ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฮาเร็มของน้อนกาตุ่ย!!(yaoi)

    ลำดับตอนที่ #3 : กลัวความมืด

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 66


    กลัวความมืด
     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากทานอาหารเสร็จ

     

     

     

     

     

     

    สวนหลังวัง

     

     

    สวนหลังวังมีพื้นที่กว้างและดอกไม้เยอะแยะเนื่องจากได้รับการดูแลจากคนสวนเป็นอย่างดีและดอกไม้ที่นิยมปลูกก็คือกุหลาบสีดำแต่พอมิเกลย้ายมาอยู่ที่นี้ก็ถูกเปลี่ยนเป็นกุหลาบสีขาวเพราะคาร์เตอร์ไม่อยากให้ร่างเล็กมาดูอะไรหมองๆหรอกนะ

     

     

     

     

    ถามว่าคาร์เตอร์ทำได้ยังไงที่สามารถเปลี่ยนดอกไม้ได้เร็วขนาดนี้...ก็มีนักเวทย์อยู่ในวังก็ต้องใช้ให้คุ้มสิ ภายในสวนก็มีศาลาเล็กให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ

     

     

    “องค์ชายขนมค่ะ”โซเฟียยกหอคอยที่มีขนมมากมายวางบนโต๊ะแต่องค์ชายก็ไม่สนใจเสียที

     

     

     

    “องค์ชายคะทานของว่างก่อนเถอะค่ะท่านทานข้าวเช้านิดเดียวเอง"โซเฟียเดินอ้อมมาลูบหัวทุยขาวปุยของมิเกลดูเหมือนองค์ชายของเธอจะชอบวาดภาพไม่น้อยตอนแรกที่เสนอจะเอามาให้วาดเล่นก็ไม่คิดว่าจะจริงจังขนาดนี้ไหนจะวาดได้สวยมากอีกต่างหาก

     

     

     

    "โซเฟีย?มาตอนไหนหรอครับ"เสียงใสเอ่ยถามขณะที่ถูกโซเฟียเช็ดมือให้อยู่เพราะเลอะสีไม่น้อยเลย

     

     

     

    "องค์ชายจริงจังเกินไปแล้วท่านเคยฝึกวาดมาก่อนหรือ"เธอมองกระดาษใหญ่ที่เป็นรูปดอกกุหลาบสีขาวสวยดูสมจริงไม่น้อย

     

     

    “ไม่เคยหรอกเราเพิ่งเคยวาดมันสนุกดีนะรู้สึกสงบดีด้วยน่ะ”มิเกลรู้สึกจริงๆขณะที่ตวัดปลายพู่กันไปมาและได้มองภาพที่ตนวาดรู้สึกได้เลยว่าสงบมากๆ

     

     

    “นี้คงจะเป็นงานอดิเรกขององค์ชายสินะคะ!”ฮันน่าว่าร่างเล็กพงกหัวพร้อมยิ้มแฉ่งก่อนที่พวกเธอจะยิ้มตอบและจูงมือเล็กมานั่งทานขนม

     

     

     

    พอได้ชิมคุ้กกี้ไปคำนึงดวงจากลมสีแดงสดก็เปล่งประกายทันทีพวงแก้มนิ่มขึ้นสีชมพูปากบางเคี้ยวตุ่ยๆดูน่ารักไม่น้อยเหล่าสาวใช้ต่างยิ้มแฉ่งออกมาเมื่อได้เห็นองค์ชายตัวน้อยๆของพวกเขามีความสุขแลบนี้

     

     

     

    “มิเกล”เสียงใหญ่ทุ้มเรียกชื่อร่างเล็กคาร์เตอร์เดินมาพร้อมกับองค์รักษ์ประจำตัวเขาและทหารอีกสามคนและพ่อบ้านคนเดิม มิเกลเห็นแบบนั้นก็ลุกจากเก้าอี้ตัวใหญ่แต่รีบไปหน่อยดันไปสะดุดขาตนเองร่างสูงเลยพุ่งตัวมารับอย่างไว

     

     

    “อย่ารีบสิ ไม่เป็นไรนะ”คาร์เตอร์ถาม

     

     

    “ไม่เป็นไรคับ!”

     

     

    “ปะป๊ามีเรื่องจะคุยด้วยล่ะ”ว่าแล้วก็อุ้มคนตัวเล็กขึ้นมา

     

     

    “อะไรหรอครับ?”

     

     

    “เรื่ององค์รักษ์ของลูกน่ะ”ร่างสูงเดินออกมาจากศาลาตรงไปยังทหารสามสี่คนตรงนั้นตามด้วยสาวใช้ที่คอยอยู่ห่างๆ

     

     

    “องค์รักษ์?ผมต้องมีด้วยหรอ?”หัวกลมเอียงข้างคาร์เตอร์เห็นท่าทางน่ารักๆแบบนั้นก็ยิ้มบางแล้วลูบหัวขาวปุยไปมาท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทหารและสาวใช้ถึงพวกเธอจะเคยเห็นมานิดหน่อยแต่ก็ยังไม่ชินเสียที

     

     

    “ต้องมีสิเธอเป็นถึงบุตรของจักรพรรดิเชียวนะแน่นอนว่ามันต้องมีพวกหนอนบ่อนไส้มาตามรังความเธอเป็นแน่”

     

     

    “หนอนบ่อนไส้?”หัวกลมเอียงข้างด้วยความสงสัย

     

     

    “อะแฮ่ม ฝ่าบาทท่านไม่ควรพูดคำนั้นออกมาต่อหน้าเด็กนะครับ”พ่อบ้านประจำตระกูลกล่าวทำให้คาร์เตอร์เพิ่งนึกได้

     

     

    “ขอโทษทีเธออย่าจำคำนั้นนะ”มิเกลพยักหน้าและหันไปมองพ่อบ้านคนเดิมด้วยสายตางงๆก่อนจะโค้งหัวให้ทีนึงเหมือนทำความเคารพทำเอาพ่อบ้านไปไม่เป็น

     

     

    “ไม่ต้องเคารพผมหรอกครับผมมีนามว่า บาสเตียน ครับเป็นพ่อบ้านประจำตระกูลนี้”มิเกลมองชายตรงหน้าด้วยความตื่นเต้นเพราะเขามีใบหน้าที่สวยไม่น้อยดวงตาคมสีม่วงเข้มปากเป็นกระจับสีเข้มและเส้นผมยาวถูกมัดไว้อย่าเรียบร้อยสีบลอด์น

     

     

    “คุณสวยจัง”เสียงใสพึมพัมบาสเตียนได้ยินแบบนั้นก็ตกใจนิดหน่อยไม่คิดว่าจะโดนชมแบบนี้ก่อนจะค่อยๆยิ้มออกมา

     

     

    “ถึงอย่างนั้นผมก็มีภรรยาแล้วล่ะครับ”ว่าจบก็เสตามองทหารคนนึงที่ตามคาร์เตอร์มาด้วยแต่มิเกลก็ไม่ได้มองตามเพราะไม่รู้ว่ามองหาใคร

     

     

    “เอาล่ะรู้จักกันแล้วทีนี้มิเกล เธอเลือกสักคนสิสี่คนนี้เป็นยอดฝีมือที่ได้ออกรบมานับไม่ถ้วนพวกนายแนะนำตัวสิ”ประโยคหลังคาร์เตอร์หันไปคุยกับทหารคนแรก

     

     

    “ถวายพระพรแด่องค์ชายมิเกเลีย ผมมีนามว่า ชู  ครับ!"เขาคนนี้เอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มดูเป็นคนร่าเริงและจริงจังในเวลาเดียว

     

     

    "ผมมีนามว่า เอลเลียส ครับ"เขาคนนี้รูปร่างสูงใหญ่ที่สุดผิวคล้ำดวงตาโตนิดหน่อยสีเขียวและรอยยิ้มบางๆเขาคนนี้ดูอ่อนโยนไม่น้อย จู่ๆบาสเตียนก็เดินมาขนาบข้างและโอบเอวเอลเลียส

     

     

    "เขาคือภรรยาของผมเองครับ"ปากบางยิ้มแต่คนข้างๆกลับหน้าแดงอย่างเขินอาย คาร์เตอร์มองด้วยความเอือมระอาก่อนจะให้อีกคนแนะนำตัว

     

     

    "ดิฉันมีนามว่า ทาซ่า ค่ะ"เธอคนนี้เป็นอัศวินหญิงตัวสูงมากแถมยังดูสุขุมและน่าเกรงขามเธอมีตาสีดำผมสีน้ำตาลอ่อนบุคลิกค่อนข้สงคล้ายกับโอลิเวีย

     

     

    "เท่จัง.."ทาซ่าได้ยินแบบนั้นก็ชันเข่าและหันแขนไปทางอกด้านซ้ายก่อนที่เธอจะยิ้มบางๆออกมา

     

     

    "ขอบพระทัยค่ะ"มิเกลยิ้มหวานให้ทำเอาอัศวินทั้งสามตดหลุมความน่ารักไปเรียบร้อยพร้อมเอามือกุมใจตัวเองบางคนก็นอนกำหญ้าเฉยเลย องค์ชายมองเหล่าอัศวินด้วยความงงก่อนจะหันไปเห็รอัศวินอีกคนที่ดูแตกต่างกว่าคนอื่นๆ

     

     

    "ถวายพระพรแด่องค์ชายผมลูซิเฟอร์ เป็นองค์รักษเอกครับ"ลูซิเฟอร์ยิ้มอ่อนให้ใบหน้าของเขาดูอ่อนโยนไม่น้อยและสีตาเป็นสีฟ้าเหมือนท้องทะเลดูสวยมากจนมิเกลล่ะสายตาไม่ได้เลย

     

     

    "ลูซิเฟอร์เป็นองค์รักษ์ประจำตัวฉัน..ชอบเขาหรือ"ร่างเล็กได้ยินแบบนั้นก็ดึงหูกระต่ายลงมาปิดใบหน้าแดงกำด้วยความเขินลูซิเฟอร์เห็นก็เอ็นดูไม่น้อยส่วนคาร์เตอร์...เขาได้จดบันทึกไว้เรียบร้อยว่าองค์รักษ์เอกคือบุคคลอันตราย!

     

     

    "สีตาของคุณสวยมากเลยคับ.."เสียงใสเอ่ยเบาๆแต่ก็ทำให้ลูซิเฟอร์อึ้งได้ไม่น้อยเลย..ไม่เคยมีใครพูดแบบนี้กับเขาหรอกนะคิดได้แบบนั้นปากหนาก็ยิ้มแฉ่งให้มิเกลซึ่งเจ้าตัวก็ยิ้มกลับมาเหมือนกัน

     

     

    "อะแฮ่ม!สรุปลูกจะเลือกใคร"เขากระแอ่มไอเพื่อขัดจังหวะสีชมพูของทั้งสอง

     

     

    "ผม...เลือก...คุณทาซ่าครับ"

     

     

    ทาซ่าอึ้งเล็กน้อยก่อนจะนั่งชันเข่าเหมือนเดิมและเอามือกำวางไว้ที่อกด้านซ้ายเหมือนปฎิยานตนคาร์เตอร์เลยอุ้มมิเกลลงมาจากแขนซึ่งร่างเล็กก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง

     

     

    “หม่อมฉันจะปกป้องท่านจนกว่าจะหมดลมหายใจหรือแม้จะต้องเสียสละชีวิตเพื่อองค์ชายก็ตาม”พอพูดมาถึงการสละชีวิตมิเกลก็มีสีหน้าไม่สู้ดีและลนลานไม่น้อยมือเล็กๆกุมมือของทาซ่าไว้ก่อนที่เธอจะเงยหน้ามององค์ชายตรงหน้า

     

     

    “ระ..เราไม่ได้อยากให้คุณสละชีวิตให้เราแค่คุณทาซ่าปกป้องเราเราก็ดีใจแล้วครับ”ทาซ่าได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมามือที่โดนกุมอยู่กลายเป็นเธอจับมือเล็กขององค์ชายไว้และจุมพิตหลังมือเบาๆแสดงถึงการให้เกียรติ

     

     

    “ฉันยินดีสละชีวิตเพื่อท่าน”

     

     

    “ดูแลบุตรของฉันตราบเท่าชีวิตของเธอเข้าใจใช่ไหม”คาร์เตอร์เอ่ยถามสีหน้าจริงจังหากเป็นเช่นนี้เธอก็จะตอบจริงจัง

     

     

    “ค่ะ ตราบเท่าชีวิต”เขาว่ามิเกลดูคนไม่ผิดแต่ไหนแต่ไรทาซ่าเป็นอัศวินที่ดีมาตลอดไม่ด้อยไปกว่าชายชาตรีเลย มิเกลดูคนไม่ผิดจริงๆ

     

     

     

     

     

    พอได้เลือกทาซ่าเป็นองค์รักษ์คาร์เตอร์ก็ให้เริ่มงานทันทีส่วนตัวเขามีไปเคลียร์งานด่วนเลยต้องฝากให้ลูซิเฟอร์อยู่นี้ด้วยถึงใจเขาจะอยากอยู่กับร่างเล็กก็เถอะแต่งานก็คืองานถ้าเสร็จแล้วล่ะก็จะนอนกอดกระต่ายน้อยให้อุ่นใจเลย!

     

     

    มิเกลเดินชมสวนกุหลาบไปเรื่อยๆตามด้วยองค์รักษ์ทั้งสองตามมาติดๆร่างเล็กไม่ได้รู้สึกอึดอัดเลยเพรยงแต่เกร็งนิดหน่อย

     

    “สวยจัง..”มือเล็กก้มจับดอกกุหลาบสีขาวและสูดกลิ่นหอมๆของมันลูซิเฟอร์มองด้วยความหลงใหลผิวขาวกระจ่างดวงตากลมสีแดงดั่งอัญมณีเส้นผมสีขาวดุจหิมะหากองค์ชายโตไปคงมีหนุ่มสาวตามเกี้ยวพาเป็นแน่

     

     

    “องค์ชายชอบดอกกุหลาบสินะครับ”ลูซิเฟอร์มานั่งยองๆข้างเขามิเกลได้ยินก็พยักหน้ารัวๆ

     

     

    “เราชอบมากเลยล่ะไม่เคยเห็นของจริงเลย.."

     

     

    "..."ทาซ่ามององค์ชายในการดูแลของตนด้วยอารมณ์หลากหลายทั้งสงสารและเห็นใจ องค์ชายตัวก็เพียงเท่านี้เหตุใดจึงทำร้ายได้ลงคอ

     

     

    "องค์ชาย...อ่า!ผมมีที่ๆนึงอยากพาท่านไปครับ"มิเกลเอียงคอด้วยความสงสัยลูซิเฟอร์เห็นแบบนั้นก็นึกเอ็นดูลูบหัวกลมอย่างอ่อนโยนก่อนจะพูดต่อ

     

     

    "เชื่อใจผมนะ"ร่างสูงยิ้มอย่างอ่อนโยน

     

     

    "อื้ม!"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ทะเลสาปหลังวัง

     

    นอกจากสวนดอกไม้แล้วก็ยังมีทะเลสาปหลังวังที่สามารถมาปิกนิกหรือนั่งเรือรับลมก็ได้ลมเย็นๆอากาศอบอุ่นปลอดโปร่งตามธารน้ำใสมีดอกไม้ร่วงมาเรื่อยๆมันไม่ได้ดูรกเลยแต่กลับสร้างความสวยงามมากกว่า

     

     

    "สวยจัง!น้ำใสจังเลยลูซิเฟอร์"ดวงตาสีแดงสดมองไปรอบๆอย่าเปล่งประกายพร้อมกับดึงแขนเสื้อคนอุ้มตนตลอดเวลาด้วยความตื่นเต้น

     

     

    'องค์ชาย..ท่านน่ารักน่าเอ็นดูมากเลยครับ"

     

     

    "ลูซิเฟอร์ๆดูสิๆมีน้องนกด้วยล่ะเราจับได้มั้ย"เจ้าของผมสีดำผงกหัวทีนึงก่อนจะวางร่างเล็กลงบนพื้นก่อนที่มิเกลมาย่อตัวไปเล่นกับนกน้อย

     

     

    "ดูนายจะเอ็นดูองค์ชายไม่น้อยเลยนะ"ทาซ่าเอ่ยแซะแต่ลูซิเฟอร์กันเสียอาการกว่าที่คิดไว้นี้สิหน้าก็แดงหูก็แดงองค์รักษ์แสนอ่อนโยนคนนี้มีมุมแปลกๆเหมือนกันแหะ

     

     

    "เขาเหมือนกับกระต่ายตัวน้อยๆที่น่าถนุถนอมและน่าปกป้อง.."ร่างสูงว่าอย่างนั้น

     

     

    "พวกคุณเหนื่อยมั้ยไม่ต้องตามเราตลอดก็ได้นะครับ"มิเกลเดินตุ่ยๆมาพร้อมกับนกน้อยเกาะอยู่ตรงไหล่

     

     

    "พวกผมไม่เหนื่อยครับอีกอย่างมันเป็นหน้าที่พวกเราต้องปกป้องท่าน"ร่างสูงยิ้มอ่อน

     

     

    "ถ..ถ้าพวกคุณเหนื่อยจะพักก็ได้ครับ...คือเรามีเรื่องสงสัย"

     

     

    "ครับ?"

     

     

    "ทำไมลูซิเฟอร์มีหูแหลมล่ะฮะ"นี้เป็นสิ่งที่มิเกลสงสัยมานานแล้วตั้งแต่พบเจอกับองค์รักษ์เอกแต่แล้วคำถามนี้กลับทำให้ร่างสูงทั้งสองชะงักจนร่างเล็กเริ่ม

     

     

    "ระ..เราขอโทษเราไม่รู้ว่าถามไม่ได้.."ลูซิเฟอร์ยังไม่ทันพูดอะไรเขาก็สังเกตุเห็นร่างเล็กกำลังสั่นเทามือทั้งสองกำขากางเกงแน่นลูซิเฟอร์เห็นท่าว่าไม่ดีแล้วเขาก็ย่อตัวลงตรงหน้า


     


     

    "ถามได้สิครับอืมม ท่านยังอยากรู้มั้ยว่าทำไมหูของผมถึงเป็นแบบนี้"มิเกลพยักหน้าดวงตากลมเริ่มแดงๆแต่ก็ได้มือใหญ่ลูบเบาๆ


     


     

    "ผมเป็นเอลฟ์ครับ"


     


     

    "อะ...เอลฟ์..เพิ่งเคยเห็นตัวจริงคุณอ่อนโยนมากเลย"คนถูกชมได้ยินก็ยิ้มออกมา


     


     

    "ขอบคุณครับ"


     


     

    "กรรรรรร"

     

     

    เสียงคำรามดังมาแต่ไกลจากมังกรตัวใหญ่ยักษ์ลำตัวสีดำดวงตาสีทองคล้ายคาเตอร์แต่มิเกลรู้สึกว่าไม่ใช่ มังกรตนนั้นมาจากฟ้าพุ่งลงพื้นจนฝุ่นดินกระจายดีที่ลูซิเฟอร์และทาซ่าเอาตัวมาบังมิเกลไว้เลยไม่โดน

     

     

    "แค่กๆ"เสียงไอจากร่างเล็กในอ้อมแขนใหญ่

     

     

    "องค์ชายไม่เป็นไรนะคะ"ทาซ่าปัดฝุ่นตรงชุดและหมวกให้มิเกลก็ส่ายหน้าไปมา

     

     

    "ฝ่าบาทระวังหน่อยครับ"ลูซิเฟอร์หันไปบอกมังกรร่างใหญ่ก่อนที่เชาจะขำออหมา

     

     

    "ฮ่าๆโทษทีๆไม่เป็นไรนะมิเกล?"มังกรตนนั้นเสียงคุ้นมากเลย มิเกลเริ่มงง

     

     

    “ท่านลุงหรอฮะ?”

     

     

    “ทายถูกซะด้วยแบบนี้คงต้องให้รองวัลหน่อยล่ะ”พูดจบก็คืนร่างเป็นมนุษย์ดังเดิมก่อนจะเดินตรงมาที่พวกเขา

     

     

    “อะไรหรอคะ…อื้อ!?”จู่ๆมือใหญ่ของคาร์โล่ก็จับท้ายถอยมิเกลแล้วดึงมาจูบเพียงแต่ลิ้นหนาสอดเข้าไปในโพรงปากอุ่นร่างเล็ก็แทบจะล้มลงไปแล้ว

     

     

    “ฝ่าบาท!ท่านไม่ควรทำนะครับ!”ลูซิเฟอร์ดันตัวคาร์โล่ออกแบ้วชิงร่างเล็กมาตอนนี้สติหลุดหปแล้วองค์รักษ์เอกรีบเช็ดน้ำลายมุมปากเล็กให้ซึ่งไม่รู้ว่าของใครกันแน่

     

     

    “เขาเป็นหลานฉันฉันจะจูบจะหอมแล้วจะทำไม?ฮ่าๆ”

     

     

     

    “ก็ไม่ทำไมหรอก…ท่านพี่

     

     

    “ชะอุ้ย!”คาร์โล่สะดุ้งก่อนจะค่อยๆหันไปด้านหลังตอนนี้น้องชายเขากำลังทำหน้ายักษ์!?ใส่เขาน่ะสิ๊! ขนาดมิเกลยังกลัวไปกอดคอลูซิเฟอร์เลย

     

     

    "คะ..คะ..คะ..คาร์เตอรน้องรักกเคลียงานเสร็จแล้วหรออ"คาร์โล่เหงื่อตกเลิ่กลั่กไปมาแต่น้องชายกลับเมินซะงั้น

     

     

    "คาร์เตอร์เมินฉันอ่า!"

     

     

    "หิวรึป่าวเที่ยงแล้วนะ"ร่างสูงรับมิเกลจากองค์รักษ์มาอุ้มเอง

     

     

    "ยังไม่หิวเลยฮะผมยังอยากเดินเล่นต่อ!"

     

     

    "ติดเล่นจังกระต่ายน้อย~"เจ้าของผิวเข้มเอ่ยพร้อมหยิกแก้มนิ่มไปที

     

     

    "หนูไปกินข้าวเที่ยงก่อนมั้ยแล้วปะป๊าจะพามาเล่นต่อ"

     

     

    "ปายๆกินข้าวกันคับบ"ร่างเล็กยิ้มแฉ่งดั่งพระอาทิตย์จากเด็กที่แผลเต็มตัวและซึมเศร้าพอมาเจอกับคาร์เตอร์เขาดูสดใสขึ้นกว่าเดิมมาก เห็นแบบนี้คาร์เตอร์ก็หายห่วง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ตกดึก

     

    ตอนนี้คาร์เตอร์ได้สั่งให้คนมาทำความสะอาดและจัดห้องให้มิเกลเรียบร้อยภายในมีเฟอร์นิเจอร์ครบครันและชุดเสื้อผ้าอีกมากมาย

     

     

    เหล่าพี่สาวสี่คนก็นึกว่าคาร์เตอร์เลี้ยงเด็กผู้หญิงเพราะของแต่ล่ะอย่างก็เหมาะกับเด็กผู้หญิงเสียด้วยแต่หากมิเดลใช้ของพวกนี้คงจะน่ารักไปน้อยเลย

     

     

    “หนาวหรือไม่เพคะ”โซเฟียเอ่ยถามพร้อมกับจัดผ้าห่มให้คลุมตัวเล็กดีๆ

     

     

    “ไม่ครับ”มิเกลส่ายหน้าแล้วยิ้มแฉ่งให้

     

     

    “งั้นจะดับเทียนเลยนะคะ”ร่างเล็กสะดุ้งทันทีเมื่อรู้ว่าจะถูกดับไฟเพราะมิเกลนั้นรู้ตัวดีว่าตนกลัวความมืดไม่น้อยแต่ก็ไม่อยากขัดโซเฟียเพราะเธออาจจะโดนตำหนิ

     

     

    “อะ…อื้ม”

     

     

    “ไม่ชินที่หรือปล่าวคะให้หม่อมฉันนอนด้วยไหมคะ”

     

     

     

    “อะ…”

     

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

     

     

     

    “ใครกันนะ”โซเฟียผละจากร่างบนเตียงแล้วตรมาที่ประตูแทน เพียงเปิดออกมาก็พบว่าเป็นฮันน่านี้เอง

     

     

    “โซเฟียคุณบาสเตียนขอพบน่ะ”ฮันน่าว่า

     

     

    “เข้าใจแล้ว รอสักครู่”

     

     

    โซเฟียเดินมาจัดผ้าห่มและหมอนให้ก่อนที่เธอจุ๊บที่ขมับเบาๆและดับเทียน”ราตรีสวัสดิ์เพคะ”

     

     

    “ราตรีสวัสดิ์ครับ”ปากบางยิ้มบางๆ

     

     

     

    และแล้วเขาก็อยู่คนเดียว…ในห้องมืดๆจู่ๆความทรงจำในตอนที่อยู่บ้านเก่าๆก็ผุดขึ้นมาทั้งเหล่าคนใช้ที่พร้อมจะทำร้ายร่างกายเสมอและแม่ของเขาที่พร้อมจะระบายอารมณ์ใส่…ในห้องที่มืดมิดมองไม่เห็นสิ่งใดรับรู้เพียงความเจ็บตามร่างกายเพียงเท่านั้น

     

     

    “ฮึก…อึก…”เสียงใสกลั้นสะอื้นไม่หยุดนี้ก็ดึกแล้วเขาไม่อยากรบกวนใคร…

     

     

    ตึก ตึก ตึก

     

     

    จู่ๆก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอกสติของมิเกลเริ่มไม่เป็นสุขคิดไปต่างๆนาๆว่ามารดาหรือคนใช้ที่บ้านเก่าจะมาตีตนมิเกลเนื้อตัวเริ่มสั่นมือเล็กรีบเอาผ้าห่มคลุมหัว

     

     

    “กระต่ายน้อย? เป็นอะไรหรือ?”ดวงตากลมเลิกกว้างด้วยความตกใจคนที่เรียกตนด้วยสรรพนามนี้คงมีคนเดียว

     

     

    “ทะ…ท่านลุง…ฮึก”เมื่อเปิดผ้าห่มออกมาก็พบว่าร่างเล็กนั้นดวงตากลมสีแดงสดมีน้ำตาคลอหน่วงจนแทบล้น เจ้าของผิวสีเข้มรีบอุ้มมิเกลมานั้งตักปลอบประโลมลูบหลังลูบหัวและคอยเช็กน้ำตาให้

     

     

    "โอ๋ๆไม่ร้องนะกระต่ายน้อยลุงอยู่นี้"มิเกลกอดคอร่างสูงไม่ปล่อยทั้งน้ำมูกน้ำตาไหลเปรอะเปื้อนเสื้อคนตัวใหญ็ไปหมด

     

     

    "ฮึก...ฮืออ...ผมกลัว..อึก"

     

     

    "กลัวอะไรครับคนเก่ง"

     

     

    "มะ..มัน..."มิเกลพูดตะกุกตะกักถ้าเกิดบอกไปเขาจะหาว่าเราไร้สาระรึป่าว

     

     

    "บอกมาเถอะไม่งั้น..ฉันจะหนีไปนอนแล้วนะ"ได้ยินแบบนั้นมิเกลก็ลุกลี้ลุกลนใหญ่

     

     

    "ผะ...ผมกลัวความมืดครับ!..ฮือออ"ว่าแล้วก็ปล่อยโฮออกมาคาร์โล่ตกใจไม่น้อยที่เด็กตรงหน้าปล่อยโฮออกมาไม่รอช้าเขาอุ้มร่างเล็กมาไว้ในอกมือใหญ่คอยลูบหลังลูบหัวนุ่มไปมา

     

     

    "ไม่ร้องนะคนเก่ง ลุงจะมานอนด้วย..ดีไหม"

     

     

    "หงึ..ฮึก..ดีคับ...อึก"ริมฝีปากหนาเผยยิ้มออกมาก่อนจะหอมหน้าผากสวยและเกลี่ยน้ำตาให้

     

     

    "งั้นกระต่ายน้อยต้องหยุดร้องก่อนนะ"มิเกหยุดร้องแล้วฮึบทันทีแต่ก็มีสะอื้นอยู่บ้างท่าทางน่ารักๆทำเอาคาร์โล่จิตตกไปอยู่ตรงตาตุ่มหลานชายเขาจะน่ารักเกินไปแล้ว!!อนาคตข้างหน้าอาจจะเป็รมากกว่านั้นก็ได้ หึๆ

     

     

    เมื่อดวงไฟดับลงึวามืดก็คืบึลานเข้ามาหากแตทมิเกลไม่ได้สั่นกลัวแต่ใดๆเนื่องจากร่างใหญ่ของคาร์โล่กอดเขาไว้แน่นอย่างกับกอดตุ๊กตาคืนนี้กระต่ายตัวน้อยคงหลับฝันดีเสียแล้ว

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    รุ่งสาง

     

    ณ ห้องทำงานของคาร์เตอร์

    ร่างสูงกุมขมับตนในห้องทำงานพร้อมใบหน้าเคร่งเครียดเอกสารมากมายบนโต๊ะทำเอาเขาไม่ได้หลับไม่ได้นอน ตอนนี้เขาต้องการเพียงกาแฟหรือชาเท่านั้นแต่ในหัวกลับคิดถึงร่างเล็กมากกว่า

     

     

    "บาสเตียน"

     

     

    "ครับ?"เมื่อได้ยินเสียงเรียกเชาก็เปิดประตูเช้ามาทันที

     

     

    "มิเกลยังนอนอยู่สินะ"คาร์เตอร์

     

     

    "ครับแต่ว่าท่านคาร์โล่ก็ทรงบรรทมอยู่ด้วยนะครับ"ปลายปากกาหยุดชะงักทีนทีเมื่อได้ยินคาร์เตอร์วางปากกาลงและตรงไปยังห้องนอนของร่างเล็ก

     

     

    "..."

     

     

     

     

     

    ห้องของมิเกล

     

    "ฟินจังน้า~ได้นอนกอดกระต่ายน้อยแบบนี้~"

     

     

    คาร์โล่ยิ้มแย้มแต่เช้าเมื่อลืมตาตื่นเห็นร่างเล็กนอนขดอยู่ในตัวเขาใจมันก็รู้สึกนุ่มฟูวอย่างบอกไม่ถูก อย่างกับกระต่ายตัวน้อยกำลังหาที่อุ่นๆยังไงยังงั้นแหละ

     

     

    ปั้ง!!!

     

     

     

    ท่านพี่

     

     

    “จ้ากกกกก!!!!คาร์เตอร์!?”คาร์โล่ตกใจทำตัวไม่ถูกจนเขาถอยหลังตกเตียงไป

     

     

     

    “ทำไมท่านถึงมาอยู่กับมิเกลได้”ผู้เป็นน้องเดินมานั่งที่เตียงกว้างโดยมีพี่ชายตนที่กำลังเหวออยู่

     

     

    “ก็ตอนที่ฉันกำลังจะไปห้องนอนฉันผ่านห้องกระต่ายน้อยพอดีเลยกะจะเข้ามาดูสักหน่อย แต่พอเข้ามาก็เห็นเขานอนคลุมโป่งร้องไห้หนักเลยล่ะ”ดวงตาสีทองเบิกกว้างด้วยความตกใจพลางมองใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กน้อยบนเตียง

     

     

    “พอฉันถามว่าเป็นอะไรกระต่ายน้อยบอกว่า กลัวความมืดน่ะ”

     

     

    “ท่านเลยมานอนเป็นเพื่อนเขาสินะ”มือใหญ่ลูบหัวทุยไปมา

     

     

    “อ่าห้ะ”

     

     

     

    “…เฮ้อ ยามเขาเจ็บปวดผมไม่สามารถอยู่ข้างๆมิเกลได้…ผมมันแย่จริงๆ”คาร์เตอร์กุมขมับคิ้วขมวดจนติดกันสีหน้าของเขาตอนนี้เจ็บปวดไม่น้อย คาร์โล่มองน้องชายตนที่เครียดยิ่งกว่างานตนเองน้องเขาไม่เคยเป็นแบบนี้แสดงว่าคาร์เตอร์ต้องรักมิเกลมากแน่ๆ

     

     

     

    “อื้อ?..ปะป๊า?”ร่างสูงได้ยินเสียงใสก็ผุดจากความคิดตนมาอุ้มร่างเล็กขึ้น

     

     

    “ปะป๊าขอโทษนะ มิเกลตื่นเลย”มิเกลส่ายหน้าไปมามือเล็กขยี้ตาตนเองพลางหาวนอนสองพี่น้องมองเด็กตรงหน้าด้วยความเอ็นดู

     

     

    “ไม่ครับ ปะป๊าหน้าเครียดจังเป็นอะไรหรอคร้บ”

     

     

    “อ่า..ปะป๊า….ขอโทษนะที่ปล่อยให้เธอนอนคนเดียวทั้งๆที่เธอกลัวความมืด…”มิเกลอึ้งหน่อยๆสงสัยท่านลุงเป็นคนบอกแน่ๆ ร่างเล็กกระโดดกอดคอหนาเต็มแรงคาร์เตอร์ตกใจเล็กน้อยก่อนจะกอดกลับ

     

     

    “ปะป๊าไม่ผิด มิเกลผิดเองที่ไม่บอก”

     

     

    “โอ๋ๆกระต่ายน้อยอย่าพูดแบบนี้สิไม่มีใครผิดหรอกนะ ยิ้มๆหน่อย”คาร์โล่ลุกจากเตียงมาพูดด้วยอีกคนเขาบีบแก้มนิ่มทั้งสองข้างไปมาด้วยความหมั่นเขี้ยว คนเป็นน้องเห็นก็ส่ายหน้าไปมาด้วยความหน่าย

     

     

    “ท่านพี่ ท่านรีบไปเตรียมตัวได้แล้ววันนี้เรามีนัดกับตระกูลแบรดฟอร์ดนะ”

     

     

    “แย่ล่ะข้าลืม!”เจ้าตัวกระสับกระส่ายไปมาแล้วเดินวนในห้อง

     

     

    “มีนัดหรอฮะ?”

     

     

    “อืม วันนี้คงไม่ได้ทานมื้อเช้าด้วยกันปะป๊าจะรีบกลับมานะ คงตอนบ่ายเลยน่ะ…อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม”คาร์เตอร์เอ่ยถามความเป็นจริงเขาก็อยากพามิเกลไปเปิดหูเปิดตาเพียงแต่ เอียน หมอหลวงของวังบอกมาว่าร่างกายมิเกลยังฟื้นตัวไม่ดีนักจากครั้งที่ตรวจล่าสุด

     

     

    “ได้ฮะ! ปะป๊าสู้ๆตั้งใจทำงานนะฮะ!”เสียงใสว่าจบตัวก็เขยิบไปหอมแก้มของปะป๊าบุญธรรม ใบหน้าคมขึ้นริ้วแดงทันทีเมื่อยิ่งมองมิเกลที่ยิ้มแฉ่งให้เขา ตัวเขาก็ยิ่งทวีคูณความเขินสิ

     

     

    "ไม่อยากไปแล้ว..."

     

     

    "อะ..เอ๊ะ...ปะป๊า?"

     

     

    "พี่ชายขอกอดกระต่ายน้อยมั้งสิ๊~"

     

     

    "ไปเตรียมตัวท่านพี่"

     

     

    "...คาร์เตอร์ใจร้าย!"

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Tbc

    >ยังไม่แก้คำผิดน้า

    >ฝากกดติดตาม กดใจ คอมเม้นต์ให้หน่อยน้า

    ลุงคาร์โล่พยายามกว่านี้นะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×