คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : หนึ่งคืนที่บ้านลูกตาล และคำบอกรักของฮยอนซอง
เมื่อถึงบ้านของลูกตาล เธอรีบวิ่งกระหือกระหอบเข้าไปในบ้าน ในขณะที่เพื่อนๆของเธอพยุงเด็กหนุ่มทั้ง 5 คนออกจากรถอย่างลำบากลำบน
“อ้าว คุณคนเล็ก วิ่งมามีอะไรหรือเปล่าคะ?”หญิงชรา แม่บ้านถามคุณหนูของเธออย่างแปลกใจ
“ป้าคะ จัดห้อง 5 ห้องให้เพื่อนตาลด้วยเลยค่ะ วันนี้เพื่อนตาลมาค้างด้วย >o<”ลูกตาลบอกอย่างรีบร้อน หญิงชราแม้ดูงงๆ แต่ก็เรียกสาวใช้ 2 คนมาแล้วสั่งงาน
“ลูกเจี๊ยบ! ลูกไก่! ไปจัดห้องชั้นบนให้เพื่อนคุณหนู 5 ห้อง ให้ด่วนที่สุด”หญิงชราสั่งเสียงเฉียบ
“ค่ะ”สาวใช้ทั้งสองคนรีบกระวีกระวาดขึ้นไปชั้นบน
ลูกตาลหันไปมองเพื่อนๆที่จับตัวพวกผู้ชายให้นอนพิงกับผนัง ในขณะที่พวกเธอนวดไหล่อย่างเมื่อยล้า
“ป้าคะ พี่ลูกชิดไม่อยู่หรอ”ลูกตาลถาม พลางมองซ้ายมองขวาหา แฝดผู้พี่ของเธอ ลูกชิด-พริมลดา
“คุณหนู เดินทางไปฮ่องกงตั้งแต่เช้าแล้วล่ะค่ะ”
“หรอคะ...”
“คุณคนเล็ก วันพรุ่งนี้ อย่าลืมนะคะ”
“ค่าๆ หนูไม่ลืมหรอก งั้นตาลไปหาเพื่อนนะ”ลูกตาลเดินกลับไปหาเพื่อน ซึ่งเสื้อผ้าชุดนักเรียนของพวกเธอเปื้อนเลือดของเด็กหนุ่มพวกนี้
“ลูกตาล แกเปิดไว้แค่ 5 ห้องเองหรอ”อัลมอนต์ถามทันที เธอกำลังใช้มือลูบคอของเธออย่างเมื่อยๆ
“ใช่แล้วล่ะ ให้พวกผู้ชายนอน เป็นแผลติดเชื้อกันแล้วจะแย่เอา”
“แล้วพวกเราง่ะ = =^^”วอลนัทเลิกคิ้วขึ้น
“ก็นอนห้องเค้าซิ!!”ลูกตาลตอบกลับ
“บ้า นอนพอรึไงยะ”พายอาร์โวยวายทันที
“พอดิ เตียงห้องฉันใหญ่จะตาย โฮะๆ ไม่อยากจะอวด”
“พูดง่ายๆ แกรวย”ไมมี่ตัดบท
“ถูกต้องนะคร้าบบบบบ”ลูกตาลหัวเราะ พร้อมๆกับที่สาวใช้เดินลงมาข้างล่าง ลูกตาลหันมาหาเพื่อนๆของเธออีกครั้ง “เอาล่ะ ทีนี้ พวกแกก็พาหนุ่มๆขึ้นห้องซะ ส่วนเค้าจะไปจัดที่นอนให้พวกแก โอเค๊??”
“เออ!!”
ทุกคนตอบพร้อมกัน แล้วแยกย้ายกันไป
ทางด้านฟาโรห์
วอลนัทช่วยฟาโรห์ลุกขึ้นอย่างช้าๆ แล้วพาเขาเดินขึ้นห้องพักที่ชั้น 2 ห่างจากห้องลูกตาลเล็กน้อย
“โรห์ เดี๋ยวโรห์เข้าไปอาบน้ำ แล้วนอนพักซักแปปนะ เค้าจะมาทำแผลให้”วอลนัทบอก ขณะที่พาเด็กหนุ่มนั่งบนเก้าอี้ เธอเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวให้เขา
“อืม..”ฟาโรห์ตอบรับเรียบๆ วอลนัทยิ้มเล็กน้อย แล้วเดินออกจากห้องไป เธอก้มลงดูตัวเองที่มีทั้งเหงื่อ ฝุ่นและเลือดนิดหน่อย
“สงสัยต้องไปอาบน้ำก่อนมาทำแผลล่ะมั้งเนี่ย”เธอบ่นเบาๆ แล้วเดินไปที่ห้องลูกตาล เพื่อจัดการธุระของเธอให้เสร็จ
30 นาทีต่อมา
ก๊อก ๆ
วอลนัทเคาะประตูหน้าห้องของฟาโรห์ แต่ก็ไร้เสียงใดๆตอบกลับมา เธอจึงถือวิสาสะ เปิดเข้าไปเองซะเลย แล้วก็พบแฟนของเธอนอนหงายอยู่บนเตียง ดวงตาหลับพริ้ม หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ ผมสีดำที่ยังไม่แห้งดีลู่ลง
“โรห์ ตื่นขึ้นมาแปปนึง เค้ามาทำแผลให้แล้ว”วอลนัทเขย่าตัวเด็กหนุ่มเบาๆ ด้วยความที่กลัวเขาเจ็บแผล
“อืม มาแล้วหรอ”ฟาโรห์ค่อยๆลุกขึ้นนั่ง เธอยิ้มให้เขา แล้วเริ่มลงมือทำแผลให้
“แล้วนี่ ทำไมโรห์ถึงไม่สู้ล่ะเนี่ย”วอลนัทถามขึ้น พลางสำลีเช็ดแผลที่มุมปากของฟาโรห์อย่างเบามือ
“ไม่ใช่ไม่สู้ แต่สู้ไม่ได้ ก็พวกนั้นพอมาถึง ก็เอาไม้ตีหัวเลยนี่นา”ฟาโรห์บอกเซ็งๆ
“ห๊ะ!! แล้วนี่เจ็บมากไหม?”เด็กสาวรีบจับหัวของฟาโรห์ดู อย่างเป็นห่วง เขายิ้มน้อยๆ
“เห็นหน้านัท ก็หายเป็นปลิดทิ้งแล้วล่ะ”
“ยังอุตส่าห์มาเล่นมุขนะ นี่แหนะ!!”วอลนัทกดลงบนแผลของเขา ทำเอาฟาโรห์ร้องจ๊าก
“โอ๊ยๆๆ เบาๆสิ เค้าเจ็บเป็นนะ”ฟาโรห์ร้องทีเล่นทีจริง วอลนัทยิ้มอย่างกวนๆ
“เจ็บแล้วยังจะเล่นมุขก็แบบนี้แหละ”เธอใช้ผ้าก๊อตปิดแผลของฟาโรห์ที่ถูกตีหัว “เอาล่ะ เสร็จแล้ว งั้นเค้าไปแล้วนะ ฝันดี นอนพักเยอะๆนะคะ”
วอลนัทเตรียมจะเดินออกจากห้อง เธอเก็บเครื่องมือแล้วเดินไปที่ประตู ในขณะที่ฟาโรห์ซุกตัวลงผ้าห่ม
“เดี๋ยว!”ฟาโรห์เรียกเธอไว้
“หือ??”
“ฝันดีนะครับ เจอกันในฝันนะ ^^”ฟาโรห์เอ่ย แล้วซุกหน้าลงกับหมอน วอลนัทยิ้มน้อยๆ แล้วปิดไฟ
ทางด้านลีฮยอนซอง
“เดี๋ยวแม่บ้านเค้าจะมาทำแผลให้นาย ฉันไปล่ะ”พายอาร์เอ่ยสั้นๆ แล้วเดินห่างออกมา แต่คนเจ็บไม่ยอมง่ายๆ
“ไม่เอาอ่ะ ฉันอยากให้เธอทำแผลให้”ฮยอนซองบอก
“ฉันไม่ว่าง”พายอาร์ปฏิเสธ
“แต่มือเธอน่าจะนิ่มกว่าแม่บ้านนี่นา”
“ฉันเป็นนักวอลเลย์ มือไม่นิ่มหรอก”พายอาร์เถียงกลับ แต่ฮยอนซองยังไม่ยอมแพ้ เขาทำหน้างอน
“เชอะ!! คนอะไรก็ไม่รู้ ช่วยทั้งทีก็ไม่ช่วยให้หมด นิสัยไม่ดีเลย”ฮยอนซองพูดงอนๆ แล้วเดินเข้าห้อง
พายอาร์ทำหน้านิ่ว “ก็ได้ๆ ฉันทำแผลให้นายเอง แล้วอย่ามาว่าแล้วกัน”
ว่าแล้วเธอก็ดันตัวลีฮยอนซองเข้าห้องไป และระหว่างการทำแผล ก็มีเสียงร้องด้วยความเจ็บของฮยอนซองดังเป็นระยะๆ และดูเหมือนจะถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง..
“โอ๊ย!!!! เบาๆหน่อยสิ”ฮยอนซองโวยวาย พายอาร์หันมามองค้อน
“ช่วยแล้วยังจะมาบ่นอีก”เธอทำหน้าดุใส่เขา
“หูย อย่าทำหน้าดุสิ น่ากลัวจะตาย”ฮยอนซองเอื้อมมือไปเขี่ยหน้าผากของพายอาร์ ทำเอาเธอเบือนหน้าหนีด้วยความเขิน
“อย่ามาโดนตัวฉัน”พายอาร์สั่ง หน้าแดง
“+55 หน้าแดง น่ารักมากๆเลย”ฮยอนซองหัวเราะ ส่งผลให้พายอาร์เขินหนักเข้าไปอีก เธอเดินไปเก็บเครื่องมือ แล้วเดินออกจากห้องทันที ฮยอนซองไวกว่า เขาคว้าข้อมือของเธอไว้ทัน
“เดี๋ยวสิ”ฮยอนซองเรียก มือใหญ่ๆคว้าข้อมือของเด็กสาวไว้ไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยฉันนะ”พายอาร์พูดโดยไม่หันมามอง
“ฉันแค่อยากบอกว่า ขอบคุณ ..แล้วก็ ฉันรักเธอนะ ฝันดีครับ”ฮยอนซองยิ้ม แล้วค่อยๆปล่อยข้อมือของพายอาร์ ซึ่งก็วิ่งชิ่งออกไปนอกห้องทันที
พายอาร์หน้าแดงแปร๊ด เมื่อฮยอนซองบอกรักเธอ เธอสะบัดความคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อกี้ออกไป แล้ววิ่งเข้าห้องลูกตาล
ทางด้านยุนเทจิน
ตังเมลากเทจินขึ้นห้อง แล้วผลักเขาเข้าไปในห้อง อย่างไม่ไยดีว่า เด็กหนุ่มจะเจ็บหรือเป็นอะไรหรือไม่ เพราะเขาเล่นมองตังเมด้วยสายตาหยาดเยิ้ม จนเธอรำคาญ
“เดี๋ยวจะมีคนมาทำแผลให้!!”ตังเมพูดห้วนๆ เทจินกุมท้องตัวเองอย่าเจ็บๆ
“อ้าว เธอไม่ทำให้ผมหรอกหรอ”เทจินถาม ทำตาหน้าสงสาร แต่ตังเมไม่เล่นด้วย
“ไม่!!”เธอพูดจบ ก็ปิดประตูใส่หน้าเทจิน แล้วเดินออกมา
โอ๊ย!!!! โครมม!!!!
เสียงร้องลั่นของเทจินกับเสียงอะไรบางอย่างกระแทกกันในห้อง ทำเอาตังเมใจหายวูบ เธอวิ่งกลับมาที่ห้อง แล้วเปิดประตูเข้าไป เทจินนอนนิ่งอยู่บนพื้น ตังเมรีบเข้าไปหาเขาทันที
...นี่ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย ฉันไปผลักคนเจ็บแบบนั้นได้ยังไง ตังเม...เธอมีอคติกับเทจินมากไปแล้ว มันเป็นอะไรไหมเนี่ย !!...ตังเมคิดอย่างกระวนกระวาย
“อิอิ ทำหน้าเศร้าแบบนี้ไม่สวยเลยอ่ะ”เทจินลืมตาขึ้นมา แล้วยิ้มกวนๆ ตังเมสะดุ้งด้วยความตกใจ แล้วผลักเขาอย่างแรง จนเด็กหนุ่มไปกระแทกกับเก้าอี้
“โอ๊ย!!!”
“ไอ้บ้า แกมันกะล่อน ฮึ้ยย!!! ไอ้เวง >O<”ตังเมกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องไปด้วยความแค้น ทิ้งเทจินที่ทำหน้าตาน่าสงสารเพราะกระแทกกับเก้าอี้ (คราวนี้เจ็บจริง)
และแล้วเทจินผู้น่าสงสารก็ต้องให้แม่บ้านทำแผลให้ เพราะตอนนี้ตังเมดูเหมือนจะโมโหเขามากเลยทีเดียว
ทางด้านซออึนยอง
“นายเข้าไปนั่งในห้องก่อน เดี๋ยวฉันไปตามแม่บ้านมาทำแผลให้”ไมมี่เอ่ยเรียบๆ อึนยองพยักหน้ารับเบาๆ
“เดี๋ยวสิ!! ฉันอยากจะขอโทษเธอน่ะ”
“หือ ไม่เป็นไรหรอก ^^ ฉันไม่ได้คิดมาก นายอย่าลืมนอนพักมากๆนะ ไปอาบน้ำก่อนก็ดี กว่าแม่บ้านจะมา อาจจะนานหน่อย”
“อ่อ..อืม”อึนยองลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัว แล้วกำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ เขาหันมามองไมมี่ แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน รอยยิ้มของเขา ทำเอาไมมี่ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ “ขอบคุณที่ช่วยฉันนะ”
ไมมี่หน้าแดง แล้วรีบออกจากห้อง ปิดประตูดังปัง! เธอยืนพิงประตูหน้าห้องของอึนยองอยู่แบบนั้น เธอจับหน้าอกด้านซ้ายของตัวเองอย่างไม่เข้าใจ นี่เธอรักอึนยองหรอ ถึงได้ใจเต้นตึกตักตลอดเวลา
ทางด้านยูซองฮวา
อัลมอนต์กึ่งเดิน กึ่งพยุงเด็กหนุ่มขณะที่ขึ้นบันไดมาตามทาง เด็กหนุ่มคนนี้ก็ชวนเธอคุยตลอดทาง อย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง จนมาถึงห้อง เธอคิดว่าเขาเป็นคนที่ดูสุภาพ แต่จริงๆแล้วกลับเป็นคนที่คุยสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ
“นี่..ฉันขอร้องอะไรเธอได้ไหม?”ยูซองฮวาถามขึ้น
“เอาสิ ว่ามา”
“ทำแผลให้ฉันหน่อยสิ”
“= =a หือ ฉันหรอ??แน่ใจ??”อัลมอนต์ชี้เข้าตัวเองอย่างไม่แน่ใจ ยูซองฮวายิ้มแป้น
“เธอนั่นแหละ นะนะ...”
“ก็ได้ๆ”อัลมอนต์นั่งลงข้างซองฮวา แล้วลงมือทำแผลให้เขา
ตลอดการทำแผล ซองฮวาก็ชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย ยิ่งคุย อัลอนต์ก็รู้สึกว่าเขากับเธอเหมือนเคยเป็นพื่อนสนิทกันมายังไงยังงั้น
“เออนี่ วันจันทร์น่ะ เธอไปกินข้าวกับฉันไหมล่ะ”ซองฮวาเอ่ยชวน พร้อมรอยยิ้มสดใส พอดีกับที่อัลมอนต์ทำแผลเสร็จพอดี
“แล้วเพื่อนฉันล่ะ”
“ไปด้วยกันก็ได้ ไม่เป็นไรหรอก นะนะ ถือซะว่าต้อนรับเด็กใหม่ไง ^o^”
“เอาสิ ^^”
“รู้อะไรไหม?”ซองฮวาเกริ่น อัลมอนต์หันมามองเขา
“ไม่รู้หรอก”เธอตอบหน้าตาย
“= =;; ง่ะ กำลังจะบอกนี่ไง ใจร้อนจริง ฉันไม่เคยพูดกะใครแปปเดียว แล้วสนิทกันชนาดนี้เลยนะเนี่ย”เด็กหนุ่มยิ้มละไม แล้วหันไปหาอัลมอนต์ที่นั่งข้างๆ
“เหมือนกันนั่นแหละ แล้วนายรู้ชื่อฉันแล้วหรอ ถึงเป็นเพื่อนซี้กันได้น่ะ”เด็กสาวถาม พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น
ซองฮวาหัวเราะแหะๆ แล้วส่ายหน้าเบาๆ “เหะๆ ไม่รู้อ่าคับ บอกหน่อยก็ดี ชื่ออะไรหรอ?”
“อัลมอนต์ ^^”ซองฮวาทำหน้าแปลกใจ
“น้องถั่ว o_o”
“= =^^”อัลมอนต์ทำหน้าเซ็ง “ยูซองฮวา เคยโดนเพื่อนซี้ถีบมะ”
“แหะๆ ไม่เคยอ่ะ ไม่อยากโดนด้วย ^^”เด็กหนุ่มเหงื่อตก “เรียกซองฮวาเฉยๆเหอะ เรียกยู แล้วเต็มยศไป”
“ก็ได้ งั้นไปล่ะ เจอกันพรุ่งนี้แล้วกัน บะบาย ฝันดี เพื่อน”อัลมอนต์เดินไปที่ประตู โดยที่ซองฮวาเดินออกมาส่ง
“ฝันดี น้องถั่ว”
“ว่าไงนะ!!!”
ไม่ทันที่เพื่อนซี้จะเตะ ซองฮวาก็ปิดประตูปัง แล้วหัวเราะสะใจอยู่ในห้อง น้องถั่วของเราก็ได้แต่ยืนแค้นอยู่หน้าประตู
“เออ!ฝันดี ไอ้ซอง Letter”เธอตะโกน แล้วเดินกลับห้อง พร้อมรอยยิ้มตลอดทาง แต่เมื่อกลับมาที่ห้องของลูกตาล ก็มีเพียงวอลนัทที่นั่งร้องเพลงอยู่หน้าทีวี โดยมีไมมี่เป็นผู้ฟัง และพายอาร์ที่นั่งกอดหมอนอย่างเหม่อลอย
ห้องของลูกตาล
“นัท วันจันทร์แกไปกินข้าวกะใครอ่ะ”อัลมอนต์ถามขึ้น พร้อมคว้าผ้าเช็ดตัวเตรียมอาบน้ำ
วอลนัทหันมามองอย่างแปลกใจ “ก็ไปกับแกอ่ะดิ แต่ถ้าแกไปกะคนอื่นก็มะเปงไร หุหุ เค้ามีโรห์ ^^”
“- -a เออๆ พอดีมีคนนัดไปกินอ่ะ ^^ ทายดิ๊ว่าใคร”
คำถามของอัลมอนต์ได้ผลชะงัก ไมมี่หันมามองอย่างอยากรู้
“ใครอ่ะ >.< บอกหน่อยจิ”ไมมี่ร้อง ในขณะที่วอลนัททำหน้าครุ่นคิด เธอเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนสนิท แล้วร้องอ๋อ
“รู้แระๆ ^^ ให้เค้าตอบมะ”วอลนัทถาม อย่างรู้เชิง
“ไม่ต้อง อย่างแก รู้อยู่แล้ว ถ้าไม่รู้เสียชื่อนักข่าวตาย”อัลมอนต์ว่า แล้วหันไปหาไมมี่ที่อยากรู้สุดๆ
“เง้อ .. อยากรู้อ่ะ พายแกคิดออกไหม?”ไมมี่หันไปถามพายอาร์ที่นั่งกอดหมอนอยู่ไม่ไกล แต่ก็ไม่มีการตอบสนองใดๆ
“ไปอาบน้ำก่อนล่ะ ออกมาแล้วจะเฉลย”และแล้วอัลมอนต์ก็หายเข้าห้องน้ำไป ไมมี่ก็นั่งคิดอย่างหนัก แบบว่าตามประสาคนอยากรู้ ไม่นานตังเมกับลูกตาลก็เข้ามา ไมมี่ของเราของความช่วยเหลือทันที
“เมเม ลูกตาล >,< แกว่า ใครจะชวนอัลมอนต์ไปกินข้าวอ่ะ”ไมมี่ยิงคำถามทันที ลูกตาลนั่งลงบนเตียงอย่างงงงัน
“ไม่รู้ดิ แต่ว่านี่ พรุ่งนี้เค้าไม่อยู่นะ ถึงวันนั้นแล้วอ่ะ”
“วันนั้น??? แกเป็นประจำเดือนหรอ”ไมมี่ตาโต แล้วก็โดยตังเมตบหลังเข้าให้
“ไปหาหมอเรื่องโรคประจำตัวมันไง แกนี่ลืมบ่อย”ตังเมติ ในขณะที่ไมมี่ยิ้มแหะๆ
“ก็คนมันลืมนี่นา เนอะพาย”
“..................” ไม่มีสัญญาณจากหมายเลขที่ท่านเรียก ทุกคนเริ่มสนใจพายอาร์ขึ้นมาซะอย่างนั้น
“พาย ! พาย!!!!!! พายอาร์!!!!!!!!!!!!! >O<”ตังเมตะโกนลั่นห้อง
โครม!! ตามมาด้วยเสียงอะไรบางอย่าง ในห้องน้ำ ซึ่งซักพักอัลมอนต์ก็ออกมาในชุดนอน พร้อมลูบหลังตัวเองอย่างเจ็บๆ
“เมเม แกตะโกนอะไรอ่ะ เค้าล้มเลย โอ๊ย ><”อัลมอนต์ทำหน้าเหยเก วอลนัทรีบเข้าไปพยุงเพื่อนเธอมานั่งบนเตียง
“ก็พายมันเหม่ออะ”ตังเมแก้ตัว “เห็นป่ะ ยังไม่รู้สึกตัวเลย”
“มันเป็นอะไรของมันอ่ะ”วอลนัทสงสัย
“อาการแบบนี้นะ”ลูกตาลค้าง เพื่อนๆหันมามอง “โดนบอกรักแน่!!”
O_o >>>> นัยน์ตาทั้ง 4 คู่ โตเทาไข่ห่านด้วยความตกใจ
“พายอาร์!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“
.!!!” พายอาร์หันมามองด้วยความตกใจ แล้วสะดุ้งตกเตียงโครม เธอโผล่หัวขึ้นมามองเพื่อนๆอย่างไม่พอใจ “อยู่ใกล้แค่นี้ ไม่ต้องตะโกนก็ได้ ปวดหูหมด”
“เรียกเบาๆก็ไม่ได้ยินนี่นา บอกมาใครสารภาพรักกับแก”ตังเมถามอย่างเอาเรื่อง พายอาร์เหวอ แล้วเหงื่อแตกพลั่กๆในห้องแอร์เย็นๆ
“ปละ..เปล่า ซะหน่อย ...ตะ ตังเม แกมั่วแล้ว”ผู้ต้องหาพูดตะกุกตะกัก แล้วล้มตัวลงนอน “เค้าจะนอนแล้ว ง่วง”
“เอาเหอะๆ รีบลงหลุมไปซะ เร็วๆ ฉันปิดไฟ”ลูกตาลสั่ง เพื่อนทั้ง 4 คนรีบมุดตัวลงในผ้าห่มหนา ก่อนลูกตาลจะปิดไฟ ทำให้ห้องทั้งห้องมืดสนิท
“ลูกตาล แกพูดยังกับเราเป็นผีดิบ ซอมบี้งั้นแหละ”ตังเมพูดขึ้น ลูกตาลหัวเราะ
“อ้าว ก็ฉันต้องไปรับเลือดเป็นแวมไพร์ พวกแกเป็นเพื่อนฉันก็ต้องเป็น ซอมบี้ดิ”
จบตอนที่ 3
ความคิดเห็น