คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : ร้อนแรง
ซิดนีย์
ประเทศออสเตรเลีย...
อินทราณี
ใช้เวลาว่างจากการเรียน แวะมาเที่ยวชมงานแสดงเครื่องประดับอัญมณี
ซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ หล่อนเดินชมจิวเวลรี่ในตู้กระจกอย่างช้าๆ
เก็บรายระเอียด และซึมซับกับความวิจิตรงดงามของมัน มาสะดุดตาที่ตู้เครื่องปะดับชิ้นหนึ่ง
เป็นมงกุฎ รูปร่างประหลาด พื้นผิวมันเรียบเนียน ไม่มีสีกึ่งโปร่งใส
ขาวมันวาวคล้ายไข่มุก ลักษณะอ่อนหวาน ชวนลุ่มหลง ความรู้สึกเหมือนกำลังจ้องมองดวงจันทร์
“มูนสโตนครับ เป็นอัญมณีแห่งความรัก!”
เสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นข้างกาย
มาพร้อมกลิ่นน้ำหอมฉุนกึกที่ไม่น่าอภิรมย์สำหรับหญิงสาว หล่อนหันมา “คุณ...”
“ก้องภพครับ บังเอิญเจอกันอีกแล้วนะครับ นั่นคงเป็นเพราะ เรามีความชอบตรงกันในเรื่องจิวเวลรี่”
หนุ่มใหญ่ส่งสายตาหวาน
ใช้น้ำเสียงนุ่มที่สุด แต่สาวงามตรงหน้าขมวดคิ้ว จ้องเขา ก่อนเมินไป
“หรือคะ? คงจะไม่ใช่แค่เราหรอกค่ะ
เพราะคนนับร้อยที่นี่ ล้วนมีใจตรงกันทั้งนั้น”
“ชอบมุกดาหรือครับ? ผมเห็นคุณจ้องอยู่ตั้งนานแล้ว”
“ไม่มีใครปฏิเสธความงามอันน่าดึงดูดของมูนสโตนหรอกค่ะ”
“ดูคุณจะชำนาญเรื่องอัญมณีนะครับ คงมีอะไรพิเศษมากกว่าแค่ชอบปกติ”
“เปล่า ถ้าเรื่องจิวเวลรี่ ฉันยังแค่ระดับอนุบาล เพียงแต่ฉันมีครู...เป็นบรมครูทางศาสตร์นี้ก็ว่าได้”
หล่อนกอดอก
คุยกับเขาด้วยสีหน้าเรียบๆ อย่างไว้ตัว ก้องภพยิ้มเล็กน้อย
“แปลว่า สนใจทางด้านนี้อย่างจริงจังหรือครับ?”
“คงจะอย่างนั้น ขอตัวนะคะ”
“โอปอลที่คุณใส่ สวยมากเลยนะ แต่ไม่รู้ว่าคุณรู้เรื่องแปลกของมันรึเปล่า?”
หญิงสาวหันหลังจะเดินไปแล้ว
คำพูดนั้นทำให้หล่อนชะงัก หันกลับมาอีก จ้องเขาเป็นเครื่องหมายคำถาม
“โอปอล แม้จะเป็นหินนำความรัก และความสุขมาให้ แต่บางครั้ง พลังของมัน ก็สื่อถึงการโกหก
หรือความไม่จริงใจของเจ้าของ! ผมก็เลยไม่ชอบใส่
และไม่ชอบให้ใคร มันเหมือนเป็นตัวแทนของภาพลวงตา ความจอมปลอมน่ะครับ”
ก้องภพบอกยิ้มๆ
เรื่อยๆ เหมือนเล่าให้ฟัง อินทราณีจ้องเขาเขม็ง ก่อนจะยิ้มนิดหนึ่ง
“ขอบคุณนะคะ ที่ให้ความรู้ ฉันก็เคยได้ยินเรื่องแปลกมาเรื่องหนึ่งเหมือนกัน
ไม่รู้ว่าคุณเคยได้ยินไหม? สโมกกีย์ ควอทซ์
เป็นอัญมณีที่เพิ่มพลังทางจิตวิญญาณ แต่มักจูงจิตคนใส่ ให้หลุดเข้าไปสู่หลุมหมอกควันแห่งความลุ่มหลง
ครูของฉันสอนว่า คนจะใส่อัญมณีชนิดนี้ จิตใจต้องแข็งแกร่งและดีจริง มิเช่นนั้น อาจถูกกิเลสตัวเองครอบงำได้ง่ายๆ”
ทิ้งท้ายไว้ให้คิด
ก่อนจะเชิดหน้าเดินจากไป ก้องภพสะดุ้ง เอามือตะครุบจี้ สโมกกีย์ ควอทซ์
บนคออย่างลืมตัว รู้สึกแสบๆ คันๆ ที่หัวใจ หนอยแน่ะ! เจ้ามาร์ติน
ขนาดตัวไม่อยู่ ยังอุตส่าห์ส่งตัวแทนมาเย้ยเขาอีกหรือนี่!
แถมเป็นสาวงาม ที่เขาหมายตาไว้เสียด้วย ดูหล่อนไม่เพียงรู้จักอัญมณีมาก
ยังเป็นคนฉลาด เย่อหยิ่ง ระมัดระวังตัว คงเพราะครั้งแรกที่เจอกัน
เขาเผลอแสดงอาการมากไปหน่อย ทำให้ไก่ตื่น เห็นที ต้องรอบคอบ เยือกเย็น มากกว่านี้
อย่างไรเสีย...เขาก็ต้องได้อะไรจากหล่อน! ก่อนกลับกรุงเทพฯ
“ว้าว! สวยจัง อะไรคะนี่?”
ยิหวานารีอุทานอย่างตื่นเต้น
สนใจ ดวงตาเป็นประกายระยับ ขณะหยิบสร้อยคอออกมาจากกล่อง
“สร้อยมูนสโตนครับ เป็นอัญมณีนำความรัก และความสุข เหมาะกับผู้หญิงที่สวย
และมีเสน่ห์อย่างคุณ”
ก้องภพทอดตาหวานเชื่อม
หยอดคำหวาน รับสร้อยจากมือหล่อนมาสวมให้ หญิงสาวยิ้มหวานตอบแทน
“เนื่องในโอกาสอะไรคะ?”
“โอกาสที่เรารู้จักกันครั้งแรกไงครับ ผมรู้สึกเสียดาย
ว่าน่าจะพบคุณเร็วกว่านี้”
“ตอนนี้ก็ไม่สายหรอกค่ะ พบกันช้าเร็วไม่สำคัญ สำคัญว่า พบแล้วได้อะไร”
สุดยอดนางแบบของออสเตรเลีย
เล่นลิ้นหยอกเย้า ดวงตาเจ้าชู้ แพรวพราวซุกซนตลอดเวลาของหล่อน มันทำให้หนุ่มใหญ่เกือบหมดความอดทนเข้าไปทุกที
มองสาวงามหุ่นยวนกิเลส นั่งโยกซ้ายทีขวาที อย่างอยู่ไม่สุข ข้างกายบนโซฟานี้ ร่างก้องภพก็แทบจะลุกเป็นไฟแล้ว
เขาไม่เข้าใจตัวเองเลย ผ่านสังเวียนมาก็มาก ทำไมถึงรู้สึกคลั่งแบบหิวกระหายกับผู้หญิงตรงหน้าได้ขนาดนี้
อินทราณีก็ชวนคลั่ง แต่หล่อนยังมีบางมุมน่าค้นหา ต่างจากยิหวานารี
หล่อนเจ้าเสน่ห์เหลือเกิน ร้อนแรงที่สุดเท่าที่เคยเจอ! แต่เฉพาะในด้าน
“เพศ” อย่างเดียวเท่านั้น!
“ครับ พบแล้วได้อะไร คุณยิหวา อยากได้อะไรจากผมล่ะครับ?”
เขาทอดสะพานแบบไว้ตัว
นั่งไขว่ห้างนิ่ง จ้องหล่อนอย่างหยั่งเชิง ผู้หญิงหลายคนชอบเกมรุก เขาเชื่อว่า “เกมรุก” ของยิหวานารี ต้องสนุกกว่าใครทั้งหมด หล่อนเป็นนักล่าผู้เก่งฉกาจ
เขาอ่านออก ด้วยประสบการณ์
ร่างงามได้สัดส่วนลุกขึ้นยืนช้าๆ
สะกดเขาด้วยดวงตาคม ก้องภพวางขาในท่าปกติ เมื่อหล่อนเอนตัวลงมา ใช้แขนทั้งสองยันพนักโซฟาไว้ หัวเข่างามกดลงบนท่อนขา ยื่นหน้าเข้ามาช้าๆ
เสือผู้เจนจัดถึงกับใจเต้น พยายามข่มตัวเองให้นิ่งไว้
แต่เมื่อริมฝีปากอิ่มเอิบแนบเข้ามาสนิท เขาก็สุดต้านทานอีกต่อไป
บทจูบ...จากสองเสือผู้ชำนาญศึกเริ่มขึ้นอย่างน่าขนลุก หากแต่เสือหนุ่ม ผู้สยบเกมกามามาแล้วทั่วทิศ กลับต้องยอมศิโรราบให้กับเสือสาว ที่เป็นฝ่ายคุมเกมเหนือกว่าเขาได้อย่างน่าอัศจรรย์!
“ยิหวา...!” ก้องภพครางสั่น
ขณะถูกผลักให้กลับลงไปในนั่งบนโซฟา หอบหายใจอย่างเสียเชิง
“ใจเย็นสิคะ แบบนี้...ไม่สนุกเลย ยิหวาชอบคุณนะคะ แต่...ยิหวา
มีงานต้องรีบไปทำ เอาเป็นว่า เรื่องเซ็นสัญญา ไว้กลับถึงกรุงเทพฯ ก่อน ค่อยคุยกัน อาทิตย์หน้าเอง
รอไหวไหมคะ?”
“รอไม่ไหวแล้ว” เสียงร้องในหัวของก้องภพดังขึ้น
มันทรมานกว่าที่เขาคาดไว้ เขากำลังคลั่งเต็มที่
หล่อนกลับหยอกเย้าเขาหน้าตาเฉย เหมือนไฟติดเพียงนิดๆ เท่านั้น ก้องภพรู้สึกว่า
เขาจะเสียท่าต่อหน้าหล่อนไม่ได้ ในเมื่อหล่อนทนไหว และคิดจะเล่นเกมกับเขา เขาจะตามไปให้ถึงที่สุด
และสุดท้ายเขาจะต้องชนะ
“...ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ ฟ้า แองจี้ดูแลตัวเองอยู่แล้ว อ้อ! ใกล้จะถึงบ้านแล้ว เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะ”
อินทราณีวางสายจากคนรัก
เมื่อเดินใกล้จะถึงบ้าน เย็นนี้หล่อนออกไปจ่ายตลาดคนเดียว และใช้วิธีเดิน
เพราะอยากออกกำลังกาย แต่แล้วทันใดนั้นเอง ใครคนหนึ่งก็วิ่งมาจากด้านหลัง กระชาก “สร้อยพรีเชียสโอปอล” ของหล่อนอย่างแรง
จนหลุดจากลำคอ หญิงสาวเสียหลักล้มลงไปนั่งกับพื้น เห็นหนุ่มฝรั่งคนหนึ่งวิ่งหนีไปต่อหน้าต่อตา
พร้อมสร้อยในมือ ถึงกับร้องอุทานด้วยความตกใจ ลืมความกลัว ความเจ็บเสียสิ้น
วิ่งไล่ควบไปทันที โดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด พร้อมกับร้องตระโกนให้คนช่วยเป็นภาษาอังกฤษ
“หยุดนะ! ช่วยด้วย โจรขโมย ช่วยจับที...”
หญิงสาววิ่งตามอย่างไม่คิดชีวิต
ฉกกระเป๋า หรือสิ่งของใดจากตัวหล่อนไปไม่ว่าเลย แต่นั่น...คือ สิ่งล้ำค่าที่สุดสำหรับหล่อน...ของแทนใจจากเขา
สัญลักษณ์แห่งความรักของเรา จะปล่อยให้ถูกช่วงชิงไปไม่ได้เด็ดขาด
เงาหนึ่งวิ่งมาจากข้างหลัง
ตัดหน้าหล่อนไป ฝีเท้านั้นเร็วกว่า และไปทันโจรร้ายที่เบื้องหน้า หล่อนหยุดวิ่ง
หอบหายใจ ขณะมองภาพชายหนุ่มสองคนแลกหมัดกันนัวเนีย ก่อนที่เจ้าโจรนั้นจะยอมแพ้
แล้ววิ่งหนีไป
ชายหนุ่มผู้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
เดินนำสร้อยคอกลับมาให้หล่อน หญิงสาวรับมาด้วยมืออันสั่นเทา แล้วแนบกับหัวใจอยากจะร้องไห้ด้วยความขวัญเสีย
เกือบไปแล้ว...หล่อนเกือบจะเสียของรักที่มีค่าที่สุดไป
“ขอบคุณนะคะ โชคดีเหลือเกิน ถ้าไม่ได้คุณ ฉันคงสูญเสียมันไปแล้ว คุณเป็นไรมากรึเปล่าคะ?”
“ไม่เป็นไรครับ นิดหน่อยเท่านั้น”
“คุณสะบักสะบอมก็เพราะฉัน เอ่อ บ้านฉันอยู่ใกล้แค่นี้เอง ให้ฉันได้เลี้ยงน้ำตอบแทนคุณหน่อยนะคะ”
ก้องภพอิดออดนิดหนึ่ง
ก่อนจะรับคำ แล้วแอบยิ้มสมใจ!
“น้ำค่ะ...”
อินทราณียกน้ำมาเสริฟ
แล้วนั่งลงบนโซฟา ก้องภพจิบพอเป็นพิธี ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้องรับแขก
“บ้านคุณน่าอยู่ดีนะครับ ผมเคยมาซิดนีย์หลายครั้ง ผ่านแถวนี้บ่อย
ยังเคยรำพึงในใจว่า แถวนี้ตึกแถวสวยมาก เป็นบ้านจริงๆ เลยรึเปล่าครับ?”
“ค่ะ พ่อฉันปลูกบ้านหลังนี้ พ่อเป็นชาวออสซี่น่ะค่ะ ฉันมาอยู่ที่นี่หลายปีแล้ว”
“อ้อ ที่แท้คุณก็เป็นนักศึกษา แปลว่าอยู่ชั่วคราว แล้วใกล้จะจบรึยังครับ?”
“ปีหน้าค่ะ ถ้า...ไม่มีอะไรผิดพลาด อ้อ!
เรื่องเมื่อครู่นี้ ขอบคุณมากนะคะ ถ้าคุณไม่ช่วย ฉันคงเสียสิ่งสำคัญที่สุดไป ลำพังฉันคงวิ่งไม่ทันมัน
แต่ก็แปลกมาก ฉันอยู่ที่นี่มาหลายปี ไม่เคยเจอโจรเลยสักครั้ง จู่ๆ...”
“ขึ้นชื่อว่า โจร มันก็มีได้ทุกที่ ทุกเวลานั่นแหละครับ คุณไม่เคยเจอ
ไม่ได้แปลว่าไม่มี โดยเฉพาะ... ขอโทษนะ ผมคิดว่าคุณก็คงรู้
ว่าเครื่องประดับที่คุณใส่อยู่นั้น มันมีมูลค่ามหาศาลแค่ไหน มันล่อตา
ล่อใจพวกมิจฉาชีพนะครับ ผมอยากจะเตือนคุณตั้งแต่ครั้งที่แล้ว
ว่ามันอาจนำภัยอันตรายมาแก่คุณได้”
ก้องภพเตือนเสียงอ่อนโยน
อินทราณีรู้สึกขัดหูกับคำว่า “นำภัยอันตรายมาให้” แต่ก็ไม่ได้ถือสาอะไรนัก
“อัญมณี เป็นสิ่งที่ให้คุณแก่เจ้าของ มันไม่มีพิษภัยในตัวเอง คนต่างหาก
ที่นำภัยอันตรายมาให้คนด้วยกันเอง ซึ่งต้นเหตุก็คือ ความโลภ”
“มันก็จริง แต่ว่าสุดท้ายคนที่เป็นอันตรายที่สุด ก็ยังเป็นผู้สวมใส่อยู่ดี ผมไม่ได้ว่าอัญมณีไม่ดี
แต่ปัญหาของมัน ก็เป็นสิ่งที่ต้องระวัง ตามความเห็นผม โอปอลล้ำค่าขนาดนี้ คุณควรเลือกใส่เฉพาะโอกาสนะครับ”
“คุณไม่รู้ความหมายของโอปอลสองชิ้นนี้ มันพิเศษสุดสำหรับฉัน
เพราะเป็นของหมั้นหมายจากคนรัก”
“ผมเข้าใจ แต่ถ้าแฟนคุณรู้ ผมว่าเขาคงจะเลือกให้คุณเก็บไว้ดีกว่า
คุณมีโอกาสจะใส่มันในงานราตรี แต่ถ้าคุณสูญเสียตอนนี้ มันจะไม่ได้อะไรเลย เหมือนเมื่อครู่นี้
ถ้าผมมาไม่ทัน...”
หนุ่มใหญ่กล่อมหล่อนด้วยเหตุผล
และแววตาที่สื่อความปรารถนาดีเต็มที่ ทำให้อินทราณีอึ้งไปนิดหนึ่ง
“ขอบคุณนะคะ ที่ตักเตือน ฉันจะลองคิดดู”
“ผมดีใจนะครับ ที่คุณรับฟังผม ผมเป็นนักธุรกิจจิวเวลรี่ รักอัญมณีไม่น้อยไปกว่าคุณ
ดังนั้น ผมจึงไม่อยากเห็นใคร ต้องถูกทำร้ายเพราะอัญมณี โดยเฉพาะ ผู้หญิงที่มีศรัทธาอย่างคุณ
มันจะกลายเป็นเรื่องเศร้าไป”
หญิงสาวรู้สึกสะท้อนใจ
มิได้สังเกตว่า บนใบหน้าหล่อเหลานั้น มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้น!
กรุงเทพฯ
ประเทศไทย...
บอสใหญ่แห่งเดอะไลท์
กำลังมีกริยาอาการที่แตกต่างไปจากปกติ เขานั่งเหม่อลอยในห้องทำงานที่บริษัท เป็นเรื่องแปลก
เพราะไม่ง่ายนัก ที่นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่างเขา
จะมีเรื่องอื่นให้หมกมุ่นครุ่นคิดจนลืมตัว ในเวลาทำงานเช่นนี้ นอกเหนือจากอินทราณี
ยอดรักแล้ว เป็นครั้งแรก ที่เขาคิดถึงหญิงสาวคนอื่นนานเกินสิบนาที!
“บอสคะ งานโชว์วันพรุ่งนี้ คงต้องเลื่อนนะคะ เจ้าของสถานที่เพิ่งโทรมาเมื่อครู่นี้
เขาบอกว่า... บอสคะ!”
กนกเมทนีเรียกซ้ำ
เมื่อเห็นดวงตาเขาเหม่อลอย ไม่ได้สนใจหล่อน ตามฟ้าสะดุ้งนิดหนึ่ง ก่อนหันมา
“อ้าว ว่าไง มีนา?”
“เป็นอะไรรึเปล่าคะ?”
“เปล่า เปล่า งีบพักสมองน่ะ เมื่อครู่ว่าไงนะ?”
หญิงสาวอ้าปาก
แต่แล้วนึกขึ้นได้ ทรุดนั่งลงตรงหน้าเขา พูดน้ำเสียงจริงจัง
“เรื่องนั้นไว้ก่อน บอสคะ ตอนนี้เดอะซันได้ตัวแพรวพิลาสไป
ภาพลักษณ์การโปรโมทสินค้าของเขาพุ่งสูงขึ้นมากเลยนะคะ เธอเพิ่งเดิน และถ่ายแบบไม่กี่งาน
แต่กระแสร้อนแรง ขึ้นอันดับหนึ่งไปแล้ว เราเสียเธอไป ส่งผลกระทบมาก
ตอนนี้นางแบบในสังกัดเรา ไม่มีใครเทียบชั้นแพรวพิลาสได้สักคน”
“โลกสวยแบบนี้ ไม่สิ้นไร้ซึ่งดอกไม้งามหรอก นางแบบที่เหนือกว่าแพรวพิลาส มีถมเถไป”
ตามฟ้าบอกเรื่อยๆ
ผุดนึกภาพ “เจ้าของร้าน พิงค์ จิวเวลรี่”
ขึ้นมาอีก
“บอสสนใจใครบ้างรึยังคะ? เราจะได้รีบดำเนินการ ชักช้า
อาจถูกเดอะซันแย่งไปหมด”
ไหวพริบของกนกเมทนี
ทำให้หล่อนสังเกตเห็นอาการบางอย่างของเจ้านาย แม้จะไม่แจ่มชัดนัก ตามฟ้ายิ้มนิดๆ
“เอาเถอะ ให้ความสนใจเขาไปแล้ว สองสามวันนี้ก็รู้ผลล่ะมั้ง”
หญิงสาวในความครุ่นคิดของตามฟ้า
ขณะนี้อยู่ในห้องพักโรงแรมหรูระดับห้าดาวของเมืองไทย บนโซฟา พิมพ์รมเยศกำลังนั่งอ่านประวัติ
และข้อมูลต่างๆ ของนักธุรกิจหนุ่มชื่อดัง ในโน้ตบุ๊กของหล่อน ซึ่งมีให้อ่านเพียบ
ตามประสาคนดัง ซึ่งมีชื่อเสียงในวงการ และสังคมเมืองไทย ทั้งประวัติทางธุรกิจ จนถึงเรื่องราวส่วนตัว
ซึ่งกำลังดึงดูดความสนใจหล่อนอยู่ในยามนี้
...ตามฟ้า เรืองฤทธิ์ธารันท์...กับ...แฟนสาว...อินทราณี
แคมป์เบลล์...
ภาพหนุ่มหล่อ
กับสาวงามตระกองกอดกันอย่างหวานชื่นบนเรือสำราญยามราตรี ที่ประเทศออสเตรเลีย
เป็นภาพเด็ดที่สุดของคู่รัก หล่อนเป็นหญิงสาวแสนสวย เจิดจรัสโดดเด่น
เปล่งประกายความงามจากภายใน มีรัศมีที่ไม่อาจข่มได้ พิมพ์รมเยศจ้องหล่อนนิ่งนาน...นานเกินพอ...ที่จะทำให้ใจไหวหวั่น! หล่อนไม่เคยทระนงในรูปโฉมของตัวเอง
แม้จะมีคนกระซิบบอกว่า ความงามของหล่อน สามารถพิชิตบุรุษได้ทั่วหล้า หญิงสาวรู้ตัว
หล่อนงามไม่สมบูรณ์แบบ มีบางมุมที่หล่อนไม่ชอบในตัวเอง แข็งเกินไป!
แต่อินทราณีคนนี้
หล่อนหวานมาก เมื่อมองผิวเผิน หากเมื่อจ้องนานๆ สัมผัสที่ละเอียดอ่อนบอกหล่อนว่า
ผู้หญิงคนนี้ แข็งภายใน รัศมีดวงตาของหล่อน สื่อถึงความทระนงตน เข้มแข็ง แข็งแกร่งกว่าหล่อน
ดูไปก็มีส่วนคล้ายกัน หากแต่หล่อนไม่หวานเท่า ความหวานถึงที่สุด และความคมเข้มถึงที่สุด
อยู่ในตัวผู้หญิงคนนี้
...คนรัก...ของตามฟ้า... ข้อความรุนแรง
เสียดแทงหัวใจที่เยือกเย็นราวน้ำแข็งหิมะ ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างสมเพศตัวเอง
โง่ขนาดไหนกันนะ! ที่ไม่เคยคิดเรื่องนี้ ผู้ชายแบบนั้น ผู้ชายที่ทำให้ภูเขาน้ำแข็งอย่างหล่อน
เริ่มสลายความเย็นชาได้ จะยังโสดสนิท? เขามีคนรัก
มิเพียงเท่านั้น ข้างกายเขา คงรายล้อมไปด้วยบุปผชาติหลากหลายสายพันธุ์นับไม่ถ้วน
แล้วหล่อนเล่า?
หยิบนามบัตรขึ้นมาดู
ด้วยหัวใจเซื่องซึม ไม่นึกว่าก้าวที่ใกล้ แค่ชั่วพริบตา จะไกลลิบจนมองไม่เห็นแล้ว
สองทุ่มกว่าแล้ว
สระน้ำกว้างใหญ่ของคอนโดหรูระดับห้าดาวยามนี้ ไร้ผู้คนลงเล่น เงียบสนิท และค่อนข้างมืดสลัว
มีเพียงโคมไฟสองดวงที่ส่องแสงให้ความสว่างอยู่เพียงเล็กน้อย ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา
รูปร่างเพอร์เฟ็ค เดินมาหยุดยืนที่ริมสระ บิดตัวไปมาแบบวอร์มร่างกาย
ก่อนจะถอดเสื้อ กับกางเกงออก เหลือแต่บ็อกเซอร์สีขาวตัวเดียว กระโจนลงสู่ผืนน้ำอย่างสวยงาม
แหวกว่ายใต้ท้องสระ ก่อนทะยานขึ้นเหนือน้ำ
เพลิดเพลินกับการว่ายน้ำอยู่ชั่วขณะ
ก็หยุดนิ่ง ครุ่นคิดขึ้นมา ผ่านไปอาทิตย์หนึ่งแล้ว ไร้วี่แววจากหล่อน
คนที่เขารอคอยให้เปลี่ยนใจ โทรมาตอบรับข้อเสนอของเขา หล่อนได้นามบัตรเขาไป
หากแต่ไร้การติดต่อ เรื่องแบบนี้ เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เขาคิดว่า
ตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ และแสดงความจริงใจมากพอ ในการเชิญหล่อนมาร่วมงานกัน เขารับคำปฏิเสธได้
แต่คาดไม่ถึงว่าหล่อนจะเงียบสนิท ไม่ติดต่อมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ยืนเหม่ออยู่กลางสระ
โดยไม่รู้ตัวว่า ใครคนหนึ่งมาหยุดยืนอยู่ขอบสระเงียบๆ จ้องด้านหลังเขาอยู่พักใหญ่
ก่อนกระแอมขึ้นดังๆ ให้เจ้าของสระน้ำยามราตรี รู้สึกตัว ตามฟ้าตื่นจากภวังค์
หันขวับมา ดวงตาที่ซึมอยู่ ถึงกับเบิกกว้างไปในวินาทีนั้น!
หญิงสาวรูปร่างสูงเด่น
งามสง่า ผมสีน้ำตาลเข้มเป็นลอนใหญ่ยาวงามแวววาว ดวงหน้ารูปไข่ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเรียวอย่างหงส์
จมูกโด่งได้รูป ริมฝีปากสีคาบาน่าย้อยนิดๆ สุดเซ็กซี่ ผิวขาวเป็นประกายสว่างไสว
แผ่นหลังรูปสามเหลี่ยมโค้งเว้า อกอวบอิ่ม จรดสะโพกผายเต็มตึง
รับกับท่อนขาขาวอวบกลมกลึง ความสวยของหล่อนเพียงแค่นั้น
คงไม่ทำให้จิตใจอันแข็งแกร่งดุจภูผาของเขาสั่นคลอน หากแต่... หล่อนอยู่ในชุดบิกินี่ทูพีชสีแดงสดลายมังกร
เผยให้เห็นทรวดทรงอันเซ็กซี่จัด เกินจะหาคำบรรยาย!
หล่อนเองก็ชะงัก
ในมือถือเสื้อคลุมสีขาวที่เพิ่งปลดออกจากไหล่ จ้องสบตาเขาในระยะใกล้ภายใต้แสงสลัว
ดวงตากลมโตคู่สวยเบิกกว้างอย่างตื่นตะลึงปนทึ่ง
เป็นแววตาที่สื่อความหมายได้ชัดเจนที่สุด จนชายหนุ่มขนลุกทีเดียว
หล่อนยิ้มหวาน
โยนเสื้อคลุมพาดบนเก้าอี้ เดินช้าๆ ลงบันไดมาอย่างมั่นใจ ตามฟ้าขยับตัวอย่างอึดอัด
หายใจไม่ทั่วท้อง เมื่อเห็นร่างหล่อนแหวกว่ายมา เขาหลบนิดหนึ่ง ให้หญิงสาวว่ายผ่านไป
มองร่างที่พลิ้วไหวราวกับนางเงือก ด้วยอารมณ์สุดบรรยาย
น้ำในสระที่ควรจะเย็นถึงขั้นหนาว...เหมือนจะยิ่งร้อนขึ้นทุกองศา...
ยามเมื่อสายตาปะทะเข้ากับเรือนร่างหล่อน เหมือนถูกกระแสไฟดูด
ร่างอันปกติสมบูรณ์ของตามฟ้า เริ่มร้อนขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ เขาว่ายไปทางอื่น
แต่หางตายังคงมองเห็นหล่อนอวดลีลาระบำวารีอยู่เรื่อยๆ ในที่สุด ก็หมดความอดทน
หันหลังกลับ จะว่ายกลับขึ้นฝั่ง แต่แล้ว เสียงหวานใสก็ดังขึ้นริมหู
“ว่ายน้ำคนเดียว...ไม่เหงาหรือคะ?”
ตามฟ้าสะดุ้ง
หันขวับมา เขาไม่รู้สึกตัวเลยว่า
หญิงสาวว่ายเข้ามาประชิดตัวมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“อุ๊ย! ตกใจหรือคะ? ขอโทษจริง
ฉันคิดว่าตัวเองพูดเบาแล้วนะ หรือว่า คุณเป็นคนขวัญอ่อนก็ไม่ทราบ”
คำพูดกึ่งหยอกกึ่งปรามาสนั้น
ทำเอาชายหนุ่มหน้าร้อนผ่าว
“ขอโทษที ผมไม่ได้ขวัญอ่อนหรอก เพียงแค่...คิดอะไรเพลินๆ อยู่”
เขาบอก
พร้อมกับถอยห่างออกมานิดหนึ่ง หญิงสาวกลับเคลื่อนตามเข้ามา จ้องสบตาลึกล้ำ
ยิ้มยั่ว
“แล้วในความคิดของคุณ มีฉันอยู่ด้วยรึเปล่าคะ!”
หล่อนเอียงคอถาม
ตามฟ้าหันมาจ้องอย่างคาดไม่ถึง เคยเสียมากกับการถูกผู้หญิงพูดจีบ
แต่หญิงสาวคนนี้ไม่เหมือนใคร หล่อนมีเสน่ห์โดยไม่เสแสร้งปรุงแต่ง
เป็นธรรมชาติดีมาก เปิดเผย สปอร์ต เหมือนสาวฝรั่ง ทั้งที่เป็นคนไทย
ชายหนุ่มหัวเราะต่ำๆ
จ้องสบตาหล่อนอย่างมั่นคง
“เปล่าครับ ผมคิดถึงแฟนน่ะ ไม่ได้เจอกันมาหลายเดือน
คิดถึงมากจนอยากกลับไปหา เสียใจด้วยนะที่ไม่ได้คิดถึงคุณ!”
ชายหนุ่มตอบกลับอย่างพิเรนพอกัน
กับสาวร้อนใจกล้า เขามักชอบคุมเกม ไม่ยอมถูกปั่นหัว สาวงามที่ร้อนแรงยิ่งกว่าไฟ
แบบที่เขาไม่เคยเจอ เบิกตาโตเล็กน้อย และนิ่งมองเขาเหมือนจะประเมินใหม่
“ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้ยังไม่คิดถึง
แต่อีกสักครู่...คุณจะคิดถึงฉันจนลืมไม่ลงแน่!”
คำยโสโอหังจากปากหล่อน
ทำตามฟ้าขนลุก เสียววาบขึ้นมาได้อย่างน่าตระหนก แต่ภายนอกยังเยือกเย็น หัวเราะหึๆ
“งั้นหรือ? ถ้าคุณจับผมหัวทิ่มพื้นสระ ผมรับรองเลยว่า
ชาตินี้คงลืมคุณไม่ลงจริงๆ”
“คนหล่ออย่างคุณ จับหัวฟาดพื้นก็เสียดายแย่สิคะ นุ่มนวลหน่อยดีกว่า
ฉันรู้ว่าคุณชอบคนนุ่มนวล...”
สิ้นเสียงเย้ายวนนั้น
ร่างระหงก็ดำลงใต้น้ำอย่างรวดเร็ว ตามฟ้ายืนนิ่ง มองหล่อนแหวกว่ายลึกลงไป จู่ๆ
ก็มีมือมาดึงขาเบาๆ ที่ใต้น้ำ ตามฟ้าผงะ ถอยหลังหลบไปติดขอบสระ เสียงน้ำกระเพื่อม
หญิงสาวโผล่พรวดขึ้นมายืนประชิดด้านหน้า น้ำแตกกระจาย หล่อนสะบัดผม
ทำให้ฝอยน้ำกระเซ็นเข้าตา พริบตาที่เขาหลับตาลง หล่อนก็ยื่นแขนทั้งสองโอบรอบคอเขาไว้
แล้วประทับริมฝีปากนุ่มแนบริมฝีปากบางเฉียบหนักหน่วง ร่างโถมเข้ามาบดเบียดจนแทบเป็นเนื้อเดียว
สุภาพบุรุษหนุ่มยืนตัวชาเหมือนถูกสะกด...
ผ่านไปนานเท่าไรไม่ทราบ
หล่อนผละตัวออกห่าง ดวงตาปรอยลุ่มหลงปนภาคภูมิในชัยชนะ ยิ้มหวาน
“คิดว่าคุณคงจำฉันได้แล้ว หากเจอกันคราวหน้า อย่าลืมทักทายบ้างนะคะ!”
สาวร้อนแรง
หันหลังกลับ ว่ายไปขึ้นบันไดสระ หยิบเสื้อคลุม
หันมายิ้มเปี่ยมเสน่ห์ให้เขาอีกครั้ง ทิ้งแววตาสุดซึ้งไว้ให้จดจำ
ก่อนจะเดินจากไปอย่างสง่างามที่สุด
ขณะเดินกลับห้องพัก
เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น หญิงสาวกดรับ
“ค่ะ คุณภพ คืนนี้? อย่าเลยค่ะ ยิหวาเพิ่งกลับมาวันแรก
เหนื่อยมากอยากพักผ่อน พรุ่งนี้ดีกว่านะคะ คุณภพน่ารักจริงๆ”
ยิหวานารีวางสาย
เมื่อมาถึงห้องพัก หล่อนโยนโทรศัพท์ และเสื้อคลุมลงบนโซฟา นั่งลงอย่างเพลียๆ
ดัดคอไปมาอย่างเมื่อยขบ เอนคอพิงพนัก หลับตาลง ก่อนที่ใบหน้าจะเริ่มแดง
ริมฝีปากคลี่สยายออกช้าๆ ในมโนภาพนึกถึงใครคนหนึ่ง
...รสจูบชวนคลั่งไคล้...หลงใหล...วูบแรกปฏิเสธ...ขัดขืน...วูบสองตอบสนองอย่าง...ทำให้หล่อนปั่นป่วน
ดึงดูด ได้รุนแรงที่สุด!
ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันนะ?
เสน่ห์แบบที่ก้องภพไม่มี รสชาติที่หล่อนตามหา...ไม่นึกว่าจะได้เจอในคืนนี้
ชายหนุ่มยังคงยืนแช่อยู่ในน้ำ
สาวสวยทรงเสน่ห์จากไปแล้ว เหลือทิ้งไว้เพียงกลิ่นกายความหอมรัญจวน เขาหลับตา
ยกมือบีบสันจมูกนิ่ง ถอนหายใจเฮือก ก่อนจะสะบัดหน้าอีกสองสามที
หลังจากคบกับอินทราณี...เขาก็ไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงคนไหนอีก...แม้กระทั่งการสัมผัสภายนอก
เช่น จูบ อาจมีพลาดโดยไม่ตั้งใจบ้าง เช่นกับ แพรวพิลาส
แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรให้จดจำ
แต่เมื่อไม่กี่วินาทีนี้ เขาจูบกับผู้หญิงคนหนึ่ง เรียกว่าถูกขโมยจูบก็มิผิดนัก การจูบครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหน หล่อนทรงเสน่ห์กว่าสาวทุกคนที่เขาเคยผ่านมา สร้างความปั่นป่วนรุนแรงให้ร่างกาย อาจเป็นเพราะห่างหายจากรสชาตินี้ไปนาน และอานุภาพด้านเพศของหล่อน สูงยิ่งนัก แม้จะเจ็บใจ แต่เขาก็ต้องยอมรับ เขาเผลอตัวสนองตอบหล่อนไปอย่างหลงใหลชั่วขณะหนึ่ง
ความคิดเห็น