ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ราชบุตรเขย (โง่) อันดับหนึ่ง

    ลำดับตอนที่ #12 : 12 - หลี่เยว่เป็นคนวางแผน

    • อัปเดตล่าสุด 24 ก.ย. 67


    12 - หลี่เยว่เป็นคนวางแผน


    ฉินโม่พยายามเดินอย่างช้าๆ แสดงให้เห็นว่าเขาบาดเจ็บหนัก เมื่อออกมาจากตำหนัก เขาเห็นหลี่เยว่ยืนหลบอยู่มุมหนึ่ง

    "เฮ้! เจ้าทำอะไรอยู่?" ฉินโม่ถาม

    "ถ้าไม่มีข้า เจ้าคงโดนพระบิดาฆ่าตายไปแล้ว!" หลี่เยว่ตอบเบาๆ

    "ห๊ะ! เจ้าคือคนที่ไปเรียกท่านแม่ยายมา?"

    หลี่เยว่พยักหน้าแล้วยิ้ม "เจ้าโง่ เจ้าควรจะขอบคุณข้าที่ช่วยเจ้าไว้!"

    "ขอบคุณบ้าอะไร!" ฉินโม่กระชากเสียง

    ฉินโม่รู้สึกเหมือนเพิ่งออกจากถ้ำหมาป่าและเดินเข้าไปในถ้ำเสือต่อ เขารู้ว่าฮองเฮาเรียกเขามาเพราะต้องการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน

    เมื่อคิดได้ ฉินโม่หันไปยิ้มเจ้าเล่ห์ "พี่น้องที่ดี เจ้านี่ช่างมีน้ำใจ ข้าโชคดีเหลือเกินที่ได้พี่น้องอย่างเจ้า!"

    "อย่างน้อยเจ้าก็พูดจารู้เรื่องสักครั้ง" หลี่เยว่พยักหน้าด้วยความพอใจ จากนั้นเขาก็ช่วยพยุงฉินโม่เข้าไปในตำหนักหลี่เจิ้ง

    เมื่อเข้ามาถึง กงซุนฮองเฮาได้ให้คนเข้ามาทายาให้ฉินโม่ จากนั้นนางก็ไล่บรรดาข้ารับใช้และแม้กระทั่งหลี่เยว่ให้ออกไปรอข้างนอก

    ฉินโม่กลืนน้ำลายด้วยความกังวล พลางแกล้งทำเป็นบาดเจ็บหนักและร้องโอดครวญ "ท่านแม่ยาย ข้าปวดเหลือเกิน!"

    กงซุนฮองเฮามองฉินโม่ด้วยรอยยิ้มขบขัน "พอเถอะ หากฝ่าบาทต้องการจะโบยเจ้าจนตาย ไม่ต้องถึงสี่สิบไม้หรอก แค่ไม้แรกเจ้าก็ไม่รอดแล้ว เจ้าคิดว่าข้าจะไม่รู้เรื่องที่เจ้าพูดมั่วๆ หรือ?"

    ฉินโม่รู้ทันทีว่าตัวเองไม่รอดแน่ เขาได้แต่ทำหน้าตาเศร้าเหมือนคนหมดหนทาง

    แต่กงซุนฮองเฮาไม่หลงกล "ฉินโม่ เจ้ากล้ามาก แกล้งป่วยก็เรื่องหนึ่ง แต่เจ้ากลับฉวยโอกาสรังแกจิ่นหยางตอนที่นางเอายาไปให้!"

    เมื่อวานนี้หลี่อวี้ซู่มาที่ตำหนักของนางพร้อมกับร้องไห้ด้วยความโกรธแค้น ฮองเฮารู้ดีถึงนิสัยของบุตรสาวตน หลี่อวี้ซู่อาจไม่ชอบฉินโม่ แต่จะไม่มีทางทำร้ายเขาโดยไร้เหตุผลแน่นอน

    "ท่านแม่ยายข้าถูกใส่ร้าย! นางตีข้าก่อน ท่านดูสิ บนศีรษะข้ายังบวมอยู่เลย ถ้าข้าไม่เกิดมาร่างกายแข็งแรงเหมือนวัวควาย ข้าคงตายไปแล้ว!" ฉินโม่รีบอ้าง

    "จิ่นหยางตีเจ้าเป็นเรื่องที่ผิด แต่ข้ารู้จักลูกสาวข้าดี" ฮองเฮากล่าว "นาหมั้นหมายกับเจ้าแล้วสุดท้ายนางจะต้องเป็นของเจ้า แต่เหตุใดเจ้าจึงทำตัวเลวร้ายถึงขนาดนี้ เจ้ารู้ไหมว่าหากเรื่องนี้แพร่ออกไป ตระกูลของเจ้าจะต้องถูกประหารสามชั่วโคตร!"

    ฉินโม่ตัวเย็นวาบไปทั้งตัว นี่เขาลืมไปเสียสนิทว่าฮองเฮาไม่ใช่คนที่ควรมองข้าม

    "ท่านแม่ยาย ข้าถูกใส่ร้าย! ทั้งหมดนี้เป็นเพราะมีคนยุยงข้า!" ฉินโม่พูดออกไปด้วยท่าทางน่าสงสาร

    "ใครกัน?" ฮองเฮาถาม

    "หลี่เยว่!" ฉินโม่รีบโยนความผิดไปที่หลี่เยว่ทันที

    "โกหก! หลี่เยว่เป็นน้องชายของจิ่นหยาง เขาจะยุยงเจ้าให้รังแกพี่สาวตัวเองได้อย่างไร?" ฮองเฮาตอบด้วยสีหน้าสงสัย หลี่เยว่แม้จะไม่ใช่บุตรของนาง แต่นางเป็นคนเลี้ยงเขามากับมือ ในบรรดาองค์ชายทั้งหมดเขานิสัยเรียบร้อยที่สุด จะทำเรื่องชั่วช้าแบบนี้ได้อย่างไร

    "จริงๆ ท่านแม่ยาย! ถ้าท่านไม่เชื่อก็เรียกหลี่เยว่เข้ามาสอบถามดูได้เลย!" ฉินโม่กล่าวอย่างรวดเร็ว แม้เขาจะรู้สึกผิดที่หลี่เยว่เคยช่วยเขาไว้ แต่เรื่องทั้งหมดนี้เริ่มต้นจากหลี่เยว่ ทั้งสองฝ่ายจึงต้องแบกรับความผิดไปด้วยกัน

    ฮองเฮามีสีหน้าลำบากใจ แต่นางก็รู้ว่าฉินโม่ไม่ได้เป็นคนที่เก่งเรื่องการโกหก มีอะไรเขาก็พูดออกมาตรงๆ นางจึงเรียกหลี่เยว่เข้ามา

    หลี่เยว่ยังไม่ทันรู้ตัว พอเข้ามาในตำหนักก็ได้ยินฮองเฮากล่าว "ฉินโม่บอกว่าเจ้าคือคนที่ยุให้เขารังแกจิ่นหยาง!"

    หลี่เยว่ตกตะลึงทันที เขาไม่คิดเลยว่าเจ้าโง่ฉินจะพูดเรื่องนี้ออกมา เขาจ้องมองฉินโม่ด้วยความโกรธ

    ในที่สุดหลี่เยว่ก็ยอมแพ้และทรุดตัวลงกับพื้น "พระมารดา ข้าผิดไปแล้ว!"

    กงซุนฮองเฮามองหลี่เยว่ด้วยสายตาผิดหวัง "บอกมาว่าเจ้าทำไปทำไม? ข้าปฏิบัติต่อพวกเจ้าทุกคนอย่างเท่าเทียม เจ้ารู้ใช่ไหมว่า ถ้าฝ่าบาทรู้เรื่องนี้จะเกิดอะไรขึ้น?"

    หลี่เยว่รู้ดีว่า หากฮ่องเต้ทราบเรื่องนี้ เขาอาจถูกลงโทษอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นโบยหรือถูกเนรเทศออกจากเมือง

    ฉินโม่เองก็สงสัยไม่น้อย ทำไมหลี่เยว่ถึงต้องยุยงให้เขารังแกหลี่อวี้ซู่?

    เมื่อหลี่เยว่เห็นสายตาของฉินโม่ เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

    "เพราะอะไร?" กงซุนฮองเฮาคาดคั้น คิ้วของนางเริ่มขมวด

    หลี่เยว่รู้ดีว่าฮองเฮามีอาการเจ็บหน้าอกเมื่อเกิดความเครียด เขาจึงรีบตอบอย่างรวดเร็ว "พระมารดาโปรดอย่าพิโรธ ข้าจะบอกความจริง!"

    กงซุนฮองเฮาหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่อาการจะทุเลาลง

    "ข้ารู้ดีว่าพี่เจ็ดไม่ชอบฉินโม่เลย นางพยายามหาทางยกเลิกการหมั้นหมายหลายครั้ง ฉินโม่ถึงแม้จะโง่เขลาไม่ชอบเล่าเรียน แต่เขาเป็นคนซื่อสัตย์และไม่มีเล่ห์เหลี่ยม หากการหมั้นถูกยกเลิก ฉินโม่และตระกูลฉินจะกลายเป็นเป้าหัวเราะของผู้คน ข้าในฐานะสหายไม่อาจทนเห็นเขาได้รับความอับอายได้"

    "ดังนั้นเจ้าจึงยุให้เขารังแกพี่สาวของตัวเอง เพื่อให้เรื่องมันเลยเถิดไป?" ฮองเฮาถามต่อ

    "ใช่พ่ะย่ะค่ะ!" หลี่เยว่คุกเข่าลงกับพื้น "พระมารดา ความผิดทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะข้า ฉินโม่โง่เขลาไม่รู้เรื่องราวระหว่างหญิงชาย ข้าเป็นคนชักจูงเขาเอง พระมารดาโปรดลงโทษ!"

    เขายิ้มเจื่อนๆ ในใจคิดว่าไม่ช้าก็เร็วพระบิดาคงจะรู้เรื่องนี้แน่ สุดท้ายเขาคงต้องถูกเนรเทศออกจากเมืองหลวงไม่มีทางได้พบกับแม่ที่แท้จริงของตัวเองอีกแล้ว

    ฉินโม่ฟังคำสารภาพของหลี่เยว่ด้วยความประหลาดใจ ในตอนแรกเขายังไม่อยากจะเชื่อ แต่คำพูดของหลี่เยว่ก็ทำให้เขาต้องยอมรับความจริง หลี่เยว่ถูกเขาทุบตีไม่เพียงไม่โกรธแค้น แต่ยังต้องการแบกรับความผิดไว้คนเดียว

    ฉินโม่รู้สึกซาบซึ้งใจที่หลี่เยว่ยอมรับผิดแทนเขา

    "ท่านแม่ยาย เรื่องนี้ข้ามีความผิดด้วย ข้ารู้ดีว่าองค์หญิงไม่ชอบข้า ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากขอให้ท่านแม่ยายช่วยหาคู่ครองที่เหมาะสมกับองค์หญิงด้วย โปรดอนุญาตให้พวกเรายกเลิกการหมั้นหมาย" ฉินโม่พูดด้วยท่าทางซื่อๆ

    หลี่เยว่ได้แต่ยิ้มขมขื่น เพราะรู้ว่าฉินโม่ไม่เข้าใจถึงผลกระทบที่ตามมาจากการถอนหมั้น

    "ฉินโม่ เจ้าเข้าใจว่าการมั่นหมายกับองค์หญิงเป็นเรื่องเล็กน้อยหรือ? เจ้าคิดว่าบุตรสาวของข้าเป็นผักในตลาดหรืออย่างไร?" กงซุนฮองเฮาตำหนิอย่างนุ่มนวล แต่ความโกรธของนางก็ลดลงมากแล้ว เพราะเห็นว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดจากความหวังดีของหลี่เยว่

    "ท่านแม่ยายอย่าลงโทษหลี่เยว่เลย เขาทั้งผอมและตัวเล็ก ถ้าโดนตีด้วยไม้ขนาดนั้นก้นของเขาต้องหักแน่นอน ข้ามีร่างกายบึกบึนตั้งแต่เกิด โบยข้าแทนดีกว่า!" ฉินโม่กล่าวพลางอวดกล้ามแขนของตัวเอง

    หลี่เยว่คิดในใจว่า แม้ว่าฉินโม่จะโง่เง่า แต่กลับเป็นพี่น้องที่ดีที่สุดของเขามาโดยตลอด ตั้งแต่เด็กที่เขาติดตามหลี่เยว่ ไม่ว่าองค์ชายคนอื่นจะรังแกหลี่เยว่มากเพียงใด ฉินโม่ก็เป็นคนเดียวที่ยืนหยัดอยู่เคียงข้างเขาเสมอ

    และครั้งนี้ก็เช่นกัน

    "พระมารดา เป็นความผิดของข้าเอง ข้าจะรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว!"

    หลี่เยว่โขกศีรษะสามครั้งจนเลือดไหลอาบใบหน้า

    "เจ้ารับผิดชอบไหวหรือ?" กงซุนฮองเฮาถอนหายใจ "แต่ละคนก็โตขึ้นกันหมดแล้ว พวกเจ้าควรจะมีความคิดแบบผู้ใหญ่สักที นี่เป็นความผิดครั้งแรกและขอให้มันเป็นครั้งสุดท้าย ฉินโม่เป็นคนซื่อเจ้าต้องปกป้องเขาอย่าพาเขาเดินบนทางผิด!"

    หลี่เยว่รีบโขกศรีษะแสดงความขอบคุณอีกครั้ง "ขอบพระทัยพระมารดา!"

    จากนั้นเขาตีหลังฉินโม่เบาๆ "เจ้าโง่ รีบขอบพระทัยพระมารดาเร็วเข้า!"

    ฉินโม่รู้ว่างานนี้จบลงอย่างปลอดภัย หากเป็นคนอื่นต่อให้ตีเขาจะตายก็ไม่มีทางโขกศีรษะแน่นอน แต่เขาก็ยังโขกศรีษะให้กับกงซุนหฮองเฮาอย่างนอบน้อม

    "ขอบคุณท่านแม่ยาย ข้าจะเชื่อฟังคำสั่งของท่านแม่ยายไปชั่วชีวิต!"

    "ต่อไปห้ามพูดเรื่องยกเลิกการแต่งงานอีก และเมื่อโทษกักบริเวณของอวี้ซู่สิ้นสุดลงเจ้าจะต้องไปขอโทษนางอีกครั้ง!"

    ฉินโม่เกาหัวอย่างงงๆ ในใจกลับยิ้มแห้งๆ "หมดกัน ครั้งนี้ข้าได้ขุดหลุมฝังตัวเองแล้ว!"

    "ได้ยินไหม?"

    "ได้ยินแล้ว แต่...องค์หญิงจะไม่เอาไม้ทุบข้าอีกใช่ไหม?" ฉินโม่ทำหน้าตกใจกลัว

    "ไม่หรอก"

    กงซุนฮองเฮากล่าว "เรื่องนี้ห้ามเอาไปพูดข้างนอก ถ้าเรื่องรั่วไหล ข้าไม่ปล่อยพวกเจ้าสองคนแน่!"

    "รับด้วยเกล้า!"

    "ไม่ต้องห่วงท่านแม่ยาย ข้ารับประกันว่าจะไม่พูดอะไร!" ฉินโม่ตบหน้าอกตัวเองอย่างมั่นใจ

    ……….
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×