ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พายุกุหลาบ [E-Book]

    ลำดับตอนที่ #7 : ยิหวานารี สุขจันทร์โฉม

    • อัปเดตล่าสุด 8 ส.ค. 62




    ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย...

    สาวสวยสะคราญในชุดเดรสสั้นสีส้ม นั่งสนทนากับเพื่อนสาวในห้องรับแขก ขณะเสียงออดดังขึ้น หล่อนลุกไปเปิดประตู สักครู่ก็เดินหอบช่อดอกกุหลาบบานสีขาวปนแดงยี่สิบเอ็ดดอก ผูกด้วยริบบิ้นสีชมพูหวานเข้ามา

    ว้าว! ดอกกุหลาบสวยจัง!” จินนี่อุทาน อินทราณีหัวเราะเบาๆ ใบหน้าสดใส นั่งลงแล้วโน้มดอกกุหลาบมาดอมดมแผ่วเบา

    สีขาวปนแดง...เราคือหนึ่งเดียวกัน ยี่สิบเอ็ดดอก...หมายถึง ชีวิตนี้ฉันขอมอบให้แก่เธอ โอย...อะไรจะโรแมนติกปานนั้น

    เพื่อนสาวทำหน้าเคลิ้มฝัน ก่อนจะสะกิดให้อ่านการ์ดสีแดงรูปหัวใจแผ่นเล็กๆ ที่ห้อยอยู่ตรงริบบิ้น

    ...ขอให้คุณมีวันที่สวยงาม เบิกบาน แจ่มใส เหมือนดอกกุหลาบแรกแย้ม คิดถึง และรักคุณทุกวัน...

    ตามฟ้า

    อินทราณียิ้มหวานให้กับตัวอักษรเล็กๆ ที่เขียนด้วยลายมือนั้น โน้มดอกกุหลาบมาบรรจงจูบแผ่วเบา คล้ายจะให้เป็นตัวแทนของยอดรักที่อยู่ไกลแสนไกล

    ...ฉันก็คิดถึง...และรักคุณค่ะ...ตามฟ้า...

    กระซิบในหัวใจ ฝากอากาศ...สายลม...และดอกไม้ ช่วยสื่อใจกลับไปให้ถึงเขา

    โรแมนติกขึ้นทุกวันน๊า พ่อยอดชายนายตามฟ้าคนนี้ อาทิตย์นี้ดอกกุหลาบ อาทิตย์หน้าเป็นอะไรน้า?”

    จินนี่หยอก รู้สึกอิจฉา ปนประทับใจแทนเพื่อนสาว ที่ได้รับ ของฝากแทนใจ จากคนรัก ที่แม้ตัวจะอยู่ห่างไกล แต่ก็ยังส่งหอบความรักมาให้แฟนอย่างสม่ำเสมอ ขนาดเรย์ แฟนของหล่อนยังไม่โรแมนติกเท่านี้เลย

    ตามฟ้าเป็นคนโรแมนติก จินนี่ แต่ถ้าเขาส่งดอกไม้ให้ฉันเป็นประจำทุกอาทิตย์ ฉันอาจจะรู้สึกทะแม่งๆ มากกว่าจะหลงใหลปลาบปลื้มนะ

    จินนี่กะพริบตาปริบๆ ก่อนจะหัวเราะออกมา อย่างเข้าใจความหมาย

    นั่นสิ แบบนั้นดูเว่อร์ไปเนอะ ว่าแต่...เธอคุยโทรศัพท์กับเขาทุกวันรึเปล่า แองจี้?”

    ก็แทบทุกวันนะ โทรบ้าง ส่งเมล์บ้าง ส่วนใหญ่ตอนกลางคืนน่ะ ฉันกับเขาจะว่างตรงกันช่วงเวลานี้

    ตกลงกันไว้หรือ ว่าต้องโทรคุยกันทุกวัน อย่างน้อยวันละครั้ง?”

    เพื่อนสาวซักต่ออย่างสนใจ อินทราณีเลิกคิ้ว ทำหน้าพิกล

    ไม่เคยตกลงกันเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนั้นหรอก เอ...เธอก็ถามแปลกนะ จินนี่ มันมีกำหนดไว้ด้วยหรือว่าคนเป็นแฟนกันต้องโทรกี่ครั้ง? ความถี่ในการโทร ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าความรักนั้นจะมั่นคงเสียหน่อย

    เปล่า ฉันก็แค่สงสัย ก็เห็นตอนเธอคบกับผู้ชายคนอื่นๆ วันๆ หนึ่งรับโทรศัพท์พวกนั้นไม่รู้กี่สิบหน อยากรู้ว่าพี่ตามฟ้าจะแตกต่างกับพวกนั้นรึเปล่า?”

    แตกต่างแน่นอน! ข้อแรก เขารักฉัน แต่ว่าไม่ผูกมัด เขาไม่เคยโทรมาถามฉันในทำนองไต่สวนว่าตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหน ทำอะไร อยู่กับใคร ฉันเป็นฝ่ายบอกเขาเองทุกครั้ง ข้อสอง เขาเป็นคนโรแมนติก แต่ไม่ใช่คนหว่านเสน่ห์ เขาไม่เคยพร่ำพรรณนาคำหวานใส่ฉันไม่หยุดปาก เขาถามไถ่ชีวิตรอบด้านของฉัน สนใจทุกรายละเอียดที่เกี่ยวกับฉัน ข้อสาม เขาร่างอนาคตของเราให้ฉันฟังบ่อยๆ ขณะที่ผู้ชายพวกนั้นอยู่กับปัจจุบัน โลกของพวกเขา มีแค่ทำอย่างไรให้ฉันสมยอมสนองตัณหาให้เท่านั้น ความรักของตามฟ้าเหมือนต้นไม้ ส่วนฉันเป็นน้ำ พูดได้คำเดียวว่า เขาทำให้ฉันมั่นใจ และทำให้ความรักของเราเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคง

    ฉันเชื่อว่าเธอถูก แองจี้ เธอไม่เคยอ่านผู้ชายคนไหนพลาด ฉันดีใจกับเธอด้วย ที่ได้ผู้ชายสมบูรณ์แบบ

    จินนี่ยกนิ้วให้อย่างนับถือ อินทราณีนิ่งงันไปครู่ ก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ

    ถ้าฉันต้องการคนสมบูรณ์แบบล่ะก็ ชาตินี้ฉันคงไม่ได้แต่งงานกับมนุษย์หรอก จินนี่!”

    อ้าว พูดอะไรอย่างนั้น?”

    จินนี่ร้องงงๆ อินทราณีมองเพื่อนสาวอย่างเอ็นดู

    ไม่มีมนุษย์คนไหนสมบูรณ์แบบ เธอเองก็เรียนปรัชญามา จะมาค้านคติพจน์ข้อนี้หรือไร?”

    พี่ตามฟ้า เป็นข้อยกเว้น!”

    ไม่มีข้อยกเว้น ฉันยอมรับ ตามฟ้ามีดีเป็นส่วนมาก เขามีความดีอยู่ในตัวมากมาย อาจเหนือกว่าคนครึ่งโลกนี้ด้วยซ้ำ เป็นมนุษย์ที่หายากมาก แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่มีจุดเสียเอาเสียเลย

    สาบานให้ตาย! แองจี้ ฉันมองไม่เห็นว่าพี่ตามฟ้ามีจุดบกพร่องตรงไหน สักนิดก็ไม่มี ไม่มีเลยจริงๆ

    จินนี่เถียงแบบมั่นใจเต็มร้อย ทำหน้าขึงขัง อินทราณีหัวเราะขำๆ

    ตลกเหลือเกิน จินนี่ เธอจะมาเถียงหัวชนฝา ทั้งๆ ที่เธอก็ไม่ได้เป็นแฝดตัวติดกันกับตามฟ้านี่นะ ไร้สาระ! เมื่อฉันคบใคร ฉันจะหาทั้งข้อดี และข้อเสียในตัวเขา จินนี่ จะไม่คบเพียงแค่เห็นข้อดีของเขาอย่างเดียวเด็ดขาด แต่ฉันไม่บอกเธอหรอก เรื่องอะไรจะให้ฉันเผาคนที่ฉันรักลับหลัง ไปจ่ายตลาดดีกว่า


    อินทราณี กับจินนี่ มาเดินเลือกซื้ออาหาร สำหรับมื้อเย็นคืนนี้ ที่ตลาดนัดริมทางติดแม่น้ำ ขณะจินนี่เลือกซื้อผลไม้ อินทราณียืนห่างมาชมสวนผัก เด็กคนหนึ่งวิ่งมาชนหล่อนเสียหลักหงายหลัง แต่ถูกช้อนรับไว้ด้วยวงแขนกว้างใหญ่ ก่อนที่หล่อนจะล้มลง กลิ่นน้ำหอมฉุนกึกของผู้ชายโชยเข้านาสิกก่อนอื่นใด มืออีกข้างของเขา ตวัดเอวหล่อนเข้ามาประชิดตัวอย่างเร็ว ดีที่หญิงสาวใช้แขนทั้งสองยันหน้าอกเขาไว้ทัน ไม่งั้นหล่อนคงถูกกอดเต็มตัว!

    โอ๊ะ! เป็นไรรึเปล่าครับ?” เขาถามเสียงนุ่ม ก้มหน้าเข้ามาใกล้ จนหญิงสาวต้องเบนหน้าหลบ บอกห้วนๆ อารมณ์กรุ่นๆ

    ปล่อยฉันนะ!”

    ขอโทษที เมื่อครู่เห็นคุณจะล้ม ผมจึงยื่นมือมารับ ไม่ได้มีเจตนาร้าย...

    ขอบคุณ แต่ฉันทรงตัวได้ตั้งครึ่งนาทีแล้ว ควรจะปล่อยได้แล้ว

    เสียงเขียวของหล่อน ทำบุรุษหนุ่มหัวเราะเก้อๆ ปล่อยแขนจากเอวหล่อน แต่สายตาคมกริบยังจ้องไม่วางตา อินทราณีกระชับเสื้อโค้ชที่คลุมชุดเดรสล่อแหลมเข้ามาจนชิด กอดอก ก่อนเงยหน้าจ้องมองแบบตรงๆ

    ...เขาเป็นคนไทย ไม่ใช่ฝรั่งอย่างที่หล่อนคิดไว้แต่แรก อายุสามสิบปลายๆ แต่งตัวดี รูปร่างดี หน้าตา...โคตรดี!

    คุณ...ไม่เป็นไรนะครับ?” เขาถามสั้น แต่แววตานั้นสื่อความหมายยาวทีเดียว!

    ค่ะ ไม่เป็นไร...

    เด็กคนนั้นวิ่งชนคุณ ทำคุณเกือบล้มแน่ะ ดีที่ผม...

    ค่ะ ฉันขอบคุณคุณไปแล้ว...เมื่อครู่ งั้นขอตัวนะคะ

    อินทราณีพูดจบ ก็ทำท่าจะเดินหลบเขาไป แต่ชายหนุ่มคว้าแขนหมับ พร้อมร้อง เดี๋ยวก่อนครับ!”

    หญิงสาวหันขวับมาจ้องหน้า มือ และตาของเขาเขม็ง แววตาที่ดูงดงามหวานล้ำ ยามนี้ กลับส่งรังสีแข็งกร้าว ทรงพลังอำนาจอย่างไม่น่าเชื่อ มันขู่เขาจนต้องยอมปล่อยมือ และดับดวงตากรุ้มกริ่มให้วูบลงได้ชั่วขณะ

    เอ่อ ผมขอโทษ ผมแค่...อยากคุยกับคุณเท่านั้นเอง

    มีอะไรหรือ แองจี้?” จินนี่ เดินเข้ามา หันมองบุรุษหนุ่มตรงหน้าอย่างทึ่งๆ แต่เพื่อนสาวพูดเสียงชาเย็น ไว้ตัว

    ไม่มีอะไร ไปกันเถอะ เดินจากไปทันที ทิ้งให้หนุ่มใหญ่ยืนนิ่งงัน เพราะต้องมนต์สะกดแห่งความพิศวาสเข้าเสียแล้ว!!

    ผู้หญิงคนนี้ ชื่อ อินทราณี ครับ เป็นแฟนของคุณตามฟ้า นักธุรกิจจิวเวลรี่แห่งเมืองไทย...

    คำรายงานจากสายสืบ ทำเอาก้องภพกำมือแน่นด้วยความริษยา เขาไม่เคยสนใจคนรักของคู่อริ แต่ผู้หญิงที่เขาเจอวันนี้ มันช่างถูกใจเขายิ่งกว่าคนไหนๆ ที่เคยพบพาน! หล่อนสวย มีเสน่ห์ และดูน่าท้าทาย เย้ายวนใจอย่างยิ่ง เสือผู้หญิงอย่างเขา ต้องการผู้หญิงคนไหน ก็ตะล่อมหลอกล่อได้ไม่ยากเย็น ทว่าหล่อนคนนี้ ทำความเยือกเย็นเขาเป็นศูนย์ พบหน้าครั้งแรก เขาก็ร้อนรุ่มปั่นป่วน จนแทบอยากจะกระโดดเข้าไปครอบครองร่างงาม ราวกับเสืออดอยาก เสียเดี๋ยวนั้นเลย ไม่มีใครดึงดูด และทรงพลังกับเขาเท่านี้!

    อินทราณี! คิดผิดเสียแล้วที่เป็นแฟนหมอนั่น ผมจะทำให้คุณยอมศิโรราบให้ผม ทั้งกาย และใจ!!”

    ก้องภพร้องเสียงกร้าวในลำคอ แค่นึกถึงใบหน้าหล่อน ก็เร่าร้อนจนต้องกระดกไวน์แดงเข้าปาก

    สวัสดีค่ะ มีคนบอกว่าคุณต้องการพบฉัน?”

    เสียงหวานดังแทรกอารมณ์พิศวาส หนุ่มใหญ่เงยหน้ามองอย่างหงุดหงิดที่ถูกขัดจังหวะ แต่แล้ว ภาพที่ปรากฏเบื้องหน้า ทำให้เขาลืมสาวสวยในมโนภาพไปครู่ใหญ่ทีเดียว

    หญิงสาวร่างโปร่งระหง อวบอิ่มเซ็กซี่ อยู่ในชุดเดรสยาวคล้องคอผ้าสแปนเด็กซ์สีแดงรัดรูป ใบหน้าสวยคม แววตาเจิดจ้า ริมฝีปากอิ่มเอิบ ผิวขาวเนียนสวย งดงามหมดจด ราวกับหลุดออกมาจากนิตยสารแฟชั่นชั้นหรู ดีกรีความร้อนแรงทะลุเกินร้อยองศา วัดได้จากหนุ่มใหญ่-เล็ก ในคอกเทลเลาจ์ ที่หันมาจ้องหล่อนตาถลน หล่อนคือ ยิหวานารี สุขจันทร์โฉม นางแบบชื่อดังของเมืองไทย ที่โกอินเตอร์อยู่ออสเตรเลียหลายปี และหล่อนคือ ธุระสำคัญของเขา ในการมาซิดนีย์ครั้งนี้

    อ้อ! คุณยิหวานารี ยินดีที่ได้พบ เชิญนั่งครับ

    เรียกยิหวาเฉยๆ ก็ได้ค่ะ ขอไวน์แดง

    หล่อนหันไปสั่งบริกร ก่อนจะนั่งลงตรงข้าม ทั้งสองสบตากัน ก้องภพรู้สึกซาบซ่าน คึกคักขึ้นมาอีกครั้ง

    คุณยิหวา ผมรู้มาว่า คุณเป็นนางแบบอันดับหนึ่งของที่นี่ ชื่อเสียงของคุณดังมาก ผมเองได้ติดตามผลงานของคุณอยู่บ่อยๆ รู้สึกชื่นชอบในรูปลักษณ์ และฝีมือของคุณมาก จึงขอนัดพบ เพื่อจะเจรจา...

    ว้าว! เข้าประเด็นเร็วจัง จะรีบไปไหนคะ?”

    จู่ๆ สาวเซ็กซี่ทรงอุณหภูมิสูง ก็แทรกขึ้นเสียงหวาน ยกขาไขว่ห้าง เอนตัวไปด้านหลังอย่างสบายๆ หยิบไวน์จากบริกรที่มาเสริฟ์ ขึ้นจิบ ดวงตาเหม่อลอย ไม่ได้มองเขา ก้องภพ กับหนุ่มหลายคน ถึงกับกลืนน้ำลาย

    อินทราณี แม้ดึงดูดแค่ไหน ยังน่าทะนุถนอมอยู่บ้าง แต่ยิหวานารีคนนี้ ให้เอาทั้งเมทิดา โศภิตา และแพรวพิลาสรวมกัน ดีกรีความร้อนแรงยังสูงไม่เท่าหล่อน เป็นผู้หญิงที่แปลก การแต่งตัวออกยั่ว ท่วงท่าก็ใช่ แต่กลับมีสง่าราศี ไว้ตัว ลึกลับ เข้าใจยากอย่างไรพิกล จากประสบการณ์ที่เจนจัด ก้องภพรู้ว่า หล่อนนั้นมีกลิ่นอายชวนคลั่งไคล้เรื่องกามา มากกว่าอินทราณี หรือผู้หญิงของเขา ร้อยเท่าพันทวี! เพียงแต่ อาจเป็นคนเอาแต่ใจ     

    ฮ่ะ ฮ่ะ ไม่รีบหรอกครับ ผมมีเวลาให้คุณทั้งคืนอยู่แล้ว คุณพอใจจะคุยตอนไหนเมื่อไหร่ ได้ทั้งนั้น

    ก้องภพรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจขึ้นมา หล่อนไม่เหมือนคนอื่น น่าท้าทายที่สุด ดาวยั่วระดับพระกาฬ!

    วิเศษจริง คุณใจดีอย่างนี้ ฉันต้องตอบแทนหน่อยแล้ว...

    หล่อนชนแก้วกับเขา ก่อนลุกจากที่นั่ง และทำสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง หล่อนเต้น! ต้องเรียกว่าร่ายรำ ลีลายวนยั่วสไตล์สาวนักเต้นระบำในผับบาร์ โยกย้ายส่ายสะโพก สะบัดผมปล่อยอารมณ์ เฉี่ยวตัวเขาไปมา ทั้งคล่องแคล่ว ปราดเปรียว และเซ็กซี่เกินลิมิตเข้ากับจังหวะเพลงเร็วภายในเลาจ์ หนุ่มๆ ในนั้นพากันจ้อง ปรบมือ และผิวปาก หล่อนเต้นยั่วเข้าหาทุกคน ก่อนจูงมือก้องภพให้ออกมาสนุกด้วยกัน ซึ่งก็ทำให้เขาแทบจะคลั่งตายไปเสียเดี๋ยวนั้น

    ขอบคุณนะคะ ที่มาส่ง...

    ยิหวานารีบอกเสียงหวาน ดวงตาหยาดเยิ้ม ก้องภพใช้สองมือยันประตูห้องพัก กักหล่อนไว้ ยื่นหน้าเข้ามา

    คืนนี้ผมมีความสุขมากเลย คุณสวย...และมีเสน่ห์มากที่สุด

    ฉันไม่ชอบตกเป็นเหยื่อคำหวานซ้ำซากเหมือนใคร เพราะฉันไม่ใช่ผู้หญิงพวกนั้น

    งั้น...ผมขอเปลี่ยนเป็น...สวยเร้าใจที่สุดในสามโลก...เซ็กซี่ที่สุดในปฐพี...

    เสียงกระซิบหวานแผ่ว พร้อมกับริมฝีปากเคลื่อนเข้าหาช้าๆ หญิงสาวเชิดหน้ารอ มือหนึ่งลูบไล้จากแผ่นท้องเลื่อนสู่หน้าอกกว้าง ก่อนจะผลักออกเบาๆ ขณะที่ริมฝีปากหนาเกือบได้ลิ้มชิมรสขนมหวานสีแดงสดนั้น

    ฉันเหนื่อยแล้วค่ะ เรื่องสัญญาคุยกันวันหลังนะคะ กุดไนท์!”

    ประตูปิดลง ขณะที่เขามัวตะลึงอยู่ ก่อนจะได้สติ เคาะประตูห้องเรียกหล่อนดังๆ แต่ได้ความเงียบตอบมา ก้องภพแทบจะถีบประตูห้องด้วยความโมโห นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ทำไมทำกับเขาอย่างนี้ ความคลั่งที่สะสมมากว่าชั่วโมง ไม่ได้ระเบิดสมใจ ทำให้เขาทั้งหงุดหงิด ทรมานที่สุด อยากจะเรียกหล่อนออกมาคุยให้รู้เรื่อง แต่นึกขึ้นได้ว่าไม่ควรทำให้เสียงาน อีกทั้งเพิ่งพบกันครั้งแรก เขาอาจจะใจร้อนเกินไป จึงต้องเดินจากไปอย่างหัวเสียสุดๆ

    ร้านพิงค์ จิวเวลรี่ ในห้างสรรพสินค้า กรุงเทพฯ

    สาวงามลูกครึ่งไทย - รัสเซีย ในชุดเดรสลูกไม้สีขาวทรงเอ็มไพร์ คลุมด้วยเสื้อแพรต่วนสีเนื้อแบบปิจาม่า นั่งถอนใจเบาๆ อยู่บนโต๊ะทำงาน เหม่อลอยคิดถึง ชายหนุ่มคนนั้น ที่ประทับตราตรึงในใจหล่อนเสมอมา

    จริงสินะ หล่อนแค่บังเอิญมาทำธุระที่เมืองไทย และบังเอิญ (ที่จริงก็ตั้งใจ) มาช่วยเพื่อนเฝ้าร้านในตอนบ่าย (เพื่อนไม่อยู่อีกตามเคย) ความบังเอิญแบบนี้ ต้องพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้น หากหวังจะได้เจอเขาอีก เพราะหล่อนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับตัวเขาเลยสักนิด

    โทรศัพท์มือถือดังขึ้น หญิงสาวกดรับ

    จ้ะ พิงค์ อะไรนะ ปิดร้านเลยหรือ อ๋อ จ้ะๆ ได้ ไม่เป็นไร แค่นี้เอง เดี๋ยวเราจัดการให้ จ้ะ แล้วเจอกัน

    เพื่อนสาวโทรมาบอกว่าปวดท้องกะทันหัน จึงกลับบ้านพักผ่อนแล้ว วานหล่อนช่วยปิดร้านให้ด้วย

    พิมพ์รมเยศคิดว่าดีเหมือนกัน หล่อนก็รู้สึกเบื่อหน่ายพวกลูกค้าชีกอเต็มทีแล้ว ดูเถอะ! ขณะที่หล่อนดึงประตูบานเหล็กเพื่อปิดร้าน พวกผู้ชายใจดี (แต่ประสงค์ร้าย) โผล่มากันเยอะแยะ อาสาช่วยปิดให้ หญิงสาวไม่ยอมให้ช่วย หล่อนไม่ใช่คุณหนูมือไม้อ่อน ต้องรอการปรนนิบัติจากใคร อีกอย่าง ไม่อยากข้องแวะเสวนากับคนพวกนี้ แม้หล่อนจะสวยขั้นเทพ แต่เวลาตีหน้าขรึม เย็นชา แผ่ออร่าอันน่าเกรงขามอยู่มากโข จนหนุ่มๆ แถวนั้นไม่หาญกล้ารุกต่อไป หญิงสาวถอนใจรำคาญ ขณะนั่งคุกเข่ายองๆ เพื่อล็อคประตูบานนั้นให้เสร็จสิ้น แต่เจ้ากรรม! รูกุญแจมันช่างฝืดสิ้นดี หล่อนใช้แรงบีบเค้นเท่าไหร่ ก็ไม่ยอมเข้าล็อค หงุดหงิดใจขึ้นมาอีก

    อย่าโหมขนาดนั้นเลย เดี๋ยวนิ้วหักกันพอดี มา...ผมช่วยดีกว่า!”

    เสียงเรียบๆ พร้อมกับร่างชายหนุ่มคนหนึ่งทรุดนั่งยองๆ ลงข้างหล่อน หญิงสาวเงยหน้า อ้าปากค้าง คุณ...!

    ครับ ผมเอง รูกุญแจคุณแก่มากเลยนะ หยอดน้ำมันบ้างรึเปล่านี่ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง ซื้อแม่กุญแจใหม่เถอะ ขืนมานั่งกดทุกวัน ได้เป็นโรคนิ้วล็อกกันพอดี

    ชายหนุ่มพึมพำ ขณะหยิบกุญแจจากมือหล่อน มาออกแรงกดใส่เข้าล็อคให้ ก่อนเงยหน้าขึ้นสบตา

    ตอนปิดร้าน คุณต้องมานั่งงัดแบบนี้ทุกวันหรือ ฝึกกำลังนิ้วมือรึไงกันครับ?”

    พิมพ์รมเยศไม่ตอบ หล่อนยังนิ่งตะลึงมองเขา หัวใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ เมื่อเขาลุกขึ้นยืน หล่อนค่อยคุมสติอยู่ ลุกตามด้วย แววตาเปล่งประกายปลาบปลื้มยินดี ปรากฏรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้า

    ขอบคุณนะคะ ไม่นึกว่าจะได้เจอคุณอีกครั้ง

    ประโยคท้าย แสนจะอ่อนหวาน และเบาหวิว หัวใจตามฟ้าถึงกับกระตุกวาบ

    ครับ ผม...บังเอิญผ่านมาพอดี...เอ่อ...ทำไมปิดร้านเร็วนักล่ะครับ?”

    ตามฟ้าพยายามบังคับตัวเองให้เป็นปกติ แม้ว่าใจเขาจะวอกแวก อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

    ...ปิดร้านเร็ว? พิมพ์รมเยศฉงน ก่อนจะเข้าใจ จริงสินะ เขาคงคิดว่าหล่อนเป็นเจ้าของร้าน

    อ๋อ พอดีฉันมีธุระน่ะค่ะ แล้ววันนี้ลูกค้าไม่เยอะเท่าไหร่ ว่าแต่...คุณแวะมาที่ร้านฉัน หรืออยากจะรับอัญมณีไปใส่อีกสักชิ้น แบบว่า...จิวเวลรี่ที่เหมาะกับคอนเซ็ปต์ของคุณ?”

    หล่อนสัพยอก โดยหยิบยกเหตุการณ์ที่พบกันครั้งแรก เหลือบมองข้อมือซ้ายของเขา พบนาฬิกาเฮอร์คิมเมอร์ ซึ่งหล่อนเป็นผู้เลือกให้ ถึงกับหน้าแดงระเรื่อ รู้สึกวาบหวามอิ่มเอิบ หัวใจพองโต ตามฟ้าหัวเราะขำๆ รอยยิ้มของเขายังน่าหลงใหลเหมือนเคย

    อันนั้นผมเลือกไปแล้วนี่ครับ คนๆ เดียวจะใส่อัญมณีเหมือนกันสองชิ้นได้อย่างไร เฉลยก็ได้ ผมไม่ได้บังเอิญผ่านมาหรอก เจาะจงมาหาคุณโดยเฉพาะ เอ่อ ตอนนี้คุณว่างไหมล่ะครับ เห็นว่ามีธุระ?”

    ให้เวลาคุณครึ่งชั่วโมง พอไหมคะ?”

    ยี่สิบนาทีก็พอครับ

    บนโต๊ะอาหาร... สองหนุ่มสาวสั่งเครื่องดื่มเบาๆ มาจิบ ขณะนั่งสนทนา

    ลืมแนะนำตัวไป ผม...ตามฟ้า เรืองฤทธิ์ธารันท์ครับ เป็นนักธุรกิจบริษัทจิวเวลรี่ เดอะไลท์

    ชายหนุ่มแนะนำตัวเองสั้นๆ หญิงสาวเลิกคิ้ว ครางออกมาอย่างคาดไม่ถึง

    นักธุรกิจจิวเวลรี่! มิน่าล่ะ ถึงรู้จักเฮอร์คิมเมอร์ ฉันสงสัยแต่แรกแล้ว ว่าคนธรรมดาไม่น่าจะเรียกชื่อถูก

    ขอโทษที่แนะนำตัวช้าไป แต่ที่เข้าไปซื้ออัญมณีร้านคุณน่ะ ไม่ได้ล้อเล่นนะ ผมได้ยินคุณตอบคำถามลูกค้า อดเลื่อมใสมิได้ รู้สึกว่าคุณจะรู้จักอัญมณีแบบจริงจัง ไม่ใช่แค่ผิวเผิน ผมก็เลยสนใจ อยากจะลองทดสอบ

    อ๋อ ที่แท้ก็เป็นการลองภูมิ ภูมิใจจัง แล้วจะบอกคะแนนสอบให้ฉันทราบไหมคะ?”

    หล่อนเอียงหน้าถามแบบหยอกๆ ยิ้มนิดๆ อย่างซุกซน ช่วยขับให้เสน่ห์ของหล่อนแพรวพราวยิ่งขึ้น

    เต็มร้อยเลยครับ คุณเป็นคนฉลาด ช่างสังเกต มีไหวพริบดีมากๆ ผมดีใจที่ได้รู้จักคุณนะครับ คุณพิงค์!”

    พิมพ์รมเยศเลิกคิ้วสูง ทวนคำ คุณพิงค์ ก่อนจะนึกได้ว่า เขาเข้าใจว่าหล่อนเป็นเจ้าของร้าน พิงค์ จิวเวลรี่ จึงเดาเอาเองว่าหล่อนน่าจะชื่อ พิงค์ อ้าปากจะอธิบาย แต่นึกขึ้นได้ว่า เขามีอุบายกับหล่อนก่อนในครั้งแรกที่เจอกัน จึงคิดจะแก้ลำคืน

    ขอบคุณค่ะ แต่นึกไม่ออกจริงๆ ว่านักธุรกิจจิวเวลรี่ผู้ยิ่งใหญ่อย่างคุณ จะมามีธุระอันใดกับพนักงานห้างต่ำต้อยคนนี้ได้?”

    ตามฟ้าขยับตัว และทำสีหน้าจริงจังขึ้น เสน่ห์ความเป็นชายที่ดูองอาจ เยือกเย็น สุขุมนุ่มลึก ปรากฏออกมา หญิงสาวฉงน ทำไมหล่อนสังเกตเขาไม่ออกตั้งแต่ทีแรกนะ ทั้งที่รัศมีความเป็นยอดคนของเขา มันโดดเด่นเจิดจรัสขนาดนี้ คนผู้นี้ไม่ธรรมดา

    ผม...ในฐานะของประธานบริษัทเดอะไลท์ อยากจะขอเชื้อเชิญคุณ ให้มาทำงานร่วมกัน!”

    เขาบอกอย่างรวบรัด ตรงไปตรงมาที่สุด พิมพ์รมเยศตะลึงไปวูบใหญ่ทีเดียว

    ผมชื่นชอบความสามารถของคุณ จริงอยู่ รู้จักคุณน้อยนัก แต่สังหรณ์ของผมบอกว่า คุณมีศักยภาพที่เหมาะสมจะทำงานใหญ่ ไม่ได้ดูถูกตำแหน่งของคุณนะ แต่คนเรารักความก้าวหน้า ถ้ามีทางเลือกที่ดีกว่า สามารถให้อนาคตที่มั่นคง ทั้งความสำเร็จ ชื่อเสียง เกียรติยศ หรือความสุข ที่ช่วยให้เติมเต็มชีวิตได้ ผมคิดว่า เดอะไลท์ เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณ เพราะที่นี่คือ สวรรค์ของคนรักจิวเวลรี่ เราเป็นบริษัทที่มีความครบเครื่อง จัดการธุรกิจทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง พนักงานมืออาชีพ และมีระดับ ผมชอบที่จะแสวงหาคนที่มีใจรักในอัญมณีมาร่วมงานด้วย เพราะสินค้าของเราไม่ใช่แค่วัตถุ แต่เป็นสิ่งสูงค่าที่ต้องเข้าใจ  

    บอสหนุ่มกล่าวคำเชิญชวน ด้วยน้ำเสียงราบเรียบกังวาน ทุ้มนุ่มแต่ทรงพลัง การนำเสนอ และเจรจา ประหนึ่งคุยกับนักธุรกิจด้วยกัน ซึ่งดูเป็นการยกย่อง ให้เกียรติหล่อนอย่างยิ่ง พิมพ์รมเยศถึงกับอึ้ง

    เขาเป็นผู้นำ...สมกับเป็นประธานบริษัทของแท้ บอสหนุ่มคนนี้ มีราศีแห่งความน่านิยมเลื่อมใสหลายด้าน ทั้งบุคลิกภาพ...สติปัญญา...วาทศิลป์...และความจริงใจ หล่อนสัมผัสได้ ที่ชัดเจนยิ่งกว่า คือ ความน่าลุ่มหลง!

    พิมพ์รมเยศนึกสงสัย... เคยมีคนไหนบ้างไหมนะ ที่ถูกเขาเชิญชวนแล้ว ปฏิเสธได้ลงคอ!

    เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจมากค่ะ เพียงแค่ได้ฟังจากปากคุณ ทั้งที่ยังไม่ได้เข้าทำงาน ฉันก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นพนักงานดีเด่นของบริษัทไปเสียแล้ว...

    หล่อนหยอกเย้าคำเชื้อเชิญของเขาอย่างน่ารัก รอยยิ้มแจ่มใส แววตาสื่อประกายรู้ทัน ตามฟ้าหัวเราะ

    ตอนนี้ คุณรู้สึกเหมือนเป็นพนักงานดีเด่น แต่เมื่อคุณทำงานไปสักพัก คุณจะรู้สึกเหมือนตัวเอง คือเจ้าของบริษัทส่วนหนึ่ง งานจะทำให้คุณรัก เพื่อนร่วมงานจะทำให้คุณสนุก แต่ผลสำเร็จจากงาน จะทำให้คุณปลาบปลื้ม ภาคภูมิใจ ราวกับได้รางวัลที่หนึ่ง ผมไม่ได้พูดเกินจริงเลย เพราะบรรยากาศของเดอะไลท์เป็นแบบนั้น

    ค่ะ ฉันเชื่อ แล้ว...การร่วมงานกับบอสใหญ่ของเดอะไลท์ จะทำให้ฉันรู้สึกอย่างไรล่ะคะ?”

    จู่ๆ คำถามที่เขาไม่คาดฝัน ก็ดังขึ้นจากปากสาวงามตรงหน้า หล่อนยิ้มมุมปาก เอียงหน้า แววตาเปล่งประกายวาววับอย่างท้าทาย ทำให้ชายหนุ่ม ผู้มีวาทศิลป์ไหลเรื่อยมาตลอด ถึงกับชะงัก อึ้งไปนิดหนึ่ง

    ดีที่บริกรสาวโผล่เข้ามาขัดจังหวะ ด้วยการนำเมนูเค้กสูตรเด็ดของร้านมานำเสนอ ทำให้ทั้งสองพักการเจรจาชั่วคราว หญิงสาวลอบเสียดาย แต่ก็ยังสั่งเค้กองุ่น ขณะที่เขาสั่งเค้กกาแฟ ด้วยท่าทีที่ปกติที่สุด จนหล่อนลอบนับถือในใจ

    การร่วมงานกับผม? อืม...ไม่รู้สินะ ผมก็ไม่อาจหยั่งรู้ได้ ว่าคุณจะรู้สึกอย่างไรกับผม แต่เท่าที่เคยแอบฟัง พวกพนักงานเขานินทาผมว่า บอสดุ! บอสโหด! บอสโคตรเข้ม...โคตรเขี้ยว...โคตรอะไร ต่อมิอะไรสารพัด ทำนองบ่นๆ เซ็งๆ น่ะ ถ้ามันเป็นเรื่องจริง คุณร่วมงานของผม ก็คงประมาณ เจ้านายเฮี้ยบ กับลูกน้องเก็บกด อะไรเทือกนั้นล่ะมั้ง ผมก็เดาเอานะ

    ตามฟ้าบอกหน้าตาเฉย พิมพ์รมเยศ สาวสงวนท่าที ถึงกับหลุดหัวเราะออกมาอย่างเปิดเผยเป็นครั้งแรก เป็นรอยยิ้มเต็มที่ ซึ่งชายหนุ่มเพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก ถึงกับจ้องตะลึง หญิงสาวพูดทั้งๆ ที่ขำตลกอยู่อย่างนั้น

    แย่แล้ว! ทำไมถึงมาตกม้าตายเอาตอนท้ายล่ะคะ คำตอบหลังนี่ นอกจากไม่มีอะไรดีแล้ว ยังมีแต่เรื่องติดลบทั้งนั้นเลยนะ อุตส่าห์โฆษณาบริษัทมาซะดิบดี ราวกับอยู่บนสวรรค์ชั้นเจ็ด บอสใหญ่ผู้กุมบังเหียน กลับเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาซะงั้น ทำไมเล่าคะ? ทำไมถึงไม่โปรโมทตัวเองให้เหมือนพระราชา ทั้งที่ฉันคิดว่า คุณเป็น!”

    หล่อนร่ายยาว ท่าทีที่สงบดูเชิงในตอนแรก เริ่มคึกคักมีชีวิตชีวามากขึ้น ตามฟ้าเพียงยิ้มขรึมๆ  

    ก็ผมไม่ใช่พระราชาตัวจริงนี่ครับ ผมเป็นแค่ผม... มนุษย์เดินดินธรรมดา ที่บังอาจเอื้อมไปเล่นของสูงอย่างอัญมณีเท่านั้น จิวเวลรี่ต่างหาก คือพระราชาของจริง เพราะมีทั้งความบริสุทธิ์ และคุณค่าอเนกอนันต์

    พิมพ์รมเยศนิ่งมองเขาอย่างตั้งใจ มันยากเหลือเกินที่จะควบคุมอารมณ์ ความรู้สึกที่ปั่นป่วนอยู่ภายในเวลานี้ เขา...ทำให้หล่อนประทับใจ...ซาบซึ้ง...ดื่มด่ำ...ขนาดนี้ เพียงแค่สองครั้งที่เจอได้อย่างไร?

    ขอบคุณ สำหรับคำเชิญของคุณนะคะ ฉันรู้สึกเป็นเกียรติ และเป็นโอกาสที่พิเศษสุดจริงๆ เพียงแต่ว่า... ตอนนี้ ฉันยังพอใจกับอาชีพที่ทำอยู่ ขอโทษนะคะ!”

    คำปฏิเสธง่ายๆ สร้างความประหลาดใจให้ตามฟ้าอยู่เหมือนกัน แต่เขาก็ยังยิ้ม  

    ไม่เป็นไรครับ ขอให้คุณจำไว้ว่า เดอะไลท์เปิดกว้างสำหรับคุณเสมอ ก็พอแล้ว

    เขายื่นนามบัตรสีทองให้หล่อน หญิงสาวรับมาด้วยความรู้สึกหวิวๆ มันเป็นก้าวที่หล่อนไม่เคยคาดคิดมาก่อน เป็นวันที่น่าเหลือเชื่อ และเป็นช่วงเวลาที่หล่อนคิดว่า คงไม่อาจลืมได้เลยนับจากนี้ต่อไป

     Chimpanzé 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×