันนี้ไม่ออกไปไหนหรือ? มีความสุขจังเลยนะ มานอนเล่นตากลมอยู่ในบ้าน

    เสียงหวานทักทายจากริมฝีปากสีสดของสาววัยกลางคนที่ยังสวยปลั่งงามสง่า ตามฟ้าวางสีหน้าเรียบสนิท

    วันหยุด ก็ต้องพักผ่อนสิครับ ผมไม่ใช่โรคจิต ประเภทชอบหมกมุ่นครุ่นคิดถึงแต่เรื่องฉิบหาย เอ้ย! เรื่องบริหารธุรกิจ ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ให้โรคประสาทถามหา อาดิลก กับ อามณีจะไปไหนกันล่ะครับ?”

    ดิลกเกิดอาการหัวเสีย กับวาจากระแทกแดกดันของหลานชาย จึงสะบัดหน้าไม่ตอบ แต่อาสาวยิ้มหวาน

    อย่างเคยแหละจ้ะ งานบริษัทในเครือเยอะแยะวุ่นวายไปหมด อาต้องไปตรวจตราสะสางอีกแล้ว

    โอ้โห! จะงานใหญ่งานเล็ก ต้องพึ่งอามณีไปเสียหมด รู้สึกรบกวนจริงๆ พักผ่อนบ้างเถอะครับ ตรากตรำกรำศึกทั่วราชอาณาจักรเดอะไลท์แบบนี้ ระวังจะเจ็บไข้ได้ป่วยเอา เดี๋ยวผมจะไม่มีใครคอยชี้แนะนะ

    ดิลกหันมาจ้องหน้า เริ่มอารมณ์กรุ่นๆ กับบทตีสองหน้าของหลานหนุ่ม เถกิงรมณียังยิ้มอย่างใจเย็น

    ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ อาดูแลตัวเองดีเสมอ เพื่อจะได้อยู่ดูแลหลานฟ้าให้นานที่สุด ส่วนเรื่องงาน ตอนนี้ยังเหนื่อย อาทนได้ เพราะวันหนึ่งเมื่อพบกับความสำเร็จ รางวัลที่ได้ตอบแทน จะคุ้มค่าจนหายเหนื่อยไปเลยล่ะ!”

    วาจาคมกริบกินนัยลึกนั้น ไม่ได้ทำให้ตามฟ้าสะดุ้งสะเทือน ตรงข้ามเขากับหัวเราะเฉื่อยๆ

    ได้รางวัลตอบแทนก็ดีครับ กลัวแต่ว่าจะได้ไม่คุ้มเหนื่อย เสียสละเพื่ออย่างหนึ่ง กลับได้ผลอีกอย่างหนึ่ง ทุกสิ่งบนโลกนี้ ไม่มีอะไรควบคุมได้ดั่งใจเราหรอกครับ โดยเฉพาะในแวดวงธุรกิจ ตัวอย่างก็มีมาให้เห็นบ่อยๆ

    รีบไปกันเถอะน่า แรนดี้ เสียเวลามากแล้ว

    ดิลกแทรกขัดสงครามเย็นขึ้นมาด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เถกิงรมณียิ้มเย็นๆ ส่งท้าย ก่อนจะเดินจากไป


    ณ. ศูนย์จัดแสดงสินค้า และเครื่องประดับอัญมณี บนชั้น 5 ของห้างสรรพสินค้าหรูตัวเมืองกรุงเทพฯ

    ที่นี่คืองานโชว์ สินค้าอัญมณี ในรูปแบบเครื่องประดับหลากหลายชนิด ของบริษัทจิวเวลรี่ชั้นนำทั้งในฯ และต่างประเทศ ซึ่งนำมาประชันอวดโฉมรัศมีกันจนละลานตา สวยงาม และเรียกความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

    ตามฟ้าเดินทอดน่อง ชมวัตถุล้ำค่าอยู่เพียงลำพัง มีหลายคนรู้จักเขา ทั้งลูกค้า และนักธุรกิจ ต่างก็เดินมาทักทาย ชายหนุ่มกำลังจะกลับ พอดีเห็นหนุ่มต่างชาติคนหนึ่ง ยืนมองเครื่องประดับอัญมณีในตู้โชว์อย่างสนใจ

    สนใจ ควอทซ์ หรือครับ มิสเตอร์จอห์น มีอะไรที่ผมพอช่วยได้ไหม?”

    เขากล่าวเป็นภาษาฝรั่งเศสอย่างสุภาพ ยิ้มทักทาย หนุ่มตาน้ำข้าวหันมา ร้องอย่างดีใจ

    โอ้ว ดีใจจริงๆ ที่ได้เจอคุณ มาร์ติน กำลังนึกถึงอยู่เชียว ถูกแล้ว ผมชอบอัญมณีชิ้นนี้มาก มันช่างสวยงาม ดึงดูดใจผมเหลือเกิน แต่โชคร้าย ที่ผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับมันเลยแม้แต่นิดเดียว

    งั้นคุณก็โชคดี ที่มาเจอผม ควอทซ์ เป็นหินชนิดหนึ่ง นิยมเรียกกันว่า คริสตัล ครับ ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมาจากซิลิก้า ออกซิเจน และน้ำ ประกอบกัน พร้อมทั้งความร้อน และแรงกดอัดใต้พื้นพิภพ โดยทั่วไป คริสตัลจะเกิดขึ้นได้ ต้องใช้เวลาอย่างน้อยห้าแสนปี แต่มีคริสตัลชนิดดีพิเศษจากประเทศบลาซิล ใช้เวลาก่อกำเนิดถึงห้าร้อยล้านปีทีเดียว

    โอ้โฮ! นานขนาดนั้น ช่างมหัศจรรย์จริงๆ พิเศษเช่นนี้ ควอทซ์ คงเป็นหินที่มีพลังรอบตัวมากมายนัก

    อัญมณีหลายชนิด มีคุณประโยชน์มากกว่าหนึ่งอย่างครับ ควอทซ์ก็เช่นกัน ชื่อเสียงของมัน คือการปกป้องให้รอดพ้นจากภัยอันตราย นำความสุข เพิ่มความไวของความรู้สึกต่อพลังลึกลับต่างๆ คุณสมบัติในการบำบัดของควอทซ์ก็น่าสนใจนะครับ เช่น ช่วยดูดซับสารที่ไม่ต้องการออกจากร่างกาย ช่วยรักษาโรคแก่ผู้ป่วย เพิ่มความแข็งแรงให้แก่บุคคลปกติ อีกทั้งยังสามารถใช้คู่ในการปฏิบัติสมาธิ สร้างความนึกคิดให้เฉียบแหลม กว้างไกล บรรเทาอาการปวด และอักเสบก็ได้ แถมช่วยเสริมพลังจิตให้สูงส่งด้วย

    อืม...ข้อดีมากขนาดนี้ ฟังดูก็ออกจะเหลือเชื่อนะ

    มิสเตอร์จอห์นยกมือลูบคาง เปรยอย่างไม่ใคร่เชื่อถือใน อิทธิฤทธิ์ อันเยอะแยะมากมาย จากปากของตามฟ้าเท่าใดนัก ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ บอกมาอย่างเป็นกลางว่า

    นี่เป็นเรื่องของความเชื่อ และความศรัทธาส่วนบุคคลครับ มิสเตอร์จอห์น มันไม่อาจพิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ และไม่มีใครบังคับความเชื่อใครได้ คิดเสียว่าเป็นเครื่องเสริมกำลังใจ จะช่วยให้ยอมรับได้ง่ายกว่า

    ขอถามตรงๆ เถอะ สำหรับคุณ เชื่อเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน?”

    หนุ่มฝรั่งถามจริงจัง ผู้เชี่ยวชาญด้านอัญมณีนิ่งไปครู่ ก่อนจะตอบอย่างสุขุม ระมัดระวังว่า

    สำหรับผม อัญมณีเปรียบเสมือนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นนามธรรมครับ จับต้องไม่ได้ แต่รู้สึกได้ว่ามีอยู่จริง ซึ่งความรู้สึกแบบนั้น จะก่อเกิดขึ้นมาได้ ก็ต้องอาศัยประสบการณ์ การสังเกต และเวลารวมกัน แถมต้องมีจิตประสาทที่ละเอียดอ่อน ลึกซึ้งมากพอ จึงจะสัมผัสถึงเนื้อแท้ของอัญมณีได้ อภินิหาร หรือพลานุภาพใดๆ ที่มีจารึกไว้นั้น อาจถูกแต่งแต้มเกินจริงไปบ้าง แต่โดยแท้จริงแล้ว เปอร์เซ็นต์ความถูกต้องค่อนข้างสูงทีเดียว ถึงกระนั้น ก็มีหลายคน ทั้งชีวิตไม่เคยได้สัมผัสถึงพลังงาน อันนี้ก็ต้องไตร่ตรองว่า การดูแลรักษา ด้วยวิธีที่ถูกต้องไหม มีคุณสมบัติของการเป็น นักอัญมณีที่ดี รึเปล่า ใช้ถูกกับวัตถุประสงค์ไหม ข้อหลังนี้ก็สำคัญ อัญมณีอาจกลายเป็นแค่ก้อนหินไร้ค่า หาประโยชน์ใดๆ มิได้ หากนำมันไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง เรื่องอัญมณีนี้ ถ้าจะเล่าให้ครอบคลุม ก็คงจะใช้เวลาเป็นวันๆ ทีเดียว มันมีกฎให้ต้องระวังอยู่มากเลยละครับ สำหรับนักครอบครอง...

    งานแสดงอัญมณี สตาร์แซฟไฟร์ จิวเวลรี่ 2013 ได้เริ่มต้นขึ้น ณ. ศูนย์จัดแสดงแฟชั่นโชว์ชื่อดังกลางเมืองกรุงเทพ ตอนบ่ายสามโมงเย็น มีนักธุรกิจอัญมณี ลูกค้าบริษัทจิวเวลรี่ยักษ์ใหญ่ บุคคลชั้นนำในสังคมทั้งใน และนอกวงการ ให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก รวมถึงสื่อมวลชนที่มาทำข่าวกันอย่างคับคั่งด้วย

    แสงสปอตไลท์จับนิ่งมาที่บุรุษหนุ่มหล่อเหลา และหญิงสาวเลอโฉม ทันทีที่ทั้งคู่ควงก้าวเข้ามาในงาน ด้วยความโดดเด่นสะดุดตาทั้งรูปลักษณ์ และชื่อเสียง ตามฟ้า เรืองฤทธิ์ธารันท์ ผู้บริหารสูงสุดของเดอะไลท์ มาในคราบสุภาพบุรุษหรูหรา สง่างามเปี่ยมราศีด้วยชุดสูทสีขาว กับหญิงสาวข้างกาย กนกเมทนี เกตุเรืองแก้ว ครีเอทีฟมือหนึ่ง ผู้สวยหวานละมุนในชุดราตรีเกาะอกยาวกรอมเท้าสีเขียวมะนาว ผ้าไหมรัดรูปเน้นทรวดทรงงดงามอรชร เปลือยหัวไหล่ขาวผ่องข้างหนึ่ง อวดสะโพกผาย และเอวคอดกิ่ว แต่งใบหน้าโทนสีฟ้าอ่อน เปล่งประกายความงามนุ่มละมุนละไม มองแล้วให้ความรู้สึกเย็นตา สดชื่น สบายใจ เครื่องประดับ ทั้งสร้อยคอ แหวน กำไล ต่างหู ล้วนเป็นอัญมณีแซฟไฟร์สีเขียวมรกตเข้าชุด อันเข้ากับคอนเซ็ปต์ของงานนี้

    ตามฟ้าเมื่อขับรถไปรับหล่อนที่บ้าน ยังตะลึงไปหลายนาที อดทึ่งปนพิศวงมิได้ ปกติเห็นหญิงสาวไม่ใคร่แต่งตัวนัก ดูภายนอกหล่อนเรียบร้อยธรรมดา สวยแต่ไม่ถึงกับกระชากใจ หากเมื่อยามแต่งตัว กลับเผยรังสีดึงดูด เย้ายวนใจแบบหวานนุ่มขึ้นมา

    นักข่าวหลายคนรุมเข้ามาประชิดทั้งคู่ พร้อมยื่นไมค์จ่อมา

    คุณตามฟ้าคะ มิทราบว่าคอนเซ็ปต์งานแสดงครั้งนี้ของบริษัทเดอะไลท์ คืออะไรคะ?”

    คงต้องให้เจ้าของโปรเจ็คนี้เป็นคนอธิบายละครับ

    ตามฟ้าเลี่ยงไปให้ครีเอทีฟสาวนุ่มๆ กนกเมทนียิ้มละไมให้นักข่าว

    ลำแสงแห่งความศรัทธา ความหวัง และโชคชะตา คือสัญลักษณ์ และของขวัญสำหรับคู่สมรสค่ะ

    เอ่อ คุณตามฟ้าคะ ความสัมพันธ์ของคุณ กับคุณอินทราณีที่ซิดนีย์ เมื่อปลายเดือนที่แล้วนั้น เป็นข่าวหวานซึ้งกินใจมาก หากคนรักของคุณมาเป็นนางแบบในงานครั้งนี้ด้วย คุณอยากให้เธอใส่แซฟไฟร์ชนิดไหนคะ?”

    นักข่าวหญิงสายบันเทิงคนหนึ่งถามเขา ชายหนุ่มเลิกคิ้วนิดหนึ่ง ยิ้มแล้วตอบแบบไม่ต้องคิด

     ผมคิดว่า เธอมีอัญมณีที่เหมาะสมและคู่ควรอยู่แล้ว แต่ถ้าให้เลือกจากแร่รัตนชาติ โทปาซ หรือบุษราคัม เหมาะกับเธอมากที่สุด เพราะบุษราคัม เป็นอัญมณีที่นำแสงสว่างมาสู่ชีวิต เธอคือ แสงสว่างที่สวยงาม สำหรับผม และโลกใบนี้!”

    คำตอบแสนหวานนั้น เรียกเสียงกรี๊ดเกรียวกราวจากพวกนักข่าวหญิงทันที กนกเมทนีชำเลืองมองเศร้าๆ ขณะนั้นเอง บุรุษผู้ยิ่งใหญ่ และทรงอำนาจ อีกคนหนึ่งในวงการจิวเวลรี่ ก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับสาวสวยหน้าคมข้างกาย นักข่าวเปลี่ยนฝั่งสัมภาษณ์

    คุณก้องภพคะ วันนี้มั่นใจไหมคะ ว่าโชว์ของคุณจะชนะ?”

    ก้องภพมาในชุดสูทสีดำ หล่อเหลากรุ้มกริ่มตามเคย เหลือบมองหน้าหนุ่มธุรกิจรุ่นน้องด้วยแววตาเยาะหยันนิดหนึ่ง

    เดี๋ยวก็จะได้รู้กันครับ ผมคิดว่าดีไซเนอร์ และครีเอทีฟของผม คงไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง

    ก้องภพพาโศภิตา ครีเอทีฟสาวในชุดเดรสเกาะอกสีน้ำเงิน ในคอนเซ็ปต์ของไพลิน เดินมาทักทายตามฟ้า และกนกเมทนี

    คุณเถกิงรมณี กับคุณดิลก ไม่มาด้วยหรือครับ?”

    ก้องภพถาม ด้วยรอยยิ้มลึกลับมีเลศนัย ตามฟ้าตอบ ใบหน้านิ่งสนิท

    ติดงานครับ ต้องดูแลบริษัทแทนผม

    โอ้โฮ้! ขยันจังเลยนะครับ สมกับเป็นผู้นำของเดอะไลท์ แบบนี้ได้ใจพนักงานแย่ คุณตามฟ้าโชคดีจริงๆ นะ ได้ผู้ช่วยทั้งเก่ง ทั้งเอาการเอางาน ตั้งสองคน คงจะทำงานสบายเลยสิท่า?”

    ถ้อยคำชื่นชมอันแฝงเข็มพิษมาสะกิดหัวใจนั้น ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มผู้อ่อนเยาว์กว่าเต้นเร่าอย่างที่คิด

    ก็ไม่เชิงครับ พวกเขาเปรียบเหมือนสนามแม่เหล็กชั้นดีของเดอะไลท์ ทรงพลังอำนาจ และดึงดูด มีพวกเขาอยู่ ช่วยให้ผมเติบโต และแข็งแกร่งขึ้น แต่คนเป็นบอสใหญ่ไม่มีคำว่างานสบาย ยอมรับเลยว่าตอนนี้ผมยุ่งมาก แต่ก็รู้สึกโชคดีจริงๆ อย่างที่คุณว่า ถ้าไม่มีพวกเขาทั้งสอง ผมอาจจะพัฒนาจนก้าวมาถึงระดับนี้ไม่ได้ ต้องขอบคุณพวกเขาอยู่เหมือนกัน

    เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมเพลี่ยงพล้ำทางวาจา และอารมณ์ ก้องภพจึงยุติศึก เดินไปประจำที่เก้าอี้ตัว กนกเมทนีแอบยิ้มนิดหนึ่ง

    งานแสดงเริ่มขึ้น เหล่านางแบบชื่อดังของสองบริษัทจิวเวลรี่ยักษ์ใหญ่ทั้ง เดอะไลท์ และ เดอะซัน ผลัดกันเดินสวนออกมาประชันโฉม อวดเครื่องประดับอัญมณี และพรีเซ็นต์กันอย่างเต็มที่ สร้างความฮือฮา และเสียงปรบมือจากแขกผู้รับชม นางแบบทั้งสองบริษัท ต่างมีดีกรีไม่ด้อยกว่ากัน จึงต้องวัดกันที่ดีไซน์ของเครื่องประดับ และการเดินโชว์ จุดสำคัญคือ เครื่องประดับชิ้นเอกของงาน นางแบบตัวเอกของบริษัทเดอะซัน ส่งประกวดด้วย มงกุฎแซฟไฟร์โกเมนสีแดงก่ำเม็ดใหญ่รูปหงส์ประดับแก้วนพรัตน์หลากสี สวยงามจนทุกคนตะลึงลาน เสียงปรบมือดังกึกก้อง ก้องภพนั่งยิ้มกระหยิ่ม คิดว่ายังไงครั้งนี้เขาก็ชนะแน่ แต่แล้ว...เหมือนฟ้าผ่ากลางแดดเปรี้ยง! เครื่องประดับชิ้นเอกของตามฟ้า คู่ปรับคนสำคัญ กลับกลายเป็น มงกุฎบลูแซฟไฟร์ สีน้ำเงิน รูปอินทรี ประดับพลอยโกเมนชิ้นเล็กๆ สง่างามน่าทึ่ง ยิ่งกว่ามงกุฎอันแรก แถมยังมีความหมายข่มกันในตัว เพราะตามฟ้าใช้โกเมน อัญมณีชิ้นเอกของก้องภพ มาเป็นองค์ประกอบย่อย ช่วยส่งเสริมความงามของพลอยไพลิน ทำให้ก้องภพ รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง  ผิดหวัง และสับสนอย่างยิ่ง เพราะแผนที่เขาวางไว้ มันไม่ใช่แบบนี้! ก้องภพ เหลือบมองหน้าตามฟ้า ชายหนุ่มรูปงามที่ภายนอกดูเหมือนไก่อ่อนเคี้ยวง่าย ก้มหัว และยิ้มนิดๆ ให้เขา หนุ่มใหญ่แค้นใจแทบกระอัก เมื่ออ่านได้ว่า มันเป็นรอยยิ้มเยาะ เย้ยหยัน อย่างแท้จริง!!  

    ด้วยการดีไซน์มงกุฎพลอยไพลินอันงดงามน่าอัศจรรย์ใจ บวกกับความงามของนางแบบ และการพรีเซ็นต์ที่ตีโจทย์แตก ทำให้ผลงานของบริษัทเดอะไลท์เป็นผู้ชนะไป!

    ฮื่ม! น่าโมโหนัก ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ มันควรจะต้องเป็นฝ่ายเสียหน้าสิ ทำไมกลับตาลปัตร

    ก้องภพเหวี่ยงหมอนอิงบนโซฟาลงพื้นอย่างเจ็บใจ ในห้องคอนโดของตน โศภิตายืนดูอย่างสงบ

    นั่นแปลว่า คนของบอสทำงานล้มเหลว ถูกตามฟ้าจับได้ และถูกซ้อนแผนหักหน้ากลับ

    เงียบไปเลย!”

    หนุ่มใหญ่กระแทกตัวนั่งบนโซฟาอย่างหัวเสีย ตวาดมา ครีเอทีฟสาวยกมือกอดอก ก้องภพรู้สึกตัว พยายามควบคุมอารมณ์

    มันไม่น่าจะเป็นแบบนั้น ลักษมีไม่เห็นรายงานอะไรเลย

    ช่างเถอะค่ะ บอส จะถือสาทำไม กะแค่งานเล็กๆ เราเก็บความแค้นไว้ ค่อยเอาคืนทีหลังดีกว่านะคะ

    โศภิตานั่งลงเคียงข้าง นวดแขนให้อย่างเอาใจ กระซิบกระซาบริมหูก้องภพ ทำให้หนุ่มใหญ่ที่กำลังหงุดหงิด เปลี่ยนอารมณ์ได้ฉับพลัน มองริมฝีปากอิ่มสีแดงสด ไล่มาช่วงไหล่เปลือยเปล่า และเนินอกอวบอิ่มที่แทบทะลักจากเกาะอกที่บังไว้ไม่มิด แววตากระหายของเขา ทำให้สาวสวยยิ้มออกมาอย่างสมใจ ยื่นมือลูบคลำหน้าอกของเขา ก่อนจะเคลื่อนกายขึ้นทาบทับบนตัก...

    แผนหนามยอกเอาหนามบ่งครั้งนี้ คงจะทำให้คุณก้องภพรู้จักบอสดียิ่งขึ้น ว่าไม่ใช่ไก่ที่จะถูกเชือดได้ง่ายๆ สะใจดีนะคะ

    สาวสวยในชุดราตรีเขียวมะนาวนั่งจิบไวน์แดงอยู่บนโซฟา หล่อนยิ้มให้เขาที่เดินตรงเข้ามา ด้วยใบหน้าแดงปลั่งจากฤทธิ์ดีกรี ขณะนี้ เป็นยามวิกาล และหล่อนอยู่ในห้องพักคอนโดของตามฟ้า

    รบกันมาก็หลายครั้ง นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีแผนสปายอยู่ด้วย ถ้าไม่ได้คุณช่วยเป็นหูเป็นตา ครั้งนี้คงเป็นผมที่เสียหน้า

    หนุ่มหล่อทรุดนั่งลงเคียงข้าง หล่อนส่งแก้วไวน์ให้เขา แล้วชนเบาๆ ก่อนจะดื่มรวดเดียวหมด ตามฟ้ามองหล่อน เพียงยกจิบเล็กน้อย ท่าทีของเขาสงบ ไม่ได้มีความเย่อหยิ่งทระนง ยโสโอหังในชัยชนะครั้งนี้เลย

    ไม่มีใครทำให้บอสเสียหน้าได้หรอกค่ะ บอสของมีนาเก่งที่สุด ไม่มีใครสู้ได้!”

    กนกเมทนีพร่ำเพ้อในลักษณะมึนเมา หันมายิ้มหวานให้เขา ทอดสายตาหวานเชื่อม น้ำเสียงก็ออกแนวชื่นชมเยินยอแปลกๆ ทำเอาตามฟ้าชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะแปร่งๆ งงๆ

    ยอเกินไปแล้ว นี่เป็นผลงานของคุณต่างหาก ไม่ใช่ผม จริงสิ มีนา พรุ่งนี้กับลักษมีน่ะ...

    ร้อนจัง! บอสคะ...มีนาร้อน!...

    เสียงครางดังแทรกเสียงของเขาขึ้นก่อน จู่ๆ สาวงามข้างกายก็บิดกายไปมาอย่างรุ่มร้อน ไม่สบายตัว สะบัดผมนุ่มสวยไปด้านหลัง เปิดเปลือยหัวไหล่ขาวผ่องข้างหนึ่ง เอนกายพิงพนัก หลับตา คอตกไปข้างหลัง ดันหน้าอกขึ้นนิดหนึ่ง ทำให้ทรวงอกอวบอิ่มภายใต้ผ้าไหมรัดรูป ถูกเน้นให้เห็นถึงความกลมกลึงได้รูปสมบูรณ์แบบ อันดึงดูดยั่วท้าสายตาชายเกือบทั้งงานในวันนี้ แถมสรีระของหล่อนยามนั่งไขว่ห้าง ปรากฏส่วนเว้าส่วนโค้งสุดเซ็กซี่บาดใจ แม้จะอยู่ในชุดเรียบร้อยขนาดไหน กนกเมทนีผู้นุ่มนวลยามนี้ กลายเป็นสาวร้อนแรง ทรงเสน่ห์ทางเพศแรงสูงไปเสียแล้ว!!

    นาทีเดียวที่ตะลึง ริมฝีปากชายหนุ่มเผยอออกโดยไม่ตั้งใจ จู่ๆ ลำคอก็แห้งผาก เลือดในกายร้อนฉ่า หญิงสาวเอียงหน้ามาหาเขา ดวงตาปรือหยาดเยิ้ม ตามฟ้าละสายตาจากร่างงามนั้นอย่างรวดเร็ว แม้เรือนร่างจะนิ่ง แต่หัวใจเขาเต้นผิดจังหวะไปวูบหนึ่งทีเดียว

    ฟ้าขา...!!”

    เสียงครางกระเส่าไม่คุ้นหู เรียกตามฟ้ากลับมามองอีกครั้ง ร่างของหล่อนเอนทับลงมาพอดี ชายหนุ่มอุทาน รับร่างหล่อนโดยสัญชาติญาณ มือทั้งสองโอบเอวหล่อนไว้ แต่มือของหล่อนโอบรอบคอเขา พร้อมใบหน้าซุกอยู่กับต้นคอ ลมหายใจร้อนๆ กับริมฝีปากอุ่นสัมผัสกับเนื้อหนังเขาเต็มที่

    ...อือ...ร้อนจัง...ฟ้าขา...มีนาร้อน...

    มี...มีนา...คุณเมาหรือ...เดี๋ยว...นั่งดีๆ ได้ไหม...ตัวคุณหนัก...โอ๊ะ!”

    สายไปแล้วที่จะดันร่างหล่อนให้นั่งตรงๆ เพราะหญิงสาวเอนน้ำหนักทั้งร่างใส่เขาเสียแล้ว!! ชายหนุ่มเสียหลักล้มลงไปนอนบนโซฟา พร้อมกับร่างงามที่ทาบทับลงมาด้วย ริมฝีปากหล่อนสัมผัสถูกแก้มเขาอย่างจัง แต่หญิงสาวไม่รู้สึกตัว กลับซุกหน้าลงบนคอเขา ราวกับจะใช้ตัวเขาเป็นเตียงพักผ่อนหลับนอน

    มี...มีนา...คุณเป็นอะไรนี่ ลุก...ลุกก่อน...มีนา...

    ตามฟ้าปลุกเรียก เขย่าตัวหล่อนเบาๆ แต่หญิงสาวงึมงำไม่เป็นภาษา รู้แต่ว่าเป็นกริยาที่มีความสุข และกำลังสบายอย่างยิ่ง หากแต่คนใต้ร่างหล่อน มิได้เป็นสุขไปด้วยเลย เขากำลังตื่นเต้น ปั่นป่วนกับความอบอุ่นนุ่มหยุ่นมีสปริงที่บดเบียดอยู่บนทรวงอกกว้าง และริมฝีปากแสนซนที่เลื้อยเลาะตามซอกคอ ฤทธิ์ดีกรีมันทำพิษกับหล่อนเสียแล้ว แม้ชายหนุ่มดื่มไปมากกว่าหล่อน แต่คอแข็งกว่าหลายเท่า แม้ดีกรี (หรือพิษเสน่ห์) ของหล่อน จะทำให้ร่างของเขาร้อนซ่าน แต่สติ และคุณธรรม ก็ยังเป็นของเขาอยู่ครบถ้วน

    อือ... กนกเมทนีพลิกร่างคราหนึ่ง ก่อนจะได้สติขึ้นมาอย่างมึนงงเล็กน้อย ผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียง มองไปรอบห้อง

    คุณหนู ตื่นแล้วหรือคะ ดีจังเลย คุณนายให้แจ่มเอาน้ำขิงมาให้คุณหนูจิบ จะได้สร่างเมาค่ะ

    สาวใช้วัยรุ่นยืนอยู่ปลายเตียงหล่อน หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ ก่อนยกมือกุมหัว

    นี่...ฉัน...กลับมาบ้านได้ยังไงกัน?”

    อุ๊ย! คุณหนูเมาขนาดนั้น จะกลับเองได้ไงล่ะคะ ก็คุณผู้ชายรูปหล่อ เอ้ย! คุณเจ้านายของคุณหนูนั่นแหละ มาส่งตั้งแต่เมื่อคืนแล้วค่ะ

    ตามฟ้าหรือ? อือ...ฉันไม่รู้สึกตัวเลย ฉันเมาเละเทะขนาดนั้นเชียวหรือนี่?”

    ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ว่า...อิอิ!”

    จู่ๆ สาวใช้ก็หน้าแดง ยกมือปิดปากหัวเราะ กนกเมทนีจ้องอย่างฉงน แต่ถามก็ไม่ได้รับคำตอบ จนกระทั่ง หล่อนแต่งตัวเสร็จ ลงมาข้างล่าง จึงได้ยินความลับที่ทำให้หัวใจหยุดเต้น จากเสียงกระซิบของมารดาหล่อน

    ...ดีแล้ว อย่าเที่ยวไปหลุดปากบอกคุณหนูล่ะ ว่าเห็น รอยลิปสติกบนแก้มของคุณตามฟ้า ตอนเขามาส่งน่ะ มันอาจไม่มีอะไรก็ได้ ฉันเชื่อในตัวคุณตามฟ้า และโดยเฉพาะลูกสาวฉัน!”

    ตั้งแต่เกิดมา กนกเมทนี เกตุเรืองแก้ว แทบไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์ปั่นป่วนหัวใจมากเท่านี้มาก่อน เพราะเหตุการณ์ระหว่างหล่อน กับตามฟ้า เมื่อคืนนั้น มันเกินกว่าที่หล่อนจะคาดเดา หรือรับมือได้เสียแล้ว คิดตำหนิตัวเองอย่างหนักมาตลอดทาง ว่าหล่อน พลาด ไปได้อย่างไร ความสำรวม และระมัดระวังตัวเสมอ เวลาอยู่กับเขา มันหมดสิ้นไปเพราะฤทธิ์ดีกรี บวกกับความร้อนเร่าในหัวใจที่อัดแน่นไว้มานาน หล่อน หลุด อะไรไปบ้าง เผลอปาก ไปมากแค่ไหน กริยาอันเป็นกุลสตรีชั้นยอดยัง เหลือ อยู่อีกไหม สำคัญที่สุด ตามฟ้า รู้ อะไรไปบ้าง ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นใจตัวเอง การเผชิญหน้าเขาเป็นงานที่ยากที่สุดในเช้าวันนี้

    ความอับอายถูกขัดจังหวะด้วยหญิงสาวสวยคนหนึ่ง ที่เดินสะบัดก้นออกมาจากห้องทำงานเขา ด้วยใบหน้าบึ้งตึงปนซีดเผือด เดินชนไหล่หล่อนจากไปโดยไม่มอง กนกเมทนีอึ้งไปวูบ และเมื่อหันกลับมา

    อรุณสวัสดิ์ วันนี้มาทำงานช้าไปนะ สิบปีไม่เคยมีปรากฏ สงสัยต้องโดนลงโทษซะบ้างแล้ว

    หนุ่มหล่อกระชากหัวใจ ยืนกอดอกเอนตัวพิงประตูห้องอยู่ ส่งยิ้มน้อยๆ มายังหล่อน หญิงสาวหน้าแดงวูบ หลบตาโดยไม่ตั้งใจ ยืนกระอึกกระอักอย่างทำตัวไม่ถูก ตามฟ้าเลิกคิ้ว ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ

    เอ๊า! แค่บอกว่าจะลงโทษเท่านั้น ถึงกับเหี่ยวไปเลยหรือนี่ พึ่งจะเช้าเองนะคะ คุณครีเอทีฟ

    ชายหนุ่มยื่นหน้าทะเล้นมาใกล้ๆ หญิงสาวผลักอกเขาเบาๆ แก้มนวลเป็นสีแดงปลั่ง

    บ้า! ใครเหี่ยวกัน พูดน่าเกลียด

    น่าน ยิ้มได้แล้ว อย่างนี้สิ ถึงจะใช่กนกเมทนีตัวจริงเสียงจริงหน่อย หายเมาค้างรึยัง?”

    สาวสวยแก้มร้อนผ่าว หลบตา อ้ำอึ้งในลำคอเบาๆ เมื่อเห็นเขายังยืนจ้องหน้า เหมือนจะสำรวจอะไร หญิงสาวก็รีบระงับอารมณ์ ทำใจให้มั่นคงเยือกเย็นดังเดิม เปลี่ยนเรื่องมาว่า

    คุณลักษมี เดินออกจากห้องบอส เมื่อครู่นี้...

    ใช่ เดินชนคุณด้วยนี่ สงสัยรีบไปเก็บของมั้ง ผมเพิ่งไล่เขาออกเมื่อครู่นี้เอง...

     Chimpanzé 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×