ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สร้างฮาเร็มในต่างโลก 1

    ลำดับตอนที่ #27 : กลับบ้าน ++รีไรต์แล้วเน่อ

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.ค. 64


             บทที่ 26 กลับบ้าน

     

     

       หลังดึงสติกลับจากสถานการณ์ไม่คาดฝัน ท่านประธานซันจึงลงมือทำงานต่อ

    แต่สมองยังคงครุ่นคิดไตร่ตรอง แล้วสรุปกับตนเองเงียบๆ

    วิทยาการลมปราณในมิติโลกยังไม่มีกระบวนการคืนสู่วัยเยาว์ที่ชัดเจน แม้แต่เทพกระบี่

    ซึ่งใช้ยาเร่งการฝึกฝนจนพลังเกือบบรรลุเข้าสู่ขอบเขตธรรมชาติ ก็ยังไม่สามารถคืนสู่วัยเยาว์ได้

     

                ทว่ากฎเกณฑ์ที่ราวไม่มีทางฝ่าฝืนกลับใช้กับหญิงสาวตัวเล็กที่เพิ่งจากไปเมื่อไม่กี่นาที

    ที่ผ่านมาไม่ได้ แนวคิดที่ว่าเธอเป็นบุคคลฉายาเทพคนสุดท้ายแห่งองค์กรโลกนี้ต้องสวยพลันสั่นคลอน

    เทพนักปราชญ์ จากที่เขารับรู้ บุคคลปริศนาผู้ก่อตั้งองค์กรโลกนี้ต้องสวยมีฉายานามว่าเทพนักปราชญ์ แต่ข้อมูลที่เคยพูดคุยกับกลุ่มเจ็ดเทพก่อนหน้านี้ ไม่ทราบว่าเชื่อถือได้มากน้อยเพียงใด

    เมื่อถูกรบกวนปลายปากกาจึงไม่ราบรื่น ท่านประธานซันเคาะดรรชนีกับโต๊ะเนื้อไม้ใสเบาๆ เมื่อหาข้อสรุปไม่ได้จึงพักเรื่องหญิงสาวปริศนาซึ่งรสหวานแห่งความสาวยังกำซาบที่ปลายลิ้น

     

                ชายหนุ่มไล่สายตาอ่านความจากนายพลดวงปังแล้วคลี่ยิ้ม

    ถ้าไปเมืองกาญจน์เมื่อไหร่ติดต่อมา ฉันประสานงานผู้การค่ายแล้ว

    คงต้องรอทางโน้นสองสามวัน ค่ายสุรสีห์ยังไม่มีคนโว้ย

    จะทำอะไรคิดถึงฉันเยอะๆ หน่อยนะโว้ย ถึงเป็นนายพลก็ปลิวได้ ส.ส.ในสภา

    จ้องฉันอย่างกับหมาล่าเนื้อ

     

                ชายหนุ่มยิ้มบางๆ ก่อนพิมพ์ตอบกลับไปสองสามประโยคแล้วเหลือบจ้องนาฬิกา

    เวลาเริ่มเย็นลงมากแล้ว สำหรับฤดูฝนในเมืองกรุง

    ท่านประธานซันเคลียร์งานคั่งค้างหมดลงในเวลาเกือบห้าโมงเย็น

    หลังบันทึกไฟล์เป็นหมวดหมู่ก็ดึงกระบวนการทำงานของเจ้าสัวเจริญจากดาต้าเบส

    ในระบบเอไอที่เก็บบันทึกไว้มาผ่านตาชั่วขณะ

    งานบริหารคืองานที่อัครศิลปินแห่งมารครองฟ้าไม่ถนัดเอาเสียเลย ท่านประธานซันต้องใช้พลังงานมหาศาลกว่าจะเรียนรู้ขั้นตอนและวิธีการจัดงานของเจ้าสัวดวงเฮ็งได้

    ถึงจะกล่าวว่าได้ เขาก็เรียนรู้ได้เพียงเสี้ยวหนึ่งของนักบริหารชั้นเก๋าเท่านั้น

    ในยามนี้การทำงานของท่านประธานซันจึงไม่ต่างจากการขายผ้าเอาหน้ารอด

    เพื่อจะไม่ตกเป็นขี้ปากบอร์ดบริหาร ในวันที่เขาเผยตัวว่าไม่ใช่เจริญ  ชำนาญสรรพกิจ

     

                หลังศึกษาแผนงานสองไตรมาตรช่วงต้นปีจนเข้าใจแนวทางดำเนินงานของบริษัท

    ระดับหนึ่ง จึงคลิกส์เปิดแฟ้มสองไตรมาตรหลังช่วงท้ายปี

    จมจ่อมอ่านเอกสารมากมายจนตาลายไปหมด ชายหนุ่มเอนหลังพิงพนักโซฟา มือหนึ่งนวดคลึงหัวตาคลายอาการล้าสะสม มืออีกข้างสะบัดเบาๆ หนังสือสามสี่เล่มจากตู้หนังสือสูงจดเพดานจึงพุ่งออกมาลอยนิ่งอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มหลับตาลงปากก็ออกคำสั่งให้ปัญญาประดิษฐ์ประมวลความคิดสำคัญในหนังสือแต่ละเล่มชนิดรวบรัดที่สุด เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เติบโตถึงขีดสุดในศตวรรษที่ยี่สิบสอง เพียงครึ่งชั่วโมงท่านประธานซันก็เข้าใจเนื้อหาในหน้าหนังสือกระดาษสามสี่เล่มที่ลอยอยู่ตรงหน้า

    เขาเปิดเปลือกตาจ้องหนังสือเล่มแรก หนึ่งในขุมปัญญาจากแผ่นกระดาษของเจ้าสัวดวงเฮ็ง เป็นหนังสือเก่าที่ถูกเขียนเมื่อราวร้อยปีก่อน

    ‘Rework จงลืมทุกอย่างที่คุณเคยรู้ก่อนเริ่มทำธุรกิจ

    ก่อนไล่สายตามองเล่มต่อมา

    ‘Remote สร้างธุรกิจให้ได้ดี ไม่ต้องมีออฟฟิศ

    ยกมือคว้าหนังสือเล่มที่สามมาพลิกอ่านอีกครั้งขณะเอไอห้องทำงานจัดการไล่เรียงชื่อหนังสือในตู้ ทว่าสมาธิส่วนใหญ่ของชายหนุ่มกลับจมดิ่งในตัวอักษรตรงหน้าเสียมากกว่า

    ‘It Doesn't Have to Be Crazy at Work ทำงานยังไง ไม่ให้บ้าไปซะก่อน

    ผู้เขียนหนังสือสามเล่มข้างต้นคือ Jason Fried (เจสัน ฟรีด) และ  David Heinemeier Hansson (เดวิด ไฮเนอไมเออร์ แฮนส์สัน)

     

                ผ่านไปครู่ใหญ่ท่านประธานซันจึงปิดหนังสือลง เขาคว้าหนังสือเล่มสุดท้ายมาพลิกอ่านขณะสะบัดมือเบาๆ สายลมเบาบางพลันหอบหนังสือสามเล่มแรกลอยกลับเข้าไปเก็บยังชั้น

    อย่างแม่นยำ ภายใต้ความเงียบมีเพียงเสียงพลิกหน้ากระดาษต่อเนื่อง

    ‘4 hour workweek ทำงาน 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หนังสือที่ได้รับยกย่องว่าเป็นไบเบิลแห่งยุคดิจิทัล ผลงานของหนุ่มอเมริกันผู้มีวิถีชีวิตเกษียรได้ตลอดเวลา ทิม  เฟอริสส์

     

                ท่านประธานซันปิดหนังสือเล่มสุดท้ายลงก่อนในเวลาต่อมามันจะถูกส่งกลับเข้าสู่ชั้น

    ที่จากมา เพียงเลือกหนังสือสามสี่เล่มที่ชายชราเจ้าของห้องหยิบมาอ่าน ขบคิดและตีความ

    ก็ไม่น่าแปลก หากนามสกุลชำนาญสรรพกิจจะกลายเป็นหมายเลขหนึ่งแห่งเมืองไทย

    นับแต่ร้อยกว่าปีก่อน

    เมื่อจัดการแผนไตรมาตรหลังเรียบร้อย ชายหนุ่มก็จัดการร่างแผนไตรมาตรแรก

    แห่งปีสองพันหกร้อยสี่สิบสี่ เขาเชื่อว่าภารกิจซึ่งกำลังถูกเตรียมการจะไม่จบสิ้นลงอย่างง่ายดายแน่ เมื่อมันถูกจัดเตรียมมาเกือบห้าทศวรรษ

     

                สมองโลดแล่นพลันหวนคำนึงถึงมือสังหารชั้นไม่ธรรมดา

    การหลบเร้นจากระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทอาวุธสงครามระดับโลก

    กระทั่งเข้าถึงตัวประธานกรรมการบริหารได้เช่นนี้ ย่อมจัดเป็นนักฆ่าชั้นพระกาล

    ฝีไม้ลายมือคงหาไม่ได้ทั่วไป

     

                จากที่ตรวจสอบนายกรัฐมนตรีของยุคนี้แล้วก็แปลกใจ

    ผู้ชายคนนั้นเป็นคนหน้าซื่อมือสะอาดจริงๆ แถมยังมีการปราบปรามการทุจริตระบบราชการ

    ชนิดรื้อรากปัญหาขึ้นมากวาดล้างจนหลากหลายกระทรวงแทบป่นปี้

    ทั้งการบริหารของประเทศก็ทำให้ประชาชนเป็นสุขบ้านเมืองค้าขายดีเศรษฐกิจเป็นปึกแผ่นมั่นคง เหนือใต้ออกตกต่างถูกดูแลอย่างเท่าเทียมและส่งเสริมพัฒนาให้พลเมืองทุกชนชั้น

    มีการศึกษาขั้นพื้นฐานคือระดับมหาวิทยาลัยและมีอาชีพมารองรับหลังทำงานจบ

    วัดเป็นเปอร์เซ็นต์จากแบบสำรวจแล้วในประเทศแทบจะเทคะแนนเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์

    ให้รัฐบาลพรรคชนไทยสุดจิตสุดใจ

     

                เมื่อท่านประธานซันหาคำตอบไม่ได้ในยามนี้จึงเลิกคิด นายกรัฐมนตรีส่งคน

    มาเยือนถึงถิ่นเขาก็คงเพิกเฉยไม่ได้ หากให้สมน้ำสมเนื้อคงต้องก่อเรื่องก่อราวสักครา

    ชายหนุ่มปิดแล็ปท็อปและเก็บเอกสารรวมถึงขึ้นสวิตช์ระบบรักษาความปลอดภัย

    ให้อาคารสำนักงานระดับสูงสุด

     

                ในวงแขนหอบเสื้อสูทและตารางฝึกโหดติดมือเตรียมกลับบ้าน

    ชายหนุ่มพาร่างสูงกลับเข้ามาในโซนห้องนอนแล้วส่ายหน้าพลางยิ้มเอ็นดู

    สามสาวน้อยยังคงหลับใหลเปี่ยมสุขทุกคน

    คิดเล็กน้อยแล้วเลือกยังไม่ปลุกพวกเธอ แต่แกล้งตั้งนาฬิกาปลุกหลายสิบตัวไปวางบนหัวเตียงแล้วตั้งเวลาให้ปลุกติดต่อกันเป็นลูกโซ่หลังเวลานี้อีกครึ่งชั่วโมง

     

                ชายหนุ่มเข้าไปจัดการตัวเองในห้องน้ำแล้วยิ้มกริ่ม

    นาฬิกาปลุกเสียงท่านประธานซันตะโกนโหยหวนดังยาวๆ

    เมียจ๋าาา ตื่นได้แล้ววว ถึงเวลาตื่นแล้วที่ร้ากกก!”

    เสียงนาฬิกาปลุกยังคงดังลั่นแข่งกับเสียงร้องกรี๊ดของคาริ

    และเสียงหัวเราะคิกคักของหลินหลินและน้ำค้างใส

     

                ชายหนุ่มจัดการตัวเองเรียบร้อยในชุดเสื้อยืดตามสมัยนิยมสีอ่อน

    และกางเกงขายาวเรียบๆ แต่งกายเรียบร้อยจึงเดินออกไปเผชิญหน้าสามสาวด้วยรอยยิ้มสดใส

    ต่างคนต่างค้อนคนเป็นสามีตาขุ่นตาเคือง

     

                คาริตาเขียวก่อนกระโดดเข้าหาเขาจนชายหนุ่มแทบรับร่างบางไม่ทัน

    คาริที่รัก คืนนี้ไว้ค่อยต่อนะ ตอนนี้อาบน้ำก่อนนะ ดูสิตัวเปื้อน.....หมดแล้ว

    ชายหนุ่มยังไม่ได้พูดคำหยาบคาย

    คาริก็ร้องแหวและรีบวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปเสียก่อน

    ไอ้ผัวบ้าลามก คาริยังโผล่หน้าออกมาชวนหลินและน้ำค้างใสที่หน้าแดงก่ำเพราะชายหนุ่ม

    ยิ้มจนตาหยียามจ้องกายเปลือยเปล่าทั้งคู่ด้วยแววตากรุ้มกริ่ม

     

                พี่ซัน อย่ามองเค้าค่ะ หลินจ้องหญิงสาวที่อายหน้าแดงข้างตัวแล้วรีบสะบัดมือ

    ใช้ลมปราณหอบชายหนุ่มที่ขวางทางเข้าห้องน้ำลอยไปตกบนเตียงเสียงดังตุ๊บ

     หลิน คืนนี้จะเอาให้ลุกไม่ได้ แม้เขาจะร้องบอกภรรยาสาวด้วยน้ำเสียงเข่นเขี้ยว

    แต่เสียงหัวเราะใสๆ ก็ตอบโต้กลับมาว่าไม่กลัว ท่านประธานซันคล้ายโรคจิต สูดจมูกดอมดมกลิ่นกายหอมละมุนของสามสาวบนที่นอนซึ่งตกค้างอยู่

    เขาคลี่ยิ้มละไม นัยน์ตาคมอ่อนโยนลง ไม่ว่าวันนี้หรือปีหน้าจะเกิดสิ่งใดขึ้น

    เขา จะปกป้องพวกเธอด้วยชีวิตและจิตวิญญาณ

    ชายหนุ่มยิ้มเจื่อน ก่อนรีบปิดนาฬิกาปลุกอีกหลายตัวก่อนมันจะกลายเป็นซากหากคาริออกมา

     

                หลังจากอาบบวกเล่นน้ำกันเกือบหนึ่งชั่วโมงจนเขาขู่ว่าจะเข้าไปอาบให้

    แต่ละคนจึงรีบวิ่งออกมาแต่งตัวในที่สุดก็เรียบร้อยจนได้

    น้ำค้างใสยังไม่ชินกับสายตาวิบวับของคนกวาดตามองร่างบางในชุดเสื้อโปโลสีครีมหวาน

    และกระโปรงยาวคลุมเข่า ปล่อยเส้นผมยาวสลวยถึงเอวคอดแบบบาง

    หญิงสาวถูกจับทำผมพร้อมเสียงหัวเราะคิกคักของคาริและหลินหลิน

     

                ชายหนุ่มติดกิ๊บผีเสื้อเล็กๆ ให้สาวน้อยตรงหน้าและมองภาพในกระจกเงาบานใหญ่

    ก่อนส่งยิ้มอุ่นให้น้ำค้างใส

    น่ารักมาก คุณหนูตัวน้อยชายหนุ่มยอมปล่อยให้น้ำค้างใสได้สำรวจตัวเอง

    และลองฝึกใช้พลังยุทธ์โผบิน ดังนกน้อยกำลังจะสู่ฟ้ากว้างเป็นครั้งแรก

    ส่วนเขาหันไปไล่จับยัยปีศาจแมวคาริและหลินหลินน้อยมาสวมเสื้อผ้า

    ขณะไขว่คว้าสองสาวก็ล้วงโน่นขยำนี่จนโดนกัดด้วยความเขินไปหลายเขี้ยว

    แม้หลินจะไม่ได้โหดร้ายเหมือนยัยปีศาจคาริ แต่หากเธอเขินแรงๆ ก็จะจิกเล็บจนเนื้อเขาช้ำได้เช่นกัน หลินถูกจับสวมชุดเดรสตุ๊กตาสีขาวอ่อนระบายลูกไม้ดอกเหมยสีชมพู

    เรือนผมยาวถูกปล่อยสลวยแนบแผ่นหลังเนียน

    หลินให้รางวัลเป็นรอยจุ๊บที่แก้มเขาทีหนึ่งก่อนเดินไปคุยอะไรสักอย่างกับน้ำค้างใส

     

                กว่าจะจับคาริแต่งตัวได้ก็ทำเอาเหงื่อตกไปเช่นกัน

    กระทั่งคาริถูกลงโทษด้วยความรักและลีลาที่ช่ำชองอยู่ร่ำๆ จะต้องทอดกายบนเตียงกว้าง

    เขาจึงสามารถแต่งตัวให้หญิงสาวผู้เปลี่ยนมาสวมชุดเสื้อกระโปรงสีชมพูอ่อนทับด้วยเอี๊ยมยีนส์สีครีมได้สำเร็จ

    กลับบ้านกันเถอะ

    ชายหนุ่มเอ่ยไม่ทันจบก็ต้องรีบคว้าคาริจากกรอบหน้าต่าง

    เขาดีดหน้าผากคนหน้าใสเบาๆ แม้รู้ว่าเธอไม่เป็นอะไรแน่

    ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ต้องการให้คนเบื้องล่างตระหนกตกใจเพราะใต้กระโปรงไม่ใช่ขาขาว

    แต่เป็นมีดสั้นและอาวุธลับในซองหนังของหญิงสาวแสนแก่น หลินยังคงสามารถทำให้เขาทึ่งได้

    เพราะกระบี่อ่อนของเธอสามารถอ่อนตัวจนกลายเป็นเข็มขัดบนเอวคอดกิ่ว

    ทำเขาขนลุกกับความน่าเกรงขามของเมียสาวแต่ละคน

     

                ชายหนุ่มคว้ามือน้ำค้างใสที่ตาโตกับสองสาวนักสู้

    ให้เดินออกจากห้องลงไปสู่ท้องถนนเบื้องล่าง

    ด้วยเครื่องเดินทางพิเศษของผู้บริหาร world haunt ทำให้ทุกคนเดินทางลงมาถึงชั้นล่าง

    ด้วยเวลาไม่ถึงนาที หลินและน้ำค้างใสชาชินกับสายตาของคนเดินถนนในวันฝนพรำ

    แต่คาริไม่ใช่

    หญิงสาวจึงเลือกมาเดินเบียดเขาดังไม่ค่อยชินกับสายตาผู้ชายมากมายบนท้องถนน

    ซึ่งมองพวกเธอด้วยสายตามันเยิ้ม

     

                ทำใจให้สบายพวกเธอสวยมากเขาเลยมองกัน ว่าแต่ พวกเราจาไปขึ้นรถ....

    พูดยังไม่ทันจบสามสาวก็หันมายิ้มหวาน

    ไม่เอานะ คาริรีบตัดบท

    พวกเราอยากเดินนะคะพี่ซัน น้ำค้างใสพูดด้วยแววตาออดอ้อนขนาดนั้นใครจะไปทนได้

     

                นะ น้า พวกเราอยากเดินกลับบ้านกับซัน โรแมนติกออก ชายหนุ่มได้แต่ยอมจำนน

    การวางแผนของสามสาวที่แท็กทีมมาขนาดนี้แล้วเขาผู้เป็นสามีแห่งชาติจะพูดอะไรได้

    เปิดฉากด้วยคาริซึ่งแสดงจุดยืนเด็ดขาด ตามมาด้วยแววตาวิงวอนของน้ำค้างใส

    ที่ไม่ได้เดินมานานมาก เขาก็ใจละลายเป็นน้ำไปแล้ว

    สุดท้ายยังให้หลินๆ สาวน้อยร้อยล้านและแม่ครัวสาวผู้ปรุงอาหารจานรักมาส่งสายตาแป๋วๆ

    ขอความเห็นใจเขายิ่งพูดอะไรไม่ออก

    ชายหนุ่มทำได้เพียงพยักหน้าและยิ้มกว้างกับเสียงเย่และรอยยิ้มสดใสของเหล่าภรรยาสาว

    ทั้งสามก้าวลงบนทางเท้าที่แบ่งเป็นหลายช่องทาง

    บนทางเดินมีหลังคากันแดดฝน ผู้คนหลายอาชีพที่เพิ่งเลิกจากงาน

    ด้วยใจเหนื่อยล้า พอได้พบเห็นรอยยิ้มของสามสาวสวย บางคนก็รู้จักสองในสาม

    และเห็นคนที่ก้าวตามสามสาวมาก็ทำให้ข่าวลือแพร่กระพือไปได้เสมอ

     

                แม้ชายหนุ่มจะได้ยินแต่ทำเพียงอมยิ้มและหัวเราะเท่านั้น เป็นสามสาวเสียอีก

    ซึ่งผินหน้ามาค้อนตาเคือง

    เฮ้ย...นั่นประธานบริษัท world haunt ไม่ใช่เหรอวะ แล้วก็คุณหนู world skyนี่หน่า

    สวยมากเลย สวยจนข้าจะลืมหายใจแล้วว่ะ

     

                นั่น นั่น สาวน้อยร้อยล้านตัวเป็นๆ พวกเรา คุณหนูหลิน lucky moon ไม่ใช่เรอะ

    โฮ้...ยิ่งกว่านางฟ้านางสวรรค์อีกน้ะนั่น

    ใครได้พวกเธอเป็นแฟนคงจะอยู่ในห้องนอนทั้งวันทั้งคืนเลยว่ะหลายต่อหลายคำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนตามไรทางทำให้สามสาวอยากเปลี่ยนใจกลับไปใช้รถ

    จำเป็นให้ชายหนุ่มที่ตามมาด้านหลังต้องก้มลงขโมยหอมแก้มพวกเธอคนละฟอด....

    จนคนเกือบพันอ้าปากค้าง

     

                สามสาวตาค้างขณะพวงแก้มไล่สีชมพูแจ๋

    หลายเสียงอื้ออึง เหม่อมองผู้ชายไม่นิยมออกสื่อ เว้นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

    หลังจากออกกระแสของปืนฉีดน้ำยุทธการวารีเดือดจบสินค้าก็ขายดีขึ้นแทบทุกวัน

    ถึงไม่ใช่ช่วงเทศกาลแต่ก็ได้รับความนิยมอย่างสูง

     

                แม้ทั้งสี่จะเดินผ่านไปแล้วแต่โซเชียลก็กระหึ่มขึ้นอีกครั้ง

    มีหลายคนที่สามารถจับภาพและบรรยายได้ถึงใจและยิ่งโหมกระแสให้ร้อนฉ่า

    ท่านประธานแห่ง world haunt มีแฟนทีเดียวเป็นสาวสวยระดับแนวหน้าของโลก!

     

     

    เสริมบท

     

     

    ท่านประธานซัน:  ภูมิใจมาก

    คนทั่วโลก: ตาร้อนผ่าว!!

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป บทที่ 27 ถึงบ้าน!

     

     

     

    …………………***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×