คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : 1 ชายาลวง 40%
ปาฏลีสีทราย
บทที่ 1
ชายาลวง
ละอองหมอกไอแห่งความสุขซึ่งเกิดขึ้นในงานเฉลิมฉลอง ยังกรุ่นกำจายในความรู้สึกของปาฏลี ลึกๆ แล้ว หญิงสาวอยากสำรอกความสุขครานี้ออกมาจากหัวใจ เธอฝัน หญิงสาวหลายคนย่อมฝันว่าจะได้แต่งงานกับเจ้าชาย แต่สำหรับเธอ ทุกอย่างที่ฝันไว้ทำไมจึงแตกต่างจากความเป็นจริง อย่างสิ้นเชิง!
“หากวันใดพี่ชายเจ้าทำให้น้องสาวเราต้องเสียน้ำตา เจ้าจงระลึกไว้เสมอว่า วันนั้นเจ้าจะต้องเสียน้ำตาเช่นกัน!”
นั่นคือประโยคแรกที่ชีคอามีนเอ่ยต่อเจ้าสาวของเขาในวันแต่งงาน ความผูกพันที่ถักทอจนก่อเกิดความรัก ก่อนหน้านี้ มลายหายไปสิ้น ปาฏลีรู้ดี หล่อนสิ้นคิดที่รับคำท้าทาย แต่เหนือสิ่งอื่นใด หล่อนรู้ดีเช่นกันว่าหัวใจหล่อน รู้สึกเช่นไร
หนึ่งเดือนหลังการแต่งงานใหญ่โต มีพสกนิกรเฝ้าแห่แหนยินดี ทั้งๆ ที่ชีคอามีนไม่ประสงค์ฐานันดรศักดิ์ การปกครองของประเทศเอเมญ่า เป็นไปในทิศทางเดียวกับประชาธิปไตย หน้าที่เขามีเพียงช่วยเหลือรัฐบาลในด้านการเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ สิ่งที่รัฐบาลตอบแทนเขา คือความเป็นอยู่ของประชาชนที่รัก พวกเขามีความเป็นอยู่ที่ดี เห็นได้จากการที่ประเทศนี้ไม่มีขอทานหรือคนจรจัด รัฐบาลจะไล่ต้อนคนเหล่านั้นเข้าศูนย์ฝึกอาชีพ แม้แต่คนพิการ อามีนก็ขอความร่วมมือจากรัฐบาลให้ช่วยหาที่อยู่ที่กิน ที่สร้างรายได้ให้กับพวกเขา
‘ทุกคนต้องขยัน ต้องดิ้นรนขวนขวายทำมากิน ไม่ใช่งอมืองอเท้า รอใครเขามาหยิบยื่นความปรานี’
นั่นเป็นอีกหนึ่งประโยคที่เขากระซิบข้างหูเธอหลังวันแต่งงาน เธออยากบอกเขาเหลือเกินว่าเธอยอมไปนั่งขอทานดีกว่าอยู่ร่วมเตียงกับคนเจ้าคิดเจ้าแค้นเช่นเขา
“ปาฏลี เจ้า...เอ่อ...เธอด่าเราอยู่หรือไม่ ?” เสียงทุ้มกังวานที่ได้ยินจนคุ้นชินดังมาจากหน้าประตู ชีคอามีนเดินเข้ามาพร้อมกับบุรุษอีกคนที่เธอมอบหัวใจให้เขาไปเต็มๆ
อามีนพยายามที่จะใช่สรรพนามเช่นคนธรรมดาสามัญ แต่มันคงยังไม่ชิน สำหรับคนที่ถูกฝึกให้เรียกขานเช่นนั้นมาตั้งแต่กำเนิด
“ท่านแม่ ท่านแม่นินทาท่านพ่ออยู่ในใจใช่หรือไม่” หนุ่มน้อยวัยไม่ถึงสิบขวบ เอ่ยถามมารดาด้วยภาษาไทยแปร่งปร่า ไม่ชัดเจน
“เปล่า...มารดาเจ้าไม่ได้นินทาผู้ใดเลยฮันส์” ปาฏลีตอบบุตรชาย ฮันส์เป็นบุตรชายของอามีน ส่วนมารดาที่แท้จริงนั้น เธอยังไม่กล้าถามว่าหล่อนเป็นใคร
“เชื่อได้รึ เจ้าอาจค่อนขอดเราอยู่ในใจ ใครจะรู้?” อามีนค่อนแคะหล่อนไปเรื่อย ราวกับว่าการลับฝีปากกับศรีภรรยาจะเป็นเรื่องสนุกสำหรับเขา
“ใช่! เพราะถ้าคุณรู้ใจฉัน คุณคงรู้ว่าตอนนี้ฉันไม่ได้ค่อนขอด ไม่ได้นินทา แต่ฉันกำลังด่าคุณ! ผู้ชายเฮงซวย!” ปาฏลีด่าเขาจริงๆ แต่สีหน้าท่าทางกลับยิ้มระรื่นผิดกับความหมายของมัน
“ท่านแม่ ผู้ชายเฮงซวยคืออะไร ลูกอยากรู้” หนูฮันส์เอ่ยถาม อามีนเลิกคิ้วสงสัย เขาคลับคล้ายคลับคลาความหมายของมัน แต่ไม่แน่ใจว่าจะใช่หรือไม่
“มันหมายถึง...อืม... ท่านพ่อของลูกไงจ๊ะ คิกๆ” ปาฏลีหัวเราะร่า ไม่เก็บอาการภรรยาชีคสักนิด พลอยทำให้ลูกชายมือใหม่หัวเราะตามไปด้วย
“เจ้าจะหลอกแม้แต่เด็กเล็กๆ อย่างฮันส์ เช่นนั้นหรือ” เขาประชดหล่อนเล็กน้อย
“ไม่ใช่เสียหน่อย ลูกเพียงอยากรู้ความหมาย ฉันขี้เกียจอธิบายให้มากความเลยยกตัวอย่างเช่นคนใกล้ตัวก็เท่านั้น” ปาฏลีแก้ต่าง หล่อนจูงบุตรชายออกไปจากห้องนอน วันนี้มีการแสดงมายากลที่หน้าวังแห่งนี้ เธออยากไปดูแต่ถ้าขอเขา เขาคงไม่อนุญาตโดยง่าย เธอเลยต้องใช้ป้ายทองที่ชื่อฮันส์นี่ล่ะ เป็นใบเบิกทาง
“วันนี้ฮันส์จะออกไปนอกวัง คุณควรให้ฉันไปเป็นเพื่อนแกนะ” เธอบอกเป็นการเป็นงาน แต่อามีนมองหน้าหล่อนอย่างรู้ทัน
“เจ้าอยากหนีเที่ยวก็บอกเถอะ เราจะได้จัดการ์ดให้เจ้าสักสิบคน ไม่ได้ไปคอยระวังภัยให้เจ้าหรอกนะ แต่ไปช่วยระวังภัยให้ประชาชนที่เจ้าเดินผ่านต่างหาก”
“อามีน...ฉันไม่ใช่เด็กมีปัญหานะ จะได้ก่อเรื่องทุกคราที่ก้าวขาออกเดิน” ปาฏลีแก้ต่าง
“มันก็ไม่แน่ ในเมื่อเจ้ามันตัวปัญหา ตัวก่อเรื่องและ...เจ้าน้ำตาด้วย”
“ชีค! ใครว่าฉันเจ้าน้ำตา ฉันไม่เคยร้องไห้สักครั้ง อย่ามาขี้ตู่นะชีค”
“แน่ใจหรือ เมื่อคืนเจ้ายังใช้แผ่นอกเราแทนผ้าเช็ดหน้าอยู่เลย” อามีนพูดแล้วยิ้มที่มุมปากอย่างมีชัย
“นั่นเพราะคุณรังแกฉัน คนป่าเถื่อน” ภรรยาชีคหน้าแดงเรื่อ เมื่อชีคหนุ่มผู้เป็นสามีล้อเลียนเรื่องที่เธอไม่อยากได้ยิน
“โอ...เราจะถือว่านั่นคือคำชม” เขายอกย้อน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือมากดสายเรียกบอดีการ์ด ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ร่างสูงใหญ่ของ มาร์คและเบย์โตร ก็มาโค้งให้กับท่านชีคของพวกเขา
“ท่านชีคประสงค์สิ่งใด กระหม่อม” มาร์คเป็นคนเอ่ยถาม บุรุษร่างสูงใหญ่ไม่แพ้นายของเขา ผิวสีแทนโผล่พ้นแขนเสื้อสูทสีขรึม แต่นัยน์ตากลับมีสีฟ้าอย่างคนตะวันตก มันทำให้เขาดูแปลกแยกจากบอดีการ์ดคนอื่นๆ ที่เป็นชาวเอเมญ่าโดยสิ้นเชิง
“สิ่งแรกที่เราต้องการก็คือ เลิกใช้ราชาศัพท์กับเราเสียที”
“กระหม่อม เอ่อ...ครับ นาย” มาร์คดูจะเกรงๆ เมื่อต้องเรียกท่านชีคที่เคารพว่า นาย เฉยๆ เขาชินมาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับใช้ชีคอามีนแล้ว จู่ๆ จะให้เขาเปลี่ยนมันก็ขัดๆ ชอบกล และไม่ใช่แค่เขาหรอกที่ไม่ชอบใจ แม้แต่ชาวเมืองก็หาได้ใส่ใจกับประกาศของรัฐบาลไม่ ทุกคนยังคงเคารพนับถือว่าชีคอามีนยังดำรงตำแหน่งรัชทายาท และภรรยาของพระองค์ก็ทรงเป็นชายาอยู่เช่นนั้น
“วันนี้ที่นอกกำแพงวังมีการแสดงมายากล เมียเราอยากดูใจจะขาดนายช่วยพานางไปหน่อยเถอะ อ้อ...ระวังอย่าให้นางก่อเรื่องล่ะ หึๆ”
“อามีน! ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าชาวเอเมญ่าทำไมถึงเทิดทูนคุณนักหนา เห็นได้ชัดว่าคุณรังแกฉันได้ด้วยฝีปากคมๆ ของคุณ ผู้ชายอะไร ปากจัด ทำไมเมื่อก่อนคุณไม่เป็นอย่างนี้นะ”
“ก็เพราะเมื่อก่อน เราไม่รู้ว่าเจ้ามีพี่ชายชั่วๆ อย่างไรเล่า พอใจหรือยัง ถ้ายัง เห็นทีว่าเราต้องไปชี้แจงกันบนเตียงสองต่อสองแล้วล่ะ” อามีนประชดภรรยาหมาดๆ เขาชอบใจเวลาที่เห็นหล่อนหน้าแดง อาจเพราะหล่อนโกรธหรือเขินก็ตาม แต่เขาชอบจริงๆ
ปาฎลีขบเม้มริมฝีปากแน่น หล่อนโกรธนั่นจริงอยู่ ทว่าไม่ใช่เพราะสิ่งที่เขาสื่อให้รู้ แต่โกรธเพราะสิ่งที่เขาสื่อออกมาลูกชายเขาก็ได้ยินเข้าเช่นกัน
“ฉันดีใจจริงๆ ที่แม่ของฮันส์ไม่เลือกคุณเป็น...สามี!” ปาฏลีกระซิบลอดไรฟัน อามีนเข้าใจเพราะเขาได้ยินชัดเจน หล่อนรู้ดีว่าหากพูดออกไปแล้วราตรีที่กำลังจะมาถึง ปาฏลีดอกนี้คงต้องถูกเผาไหม้ด้วยไฟร้อนแรงแห่งทะเลทราย แต่มันช่วยไม่ได้ในเมื่อเขาไม่มีสมองคิดได้ด้วยตัวเอง หล่อนก็จะถือว่าทำบุญให้คนสมองกลวงตาสว่างก็แล้วกัน
“ปาฏลี! ช่างยอกย้อนดีนัก เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้ดี คืนนี้เราไม่ปล่อยให้เจ้านอนอย่างเป็นสุขแน่ๆ”
อามีนพูดพรางกัดกรามกรอดๆ
“เชิญไปรอบนเตียงเถิดสามี เพราะเวลานี้มันยังไม่เที่ยงด้วยซ้ำ ฝันกลางวันไปก่อนก็แล้วกัน!”
หลังจากที่ปาฏลีกับฮันส์ออกไปชมการแสดงที่ด้านหน้าพระราชวัง อามีนก็เข้ามาสะสางการงานที่คั่งค้างอีกครั้ง เขารวบรวมเอาเอกสารของบริษัทน้อยใหญ่ทั้งหลายมาประกอบการพิจารณา เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพและราคาย่อมเยาที่สุด
ดวงอาทิตย์สีแดงอมส้มค่อยๆ เคลื่อนลงยังขอบฟ้าด้านทิศตะวันตก อามีนเอนหลังกับพนักเก้าอี้ ความจริงเวลานี้ปาฏลีควรกลับเข้ามาแล้ว แต่เหตุใดป่านนี้เขาจึงไม่ได้ยินแม้เสียงหล่อน
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผุดลุกจากเก้าอี้ทำงาน เขาออกเดินหาร่างภรรยาและบุตรชายทั่วพระราชวัง
“มีใครเห็นนายหญิงกลับมาแล้วหรือไม่” เขาถามหญิงสาวนางหนึ่งซึ่งแต่ก่อนคือนางข้าหลวงในส่วนตำหนักด้านใน
“ไม่เลยเจ้าค่ะนายท่าน นายหญิงกับนายน้อยยังไม่กลับเข้ามาในวังเลยเจ้าค่ะ”
ถ้อยคำบอกเล่าของสาวรับใช้ ทำเอาอามีนอารมณ์เดือกปุดๆ เขาล้วงเอามือถือมาต่อสายถึงมือซ้ายและมือขวาคนสนิท และก็ได้ความว่า ปาฏลีกับฮันส์ปรารถนาจะไปเล่นน้ำที่โอซิสกลางทะเลทราย พวกเขาหยุดหล่อนไม่ได้จึงต้องปล่อยเลยตามเลย
“คงไม่ใช่ลูกชายฉันกระมังปาฎลีที่อยากเล่นน้ำกลางโอเอซิส เพราะเขารู้ดีว่ามันมีอันตรายมากเพียงใด คงเป็นเจ้าอีกแล้วกระมังที่ปรารถนาจะเล่นน้ำที่โอเอซิสนั่น มันน่าจับฟาดแรงๆ สักทีสองทีที่บั้นท้ายของเจ้านัก ฮึ่ม!”
ณ.โอเอซิสที่งดงามที่สุดในทะเลทรายที่สุดกว้างไกลของเอเมญ่า ร่างของปาฏลีในชุดกางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดตัวโคร่งกำลังแหวกว่ายในสายธาราอย่างสนุกสนาน โดยมีหน่วยอารักขาเฝ้ารอที่ด้านหน้าซึ่งเป็นทางเข้าเพียงทางเดียว เพราะโดยรอบของโอเอซิสแห่งนี้ ถูกล้อมไว้แน่นหนาด้วยต้นอินทผลัมและกระบองเพชรหนามแหลม
“อือ....สบายที่สุดเลย อีตาสามีจอมบงการทำไมไม่พาเรามาที่นี่บ้างนะ” เธอพูดกับตัวเองแล้วพลันก็ได้ยินเสียงบางอย่างแว่วเข้าหู เสียงติดเครื่องยนต์ของรถที่เธอนั่งมานั่นไง!
แล้วพวกเขาติดเครื่องทำไม เธอยังเล่นน้ำไม่เสร็จเลย
ร่างอรชรรีบขึ้นจากน้ำ แม้ว่าเวลานี้ตะวันจะตกดินไปแล้ว แต่ก็ยังพอมีแสงเดือนดาวส่องสว่างอยู่บ้าง แล้วดวงตาหญิงสาวก็เบิกโพลงเมื่อเห็นไฟท้ายรถยนต์ที่นั่งมา ทอแสงสีแดงเป็นจุดเล็กๆ อยู่ไกลลิบกลางทะเลทราย
“โอ...ไม่นะ จะทิ้งฉันรึ!? กลับมาเดี๋ยวนี้! ฮันส์ กลับมารับแม่ก่อน!”
ปาฏลีรีบหอบเอาเสื้อผ้าที่วางอยู่บนโขดหิน เธอไม่แยแสว่าตอนนี้ร่างกายจะมีสภาพเปียกปอนเช่นไร ขอเพียงให้ได้วิ่งตามรถยนต์คันใหญ่ที่เธอแลเห็นอยู่ไกลๆ ก็พอ
“กรี๊ดดด!!!”
เสียงกรีดร้องของปาฏลีดังก้องทะเลทรายที่อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ
“หยุด! อยู่เฉยๆไม่งั้นเราจะยิงเจ้าให้ไส้ทะลัก แล้วเอาร่างไปขึงไว้กลางแดดให้นกเหยี่ยวมันรุมทึ้งร่างเจ้า”
ปาฎลีรีบเอามืออุดปาก ความมืดมิดที่คืบคลานเข้ามาทีละน้อยทำให้ความเข้มแข็งถดถอยลงไปจนเหลือน้อยเต็มที นี่เธอกำลังถูกปล้นอย่างนั้นหรือ!? คงไม่ใช่พวกโจรทะเลทรายปล้นสวาทหรอกนะ
ขณะที่กำลังหวาดกลัว แต่สมองอันชาญฉลาดยังอดคิดไม่ได้ว่าโจรทะเลทรายถึงพูดภาษาไทยได้...ใช่! แล้วทำไมถึงพูดได้ล่ะ เพราะหนึ่งเดียวในเอเมญ่าที่พูดภาษาไทยได้ก็คือ...
“อามีน! เลิกเล่นได้แล้ว ตกใจหมดเลย!”
ปาฏลีตวาดลั่น อามีนจึงลดปืนที่ไม่มีกระสุนออกจากแผ่นหลังของภรรยา
“เจ้ามาทำอะไรอยู่ที่นี่ มันอันตรายมาก เจ้าไม่รู้รึ!” อามีนตวาดถาม เขาต้องการตักเตือนหล่อนมากกว่าจะต้องการคำตอบ
“ไม่รู้! ถ้ารู้แล้วจะมาทำไมเล่า ฉันแค่อยากเยี่ยมชมโอเอซิส พอเจอน้ำใสๆ ท่ามกลางทะเลทรายมันก็อดไม่ได้เลยขอลงเล่นให้ชื่นฉ่ำใจไม่ได้หรือไงฮะ”
“ไม่ได้ แถวนี้มีพวกเร่ร่อนกับโจรทะเลทรายผ่านมาพักบ่อยๆ เจ้าอยากถูกจับไปเป็นทาสของพวกเขาหรือไง”
“ไม่เชื่อ! นี่มันปีสองพันแล้วนะ มีรถไฟฟ้า มีไอแพด อย่ามาหลอกกันเสียให้ยากเลยสามี!”
ความคิดเห็น