ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปาฏลีสีทราย (บุหงาราคี 2)

    ลำดับตอนที่ #4 : นางระบำ เปลี่ยนจากดอกรักเบ่งบานจ้า 50%

    • อัปเดตล่าสุด 22 มิ.ย. 55


    ปาฏลีกระซิบอีกครั้ง ตอนนี้เธอเหงื่อซึมไปทั่ววงหน้าทั้งที่อากาศเย็นจนขนลุก

    “อะไรของเจ้าฮึ?”

    “ฉัน...ฉันปวดฉี่...”

    อามีนก้มมองคนในอ้อมกอดอย่างไม่อยากจะเชื่อว่ามันคือความจริง เวลาหน้าสิ่ว หน้าขวานเช่นนี้ หล่อนยังอยากปลดเบาอีกรึ? เหลือเชื่อจริงๆ

    “เราถูกจับอยู่นะปาฏลี เจ้าคงไม่อยากเสี่ยงถูกธนูปักกลางอกหรอกจริงไหม”

    “ไม่จริง!” หล่อนสวนทันควัน นาทีนี้หากได้ปลดทุกข์ เธอยอมมีธนูปักอกตายไปเลยก็ได้ ใครไม่เคยเป็นชำรั่วไม่รู้หรอกว่า ถ้าถึงเวลาปวดขึ้นมามันทรมานแค่ไหน เธอไม่อย่างเสี่ยงอั้นนานกว่านี้แล้ว

    “บอกหัวหน้าโจรสิอามีนว่าข้าอยากเข้าห้องน้ำ” เธอสั่ง

    “จะบ้ารึ! ที่นี่มันกลางทะเลทรายนะปาฏลี จะมีห้องน้ำได้ยังไง ที่สำคัญคือ เราสองคนถูกจับนะ และที่สำคัญกว่านั้น เราไม่คิดว่าโจรจะใจดีขนาดหยุดเพื่อให้เขาได้ทำธุระของเจ้าหรอก”

    “คุณไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังเล่า ถ้าวันนี้ไม่ได้ฉี่ ฉันต้องตายแน่ๆ เร็วๆ สิอามีน เดี๋ยวฉันเป็นชำรั่วพอดี” ปาฏลีรุกสามีหนุ่มด้วยการส่งเสียงโอดโอยอย่างต้องการให้เขารู้ว่าเธอจะอั้นปัสสาวะไม่ไหวแล้ว

    “อะแฮ่ม! เอ่อ พี่ชาย ช่วยหยุดพักสักครู่ได้หรือไม่ เมียข้านางอยากปลดเบา” อามีนพยายามทำเสียงให้นิ่งจะได้ดูน่าเชื่อถือ แต่มันคงไม่พอกระมัง

    “ไม่ได้ อย่ามาตุกติกกับข้า ข้ารู้หมดนั่นละว่านี่คือหนึ่งในแผนหลบหนีของพวกเจ้า”

    หัวหน้าโจรร้องบอกแข่งกับเสียงเสียงลมที่เริ่มพัดแรงขึ้น

    ตอนนี้ปาฎลีเริ่มขยับยุกยิกเพราะปัสสาวะมาปริ่มที่ทางออก สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหว เอ่ยวาจาประชดประชันตามประสาคนปากไวให้หัวหน้าโจรได้สะดุ้ง

    “อะไรวะ! คนปวดฉี่จะตายอยู่แล้ว! แค่หยุดแป๊บเดียวจะเป็นไรไปฮะพ่อโจรทะเลทราย! อูย...” ไม่ไหวแล้ว!

    โจรทั้งห้าหันมามองบุรุษที่พวกเขาบังคับมา ม้าทั้งหกตัวหยุดการเคลื่อนไหวชั่วครู่ ความจริงพวกมันไม่ได้วิ่งด้วยซ้ำ เพียงแค่ย่างเหยาะไปเรื่อยๆ เท่านั้น หากเทียบกันคงพอๆ กันกับฝีเท้าของอูฐ

    “นางพูดอะไร ข้าไม่เข้าใจ”

    หัวหน้าโจรร้องถาม

    “เอ่อ...นางบอกว่าถ้าพี่ชาย เอ่อ...ยอมให้นางปลดเบาสักครู่ เมื่อถึงที่พักของพวกท่าน นางจะ....เต้นระบำหน้าท้อง...ให้ดู” อามีนคิดได้เท่านั้น ก็พูดออกไป

    ปากลีได้ยินเสียงหัวเราะอย่างพออกพอใจของหัวหน้าโจรก็นึกหมั่นไส้ อยากค่อนขอดตามประสาคนปากไม่อยู่สุข ทั้งยังอยากรู้ว่าอามีนพูดอะไรกับโจร ทว่าตอนนี้อาการปวดปัสสาวะมันทำให้เธอพูดมากไม่ได้

    “ก็ได้ ๆ เจ้าทิ้งม้าไว้ตรงนี้แล้วพานางไปทางโน้น แค่ลับสันทรายเตี้ยๆ นั่นก็พอ และอย่าคิดหนีล่ะ ถ้าไม่อยากแห้งตายกลางทะเลทราย”

    หัวหน้าโจรคล้ายข่มขู่ แต่อามีนคิดว่าเหมือนจะมีความห่วงใยปนอยู่ในที สงสัยเขาจะหูเฝื่อนกระมัง

    ชายหนุ่มลงจากหลังม้า เขายกร่างปาฏลีลงมายังพื้นทรายด้วยความง่ายดาย ก่อนจะพาหล่อนฝ่าลมที่เริ่มแรงไปยังสันทรายพอให้ลับสายตากลุ่มโจร

    “เอาสิ เชิญ...” อามีนผายมือเชื้อเชิญให้คนที่ยืนไขว้ขวาบิดร่างไปมาคล้ายเลขแปด

    “จะบ้ารึ! ไม่เอา ฉันไม่กล้านั่ง”

    ปาฏลีส่งเสียงอ้อมแอ้มอิดออดฝ่ากับเสียงลมหวีดหวิวเย็นเฉียบ

    “อย่าดื้อปาฏลี!

    อามีนปรามหล่อน แต่สุดท้ายก็ต้องหาวิธีใหม่ให้แม่นางฟ้าปลดเบาจนได้

    ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ยืนถ่างขาเล็กน้อย ก่อนจะดันร่างปาฎลีให้หันหลังมาชนแผงเขา พร้อมกับตวัดเสื้อคลุมตัวยาวให้คลุมจนมิดศีรษะหล่อน

    “ว้าย! ตาบ้า! เอาผ้ามาคลุมฉันทำไมยะ”

    อามีนได้ยินเสียงร้องดังมาจากด้านล่าง เขาจึงแหวกเสื้อคลุมออกเล็กน้อยเพียงให้เห็นหน้าหล่อน

    “นั่งลงไปปาฏลี แล้วรีบจัดการธุระของเจ้าซะ”

    อามีนสั่งหญิงสาว

    ปาฏลีถึงบางอ้อ เพราะความยาวของเสื้อคลุมมันระผืนทรายพอดี หล่อนรีบรวบชายกระโปรงขึ้นมาแล้วถอดกางเกงผ้าบางเบาด้านใน ไม่ลืมที่จะหยิบกระติกน้ำที่บังเอิญคลำได้จากรอบเอวเขาติดมือมาด้วย

    “ฮึ่ม! ปาฏลี นั่นน้ำที่เราต้องดื่มอยู่กลางทะเลทรายนะ เจ้าเอาไปทำอะไรมิทราบ” อามีนบ่นอย่างระอา ขนาดจวนสิ้นชีวาวาย แม่นางฟ้าคนงามยังมิวายอนามัยจัด

    “คุณรู้ดีว่าฉันเอาไมทำไม!” หญิงสาวสวนกลับ เธอเทน้ำจนหมดขวด เรื่องของเรื่องเพราะไม่อยากให้เขาดื่มมันต่อหลังจากที่เธอเทใส่ฝ่ามือไปทำความส่วนนั้นของเธอเอง

    “อามีน!

    “อะไร!?” อามีนตะคอกกลับ

    “ไม่มีทิชชู่”

    อดีตชีคกลอกตาขึ้นฟ้ามัวๆ ตอนนี้อามีนอยากให้โจรจับเขาไปต้มในหม้อซุปทีเถอะ เขาอยากตาย!

    ชายหนุ่มล้วงผ้าเช็ดหน้าของตนส่งให้หล่อน

    ปาฏลีรับผ้ามาอย่างงงๆ เพราะไม่คิดว่าเขาจะหากระดาษชำระได้ในเวลาเช่นนี้ แต่พอเสร็จธุระแล้วโผล่ขึ้นมาในอ้อมแขนแกร่ง หล่อนก็รู้ทันทีว่าสิ่งที่อยู่ในมือคือสิ่งใด

    “นี่มันผ้าเช็ดหน้าคุณนี่!” หล่อนตกใจทีเดียว แสงเดือนริบหรี่ยังพอสาดกระทบกับดิ้นทองที่ขลิบลายขอบของผ้าเช็ดหน้า เธอจำมันได้

    “เอาผ้าคืนมาสิจะได้รีบไป” อดีตชีคขอผ้าคืน ความจริงเขาพกผ้าไว้เฉยๆ ไม่ค่อยได้ใช้อะไรมาก บางผืนพกบ่อยๆ แต่ไม่เคยได้ถูกเหงื่อเขาก็มี

    “ไม่เอาหรอก ฉันเช็ดแล้ว มันไม่ดี ฉันจะเก็บมันไว้เอง” ปาฏลีหน้างอรีบล้วงหากระเป๋าเสื้อ เพื่อจะใช้เก็บเอาผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นให้พ้นมือเจ้าของ แต่อามีนไวกว่า เขาเอามันคืนไปจนได้

    “เราไม่ถือหรอก สำหรับเจ้าเรายกให้เป็นกรณีพิเศษ แต่จำไว้ผ้า ผ้าเช็ดหน้าที่ซับน้ำหอมชนิดพิเศษมันต้องมีเพียงเราเท่านั้นที่ได้ดอมดม” อามีนพูดกำกวมจนปาฏลีหน้าร้อนฉ่า

    “บ้า! ทะลึ่ง! รีบไปได้แล้ว ก่อนที่นายโจรจะใช้ธนูเพลิงมาตามเรา”

    “ย่อมได้เมียข้า” อามีนเย้า

    ปาฏลีค้อนขวับ จะตายหรืออยู่ยังไม่รู้แน่ แต่สามีที่ไม่เคยรักเธอกลับยังไม่เลิกอ้อล้อเสียที
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×