ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พายุกุหลาบ [E-Book]

    ลำดับตอนที่ #12 : ฉุดคร่า

    • อัปเดตล่าสุด 26 พ.ค. 64




    การมาเที่ยวสวนสนุกครั้งนี้ มีอะไรแปลกๆ สะดุดใจตามฟ้า แม้เขาจะใส่ผ้าพันคอที่ยอดรักมอบให้ในวันเกิด และตอบแทนกลับด้วยความรัก การดูแลเอาใจใส่หล่อนเต็มที่ บรรยากาศการเที่ยวกลับวังเวง ไม่ชื่นมื่นเหมือนที่หวัง อาการหญิงสาวดูแปลกไป

    เป็นอะไรครับ แองจี้ ดูคุณไม่ร่าเริงเลย?”

    เขาดักหญิงสาวไว้ก่อนจะไปเล่นเครื่องเล่นอันใหม่ เพราะทนกับสภาพอึดอัดแบบนี้อีกไม่ไหว แต่หญิงสาวปฏิเสธ

    ก่อนที่ผมจะเข้ามาในห้อง ยิหวานารีนั่งคุยกับคุณอยู่ เขาพูดอะไร?”

    ตามฟ้าเข้าประเด็น จ้องหล่อนนิ่งอย่างสำรวจอาการ อินทราณีสบตาเขา สีหน้าเรียบเฉย

    ทำไมถึงคิดว่า คำพูดของเขา ทำแองจี้เปลี่ยนไปล่ะคะ? หรือคุณรู้ว่า ในคำพูดนั้น มีสาระสำคัญอะไรตรงไหน?”

    เกรงว่าสาระสำคัญจะไม่มี มีก็แต่คำโกหกหลอกลวงปลิ้นปล้อนเจ้าเล่ห์ตอแหลน่ะสิ

    ตามฟ้าพูดห้วนๆ ขยี้จมูกอย่างหงุดหงิด หญิงสาวเลิกคิ้วสูง ซ่อนยิ้ม

    เอ๊ะ! จริงรึคะ? แองจี้ฟังเขาพูดอยู่ตั้งนาน ยังสังเกตพิรุธไม่ออกเลย ฟ้าเก่งจังนะคะ สงสัยจะคุ้นเคยกับคุณยิหวาบ่อย!”

    บอกแค่นั้น แล้วหันหลังจะเดินต่อ ชายหนุ่มคว้าข้อมือไว้ ดึงให้หันกลับมาอย่างสุภาพ โอบเอวหล่อนมาชิด

    แองจี้ อย่าพ่อแง่แม่งอนครับ ผมพาคุณมาเที่ยว อยากให้คุณมีความสุข เรามีเวลาอยู่ด้วยกันสั้นนัก ไม่ง่ายที่จะมีโอกาสอย่างนี้ ผมไม่อยากให้มีใคร หรืออะไรมาบั่นทอนเวลาแห่งความรัก ที่ควรจะเป็นความทรงจำอันงดงามของเรา กรุณาบอกผมเถอะ ว่าเขาพูดอะไรกับคุณ?”

    สำคัญมากหรือคะ ที่จะต้องรู้? ไม่กลัวที่จะรับฟัง?”

    ทำไมต้องกลัว? ผมไม่มีความลับดำมืด ที่ต้องปกปิดไว้อยู่แล้ว

    ก็ได้ค่ะ ที่จริงแองจี้ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ในเมื่อคุณถาม แองจี้ก็จะบอก เริ่มจาก แองจี้บอกเขาว่า คุณมีรักแท้ รักเดียวใจเดียว เขาถามว่าพิสูจน์ดีแล้วหรือ แองจี้ตอบว่า ค่อนข้างมั่นใจ เขาถามต่อว่า ถ้าแอบนอกกาย ไปมีสัมพันธ์กับคนอื่น จะยังถือว่า รักเดียวใจเดียวอยู่ไหม แองจี้ตอบว่า นอกใจในความหมายของแองจี้ คือการปันใจให้คนอื่น และมีสัมพันธ์ทางกายกับคนอื่นโดยตั้งใจ เขาพูดว่า ถ้าอย่างนั้น ตามฟ้าของคุณก็...

    หญิงสาวชะงัก ตามฟ้าจ้องเขม็ง ก็...อะไร?”

    จบแค่นั้นค่ะ เพราะคุณเดินเข้ามาพอดี

    ชายหนุ่มสำรวจดวงหน้างาม แล้วเป่าลมพรูออกจากปาก ส่ายหัวช้าๆ

    ผมนึกไม่ถึงเลย ว่าลับหลังผมจะมีการพูดเรื่องอะไรทำนองนี้?”

    เขาเป็นคนเริ่มก่อนนะคะ แองจี้แค่ตอบตามมารยาท

    แล้วยังไงครับ? คุณข้องใจอะไร?”

    แองจี้ก็แค่สงสัยว่า ประโยคที่เขาจะพูดต่อไป คืออะไร? น่าเสียดาย ที่เขาไม่มีโอกาสพูดจนจบ

    อินทราณีบอกด้วยใบหน้าเรียบเฉยมาก เหมือนพูดเรื่องทั่วๆ ไปทีเดียว แม้แต่ตามฟ้า ผู้อ่านใจคนได้เก่งที่สุด ยังอ่านความรู้สึกของสาวคนรักไม่ออก ขมวดคิ้วเรียวเข้มนิดหนึ่ง พูดช้าๆ ว่า

    ถ้าประโยคต่อไป คือ ตามฟ้าของคุณก็เข้าข่าย คุณจะว่ายังไงครับ?”

    ก็ไม่ว่ายังไงค่ะ คงขอให้เขาพูดจนจบ และเล่ารายละเอียดทุกซอกมุมให้ฟัง ด้วยความสนอกสนใจอย่างยิ่ง

    หญิงสาวบอกหน้าตาเฉย ตามฟ้าอึ้ง น้ำเสียงเริ่มเครียดขึ้น

    ขอบคุณครับที่บอกผม ไม่งั้น ผมคงจะถูกเข้าใจผิดเป็นแน่!”

    ก็ยังไม่มีใครเข้าใจอะไรผิดนี่คะ แค่ผู้หญิงคุยกันธรรมดา

    ก็เกือบแล้วล่ะครับ แค่นี้ก็ทำให้คุณกรุ่นๆ มึนตึงกับผมได้ครึ่งค่อนวันแล้ว ขืนผมประชุมนานกว่านี้ อาจถึงกู่ไม่กลับเลยทีเดียว ถามจริงเถอะ คุณเชื่อเรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นพูด หรือที่กำลังจะพูด เกี่ยวกับตัวผมหรือ?”

    เปล่าค่ะ เขายังไม่ได้พูดในทำนองให้แองจี้เชื่ออะไรนี่คะ เขาแค่เกริ่น...เล่า...หรือเปรยเฉยๆ

    ตามฟ้าถอนใจหนักหน่วง เขาโกรธการกระทำของยิหวานารี แต่กังวลกับอาการหึงเงียบ แง่งอนแบบเย็นชาของหญิงสาวมากกว่า อินทราณีเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองสูง หล่อนจะไม่แสดงอารมณ์โจ่งแจ้ง หากมีเรื่องในใจ โดยเฉพาะเรื่องผู้หญิงของเขา เคยมีสาวเข้าหาตามฟ้าที่ซิดนีย์ และหล่อนก็ประชดประชัน กะบึงกะบอนงอนงาม เป็นการโต้ตอบ แต่ครั้งนี้ต่างออกไป หล่อนดูเยือกเย็น และนิ่งมากขึ้น ซึ่งนั่นแหละที่น่ากลัว แปลว่า คำพูดของนางแบบสาว มีอิทธิพลกับใจหล่อนพอควรเลยทีเดียว

    แองจี้ครับ ผมไม่รู้ว่าคุณคิดยังไงกับผู้หญิงคนนี้ แต่ผมขอยืนยัน ด้วยเกียรติของลูกผู้ชาย ถ้าคุณยังเชื่อถือ ผมไม่เคยมีอะไรกับยิหวานารี ไม่ว่าจะทางกาย หรือทางใจ ไม่ว่าจะในอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ผมไม่มีความคิดจะยุ่งกับผู้หญิงคนนี้ ผมไม่สนเขามีเจตนาอะไร แต่ถ้ามันกระทบถึงคุณ และความรักของเรา ผมปล่อยเฉยไม่ได้ และขอให้เข้าใจด้วยว่า นี่ไม่ใช่การแก้ตัว

    อาการเป็นห่วง กับอาการร้อนตัว มันคั่นไว้ด้วยเส้นบางๆ เท่านั้นนะ...

    หญิงสาวเอ่ยลอยๆ ตามฟ้าใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม แต่แล้วกลับสดใส แช่มชื่นขึ้น เมื่อได้ยินต่อมา

    แต่แองจี้ก็ฉลาดพอจะดูออกว่า ตามฟ้าเป็นห่วงแองจี้จากใจจริง ไม่ใช่ร้อนตัวค่ะ!”

    ตามฟ้าที่หัวใจกำลังถูกบีบ เหมือนมีคนมาเป่าให้มันพองโตขึ้นกว่าเดิม ร้องออกมาอย่างลิงโลด โผเข้ากอดยอดรัก

    แองจี้ ผมดีใจจริงๆ ที่คุณเชื่อผม รู้ไหม? ผมเป็นห่วงคุณเหลือเกิน กลัวคุณจะเข้าใจผิดผม ไม่เชื่อผม

    อินทราณีกอดตอบเขาอย่างมีความสุข ยิ้มปลาบปลื้มใจ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างภายในใจหล่อน...คลี่คลายแล้ว

    แองจี้จะเชื่อคนที่เพิ่งคุยกันได้ไม่ถึงสิบนาที มากกว่าคนที่คบกันมาสี่ปีได้อย่างไรคะ แองจี้แกล้งฟ้าเล่นเท่านั้น

    ร้ายจริง รู้ไหม? ทำผมใจหายแค่ไหน แบบนี้ต้องทำโทษ!”

    เขาอุ้มร่างหญิงสาวขึ้นพาดบ่า แล้วหมุนไปรอบๆ  อินทราณีร้องกรี๊ด ทุบหลังเขาเบาๆ อย่างหวาดเสียว ก่อนที่ชายหนุ่มจะช้อนหล่อนไว้ในอ้อมแขนนุ่มนวล ก้มจูบที่ริมฝีปากอิ่มสวยอย่างดูดดื่ม หล่อนใช้แขนคล้องคอเขาไว้ ใช้โทษให้แก่เขาอย่างสาสม


    ว่าไงนะ แฟนของมาร์ติน อินทราณีน่ะหรือ มากรุงเทพฯ?”

    ก้องภพร้องอย่างไม่เชื่อหู แต่พอได้ฟังคำยืนยันจากปลายสาย ซึ่งเป็นนักสืบที่เขาจ้างไปสะกดรอยตามฟ้า คอยแอบเก็บภาพเขากับผู้หญิงที่อยู่ด้วยกัน ก็เกิดความริษยาจับจิต อารมณ์หงุดหงิดขุ่นมัวทันที กระแทกโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ ผุดลุกขึ้นยืน เที่ยวเดินพล่าน ลุกลี้ลุกลนอยู่ไม่เป็นสุข ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ กดโทรศัพท์อีกครั้ง แล้วกรอกเสียงห้าวลงไป

    เฮ้ย! ไอ้สิงห์เหรอ ฉันมีงานสำคัญอยากให้ลูกน้องแก่ช่วยหน่อยว่ะ ขอยืมคนสักสี่ห้าคนสิ!”

    เมื่อได้รับการตอบตกลงจากหัวหน้ามาเฟียแล้ว ก้องภพก็ปิดมือถือ ยิ้มเหี้ยมเกรียม


    ลมแรงจัง ท้องฟ้าเริ่มจะครึ้มแล้วนะคะนี่ เพิ่งบ่ายสองโมงเท่านั้นเอง

    อินทราณีพึมพำ หล่อนนั่งดูดน้ำมะพร้าวอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบริมทะเล ลมแรงที่พัดมา ทำเอาหมวกผ้าไหมลายดอกไม้ที่สวมอยู่เกือบปลิว ต้องรีบจับเอาไว้ ตามฟ้าใส่แว่นดำเอนตัวนอนบนเก้าอี้อย่างสบายอารมณ์ กำลังดื่มน้ำมะพร้าวเช่นกัน เงยหน้ามองท้องฟ้า

    พายุจะเข้าอีกรอบกระมัง ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ถ้าฝนเทลงมา เราก็ไปนั่งหลบในร้านอาหาร

    แองจี้ ขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ

    ชายหนุ่มมองหญิงสาวเดินจนลับสายตาไป เขาหลับตา ฟังเสียงลม และคลื่นซัดหาดอย่างแสนสุข วันนี้เขาพาหล่อนมาพักผ่อนชายทะเล เลือกมุมที่เงียบสงบ และเป็นส่วนตัวที่สุด ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวเกาะ แต่มีพายุ คลื่นแรงแต่เช้า จึงไม่ได้ไป

    กรี๊ด!! ฟ้าคะ ช่วยด้วย ปล่อยนะ บอกให้ปล่อย!!”

    เสียงกรีดร้องดังสะท้านในความเงียบ ตามฟ้าที่กำลังเคลิ้มหลับ สะดุ้งสุดตัว ลุกพรวดขึ้นยืน ภาพที่เห็นเบื้องหน้าห่างออกไปไม่ไกลเท่าไหร่ แทบทำให้เขาช็อก ชายฉกรรจ์ตัวใหญ่ 4 คน กำลังฉุกกระชากลากถูอินทราณียอดรักของเขาลงไปในทะเล!

    เฮ้ย! แองจี้!”

    แรงทั้งหมดที่มี พุ่งถลาไปสุดตัว แต่ก็ยังไม่เร็วพอ อินทราณีถูกพวกมันจับขึ้นเรือยอร์ชไปแล้ว ตามฟ้าร้องก้อง ลุยฝ่าคลื่นทะเลไปอย่างไม่ยั้งคิด จนกระทั่งได้ยินเสียงเครื่องยนต์ แล้วเรือลำนั้นก็แล่นจากไปด้วยความเร็วสูง ทิ้งไว้แต่เสียงหัวเราะเย้ยหยัน

    ฮ่า ฮ่า...ขอน้องสาวคนสวยไปเชยชมสักคืนสองคืนนะ เดี๋ยวพามาคืน!!”

    เสียงตะโกนนั้นราวอสนีบาตฟาดผ่ากลางใจเขา ตามฟ้าตะโกนก้องสุดเสียง

    ไม่! ปล่อยเธอนะ กลับมา!”

    ตามฟ้าเห็นเจ็ทสกีของใครมิทราบลอยนิ่งอยู่ ไม่รอช้า สตาร์ทกุญแจที่เสียบคาไว้ บิดสุดแรงเกิด พุ่งออกไปยังกะจรวด

    บนเรือ อินทราณีกำลังต่อสู้ป้องกันตัวเองสุดฤทธิ์ จากมือหยาบหนาของผู้ชายทั้ง 3 คน ที่พยายามแตะต้องล่วงเกิน คนที่ 4 ที่เหมือนเป็นหัวหน้า หันมาตวาดห้าม สั่งให้ต้อนหล่อนไปที่มุมเรือ พวกที่เหลือจึงหยุดจู่โจมลวนลามหล่อน

    พวกแกต้องการอะไร? ทำแบบนี้ไม่เป็นผลดีหรอกนะ ถ้าตามฟ้าจับได้ พวกแกไม่รอดแน่

    หญิงสาวขู่อย่างมิเกรงกลัว ตัวหัวหน้าหันมาหัวเราะเหี้ยมๆ จ้องหล่อนอย่างทึ่งในความสวยมิน้อย

    นิ่งๆ เถอะจ้ะ คนสวย เดี๋ยวก็รู้ว่าใครกันแน่ ที่จะไม่รอด

    เสียงฟ้าร้องคำราม แทรกเสียงหัวเราะของพวกลูกสมุน ลมกรรโชกแรงขึ้น เมื่อเรือลอยห่างจากฝั่งมากขึ้นทุกที ก้อนเมฆที่ก่อตัวเป็นเงาทะมึนสีดำมาพักใหญ่ เริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาปกปิดน่านฟ้าแถวนั้นจนหมด สภาพโดยรอบจึงมืดครึ้มราวกับหกโมงเย็น

    ฟ้า!...

    อินทราณีถลาไปที่กราบเรือ มองเห็นชายคนรักอยู่ลิบๆ กำลังบังคับเจ็ทสกีฝ่าคลื่นที่สูงขึ้นทุกที คลื่นใหญ่ลูกแล้วลูกเล่าเข้าซัดถาโถมจนต้องหักหลบ เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา แถมบางครั้งก็มุ่งหน้าบุกตะลุยเข้ามาอย่างบ้าบิ่น ไม่กลัวตาย!

    ฟ้า...อย่ามา...พายุมาแล้ว...อันตราย...กลับไป!”

    หล่อนตะโกนสุดเสียง แข่งกับเสียงลมและเสียงคลื่น ให้หล่อนตกเป็นทาสพวกมันเสีย ดีกว่าเห็นเขาจมหายไปต่อหน้า แล้วต้องใจหายวาบ เมื่อสายฝนกระหน่ำโปรยปรายลงมาราวกับฟ้ารั่ว เหมือนสวรรค์จงใจกลั่นแกล้ง ซ้ำเติมสถานการณ์ที่เลวร้าย

    แม้เม็ดฝน และสายลมแรงจะซัดปะทะใบหน้า และดวงตาจนเจ็บชาไปหมด ตามฟ้าก็มิหวาดหวั่น หรือสะทกสะท้าน เขาฝ่าคลื่นยักษ์ลูกแล้วลูกเล่า บังคับทิศทางอย่างคล่องแคล่ว รวดเร็วมั่นคง ตัวเปียกโชกด้วยน้ำเย็นจัด แต่ใจรุ่มร้อนดั่งถูกไฟแผดเผา

    ชิบหาย!” เขาร้องอย่างไม่อยากจะเชื่อ เจ็ทสกีที่ขับมาน้ำมันหมด! ชายหนุ่มตัดสินใจอย่างไม่คิดถึงชีวิต กระโจนลงทะเล ว่ายน้ำอย่างทรหด ด้วยความเร็วสูงสุด ตรงไปยังเกาะร้างเบื้องหน้า ที่ซึ่งเรือยอร์ชจอดอยู่ ยังดีที่ระยะทางไม่ไกลนัก แต่กระแสคลื่นก็ทำเขาแทบกระอัก เกือบจมหายไปหลายครั้ง ดีที่ว่ายน้ำแข็งระดับประเทศ และหัวจิตหัวใจแข็งแกร่ง ห้าวหาญยิ่งนัก

    แองจี้...แองจี้...

    เขาตะโกนเรียก ได้ยินเสียงร้องของหญิงสาว ชายหนุ่มใจชื้นขึ้น วิ่งบุกตะลุยเข้าไปในป่ารกทึบ รอบด้านมีแต่ต้นไม้ใหญ่ และดินที่ชื้นแฉะ ฝนที่ตกหนักเมื่อครู่นี้ เปลี่ยนเป็นตกปรอยๆ ถึงกระนั้น ด้วยความรีบและร้อนใจ ทำให้เขาสะดุดตอไม้บ้าง ปะทะแง่งหินบ้าง ถูกกิ่งไม้บาดบ้าง ล้มลุกคลุกคลานจนร่างกายเปรอะเปื้อนดินโคลน สกปรกมอมแมมไปทั้งตัว ไม่หลงเหลือเค้าคุณชายลูกเศรษฐีแม้แต่น้อย แต่มีลักษณะของนักผจญภัย นักต่อสู้ที่กล้าหาญ เข้มแข็ง ไม่เกรงกลัวต่ออุปสรรคขวากหนาม ขึ้นมาแทน

    แองจี้... แองจี้... คุณอยู่ไหน... ตอบผมด้วย

    ฟ้าขา...ช่วยด้วย!”

    เสียงตอบกลับมา เหมือนเป็นยาเพิ่มพลัง ชายหนุ่มวิ่งลืมเจ็บ ลืมเหนื่อย ออกจากป่ารกทึบ ก็เผชิญกับเนินดินสูงลาดชัน ตั้งตระหง่านขวางทางอยู่เบื้องหน้า เสียงร้องทำให้เขาเงยหน้าขึ้น และพบว่า ผู้ชาย 4 คน คร่ากุมตัวอินทราณีอยู่บนยอดสูงสุดของเนิน

    เขาไม่ตะโกนตอบ เพราะกลัวพวกนั้นรู้ตัว ปีนป่ายเนินดินสูงชันอย่างเงียบกริบ ด้านขวานั้นเป็นเหวลึกน่าหวาดเสียว และด้านซ้ายก็เป็นป่าทึบที่เขาเพิ่งออกมา เขาไม่มีทางเลือก หากจะช่วยหล่อน เขาต้องปีนเนินนี้เท่านั้น

    ไม่! ฟ้าอย่าปีน อย่าขึ้นมา...อันตราย! กลับลงไป...

    อินทราณีกรีดร้อง เมื่อเห็นเขาอยู่ในสภาพล่อแหลม พวกนั้นต้องช่วยกันฉุดยื้อ รั้งร่างหล่อนที่ทำท่าจะถาโถมลงไป

    กรี๊ด! เสียงหวีดร้องแหลมดังก้อง เมื่อเห็นเขาเหยียบพลาด ลื่นไถลลงไป ดีแต่ว่ามืออีกข้างยึดจับชะง่อนหินเอาไว้ทัน!

    ฮ่ะ ฮ่ะ พยายามเข้านะ พระเอก พวกเราขอตัวไปหาความสุขกันก่อนล่ะ

    ปล่อยเธอ ไม่งั้น ฉันจะฆ่าพวกแกทุกคน!”

    ตามฟ้าตะโกน แต่พวกนั้นหัวเราะร่วน หญิงสาวเริ่มดิ้นรน ต่อสู้ ขัดขืนอีกครั้ง แต่พวกนั้นไม่กล้าลงมือหนัก ได้แต่ฉุดกระชากลากหล่อนให้ตามมา ตามฟ้ากัดริมฝีปาก เกาะเนินนิ่ง มือสั่นเพราะเริ่มล้า ขาก็เริ่มสิ้นไร้เรี่ยวแรง แหงนมองเนินข้างบน หัวใจเจ็บปวดราวกับฉีกขาด ไม่! ให้เขาตายเสียก่อน ต่อให้ต้องตาย เขาก็ต้องช่วยยอดดวงใจของเขาให้ได้!

    ปล่อยนะ! ปล่อยฉันสิ ไอ้สารเลว ดิรัจฉาน!”

    ฤทธิ์มากนักนังนี่ เดี๋ยวชกซะเลย

    เฮ้ย อย่าทำรุนแรง ค่อยๆ ลากไปสิ

    แรงเยอะเป็นบ้า บอกให้มานี่

    ขณะฉุดกระชากลากถูกันอยู่ เสียงเข้มก็ดังกังวานขึ้นเฉียบขาด 

    ปล่อยเธอ! ไม่งั้นพวกแก ตายเรียบ!!”

    ตามฟ้า!”

    อินทราณีร้องสุดเสียงอย่างดีใจ ตามฟ้ายกปืนส่องพวกนั้นนิ่ง สมุนมัน 3 คน ควักปืนออกมาจ่อใส่ทันที แต่หัวหน้ายังนิ่ง

    ปืนแกเปียกน้ำแล้ว ใช้ไม่ได้หรอก

    ปัง! เสียงคำรามของลูกตะกั่ว ทำให้พวกคนร้ายสะดุ้งเฮือก ตามฟ้ายกขึ้นส่องเล็งใบหน้าหัวหน้ากลุ่ม พูดเสียงกร้าว

    จะให้ลองดูกับใบหน้าแกก็ได้นะ ปล่อยเธอ! อย่าให้ฉันพูดอีกคำเดียว!”

    สมุนคนหนึ่งมือไว กดลั่นไก แต่ปืนด้านเพราะเปียกฝน ( ปืนสั้นสำหรับป้องกันตัวของตามฟ้า เขาเก็บไว้ในซองพิเศษข้างเอว พกติดตัวตลอด โดนน้ำก็ไม่เสียหาย ) อีกสองคนลั่นกระสุนตาม ก็ไม่ออกเช่นกัน คนอย่างตามฟ้า มีคติว่า เห็นคนลั่นกระสุนใส่เมื่อไหร่ ก็ปล่อยไว้ไม่ได้ เขายิงทันที เป้าหมายคือขาของพวกมัน ปกติ เขาคือนักยิงปืนชั้นยอด หากแต่การว่ายน้ำฝ่าพายุคลื่นอย่างหนัก บวกกับการปีนเนินเขาสูง ทำให้มือสั่น แขนล้า ยิงคลาดเคลื่อนไปโดนแขน โดนส่วนอื่นของพวกนั้นบ้าง แต่มันก็วิ่งหนี เอาตัวรอดเข้าป่าไปได้หมด เขาไม่ไล่ตาม เพราะเรี่ยวแรงไม่เหลืออีกแล้ว จับมืออินทราณี พาวิ่งกลับมาที่เรือยอร์ชของพวกมัน ขับจากไป


    ว่าไงนะ? ทำไมพลาด เรื่องง่ายๆ แค่นี้เอง?”

    ก้องภพตวาดอย่างโมโหใส่คนปลายสาย อะไรกัน สั่งพวกมันจับตัวอินทราณีไปขังไว้ที่เกาะ พวกมันกลับทำล้มเหลว

    พวกเราพยายามแล้วครับ นังนั่นมันฤทธิ์เยอะ เจ้าเล่ห์ แถมแฟนมันที่มาช่วย ก็เก่งมาก มันมีปืน ขณะที่ปืนพวกเราเปียกน้ำ ใช้ไม่ได้กันหมด ก็เลยต้องหนี พวกผมสองคน ถูกยิงบาดเจ็บเล็กน้อยด้วย

    ทำไมมันถึงไปที่เกาะได้ เจ็ทสกีที่เตรียมไว้ ให้มันไปค้างเติ่งอยู่กลางทะเลล่ะ?”

    มันก็ขับเจ็ทสกีคันนั้นแหละครับ น้ำมันหมดกลางทางจริงๆ สงสัยว่ามัน...จะว่ายน้ำมา

    ไอ้บ้า! ไม่ได้เรื่องเลย

    ก้องภพปิดมือถือ เขวี้ยงลงบนพื้นอย่างเจ็บใจ แผนการที่เขาจะได้เป็นพระเอกขี่ม้าขาวไปช่วยเจ้าหญิงมลายหายไปหมด เพราะความไม่เอาไหนของพวกนักเลงกระจอก และยิ่งแค้นใจ ที่กลายเป็นตามฟ้า ได้หน้า ได้คะแนนไปอีกเป็นกระบุงโกย

    ฉันไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่ ผู้หญิงของแก ฉันต้องเอามาให้หมด โดยเฉพาะ อินทราณี ต้องเป็นของฉันคนเดียว!”


     อินทราณีนอนส่ายหน้าไปมาอย่างกระสับกระส่าย พึมพำเสียงสั่นเครือ

    ...ฟ้าขา...อย่าตามมา...อันตราย...กลับไป...ไม่นะ...ฟ้า...อย่าเป็นอะไรนะ...อย่าตายนะ...ฟ้า!”

    หญิงสาวลุกพรวดขึ้นนั่ง ดวงตาเบิกกว้าง เหงื่อรินไหลท่วมตัว หัวใจเต้นแรง แสงตะวันยามเช้าลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา หล่อนยกมือลูบหน้า ถอนใจโล่งอกที่เป็นแค่ความฝัน หันไปมองข้างๆ ร่างพระเอกของหล่อนยังนอนนิ่งสงบอยู่ หล่อนก้มลงมองหน้าเขาใกล้ๆ เมื่อวาน หลังจากผจญศึกหนักมา กลับถึงโรงแรม เขาก็หลับเป็นตายเลย บาดแผลตามเนื้อตัวเขา ทำเอาหล่อนสงสารจับใจ อาศัยตอนเขาหลับ นวดยาให้ทุกส่วนสัดด้วยใจรัก และซาบซึ้งกินใจยิ่งนัก  วางมือเบาๆ ลงบนตำแหน่งหัวใจซีกซ้ายของทรวงอกที่เปลือยเปล่านั้น ก่อนจะแนบใบหน้าลงฟังเสียงจังหวะหัวใจเต้น พึมพำเบาๆ

    ชีวิตคุณ ให้แองจี้ได้ ชีวิตของแองจี้ ก็ให้คุณได้เช่นกัน จำไว้นะคะฟ้า แองจี้จะไม่มีวันทอดทิ้งคุณเด็ดขาด


    คุณอินทราณีคะ...

    หญิงสาวที่กำลังนั่งอ่านหนังสือเพลินหน้าโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนยิ้มให้

    คะ มีอะไรหรือคะ คุณมีนา?”

    ครีเอทีฟสาวยิ้มละมุน หล่อนรู้สึกว่ารอยยิ้มของหญิงสาวผู้นี้ช่างเรียบ แต่แฝงเสน่ห์ดึงดูดอย่างประหลาด

    บอสให้ฉันนำรายละเอียดของการถ่ายแบบในวันพรุ่งนี้มาให้คุณดูค่ะ และขอฟังความคิดเห็นจากคุณ ว่ามีข้อเสนอแนะ หรืออยากเพิ่มเติมอะไรรึเปล่า เชิญบอกได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ

    หล่อนยื่นแผ่นรายงานระเบียบการถ่ายแบบให้หญิงสาว แล้วนั่งลงข้างๆ อินทราณีเปิดอ่านดู ก่อนถามอย่างแปลกใจ

    ใช้อัญมณี 7 ชนิด เลยหรือคะ? แล้วยังแตกต่าง แบบไม่เหมือนกันเลยอีกด้วย แปลกจัง จะเข้ากันได้หรือคะ?”

    เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหาค่ะ ชื่อของอัญมณีอาจแตกต่าง แต่คุณสมบัติหนึ่งที่เหมือนกันทั้งหมด คือ เป็นตัวแทนแห่งความรักค่ะ จิวเวลรี่ที่ใช้ถ่ายแบบครั้งนี้ เป็นสัญลักษณ์ของความรักระหว่างคู่หนุ่มสาว ซึ่งได้เลือกมาให้เข้ากับคอนเซ็ปต์คู่รัก อย่าง...คุณตามฟ้า และคุณอินทราณี โดยเฉพาะ

    จะรังเกียจไหมคะ ถ้าฉันอยากจะทราบว่า ใครเป็นคนกำหนดอัญมณี?”

    นายแบบที่จะแสดงร่วมกับคุณค่ะ!”

    กนกเมทนีบอกอย่างไม่ปิดบัง อินทราณียิ้ม พนักหน้านิดหนึ่ง ยื่นรายงานกลับคืน

    ขอบคุณค่ะ ฉันพอใจแล้ว ตามนี้เลย... เข็มกลัดหงส์สวยดีนะคะ

    หญิงสาวเอ่ยทัก เข็มกลัดติดอกเสื้อด้านซ้ายรูปหงส์ตัวน้อย สีขาวใสกระจ่าง ที่ทำจากอัญมณี เซเลไนท์ ของกนกเมทนี

    อ้อ จริงสิ ยังไม่ได้ขอบคุณคุณเลย ที่ช่วยเลือกของฝากให้ เข็มกลัดชิ้นนี้ สวยถูกใจฉันมาก ขอบคุณนะคะ

    กนกเมทนีเอ่ยน้ำเสียงอ่อนโยน เรียบร้อย อินทราณีสบตานิ่ง แววตาของหล่อนเหมือนจะสำรวจหาพิรุธบางอย่าง

    ที่จริง ตามฟ้าจะเลือกแบบอื่น แต่ฉันถือวิสาสะเลือกให้ ถ้าเปลี่ยนเป็นกำไลคันไซต์ คุณคงชอบ และถูกใจมากกว่านี้

    ประโยคนั้น แสนธรรมดา สำหรับคนไม่คิดอะไร แต่กับกนกเมทนี ที่มีความลับในหัวใจ มันทำให้หล่อนอ่านรหัสถ้อยคำนั้นออกอย่างชัดเจน ถึงกับอึ้ง หัวใจกระตุกวูบ หลบสายตาแวบหนึ่ง มิได้รู้ตัวเลยว่า อากัปกริยาของหล่อนกำลังถูกดักหาพิรุธอยู่

    จะเป็นอย่างไหน ก็ไม่สำคัญหรอกค่ะ สำหรับฉัน คุณค่าของมัน อยู่ที่ความหมายของคนที่มอบให้มากกว่า ขอตัวนะคะ

    อินทราณีเม้มริมฝีปากนิดหนึ่ง ...ผู้หญิงแบบนี้สิ...น่ากลัวยิ่งกว่าดาวยั่วตัวแม่ อย่างยิหวานารีซะอีก! กุลสตรีตัวจริง!!


    กนกเมทนีตรวจเช็คความเรียบร้อยสตูดิโอถ่ายแบบ ฉากงามหรูหราเข้ากับคอนเซ็ปต์คู่รัก พื้นหลังหวานแหววถูกจัดเตรียมไว้มากมาย ประดับประดาด้วยดอกกุหลาบหลากสี ดอกทิวลิป เบิร์ดออฟพาราไดซ์ และดอกคาร์เนชั่นสลับสีกับยิบโซ่ ส่งกลิ่นหอมอบอวล เพราะเป็นดอกไม้สด ยังไม่รวมโคมไฟระย้ารูปหัวใจ และรูปปั้นกามเทพแผลงศร ที่ใช้เป็นเครื่องตกแต่งอย่างสวยงาม...งามซะจน กนกเมทนี ผู้เป็นฝ่ายจัดเตรียม และออกแบบด้วยตัวเอง ยังอดใจหายมิได้ หัวใจถูกบีบรัดอยู่หลายนาที

    ฉันจะไปดูนางแบบก่อน ช่วยตรวจเช็คความเรียบร้อยอีกทีนะ พร้อมแล้วให้คนไปบอกฉัน

    หล่อนสั่งพนักงาน ก่อนเดินไปยังห้องแต่งตัวพิเศษ ช่างแต่งหน้า-ทำผม ระดับมืออาชีพสามคน ยืนเรียงหน้ากระดานยิ้มๆ ก่อนจะขยับตัว เปิดทางให้เห็นบุคคลข้างในที่กำลังลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ หันหน้ามาช้าๆ  กนกเมทนีตกตะลึง

    อินทราณี ในชุดเดรสยาวเกาะอกผ้ากำมะหยี่ผูกโบว์ปล่อยจีบระบายเป็นริ้วๆ ผมสวยม้วนเป็นเกลียวคลายๆ รวบด้านบนขึ้นไปพันทบไว้เป็นช่อเล็กๆ ดูพองๆ กลัดด้วยกิ๊บขนสัตว์ประดับคริสตัล ดวงหน้านวลเนียนสว่างสดใส ขอบตาสีฟ้าประกายเงิน ริมฝีปากสีดอลล์ พิงค์ เปล่งประกายแวววาว แก้มอิ่มสีชมพูระเรื่ออมม่วง สวมคัตชูเปลือยนิ้วกำมะหยี่สีดำประดับหมุดเงินและคริสตัล

    กนกเมทนีสาบานได้ หล่อนเคยเห็นผู้หญิงสวยมามาก นางแบบของบริษัทก็สวยแบบหาตัวจับยากทุกคน ทว่า...เมื่อเทียบกับหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านี้แล้ว ช่างห่างกันราวกับ มนุษย์ธรรมดา กับ เทพธิดาชั้นดาวดึงส์! ยิหวานารีที่ว่างามเลิศที่สุด เจอหล่อนยังมิอาจเทียบรัศมี สิ่งที่กนกเมทนีสัมผัสได้ด้วยใจที่ปราศจากอคติ คือ อินทราณีสวยงดงามเปล่งประกายจากภายใน ขณะที่ยิหวานารีไม่มีเช่นนั้น หล่อน กับ นางแบบสาว ไม่มีความงามบริสุทธิ์เปี่ยมสง่าราศี ดั่งเช่น อินทราณี แคมป์เบลล์


    ตามฟ้า เรืองฤทธิ์ธารันท์ กลายสภาพจากประธานบริษัท ผู้เฉียบขาด และเคร่งขรึม มาเป็นนายแบบหนุ่มผู้หล่อเหลา คมคาย อ่อนหวาน และงามสง่าราวกับเจ้าชาย ในชุดสูทหูกระต่ายสีขาวล้วน เขาตื่นเต้น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ถ่ายแบบ แถมได้ถ่ายกับยอดรักคู่ใจ วินาทีที่ยืนรออยู่ในสตูฯ และร่างของนางฟ้าก้าวเข้ามา เหมือนโลกหยุดหมุน ความงามของหล่อนทำเขาลืมหายใจ หญิงสาวก็เช่นกัน อยู่ในอาการเคลิบเคลิ้ม หลงใหล ต้องมนต์เสน่ห์ จนก้าวขาแทบไม่ออก แววตาของเขาสะกดหล่อนให้เคลิ้มฝัน

    กระทั่ง พลอยสีม่วงรูปหัวใจ อันสวยสง่าน่าทึ่ง ประทับมาบนช่วงคอหล่อน หญิงสาวจึงรู้สึกตัว ก้มมอง และคลำจี้ชิ้นนั้น

    อเมทิสต์ หินที่นำพลังรักแท้ อัญมณีชิ้นแรกในวันนี้ เหมาะกับคุณเหลือเกิน สวยงามที่สุด

    ตามฟ้าพูดคล้ายละเมอ เครื่องประดับเข้าชุด ทั้งสร้อย แหวน กำไล ต่างหู ในคอลเล็กชั่นเดียวกัน ถูกใส่เข้ามาบนตัวนางแบบ และนายแบบ ( ฝ่ายชายจะเป็น แหวน และกำไล เท่านั้น ) ก่อนจะถูกจัดให้โพสท่าใกล้ชิดกัน ซึ่งตามฟ้าก็สั่งมาว่า ไม่ต้องกำหนด เขาอยากถ่ายแบบเป็นธรรมชาติกับหญิงสาว ในรูปแบบที่คิดขึ้นเองสดๆ เขากระซิบกระซาบข้างหูหญิงสาว และจัดท่าให้หล่อน หมุนไปหมุนมาราวกับตุ๊กตาเริงระบำ เรียกเสียงหัวเราะขำๆ ให้อินทราณี หล่อนทั้งอาย ทั้งตลก ผลักไสปัดป้อง กลายเป็นเปิดฉากทะเลาะย่อมๆ กัน เรียกรอยยิ้มให้ทีมงานทุกคน กว่าจะตกลงปลงใจกันได้ว่าเอาท่าไหน น้ำตาลก็แทบจะท่วมสตูดิโอ!

    กนกเมทนีปวดร้าวในทรวงอก ฝืนยิ้มให้เจ้านายที่หันมาสบตา จนกระทั่งเขาละสายตาไปให้ความสนใจกับสาวน้อยในอ้อมกอด เมื่อนั้นเอง หล่อนจึงค่อยๆ ก้าวถอยหลัง และปลีกตัวออกมาจากห้องอย่างเงียบงัน โดยไม่มีใครทันสังเกตเห็น

    จากอัญมณีอเมทิสต์ สู่...อัญมณีมูนสโตน ( ตัวแทนของความรัก ความอ่อนโยน และความสงบสุข ) ...ไข่มุก ( ความรักบริสุทธิ์ที่ยั่งยืน เป็นตำนาน ) ...ทับทิม ( สัญลักษณ์ของรักนิรันดร์ ) ...โรส ควอทซ์ ( นำมาซึ่งพลังแห่งความรัก ) ...ฟลูออไรท์ ( ตัวแทนของความรักอันบริสุทธิ์ ) และไพลิน ( สัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์ ตราบจนนิรันดร์ ) อัญมณีแห่งความรักทั้ง 7 ชนิด  ถูกนำมาเข้าฉาก ถ่ายไปยี่สิบเอ็ดภาพ  ตามฟ้าก็ขอให้ถ่ายภาพพิเศษ โดยให้อินทราณีสวมสร้อยพรีเชียสโอปอล และแหวนแบล็กโอปอลไว้ดังเดิม ( หล่อนใส่ติดตัวมากรุงเทพฯ ด้วย ) กระซิบแผ่วหวานที่ริมหูว่า

    วันนั้น เราถ่ายรูปกันที่ซิดนีย์ วันนี้ เราจะถ่ายรูปอัญมณีแห่งความรักของเราที่ดินแดนของเรา เมื่อภาพนี้ปรากฏออกไป ทุกคนในเมืองไทยจะได้รู้ และเลิกสงสัยกันเสียทีว่า ใครคือแฟนของ ตามฟ้า เรืองฤทธิ์ธารันท์ กันแน่

    อินทราณียิ้มหวาน วาบหวามมีความสุขยิ่งนัก หันไปหอมแก้มเขาเบาๆ กระซิบพูดบางอย่างริมหู ตามฟ้าหัวเราะกว้าง โอบร่างหล่อนเข้ามาชิด แล้วก้มหน้าประทับริมฝีปากเย้ายวนนั้นอย่างดูดดื่ม ไม่สนสายตาใคร เรียกเสียงครางจากทีมงานผู้หญิง

    กนกเมทนียืนตัวชา หัวใจแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ หยาดน้ำใสไหลซึมลงมาอย่างกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป

    ...ไม่น่าเลย...มิควรจะเอาตัวมารับงานนี้เลย...ทำให้เขามีความสุข...แต่ใจเราต้องบาดเจ็บ...มันคุ้มกันแล้วหรือ มีนา...!

    อนิจจา...เสียงหัวใจของหญิงสาวผู้อาภัพ มิอาจดังไปถึงหัวใจของชายหนุ่มแม้เพียงเศษเสี้ยว...

     Chimpanzé 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×