ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เสือ ปะทะ สิงห์
กระทิงวิ่งตามพรานต่ายออกมาถึงชานเรือน
ชะงักกึกที่ขั้นบันได เมื่อบริเวณลานบ้านอันกว้างขวางของนายหญิงลั่นทมนั้น บัดนี้ คราคร่ำไปด้วยผู้คน รอบๆ ถูกห้อมล้อมด้วยชาวหมู่บ้านไพรพฤกษ์ ผู้แห่มามุงดูอาคันตุกะแปลกหน้า ส่วนตรงกลาง คือ มนุษย์ชาวเมืองที่เขาไม่รู้จักสองกลุ่มยืนในลักษณะประจันหน้ากัน คนในกลุ่มล้วนแต่งกายชุดยูนิฟอร์ม ทางขวา เป็นเครื่องแบบทหาร ทางซ้าย เป็นเครื่องแบบตำรวจ
ที่พรานต่ายแจ้งว่าอาวุธครบมือนั้นไม่เกินจริง พรานหนุ่มกวาดมองแวบเดียวก็เสียวถึงไขสันหลัง แปดกระบอกปืนสั้นหลายยี่ห้ออยู่ในมือผู้ติดตามทั้งสองฝ่าย ในลักษณะยืนถือส่องกัน! ส่วนอีกสองกระบอกนอนแน่นิ่งในรังซองข้างเอวของสองหัวหน้า
คงมีเพียงแต่ บุรุษวัยกลางคน หน้าตาดี แต่งตัวภูมิฐาน ที่ยืนอยู่ข้างๆ หัวหน้ากลุ่มชุดทหารผู้วัยเยาว์กว่า ที่มองผาดๆ ไม่พกพาอาวุธ และมีท่าทางลักษณะสุภาพเรียบร้อยมากกว่าคนทั้งกลุ่ม
ภายในอาณาบริเวณที่เป็นใจกลางชุมชนหมู่บ้านไพรพฤกษ์ ยามนี้ เงียบกริบ ราวกับเข็มตกสักเล่มคงได้ยิน...
"จะปล่อยให้หมู่บ้านนองเลือด เพราะนายเป็นต้นเหตุเหรอ"
เสียงเย็นชาและวางอำนาจ มาจากปากผู้นำฝ่ายตำรวจ สีหน้าเรียบเฉย บุคลิกเย่อหยิ่ง วัยสามสิบหก ติดดาวประดับยศ และป้ายชื่อพร้อม
"พลตำรวจตรี ฉัตรทิพย์ เปรมจินดา"
"ถ้าลูกน้องนายยิง ฉันก็ยิง"
เสียงโต้ตอบห้าวหาญ มาจากปากผู้นำฝ่ายทหาร วัยสามสิบสาม หน้าตาเกลี้ยงเกลา จัดว่าคมเข้ม เครื่องแบบทหารนั้นใช่ แต่ไม่ติดยศและป้ายชื่อ
"อดีต พันโท อิษฎา เรืองวิเศษ
สองหนุ่มประสานตากันเย็นเยียบ แผ่อุณหภูมิให้ร้อนเพราะประกายอำมหิต
"เฮ้... เฮ้... ทุกๆ ท่าน ใจเย็นๆ ก่อน อย่าเพิ่งมีเรื่องกันนะครับ มีอะไรค่อยพูดค่อยจากันได้ เอ่อ อย่าใช้ความรุนแรงกันเลยน๊าา... นี่ ตามผู้ใหญ่บ้านมาซิ"
พรานกระทิงที่ออกมาด้วยความห้าวจัด ฉุนกึกในทีแรกเมื่อเห็นอาคันตุกะแปลกหน้าบุกรุกหมู่บ้านอันแสนสุขของเขาด้วยอาวุธทำลายล้าง แต่เมื่อสังเกตท่าทางทั้งคู่คล้ายเป็นอริกัน จำต้องระงับความขุ่นเคืองใจไว้ก่อน ค่อยๆ ก้าวลงบันไดมา พร้อมชูสองมือขึ้น เกลี้ยกล่อมสียงอ่อน ส่งสัญญาณเป็นมิตรออกไป ก่อนที่ประโยคหลังจะกระซิบบอกหมูแดง เด็กสนิทของเขา หมูแดงรีบวิ่งออกจากฝูงชน ไปแจ้งข่าวแก่ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งตอนนี้ ไปเที่ยวยังหมู่บ้านข้างเคียง
"วางปืนลงก่อนไหม มีปัญหาอะไร เราเป็นคนกลางเคลียร์ให้ได้นะครับ"
กระทิงใจเด็ด สวมหัวใจสิงห์ เดินมายืนแทรกกลางระหว่างทั้งสองฝ่าย สองมือยังชูค้างอยู่ แต่เขาเป็นเด็กหนุ่ม อยู่ในหมู่บ้านมายี่สิบปี ไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ แน่นอนว่า ย่อมเกิดความเกรงกลัวอยู่เหมือนกัน แต่หนึ่งชีวิตข้างหลังของเขา มีความสำคัญยิ่งชีพ เขาต้องออกโรงปกป้องในฐานะลูกชายบุญธรรม เพื่อไม่ให้คนที่เขารัก รวมถึงผู้คนในหมู่บ้านเกิดอันตราย
ดูเหมือน เขาจะเบี่ยงเบนความสนใจได้ เมื่อสายตาทุกคู่เหลือบมองเขาแทน
"นาย คือ ผู้ใหญ่บ้านเหรอ" อิษฎาถามเสียงเรียบ
"หา? นี่... หน้าผมไม่แก่ขนาดนั้นมั้ง เพิ่งอายุยี่สิบเอ็ด จะเป็นผู้ใหญ่บ้านได้ไง" พรานกระทิงชี้หน้าตัวเอง ความรู้สึกมันทั้งขุ่นเคืองทั้งขบขัน
"ผู้ใหญ่บ้านอยู่ไหน ตามตัวเขาออกมา" ผู้การฉัตรทิพย์สั่งเสียงวางอำนาจ
"ผู้ใหญ่บ้านไม่อยู่ อยู่แต่รองผู้ใหญ่ ต้องการอะไร บอกกับฉันแทนได้"
นายหญิงลั่นทมปรากฎตัว
"แม่!" กระทิงร้องตกใจ
ลั่นทมมือเท้าสะเอว เดินนวยนาดลงบันไดมา พูดฉาดฉาน "แต่ฉันไม่คุยกับคนที่เสียมารยาท ถือปืนส่องหน้าผู้อื่นอยู่ได้ ถ้าท่านผู้การไม่สั่งคนของคุณถอยออกไปห้าก้าว แล้วเก็บกระบอกปืนซะ ก็ยิงสักที จะได้ไม่รกหูรกตา!"
วาจาห้าวหาญของหล่อน สร้างความสะดุดใจแก่พวกเหล่าคนเมือง มองหน้ากันเองเลิกลั่ก ฝ่ายผู้นำทั้งสองฝ่ายมองพิจารณาหล่อนราวกับหยั่งเชิง
"ทุกคนเก็บปืน" อดีตผู้พันสั่งเสียงเรียบ
"ถอยไปให้หมด" ผู้การฉัตรทิพย์สั่ง
เหล่าสมุนเบื้องหลัง ซึ่งแบ่งออกเป็นฝั่งละสี่คน ต่างก้าวถอยหลังออกมา แล้วเสียบอาวุธกลับข้างเอว
"อย่างนี้พอคุยกันได้ เชิญ" นายหญิงลั่นทมผายมือ แล้วเดินนำขึ้นบันไดไปก่อน
"ทุกคนรออยู่ที่นี่" บุรุษคนเมืองที่อาวุโสที่สุด บอกกับสมัครพรรคพวก ก่อนก้าวตามอิษฎาผู้เป็นนายขึ้นบันไดไป ตามมาด้วยผู้การฉัตรทิพย์
"ฝากดูแลทางนี้ด้วยนะ" พรานกระทิงตบบ่าพรานต่าย แล้วขึ้นบันไดปิดท้าย
"เชิญนั่ง กระทิงเสริฟน้ำด้วย"
พรานหนุ่มขึ้นมา ก็ถูกเรียกใช้ให้บริการแขก เขารับคำ รีบมารินน้ำวางบนโต๊ะ ข้างหน้าบุรุษผู้เป็นหัวหน้าทั้งสองคน ก่อนจะอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครสนใจ รุนย้ายรถเหล็กที่มี "ศพ" อย่างเงียบๆ ไปชิดตรงมุมห้อง ขยับฉากกั้นมาปิดไว้ ทั้งผู้การฉัตรทิพย์ และอดีตผู้พันอิษฎา ล้วนไม่ได้เหลือบมอง แต่ผู้ติดตามใกล้ชิดอัษฎาอย่าง สบชัย สุขรัตน์ ใช้หางตามองเงียบๆ ทว่า ก็ไม่ทักกระไร
กระทิงกลับมายืนข้างหลังแม่บุญธรรมของเขา โดยสบชัยก็ยืนอยู่ข้างหลังอิษฎา สองหนุ่มระดับหัวหน้ายังคงนั่งนิ่ง ไม่แตะน้ำเปล่า แม้ว่านั่งตรงข้ามกัน แต่สายตาและท่าทาง ยังบ่งบอกถึงความระแวดระวังและไม่ผ่อนคลาย
"ฉันชื่อ ลั่นทม... นี่ กระทิง ลูกบุญธรรมของฉัน ขอทราบเหตุผลการมาของพวกคุณด้วย" หญิงสาวเป็นฝ่ายเปิดฉาก ทำลายความเงียบ
"ที่ด้านนอก คุณเรียกผมว่า ผู้การ ไม่ใช่ว่ารู้จักผมหรอกหรือ" ฉัตรทิพย์ถามเสียงเย็นเยียบ
"เฮอะ ถึงฉันอายุมากกว่าคุณ แต่สายตาก็ยังไม่ฝ้าฟางนะ ทั้งเครื่องแบบ ปีกบนเสื้อ ป้ายตำแหน่ง ยศระดับพลตำรวจตรี ฉันนึกออกแต่ "ท่านผู้การ"
"ดูคุณจะรู้จักคนมาก ผิดไปจากชาวบ้านธรรมดา" อิษฎาเปรยนิ่มๆ ท่าทางเขาไม่ดุดัน เย็นชา เย่อหยิ่ง เหมือนฉัตรทิพย์ แต่ก็เป็นผู้ชายในลักษณะขรึม นิ่ง และอ่านยาก
ลั่นทมหันมามองเขา "ส่วนคุณ... แม้จะไม่ได้ติดปีก และบรรดาศักดิ์บนหน้าอก ราศีของทหารระดับสูงก็ยังทะลุเสื้อผ้าออกมา อายุน้อยๆ มีผู้ใต้บังคับบัญชา และกล้ามีเรื่องกับท่านผู้การ แปลว่า ไม่ใช่สารวัตรก็คงเป็นผู้พัน"
"คุณเป็นใครกันแน่!" สบชัยโพล่งขึ้น ลั่นทมตวัดสายตามองเขาแวบหนึ่งแล้วยิ้ม ยกน้ำจิบนิดหนึ่ง
"เอาล่ะ ถ้าหากพวกคุณมีธุระเจาะจงกับผู้ใหญ่บ้าน อีกสักครู่ เขาคงมาแล้ว ฉันเป็นแค่ผู้หญิงบ้านป่าคนนึง คงไม่คู่ควรเป็นคู่สนทนาของพวกคุณ เราจะทิ้งคุณไว้ตรงนี้ รอผู้ใหญ่บ้านมาก็แล้วกัน"
พูดจบก็ลุกขึ้นยืน เตรียมจะเดินผละมา ทั้งฉัตรทิพย์และอิษฎา ลุกพรวดพร้อมกัน ฉัตรทิพย์กางแขนขวางไว้ เมื่อลั่นทมจะเดินผ่านหน้าเขาออกไป
"ไม่จำเป็น หากคุณเป็นคนที่รู้เรื่องราวทั้งหมดของที่นี่ โดยเฉพาะ เรื่องที่นักท่องเที่ยวหลายคนถูกฆ่าตายอย่างลึกลับ คุณก็คือ บุคคลที่เราตามหา"
ลั่นทมสบตาผู้การนิ่ง ก่อนจะเอียงหน้ามาทางกระทิง ใช้สายตาส่งรหัสโดยไม่ต้องกล่าว กระทิงพยักหน้าอย่างรู้ใจ แล้วเดินออกจากห้องไป
เขาออกไป เพื่อบอกผู้ใหญ่บ้าน ให้รออยู่ข้างนอกก่อน...
"ผม อดีต พันโท อิษฎา เรืองวิเศษ ปัจจุบัน ประกอบธุรกิจส่วนตัว และนี่ สบชัย เป็นพ่อบ้าน และผู้ช่วยของผม สี่คนข้างนอก เป็นอดีตลูกน้องของผม"
อิษฎาเริ่มการแนะนำตัวก่อน เพื่อแสดงความจริงใจ
"ฉัตรทิพย์ เปรมจินดา ผู้บังคับการตำรวจจังหวัด"
ผู้การฉัตรทิพย์แนะนำตัวเองอย่างถือตัว
"โอเค วันนี้ หมู่บ้านไพรพฤกษ์ ได้รับเกียรติต้อนรับอดีต และผู้ยิ่งใหญ่ ในวงศ์เหล่าทัพ ฉัน ลั่นทม รองผู้ใหญ่บ้าน ขอต้อนรับ เชิญนั่งคุยกันเถอะ"
เมื่อทรุดนั่งลงอีกครั้ง บรรยากาศดูจะดีขึ้นหน่อย ไม่อึดอัดเหมือนตอนแรก
"ใครจะพูดก่อน?" หล่อนเปิดโอกาสให้ถาม
"ผมมาที่หมู่บ้านไพรพฤกษ์แห่งนี้ มีจุดประสงค์เดียวเท่านั้น คือ หาตัวน้องสาวที่หายสาบสูญไปในป่าโศก!" อิษฎาเปิดปากคนแรก
พรานกระทิงกลับเข้ามาพอดี พาใบหน้าแปลกใจมายืนข้างหลังแม่บุญธรรม
"ป่าโศกอยู่มานานนับร้อยปี ยังไม่เคยมีประวัติคนหายสาบสูญมาก่อนนะ"
"แต่น้องสาวผมเข้าไปในนั้นจริงๆ สองอาทิตย์แล้วที่เธอยังไม่กลับออกมา"
"ขอชื่อ กับ รูปถ่าย ของเธอหน่อย รู้ไหมว่าเธอใช้บริการพรานคนไหนของเรา"
อิษฎาเอียงหน้าไปทางพ่อบ้าน สบชัยล้วงกระเป๋า ส่งซองกระดาษให้เขา ชายหนุ่มวางบนโต๊ะ ใช้นิ้วดันไปให้ พลางพูด
"ผมมีแต่ประวัติและรูปถ่าย ส่วนเธอไปกับพรานคนไหนนั้น ผมไม่ทราบ เพราะเธอไม่ได้บอก อันที่จริง เธอแอบไปโดยผมไม่รู้"
"งั้นรู้ได้ยังไงว่าเข้าป่าโศกล่ะ" กระทิงโพล่งถาม
"รู้จากสมุดบันทึกของเธอ"
ลั่นทมเปิดซอง เลื่อนดูรูปถ่ายสีขนาดจิ๋วทีละภาพ กระทิงก้มหน้ามาดูด้วย แม้รู้ว่าตัวเองคงช่วยอะไรมากไม่ได้ เพราะเขาเข้าป่าไปก่อนหน้าผู้หญิงคนนี้
...หญิงสาวอายุประมาณยี่สิบต้นๆ หน้าตาจัดว่าสวย น่ารัก มีลักยิ้มสองข้างเป็นจุดเด่น ผิวขาวสะอาด ตัวเล็ก และค่อนข้างผอม ทุกรูปมีแต่รอยยิ้ม ราวกับเป็นคนที่มีอุปนิสัยร่าเริง สนุกสนาน แม้เห็นเพียงภาพถ่าย ยังรับรู้ได้ถึงพลังด้านบวก...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น