ตอนที่ 12 : [2] ราตรีสีหมอกจาง 03
ราตรีสีหมอกจาง (03)
เช้าวันนี้ทั้งสดชื่นและแจ่มใส บรรยากาศแบบนี้เหมาะกับการทำสวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้อยู่บ้านพักหลังเดิมแล้ว เพราะถูกฉุดมาอยู่ที่บ้านของดีน บ้านสองชั้นแต่มีขนาดใหญ่และกว้างขวางกว่า สวนดอกไม้ปลูกอยู่ทั่วสนามที่ถูกจัดแต่งอย่างมีรสนิยม รวมๆแล้วทุกอย่างมันดีมาก
ยกเว้นเจ้าของบ้านนะ อันนี้ไม่ขอออกความคิดเห็น...
ผ่านมาเกือบครบอาทิตย์ที่ออทัมได้มาอยู่ที่บ้านของตัวเอกอย่างงงๆ แผลที่แก้มซ้ายเริ่มหายแล้วแต่ยังคงทิ้งรอยช้ำเขียวอมม่วงเอาไว้ น่าเกลียดจนอยากฆ่าคนทำ อินทัชดูว่างงานจนน่าหมั่นไส้ วันๆเอาแต่ตอมดีนจนเหมือนแมลงวันเข้าไปทุกที
ตอนนี้ดีนได้ปลอกคอสำหรับโอเมก้ามาใส่แล้วเพื่อป้องกันการเกิดต้นคอจากการโดนอัลฟ่ากัดเมื่อขาดสติ(ซึ่งยังไม่เคยเกิดขึ้นซักครั้ง) แต่ออทัมยังไม่ได้มีไว้ในครอบครองเพราะว่าเขาไม่ชอบใส่ มันร้อน มันอึดอัด
เพราะเหตุนี้จึงเลือกที่จะกินยาระงับอาการแทน อาการฮีทของเขาเคยเกิดขึ้นมาแล้ว 8 ครั้งตั้งแต่อายุ 12 ที่รู้ว่าตัวเองเป็นโอเมก้าก็กินยามาตลอด อาจมีบ้างที่ดื้อยาจนอาการฮีทกำเริบอย่างรุนแรง แต่มันก็ผ่านมา 2 ปีแล้ว ออทัมไม่เครียดเรื่องนี้เท่าไหร่เพราะยังคงกินยาและเว้นระยะตามที่หมอบอกจึงไม่เคยเกิดอาการฮีทกำเริบขึ้นอีก
อินทัชกำลังตามสืบเรื่องราวที่ลูกชายของเขายังไม่เคยเกิดอาการฮีท และน่าจะเกี่ยวข้องกับการที่แม่ของดีนพาหนีออกมาหลายปี และความทรงจำส่วนนั้นของดีนเหมือนถูกปิดตายไว้ ไม่ว่าจะถามอะไรก็ไม่รู้เรื่องจนน่าแปลก
เนื้อเรื่องเดิมนั้นไม่มีพูดถึงแม่ของดีนเลย เหมือนไม่มีตัวตนแต่ดันมีบทบาทสำคัญเสียอย่างนั้น เธอคนนั้นกุมความลับหลายอย่างไว้ที่ตัว ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียวที่ตระกูลรองจัดหามาให้ไม่น่าจะมีเบื้องหลังที่สูงส่งมากมายเพื่อที่สายรองจะชักใยเธอได้
แล้วอะไรทำให้เธอหลบซ่อนจากสายตาของอินทัชมาได้หลายปีกัน?
ออทัมคิดเรื่องนี้วนเวียนมาได้หลายวันแล้ว ผู้หญิงคนนี้มีแต่ปริศนาเต็มไปหมด ทางบ้านของฝ่ายชายไม่พูดถึงคงไม่แปลกเพราะอินทัชไม่ค่อยจะชอบเธอเท่าไหร่ แต่ลูกที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิดกลับไม่พูดถึงเลย ไม่สิ.. เหมือนจะจำไม่ได้เสียมากกว่า
ก่อนที่จะคิดอะไรเลยเถิดมากไปกว่านี้ก็มีน้ำเย็นๆสาดเข้าหน้าเขาเสียเต็มแรงจนเซล้มใส่พุ่มไม้ที่ปลูกไว้ตามผนังด้านนอกของบ้าน หน้าเริ่มแสบจากแรงของน้ำและหูที่อื้อมีน้ำอยู่เต็มจนต้องเอียงคอเคาะน้ำออกมา
“เกะกะจริงๆที่อื่นมีไม่ยืน มายืนขวางทางน้ำทำไม” เสียงเยาะเย้ยดังมาจากปากคนที่คุ้นเคย ปากหมาจริงๆ ไม่หาเรื่องเขาซักวันจะตายให้ได้เลยใช้มั้ย ห๊ะ! ออทัมตวัดสายตาอาฆาตใส่อินทัชที่ถือถังใส่น้ำที่ว่างเปล่า แก้แค้นเรื่องเมื่อหลายวันก่อนหรือไง ทำไมเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นแบบนี้พอดีนไม่อยู่ล่ะเขาปีศาจงอกเชียวนะ!
ย้อนไปเมื่อหลายวันก่อนที่ออทัมได้แย่งนอนกับดีนแล้วอินทัชไม่ยอมจนกลายเป็นว่า พวกเราสามคนต้องนอนด้วยกันโดยมีดีนคั่นกลาง แต่พอรุ่งเช้าดีนต้องรีบตื่นไปหาข้อมูลธุรกิจของพ่อค้าคนหนึ่งส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นเพราะโดนจ้างมาเลยต้องรีบรวบรวมหลักฐานโดยเร็วเพราะเดี๋ยวข้อมูลจะคลาดเคลื่อนเสียก่อน
ออทัมที่สะลึมสะลือติ่นขึ้มาไม่เห็นดีนจึงตัดสินใจจะนอนต่อแต่ดันเหลือบไปเจอเส้นผมสีเทาเข้มที่ยาวสลวยกระจายอยู่เต็มหมอนอีกฟากของเตียงจึงจำได้ว่าเป็นอีกคนที่ได้นอนร่วมเตียงกันกับเขาและดีน
ด้วยความหมั่นไส้จึงได้ยกเท้าถีบไปยังบั้นท้ายแกร่งเต็มแรงจนอีกฝ่ายกระเด็นตกลงจากเตียง เสียงของตกกระทบกับพื้นไม้ยิ่งทำให้เสียงดังกังวานไปทั่วห้อง ออทัมแกล้งหลับตาทำเหมือนว่ายังไม่ตื่น เมื่อกี้แค่ละเมอเอง เขาไม่ได้ทำอะไรเลยนะ
อินทัชที่หงุดหงิดเพราะถูกถีบตกเตียงกุมสะโพกด้วยความเจ็บปวด ขายาวก้าวขึ้นเตียงด้วยความง่วงแล้วต้องการที่จะนอนต่อ เมื่อกี้เขาคงจะนอนหมิ่นขอบเตียงมากเกินไป ไหล่หนารู้สึกว่ามีอะไรมาตีเข้าจึงเงยหน้ามองแต่ก็โดนมือข้างเดิมฟาดเข้าเต็มหน้า
ความหงุดหงิดเริ่มเข้าครอบงำจนเกือบกระโดจนเข้าไปซ้อมคนที่แกล้งหลับ แต่ยังไม่ทันได้ลงมือดี เสียงตึงตังด้านนอกกลับทำให้แขนที่ง้างเตรียมขย้ำคอเควินชะงัก ประตูห้องที่ปิดสนิทถูกเปิดออกกว้าง
ดีนวิ่งหน้าตั้งเข้ามาเพราะเสียงที่ได้ยินก่อนหน้านี้ทำให้เขาเป็นห่วงกลัวว่าทั้งคู่จะฆ่ากันตายเสียก่อน แต่สิ่งที่เห็นกลับทำให้เขาหน้าขึ้นสี
ชายหนุ่มต่างวัยที่หุ่นไม่ต่างกันมากช่างดูดีจนดีนจ้องตาไม่กระพริบ แต่ทำไมพ่อต้องเข้าไปคร่อมเควินด้วยเล่า ผ้าห่มสีฟ้าผืนหน้าร่นมายังหน้าท้องของทั้งคู่ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เควินที่งัวเงียกำลังขยี้ตาไม่รับรู้ว่ากำลังจะโดนทำอะไร ตาสีสวยสบกับดีนด้วยความสงสัย เป็นภาพที่คิดดีไม่ได้เลย...
ดีนกระแอมเสียงเบาก่อนจะเดินไปลากเควินออกจากร่างของพ่อที่ดูเหมือนจะนิ่งค้างจนวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว ดีนมาเห็นอะไรที่ไม่สมควรเข้าแล้ว ต้องพาลูกไปล้างตา! เมื่อกี้จ้องมันตาไม่กระพริบเลยนะ เฮ้ กลับมามองพ่อให้เต็มตาก่อน พ่อหุ่นดีกว่าไอ้โจรทมิฬอีกนะ!!!
เควินหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างอารมณ์ดีเพราะได้เอาคืนเล็กๆน้อยๆจากอินทัช แค่นี้ยังน้อยไป คราวหน้าจะเอาให้กระอักเลือด! วันนั้นทั้งวันจำได้ว่าดีนแทบไม่มองหน้าเขาและอินทัชเลยเพราะเขินกับภาพเมื่อเช้า พ่อคลั่งลูกน่าจะเก็บกดจนมาลงที่เขาเนี่ย.. น่าเบื่อ
เมื่อมองย้อนกลับไปออทัมก็คงจะกระทำเหมือนเดิมเพราะเขาถือคติที่ว่า ทำมาทำกลับ ไม่โกง ถ้าฝ่ายอินทัชยอมลงให้เขาก่อน อืม วันนั้นไม่มาจะมี เขาเลือกที่จะเดินหนีไม่ต่อปากต่อคำ มันน่าเบื่อนะ อายุก็ไม่ใช่น้อยๆกันแล้วมาชวนทะเลาะด้วยหน้าตึงๆอยู่ได้
ด้านอินทัชที่เริ่มก่อนไม่แม้แต่จะชายตามองคู่กรณี เขาเดินกลับไปรดน้ำต้นไม่อย่างอารมณ์ดี วันนี้จะเป็นวันที่จะได้ข่าวที่หมายเลข 2 ส่งมาให้ คนนี้ถนัดด้านข้อมูลดี ทำไมถึงไม่ขอให้ดีนช่วย? เพราะไม่อยากทำให้ดีนต้องเค้นความทรงจำวัยเด็กของตัวเองขึ้นมาน่ะสิ!
เมื่อรดน้ำครบจำนวนที่ดีนกำหนด(โดนทำโทษมา..)อินทัชถึงได้แบกร่างเข้ามานอนแผ่ในบ้าน หมดคราบนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงไปเลย เหลือแค่ชายโสดที่มีแต่ความขี้เกียจ อืดอาดยืดยาดจนดีนต้องส่ายหัว
“พ่อครับ ดีนพาเควินไปซื้อของก่อนนะ เดี๋ยวกลับมาทานของว่างด้วย” ดีนที่กำลังสวมรองเท้าผ้าใบอยู่หน้าประตูบอกกับอินทัชที่นอนเหยียดขาอยู่เต็มโซฟากลางบ้าน อินทัชได้แต่เออออไปกับดีนเพราะไม่อยากขัดใจ ลูกอย่าทำอะไรก็ทำไปเลย เขาไม่ได้หวงลูกขนาดนั้น
แต่การกระทำช่างสวนทางกับคำพูดจริงๆ เมื่อดีนก้าวพ้นรั้วบ้านไปกับเควิน มือหนาก็กดข้อความส่งให้แก่บอดี้การ์ดนอกเครื่องแบบที่แฝงตัวอยู่ทันที
‘จับตาดูให้ดี ถ้ามันกล้าเข้ามาใกล้ชิดดีนจนเกินไปก็เข้าไปขัดขวางซะ’
‘รับทราบครับ’
‘อย่าให้ดีนรู้ตัวล่ะ ดูอยู่ห่างๆห้ามคลาดสายตา’ ไม่วายส่งข้อความไปกำชับอีกครั้ง เขาเรียกว่ารอบคอบ..ก่อนจะเอนหลังลงนอนพักสายตาเสียทีเมื่อฝากฝังคำสั่งเสร็จ
. . . .
. . .
. .
“เสื้อตัวนี้ลายสวยดีนะ แล้วระหว่างตัวนี้กับตัวนั้น ชอบตัวไหน?”
“ตัวนี้มีกี่สีครับ มีไซต์ใหญ่กว่านี้มั้ย?”
“เอาตัวนี้เพิ่มด้วยครับ สีน้ำเงิน”
ประโยคทั้งหมดเป็นเควินที่พูดอยู่คนเดียว ดีนที่พาเควินมาที่ห้างใกล้บ้าน แต่กลับได้แต่มองตามคนตัวสูงไปมา เขานึกว่าเควินจะล้มเลิกความคิดที่จะเปลี่ยนแปลงรูปร่างของเขาแล้วนะ นี่อะไรกัน แค่ผมและสีผิวที่เข้มขึ้นเล็กน้อยนี้ยังไม่เพียงพอหรือ?
นี่ถึงขนาดลากเขามาซื้อของให้ตัวเองเลยเนี่ยนะ แน่นอนว่าไม่ใช่เงินของเขาและเงินของเควินแน่นอน เงินใคร? เงินพ่อน่ะสิ! ให้ตาย ไปฉกมาตอนไหนเนี่ย น่าเอาดีด้านการย่องเบานะเหมือนที่พ่อตั้งฉายาให้ว่าโจรทมิฬเลย(โจร+ผิวเข้ม)
การเลือกซื้อของกินเวลาเป็นชั่วโมง ดูเหมือนเควินจะซื้อของเก่งมาก เรียกว่าเอาทรัพย์มาละลายทิ้งก็คงไม่ผิดเพี้ยนไปมากนัก ของเต็มไม้เต็มมือไปหมดแต่ก็ยังลากเขาเดินเข้าร้านนั้นร้านนี้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย พ่อรู้เข้าได้วางมวยกันอีกแน่..
แล้วสุดท้ายดีนก็กลับไปทานของว่างกับอินทัชที่บ้านไม่ทัน เพราะเควินกำลังเดินตัวปลิวเหมือนลอยได้พาเขาไปที่ต่างๆโดยไม่มีจุดหมาย แค่เดินเล่นไปเรื่อยๆ มันก็เพลิดเพลินดีไม่รู้ว่าการเดินเล่นปล่อยสมองให้โล่งไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายจะสดชื่นกระปรี้กระเปร่าแบบนี้
ในระหว่างที่เดินข้ามถนนเพื่อข้ามไปซื้อเจลเก็บความเย็นและยาระงับอาการฮีทของเดือนนี้ออทัมกลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่เอ่อล้นออกมาจากร่างกายจนควบคุมไม่ได้ มันคล้ายกับไอร้อนที่ระเหยไปในอากาศแต่มันทำให้เขาเริ่มรู้สึกตาลาย หัวสมองเริ่มหมุนเคว้งจนจับต้นชนปลายไม่ถูก
ด้านของดีนที่เดินนำไปไม่เห็นอีกคนที่มักจะเดินอยู่ข้างกันเลยหันหลังกลับไปมอง เจอกับเควินที่ยืนอยู่ริมฟุตบาทที่เดิมแต่ดูทรมานมาก เหงื่อเริ่มผุดขึ้นตามไรผมสีอ่อนจนผมลู่ไปกับกรอบหน้า เสื้อยืดพอดีตัวสีเข้มเปียกชุ่ม ดีนรีบกลับหลังหันวิ่งไปดูเควินในทันที
เนื้อตัวของเควินเย็นไปหมด ดีนรับรู้ได้ถึงบรรยากาศรอบตัวที่แปลกประหลาด กลิ่นหอมโชยออกมาจากตัวของคนที่เขาช่วยพยุงจนน่าสงสัย แต่กลิ่นแบบนี้มัน... ไม่ได้การล่ะ!!
เควินเป็นโอเมก้า!?!
กลิ่นหอมจางๆนี่น่าจะอยู่ในช่วงอาการฮีท? ดีนสับสนเพราะเขาคิดว่าเควินเป็นเบต้ามาตลอดเวลา แล้วทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ ก่อนอื่นต้องรีบพาออกไปจากตรงนี้ก่อน มันโจ่งแจ้งเกินไป อันตราย.. เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงพยุงเควินให้เดินกลับไปทางเดิม อีกไม่กี่ป้ายก็ถึงบ้านแล้ว ทนอีกหน่อยนะ
ดีนส่งข้อความให้บอดี้การ์ดมาช่วยเขาพยุงตัวเควินกลับบ้าน อีกไม่นานน่าจะมาถึงเพราะเพิ่งนำของที่ซื้อทั้งหมดกลับไปเก็บที่บ้าน บอดี้การ์ดคนนี้เป็นคนคอยตามดูความเรียบร้อยระหว่างเขากับเควินอยู่และเป็ยเบต้าจึงไม่เป็นปัญหามากเท่าไหร่
เมื่อเห็นบอดี้การ์ดคนสนิทจึงได้ตะโกนเรียกให้มาช่วย ถึงแม่จะแปลกใจที่เควินดูอ่อนแรงแต่ก็ช่วยโดยไม่ปริปากบ่น เมื่อกลับมาถึงบ้านดีนก็ได้โทรเรียกหมอที่พ่อจ้างให้มาคอยดูแลเคสของตนเองให้รีบมาที่บ้าน เพื่อช่วยฉีดยาระงับอาการไปก่อน
เควินตื่นมาต้องนั่งจับเข่าคุยกันเสียที
. . . .
. . .
. .
ตอนนี้เควินอาการดีขึ้นแล้วแต่สิ่งที่หมอพูดออกมาเรื่องอาการคนไข้ที่มีกลิ่นจางจนแทบไม่ได้กลิ่นนอกจากโอเมก้าด้วกันเองและอัลฟ่า โชคดีที่ดีนได้กลิ่นแล้วรีบให้หมอมาตรวจหาสาเหตุ สิ่งที่ได้รับรู้พาให้ดีนและอินทัชอยู่ในสภาวะตกใจ
“คุณเควินเป็นโอเมก้าที่แข็งแรงมาก แต่ร่างกายกลับมีจุดบกพร่องตรงฮอร์โมนเพศชายที่มีน้อยจนเกินปกติของโอเมก้า ภายนอกเหมือนผู้ชายปกติทุกอย่าง แต่ภายในนั้นบอบบางมาก กลิ่นฟีโรโมนที่อ่อนจางกว่าปกติมีผลมาจากการทานยาระงับและเลื่อนอาการฮีทจนร่างกายเกิดการต่อต้าน”
“….”
“ในลักษณะนี้หากรักษาไม่ทันเวลาอาจมีภาวะช็อคได้ ร่างกายของคุณเควินเริ่มดื้อยาอย่างรุนแรง กลิ่นที่เริ่มจางบ่งบอกว่าฮอร์โมนเริ่มมีความผิดปกติ เป็นไปได้หมออยากให้คนไข้เลิกรับยาในระยะ 3-4 เดือนนี้ให้ร่างกายฟื้นตัวและให้อาการฮีทเกิดขึ้นตามปกติจะปลอดภัยมากกว่า”
นายแพทย์เพื่อนของอินทัชร่ายมาซะเหยียดยาว มือก็เขียนรายการยาแต่ล่ะอย่างให้อินทัชไปหาซื้อมาให้คนไข้ ดีนตกใจที่เควินดื้อยาอย่างรุนแรง กลิ่นฟีโรโมนอ่อนๆที่ได้กลิ่นนั้นมันจางมากก็จริง แต่มันกลับหอมหวานสุดๆจนดีนเคลิ้มไปชั่วขณะ
อินทัชพูดคุยเรื่องนี้กับเพื่อนของตนก่อนจะไปส่งนายแพทย์ขี้นรถกลับบ้าน เขาไม่รู้มาก่อนว่าเควินเป็นโอเมก้า แถมยังอ่อนแอจนน่าตกใจ รู้สึกผิดเล็กน้อยที่เคยทำร้ายร่างกายนั้นไป ดูเหมือนดีนก็ไม่เคยรู้มาก่อน
แน่สิ ดูรูปร่างที่ต่างจากโอเมก้าปกติธรรมดานั่นสิ อัลฟ่าชัดๆ ไม่งั้นจะให้คนคอยประกบเหรอ? ก็เขากลัวมันลากดีนไปปู้ยี่ปู้ยำนี่! ก็ต้องป้องกันไว้ก่อน
มองดูร่างที่นอนทอดกายบนเตียงของดีนดูไม่ค่อยจะดีนัก ร่างกายอบอุ่นขึ้นเล็กน้อย ปากยังซีดอยู่ มือซ้ายเจาะให้น้ำเกลือ ตอนเย็นค่อยปลุกมาทานข้าวทานยาแล้วกันตอนนี้ก็ให้พักไปก่อน
. . . .
. . .
. .
ออทัมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาใบบ้านที่คุ้นตา สมองกำลังประมวลผล มองไปรอบๆจึงจำได้ว่า ‘ที่นี่เป็นบ้านของเจรัล..’ ทำไมเขาถึงมาโผล่ที่นี่? ระบบ ระบบ! ไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา..
รอบกายเงียบสงบเหมือนไม่มีใครอยู่ที่นี่ ออทัมลุกขึ้นจากเดตียงแล้วเดินออกไปนอกห้อง ก่อนจะนิ่งค้างไป น้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นลงมาจากตา เบื้องหน้าเขาคือซันซัส!! ก้อนสะอื้นตรงคอทำให้หายใจและเปล่งเสียงได้ลำบาก
ซันซัสเหมือนจะมองเขาไม่เห็น ร่างสูงใหญ่เดินทะลุผ่านร่างของเขาไป อา เขาไม่มีตัวตนในโลกนี้แล้วนี่นา โลกนี้มันจบไปแล้ว ไม่มีใครอยู่แล้ว ทุกคนตายไปหมดแล้ว.. นี่เขากำลังทำอะไรอยู่?
ตอนนี้ออทัมได้แต่มองตามสัตว์ร้ายของตนที่เดินไปมาเหมือนหาอะไรบางอย่าง ด้วยเครื่องหน้าที่ยังดูหนุ่มแน่นทำให้ออทัมคาดว่าคงจะเป็นช่วงหลังจากที่เขาจากไปไม่นาน สิ่งที่ซันซัสหาอยู่คือเชส.. สัตว์เลี้ยงคู่สัญญษของเขา คิดถึงจัง
ทั้งคู่หยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน เพียงแต่ว่าในความรู้สึกของออทัมมันเหมือนกับว่าเชสกำลังมองมาที่เขาอยู่ ออทัมปาดน้ำตาทิ้งไปแล้วจมอยู่กับภาพที่แสนคะนึงหาเบื้องหน้าไม่ขยับไปไหน อยากซึมซับเวลานี้ให้นานที่สุด
“มองอะไรอยู่น่ะ? ไม่เห็นมีอะไรเลย”
“ข้ารู้สึกเหมือนมีใครกำลังจ้องพวกเราอยู่ แต่ไม่มีกลิ่นไอชั่วร้ายเลย น่าแปลกนะ”
“นั่นสิ ความรู้สึกช่างคุ้นเคย แต่ข้ากลับนึกไม่ออก”
“คุ้นเคย?”
“อ๊ะ!.ใช่แล้ว มันเหมือนกับในฝันของข้าเลย”
เชสคุยกับซันซัสแต่สายตาไม่ละไปจากอากาศตรงหน้า มันรู้สึกได้แต่มองไม่เห็นและไม่มีจิตอาฆาตหรือไอสังหาร มันแค่จ้องมองตรงมา ความฝันของลูกครึ่งปีศาจมันวนเวียนซ้ำไปซ้ำมาตั้งแต่วันที่ไปเดินเล่นไกลๆวันนั้น พอกลับมาก็แปลกไป ว่าแต่ความรู้สึกคุ้นเคยจากในฝันหรือ?
“ที่ข้าฝันถึงคนผู้หนึ่งซ้ำๆแต่จำหน้าไม่ได้นั่นแหละ ข้ารู้สึกเหมือนว่าตอนนี้เขาอยู่กับข้า”
“….”
“ถ้าเขาอยู่ที่นี่จริงๆข้าก็อยากจะบอกเขาว่า ครั้งหน้าที่เราได้เจอกันข้าจะเป็นฝ่ายตามล่าเขาเอง หนีไปไหนไม่รอดหรอก จิตวิญญาณที่เหมือนได้ผูกกันแล้วข้าจะทำให้มันเป็นจริง ข้าไม่อยากเอาแต่ฝันถึงแล้วจดจำอะไรไม่ได้เสียที”
ซันซัสลูบขนเชสไปมาสายตามองสบกับความว่างเปล่าตรงประตูห้อง มุมปากกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ดูน่าขนลุก ออทัมที่กำลังเหม่ออยู่สะดุ้งทันที แต่ก็มึนหัวจนภาพข้างหน้าเริ่มเลือนหายไปทีละนิด ไม่นะ.. ไม่ เขายังอยากจะเฝ้ามองซันซัสอยู่ อีกซักนิดก็ยังดี
ความรู้สึกที่พยายามกดให้ลึกที่สุดในจิตใจของเขาเหมือนโดนกวนให้ขุ่น ตะกอนมันค่อยๆแจ่มชัดขึ้นเหมือนเรื่องเพิ่งเกิดขึ้นไม่กี่นาทีก่อนจนออทัมปวดใจ มากเกินไป เขาจะรับไม่ไหวอยู่แล้ว...
ฉากหน้าความเข้มแข็งที่เขาพยายามสร้างมาเพื่อเป็นเกราะกำบังกำลังพังทลายลง เพียงเพราะได้เจอสัตว์ร้ายที่ได้ขโมยเอาความรู้สึกดีๆของเขาไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่อาจทราบได้แน่ชัด แต่มันช่างเป็นความรู้สึกที่รุนแรงจนเป็นความผูกพันที่ออทัมขาดมันไปไม่ได้
เมื่อสมองเริ่มคิดและรับรู้ทุกอย่างมากเกินไปจนเริ่มไม่ไหว ร่างกายเจ้าหน้าที่หายไปจากมิตินั้นในทันที ทุกอย่างดับวูบลงไปกลายเป็นความมืดมิด ออทัมเหมือนล่องลอยอยู่ในความมืดที่ว่างเปล่านี้จนหลงลืมแทบทุกอย่าง
[เจ้าหน้าที่ออทัมทำใจดีๆเอาไว้!!] ระบบได้แทรกแซงเข้ามาในส่วนลึกของมิตินี้ แรกเริ่มก็ตกใจมากที่เจ้าหน้าที่มาโผล่ที่นี่ได้ แต่ถ้าอยู่นานกว่านี้ร่างกายของเจ้าหน้าที่จะเสื่อมถอย
ต้องรีบพาเจ้าหน้าที่ออกมาให้เร็วที่สุด ร่างกายที่ไม่มีวิญญาณก็เหมือนศพ ต้องรีบยัดวิญญาณเจ้าหน้าที่ที่เตลิดออกมาให้เข้าร่างของเควินดังเดิม ไม่งั้นจะแย่ทั้งคู่
มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไรกัน? ระบบ 3.0 ยังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเลย แล้วทำไมเจ้าหน้าที่ออทัมถึงได้วิญญาณหลุดมาที่ ‘มิติกักเก็บวิญญาณ’ ได้?
หรือจะเป็นเพราะ...สัตว์ร้ายที่มีจิตวิญญาณกล้าแข็ง ดื้อรั้นและต้องการพบอย่างรุนแรง? ไม่สิ.. เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ด้วย ที่มีความผูกผันจนยากที่จะห่างไกลกันได้
คาดว่าอีกไม่นานเนื้อเรื่องเดิมได้เปลี่ยนไปจนหมดแน่ เพราะวิญญาณที่แทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ดันเป็นสัตว์ร้าย ตัวละครในโลกก่อน!!
[บันทึกของระบบ]
อ๊า..ยุ่งยากขึ้นกว่าเดิมแล้วสิ ทำไมถึงมีจิตที่เข้มแข็งและดื้อรั้นแบบนี้นะ เกินไปแล้ว!! ถึงขั้นแทรกแซงมิติเพื่อจะหาคนรักที่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว ซันซัสยึดติดกับเจ้าหน้าที่มากเลยคงเพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กด้วย งานยากเลยทีนี้ คาดว่าเบื้องบนไม่ถือโทษด้วยเพราะไม่ได้ขัดกับภารกิจ แต่คงไม่อยากไปทำลายจิตวิญญาณบริสุทธิ์ทั้งสองดวงที่เกี่ยวพันกันอยู่ แต่สัตว์ร้ายนี่น่ากลัวมากเลย... ถึงขั้นเรียกเจ้าหน้าที่ไปหาได้เพราะต้องการระบุจุดที่อยู่นี่มัน... อีกไม่นาน ‘เขา’ คงได้ตื่นขึ้นมาในร่างนั้นแน่นอนเลย ความรู้สึกที่เริ่มถักทอกับเจ้าหน้าที่ เมื่อมีเสี้ยววิญญาณเดิมกลับมาแล้ว เจ้าหน้าที่ไม่รอดแน่...
---------------
สวัสดีค่า มาส่งเจ้าหน้าที่น้อยแล้วน้า(สั้นกว่าเดิมไปนีสส) นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แต่งหลังจากไม่ได้แตะนานหลายปี ถือว่าเป็นมือใหม่หัดแต่งเนอะขอบคุณทุกคำติชมจ้า ศิจะนำมาปรับปรุงนะคะ ในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็ฮีทแล้ว แถมยังโดนตามรังควานอีก จิตที่เชื่อมกันแล้วไม่แคล้วกันหรอกหนาาา เมื่อเสี้ยววิญญญาณเดิมกลับเข้าร่าง เจ้าหน้าที่ถูกกินเรียบแน่เลย เพราะโลกก่อนสัตว์ร้ายเอาแต่ยึกยักไปจับน้องลงท้องเสียที มาคราวนี้เจ้าหน้าที่น้องคงไม่เหลือกระทั่งกระดูก 55555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เตรียมต่อเรือลำที่สอง
สัตว์ร้ายกำลังจะคัมแบคจ้าทุกค๊นนน ภาวนาให้ออทัมโดนกินเร็วๆ ว๊ากกก
งือ รอววววววววว ค้างงงงงงง
รอดูเจ้าหน้าที่ถูกกินค่ะ //ปาดน้ำลาย
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ววววววววววววววว
รอรอ
มันสนุกมากอ่ะ
พยายามต่อไปเข้าไว้นะไรต์
//กลัวไรท์จับพล็อตพลิกคว่ำพลิกหงาย จนต้องบ่นว่าพีคไปอีกกก จริงๆเลย นี่เราลงเรือทัชวินมาตั้งแต่เริ่มโกนี้เลยนะ
ลุ้น พ่อสัตว์ร้ายจิเป็นใคร จะเป็นคนที่คิดหรือพลิกล็อคคคค