ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลิขิตรักเจ้าฟาร์มน้อย (ตอนนั้นตั้งชื่ออะไรไป ! มาอ่านตอนนี้อายจีงๆ)

    ลำดับตอนที่ #7 : วิชาพลศึกษา

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ย. 63


    Chapter6 วิชาพลศึกษา

     

     

       กว่าสองชั่วโมงที่พระอาจารย์ต้องรอคอยลูกศิษย์ตัวน้อยที่มัวเอ้อระเหยลอยละล่องคุยกันเฮฮาและสนุกสนานกับการกินขนมโดยไม่เกรงฤทธิ์เดชของไม้เรียว

    ที่พระอาจารย์ไม่ต้องใช้ญาณหยั่งรู้ล่วงหน้าก็ทราบได้ว่าเด็กอนุบาลสุดแสบซ่าเหล่านั้น

    คงเอาไปซ่อนกันไว้หมดแล้ว

     

    พระเทพอาจารย์ญาณิลทะโล รับหน้าที่สอนวิชาคณิตศาสตร์และพลศึกษาให้กับเด็กน้อย

    ของโรงเรียนวัดป่าแห่งนี้

    พระอาจารย์นั่งขัดสมาธิเฝ้ารอลูกศิษย์อย่างอดทน

     

       บ่ายสองแล้วนะคะทุกคน เปียโนบอกเมื่อมีคนถามถึงเวลามาจากใครสักคน

       ใครยังเขียนไม่เสร็จบ้าง? ย่างกุ้งร้องถามเพื่อนๆ ซึ่งขะมักเขม่นกันเขียนเลขหนึ่งถึงพัน

    สลับกับนั่งพักและพับโต๊ะญี่ปุ่นของตัวเองเก็บเข้าที่

    หลังจากนั้นก็บ้างนั่งบ้างนอนบนพื้นไม้แล้วเขียนตัวเลข

    เรายังไม่เสร็จเลย เหมือนฝันด้วย โตเกียวร้องตอบคำถามของย่างกุ้งที่พยักหน้ารับแล้วเสนอความช่วยเหลือ

    อีกเยอะมั้ยหละ เรามาช่วยกันทำมั้ย? เด็กหญิงชาวญี่ปุ่นส่ายหน้าแล้วชี้ไปทางเหมือนฝัน

    ที่แอบหลับไปแล้ว

    ถ้าอยากช่วยก็นู่นเลย ฝันคงทำไม่เสร็จแน่ๆ!”

    ย่างไก่ หมาหล้าและย่างกุ้งช่วยเหมือนฝันเขียนตัวเลขพร้อมแกล้งเด็กหญิงจนเหมือนฝันตื่นขึ้นมาโวยวายและไล่ตีกลุ่มคนขี้แกล้ง

    จนเพื่อนๆ ต้องร้องประท้วงและอพยพหนีมาอยู่ใต้ต้นลำไยใหญ่เช่นเดียวกับส้มป่อย

    และคารามายที่นั่งเล่นกับพวกชาที่นอนกลิ้งกันอยู่ไม่ไกลบนพรมหญ้านุ่มๆ

     

    แล้วเธอว่าพระอาจารย์จะลงโทษเราไงอะ? คารามายนอนคว่ำบนพื้นหญ้าแล้วอาศัยตักเล็กๆของส้มป่อยเป็นหมอน

    จะให้ฉันไปถามใครต่อดีอะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน คารามายค้อนใส่แววตาดำใสของส้มป่อย

    ที่เปล่งประกายระริกด้วยความขบขัน

    มายทำไมเธอโหดจัง ตอนนั้นอะ? ส้มป่อยยังจำภาพเพื่อนรักที่พุ่งตลุยเข้าไปทุบตีคนที่โตกว่าได้ติดตา

    ก็พวกนั้นมันหาเรื่องนี่นา แล้วเธอไปหาเชือกมาจากไหนตอนนั้น? ส้มป่อยเอียงคอคิด

    ก็แถวๆ แปลงเกษตรนั่นแหละ ฉันว่าจะไปหาอาวุธถ้าพวกเราสู้ไม่ได้ไง!”

    ส้มป่อยกับคารามายคุยและหัวเราะกันเป็นพัก

    โดยปล่อยให้ซีม่าไปวิ่งไล่กลุ่มของเหมือนฝันและพนมเปญที่กระโดดแยกย้ายวิ่งเล่นกันไปทั่วห้องเรียนขนาดเล็ก

     

       บ่ายสามแล้วทุกคน พวกเราต้องไปออกกำลังกายก่อนกลับบ้านน้า!” ซาลาเปาร้องเรียกเพื่อนๆ ที่ยังวิ่งเล่นและนอนหลับให้ตื่น

    เพียงไม่นาน ทุกคนก็มารวมตัวกันแล้วเดินแถวไปที่สนามฟุตบอล

    ซึ่งทิ้งให้พระอาจารย์รอแล้วรอเล่าจนจำวัดใต้ต้นมะม่วงไปอีกรูป

     

    พระอาจารย์ค้า พวกเราจะกลับบ้านแล้ว!” เหมือนฝันร้องตะโกนแต่ไกลบอกพระอาจารย์

    จนภิกษุชรารีบกระเด้งตัวลุกขึ้นมาในท่านั่งสมาธิแล้วค่อยๆ ลุกขึ้นยืน

    มาๆ เด็กๆ เข้าแถวเร็ว

                เจ้าอาวาสร้องบอกให้เด็กๆ อนุบาลวิ่งกลูกันไปจัดแถวซึ่งตรงบ้างเบี้ยวบ้างตามประสา

    พระอาจารย์เริ่มนำเด็กๆ ออกกำลังกายด้วยท่ากายบริหาร และการยืดหดกล้ามเนื้อต่างๆ

    ที่ทำให้เกิดเสียงร้องโอดโอยไปทั่วทั้งเด็กชายหญิง

    มีหลายคนที่ชินกับการออกกำลังกายอาธิเช่นชากาแฟไวโอลีนหมาหล้าเหมือนฝันส้มป่อย

    แต่ถ้าเจอท่าที่ต้องอาศัยการเกร็ง ยืด หรือหดร่างกายแต่ละคนที่บอกมาก็ร้องโหยหวนเหมือนกัน

     

    มาเจ้าพวกตัวแสบวันนี้เราจะเริ่มจากการเรียนมวยไทย มวยจีน เทควันโดแล้วจบด้วย

    กระบี่กระบองนะ เอ้าๆ ขยันขันแข็งหน่อย!”

    เพราะเหตุนี้ ภาพของผู้ทรงศีลในอาภรณ์สมณะจึงนำเด็กตัวน้อยๆ ออกหมัดเท้าเข่าศอก

    อย่างฮึกเหิม

    หมัดซ้ายตรง!” หมัดถูกปล่อยออกไปอย่างรวดเร็ว

    จนนักเรียนเหงื่อชุ่ม

    พระอาจารย์พานักเรียนออกหมัดทั้งตรง แย็บและอัปเปอร์คัดอย่างไม่สนว่านี่คือเขตอภัยทาน

    ก่อนจะจบลงด้วยท่าตั้งการ์ด

     

                เมื่อมวยไทยแสนเฉียบคมและดุดันผ่านพ้นไป นักเรียนทั่วทั้งสนามก็ทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนแรง

    พระอาจารย์คร้าบ...ขอเวลาสิบนาที ประโยคร้องขออย่างอ้อนวอนของหัวหน้าห้อง

    ได้รับเสียงสนับสนุนจากเพื่อนทั้งหมดที่พร้อมใจร้องขอความกรุณากันอย่างขันแข็ง

     

       ได้ แต่พระอาจารย์ให้พักห้านาทีเท่านั้นนะ เดี๋ยวจะได้เริ่มไท่เก๊กกันต่อ

                พระอาจารย์ปาดเหงื่อเม็ดโป้งๆ จากศีรษะที่มีเส้นผมอยู่น้อยของท่าน

    ก่อนจะบอกให้นักเรียนห้ามพักนาน เพราะความตื่นตัวของร่างกายจะหายไป

              ห้านาทีผ่านไปวัยยิ่งกว่าโกหก

    เด็กน้อยผู้น่าสงสารต้องแบกสังขารลุกขึ้นมาพร้อมปรับระดับลมหายใจให้เข้าทีแล้วเริ่มร่ายรำมวยอ่อนแบบไท่เก๊ก

    ที่เน้นความสงบสยบความแข็งกร้าว เด็กน้อยทุกคนได้รับการปลูกฝังและท่องจำ

    รวมถึงการฝึกฝนมาอย่างดีแล้ว จนไม่ต้องกางหนังสือออกดูท่วงท่าก็ทำได้เหมือนกันหมด

    อาจจะอาศัยการแอบมองเพื่อนๆ บ้างก็ไม่เห็นเป็นไรไป

     

                มวยจีนที่เน้นใช้อ่อนสยบแข็งนั้นทำให้ร่างกายผู้ใช้ออกแรงน้อย ทว่ากลับได้ผลลัพธ์

    ที่ไม่ธรรมดาเพียงร่ายรำไท่เก๊กจบลมหายใจของทุกคนก็กลับมาสม่ำเสมอ

    พร้อมตั้งท่าการเรียนเทควันโด ซึ่งเป็นศิลปะป้องกันตัวที่อาศัยเท้าเป็นแกนกลางของการต่อสู้และเป็นอาวุธที่ใช้ออกในแง่มุมต่างๆ อย่างเฉียบคม

     

                เตะซ้าย ขวา!” พระอาจารย์ไม่สามารถสอนเด็กๆ ได้เต็มที่เพราะเกรงจีวรบิน

    จึงทำได้เพียงชี้แนะให้นักเรียนขยับเท้าเคลื่อนตัวให้สอดประสานกับสมดุลของร่างกายที่ถ่ายเทไปอยู่ที่เท้าแต่ละข้าง

    ทำให้เกิดการล้มฟาดพื้นไม่บ่อยเหมือนช่วงแรกๆ ที่นักเรียนอนุบาลทั้งหมดยืนกระต่ายขาเดียวได้ไม่ถึงสองนาทีก็ล้มกระแทกหญ้าจนร้องไห้งอแงกันไป

     

    แต่ในระยะเวลานี้เมื่อผ่านมาถึงสามปีการฝึกอบรมนั้นไม่สูญเปล่าด้วยท่วงท่า การขยับเท้า

    และการวาดเท้าทำให้เด็กๆ สามารถออกอาวุธในส่วนช่วงล่างของตัวเอง

    ได้อย่างทรงประสิทธิภาพ

    เมื่อการฝึกซ้อมและทบทวนบทเรียนจบลง ทุกคนก็เดินไปหยิบกระบี่กระบองที่พระอาจารย์

    เพิ่งไปหอบตระกร้าไม้ไผ่ขนาดใหญ่มาวางให้เด็กๆ หยิบอาวุธที่ตนถนัด

    ถึงแม้วิชานี้จะถูกเรียกว่าเรียนกระบี่กระบองแต่ความหลากหลายทางอาวุธมันมีมากมายกว่านั้น

    อาธิเช่น หอกไม้ไผ่ ทวนไม้ไผ่

    ไม้พลอง ดาบคมเดียว ดาบสองคม

    ดาบสองมือ ดาบสั้นดาบยาว รวมไปถึงมีดไม้ไผ่ แม้แต่ดาวกระจายไม้ไผ่ก็ยังมี

    อาวุธระยะไกลเช่นธนู หน้าไม้ กงจักร มีดบินหรืออาวุธแปลกๆ อย่างแซ่ โซ่ ลูกตุ้ม

    หรือแม้แต่สนับมือและกรงเล็บมือก็ยังมี

    ด้วยความเป็นอนุบาลทำให้เด็กๆ เล่นกันสนุกสนานตั้งแต่วันแรกที่ได้เรียนจนมาถึงเวลานี้

    มันก็จะมีทั้งคนที่ชอบแกล้ง ชอบรังแกกันจนร้องไห้งอแงประจำ

    แต่มันก็เป็นการกระชับมิตรภาพให้นักเรียนของโรงเรียนวัดแห่งนี้ให้รักกัน

    ไม่ต้องไปดูจากเหตุการณ์ไหนไกล เพียงการมีเรื่องระหว่างสถาบันช่วงเที่ยงที่ผ่านมา

    ก็แสดงออกให้เห็นถึงความรักและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้อย่างสมบูรณ์

     

              เด็กๆ วันนี้พระอาจารย์จะให้ทุกๆ คนได้เลือกอาวุธที่ทุกคนถนัดที่สุด

    แล้วทำอย่างไรก็ได้ ให้ได้ธงสีขาว

    ที่พระอาจารย์ปักไว้ตามที่ต่างๆ ในเขตวัด

    พระอาจารย์ใบ้ให้ว่า มันมีธงแค่เพียงสามผืนเท่านั้น

    สุดท้าย ธงอยู่ที่ใครถือว่าคนนั้นสอบผ่านในวันนี้ พระอาจารย์ให้เวลาถึงสี่โมงครึ่ง

    เมื่อได้ธงครบแล้วให้ไปที่วิหารกลางนะเด็กๆ

    เด็กๆ ต่างทำหน้าหวาดผวาอย่างหวาดหวั่น

    เพราะประสบการณ์สอนพวกเขาว่าใครไม่ผ่านวิชาพลศึกษาจะต้องออกกำลังกาย

    ด้วยสามท่วงท่ายอดฮิดอย่างกางมุ้ง

    นั่งเก้าอี้ลมและสะพานโค้ง

     

       ไม่นะ ชีวิตฉัน!” บาบี้ร้องออกมาพลางทำหน้าจะร้องไห้จนซีม่ายกแขนขึ้นล็อกคอเด็กหญิงที่เขาเรียกว่าตุ๊กตาหัวทองไว้ แล้วเขย่าร่างเล็กๆ ของเด็กหญิงจนบาบี้ร้องโวยใส่ซีม่า

    ที่หันไปมองหน้าหมาหล้าซึ่งกำลังสะพายธนูไม้ของเขาขึ้นไหล่

    ถึงชื่อวิชามันจะบอกว่ากระบี่กระบอง แต่ความน่าเกรงขามที่ให้เด็กอายุสองถึงหกขวบมาถืออาวุธที่เปรียบได้กับไม้จิ้มฟันของพวกผู้ใหญ่นี้กลายเป็นเรื่องตลกไป

     

       เอาไงดี/ไงต่อดี?นมสดและไวโอลีนเอ่ยถามทุกคนพร้อมๆ กันจนสองหนุ่มน้อย

    ต้องส่งสายตาเข้าปะทะกัน จนกาแฟส่ายหน้าและโบกมือให้ทั้งสองเลิกจ้องตากัน

     

       ยังต้องถามอีกหรอ? เปียโนถามทุกคนอย่างงงๆ

    ก็เผื่อมีใครอยากฉายเดี่ยวไง? ส้มป่อยพูดต่อประโยคที่เปียโนละไว้

     

       ไร้สาระ สถาบันเดียวกันนะ ไปกันเถอะ แยกกันต่อให้เจอธงพวกเราก็เอาไม่ได้แน่ๆ!”

              เหมือนฝันตัดบททำให้นักเรียนอนุบาลวัดป่าปัญญาธรรมยิ้มกว้าง แล้วยื่นมือออกมาประสานกันอย่างมุ่งมั่น

    สู้มั้ยพวกเรา? หมาหล้าร้องถามเสียงดัง

    สู้ตายอยู่แล้ววว!”

                เสียงตอบรับกึกก้องทำให้นักเรียนทั้งหมดรีบแยกย้ายกันออกไปค้นและสังเกตการณ์โดยรอบเขตวัดเพื่อหาธงสีขาวของหลวงปู่เจ้าอาวาสที่ไปกวาดลานหน้าวัดรออย่างสบายใจ

    พระชรายกยิ้มปรานี

    พลางสายตาท่านก็จับลงบนผืนธงสีขาวบนยอดต้นโพธิสูงตระหง่านกว่ายี่สิบเมตร

    และผืนผ้าธงสีขาวสะอาดอีกผืนที่โบกสะบัดไปตามลมที่ปักอยู่บนยอดวิหารกลางอย่างอารมณ์ดี

     

    พิสูจน์ให้อาตมาและเหล่าผู้ปกครองของหลานๆ เห็นซิว่า.....

    เป็นหนึ่งน้ำใจ  ไฝ่สามัคคี  มีปัญญาธรรม  สร้างผู้นำโลก

    กำลังเริ่มต้นและจะเป็นจริงได้”…..

     

     

     

    …………………………***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×