คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ดอกไอวี่ 100%
ดอกไอวี่
ดอกไอวี่ เป็นดอกไม้ที่เป็นตัวแทนแห่งความซื่อสัตย์และมั่นคงในรัก แต่ถ้าผู้ชายคนไหนต้องการขอผู้หญิงแต่งงานลองส่งดอก ไอวี่แทนใจก็ได้ เพราะอีกนัยหนึ่ง หมายถึงการขอแต่งงาน
วันนี้ก็คงจะเป็นอีกวันที่เธอต้องอยู่อย่างเหงาๆเช่นเคย เวลาที่ได้อยู่ใกล้ชิดกันทำไมมันถึงได้ลดน้อยถอยลงไปทุกวัน ได้อยู่ใกล้หนึ่งวันก็เหมือนหนึ่งนาที มิน่าล่ะถึงมีคนบอกว่าเวลาที่กำลังมีความรักและได้อยู่ใกล้คนที่เรารักมันมีความสุขจนอยากให้เวลาแห่งความสุขเหล่านั้นผ่านไปช้าๆ ทว่าก็คงเป็นได้แค่ความคิด
หากมีใครถามว่าเธอรักเขาไหม ตอนนี้หญิงสาวคงจะตอบได้อย่างเต็มใจเลยว่า ‘รักเขา’ รักโดยไม่สนว่าเขาจะใช่ผู้ชายแท้ๆหรือไม่ รักโดยไม่สนว่าเขาจะรักเธอบ้างหรือเปล่า ขอแค่เพียงได้ใช้ชีวิตแบบนี้ร่วมกับเขาตลอดไปก็เพียงพอแล้วสำหรับชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากจะแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา มีความรักสักครั้งหนึ่งในชีวิต และมันก็ช่างน่าอัศจรรย์เมื่อผู้ชายคนนั้นทำให้เธอรู้ว่าชีวิตคู่มันช่างแสนวิเศษณ์มีทั้งทุกข์และสุขปะปนกันไป ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นยังต้องใช้ความเข้าใจและความอดทนเข้าช่วยเพื่อประคับประคองชีวิตคู่ให้ยืนนาน
แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนต้องมีพื้นฐานมาจากความรักทั้งสิ้น เมื่อมีความรัก ก็จะมีความเข้าใจ ความเชื่อมั่นในตัวของอีกฝ่ายตามมาหากสิ่งเหล่านี้นั่นขาดหายไปจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้วล่ะก็มันก็คงจะหมายถึงคำว่ารักที่หมดตามลงไปด้วย เช่นนั้นการจะรักษาทั้งความรักและสิ่งเหล่านี้เอาไว้ก็ขึ้นอยู่ตัวของบุคคลสองคนเท่านั้น
“เวลาไม่มีคุณแล้วทำไมมันเหงาอย่างนี้นะ”โรศิชาบ่นอุบอิบเมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศในบ้านมันอึดอัดน่าเบื่อขึ้นมาทันทีที่ผู้เป็นสามีก้าวออกไปจากบ้าน ถึงจะไม่อยากให้ไปแต่ก็คงทำไม่ได้ในเมื่อเขามีภาระหน้าทีมากมายที่ต้องสะสาง ส่วนเธอก็มีงานที่เธอต้องทำ ต่างคนต่างก็มีภาระบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป
แต่เธอจะไม่คิดมากเลยถ้าไม่ติดว่าเขานั้นยังไม่สบายอยู่ร่างกายก็ยังไม่ฟื้นตัวดีสักเท่าไหร่ก็ต้องไปโหมงานหนักซะแล้ว ยิ่งดันทุรังร่างกายก็จะยิ่งแย่ ทว่าสามีขาของเธอกลับฟังซะที่ไหน ยังดื้อดึงว่าจะออกไปทำงานเสียให้ได้ นอกจากจะขี้น้อยอกน้อยใจเป็นที่หนึ่งแล้วยังไม่วายบ้างานอีกแน่ะ คิดแล้วกลุ้ม
เอาล่ะเพื่อเป็นการคลายความเบื่อแวะไปที่ร้านดอกไม้ซะหน่อยก็คงจะไม่เสียหายอะไร นานหลายวันแล้วด้วยที่โรศิชาไม่ได้ย่างกายเข้าไปดูงานที่ร้านดอกไม้ของตนเองและสามีที่ร่วมกันสร้างมันขึ้นมาด้วยความรัก วันนี้คงได้ฤกษ์ได้ยามที่จะเข้าไปจัดการอะไรๆให้มันเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้
เมื่อคิดได้ดังนั้นหญิงสาวร่างเพียวก็ก้าวเท้ายาวๆไปที่รถของตนเองทันทีก่อนจะขับออกไปด้วยความเร็วสูง เนื่องจากเธอเป็นคนชอบอะไรที่มันรวดเร็วทันใจ ถึงได้แต่งงานกับสามีสุดที่รักอย่างรวดเร็วทันใจ
คงเพราะนิสัยส่วนนี้แท้ๆที่ทำให้เธอได้สามีที่น่ารักอย่างเขามาครอบครอง แสยะยิ้มร้ายคล้ายนางมาร
วันนี้สุดที่รักเข้ามาทำงานตามปกติ ถึงร่างกายจะไม่ค่อยเอื้ออำนวยสักเท่าไหร่แต่ชีวิตนับร้อยย่อมสำคัญกว่าเสมอ อีกอย่างเขาก็เป็นถึงผู้บริหารจะให้หยุดลางานหลายๆวันมันก็คงจะไม่เหมาะสม และมันก็คงไม่ใช่วิสัยของผู้บริหารที่ดี ที่สำคัญสุดก็คือเขารักโรงแรมนี้มากเมื่อมันคือตัวแทนของความรักของบิดาและมารดาของเขาที่ร่วมกันก่อตั้งขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงท่าน มันจึงเป็นดังครึ่งชีวิตของสุดที่รักเลยก็ว่าได้ ส่วนทั้งดวงใจเขาได้ยกให้ภรรยาที่รักไปเสียจนหมดแล้ว
ไม่น่าเชื่อ และไม่น่าเชื่อ ว่าความรักที่ก่อเกิดจากความผูกพันแบบพิลึกพิลั่นจะทำให้ชายหนุ่มต้องยอมจำนนกลืนน้ำลายลงขมๆลงคอ คำสัญญาและคำปฏิญาณตนในวันนั้นไม่มีความหมายอะไรอีกต่อไปแล้ว เมื่อวันนี้เขาไม่สามารถทำใจให้ไม่รักเธอได้จริงๆ
โรศิชาเธอแตกต่างจากผู้หญิงที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตของเขา เธอแตกต่างในทุกๆด้านแม้แต่ความคิด บางทีก็ดูเป็นผู้ใหญ่ แต่บางคราวบางครั้งก็ดูเป็นเด็กอมมือ แต่ไม่ว่าเธอจะเป็นยังไงหัวใจของเขาก็พร่ำบอกว่าเธอคนนี้นี่แหละคือ ‘คู่ชีวิต’ของเขา
ซึ่งความหมายของคู่ชีวิต ในความคิดของชายหนุ่มไม่ใช่แค่คนที่จะต้องนอนร่วมห้องกันทุกคืน ไม่ใช่คนที่ต้องตื่นมาเห็นหน้ากันทุกวัน แต่คือคนที่พร้อมจะยืนหยัดอยู่เคียงข้างกายกันและกันในวันที่อีกฝ่ายนั้นรู้สึกแย่ เหมือนที่เธอคนนั้นยืนเคียงข้างเขามาตลอด
“ท่านประธานค่ะท่านประธาน”เสียงหวานใสของมาลารินเลขาสาวสวย บุคลิกเรียบร้อย สมเป็นกุลสตรีไทยทุกประการ ประวัติไม่เคยด่างพล้อย ตั้งใจทำงานและที่สำคัญเธอเป็นคนดี พนักงานทั้งบริษัทไล่ตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปจนถึงระดับคนทำความสะอาดต่างก็รู้ดีว่า มาลารินแอบชอบสุดที่รักอยู่ หากแต่เขาก็เมินเฉยใส่เธอดังเช่นผู้หญิงทุกคน
ถึงได้มีคนแปลกใจนักหนาว่าเขาเมินเฉยกับผู้หญิงทุกคนได้แต่ทำไมกับภรรยาสุดที่รักแล้วเขากลับดูแลเอาใจสารพัด เหตุผลง่ายๆที่เขาไม่ต้องการให้ใครรู้แต่เขาย่อมรู้อยู่แก่ใจนั่นก็คือเขา ‘รัก’เธอตั้งแต่แรกเห็น
มีใครบางคนเคยบอกว่าผู้ชายเวลาอยากจะมีความรักก็มักจะเริ่มนับจากร้อยลดลงมาเรื่อยๆจนถึงศูนย์ แต่สำหรับผู้หญิงเริ่มนับจากศูนย์ขึ้นไปจนถึงร้อย ทว่าคำกล่าวนี้มันตรงข้ามกับหัวใจของเขาโดยสิ้นเชิงเมื่อเขาเริ่มนับจากค่าติดลบมาจนถึงร้อยต่างหาก เธอเปลี่ยนให้ผู้ชายที่กลัวความรักอย่างเขากล้าที่จะมีความรักกล้าที่จะรักใครสักคน แต่ความกล้าเหล่านั้นมันมีไว้เพื่อเธอเพียงผู้เดียว โดยไม่เหลือแม้เศษเสี้ยวให้กับคนอื่น
“มีอะไรครับคุณริน”
“คือว่าเมื่อวานที่ท่านประธานไม่เข้าบริษัท เป็นอะไรมากหรือเปล่าค่ะ รินแค่เป็นห่วงน่ะค่ะได้ข่าวมาว่าท่านประธานไม่สบาย”มาลารินเอ่ยพรางก้มหน้าซ่อนสายตาความห่วงใยของตนเองเอาไว้ แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่รักไม่สนใจแต่เพราะหัวใจมันบังคับกันไม่ได้เธอจึงต้องปล่อยให้มันเป็นเข็มทิศนำทางความรู้สึกต่อไป แม้จะรู้ว่าผิดแต่เพราะความรักที่มีมันทำให้เธอยอม ยอมแม้กระทั่งเอาความเจ็บปวดเข้าแลก
“ผมไม่เป็นอะไรมากหรอกครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับคุณริน ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว”ชายหนุ่มตัดบทพรางจะเดินหนีทว่าเสียงใสๆนั้นขัดความต้องการเขาขึ้นซะก่อน
“ดะ...เดี๋ยวก่อนสิค่ะท่านประธาน คือว่าเอ่อ”สุดที่รักหันมาจ้องหน้าเลขาสาวด้วยความแปลกใจเมื่อน้ำเสียงของเจ้าหล่อนดูตื่นเต้นพิกล อีกทั้งร่างเล็กที่ดูจะสั่นๆเล็กน้อยจนเขาผิดสังเกต
“มีอะไรครับคุณริน”
มาลารินไม่ได้เอ่ยอะไรไปมากกว่า แต่กลับยืนดอกกุหลาบตูมสีแดงสดสองดอกให้แก่บุรุษหนุ่มที่เธอแอบรัก ก่อนจะวิ่งจากไปจนลับสายตาของเขา สุดที่รักมองดอกไม้ในมือของตนอย่างงงๆไม่เข้าใจเนื่องด้วยว่าหญิงสาวนั้นให้ดอกไม้กลับเขาในโอกาสอะไร และให้เพื่ออะไร อีกอย่างดอกไม้นี้มีมันต้องมีความหมายพิเศษแน่ๆ
เขาเก็บความข้องใจเอาไว้ในใจ ก่อนจะเดินถือดอกกุหลาบปริศนานั้นเอาไว้ในมือเข้าไปยังห้องทำงานของตนท่ามกลางสายตาหลายคู่ของพนักงานที่แอบกระซิบกระทราบนินทาไปตามประสาซึ่งเขาก็รู้สึกชินแล้วเหมือนกันกับพฤติกรรมเหล่านี้ของพนักงานตัวเอง แต่ก็จนหนทางที่จะห้าม
สุดที่รักเดินมานั่งที่โต๊ะทำงานผู้บริหารอย่างเชื่องช้า ชายหนุ่มรู้สึกปวดศรีษะข้างขวาหน่วงๆคล้ายคนที่พักผ่อนไม่เต็มที่ ก็จะเต็มที่ได้อย่างไรกันล่ะก็เมื่อคืนนี้คุณภรรยาคนสวยของเขานอนดิ้นเกือบทั้งคืน แถมยังเกือบเตะเขาตกเตียงอีก แต่มันก็เป็นมุมน่ารักๆที่เขาได้เห็นและก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจว่าหล่อนจะสามารถเป็นภรรยาที่ดีให้เขาได้จริงๆในอนาคตอันใกล้นี้เอง
สำหรับคนอื่นอาจจะคิดว่ามันช้าไปหรือเปล่าสำหรับการเริ่มต้นชีวิตคู่แต่สำหรับเขาแล้วไม่เลยมันอาจจะเร็วไปเสียด้วยซ้ำ หนึ่งปีสำหรับความใกล้ชิดและหนึ่งปีสำหรับการเรียนรู้ซึ่งกันและกันมันมีค่ามากกว่าสิ่งใดในโลก ต่อจากนี้เขาจะไม่ให้ชีวิตคู่ของเขาและหล่อนเป็นเพียงเรื่องโกหกลวงโลกอีกต่อไป แต่เขาจะใช้ชีวิตคู่ฉันท์สามีภรรยากันจริงๆเสียที
“มันคงจะถึงเวลาแล้วสินะ ที่เราจะเป็นสามีภรรยากันจริงๆซะทีโรศิชา”น้ำเสียงแผ่วเบาแต่เปี่ยมล้นไปด้วยพลังแห่งความหวัง หวังว่าเธอนั้นจะอยากร่วมเรียงเคียงหมอนกับเขาไปในทุกคืนเหมือนที่เขาคิด
มือหนาหยิบกรอบรูปวันแต่งงานที่อยู่บนโต๊ะทำงานขึ้นมาพินิจมอง วันเก่าๆความรู้สึกเก่าๆมันมีความหมายเสียทุกนาที ทว่าวันนี้คงไม่มีอีกแล้วความรู้สึกเฉยชาที่เขาเคยมีให้กับหล่อน จะมีก็แต่ความรู้สึกที่เรียก ‘รักและผูกพัน’ ให้กันเท่านั้น
ร้านดอกไม้ที่ไม่ได้ดูหรูหราอะไรมากมายถูกตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม ดูสบายตา ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เป็นอย่างดีไม่เพียงเท่านั้นมันยังแฝงเร้นไปด้วยความหมายมากมาย หากมองแค่เพียงภายนอกมันก็อาจจะดูเป็นร้านขายดอกไม้ธรรมดาๆร้านหนึ่ง แต่หากมองลึกเข้าไปจะรู้ว่าดอกไม้ทุกดอกในร้านแห่งนี้มีความหมายซ่อนอยู่
“พี่โรสค่ะ วันนี้พี่รักไม่มาด้วยเหรอค่ะ”เสียงของพนักงานสาวรุ่นน้องวัยสิบเก้าหยกๆเอ่ยถามขึ้นในขณะที่หญิงสาวกำลังก้มหน้าก้มตาทำบัญชีรายรับรายจ่ายของร้านอย่างขะมักเขม้นเนื่องจากไม่ได้เข้ามาสำรวจดูความเรียบร้อยภายในร้ายหลายวัน
“วันนี้พี่รักงานยุ่งน่ะค่ะน้องหนึ่ง ไม่สบายแล้วยังดื้อจะไปทำงาน”โรศิกล่าวด้วยน้ำเสียงเนือยๆเมื่อนึกถึงสามีจอมดื้อ คอยดูเถอะแม่จะสั่งสอนเสียให้เข็ด
“พี่สองคนดูเหมาะสมกันดีจังเลยนะค่ะ”น้ำหนึ่งพูดยิ้มๆแต่ทำเอาโรศิชามึนตึบเลยทีเดียว
เหมาะสมก็คงจะจึง เหมาะสมกันอย่างกับผีเน่าและโลงผุล่ะสิไม่ว่า
“อ๋อ...ค่ะ เหมาะสมกันเนาะ ว่าแต่น้องหนึ่งล่ะค่ะมีหวานใจหรือยังเอ่ย เห็นช่วงนี้เหม่อลอยเป็นพิเศษเลยนะเรา”หญิงสาวเอ่ยแซวๆเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องของตัวเอง
“แหม พี่โรส หนึ่งยังไม่มีใครหรอกค่ะ ผู้ชายสมัยนี้ไว้ใจได้ซะที่ไหน”น้ำหนึ่งมีใบหน้าเจื่อนลงจนเกือบซีดเมื่อเจอคำถามแทงใจดำเข้าเต็มๆ
“พี่ก็ว่าอยู่ ผู้ชายสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้สักนิด ยังไงน้องหนึ่งก็ต้องระวังตัวไว้นะค่ะ”โรศิชาเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี
“ที่หนึ่งหมายถึงไม่ได้น่ากลัวแบบนั้นหรอกค่ะพี่โรส แต่น่ากลัวจะเป็นอีแอบตะหากล่ะค่ะ”โรศิชาหน้าเหวอเลยทันที
ตายแล้ว!ทำไมต้องเอาคำพูดอันแทงใจดำมาบอกกับเธอด้วย ตอนนี้สมองของหญิงสาวประมวลผลได้แต่คำว่า ‘อีแอบ’เต็มไปหมด หึ่ม...เอาเรื่องจริงมาพูดทำไมเนี่ย
“งะ...งั้นหรือค่ะน้องหนึ่ง”
“ใช่เลยค่ะพี่โรส ระวังพี่รักจะเป็นอีแอบนะค่ะ น่ากลัวที่สุดเลย”น้ำหนึ่งแกล้งหยอก แต่หญิงสาวกลับไม่ขำนี่สิ ก็เธอรู้มาตั้งแต่ก่อนแต่งงานแล้วว่าเขาเป็นเกย์ แล้วตอนนี้ก็หลงรักเกย์เข้าแล้วเต็มหัวใจ ทำไม๊ทำไมต้องมารื้อฟื้นความหลังอันน่าเจ็บปวดด้วยเล่า
“พี่ว่าคะ...คงไม่หรอกมั้งค่ะพี่รักเขาน่าจะปะ...เป็น”เธอติดอ่างขึ้นมาอย่างกะทันหันจะปฏิเสธว่าสามีไม่ได้เป็นมันก็ขัดกับความรู้สึกของเธอไปเยอะเลย ถึงแม้พักหลังๆมานี้เธอจะคิดว่าเขาเป็นแมนเต็มตัวแล้วก็เถอะ แต่ขาจะกลับไปเป็นเกย์อีกเมื่อไหร่ใครจะไปรู้
“หนึ่งแค่ล้อเล่นเองทำไมพี่โรสต้องจริงจังไปได้ ดูก็รู้ว่าพี่รักน่ะแมนเต็มร้อย”
“พี่ก็ว่างั้นค่ะน้องหนึ่ง”โรศิชาเหมือนหายใจสะดวกขึ้นเมื่อยกภูเขาก้อนใหญ่ออกจากอกเล็กๆของตัวเอง ได้ทันก่อนที่มันจะโถมทับเธอให้หนักไปกว่านี้ ไม่อย่างนั้นคงจะอึดอัดเจียนขาดใจเป็นแน่ จะให้บอกยังไงล่ะว่าสามีเธอเคยเป็นเกย์มาก่อน
แต่จะโทษใครได้ล่ะก็ในเมื่อเธอเป็นคนที่เลือกจะแต่งงานกับเขาเอง เป็นคนมาขอเขาแต่งงานเองนี่นา แล้วอีตานั่นก็ยังไม่ปฏิเสธอีก ผลก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้นั่นไง แต่ก็เอาเถอะอย่างไรเสียมันก็ไม่ได้แย่ไปหมดทุกอย่าง ชีวิตคู่กับเกย์ก็มีความสุขดีเหมือนกัน
เธอควรจะดีใจสิโรศิชาไม่เสียใจไม่เสียตัว และที่สำคัญมีแต่ความสุข เธอปลอบใจตัวเองโดยที่ยังก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองต่อไปลดความคิดฟุ้งซ่านที่คิดว่าสามีจะกลับมาเป็นเกย์อีกครั้ง
นาฬิกาเข็มยาวชี้เลขหกส่วนเข็มสั้นชี้อยู่ที่เลขสิบสองบ่งบอกว่าได้เวลากลับบ้านของเธอแล้ว โรศิชาหน้างอง้ำอยู่ที่หน้าร้านเมื่อพนักงานหลายคนต่างก็ทยอยกลับบ้านไปทีละคนสองคน ยังเหลือแค่ไม่กี่คนที่กำลังเตรียมจะปิดร้าน ส่วนเธอนะหรือต้องออกมายืนรอสามีขาอยู่ที่หน้าร้าน ถ้าเขาไม่เอ่ยปากบอกว่าจะมารับเธอก็คงจะนั่งรถกลับไปแล้วล่ะ แต่นี่เขาบอกว่าจะมารับจะไม่รอเลยก็ใช่ที่ อีกอย่างหญิงสาวก็รู้ว่าชายหนุ่มนั้นเป็นคนตรงเวลาแต่ทว่าวันนี้เขาจะปล่อยให้เธอรอเก้อหรือไรกัน ครั้นโทรหาเขาก็ไม่รับสาย
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปจากหกโมงจนหนึ่งทุ่มหญิงสาวก็ยังไม่เห็นวี่แววของคุณสามีแม้แต่เงา พนักงานต่างก็กลับบ้านไปกันหมดแล้วก็ยังแต่เธอนี่แหละที่ถูกทิ้งให้รอเก้อ ทั้งที่เขาก็น่าจะรู้ว่าเธอไม่ชอบการรอคอยแต่วันนี้เขาทำให้เธอต้องรอ แต่ถ้าคิดในแง่ดีบางทีสามีของเธออาจจะติดธุระด่วนก็ได้ แต่ก็น่าจะบอกให้รับรู้สักหน่อยก็ไม่ได้
กริ๊งๆ เสียงโทรศัพท์ของโรศิชาในยามนี้เหมือนเสียงที่สวรรค์ประทานมาให้ ได้แต่ภาวนาในใจขอให้เบอร์ที่ขึ้นหน้าจอเป็นเบอร์ของสามีขา และมันก็ใช่จริงๆ ทั้งดีใจทั้งงอน หญิงสาวรีบกดรับทันที
“ฮัลโล ปะป๊าอยู่ที่ไหน ทำไมมารับมะม๊าช้าจัง”โรศิชากระเง้ากระงอดแกมไม่พอใจเล็กๆ
(โอ๊ะโอ...มะม๊าอย่างอนปะป๊าเลยนะ ความจริงปะป๊ามารับมะม๊าตั้งนานแล้วนะ)หญิงสาวชะโงกหน้ามองหาเขาโดยทันที แต่ก็ยังไม่มีวี่แววอยู่ดี ตกลงเขากำลังจะกวนประสาทเธออยู่ใช่ไหม รู้จักโรศิชาน้อยไปซะแล้ว
“ปะป๊าอย่ามาล้อเล่นได้ไหม มะม๊าไม่ตลกด้วยเลยนะ”เธอเค้นเสียงดุ
(เปล่าซะหน่อย ปะป๊าไม่ได้โกหก ถ้ามะม๊าไม่เชื่อเดินมาตามเส้นทางที่มีดอกไม้โปรยอยู่สิ)หญิงสาวฉงนใจแต่ก็ยอมทำตามที่ชายหนุ่มบอก เธอเดินมาตามเส้นทางที่ในสวนสาธารณะที่มีดอกไอวี่โปรยอยู่รอบๆทางเดินเยอะแยะไปหมด
“ดอกไอวี่ ปะป๊ากำลังเล่นตลกอะไรอยู่ บอกมะม๊ามานะ”
(มะม๊าเดินมาเรื่อยๆนะ เดินมาจนกว่าจะไม่เห็นดอกไอวี่)
ความสงสัยแปรเปลี่ยนเป็นความปลื้มใจแทน เมื่อเธอเดินเก็บดอกไอวี่ได้ตอนนี้เก้าสิบแปดดอก เหลืออีกแค่ดอกเดียวก็จะสุดทางเดิน ทว่ามันอยู่ห่างไกลจากดอกอื่นๆมานัก โรศิชาก้าวเดินไปอย่างช้าๆก่อนจะก้มเก็บดอกไอวี่ที่เป็นดอกสุดท้าย ดอกที่เก้าสิบเก้า พรางสอดสายส่ายตามองหาผู้เป็นสามี ก็ยังไม่เจออยู่ดี พลันสายตาอันแหลมคมเหลือบไปเห็นการ์ดเล็กๆที่ติดอยู่กับดอกไอวี่ดอกสุดท้ายที่เธอพึ่งจะเก็บได้ ก่อนจะเปิดอ่านทันที
รู้ไหมว่าทำไมผมต้องให้คุณเก็บดอกไอวี่
ถ้าคุณกำลังสงสัยลองนึกย้อนไปถึงอดีตของสองเราดูสิ
ถ้าหากคุณกำลังมีความสุขให้คุณหลับตาลงนะคนดี
แต่ถ้าหากอดีตของสองเรามันทุกข์ระทมขอให้คุณโยนดอกไอวี่นั้นทิ้งไป
โรศิชาค่อยๆหลับตาลงเปลือกตาคู่สวยปิดสนิทแนบแน่นเมื่อได้หวนนึกถึงอดีตอันแสนมีความสุขนั้น เสียงคุ้นหูของใครบางคนกระซิบอยู่ใกล้ๆกับกกหูของเธอแผ่วเบา คลอเคล้าไปด้วยความอบอุ่นอย่างเหลือล้น
“แต่งงานกันนะ”หญิงสาวเบิกตากว้างทว่าใบหน้าของเธอตอนนี้อยู่ชิดติดสนิทแนบแน่นอยู่กับใบหน้าของใครบางคนจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจอันร้อนซ่านของอีกฝ่าย สัมผัสได้ถึงลมหายใจถี่ๆของเขาได้เป็นอย่างดี คำพูดของเขาเมื่อสักครู่นี้ไม่เพียงแต่มันจะตราตรึงในหัวใจเท่านั้นแต่มันยังคงตราตรึงในทุกอณูแห่งความทรงจำ อยู่ๆน้ำตาเม็ดใสๆก็รินออกมาจากดวงตาคู่สวยอย่างสุดกลั้น
“แต่เราแต่งงานกันแล้วนะค่ะ”โรศิชาว่า
“ตอนนั้นก็แค่อยากลอง แต่ตอนนี้อยากแต่งจริงๆ”สุดที่รักยิ้มกริ่มกรุ่นเจ้าเล่ห์เป็นนัยๆทั้งที่ใบหน้าของคนทั้งสองยังอยู่ใกล้กัน
“หืม...”โรศิชาลากเสียงยาวในลำคออย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินและได้ฟังสักเท่าใดนัก
“ผมพูดจริง”น้ำเสียงของเขาฟังดูมั่นคงจริงใจไม่เสแสร้งทำให้หญิงสาวต้องสะอื้นไห้หนักๆเมื่อรู้สึกซาบซึ้งในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก
“สุดที่รัก ฉันรักคุณค่ะ”โรศิชาโผเข้ากอดสามีด้วยความรักอย่างสุดซึ้งใจ วันนี้เป็นวันที่วิเศษณ์กว่าวันใดๆ เป็นวันที่เธอรู้ซึ้งแล้วว่าหัวใจของเธอต้องการเขา เขาคนเดียวเท่านั้น คือทั้งชีวิตและทั้งหัวใจ
“ผมก็รักคุณโรศิชา...ที่รัก” สุดที่รักกอดรัดภรรยาแน่น ก่อนจะใช้สองมือแกร่งยกร่างของอีกฝ่ายขึ้นสูงเหนือพื้นดินแกว่งไกวไปมา หญิงสาวยิ้มทั้งน้ำตา ไม่เคยมีวันไหนที่เธอจะมีความสุขเท่ากับวันนี้อีกแล้ว
ชายหนุ่มวางหญิงสาวลงก่อนจะคุกเข่าลงไปกับพื้น โรศิชามองการกระทำของชายหนุ่มอย่างไม่อยากจะเชื่อในสายตา แบบนี้ใช่หรือเปล่าความรู้สึกที่เรียกว่า สุขแบบซึ้งๆ
“คุณจะรับนายสุดที่รัก ภักดิ์ดีดำรง คนนี้เป็นสามีหรือไม่”เขาเอ่ยพรางจับมือของซ้ายของหญิงสาวขึ้นมาจุตพิตแผ่วเบาคล้ายฉากจบของเจ้าหญิงเจ้าชายในนิยายหลายๆเรื่องที่เธอเคยอ่าน แต่เวลาได้มีคนทำให้ในชีวิตมันช่างสุขล้ำอะไรเช่นนี้หนอ
ความรักหนอความรักเหตุใดเจ้าถึงเล่นตลกกับหัวใจทั้งสองดวงมาจนถึงหนึ่งปีเต็ม มันคงถึงเวลาแล้วสินะที่หัวใจทั้งสองดวงจะเปิดรับความรู้สึกที่มีต่อกัน
“รับค่ะ”เธอตอบรับทั้งน้ำตายังไหลมาไม่ขาดสาย “แล้วคุณจะรับนางสาวโรศิชา ภักดิ์ดีดำรง เป็นภรรยาหรือไม่ค่ะ”เธอทำหน้าที่เป็นบาทหลวงบ้าง
“รับครับ”
เจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างมองหน้าเมื่อคำตอบของเขาและเธอต่างก็ตรงกัน ไม่น่าเชื่อว่าคนที่แตกต่างกันสุดขั้วจะสามารถร่วมฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายมาด้วยกันได้ คนที่เคยอยู่ห่างไกลกันสุดขอบฟ้าแต่กลับได้มาเจอกันและรักกัน ถ้าไม่เรียกมันว่าพรหมลิขิต ก็คงต้องเรียกมันว่าความรักลิขิตแล้วล่ะ
เมื่อก่อนนี้เธอไม่เคยคิดจะเชื่อเรื่องพรหมลิขิต หรือหวังรักแท้จากคนอื่นที่ไม่ใช่บิดามารดา ในยามนี้ความคิดแบบนั้นก็พลันสลายจางหายไป เหลือเอาไว้แค่เพียงความเชื่อและความศรัทธาในรักไม่เพียงแต่เชื่อและศรัทธาเท่านั้น แต่หญิงสาวยังสัมผัสได้ถึงอนุภาพของมันที่มากล้นจนทำให้กำแพงที่เธอกับเขาสร้างขึ้นพังทลายลงไป
“ผมรักคุณ รักโดยไม่สนว่าวันข้างหน้ามันจะเป็นอย่างไร ขอบคุณนะครับที่เปลี่ยนความด้านชาของผมให้กลายเป็นความรัก”
“ฉันก็ขอบคุณนะค่ะ ที่คุณสร้างความสุขให้กับฉันตั้งมากมาย วันนี้ฉันรู้แล้วล่ะค่ะว่าคุณคือคนนั้นคนที่เป็นความรักของฉัน”
ชายหนุ่มค่อยๆเอื้อมมือหนามาเช็ดน้ำตาให้กับภรรยาที่จะไม่ใช่แค่ภรรยาในนามอีกต่อไปนับจากนี้เธอจะเป็นภรรยาตัวจริงของเขาจะไม่มีใครมาแทนที่เธอได้ทั้งนั้น แม่กุหลาบ...ยอดดอกใจ
“สัญญากับผมได้ไหมไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า คุณจะไม่ลืมผมจะรักแค่ผมเพียงคนเดียวเท่านั้น”สุดที่รักกล่าวก่อนจะยื่นจมูกไปแตะที่แก้มขวาของหญิงสาวเบาๆเพื่อมัดจำไว้ก่อน
หญิงสาวฉีกยิ้มก่อนจะตอบ “ฉันสัญญาค่ะ สัญญาว่าหัวใจดวงนี้จะมีแต่ผู้ชายที่ชื่อสุดที่รักเพียงคนเดียวเท่านั้น”
“ถ้าอย่างนั้นคุณหลับตาก่อนสิ ผมมีของขวัญจะให้”โรศิชาหลับตาลงตามที่ชายหนุ่มบอก
สุดที่รักก้มใบหน้าหล่อเหลาเข้าไปประชิดดวงหน้าเรียวสวยของหญิงสาว แล้วส่งริมฝีปากเข้าประชิดแนบสนิทติดกัน โรศิชายังคงหลับตาพริ้มเนื่องจากหญิงสาวไม่กล้าแม้แต่จะลืมตาขึ้นมามองเมื่อสัมผัสหวามไหวที่สามีกำลังมอบให้มันทั้งหวาน หอมกลิ่นกรุ่นไปด้วยไอแห่งความรัก ยากจะปฏิเสธ
ริมฝีปากหนาบดขยี้ริมฝีปากบางกว่าเบาๆไออุ่นรักแผ่ซ่านผ่านลมหายใจอุ่นๆ ใบหน้าของเธอนั้นแดงซ่าน นัยน์ตาคู่งามยังปิดสนิท กลิ่นรักรสละมุนจากจุมพิตหวานซึ้งของเขาทำให้ใจของหญิงสาวสั่นสะท้าน สัมผัสจูบอันละมุนละไมบรรเลงไปตามครรลองที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ มือเรียวยกขึ้นโอบรอบลำคอหนา ส่วนมือหนาลูบไล้สีข้างของหญิงสาวเบาๆ ก่อนจะถอนริมฝีปากออกจากเรียวปากอวบอิ่มอย่างแสนเสียดาย
“เมื่อกี้ผมจูบคุณไปแล้ว ถึงทีที่คุณจะต้องจูบผมบ้างแล้วนะ”สุดที่รักเอ่ยขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อหญิงสาวยังไม่ยอมลืมตาแม้เขาจะถอนจุมพิตออกแล้วก็ตาม
“ปะป๊าบ้า ไม่เอาหรอก คนชอบฉวยโอกาส”
“หึ...ฉวยโอกาสหรอ แต่เมื่อกี้มะม๊าก็เต็มใจไม่ใช่หรือไง” ชายหนุ่มยกมุมปากยิ้มเยาะเมื่อเธอเบ้ปากไม่พอใจ
“ก็ได้ไม่เถียงด้วยแล้ว งั้นปะป๊าหลับตาก่อนสิ มะม๊าก็เขินเป็นนะ”
คราวนี้เป็นทีที่เขาต้องทำตามที่เธอบอกบ้างแล้ว สุดที่รักหลับตาลงเพื่อรอดูว่าเจ้าหล่อนจะกล้าจูบเขาอย่างที่พูดจริงๆหรือเปล่า แต่รอนานแล้วรอนานเล่าเจ้าหล่อนก็ยังไม่จูบสักทีจนต้องลืมตาขึ้น ภรรยาตัวแสบของเขาก็หายไปซะแล้ว
“อ้าวเล่นแบบนี้มันไม่แฟร์เลยนะมะม๊า ออกมาจูบปะป๊าซะดีๆ”
“มะม๊าอยู่นี่”ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้หันกลับไป ใครบางคนก็สวมกอดเขาทางด้านหลังเข้าเสียแล้ว ก่อนจะใช้ปลายคางมนเทินไว้บนไหล่หนา และเขาก็อยู่ดีเลยล่ะว่าเจ้าหล่อนคงต้องเขย่งปลายเท้าอย่างมากแน่ๆถึงจะซบไหล่เขาได้ถึงเนื่องจากความสูงต่างกันมากทีเดียว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นปัญหาสำหรับยัยตัวเล็กของเขาเลยสักนิด
แสบได้โล่จริงๆนะแม่กุหลาบ...คืนนี้จะจัดให้สมใจเลย
“มะม๊ายังไม่ได้จูบปะป๊าเลยนะ จะผิดสัญญาหรอ หืม...”ว่าแล้วจมูกเล็กๆแหลมๆของเจ้าหล่อนก็เข้าประชิดแก้มขาวของเขาทันที ฟอดๆๆๆ
“อ่า...ชื่นใจ”ชายหนุ่มพูดขึ้น มือเรียวยกขึ้นตีแขนสามีเบาๆที่บังอาจมาล้อเวลาที่เธอซึ้ง
หึ่ม...คืนนี้จะจัดหนักให้เลยพ่อสามีจอมวางแผน
“ไม่เห็นจะชื่นใจเลยปะป๊ามั่ว”เธอว่าไม่จริงจังนัก
“แน่ใจ”
หญิงสาวพยักหน้า ทว่าจมูกโด่งของพ่อสามีจอมวางแผนก็เข้าประชิดแก้มใสเป็นการเอาคืน แถมยังหอมแล้วหอมอีกจนแก้มนวลช้ำ
“พอแล้วนะปะป๊า แก้มช้ำหมดแล้ว คนบ้า”หญิงสาวผลักอกแกร่งออกห่างกายเบาๆ ก่อนจะดินไปนั่งในศาลาท่าน้ำที่มีไว้สำหรับให้นั่งพักผ่อนหย่อนกาย โดยมีสามีหนุ่มตามมาติดๆ
ดอกไอวี่ที่ถืออยู่ในมือส่งกลิ่นหอมระคนอบอวล แต่มันก็ยังน้อยกว่ากลิ่นความรักที่หอมเย้ายวนในความคิดของเธอ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจถูกหรือผิด เธอก็จะไม่เสียใจ เธอรู้อย่างเดียวว่าเขาคือคนที่เธอได้เลือกแล้ว เลือกที่จะรักเลือกที่จะร่วมใช้ชีวิตด้วยกันจริงๆ
การแต่งงานแบบแปลกๆพิลึกพิลั่นนับต่อจากนี้มันก็จะไม่ใช่แบบนั้นอีกต่อไปแล้วเมื่อเธอกับเขากำลังจะเป็นสามีภรรยากันจริงๆ ใช้ชีวิตคู่ดังสามีภรรยาคู่อื่นๆเขาเสียที
“ปะป๊า มะม๊าถามอะไรหน่อยสิ”
“อะไรครับ”ชายหนุ่มทำหน้าตื่นเมื่อจู่ๆภรรยาสาวก็อยากจะถามอะไรขึ้นมาซะอย่างนั้น
“ปะป๊าไม่ได้เป็นเกย์ใช่ม่ะ”ดวงหน้างามหันมามองหน้าสามีที่ขรึมเข้มลงทันทีเมื่อเธอถาม
“เป็น”เสียงกระซิบตอบกลับมาทำเอาโรศิชาแทบช็อคตาย ก็ดูสามีของเธอสิตอบมาได้ไม่รักษาน้ำใจกันเลย ถ้าเป็นเกย์แล้วมาขอฉันแต่งงานทำไมล่ะย่ะ แม่อุตสาซึ้ง เสียอารมณ์หมด เหอะ...
“ปะป๊า...”
“เป็นผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ตะหาก ฮ่าๆ”สุดที่รักหัวเราะลั่น ใบหน้าขรึมเมื่อสักครู่หายไปโดยทันที โรศิชาอยากจะเอาเล็บข่วนตะกายหน้าหล่อๆนั้นให้เป็นแผลนัก
ตกลงว่าตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมาเธอเข้าหลอกมาตลอดเลยใช่ไหมว่าเขาเป็นเกย์ ก็จะไม่ให้เข้าใจผิดได้ยังไง๊ยังไงกัน ก็คนที่บอกว่าเขาเป็นเกย์ร้อยเปอร์เซ็นก็คือตัวเขาเอง
“ถ้าปะป๊าไม่ได้เป็นเกย์แล้วทำไมไม่ปฏิเสธมะม๊าตั้งแต่แรกล่ะ”
“ถ้าปะป๊าบอก มะม๊าจะแต่งงานกับปะป๊าไหมล่ะ” หญิงสาวส่ายหน้า
“นั่นไง ปะป๊าก็เลยไม่บอกดีกว่า”
“ฮึก...”อยู่ๆสาวเจ้าก็ปล่อยโฮสะอื้นไห้ออกมาเสียดื้อๆ
“เสียใจเหรอที่ปะป๊าโกหก”เขาถามเสียงอ่อยอย่างรู้สึกผิด ก็ในตอนนั้นเขาก็แค่นึกสนุกอยากลองหาภรรยามาแต่งงานด้วยอยู่แล้ว ประจวบเหมาะกับที่เจอผู้หญิงแปลกๆอย่างหล่อน แล้วก็บังเอิญบังเอิ๊ญได้มาแต่งงานกัน ใครมันจะไปคิดว่าจะรักกันได้ แปลกแต่ก็จริง
“เปล่า ดีใจต่างหากที่เราจะได้มีลูกด้วยกันได้ไง”คำตอบของหญิงสาวแทบทำให้เขากระอักเลือดตาย นี่หล่อนคงจะรู้จักเขาน้อยเกินเสียแล้วล่ะแม่ตัวแสบ ก่อนที่เขาจะเมินเฉยกับผู้หญิงน่ะนะเขาก็โชกโชนผ่านผู้หญิงมาไม่ใช่น้อยแล้วเหมือนกัน และมันก็เป็นเหตุผลหนึ่งด้วยที่ทำให้ชายหนุ่มปิดกั้นตัวเองออกจากความรัก เพราะคิดว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนจะจริงใจรักเขาที่ตัวตนที่แท้จริง จะมีก็แต่พวกที่รักเงินทองของเขาเท่านั้น แต่เธอไม่ใช่!
“สักกี่คนดี”
“สามคนดีไหมค่ะคุณสามีที่รักขา”โรศิชาว่าพรางสวมกอดสามีอีกครั้ง ครั้งนี้เป็นกอดขอบคุณ ขอบคุณที่ทำให้เธอได้รู้จักความรัก ความรักที่เธอไม่เคยคิดว่ามันจะมีอยู่จริง
สิ่งที่เธอจะต้องขอบคุณหลังจากนี้ก็คงจะเป็นดอกไอวี่ ดอกสีขาวบริสุทธิ์เปรียบได้ดังความรักอันแสนหวานและบริสุทธิ์ระหว่างเธอและเขา แฝงไปด้วยความหมายมากล้นที่ว่าด้วยการขอแต่งงาน ขอบคุณจริงๆสำหรับพรหมลิขิตที่ทำให้เธอได้มารักเขา และทำให้เขาได้มารักเธอ
ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้ชอบคุณ ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงได้รักคุณ และผมก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมผมถึงอยากแต่งงานกับคุณ สิ่งที่ผมรู้อย่างเดียวก็คือ...ผมรู้ว่าผมซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองเสมอ
ฉันรักคุณ รักทุกสิ่งที่เป็นตัวตนของคุณ รับได้ทุกอย่างที่ตัวคุณเป็น แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันจะรับมันไว้ไม่ได้เลยก็คือรับไม่ได้ที่ฉันจะอยู่โดยไม่มีคุณ
จากนี้สองเราจะเดินร่วมทางกันไปบนถนนสายความรักไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ความรักจะพาให้เราสองคนไปสู่จุดหมายปลายทางที่ดี
ผมเชื่อ คุณก็เชื่อใช่ไหม?
ฉันเชื่อและศรัทธา
Will you marry me?
I do.
พระนางเขาแต่งงานกันจริงๆละเน้อ
มาร่วมกันตั้งชื่อให้ลูกของพวกเขาสองคนกันหน่อยนะค่ะรีดเดอร์
ถ้าผิดพลาดประการก็ต้องขออภัยด้วยนะค่ะ
.........................
คำคมท้ายบท
การแต่งงาน ไม่ใช่จุดหมายปลายทางของความรัก
หากแต่เป็นการเดินร่วมทางกันไปบนเส้นทางแห่งความรัก
จนไปถึงเส้นชัยต่างหากคือจุดหมายปลายทางที่แท้จริง
............................
สุดท้ายนี่ไรเตอร์ก็ขออวยพรให้ทุกท่านสมหวังในความรัก
ได้แต่งงานเหมือนที่หวังและตั้งใจกันนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ <3
ปล.ตอนหน้าดอกกุหลาบสีแดงนะค่ะ (ตอนเข้าหอ) อะจ๊าก พระนางจะเข้าหอกัน 555+
ความคิดเห็น