คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ชายาลวง+ดอกรักเบ่งบาน 40%
“ที่มีบ้านขึ้นป้ายว่าพระราชวังงั้นสิ”
ปาฏลียอกย้อน อามีนถอนหายใจ ตกลงเขาคิดผิดหรือคิดถูกกันเล่าที่พาหล่อนมาด้วย
“เจ้าช่างยอกย้อนนักปาฏลี เห็นทีว่าเราคงต้องปิดปากเจ้าด้วยปากของเราอีกสักครั้ง เจ้าจึงจะเงียบเสียงลงได้”
“โอ้...ไม่! ไม่พูดแล้ว ไม่พูด”
ปาฏลีหุบปากฉับ หล่อนซบใบหน้าอยู่กับแผงอกหนา ความอุ่นที่เกิดจากเรือนกายแกร่งมันอุ่นเหนือบรรยาย
“อามีน...”
“หืม...เมื่อครู่นี้เจ้าบอกว่าจะหยุดพูดแล้ว”
“ก็ได้ ไม่ฟังก็อย่าฟัง ชิ!” คนสวยทำหน้างออยู่ใต้ผ้าคลุมและความมืดมัวของราตรีกาล
“งอนอีกแล้ว เอาล่ะๆ พูดมาเถิดเรารอฟังอยู่” อามีนรีบแก้ต่างก่อนที่หล่อนจะงอนเขาจริงๆ
“ฉัน...ไม่กลัวสิ่งใดเลยอามีน หากว่าอ้อมแขนของคุณจะกอดฉันไว้อย่างนี้”
ปาฏลีเอ่ยเสียงค่อนข้างเบา แต่อามีนได้ยินชัดเจน หัวใจของอดีตชีคเต้นเร่าราวกับได้ยาปลุกกำหนัด เขาไม่เคยรู้เลยว่าเพียงสองสามคำที่ภรรยาเอื้อนเอ่ยมันจะทำให้เขาตื่นเต้นดีใจได้มากถึงเพียงนี้
“ปาฏลี...เจ้าทำให้หัวใจเราไขว้เขว”
เขาพูดแล้วบังคับใบหน้างามให้แหงนหงาย หวังจะจูบภรรยาสาวผ่านเนื้อผ้าคลุมที่ขวางกั้น แต่ทว่า พระจันทร์เสี้ยวแสงน้อย ท่านเคืองเขากระมังจึงได้ส่งผู้ร่วมทางมาทักทาย...ด้วยดวงไฟ!
บทที่ 2
ดอกรักเบ่งบาน
เฟี้ยว! ฟึ่บ!
“กรี๊ดดด!!!”
ปาฏลีกรีดร้องลั่นทะเลทราย ชั่ววินาทีที่อามีนกำลังจะประกบริมฝีปากลงมานั้น อะไรบางอย่างที่ร้อนแรงและรวดเร็วก็พุ่งแทรกระหว่างช่องว่างของริมฝีปากเขาและเธอ
“ไม่ต้องกลัว...เราจัดการได้แน่!”
อามีนร้องบอกคนที่ขวัญเสียในอ้อมแขน เขากอดร่างภรรยาแน่นเพื่อกันมิให้เพื่อนร่วมทางที่จงใจผ่านมาทักทาย เขาไม่น่าชะล่าใจเดินทางเพียงลำพังเลยทั้งๆ ที่รู้ว่ามันอันตราย มันน่าฆ่าตัวเองให้ตายนัก
ปาฏลีได้ยินเสียงหัวใจสามีเต้นตึกๆ ถี่ๆ เขากำลังตื่นเต้นแน่ๆ
‘ตาชีคเถื่อนไร้บัลลังก์ นายจะพาฉันหนีรอดไหมนี่ เมื่อกี้ฉันขอถอนคำพูดได้ไหม อยู่ใกล้นายแล้วอันตรายสุดๆ ฮือๆๆๆ ยัยเอ็ม ฉันอยากกลับไปดูซีรีย์เกาหลีกับแกที่สุดเลย’ ปาฏลีร่ำร้องในอก
“โอ้...ไม่นึกว่าหนทางสู่ เอลูบาซู จะมีสหายออกมาทักทายด้วยธนูเพลิง น่าปลื้มใจดีแท้”
อามีนพยายามควบคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติ ทั้งๆ ที่รู้ว่าคนที่อยู่บนหลังม้าทั้งห้า คงไม่ได้มาดี
เสียงหายใจแรงๆ ของม้าทั้งหกตัวแข่งกันกับเสียงหวีดหวิวของสายลมยามคืนเดือนเสี้ยว ฟังแล้วเสียดเสียวในท้องของปาฏลีเหลือเกิน ตอนนี้เธอกลัวจนอยากจะเข้าห้องน้ำอยู่แล้ว
“อามีน...” เธอกระซิบให้เขาพอได้ยิน
“ชู่วส์...” ปาฏลีย่นจมูกเมื่อเขาตอบกลับมาด้วยเสี่ยงเป่าลมออกจากปากเป้นเชิงบอกว่าให้เธอเงียบเสีย
“ท่านต้องการอะไรสหาย เหตุใดจึงไม่เจรจา” อามีนพยายามเจรจาพาที บุรุษในชุดเสื้อคลุมสีนิลปักลายพญานกคุ้นตา ไม่ยอมเอ่ยสิ่งที่ต้องการออกมาเสียที แสงจันทร์เสี้ยวที่ส่องสว่างอยู่เบื้องบนทำให้เขาแลเห็นลายที่ปักอยู่ตามจุดต่างๆ ของร่างหนาบนหลังม้าทั้งห้า มันคุ้นตาเสียจริง แต่เขายังไม่แน่ใจ
“เราต้องการผู้หญิง!” เสียงกังวานเผยสิ่งที่อยากได้ ทำเอาอามีนแทบลืมหายใจ
“นางเป็นเมียเรา เราคงให้ท่านไม่ได้!”
อดีตชีคหนุ่มลั่นวาจา นาทีนี้เขานึกยินดีที่ไม่พาหน่วยคุ้มกันมาด้วย เพราะถ้าทำเช่นนั้น โจรชั่วกลุ่มนี้คงได้รู้ว่าเขาคือใคร
“หึๆ เป็นพวกเจ้าจริงๆ ด้วย ถ้างั้นก็ต้องฉุด!”
สิ้นเสียงของโจรที่ทำหน้าที่บงการ ลูกน้องของเขาอีกสี่คนก็บังคับม้ามาใกล้ เขายังไม่ทันได้ชักปืนที่เสียบซ่อนในบูทด้วยซ้ำ พวกมันก็รู้แกวเสียก่อน
“อย่าตุกติก เจ้าคิดผิดตั้งแต่มาขี่ม้าเล่นกลางทะเลทรายแล้วไอ้หนุ่ม หึๆ”
อามีนพูดไม่ออก เขายังกอดร่างสั่นเทาของภรรยาแนบแน่น ต่อให้ต้องตายด้วยธนูที่ปลายมีเปลวไฟ เขาก็จะไม่ปล่อยร่างปาฏลีให้ใคร!
“เรารู้ว่าเจ้าเป็นใคร และยิ่งกว่ารู้คือ อย่าขัดขืน! เราเพียงต้องการให้เจ้ากับนางไปพบคนคนหนึ่งเท่านั้น” หัวโจรที่มีผ้าโพกศีรษะประทับขนนกยาวเฟื้อยร้องบอก
อดีตชีคอยากถามว่าใครกัน แต่พอฉุกคิดอีกทีจึงไม่เอ่ยถาม พวกเขาคงไม่ได้มาร้าย เพราะเพียงบังคับให้เจ้าเครางามเดินไปในทิศทางที่พวกเขาต้องการเท่านั้น อีกทั้งไม่ได้พันธนาการเขาและปาฏลีด้วยเชือกหรือสิ่งใด กลับให้นั่งสบายๆ บนหลังเจ้าเครางามเช่นเดิม
“อามีน?”
ปาฏลีกระซิบอีกครั้ง ตอนนี้เธอเหงื่อออกจนชุ่มไปทั่ววงหน้าทั้งที่อากาศเย็นจนขนลุก
“อะไรของเจ้าฮึ?”
“ฉัน...ฉันปวดฉี่...”
ความคิดเห็น