ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ราชามิวแทนด์เกม
ป่ารอบด้านสูงใหญ่ตั้งเป็นเงาทะมึน ความมืดมิดปกคลุมทั่วบริเวณ รัตติกาลยามนี้ ชวนขนลุก! มีสัตว์ป่าแตกตื่นวิ่งหนีกันโกลาหล เสียงย่ำเท้ากึกก้องราวปฐพีถล่ม เสียงกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด แสงวูบวาบหลากสีสว่างจ้า ปรากฎวูบแล้วดับหาย เสียงระเบิดกัมปนาทตามมา กองไฟลุกท่วมต้นไม้ใหญ่ส่งควันลอยขึ้นฟ้า ตึกร้างอาคารถูกแผดเผาจนมอดไหม้ นี่คือ สงคราม! อันน่าประหวั่นพรั่นพรึง สุดโหดที่สุด ระหว่างมนุษย์กลายพันธุ์ (Mutant) ด้วยกัน กับ อสุรกายพันธุ์ดุ สัตว์อสูรจากโลกดึกดำบรรพ์
มิวแทนด์วัยหนุ่มสามสิบกว่าคนกำลังโรมรันกับสัตว์ประหลาด รูปร่างใหญ่กว่าเสือ และหัวเป็นไดโนเสาร์ มิวแทนด์อีกสิบกว่าคนได้รับบาดเจ็บ วิ่งล้มตะเกียดตะกายหนีการตามล่า สิงโตเขี้ยวยาวที่ไม่ปรากฎมาก่อนในอาณาจักรมนุษย์ ยกพลมาเป็นฝูง โผล่ขึ้นบนเนินดิน เลเซอร์สีม่วงจากมิวแทนด์ตนหนึ่งพุ่งใส่ตัวหัวหน้ามันจนร่างระเบิด เศษชิ้นเนื้อกระจัดกระจาย พวกที่เหลือพากันแยกเขี้ยว ขู่คำราม แล้วพุ่งลงจากเนินมาพร้อมๆ กัน
บริเวณผืนไพรอันกว้างใหญ่ กลายเป็นสมรภูมิโชกเลือดทั้งของฝ่ายมนุษย์ด้วยกัน กับอสูรร้าย การต่อสู้เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย มองไม่เห็นชัดว่าใครเป็นใคร อาศัยเพียงแสงวูบวาบจากพลังของมิวแทนด์ ช่วยให้มองเห็นบริเวณพื้นที่เป็นครั้งคราว เมื่อแสงสีขาวสว่างวาบกลางท้องฟ้า เผยให้เห็นเด็กหนุ่มหน้าตาหมดจดคมคาย รูปร่างผอมเล็ก วัย 17 ปี ยืนตระหง่านอยู่บนชะง่อนหิน กวาดสายตาคมกริบมองสนามรบ ในมือของเขาถือปิรามิดแก้ว! ที่ส่องแสงวูบวาบตลอดเวลา เขาสวมชุดดำลายปีกอินทรี อันเป็นยูนิฟอร์มของทีม ใบหน้าที่ปกติอ่อนโยนน่ารัก ยามนี้ มีแววเคร่งขรึม จริงจัง
สิงโตเขี้ยวยักษ์ กระโจนพรวดลงมาจากเนินหินข้างๆ ในเสี้ยววินาทีที่แสงสีขาวปรากฎ จุดหมาย คือ ลำคอของเด็กหนุ่ม! ทว่า มันตะครุบความว่างเปล่า เด็กหนุ่มโผล่มายืนด้านหลังมิวแทนด์สามคน ซึ่งกำลังปะทะกับเสือร้าย
"ณัฎฐ์ เราต้องไปแล้ว" กฤษณ์ รองหัวหน้าทีมอินทรีดำ หันมาบอกเขา ก่อนจะยื่นมือเดียว สาดพลังจิตซัดร่างอสุรกายสามตัวปลิวกระแทกต้นไม้
"ไม่! ช่วยพวกเขาก่อน" ณัฎฐ์ หัวหน้าทีมอินทรีดำ บอก ก่อนใช้ความเร็วระดับเทียบเท่ากับแสง ดึงร่างเพื่อนรักหลบพลังของมิวแทนด์ตนอื่น
"ทิ้งเอาไว้ พาไปเป็นตัวถ่วง" ไวทย์ สมาชิกทีมอินทรีดำ ตะโกนมา แล้วปล่อยรังสีเอ็กซ์จากปลายนิ้ว ซัดใส่พวกมิวแทนด์ที่จู่โจมพวกเขา พลังของรังสี เข้าไปทำลายเนื้อเยื่อและกระดูก ก่อให้เกิดการเผาไหม้ภายในร่างกาย
"เขาเป็นตัวประกันของเรานะ" ณัฎฐ์ตะโกนก้อง ก่อนย้ายร่างมาปกป้องมนุษย์ธรรมดากลุ่มหนึ่งที่นั่งเกาะกลุ่มกันอยู่หลังก้อนหินใหญ่ สัตว์ประหลาดตัวหนึ่งกระโจนเข้าใส่ เขาคว้ากิ่งไม้แถวนั้นพุ่งหาด้วยความเร็วเสียบทะลุคอมัน
"จะหมดเวลาแล้ว" จิณณ์ สมาชิกทีมอินทรีดำ พลิกนาฬิกาข้อมือดู ร้องบอกเพื่อนๆ ตัวเขานั้นแวบมาแวบไปอย่างอิสระ ด้วยพลังเทเลพอร์ต (หายตัว)
"ให้ตายสิ มัวทำอะไรอยู่" โมกข์ สมาชิกทีมอินทรีดำ มาถึง กระชากคอเสื้อมิวแทนด์คู่ปรับ แล้วเหวี่ยงร่างมันออกไปไกลสุดกู่ ด้วยพลังมหาศาลของเขา
"ไปกันได้แล้ว" ทัพพ์ สมาชิกทีมอินทรีดำ ซึ่งมาพร้อมกันกับโมกข์ กลายร่างจากเสือกลับเป็นมนุษย์ปกติ อุ้งมือเขาโชกไปด้วยเลือด เพราะใช้กรงเล็บฉีกร่างอสูรร้ายไปมาก
"ไปก่อน ไม่ต้องห่วงฉัน" ณัฎฐ์ประกาศ เขาเป็นคนเดียวที่ยังปกป้องมนุษย์จากการโจมตีของสัตว์อสูร "ฝากด้วยนะ" แล้วโยนปิรามิดแก้วมาให้กับรองหัวหน้า กฤษณ์รับไว้ มองหน้าเขาอย่างลำบากใจ
"มาเถอะ ทุกคนจะปลอดภัย..." เมื่อเห็นเพื่อนร่วมทีมไปกันหมดแล้ว เขายื่นมือให้เด็กผู้ชายคนหนึ่งในกลุ่ม เมื่อสัมผัสถึงมืออันสั่นเทานั้น จึงยิ้มอ่อนโยน "ไม่ต้องกลัว หลับตา แล้วคิดถึงเรื่องดีๆ ไว้" ชั่วพริบตาเดียว ไม่ถึง 3 วินาที มนุษย์ตัวประกันทั้ง 6 คน ก็หายไปจากตรงนั้นจนหมดเกลี้ยง...
การส่งตัวประกันถึง "ที่ปลอดภัย" สำเร็จ แต่ด่านของเขายังไม่หมด กัปตันทีมอินทรีดำต้องเสียเวลากับการถูกรุมทั้งจากอสูรร้าย และมิวแทนด์ แม้เขาจะใช้ความเร็วระดับเหนือแสงวาร์ปมาถึงจุดกากบาทสีแดงทันเวลาในเสี้ยววิฯ แต่ก็โดนลูกหลงจากพลังของมิวแทนด์ตนหนึ่ง บาดหัวไหล่จนเป็นแผลโลหิตซึม กฤษณ์เป็นคนประคองเขาลุกขึ้นยืน
"สิ้นสุดระบบจำลอง ฮอลโลว์กราฟฟิก เลเวล 7... ประมวลผล สอบผ่าน 95 คะแนน"
เสียงผู้หญิงจากระบบอัตโนมัติดังขึ้น ก่อนที่ฉากสงครามกลางป่าจะค่อยๆ เลือนหายไป เผยให้เห็นห้องพื้นกระจกขนาดกว้างสีฟ้าใส เพดานลักษณะคล้ายโดม ที่ว่างเปล่าไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่เลย แม้แต่บาดแผลบนหัวไหล่ของณัฎฐ์ ก็สมานหายวับไปด้วย
มันคือ ด่านทดสอบ จำลองสถานการณ์เหมือนจริง จากศึกในมิวแทนด์เกม (มหกรรมการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษย์กลายพันธุ์) และที่นี่ คือ โรงเรียนพันธุ์ X สถานศึกษาอันดับหนึ่งของโลก และทีมอินทรีดำ เป็น "ราชามิวแทนด์เกม" พวกเขาเป็นแชมป์ 2 สมัย และสมาชิกทั้ง 6 คน ถูกจัดขึ้นทำเนียบ "ซุปเปอร์ฮีโร่" ของโลก เป็นที่เรียบร้อย เป็นฮีโร่ที่อายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ และติด 6 ใน 10 คน ถ้านับรวมนักเรียนจากโรงเรียนทั่วโลก
ทีมอินทรีดำทั้ง 6 คน ทยอยเดินออกจากประตูที่เลื่อนออก...
"นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่ฉันยอมพลาดคะแนนเต็มร้อย เพราะความใจอ่อนครั้งที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ของนาย"
หน้า "ห้องปฏิบัติการณ์สมมุติ" นั้น ทัพพ์หันมาโวยวายเสียงดังใส่ณัฎฐ์
"เราเกือบทำลายสถิติเดิม ถ้านายไม่ทำพลาดซะก่อน" โมกข์ยืนกอดอกว่า
"เอ่อ อันที่จริง ไม่ได้เรียกว่าพลาดนะครับ เราชนะเกมที่หนึ่งร้อยพอดี"
จิณณ์ หนุ่มรุ่นน้อง ที่เพิ่งเข้าทีมเมื่อปีที่แล้ว พยายามพูดผ่อนคลายความตึงเครียด
"โค้ชต้องการความสมบูรณ์แบบ คิดว่าเขาจะปลื้มกับผลงานของนายไหม นายทำแต้มได้เท่าไหร่? นายเร็วกว่าทุกคนในทีม กลับเป็นคนที่ถึงเส้นชัยช้าที่สุดเสมอ" ไวทย์พูดเสียงเข้มเหมือนคาดโทษ
"นอกจากช่วยตัวประกันแล้ว แม้แต่มิวแทนด์โรงเรียนอื่นก็ไม่เว้น เราเป็นนักกีฬานะ ไม่ใช่นักสังคมสงเคราะห์ นายจะอุทิศตนไปถึงไหน" ทัพพ์ว่า
บรรยากาศชวนอึดอัดขึ้นมา สายตาของทัพพ์ โมขก์ และไวทย์ บ่งบอกถึงความไม่พอใจแบบเดียวกัน ณัฎฐ์ยืนอึ้ง ความสะเทือนใจในอดีตผุดขึ้นมา
"เฮ้ เรื่องนี้ให้โค้ชเป็นคนพูดจะดีกว่าไหม ฉันเชื่อว่า ณัฎฐ์ทำดีที่สุดแล้ว"
กฤษณ์พูดเสียงเรียบแต่ทรงอำนาจ เหมือนปรามเพื่อนและสงบศึกไปในตัว
ไม่มีใครเถียงเขา หรือบางทีอาจขี้เกียจพูด โมกข์ ไวทย์ และทัพพ์ พากันเดินจากไปอย่างหน่ายๆ จิณณ์มองตามพวกรุ่นพี่แล้วเป่าลมจากปาก หันมาผงกหัวคำนับกัปตันและรองกัปตันทีม ก่อนจากไปบ้าง
"ขอโทษด้วย ที่ทำให้ทีมเสียสถิติ" ณัฎฐ์ก้มหน้ามองพื้น เอ่ยอย่างซึมๆ
"เหลวไหลน่า พวกนั้นก็แค่..." กฤษณ์จับไหล่ กำลังจะปลอบโยน
"ขอตัวก่อน..." แต่เพื่อนรักไม่อยู่ในอารมณ์จะรับฟังสิ่งใด เดินจากไปอย่างเงียบเหงา กฤษณ์มองตามเพื่อนจนลับตา ก่อนถอนหายใจออกมาเบาๆ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น