คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : เรามาแต่งงานกันน้ะ
บทที่ 4 เรามาแต่งงานกันนะ!
ท่านประธานซันนั่งทอดอารมณ์เอื่อยๆ หลังจากตื่นขึ้นมาในสภาพลมปราณสมบูรณ์เต็มร้อยดวงเนตรเหนือมนุษย์หลายร้อยเท่ากวาดมองทะลุกระจกลงไปมองเห็นผู้คนพลุกพล่าน
บนท้องถนน
แสงตะวันเรืองรองสาดจับขอบฟ้าสีครามแก่ยามเช้าแบบนี้เป็นทัศนียภาพอันงดงาม
ที่หาชมได้ยากในมหานครที่ต่างแข่งขันด้วยความวุ่นวายและเห็นแก่ตัว
ชายชรายกยิ้มเมื่อสัมผัสได้ถึงคนที่ผลักประตูผัวะเดินเข้าห้องมายืนตรงหน้าแล้วถามเสียงเข้ม
“ปู่ หนูน่ารักป้ะ?” ชุดยูนิฟอร์มของมหาวิทยาลัยระดับประเทศเมื่อถูกสวม
บนร่างบางระหงของหลานสาวตัวแสบแล้ว
เสริมให้แสงดาวไร้มลทินแลดูงดงามมากกว่าในยามปกติอยู่มากนัก
จนยอดยุทธซันถึงกับกลืนน้ำลายกับก้อนซาลาเปาน่าหลงใหลคู่นั้น
ผิวขาวละอองชมพูทำให้เฟรชชี่ปีหนึ่งของคณะสัตวแพทย์ดูน่ารักและสวยบาดใจ
เหนือใครหลายล้านคน
“อื้ม น่ากินมาก!” ยอดยุทธซันรีบปิดปากแล้วกระโดดขึ้นจากโต๊ะทำงาน
“ปู่ ว่าไงน้ะ!” แสงดาวเบิกตากว้างหน้าแดงจรดใบหู ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย
ที่แสงดาวไม่ได้เป็นคนใสๆ เพราะโลกนี้มันโหดร้าย
“ไอ้ปู่จอมลามกเอ้ย!”
ชายหนุ่มในร่างแก่รีบเผ่นออกทางประตูหลังห้องทำงาน หนีหลานสาวกำมะลอที่โกรธจัด
เลือดขึ้นหน้า.....และในภายหลังพอคุณภิภพไถ่ถามแสงดาวก็เอาแต่หน้าแดงก่ำ
แล้วหักนิ้วด้วยความโกรธ
ในแว่บหนึ่งดวงตาสีเทาที่ไม่เคยฟ่าฟางของชายชรากลับทอแสงสีดำสนิทอมฟ้าอ่อนจางๆ
จนแสงดาวไม่ทันสังเกต
ท่านประธานซันเผ่นหนีความในใจที่เผลอพูดไปให้หลานสาวตัวแสบได้รับรู้
ตาลีตาเหลือกลงมาทางบันไดหนีไฟฉุกเฉิน
ในระหว่างทางชายชราหายใจหอบเล็กๆ แต่ด้วยกำลังภายในอันล้ำเลิศทำให้ร่างที่ล่องลอย
เหนือพื้นบันไดสิบเซนติเมตรคงลอยลงมาจนถึงชั้นล่างได้อย่างปลอดภัย
แอบชะโงกศีรษะและสอดสายตาซ้ายขวาเล็กน้อยก่อนจะปั้นมาดเข้มเดินออกไปสู่ฟุตบาท
และไอเย็นฉ่ำยามเช้าของมหานครหลวงของประเทศ
ตามไรทางที่ผ่านไปยามเช้าท่านประธานซันเหลือบสายตาฟ่ามัวมองวิถีชีวิตความเป็นไป
ของเมืองหลวงแสนวุ่นวายแต่เช้า
ไม่ว่าจะตลาดสดที่อยู่ห่างออกไปชาวจีนแผ่นดินใหญ่ต่างส่งเสียงสนทนาล้งเล้ง
แลกเปลี่ยนสินค้า ไม่แพ้แม่ค้าร้านตลาดที่แข่งขันเรียกลูกค้าสลับซุบซิบนินทาเรื่องทั่วไปประจำวันซึ่งชายหนุ่มในร่างไม้ใกล้ฝั่งก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง
เมื่อเวลาผ่านไปในมือก็มีของติดไม้ติดมือมาจนเขาต้องมัดรวมถุงผ้าสารพัดขนาดขึ้นแบก
บนแผ่นหลังแล้วเดินต่อไปด้วยความครึ้มอกครึ้มใจ เพราะนี่มันถือเป็นครั้งแรกทั้งสองร่างที่เขาได้มีโอกาสมาเดินตลาด
“คุณปู่ค้ะ ช่วยซื้อดอกไม้หน่อยค้ะ แม่หนูตื่นมาจัดตั้งแต่ตีสองเลยนะค้ะ
ได้โปรดเถอะค้ะ” ก่อนซันกุ้ยเซียนในคลาบของชายชราที่เปลี่ยนมาสวมชุดลำลอง
ด้วยเสื้อยืดตามสมัยนิยมและกางเกงขายาวเข้ารูปกันสีขาวอ่อนทั้งชุดเมื่อกอบรวมกับท่าทางทะมัดทะแมงและดวงตาที่เปลี่ยนแปลงเป็นสีดำสนิทอมฟ้าจางๆ ทำให้ชายชราประหลาดตรงหน้ากลายเป็นจุดสนใจของคนช่างสังเกต
“หืม แม่หนูตัวน้อย ดอกไม้นี่นะเหรอ?” ท่านประธานซันย่อตัวลงมาให้ความสูง
ได้ระดับเดียวกับเด็กสาววัยประถมที่จ้องตอบด้วยดวงตาใสแป๋ว
เมื่อเห็นดวงตาสีดำใสยังคงอ้ำอึ้งและเด็กหญิงตรงหน้าไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ชายชราก็ยืนขึ้นและคว้าตะกร้าดอกไม้มาจากมือเล็กแล้วยัดธนบัตรมูลค่าหนึ่งพันบาทใส่มือเล็กที่ยังนิ่งค้าง
อยู่ที่เดิม
“ถือว่าเป็นเงินค่าขนมน้ะแม่หนูตัวน้อย” ท่านประธานซันเดินลับเหลี่ยมตลาดหายไปแล้วเด็กหญิงตัวน้อยจึงเพิ่งรู้ตัว
“ง่า......ส่งเงินในมือเธอมาให้พวกเรา!” พลันรอบตัวเด็กหญิงตัวน้อยก็ถูกรายล้อม
ด้วยชายวัยรุ่นนับสิบคน
เด็กหญิงตัวสั่นเทา...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตการณ์แบบนี้กับเธอ....หลายครั้งที่เกิดเหตแบบนี้ขึ้นและผลลัพธ์ก็คือเธอเดินกลับบ้านด้วยท้องและกระเป๋าที่ว่างเปล่า
ทำให้มารดาที่ไม่สามารถจะเคลื่อนไหวท่อนล่างได้สะดวกต้องร่วมร่ำไห้ไปกับลูกสาวตัวน้อย.....ที่ไม่สามารถขัดขืนกฎปลาใหญ่กินปลาเล็กได้
“อ้าว แม่หนูตัวน้อย ข้าลืมว่าเดี๋ยวเจ้าอาจจะไม่มีตะกร้าไปใส่ดอกไม้รอบใหม่
ข้าเลยเอาตระกร้ามาคืน” จู่ๆ ท่านประธานซันก็เดินกลับมาแล้วร้องโพล่งอย่างนึกได้
เมื่อเห็นเด็กสาวที่เขาเสียมารยาทคว้ามาทั้งตะกร้าขายดอกไม้ของเธอ
กลุ่มชายวัยรุ่นสะดุ้งและเหลียวซ้ายแลขวาอย่างลุกลี้ลุกลน
“แล้วพวกเจ้ามีอะไรรึหนุ่มน้อย” พูดพลางยิ้มร่าแล้วเดินไปใช้มือข้างที่ไม่มีปลาหมึกเผาตบไหล่ชายที่ข่มขู่เด็กสาวตัวน้อย จนร่างสูงงอลงเป็นกุ้งเผา นอกจากนี้ผู้ที่ถูกตบไหล่เบาๆ ยังรู้สึก
จุกเสียดจนร่างร่วงลงไปร้องครางด้วยความทรมานน้ำตาไหลพรากอยู่บนพื้น
ยอดยุทธซันมือไม้ปั่นป่วนเมื่อกี้เขาอารมณ์ดีเกินไปที่ได้รับดอกไม้ขนมและอาหารมากมาย
ที่เขายังไม่รู้จัก จึงเผลอตบไหล่สหายน้อยเหล่านี้ด้วยความรุนแรงเต็มระดับปราณขั้นมนุษย์
“เฮ้ย พวกเรา~” เหล่านักเรียนชายเตรียมเผ่น แต่ยอดยุทธซันก็ทำเพียงแผ่ลมปราณเหนียวหนืดออกไปล็อกเป้าหมายจนไม่มีใครสามารถขยับเท้าได้แม้แต่คนเดียว ทำให้ดวงตาของแต่ละคนตื่นตระหนกสุดขีด
ท่านประธานซันรีบเดินเข้าไปพยุงร่างผอมบางของเด็กหนุ่มที่ตัวสั่นสะท้านเมื่อมือใหญ่
ของชายชราสัมผัสไหล่
“ขอโทษทีพ่อหนุ่ม เมื่อกี้ปู่เผลอใช้แรงเกินหน่อย” พูดพลางหัวเราะฮ่าๆ
ก่อนยื่นตะกร้าส่งคืนให้เด็กหญิงที่รีบพนมมือไหว้ขอบคุณชายชราตรงหน้าที่สะเหมือนไม่รู้ตัวว่าได้ช่วยเหลือเธอจากวิกฤตแห่งชีวิตครั้งหนึ่ง
“คุณปู่ค้ะ เงินนี่....มากเกินไปค่ะ” เด็กหญิงยื่นธนบัตรมูลค่ามหาศาลสำหรับเธอคืนให้ชายชรา
ที่เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
ท่านประธานซันยกยิ้มและปลายตาจ้องกลุ่มเด็กหนุ่มที่พยายามจะตะเกียดตะกายหลบหนี
จากแรงดึงดูดลึกลับที่แผ่ออกมาจากร่างกายของชายสูงอายุตรงหน้า
“คุณปู่ครับ...ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะนะครับ พวกเราจะไม่ทำอีกแล้ว!”
ชายหนุ่มที่กุมหัวไหล่ด้วยความสั่นกลัวร้องบอกชายชราเสียงสั่นเทาปากคอยังคงกระทบกันอย่างต่อเนื่อง
“หืมปล่อย ปู่ไม่ได้ทำอะไรน้ะ หลานๆ จะไปก็รีบไปสิเดี๋ยวไปเรียนไม่ทันน้ะ” ชายชรายิ้มแย้มบอกหน้าตาย ส่วนฝ่ายชายวัยรุ่นทั้งสิบห้าคนได้แต่ตาเหลือก
“โอ้...นางฟ้า~” จู่ๆ ชายชราก็ร้องโพล่งเสียงดังจนทำเอาเด็กหญิงขายดอกไม้และเด็กหนุ่ม
ทั้งสิบห้าคนที่ทำหน้าเจียนจะร้องไห้ได้แต่ผวา
ท่านประธานซันขยับตัววูบเดียวร่างก็กลายเป็นหมอกควันเบาบางสลายวับไปต่อหน้าต่อตา
ชายวัยรุ่นและเด็กสาวที่เผลอปล่อยตะกร้าดอกไม้ว่างเปล่าหลุดมือ
“ผีหลอก!”
ท่านประธานซันเดินทอดฝีเท้าเข้าหาร่างบางที่เหม่อสายตาจ้องไปในสายน้ำเอื่อยๆ
ซึ่งไหลตัดผ่านเมืองหลวงของประเทศ
ลำน้ำกว้างๆ ทำให้ลานสายตาขยายขอบเขตของผู้จ้องมอง
สายลมพริ้วเรือนผมสีดำราวไหมนิลเนื้อละเอียดปลิวไปกับสายลมริมน้ำ ในย่านนี้
ค่อนข้างไร้คนสัญจร
แม้แต่หาบเร่หรือแผงลอยยังตั้งอยู่ห่างๆ กัน
ชายหนุ่มเปลี่ยนประกายตาของตัวเองเป็นดวงเนตรสีนิลกาลอมไพลินจางๆ
พร้อมก้มลงไปกระซิบข้างหูเล็กของคนที่กำลังเหม่อลอย
“โอ้ แม่สาวน้อย เจ้าจะให้เกียรติข้าได้ส่งคำขอหรือไม่.......
แต่งงานกันน้ะ คุณหนูตัวน้อย!!!”
เกิดความเงียบเกินหนึ่งนาที พลันเหมือนภาพจะกลายเป็นเชื่องช้าลง ฝ่ามือเรียวหมุนกลับหลังและกระทบกับใบหน้าของท่านประธานซันเต็มแรง
เพียะ!
ดวงตากลมโตจ้องชายสูงวัยตรงหน้าแล้วม่านตาก็ขยายขึ้น
“กรี๊ดๆ ไอ้แก่ลามก ช่วยด้วยค่ะ!ไอ้แก่ลามก!!” หญิงสาวกรีดร้องจนผู้คนรอบตัวแตกฮือ
วิ่งกรูเข้าหาชายชรา
ที่ทำเพียงตีหน้าตายแล้วตะโกนแข่งกับเสียงร้องกรี๊ดๆ ของคุณหนูตัวน้อยข้างหน้า
“อย่าตกใจครับ หลานสาวผมสติไม่ค่อยสมประกอบ อย่าตกใจครับเธอไม่ปกติ
อย่าเข้าใจผิดครับ” ท่านประธานซันแข่งขันแหกปากลวงโลกกับหญิงสาวตรงหน้าที่หน้าซีดสลับแดงเพราะความโกรธที่แล่นขึ้นสู่ใบหน้าจนร่างบางสั่นระริกไปทั้งตัว
ผู้คนรอบข้างเริ่มเกิดอาการไทยงง เนื่องจากไม่รู้สมควรจะเชื่อใครจึงได้แต่ยืนลังเล
ท่านประธานซันทำเนียน รีบย่อตัวลงให้เสมอกับคนที่นั่งอยู่บนล้อเข็นแล้วโอบแขนรอบเอวเล็กจนดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีด
“โอ๋ๆ ไม่เป็นไรน้ะ ปู่อยู่ตรงนี้แล้ว!” เหมือนละครฉากใหญ่จะจบลงด้วยความสุขของทุกฝ่าย ชาวบ้านโดยรอบจึงสลายตัวด้วยรอยยิ้ม แต่ร่างบางและชายชราปริศนากำลังเกิดโศกนาฏกรรมน้ำตาตก
ร่างบอบบางสั่นสะท้านและปล่อยหยดน้ำใสไหลรินจากดวงตากลมใสที่สั่นระริก
ริมฝีปากบางสีชมพูสั่นอย่างพูดไม่ออก
“อืม...คุณหนูตัวน้อย ขาของเธอคงขยับไม่ได้มาสักพักหนึ่ง” ท่านประธานซันคุกเข่าลง
ก่อนวางมือบนน่องเรียวจนคนตัวบางสะดุ้งเฮือกด้วยความตื่นตระหนก
“คุณ.....คุณปู่อย่า...อย่ายุ่งกับคนพิการอย่างหนูเลยน้ะ” ท่านประธานซันคล้ายจะเคยได้ยินน้ำเสียงใสซุกซนนี้ แต่ด้วยสมองแบบชราภาพทำให้เขาหลงลืมไปแล้ว
“ถ้านี่เรียกว่าพิการ แล้วคนที่ธาตุไฟแตกซ่านไม่เรียกว่าคนที่มีแต่ร่างไร้วิญญาณเลยรึ?”
ท่านประธานซันเงยหน้าขึ้นสานสายตาคู่กลมใสที่ทำน้ำตาแห้งได้เหมือนสั่งหยุด
เธอมองชายชราตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก
“ค้ะ....อะไรนะ?” ท่านประธานซันไม่ได้สนใจคำพูดของหญิงสาวมากนัก
ชายหนุ่มในคราบสูงวัยแผ่พุ่งลมปราณเข้าสู่เส้นโลหิต เส้นเอ็น กระดูกและกล้ามเนื้อทุกส่วน
บนลำขาเรียวเล็ก
ลมปราณหมุนวนเป็นคลื่นพลังสายอบอุ่นแผ่ขยายทะลุทะลวงหุ้มห่อทั้งลำขาใต้ผ้าคลุมสีขาวอ่อน
ความร้อนที่แผ่ไปทั้งท่องขาเล็กเปรียบสะเหมือนไออุ่นควันบางลูบไล้ผ่าน
พร้อมกับน้ำเสียงทุ้มต่ำที่แว่วผ่านมาตามสายลม
“คุณหนูตัวน้อย มารอเราที่นี่ทุกเช้า ไม่เกินสามสัปดาห์อาการของเธอจะหายสนิท”
ท่านประธานซันกลายเป็นภาพติดตาหายวับไปในครองสายตาที่จ้องตลึงของหญิงสาว
ซึ่งทำได้เพียงกะพริบตาอย่างงุนงมและเปี่ยมด้วยความสงสัยจากจิตใจเบื้องลึก
ติ๊ดๆ
มือเรียวรับโทรศัพท์ในกระเป๋าข้างตัวแล้วโต้ตอบกับคนในสายเพียงสั้นๆ
“ค่ะ จะรีบเข้าบริษัทให้เร็วที่สุด รอแป๊บน้ะค้ะท่านประธาน” เหมือนคนในสายบ่นพึมพำ
อะไรบางอย่างก่อนสายจะตัดไป
หญิงสาวได้แต่นั่งนิ่งจ้องสายน้ำที่หมุนระลอกกลายเป็นลูกคลื่นสีขาวและนึกถึงคนประหลาด
ที่เรียกเธอว่า......
คุณหนูตัวน้อย!
เสริมบท
นักเขียน: โอ้ คุณหนูตัวน้อย นี่เธอชอบแบบผู้ชายอมตะเหรอ หญ้าอ่อนๆ อย่างเธออะ~
คุณหนูตัวน้อย: ว้าย นักเขียนแมวๆ ไปตายซ้ะ!
เอฟเฟล็กพลังคลื่นน้ำสาดใส่!!!
โปรดติดตามตอนต่อไป บทที่ 5 แก๊งเกรียน
…………………..***
ความคิดเห็น