ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Hey!Say!JUMP] No More PAIN (BuHik)

    ลำดับตอนที่ #4 : ++ตอนที่ 3++รัก...เป็นไปไม่ได้

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 54


     ตอนที่ 3

     

                ผมปาดน้ำตาอันน่าสมเพชของตัวเองออก หัวสมองผมตื้อไปหมดแล้ว ได้แต่บอกตัวเองว่ามันเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ตอนนี้เวลาล่วงเลยไปกว่าสิบนาทีแล้ว ผมคงต้องกลับห้องแล้วสินะ

                “นี่ฮะพี่ฮิค” อยู่ๆ ก็มีมือปริศนายื่นผ้าเช็ดหน้าสีเหลืองสวยมาให้ผมระหว่างที่ผมกำลังจะลุกขึ้นยืน มองเงยหน้ามองเจ้าของผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น

                “ไดจัง!

                “เอาไปใช้เถอะฮะ ^_^” ไดจังยิ้มให้ผม รอยยิ้มของเขาทำให้ผมสดชื่นขึ้นแต่ทำไมนะ ผมถึงเห็นแววตาของไดจังสั่นระริกราวกับกำลังเจ็บปวดอะไรสักอย่างอยู่

                ไดจังเป็นรุ่นน้องของผม เขากับผมค่อนข้างสนิทกันพอสมควรเพราะชอบเพลงแนวเดียวกัน แต่นึกๆ ไปแล้วคนที่สนิทกับไดจังที่สุดดูเหมือนจะเป็นยูยะนะ เห็นไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ พวกเรารู้จักกันเพราะไดจังนั้นนับถือยาบุมาก เขามาหายาบุ ตอนนั้นเองที่พวกเราได้เจอกัน

                “ขอบใจนะ” ผมยิ้มให้ไดจังแล้วรับผ้าเช็ดหน้ามา แม้มันจะเป็นรอยยิ้มที่เหมือนจะฝืนมากก็ตามที

                “ให้ผมไปส่งที่ห้องนะฮะ” ไดจังอาสา ถ้าเป็นปกติผมคงปฏิเสธไปเพราะความเกรงใจแล้วแต่ว่าตอนนี้...

                “ขอบใจนะไดจัง”

                ผมไม่มีแรงแม้แต่จะคิดอะไรทั้งสิ้น

                “ไม่เป็นไรฮะ ^^” ไดจังเดินมาส่งผมที่ห้อง ไดจังไม่ถามผมว่าเกิดอะไรขึ้น ผมรู้ว่าเขาเห็นผมร้องไห้ แต่ไดจังเลือกที่จะเงียบเพราะเขารู้จักผมดี ไดจังจับมือผมตลอดเลยราวกับจะให้กำลังใจ แต่ว่าเมื่อมาถึงหน้าห้องผมก็อยากจะวิ่งหนีออกไปซะเดี๋ยวนี้

                ยาบุกับเคย์กำลังดูหนังสือด้วยกัน คงเป็นเพราะเคย์เพิ่งเข้ามาใหม่เลยยังไม่มีหนังสือเรียน ใบหน้าของพวกเขาสองคนใกล้ชิดกันมาก แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้ผมเจ็บได้เท่ากับแววตาและรอยยิ้มที่ทั้งคู่ส่งให้แก่กัน

                มันชัดเจนอยู่แล้ว ชัดเจนเสียจนน่าใจหาย

                ไม่มีประโยชน์ที่ผมต้องหลอกตัวเองอีกต่อไปแล้ว ยาบุไม่เคยมองใครด้วยแววตาที่อ่อนโยนและเปี่ยมสุขขนาดนั้น แม้แต่กับผมที่เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุด

                “พี่ฮิคารุ” ไดจังเรียกผมเมื่อเห็นผมยืนนิ่งอยู่นาน ดวงตากลมของเขามองไปยังจุดเดียวกันกับผม ก่อนที่จะหันมามองผมอย่างเป็นห่วง ไดจังคงรู้แล้วสินะว่าสาเหตุที่ผมร้องไห้ขนาดนั้นเกิดจากอะไร

                แม้ว่าจะไม่เคยพูดเลยว่าผมชอบยาบุ แต่ก็มียูยะกับไดจังนี่แหละที่มองผมออก

                “นั่นเพื่อนใหม่เหรอฮะ” ไดจังถามเสียงเบาแล้วมองไปที่เคย์

                “อื้ม” ผมก็ตอบเขาเสียงเบาเหมือนกัน

                “พี่ไปเรียนล่ะนะ ไดจังก็รีบไปเข้าเรียนด้วยล่ะ” ผมตัดบทก่อนที่ผมจะเข้าห้องสายกว่านี้ ยูยะหันมาเห็นผมกับไดจังแล้ว เขามองพวกเราอย่างตกใจ

                “เดี๋ยวฮะพี่ฮิคารุ” เสียงเรียกของไดจังทำให้มือที่กำลังจะเปิดประตูห้องชะงัก ผมหันกลับไปหาไดจัง แล้วจู่ๆ เขาก็ดึงมือผมให้แบออก ก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างเย็นๆ บนฝ่ามือ

                “HAPPY BIRTHDAY นะฮะ” ไดจังยิ้มตาหยีให้ผมแล้ววิ่งออกไป ผมมองสร้อยสีเงินมีจี้รูปไม้กางเขนตรงแบบที่ผมชอบเป๊ะในมือ

                “ขอบใจมากนะ...ไดจัง” ผมขอบคุณคนที่วิ่งจากไปแล้วเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องเรียนเงียบๆ ทุกคนต่างมุ่งความสนใจไปที่อาจารย์คาเมนาชิ...ก็ดีแล้วล่ะ

                “มาแล้วเหรอฮิคารุคุง” เคย์เงยหน้าจากหนังสือที่อ่านด้วยกันกับยาบุมายิ้มให้ผม ยาบุไม่มีแม้แต่จะหันมาสนใจผม เขายังคงมองหน้าเคย์ใกล้ๆ อยู่อย่างนั้น ดูเหมือนจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผมกลับมาแล้ว...

                ไม่มีเพื่อนสนิทอย่างผมอยู่ในสายตาแล้วสินะ

                “อือ” ผมยิ้มฝืดๆ ไปให้เคย์ ผมรีบหันไปทางอื่นก็เจอยูยะที่มองผมอย่างเห็นใจ

                “นายไม่เป็นไรนะฮิคารุ” ยูยะกระซิบถามผม ผมพยักหน้าตอบอย่างเหนื่อยๆ...ใครว่าไม่เป็นอะไรล่ะ ผมอยากจะลุกหนีออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำ เสียงอ่อนโยนของยาบุที่พูดกับเคย์มันทำให้ผมเจ็บ

                เพราะคนที่เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้ไม่ใช่ผมอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นคนที่เขาเพิ่งจะเจอกันไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ...อิโนะโอะ เคย์

                “งั้นเหรอ...มีอะไรก็บอกฉันนะ” ยูยะบอกผม แต่เสียงเขาดูลุกลี้ลุกลนชอบกล ดวงตาของเขาด้วย ตั้งแต่ที่เห็นผมกับไดจังแล้ว

                “อื้ม ขอบใจนะยูยะ ว่าแต่นายเป็นอะไรน่ะ เห็นดูลุกลี้ลุกลนมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว เป็นอะไรหรือเปล่า”

                “อะ...เอ่อ...คือ ได...เอ้อ ฉันต้องไปก่อนนะ!

                “เดี๋ยว! นายจะไปไหนน่ะ นี่เราเรียนอยู่นะ” ผมบอกยูยะแต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจซะแล้ว

                “ขอโทษนะฮิคารุ แต่ตอนนี้...ฉันต้องไป!” ยูยะพูดก่อนที่จะรีบออกจะห้องไปโดยที่ไม่ฟังคำเรียกของผมและอาจารย์คาเมนาชิเลยแม้แต่น้อย

                “ยูยะ!!!

                “อ้าว!ยูยะเป็นอะไรน่ะ เอ๊ะ! ฮิคตัวน้อยมาแล้วเหรอเนี่ย หายไปตั้งนานแน่ะ” ยาบุหันมาและยิ้มให้ผมเหมือนทุกครั้ง...ที่เขายิ้มให้ผม

                “อื้ม...”

                ฉันนั่งอยู่ตรงนี้ข้างๆ นายมาพักแล้วนะยาบุ

                “คราวหลังจะไปไหนนายต้องบอกฉันนะ เป็นห่วงตั้งนาน ^^

                “อื้ม...”

                อย่ายิ้มให้ฉันแบบนี้อีกเลยนะยาบุ...

                “อ๊ะ!เคย์จังเปิดหนังสือผิดหน้าแล้วนะ”

                ถ้านายไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาอีกต่อไปแล้ว...

                ยินดีด้วยนะยาโอโตเมะ ฮิคารุ...กับของขวัญครบรอบ 18 ปีจากยาบุ โคตะ เพื่อนที่นายรักมาเป็นสิบปี

                ของขวัญที่ทำให้รู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น

                เพราะ “ความรักที่เป็นไปไม่ได้”

     

                ร่างสูงของยูยะรีบวิ่งตัดผ่านห้องเรียนมากมายโดยไม่สนใจสายตาของนักเรียนคนอื่นๆ ที่มองมาเลยสักนิด ตอนนี้เขารู้อยู่อย่างเดียวก็คือ...ต้องหารุ่นน้องที่ชื่อ “อาริโอกะ ไดกิ” ให้เจอ!!

                เขารีบวิ่งลงจากตึกเรียนไปยังสวนหย่อมเล็กๆ หลังตึกที่เขามักจะมากับไดกิเป็นประจำ

                “ฮึก...” เสียงสะอื้นเบาๆ ที่ดังมาทำให้ยูยะต้องรีบเร่งฝีเท้ามากกว่าเดิม

                “ไดจัง!” กะแล้วเชียว!

                “ยูยะคุง” ไดกิเงยหน้าแดงก่ำจากการร้องไห้มามองผู้มาเยือน ดวงตากลมใสแดงและช้ำไปหมด นั่นทำให้ยูยะต้องรีบเข้าไปนั่งข้างรุ่นน้องคนสนิท

                “ไม่...ฮึก...ไม่ไปเรียนเหรอฮะ” ไดกิถามเสียงสั่น น้ำใสๆ ยังคงไหลออกมาไม่ขาดสาย

                “ฉันจะไปเรียนได้ไง ในเมื่อนายยังร้องไห้อยู่แบบนี้” ยูยะพูดเสียงอ่อนก่อนจะดึงร่างของอีกคนมาซบที่ไหล่ตนเอง อีกมือหนึ่งก็โอบร่างเล็กกว่าเอาไว้ นั่นทำให้ไดกิร้องไห้หนักกว่าเดิม

                “ทำไม...ถึงตามผมมาล่ะฮะ” ไดกิถามขณะที่หน้ายังซุกอยู่กับไหล่ของอีกคน

                “แค่เห็นหน้าไดจังฉันก็รู้แล้วว่านายกำลังแย่ ไม่ให้ฉันตามมาได้ไง ไหนเล่ามาซิว่าทำไมถึงร้องไห้ขนาดนี้..” ยูยะเอามือลูบศีรษะรุ่นน้องคนสนิทเบาๆ เขาไม่ชอบเลยที่ต้องเห็นคนสดใสร่าเริงอย่างไดกิต้องร้องไห้หนักขนาดนี้...

                “ฮึก...ฮิคารุคุง...” ไดกิตอบได้แค่นั้น เขารู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่ลำคอเมื่อนึกถึงคำพูดที่ได้ยินเต็มสองรูหู

                “เอ๋?ฮิคารุทำไมเหรอ” ยูยะถามอย่างสงสัย ทั้งเขาและไดกิต่างก็รู้อยู่แล้วว่าฮิคารุชอบยาบุ และไดกิเองก็ชอบฮิคารุมากๆ แต่เรื่องนี้ไดกิน่าจะทำใจมานานแล้วไม่ใช่เหรอ ถึงแม้จะไม่เคยได้ยินฮิคารุพูดออกมาก็เถอะว่าชอบยาบุ แต่ท่าทางที่แสดงออกมามันก็ชัดเจนอยู่แล้ว...นี่แล้วทำไม?

                “ที่ห้องน้ำฮิคารุคุงพูดออกมาชัดเจนเลย...ว่าชอบรุ่นพี่ยาบุ”

                “เอ๋!

                “ฮิคารุคุงไม่เคยยอมรับออกมาตรงๆ เลยแต่ครั้งนี้ผมได้ยินมันชัดเจน ชัดเสียจนน่าใจหาย...” น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วกลับมาไหลอีกครั้งจนไหล่ของยูยะเปียกชุ่ม ยูยะเองก็อึ้งจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นั่งนิ่งฟังไดกิร้องไห้อยู่อย่างนั้น

                “ฮิคารุคุงร้องไห้อย่างหนักเพราะยาบุคุงกับนักเรียนใหม่คนนั้น ฮิคารุคุงที่สนุกสนานเฮฮาต้องเสียน้ำตามากมายให้กับผู้ชายคนนั้น...”

                “...”

                “ผมไม่มีสิทธิ์แล้วใช่มั้ยฮะรุ่นพี่ยูยะ ฮึก...”

                “...”

                ไม่มีคำตอบจากคนร่างสูง มีเพียงฝ่ามือที่คอยลูบอย่างปลอบประโลมและอ้อมกอดที่อบอุ่นเพียงเท่านั้น ก่อนที่มือใหญ่จะเอื้อมมือมาลูบน้ำใสๆ ออกไป

                “นอนเถอะ” ยูยะเอ่ยขึ้นหลังจากนั่งฟังไดกิร้องไห้สักพักก่อนจะเอนตัวลงนอนบนผืนหญ้าเขียวขจีแล้งดึงร่างเล็กของรุ่นน้องให้นอนตามข้างๆ ด้วย

                “เอ๋” ไดกิหันไปมองรุ่นพี่คนสนิทด้วยความงง

                “วันนี้อากาศดีนะ” ยูยะแกล้งหลบสายตางุนงงของรุ่นน้องไปมองท้องฟ้าสีสดใสแต่แดดไม่จ้าจนเกินไปแทน ไดกิมองท่าทางของยูยะแล้วอมยิ้มนิดๆ นี่ละนะ วิธีการปลอบคนของรุ่นพี่ที่ชื่อ “ทาคาคิ ยูยะ”

                “แล้วไม่ไปเรียนต่อเหรอฮะ เหลืออีกตั้งสองวิชาก่อนพักเที่ยงไม่ใช่เหรอ” ไดกิถาม ก็ปกติรุ่นพี่ยูยะไม่เคยโดดเรียนนี่นา ยูยะเลยหันมายิ้มให้ไดกิโดยไม่ลืมที่จะขยี้หัวเจ้ารุ่นน้องแก้มป่องคนนี้ด้วย

                “โดดสักพักไม่เป็นไรหรอกน่า นอนเถอะ ง่วงแล้ว” ยูยะตัดบทแล้วหลับตาลง ไดกิมองหน้ายูยะสักพักแล้วค่อยๆ หลับตาลง ความเศร้าและความเจ็บในใจยังคงไม่จางหายไป ยังไงก็ขอหลับสักพัก...ให้ลืมความเจ็บปวดนี้สักพักก็ยังดี

                อย่างน้อย...ก็ขอให้ฝันดีสักครั้งเถอะนะก่อนที่จะตื่นขึ้นมาพบกับความจริงอันเจ็บปวด

                ว่าหัวใจของพี่ฮิคารุ...ไม่เหลือที่ไว้ให้เขาอีกแล้ว แค่นิดเดียวก็ยังไม่มี

                “ขอบคุณนะฮะ รุ่นพี่ยูยะ”

                ....

     

                พักเที่ยง

                “ไปล่ะนะ ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ”

                “ฮะ”

                หลังจากไปกินข้าวกับไดกิเรียบร้อยแล้ว ยูยะก็พารุ่นน้องคนสนิทไปส่งที่ห้องโดยไม่ลืมที่จะกำชับให้ตั้งใจเรียนเพราะเขาเดาออกว่าไดกิก็เหม่อลอยจนไม่มีสมาธิในการเรียนเป็นแน่ ก่อนที่ร่างสูงจะเดินกลับเข้ามาในห้อง

                ครืด

                “อ้าว!ฮิคารุ...ทำไมมานั่งอยู่ที่นี่คนเดียวล่ะ ไม่ไปกินข้าวเหรอ” ยูยะเอ่ยถามฮิคารุที่นั่งเงียบอยู่ก่อนแล้ว ฮิคารุส่ายหน้ามาเป็นคำตอบ

                “แล้ว...ยาบุล่ะ” เอ่ยถามถึงใครอีกคนที่ปกติจะต้องอยู่ด้วยกันตลอด

                “อ๋อ...ออกไปกินข้าวกับอิโนะคุงแล้วล่ะ”

                “ว่าไงนะ!” ยูยะหันมามองหน้าฮิคารุให้ชัดๆ น้ำตาที่เก็บไว้ทำท่าจะรื้นออกมาอีกแล้ว ให้ตายเถอะ! เขามัวแต่ห่วงไดกิจนลืมฮิคารุไปเสียสนิทเลย ถ้าอย่างนั้นระหว่างที่เขาไม่อยู่ฮิคารุก็...

                ครืด!

                “อ้าว!ยูยะ กลับมาแล้วเหรอ หายไปไหนตั้งนานน่ะ” เสียงยาบุดังขึ้นมาขัดความคิด ทำให้ทั้งยูยะและฮิคารุต้องเงยหน้าคนที่เพิ่งมาเยือน

                “ยาบุ...อิโนะ” คิ้วของยูยะขมวดขึ้นทันทีเมื่อเหลือบไปเห็นมือของทั้งสองคนที่ประสานกัน ยูยะเหลือบไปมองที่ฮิคารุที่มองภาพเดียวกับเขาด้วยความนิ่งอึ้งทำให้ยูยะต้องเอื้อมมือไปบีบให้กำลังฮิคารุเบาๆ

                “เป็นอะไรน่ะ ทำไมทำหน้าตกใจขนาดนั้น” ยาบุถามงงๆ

                “พวก...พวกนายสองคน” ยูยะก้มมองมือของยาบุและเคย์อีกครั้ง ทำให้ทั้งสองต้องมองตามก่อนที่จะยิ้มออกมา

                “อ๋อ! เอ้อ...ว่าจะมาบอกพวกนายเลยเหมือนกัน...ฉันตกลงคบกับเคย์จังแล้วนะ ^_^

                !!!!

     

     ==============================================================================================================================

     กลับมาอ่านตอนนี้อีกที เกิดคำถาม....อ๊าก!!TOT นี่ชั้นแต่งอะไรลงไปเนี่ยยยยยย TT^TT ตอนแรกไม่ได้กะจะให้เป็นแบบนี้เลยนะ ฮือๆๆ ไหงมันเร็วแบบนี้ล่ะ (จะไปรู้แกเรอะ!) ขอโทษที่หายไปนานชาติเศษน้า ขอบคุณที่เม้นท์ให้กำลังใจกันนะคับ

     ปล.จากที่อ่านมา...ข้าพเจ้าเหมาะกับฟิคติ๊งต๊องไม่มีสาระมากกว่าใช่มะ =w= ก๊ากๆๆ

     

     

     

     

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×