ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศึกมนุษย์กลายพันธุ์ [E-Book]

    ลำดับตอนที่ #4 : ความหมายของเพื่อนแท้

    • อัปเดตล่าสุด 29 พ.ค. 61



    HQ I Am Number Four Wallpapers | File 281.79Kb


    ตูมม...ตูมม... เฟี้ยววว... เฟี้ยววว...

    สองหนุ่มไล่ฟัดกันไปทั่วโกดัง ทำข้าวของกระจัดกระจายเสียหาย ไม่ว่าณัฎฐ์ไปที่ไหน พิชญ์ก็ตามทันเสมอ ไม่เพียงแค่พลัง ทักษะการต่อสู้มือเปล่าที่ถูกฝึกฝนมา งัดออกมาซัดกันด้วย ...ตุบ...ตุบ...ตุบ... หมัด ขา เข่า ศอก มาเป็นชุด พิชญ์อายุ 17 ปีเท่ากัน แต่รูปร่างใหญ่ กำยำกว่ามาก พละกำลังจึงดีกว่า แถมเก่งวิชาบู๊ ณัฎฐ์แม้เป็นกัปตันทีมอินทรีดำ แต่ด้านการต่อสู้ยังเป็นรองเพื่อนร่วมทีม เขาไม่เชี่ยวชาญการฆ่า แค่อยู่ในระดับพอป้องกันตัว ยามนี้ ถูกโจมตีเป็นชุด ยกแรก เหมือนเขาถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียว แต่เมื่อเวลาผ่านไป หมัดของพิชญ์ วืด บ่อยขึ้น ความเร็วระหว่างของจริง กับ ของปลอม เริ่มเห็นความแตกต่าง ตอนแรก เหมือนสูสีทันกัน แต่ระดับของณัฎฐ์สูงเกินกว่าตัวพิชญ์จะหยั่งถึง ตำแหน่งซุปเปอร์ฮีโร่เบอร์ 1 ของโลก ไม่ได้มาเพราะจับสลาก เขาอาจไม่มีพลังจิตน่าตื่นตาตื่นใจเหมือนกฤษณ์ พลังหายตัวลึกลับน่าค้นหาเหมือนจิณณ์ พลังมหาศาลยิ่งใหญ่น่าเกรงขามเหมือนโมกข์... พลังเดอะแฟลช เป็นแค่ความเร็วแบบง่ายๆ ไม่หวือหวา ไม่ซับซ้อน ทว่า ไร้เทียมทานที่สุดในระดับที่เขาเป็นอยู่ ใกล้เคียงจะถึงเลเวล 7 มีแค่เขาคนเดียวในโลก สำหรับพิชญ์ที่อยู่เลเวล 4 แล้ว มันคือการก๊อปปี้ ที่ไม่มีทางเป็นไปได้! 

    "พอเถอะ" ณัฎฐ์หยุดบอก ปล่อยให้พิชญ์หายใจหอบ เหมือนแมววิ่งไล่จับหนู สุดท้ายก็ "แห้ว" "ฮึ่ม!" พิชญ์ยอมเสียสัตย์ไม่ยอมเสียหน้า ล้างอายด้วยการขี้โกง พลิกมือสาดพลังจิต (แอบซึมซับกฤษณ์มา) ยกร่างของณัฎฐ์ลอยขึ้น "อ๊ะ" ณัฎฐ์ไม่ทันตั้งหลัก ถูกยกขึ้นกลางอากาศ แล้วปลิวไปกระแทกผนังห้อง พิชญ์ตรึงเขาไว้ด้วยมือข้างเดียว มืออีกข้างดูดเหล็กสามง่ามลอยขึ้น!

    ณัฎฐ์ไม่หวีดร้อง ไม่ร้อนรน แม้รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นตามมา พิชญ์หน้ามืดแล้ว เขาบันดาลโทสะเกินกว่าจะฟังใคร เมื่อสามง่ามพุ่งมาหา ณัฎฐ์รวบรวมพลังในร่าง สะบัดหลุดการคร่ากุมตกลงมา เหล็กปักฉึกกลางผนัง พลังจิตของพิชญ์มีช่องโหว่จึงควบคุมเขาไม่อยู่ และก่อนที่พิชญ์จะได้ลงมือต่อไป...

    "อั๊กกก..." ร่างของพิชญ์ปลิวไปกระแทกผนังบ้าง และคราวนี้ เขารับรู้ได้ถึงพลังที่เหนือกว่าที่เขาก๊อปปี้มาก คนผู้นั้นไม่ต้องใช้มืออีกข้างดูดเหล็กสามง่าม แค่กระดิกปลายนิ้วก้อยจากมือที่ควบคุมเขาอยู่ ปลายง่ามอันแหลมคมก็ลอยมาจ่อที่คอหอย และไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่อาจกระดิกกระเดี้ยตัวได้เลย

    "กฤษณ์ อย่า!" ณัฎฐ์ร้อง หนุ่มเอสเปอร์นั่นเอง ที่โผล่มาขวางพิชญ์ไว้

    "ฉันไม่ยุ่ง ถ้าจะดวลกัน แต่ทำเกินกว่าเหตุ ปล่อยไว้ไม่ได้!" 

    รองหัวหน้าทีมอินทรีดำพูดเสียงกร้าว เขาแอบตามเพื่อนมา เพราะสังเกตเห็นตั้งแต่อยู่ในห้องเรียน เขาพลิกมือ เลื่อนง่ามเหล็กขึ้นไปจ่อใบหน้าของพิชญ์

    "กฤษณ์ เขาแค่ขาดสติไป" ณัฎฐ์ใจหายวาบ รีบขอร้องแทน

    "เมื่อกี้ เขาจะฆ่านาย"

    "อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น ให้โอกาสเขาเถอะ" ณัฎฐ์บอกด้วยความจริงใจ ไม่มีความอาฆาตแค้นต่ออีกฝ่ายเลย

    แต่กฤษณ์ไม่ยอมปล่อยง่ายๆ ความเลือดเย็นของเขามีไม่แพ้ใคร กฤษณ์เลื่อนง่ามอันแหลมคมเข้าใกล้ดวงตาของพิชญ์... ใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ... ไม่มีปฏิกิริยาหวั่นไหว หวาดกลัว จากเพื่อนสายโหด ไม่มีคำร้องขออ้อนวอนจากปาก แม้แต่ดวงตายังแข็งกร้าวไม่กะพริบ ทั้งที่ง่ามเขี่ยถึงขนตาแล้ว! ณัฎฐ์ทำหน้าหวาดเสียว ใจเต้นระทึก 

    ...ตุบ... ก่อนที่ร่างหมอนั่นจะตกลงมา คว่ำหน้ากระแทกพื้น ...เคร้ง... พร้อมกับเหล็กตกลงข้างๆ กฤษณ์สืบเท้าเข้ามายืนเหนือหัว พูดเย็นเยียบ 

    "นับถือความใจเด็ดนะ แต่จงจำใส่หัวไว้ พลังของนายมีไว้จัดการโรงเรียนอื่น ไม่ใช่เล่นงานพวกเรา อยากเข้าทีมอินทรีดำ หน้าที่คือซ้อม หาเรื่องระรานคนอื่น ไม่ได้ทำให้นายเป็นฮีโร่ และอีกข้อ ณัฎฐ์เป็นผู้นำของโรงเรียนนี้ ใครที่ไม่ให้ความเคารพต่อเขา เท่ากับเป็นศัตรูกับฉัน ไปกันเถอะ"

    ณัฎฐ์เดินตามหลังเพื่อนไป พิชญ์ค่อยๆ ยันกายลุกขึ้นมา ใบหน้าเครียดขรึมกักเก็บความแค้นไว้ "ย๊ากกกกก...!" ก่อนระเบิดมันออกมาด้วยเสียงร้อง







    บนสะพานริมแม่น้ำ ยามค่ำ แสงจันทร์สว่างไสว... 

    เพื่อนรักสองนายนั่งทอดรำพัน ข้างๆ มีขวดน้ำอัดลม และขนมขบเคี้ยว รถราแล่นผ่านไปมา แสงไฟจากบ้านเรือนฝั่งตรงข้ามสะท้อนลงบนสายน้ำ 

    "คิดถึงตอนสิบขวบ เราเคยมาวิ่งเล่นแถวนี้เนอะ" 

    ณัฎฐ์ทวนความหลัง แววตาฉายความสุข

    "อยากวิ่งอีกรึไง" กฤษณ์กระดกขวดน้ำดื่ม

    "โตแล้ว... รู้สึกเหนื่อยจังเลย" ณัฎฐ์ล้มตัวนอนแผ่หรา แขนรองหัว

    "อีกสามปีก็จบแล้ว ถึงตอนนั้น นายอาจบ่นเบื่อเพราะไม่มีอะไรทำ"

    "เราต้องอยู่แบบนี้ไปอีกสามปีเหรอ..." ณัฎฐ์พึมพำเหม่อลอย

    "หมอนั่นไม่เลิกตามนายแน่ ระวังตัวไว้หน่อยนะ จิ้งจอกมักเล่นลอบกัด" กฤษณ์ไม่เข้าใจความนัยที่เพื่อนพึมพำ บอกมาอย่างเป็นห่วง

    "เขาอาจจะเหมาะกับทีมอินทรีดำก็ได้" 

    "พูดอะไรของนาย?" กฤษณ์นึกว่าเพื่อนพูดเล่น เลยไม่ได้สนใจนัก

    "ไม่รู้สิ บางครั้ง ฉันก็รู้สึกเหมือน... ตัวเองเป็นแกะดำ!"

    "ว่าไรนะ?" กฤษณ์แกะซองขนม บังเอิญเสียงแตรรถดังพอดี ประโยคท้ายเขาเลยได้ยินไม่ถนัด

    "นี่ กฤษณ์... ถ้าวันนึง ฉันหายไปจากโลกนี้ ไม่สิ ถ้าวันนึง ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ กับนายอีกต่อไปแล้ว ทีมอินทรีดำจะเป็นยังไงเหรอ"

    ณัฎฐ์ยังคงนอนหงายมองฟ้า ดวงจันทร์วันนี้สวยสุกสกาว แต่ใจเขาเงียบเหงา และดำดิ่ง... จมลึกกับความเศร้าหมอง ที่ฝังลึกเกาะกินใจมาเนิ่นนานแล้ว

    "ทีมจะเป็นไงฉันไม่รู้หรอก แต่ฉัน...ไม่มีความสุขแน่ อย่าพูดแบบนี้อีกนะ นายก็รู้ พวกเราต้องอยู่ด้วยกัน เพราะที่นี่ คือ "ระดับ" ของพวกเรา... เอ้า อยากนอนใช่ไหม ได้ กินขนมอร่อยๆ แล้วนอนดูดาวกันดีกว่า วันนี้ปล่อยผี ไม่กลับบ้านสักวันก็ดีนะ ฮ่าฮ่าฮ่า"

    ยามอยู่ข้างนอก ซุปเปอร์ฮีโร่ที่ฝึกมาแบบหุ่นยนต์อย่างพวกเขา ก็ไม่แตกต่างอะไรกับวัยรุ่นธรรมดา ต้องการพักผ่อน ฟังเพลง ดูหนัง หัวเราะ สนุกสนาน พวกเขาถูกปฏิบัติเป็นชนชั้นพิเศษ ถูกให้เกียรติ ถูกยกย่อง ถูกคาดหวัง แต่ในชีวิตวัยรุ่น บางครั้ง พวกเขาไม่ต้องการอะไรมากกว่าเป็นตัวของตัวเอง

    ณัฎฐ์ยิ้มแล้วหลับตา ...มันจะดีแค่ไหนนะ ถ้าตื่นเช้ามา ไม่มีพลังพิเศษ ไม่มีภาระ ไม่มีหน้าที่ ไม่มีแรงกดดัน มีแต่อิสระ ทำทุกสิ่งทุกอย่างตามใจชอบ...
    109xgc
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×