คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #26 : หนูน้อยชุดดำ
บทที่ 25 หนูน้อยชุดดำ
ท่านประธานซันจัดการเขมือบอาหารของหลินพร่องกว่าครึ่ง แม้รู้ว่าคาริตื่นมาเขาต้องถูกบ่นแต่เขาจะปิดปากเล็กๆ นั่น และเปลี่ยนเสียงใสๆ ให้กลายเป็นเสียงครางกระเส่า แทน
ชายหนุ่มตกท้ายมื้ออาหารด้วยน้ำส้มคั้นฝีมือตนเอง ก่อนพยักหน้าและชมเปาะ
“ฝีมือข้าไม่เลว วันหลังต้องทำให้ทุกคนชิม” ท่านประธานซันจัดการโจ๊กและน้ำส้มคั้น
หลังเก็บกวาดห้องทำงานจึงเบนความสนใจหากองเอกสารตั้งใหญ่ ใบหน้าเปื้อนยิ้มตลอดมาพลันขรึมลง
ท่านประธานซันโคจรกำลังภายในชั่วพริบตาทั่วทั้งห้องก็ปกคลุมด้วยม่านน้ำแข็งโปร่งแสงกระจายปิดล้อมอยู่รอบด้าน ร่างสูงเคลื่อนวูบพลันประชิดโต๊ะทำงานตัวใหญ่
สองมือผลักออกไป กำลังภายในหนักแน่นทรงพลังกระแทกกระทั้นจนโต๊ะตัวใหญ่เคลื่อนขยับก่อนถูกพลังยุทธ์สะบัดขึ้นลอยคว้างกลางอากาศ ร่างสูงเคลื่อนวูบวาบข้าวของหลายชิ้น
พลันปลิวว่อนติดมืออย่างง่ายดาย
ตึ้ง!
โต๊ะทำงานหลังยักษ์เหวี่ยงโค้งกลับเข้ามาตั้งตระหง่านลงที่เดิม ประหนึ่งไม่เคยเกิดสิ่งใดขึ้น ท่านประธานซันเร่งเร้ากำลังภายในขึ้นสุดตัว ทั่วห้องหนาแน่นด้วยม่านลมปราณ
อันทรงพลังแกร่งกร้าว
ชายหนุ่มกระแทกแผ่นหลังกับพนักพิง แนวกรามถูกขบขึ้นเป็นสันนูน นัยน์เนตรคมกล้าฉายแสงกร้าวกระด้างคราจับจ้องสิ่งที่นอนนิ่งบนโต๊ะเบื้องหน้า
มือใหญ่สั่นระริกขณะพลิกหน้ากระดาษแผ่นใหญ่แล้วไล่สายตาเฉียบคมไขความลับภายในด้วยสีพักตร์ขาวซีด ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชายหนุ่มเหม่อมองรายละเอียดในหนังสือภาพเล่มใหญ่
ท่านประธานซันปิดเปลือกตาลงก่อนเหยียดกายขึ้น ผลักมือเลื่อนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ออกจากที่ สอดหนังสือเล่มนั้นกลับเข้าช่องลับแล้วสลายม่านน้ำแข็งฝ้ามัวทั่วทั้งห้อง
กวักมือเบาๆ เอกสารปึกใหญ่พลันลอยพุ่งเข้ามาตั้งลงตรงหน้า ท่านประธานซันคว้าปากกาเลเซอร์ลงมือจัดการเคลียร์งานคั่งค้างทั้งหมด
เงยหน้าขึ้นอีกครั้ง นาฬิกาก็บ่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว ท่านประธานซันวางปากกาลง ปลายนิ้วไล่เรียงรายการทรัพย์สินและงบประมาณภาพรวมของบริษัท world haunt
และสายตระกูลชำนาญสรรพกิจทั้งหมด ชายหนุ่มครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนนัยน์ตาคมจะฉายแสงวูบหนึ่ง
ปลายปากกาจรดลงบนกระดาษเปล่า นิ่งครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนตัวอักษรภาษาไทยหวัดแกมบรรจงจะถูกตวัดขึ้นอย่างรวดเร็ว ท่านประธานซันไล่สายตาอ่านถ้อยความอีกรอบก่อนปัดมือ
ส่งกระดาษแผ่นนั้นเคลื่อนเข้าสู่เครื่องส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ชั่วพริบตาก็จางหายไป
ชายหนุ่มกลับมาจัดการงบประมาณอีกครั้ง ทุนทรัพย์ของ world haunt
ติดลำดับมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินส่วนตัวมากที่สุดในโลกองค์กรหนึ่ง
การแพลนแผนฝึกกวาดล้างเพนกวิ้นทมิฬส่งผลให้เงินทุนกลายเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด
อย่างหนึ่ง
“ต่อไป ขอเช็กภูมิหลังพวกเจ้าเทพซุส” ชายหนุ่มเปิดคอมพิวเตอร์แล้วปล่อยให้AIบริษัทจัดการเจาะฐานข้อมูลมหาดไทยแล้วพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ
เลื่อนปลายนิ้วอ่านประวัติของทุกคนก่อนพึมพำ
“ให้เจ้าพวกนี้มีต้นทุนชีวิตสักล้านใครจะเอาไปพัฒนาตัวเองต่อยังไง
ลองเสี่ยงดูละกัน”ครั้งนี้ชายหนุ่มหมดเงินไปเกือบยี่สิบล้าน แต่เขาไม่ใส่ใจ
เพราะมันหาใช่เงินที่เขาหามาด้วยน้ำพักน้ำแรง
ธุรกรรมทางการเงินเสร็จสิ้น ท่านประธานซันจึงง่วนกับการมองหาลู่ทาง
สำหรับสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเองและเพื่อนพ้อง
จู่ๆ คอมพิวเตอร์ก็แจ้งเตือนว่ามีข้อความเข้า
เมื่อท่านประธานซันไล่สายตามองถ้อยคำห้วนกระชับจึงรำพึงชื่อใครคนหนึ่ง
‘ระวังมือสังหารจากสำนักนายก!’
ดวงปัง เทพช้างเผือกนิรมิต
นายพลผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดแห่งกองทัพบก ควบตำแหน่งอีกมากมายภาคความมั่นคง
ของราชอาณาจักรไทย
ดวงตาคมเป็นประกายเจิดจ้า เขาเห็นช่องทางเพิ่มพูนความแข็งแกร่งของคณะปราบเพนกวิ้นทมิฬแล้ว
ข้อความที่รู้กันเฉพาะถูกพิมพ์ตอบกลับถึงคนปลายทาง
คงต้องรอหลายชั่วโมงกว่าคนไม่ว่างงานจะได้เปิดอ่าน
ท่านประธานซันเลือกตรวจสอบข่าวเกี่ยวกับเมฆดำแล้วคิ้วโค้งก็ต้องเลิกขึ้น
ครั้นเห็นข่าวที่ถูกประโคมออกมาจากหลายสำนักข่าวต่างประเทศล้วนเกี่ยวข้องกับอาร์กติก
เขาใช้เส้นสายของบริษัทเจาะลึกเข้าถึงข่าวกรองลับเฉพาะของกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียร์ แคนาดา สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย ทว่ากลับได้ผลลัพธ์ที่ทำให้คิ้วหนาขมวดแน่น
ทุกข่าวสารล้วนระบุตรงกันอย่างมิได้นัดหมาย ขุมทรัพย์อันประเมินค่ามิได้
แห่งวงการวิทยาศาสตร์ในอาร์กติกรอคอยนักวิจัยจากทั่วโลกเข้าไปค้นพบ
ส่งผลให้พื้นที่โดยรอบวงกลมอาร์กติกทั้งหมดถูกประกาดเป็นพื้นที่ทำงานวิจัยนานาชาติ
“เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก แคนาดา ฟิลแลนด์ สกอทแลนด์ รัสเซีย เกาหลีใต้ จีน ญี่ปุ่น อิสลาเอล สหรัฐอเมริกา
หืม นี่มัน?”
‘วิจัยความผิดพลาดในอดีตเพื่อความก้าวหน้าของมวลมนุษยชาติในอนาคต
หรือแหกตารอบที่ร้อยแปดสิบเจ็ด’
ชายหนุ่มยกมือเกาหัวงงๆ เขาไม่รู้หรอกว่าร้อยแปดสิบหกรอบที่ผ่านมามันวิจัยหรือแหกตา
แต่ครั้งนี้ แหกตาชัดๆ เอาชีวิตไปทิ้งอีกแล้วสหายร่วมโลกทั้งหลาย
ชายหนุ่มเอียงคอสบายๆ มีดสั้นอาบยาพิษทอประกายวาวเสียบพนักเก้าอี้
ซึ่งเขาเคยนั่งก่อนหน้านี้จนมิดด้าม
“ไอ้หนู ในโลกเก่าของข้าพวกชาวยุทธ์ยินดีเจอกับหกปีศาจแห่งยุค
มากกว่าปีศาจกระจอกๆ อย่างข้าโว้ย อยากรู้มั้ยว่าทำไม?”
ไม่ต้องให้ฝ่ายตรงข้ามที่กล้าบุกมาลุยเดี่ยวกับชายแก่คนเดียว
ตกตลึงนาน คลื่นลมปราณระเบิดควันหอมและหมอกสีฟ้ารางออกคลุมทั้งห้องจนนักฆ่าร้องผงะ
ตื่นตระหนก ยามเครื่องเพศของเขาพลันแข็งตัวขึ้นและระเบิดความใคร่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
เพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีการหลั่งรักของเขาก็ผ่านไปเกือบสิบรอบ ร่างผู้บุกรุกอ่อนระทวยลงพื้น
ด้วยเรี่ยวแรงที่สูญสลายในชั่วพริบตา
ชายในชุดกางเกงขาสั้นสีขาวและเสื้อยืดสีเดียวกันเก้ามาเหยียบกลางอกเขาแล้วหัวเราะเบาๆ
“หนุ่มน้อย กลับไปบอกนายเจ้านะ ถ้ารังควานไม่เลิก...ข้าจะแพร่พิษให้คนทั้งบ้านมัน
เป็นโสเพณีทั้งตระกูล” ท่านประธานซันจ่อคมมีดอาบยาพิษจดลงตรงหน้า นัยนน์ตาใต้ผ้าคลุมเหลือกลานด้วยความกลัวจนร่างสั่นสะท้าน
ชายหนุ่มเคลื่อนกายเล็กน้อยก็คว้าคอเสื้อผู้บุกรุกเข้าประชิดบานหน้าต่างของชั้นเจ็ดสิบสองก่อนสะบัดมือเบาๆ เหวี่ยงร่างในชุดลายพรางลอยลิ่วออกไปในอากาศ
ขณะผู้หวาดผวาสุดขีดจะแหกปากร้อง ชายหนุ่มพลันจี้นิ้วออกไป ดรรชนีสว่างวูบพร้อมจุดไบ้ถูกปิดสะกัดพร้อมกันนั้นผู้ส่งมาทดสอบก็ร่อนลงสู่ซอยแคบข้างบริษัทอย่างนุ่มนวล
ต่างจากการตกไร้หลักยืนก่อนหน้านี้ไม่รู้กี่เท่า
โดยธรรมชาติท่านประธานซันไม่นิยมการฆ่า เขาถือคติว่าเลี่ยงได้ก็เลี่ยง
ใบหน้าตรึกตรองหันกลับไป หมายจะทำงานต่อแต่ภาพที่เห็นตรงหน้า
ส่งให้เท้าต้องก้าวถอยหลังอย่างพยายามไม่ตื่นตกใจ
บนเก้าอี้ท่านประธาน คนในชุดดำเปิดแล็บท็อปของเขาอ่านสิ่งที่ค้างอยู่บนหน้าจอ
อย่างปลอดโปร่ง ทำเป็นไม่รู้สึกถึงพลังลมปราณสุดตัวที่เขาแพร่พลังแสนอันตรายประจำตัว
ด้วยวิชายุทธ์คลื่นราคีครองฟ้า
ลมปราณชุดนี้มีไว้ช่วยเหลือผู้มีบุตรยาก
และการใช้เพียงเศษเสี้ยวเพื่อเพิ่มบรรยากาศรักให้หรรษามากขึ้น
ถึงกระนั้น วิชานี้ก็ถูกขนานนามเป็นวิชายุทธ์สายมารอันเลวร้ายจนยอดยุทธ์หญิงต่างหวาดกลัว
การพบเจอหนึ่งปีศาจผู้บงการสัญชาตญาณดิบของคนทั่วหล้าด้วยการพลิกฝ่ามือ
นอกจากสายเลือดแห่งปีศาจภัยนารีแล้วมีเพียงพลังหัตถ์เทวะลิขิตสวรรค์เท่านั้น
ซึ่งสามารถลบล้างวิชาคลื่นราคีครองฟ้า.....แต่คนอย่างยอดยุทธ์ซันมีหรือจะยอมกล้ำกลืนเป็นผู้แพ้ เขาจึงได้บัญญัติยอดวิชาสายมารที่หลอมรวมทุกปมเด่นของปีศาจภัยนารีทุกรุ่น
จนก่อเกิดเป็นวิชายุทธ์พิษรักผลาญไตรภพ ที่แม้แต่ยอดยุทธ์ซันยังกล้าๆ กลัวๆ ไม่นึกอยากหยิบมาใช้ หากไม่ถึงคราวคับขันแห่งชีวิต
ชายหนุ่มจับจ้องร่างเบื้องหน้า ชั่วพริบตานั้นเสมือนตัวตนตรงหน้าเลือนหายไป
เช๊ง! เช้ง! เช้ง!
มีดสั้นในมือถูกยกขึ้นป้องกันหน้าผากช่วงอกและท้องน้อยได้อย่างฉิวเฉียด
ร่างเล็กใต้ชุดดำกลับไปนั่งที่เดิมดั่งไม่มีสิ่งใดเคยเกิดขึ้น
“ฝีมือใช้ได้นี่ไอ้บ้ากาม!” ท่านประธานซันคิ้วกระตุก
ผู้ตั้งฉายาจับปฏิกิริยาด้วยท่วงทีสบายๆ
หากมิใช่เพราะกระแสลมปราณที่พร้อมกระโจนเข้าสังหารเขาได้ทุกเมื่อ
ชายหนุ่มอาจเผลอเรอให้ภาพลักษณ์ของคนในชุดดำไปแล้ว
“มาฆ่าผมรึเปล่า?” คิ้วน้อยใต้ผ้าคลุมหน้าเลิกขึ้นและพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเยาะขึ้นจมูก
“เมื่อกี้เจอคนที่อ่อนแอกว่ายังทำเป็นอวดโอ่ ใช้ภาษายุคเก่า.....แล้วนี่อะไร
แค่เจอคนมีฝีมือนิดหน่อยถึงกับพูดสุภาพ
คุณนี่กระจอกกว่าที่คิดนะ?” ชายหนุ่มถอยหลังพิงกรอบหน้าต่างแล้วหัวเราะออกจมูกบ้าง
“คนอย่างฉันไม่หลงเชื่อพลังซ่อนลมปราณกากๆ ของแกหรอกเจ้าหนูน้อย”
มีดสั้นถูกขว้างเข้าหาเพื่อนำทาง
ส่วนคนพุ่งตามไปก็กระหยิ่มยิ้มย่อง ครั้นมีดได้ปักลงตามเป้าแล้ว
ฉึก!
ควันสีขาวอมทองฟุ้งสว่างกระจายออกรอบตัวจนคนที่มั่นใจอยู่คราแรก
ร้องตระหนกแล้วหันมาด่าคนที่เดินเข้าหาด้วยน้ำเสียงกราดเกรี้ยว
“พลัง ละ ลมปราณบ้าอะไรรีบลบล้างนะ!” น้ำเสียงผ่านการดัดแปลงเริ่มสั่นสะท้าน
“เทพนักปราชญ์ คุณสินะ” ท่านประธานซันกระโจนเข้าหาร่างคนตรงหน้าที่สลับเท้า
เบี่ยงตัวหลบ
ร่างเบื้องหน้าแยกออกเป็นเงาร่างเลือนรางหกร่างแยกย้ายกันกระโดดหนีไปคนละทาง
“ตาย!”
ร่างทั้งหกนั้นเป็นเพียงภาพติดตา
เช่นเดียวกันร่างที่เจ็ดที่ฟาดกระบี่ขนาดใหญ่สูงท่วมหัวกว่าสองเมตรก็ร่างปลอมอีกเหมือนกัน
ตูม!
คลื่นพลังลมปราณรุนแรงจนร่างท่านประธานซันปลิวไถลและลอยขึ้นไปกระแทกเพดานสูงลิบ
จนเกิดเสียงลั่นครืนและรอยแตกรูปใยแมงมุมกระจายออกไปรอบข้าง
อ๊อก!
ฝ่ายตรงข้ามไม่ดีไปกว่ากันมากนัก ผ้าคลุมหน้าสีดำหลุดออกพร้อมเจ้าตัวที่ไม่สนใจอีก เรือนผมสลวยสีน้ำตาลเงางามดุจแพรไหมพลิ้วสยายลงตามแผ่นหลัง
ดวงเนตรงามเย็นชาเป็นนิตย์ในยามนี้กลับฉายเพลิงปรารถนาอันร้อนเร่า
จนคนเพิ่งผ่านกามกิจหนักหน่วงยังรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว
“บัดซบอย่าบอกนะว่ามันทำร้ายผู้ใช้พลังด้วย”
ร่างเขากลายเป็นเงาลวงตาหลบจากร่างในชุดดำของหนูน้อยที่ปรางแก้มเนียนอ่อนใส
ดั่งสาวน้อยแรกแย้มฉาบไล้สีแดงจัดจนขึ้นสีแดงเข้ม
“วิชาลมปราณบ้าๆ ฉันจะทำลายให้แหลก” ท่าเท้าลวงสวรรค์ของชายหนุ่มตกเป็นรอง
ท่าเท้าก้าวรัตติกาลของฝ่ายตรงข้ามจนในที่สุด
เขาถูกจับได้และถูกกดลงกับพื้นห้อง
ริมฝีปากสีแดงระเรื่อยื่นลงมาประกบจูบกับริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาด้วยความเร่าร้อน
ความชิดใกล้นี้ส่งผลให้นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนปานจะหลอมเหลวหัวอกหัวใจผู้ถูกขยี้จูบดุดัน
ยิ่งเวลาผ่านไป ท่านประธานซันก็พลังลมปราณในร่างปั่นป่วน
ดั่งทะเลมรสุม
“โถ้เว้ย!” ริมฝีปากบางบวมเจ่อผละออกพร้อมหมัดซ้ายที่ซัดเปลี้ยงลงบนซีกแก้ม
จนเห็นเลือดสาดกระเซ็นในหมัดเดียว
เขาได้แต่สวดภาวนาถึงบิดามารดาอยู่ในใจ
“ทำเรามากกว่านี้!”
เมื่อเจอกับประโยคคำสั่งชวนสยิวชายหนุ่มกลับตื่นตระหนกจนตัวแข็งทื่อ
ก่อนได้สติยามร่างบางล้มกลิ้งลงกับพื้นทั่วกายชักกระตุกอย่างต่อเนื่อง
นัยน์เนตรสีอ่อนจับจ้องชายหนุ่มอย่างโกรธกริ้ว
“ขอโทษนะแม่สาวน้อย ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้เธอคงคลั่งตายก่อน” ท่านประธานสาบานว่าต่อไปจะไม่ใช้วิชายุทธ์น่าสะพรึงกลัวนี้อีก
กล่าวจบคำก็โถมกายตามลงคล่อมหญิงสาวที่บิดชักมือเท้าหงิกงออยู่บนพื้น
“อย่านะ อ๊าาา!” หล่อนหวีดร้องลั่นครั้นท่านประธานซันคลายนินจาสูทพร้อมฝังใบหน้าในร่องอกอิ่ม มือมารเลื้อยลงกระชากดึงกางเกงตัวน้อยให้พ้นร่างเล็ก
ชั่วพริบตาสาวน้อยปริศนาก็เหลือเพียงชุดชั้นในต่อหน้าต่อตาชายหนุ่มซึ่งใบหน้าแดงฉานไม่แพ้หล่อน
หญิงสาวกระถดกายถอยหนี แต่ชายหนุ่มหาได้ใส่ใจสีหน้าวิงวอนของเธอ เพราะเป็นเจ้าของวิชาเขาย่อมรู้ดีกว่าใคร วิชายุทธ์นรกแตกนี้หาได้ไถ่ถอนได้ด้วยกาลเวลาหรือขับออกด้วยกำลังภายใน
มีแต่คาวใคร่ไฟสวาทเท่านั้นที่ขับไล่ความอัปมงคลแสนร่านเร่านี้ได้
“อย่าน้าาา อาาา” หญิงสาวหวีดร้องไม่เป็นภาษายามชายหนุ่มล็อกสะโพกเล็กเกร็งแน่นแอ่นเริ่ดแล้วเกี่ยวดรรชนีฉุดแพนตี้ตัวน้อยให้พ้นทาง
ก่อนก้มหน้าลงสูบหยาดเสียวพุ่งกระเด็นเซ็นซ่านอย่างต่อเนื่อง
หญิงสาวกรีดร้องสุดเสียง สองขาแหวกกว้างจนท่านประธานซันสูบรับเสพน้ำหวาน
จากแกนกายสาวหลายต่อหลายระลอก
ชายหนุ่มตวัดเรียวลิ้นมหาเสน่ห์โลมเลียกลีบรักแบบบางอย่างช่ำชองจนร่างบางเกร็งกระตุกกระฉูดน้ำใสๆ ไหลพร่างพรูทะลักพุ่งดั่งประปาแตก
ผ่านไปร่วมสิบนาที ชายหนุ่มจึงขยี้ริมฝีปากกับขาอ่อนเรียวเสลาแล้วขยับกายผละห่าง
ร่างบอบบางระทดระทวยอยู่กับพื้น
“เธอปลอดภัยแล้วแม่หนูน้อย” พลางกล่าวก็เกี่ยวขอบแพนตี้สีครีมขึ้นแล้วคว้าเสื้อกางเกงขึ้นสวมให้คนที่ยังคงแก้มแดงก่ำ นัยน์เนตรซึ่งกลับมาเย็นชาได้อีกครั้งจับจ้องเขา
อย่างโกรธแค้น ซึ่งก็ดี
หากเธอจ้องเขาด้วยแววตาเชื่อมหวานอีกนิดชายหนุ่มคงกระโจนเข้าปลุกปล้ำเจ้าหล่อน
สร้างครอบครัวเป็นคู่ผัวตัวเมียไปแล้ว
“อย่าเอาเรื่องนี้ไปพูดกับใคร ไม่งั้นเราฆ่าเมียนายทั้งสามคนแน่”
ปลายผมสีน้ำตาลสวยสะบัดฟาดกับแก้มชายหนุ่มเสียงดังเพียะจนเขาชาไปทั้งตัวอีกครั้ง
ในคลองจักษุได้แต่จ้องมองบั้นท้ายเล็กกลมกลึงน่าขย้ำ
ที่ล่องลอยหายไปจากกรอบหน้าต่างของห้องทำงานหลงเหลือเพียงหลักฐานสำคัญที่แสดงว่าเขาเคยทำอะไรกับใคร
ท่านประธานซันหัวเราะแล้วส่ายหน้ากับดาบสองคมอย่างวิชาปราณพิษรักผลาญไตรภพ
ที่ได้ลองใช้เป็นคราแรกแม้แต่คนระดับปราณธรรมชาติห้าหมื่นปียังพ่ายแพ้จนเกือบสิ้นท่า
“หนูน้อยชุดดำ หวังว่าเราคงไม่ได้เจอกันอีก” ริมฝีปากอวบอิ่มนุ่มนวลและเย็นชาที่ประกบลงจูมพิตหนึ่งจะดูดกระชากวิญญาณเขาได้ทุกรอยจูบรอยสัมผัสทำให้เขาถอนหายใจ
แล้วปล่อยความคิดล่องลอยไป
เสริมบท
ท่านประธานซัน: ขอให้....เราอย่าได้พบกันอีกจริงๆ เพราะข้าเจอดาวข่มแล้ว
หนูน้อยชุดดำ: เฮอะ!
โปรดติดตามตอนต่อไป บทที่ 26 กลับบ้าน
………………………***
ความคิดเห็น