ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ราชบุตรเขย (โง่) อันดับหนึ่ง

    ลำดับตอนที่ #5 : 5 - ยกเลิกการหมั้นหมาย

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 67


    5 - ยกเลิกการหมั้นหมาย


    แต่ไหนแต่ไรตำแหน่งราชบุตรเขยเป็นงานที่น่าเบื่อที่สุด ฉินโม่ไม่มีทางอยากเป็นราชบุตรเขย

    เขาอยากมีภรรยาและนางบำเรอมากมาย มีคนรายล้อมทุกเช้าค่ำ

    ตื่นขึ้นมาท่ามกลางเหล่าสตรีทุกวัน!

    แน่นอน การพูดเช่นนี้มีความเสี่ยงที่จะถูกตัดศรีษะ แต่เขาใช้ข้ออ้างว่าเขาเป็นคนโง่จึงกล้าพูดออกไป

    ทุกคนที่อยู่ในตำหนักต่างมองหน้าฉินโม่ด้วยดวงตาเบิกกว้างอย่างตกตะลึง แล้วหันไปมองหลี่ซื่อหลง

    ขณะนั้น สีหน้าของหลี่ซื่อหลงดำคล้ำไปหมด

    "เพี๊ยะ!"

    ฉินเซียงหรูตบหัวฉินโม่ทันที "เจ้าโง่ คุกเข่าลงเดี๋ยวนี้!"

    เขารีบคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัว "ฝ่าบาท บุตรชายของกระหม่อมกล่าววาจาโดยไม่ผ่านการกลั่นกรองจากสมอง ขอพระราชทานอภัย!"

    "ข้าคิดมาดีแล้ว! ข้าไม่ต้องการแต่งกับองค์หญิง!" ฉินโม่กล่าวหน้าซื่อจากนั้นก็มองหลี่ซื่อหลง "ท่านพ่อตา ท่านจะไม่คืนคำใช่ไหม?"

    หลี่ซื่อหลงโกรธจนกัดฟัน "เจ้าโง่นี่ ช่างบ้าบิ่นเกินไปแล้ว!"

    การยกเลิกการหมั้นหมายกับองค์หญิงเท่ากับตบหน้าเขาเอง! พิธีสมรสที่กำหนดไว้ในช่วงฤดูร้อนปีนี้ได้มีการประกาศไปทั่วอาณาจักร หากเขายอมให้ยกเลิกการหมั้น ทุกคนในแผ่นดินจะต้องหัวเราะเยาะเขา

    แต่เมื่อเจอฉินโม่บีบคั้นเช่นนี้ เขาก็พูดอะไรไม่ออก

    "ข้ารักษาคำพูด แต่การหมั้นหมายต้องเป็นไปตามความเห็นชอบของพ่อแม่และแม่สื่อ ไม่ใช่แค่ข้ายกเลิกแล้วมันจะจบลงตรงนี้!" หลี่ซื่อหลงตอบอย่างเย็นชา

    หลี่ซื่อหลงหันไปบอกกับฉินเซียงหรู "เซียงหรูพาลูกเจ้ากลับไปได้แล้ว สั่งสอนมันให้ดี!"

    "พะย่ะค่ะ กระหม่อมจะตีเจ้าลูกชั่วให้ตาย!" ฉินเซียงหรูหวาดกลัวถึงขีดสุด เหงื่อเย็นไหลทั่วตัว เขาสาบานว่าต่อไปเขาจะไม่พาเจ้าโง่คนนี้เข้าวังอีกเด็ดขาด

    แต่ในขณะที่เขากำลังจะออกไป จู่ๆ มีคนวิ่งออกมาจากตำหนักด้านข้าง "พระบิดา! โปรดยกเลิกการหมั้นหมายนี้ด้วย!"

    "อวี้ซู่! เจ้ามาที่นี่ทำไม?" หลี่ซื่อหลงเห็นดวงตาแดงก่ำขององค์หญิงหลี่อวี้ซู่ก็ขมวดคิ้วถาม "ข้ากำลังปรึกษาข้อราชการกับเหล่าขุนนาง ใครอนุญาตให้เจ้าสอดแทรกวาจา?"

    หลี่อวี้ซู่ร้องไห้ "พระบิดา ลูกไม่ต้องการแต่งงานกับเจ้าโง่ฉิน! ขอพระบิดาโปรดเห็นใจด้วย!"

    ทุกคนในตำหนักต่างตกตะลึงอีกครั้ง

    พวกเขามองไปที่หลี่ซื่อหลง แล้วหันไปมองฉินเซียงหรู

    ฉินเซียงหรูรู้สึกไม่สบายใจ ขณะที่สีหน้าของหลี่ซื่อหลงยิ่งทวีความไม่พอใจมากกว่า "หุบปาก! ข้าได้พระราชทานราชโองการยกเจ้าให้แต่งกับฉินโม่แล้ว! ตระกูลฉินทำพิธีสู่ขอตามราชประเพณีเสร็จสิ้น การแต่งงานไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ เจ้าอยากให้คนในแผ่นดินเยาะเย้ยข้าว่าไม่รักษาคำพูดหรือ?"

    ฉินโม่มองดูหญิงสาวในชุดสีแดงที่ยืนอยู่ตรงหน้า

    นี่หรือคือองค์หญิง?

    ให้ตายเถอะ นางสวยมาก! ผิวขาวนวล มงกุฎคิ้วโก่งดั่งคันศร ดูแล้วงามกว่าหญิงสาวที่มหาวิทยาลัยไม่รู้กี่เท่า

    แต่เมื่อคิดว่านางรังเกียจเขาเช่นนี้ หากต้องแต่งกันจริงๆ ชีวิตคู่คงจะลำบากน่าดู

    แย่กว่านั้น นางอาจเลี้ยงชายอื่นในบ้านถึงสิบคน แล้วใส่เขาเป็นสามีแค่ในนาม!

    เขาไม่ขอแต่งกับนางเด็ดขาด!

    "ท่านพ่อตา! ข้าไม่ต้องการแต่งกับนาง นางน่ากลัวเกินไป หน้าตาราวกับสัตว์ประหลาด หากต้องนอนกอดนางเข้านอนข้าคงฝันร้ายทุกคืน!"

    ฉินโม่แสดงท่าทีหวาดกลัวอย่างที่สุด

    ทุกคนในตำหนักพูดไม่ออก

    องค์หญิงจิ่นหยางเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของอาณาจักร

    เจ้าโง่ฉินไม่เพียงแต่สมองได้รับความเสียหาย เขายังมีปัญหากับมาตรฐานความงามอีกด้วย!

    หลี่อวี้ซู่มองฉินโม่ด้วยความโกรธ "ข้าเสียใจจริงๆ ที่วันนี้ไม่ได้ตีเจ้าให้ตาย! เจ้าถึงได้กล้ามาดูถูกข้าเช่นนี้!"

    ให้ตายเถอะ! หัวที่บวมอยู่ของเขาเกิดจากนางนี่เอง

    แบบนี้ยิ่งไม่สามารถแต่งงานกับนางได้

    เพราะเจ้าของร่างเดิมของเขาถูกนางตีจนตายไปแล้วจริงๆ

    และเขาไม่อยากตายอีกครั้ง!

    "ท่านพ่อตานางตั้งใจจะตีข้าให้ตาย! ดูที่ศีรษะข้าสิ บวมขนาดนี้แล้ว ไม่มีทางที่ข้าจะแต่งกับนางได้!"

    ฉินโม่เดินเข้าไปหาหลี่ซื่อหลงด้วยท่าทางน้อยใจ พร้อมทั้งยื่นศีรษะที่มีบวมใหญ่ให้ฮ่องเต้ได้ดู

    เมื่อเห็นแผลที่ยังคงมีเลือดไหลอยู่ หลี่ซื่อหลงก็โกรธจัด ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าทำไมฉินเซียงหรูถึงได้ตีบุตรของตัวเองและพามาขออภัยโทษ

    เป็นเพราะเขาไม่อยากให้เรื่องเสื่อมเสียไปมากกว่านี้ และเจ้าโง่ฉินที่ขอยกเลิกการหมั้น ก็เพราะว่าถูกหลี่อวี้ซู่ทำให้หวาดกลัวนั่นเอง

    ท่าทางหวาดกลัวของฉินโม่ดูออกว่าเป็นความกลัวจากใจจริง แม้ว่าเจ้าโง่นี้จะไม่ได้มีสมองที่ดีนัก แต่ก็ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไร และเพิ่งช่วยแก้ปัญหาให้เขาเมื่อครู่

    แน่นอนว่าการทะเลาะเบาะแว้งของพวกเขาก็ต้องเกิดจากการที่ฉินโม่ทำตัวไม่เหมาะสมอยู่บ้าง แต่บุรุษใดในโลกไม่เจ้าชู้ แม้ว่าองค์หญิงจะเป็นบุตรีของเขาแต่นางก็นับว่าเป็นภรรยาของฉินโม่ด้วย สามีหยอกล้อภรรยาถือเป็นเรื่องที่ผิดหรือ?

    ไม่แน่นอน!

    *(ถ้ามีพันธะหมั้นหมายกันคนจีนยุคโบราณจะถือว่าเป็นสามีภรรยากันโดยชอบธรรมแล้ว หากคู่หมั้นเสียชีวิตอีกฝ่ายก็จะถือว่าเป็นหม้ายเช่นกัน ต่อให้ยังไม่มีความสัมพันธ์ทางร่างกายก็ตาม)

    "อวี้ซู่! เจ้าอยากทำให้ข้าคลั่งใจตายหรืออย่างไร!" หลี่ซื่อหลงกล่าวด้วยความโกรธ "ฉินโม่คือว่าที่สามีของเจ้า แม้ว่าเขาจะโง่ไปบ้างแต่เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะรังแกเขา! ข้าสั่งให้เจ้าไปดูแลเขา ไม่ใช่ไปตีเขา!"

    หลี่อวี้ซู่ที่กำลังร้องไห้อยู่ยิ่งรู้สึกคับแค้นใจ "เจ้าโง่นี่แกล้งป่วยหลอกให้ข้าไปหา แล้วก็หาโอกาสรังแกข้า ถ้าไม่ใช่เพราะข้าหนีได้ทัน ข้าคงถูกเจ้าโง่นี่รังแกไปแล้ว!"

    "ขอโทษฉินโม่เดี๋ยวนี้!" หลี่ซื่อหลงกล่าวอย่างเด็ดขาด

    "ข้าไม่ขอโทษ!" หลี่อวี้ซู่กระชากเสียง

    ฉินเซียงหรูไม่คาดคิดว่าเรื่องจะพลิกผันมาถึงขั้นนี้ได้ แต่เขารู้ดีว่าขณะนี้ขาของฉินโม่ปลอดภัยแล้ว ถึงอย่างนั้นเขาก็ต้องไว้หน้าหลี่อวี้ซู่ซึ่งเป็นองค์หญิงที่ฮ่องเต้รักที่สุด ดังนั้นเขาจึงรีบกล่าวว่า

    "ฝ่าบาท องค์หญิงไม่ได้ผิดอะไร เป็นบุตรชั่วของกระหม่อมเองที่เป็นคนผิด กระหม่อมจะตีขามันให้หัก!"

    "ข้าไม่ต้องการให้นางขอโทษ ข้าแค่อยากให้ท่านพ่อตายกเลิกการหมั้นหมายนี้ ข้าจะให้คำแนะนำท่านพ่อตาทุกวัน ช่วยรักษาราชบัลลังก์ต้าเฉียนไปอีกนับพันปี!" ฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่

    หลี่ซื่อหลงที่ได้ยินเช่นนั้นก็คิดว่าฉินโม่เป็นคนซื่อสัตย์ แม้จะโง่เขลาแต่ก็ยังภักดี

    "ไม่ใช่แค่องค์หญิง แม้แต่ข้าเอง ถ้าทำผิดก็ต้องขอโทษเช่นกัน! ถ้าเจ้าไม่ยอมขอโทษข้าก็จะไม่นับว่าเจ้าเป็นบุตรีอีกต่อไป!"

    คำพูดนี้ทำให้ทุกคนในที่นั้นตกใจ

    กงซุนอู๋จี้รีบคุกเข่าลงบนพื้น "องค์หญิงกระหม่อมขอร้อง อย่าดื้อไปมากกว่านี้เลย!"

    "ท่านลุงแม้แต่ท่านก็คิดว่าข้าผิดหรือ?" หลี่อวี้ซู่ร้องไห้และกล่าวด้วยความคับแค้น "เจ้าโง่นี่รังแกข้า ไม่เพียงเขาไม่ถูกลงโทษแต่ทุกคนยังโยนความผิดมาที่ข้าอีก!"

    "เจ้ายังจะกล่าวหาเขา!" หลี่ซื่อหลงโกรธจัด "เจ้าโง่คนนี้ไม่มีทางทำอย่างที่เจ้าว่า!"

    "พระบิดา ข้าไม่ได้ใส่ร้ายเขา!" หลี่อวี้ซู่ยังคงโต้แย้ง

    "พาองค์หญิงกลับไปที่ตำหนักและกักบริเวณหนึ่งเดือน หากไม่ได้รับคำสั่งจากข้าห้ามปล่อยนางออกมาเด็ดขาด!" หลี่ซื่อหลงสั่ง

    จากนั้นขันทีสองคนก็รีบเข้ามากระซิบด้านข้างหลี่อวี้ซู่ "องค์หญิงเชิญเสด็จ!"

    หลี่อวี้ซู่วิ่งหนีไปทั้งน้ำตา แต่ก่อนจะจากไป นางได้เตะฉินโม่อีกเท้า "เจ้าโง่ฉิน เจ้าระวังตัวไว้ หากมีโอกาสข้าจะฆ่าเจ้าแน่นอน!"

    ฉินโม่จับขาตัวเองพร้อมกับคิดด้วยความเคียดแค้น "โธ่เอ๊ย นางโหดเกินไปแล้ว! จะให้ข้าแต่งกับนางไม่มีทางเด็ดขาด!"

    "ท่านพ่อตา ท่านเห็นหรือไม่?" ฉินโม่กล่าวพร้อมชี้ไปที่ขาของเขา

    หลี่ซื่อหลงเองก็รู้สึกอับอายอย่างมาก จึงกล่าวแก้ต่างว่า "ลูกเขยที่รัก ข้ารู้สึกเสียใจจริงๆ ที่นางทำกับเจ้าแบบนี้! ก่อนกลับเจ้าก็แวะไปที่สำนักหมอหลวงเพื่อรับโสมบำรุงร่างกายร้อยต้นก็แล้วกัน!"

    "ท่านพ่อตา..." ฉินโม่ยังอยากจะพูดต่อ แต่ฉินเซียงหรูรีบตะครุบปากของเขาไว้

    "หุบปาก!"

    แล้วฉินเซียงหรูก็คุกเข่า "ขอบพระทัยฝ่าบาท!"

    เมื่อออกจากพระราชวัง ฉินโม่ถือยาทาแผลและโสมร้อยต้นไว้ในมือ แต่กลับรู้สึกหมดหวัง

    "เฮ้อ! ข้าโง่ขนาดนี้แล้วฮ่องเต้ก็ยังไม่ยอมปล่อยข้าไป ดูท่าว่าต่อไปข้าคงไม่สามารถให้คำแนะนำใดๆ ได้อีก ไม่เช่นนั้นฮ่องเต้จะยิ่งไม่ปล่อยข้า!"

    เมื่อเดินออกจากประตูวัง ฉินเซียงหรูก็อดไม่ได้ที่จะถาม "พ่อมีเรื่องจะถามเจ้า ใครใช้ให้เจ้าแกล้งป่วยเพื่อหลอกองค์หญิงมาเยี่ยม?"

    ……

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×