ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สร้างฮาเร็มในต่างโลก 1

    ลำดับตอนที่ #22 : เทพนักปราชญ์ ++รีไรต์เรียบร้อย

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ค. 64


            บทที่ 22 เทพนักปราชญ์

     

     

       ในยามที่ world haunt ทำการเขี้ยวเข็ญเหล่าผู้บริหารในห้องประชุมหลัก

    อีกสถานที่หนึ่งซึ่งสำคัญต่อประเทศชาติก็กำลังมีบุคคลระดับสูงหลายสิบคนเข้าร่วมการประชุม

    ร่วมกับผู้ดำรงตำแหน่งสูงสุดของรัฐบาลอย่างพร้อมเพียง

    ผู้นำฝ่ายบริหารเรียกผู้เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทุกภาคส่วนเข้าร่วมประชุมอย่างเร่งด่วนทำให้ทหาร ตำรวจ

    และผู้พิทักความมั่นคงของรัฐเข้าห้องประชุมด้วยใบหน้าเรียบตึงขึงขัง

     

                ข้าราชการทหารยศนายพลหลายคนสบตากันด้วยรอยยิ้มบาง

    ผู้นั่งตำแหน่งสูงสุดฝ่ายบริหารเริ่มรู้สึกไม่มั่นคงกับเก้าอี้ที่เพิ่งได้ครองเพียงครึ่งสมัย

    นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันเป็นชายหนุ่มผิวขาววัยต้นห้าสิบ ร่างผอมบางในสูทกวาดสายตาคมกริบทะลุทุกความคิด

    ทำให้องค์ประชุมอดก้มหน้าหลบตาไม่ได้

     

                สวัสดีครับ หลายท่านคงพอทราบประเด็นที่ผมต้องการปรึกษาหารือคร่าวๆ แล้ว

    ก่อนอื่นต้องขอโทษที่เรียกทุกท่านมาในเวลาพักผ่อนเช่นนี้? ผู้นั่งตำแหน่งเก้าอี้บริหารสูงสุดเปิดประเด็นขึ้น

    หลายท่านคงทราบถึงการแถลงข่าวเมื่อวาน และเห็นผลที่เกิดขึ้นแล้ว

    ว่ามีผลกระทบทั้งข้อดีข้อเสียต่อบ้านเมืองอย่างไรบ้าง ท่านนายกเปิดประเด็นและมุ่งเข้าเป้าหมายของตนด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

     

                มันก็เพียงปืนฉีดน้ำ ท่านนายกกังวลมากไปหรือเปล่าครับ?

    ผู้เข้าร่วมประชุมด่วนในคืนนี้ต่างเป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาเสียส่วนใหญ่ จึงไม่ต้องเกรงอกเกรงใจกันมากนัก

    คำพูดตรงไปตรงมาจึงเป็นสิ่งธรรมดาที่ทุกคนมักใช้กัน

    ข้าราชการทหารยศนายพลกองทัพฟ้าเอ่ยเสียงขรึม

     

                ผมยังไม่ได้พูดขนาดนั้นท่านนายพล นายกรัฐมนตรีจับจ้องด้วยสายตาเยือกเย็น

    ขอโทษครับ แต่ผมยังยืนยันว่าธุรกิจของท่านเจริญส่งผลเสียต่อสภาวะธุรกิจเล็กน้อยเท่านั้น

    แต่ด้านความมั่นคงกลับได้รับประโยชน์สูงมาก

    โดยเฉพาะระบบปราบอาชญากรรมของปืนฉีดน้ำพวกนั้น ซึ่งหากใครทำผิดก็ถูกล็อกตัวทันที

    จนเจ้าหน้าที่เดินทางไปจับกุมมาดำเนินคดีได้เสียทุกราย

    และตอนนี้ยอดอาชญากรลดลงเป็นประวัติการณ์แม้แต่คนระดับพระกาลยังกบดานนิ่งไม่กล้าผลีผลามลงมือครับ

    นายทหารระดับสูงฝ่ายข่าวกรองเอ่ยรายงานขึ้นโดยไม่ปิดอาการชื่นชม

     

                นายกรัฐมนตรีกัดฟันกรอด

    ไอ้ดวงเฮ็ง......แกมันจะได้ดีกว่าฉันไปถึงไหน!

    ความคิดของผู้นำบริหารทำชายชราในต่างโลกจามติดต่อกันเสียหลายรอบ

    ถึงแบบนั้น...ผมก็ยังอยากจำกัดไม่ให้เด็กและเยาวชนซื้อไว้ในครอบครอง พวกท่านควรคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย นายกหนุ่มเอ่ยเสียงเครียดฟังเฉียบขาด

     

                เรื่องนี้ท่านเจริญมีพูดในช่วงท้ายของแถลงการณ์อยู่ครับ ท่านก็ห่วงใยในเรื่องนี้เหมือนกันโถ่โว้ย!

    ผู้นั่งเก้าอี้หัวโต๊ะลอบกำหมัดแน่น นักธุรกิจหมายเลขหนึ่งของประเทศแล้วอย่างไร

    เขาจะไม่เป็นไอ้ขี้แพ้ไปตลอดแน่

    ภาพนัยน์ตาเย็นชาที่จับจ้องอย่างแสนสมเพชและเรือนร่างย่างเยื้องประหนึ่งราชันย์ราชสีห์ของเจริญ  ชำนาญสรรพกิจ

    ยังติดตรึงอยู่ในใจไม่เคยลืมเลือน

     

                เขาทำหน้าที่ได้ดีจนผู้ใหญ่ทั้งในและต่างประเทศชื่นชมอยู่เป็นประจำ....เขาดีเลิศทั้งปัญญาและคุณธรรม..

    ของผู้นำ เขาเก่งกาดทั้งครองใจประชาชนและทหาร.....แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาทำไม่ได้ เขาผู้ใกล้เป็นมนุษย์สมบูรณ์พร้อมคนนี้ไม่เคยทำได้

    คือการควบคุมภาคธุรกิจ.....และภาคความมั่นคงของตนเอง

    หนึ่งก็ตระกูลชำนาญสรรพกิจผู้ครอบครองตำแหน่งมหาเศรษฐีแห่งวงการอาวุธสงครามยักษ์ใหญ่

    อีกหนึ่งก็ตระกูลรุ่งรัตติพาคินผู้ครอบครองธุรกิจภาคสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งทรงอิทธิพลเครือข่ายมากมายในประเทศและต่างแดน

     

                ดลภัทร  เลิศฤทธิ์ไพรีสูดหายใจเข้าลึก สงบหัวใจเต้นกระหน่ำด้วยเพลิงโกรธลุกเร่าในโพรงอก ชายหนุ่มจับจ้องนายทหารหมายเลขหนึ่งแห่งแผ่นดิน ร่างบึกบึนในชุดลำลองสงบนิ่งท่ามกลางเพื่อนทหารรอบข้าง

    เปรียบความองอาจทระนงนัยน์เนตรคมกล้าสีสนิม พล.เอกดวงปัง  เทพช้างเผือกนิรมิตสมกับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกผู้เปี่ยมบารมี

    หากเจริญ  ชำนาญสรรพกิจคือสีดำที่มืดมิดดั่งฟากฟ้าราตรีไร้แสงดาว

    ดวงปัง  เทพช้างเผือกนิรมิตก็คือคนสีเทาที่คาดเดาไม่ได้ ความขมุกขมัวของอุปนิสัยประหนึ่งเมฆินทร์ใหญ่กลางฟ้ากว้าง

    ไม่มีผู้ใดเคยคเนย์ห้วงคำนึงของเขาออก แต่สิ่งหนึ่งที่วงการความมั่นคงรับรู้ไปทั่วหล้า

    ดวงปัง  เทพช้างเผือกนิรมิตและเจริญ  ชำนาญสรรพกิจแนบแน่นในความสัมพันธ์กันแต่วัยเยาว์จวบปัจจุบัน

    ดลภัทรขบฟันแน่น ชำนาญสรรพกิจ รุ่งรัตติพาคิน เลิศฤทธิ์ไพรี และเทพช้างเผือกนิรมิตล้วนเป็นนามสกุลที่มีประวัติ

    เคียงคู่เมืองไทยนับร้อยปี นอกจากเลิศฤทธิ์ไพรี อีกสามสกุลไม่เคยตกต่ำลงแม้แต่น้อย

     

                การประชุมในค่ำคืนนั้นผ่านพ้นไปด้วยความมึนตึงของนายทหารระดับสูงที่แม้จะรำคาญ

    แต่ยังต้องให้เกียรติบุคคลผู้นั่งเก้าอี้ประธาน กว่าจะเลิกประชุมไร้สาระก็ผ่านไปเกือบสองชั่วโมง

    ท่านดลภัทร น้ำเสียงสงบเรียบของคนที่ลุกขึ้นจากเก้าอี้คนสุดท้ายทำดลภัทรไหวกายเยือก

    แค่ปืนฉีดน้ำ อย่าทำให้มันใหญ่โตเลยนะ อุ้งมือหยาบกร้านของนายพลหมายเลขหนึ่งตบลงบนหัวไหล่ผอมบางเบาๆ ก่อนเรือนร่างผึ่งผายจะก้าวยาวๆ ออกจากห้องประชุมอย่างรวดเร็ว

     

                ดลภัทร  เลิศฤทธิ์ไพรีใจสั่นสะท้าน นั่น คือคำเตือนจากคนสีเทาแห่งกองทัพไทย คือคำตักเตือนที่อ่อนโยนที่สุดของพล.เอกดวงปัง  เทพช้างเผือกนิรมิต

    นายท่าน ดลภัทรยืนนิ่งเหนือระเบียงกว้างนานหลายนาที นัยน์ตาคมกล้าของนักบริหารแผ่นดินกวาดมองมหานคร

    ยามราตรี ไม่ทราบแต่เมื่อใดที่ร่างชายชราผมขาวโพลนปรากฏขึ้นเบื้องหลัง

    เฟส ลองส่งคนไป ทุกครั้งที่ผ่านมานายพลดวงปังไม่เคยตักเตือนเรามาก่อน ผู้ปรากฏกายจางหายไปในทันที

    ดลภัทรเงยหน้ามองแสงดาวเหนือฟ้ากว้างก่อนเหยียดยิ้มเยือกเย็น

     

     

     

     

                ยามท่านประธานซันลากสังขารกลับมาทิ้งตัวลงบนโซฟาในห้องทำงาน

    กลุ่มเทพๆ จากองค์กรโลกนี้ต้องสวยซึ่งร่ำเรียนวิชายุทธ์เรียบร้อยต่างมานั่งคุยกับน้ำค้างใสหลินหลิน และคาริ

    หมาป่าเสิร์ฟน้ำชาและขนมคอยรับรองแขกตอนตีสาม

    หมา...นายกลับบ้านเถอะ แต่วันมะรืนเช้าซื้อของตามนี้มาให้ครบน้ะ...อ้อ ฝากไปขอโทษแม่นายด้วย

    ที่ฉันให้นายกลับบ้านดึก หมาป่าอยากจะค้านว่าดึกที่ไหน นี่มันจะเช้าแล้วต่างหาก

    ฮะ ต้องซื้อของแบบนี้เหรอครับ หมาป่าอึ้งเมื่อเห็นของบางอย่างจนเขาต้องขยี้ตาหลายครั้ง

    ท่านประธานวัยหนุ่มตบไหล่แล้วก้มลงไปกระซิบความลับบางอย่างจนหมาป่าเบิกตาโพลง

    ฮ้า! คืนสู่วัยเยาว์!” หมาป่ารีบพิมพ์ความลับที่ท่านประธานซันลืมเฉลยเกี่ยวกับผลพลอยได้ขั้นปราณเทวดา

    ให้เหล่าผู้บริหารจนเสียงลั่นกริ๊งๆ ของสมาสโฟนดังต่อเนื่อง

     

                แล้วเรื่องลมปราณ รู้ใช่มั้ยว่าห้ามมีคนนอกรู้ หมาป่าพยักหน้ารับ

    ย้ำไปด้วยนะ เวลาใช้ลมปราณหรือวิชายุทธ์ห้ามมีแสงสีอลังการเด็ดขาด พลังอันยิ่งใหญ่มันจะทำให้พวกเรา

    ต้องรับผิดชอบอะไรน่ารำคาญ

    แต่หมาป่าตีความไปอีกแบบ อ้อ...ที่แท้ก็ขี้เกียจวุ่นวาย

    เลขานุการหนุ่มจึงตบปากรับคำจนท่านประธานยิ้มพอใจ

     

                เขาบรรยายหลายเรื่องเกี่ยวกับเทคนิคระดับปราณเทวดา

    หมาป่าก็พิมพ์ลงช่องแช็ตบริษัทไม่ขาดตกบกพร่อง

    เมื่อไม่มีเรื่องใดท่านประธานจึงไล่ลูกน้องคนสนิทกลับบ้าน

    ที่สุดเหล่าเทพทั้งเจ็ดที่มัวสั่งสอนสามสาวก็หันมาคุยกับเขาเสียที

     

                ไอ้หนูซัน พวกข้าไม่ต้องเกรงใจเอ็งแล้ว เอ็งยังอายุยี่สิบต้นๆ เหมือนฝันว่ะ ได้เห็นคนประสบความสำเร็จเชิงยุทธ์ขนาดนี้ เทพหอกเอ่ยและส่งสายตาเย็นเยือกให้เขาจนชายหนุ่มได้แต่ยิ้มแห้งๆ

    อืม แสดงว่าร่างนี้คือร่างก่อนสลับวิญญาณมาสินะ ยอดเยี่ยมจริงๆ เสียดาย ถ้าพวกข้าจะคืนสู่วัยเยาว์

    อย่างสมบูรณ์ก็ต้องเข้าขั้นธรรมชาติเสียก่อน เทพกระบี่ลูบเครายาวชมเชย

     

                นายนี่รุ่นราวคราวเดียวกับฉันเลยว่ะ เทพธนูโห่ร้องอย่างยินดี เดิมทีเขานึกว่าจะเป็นหนุ่มในวงชายแก่

    เพียงคนเดียวเสียแล้ว

    หนอย ข้ารู้นะเอ็งคิดอะไรไอ้มีอา!” เทพประมงวอนตีนกูร้องคำรามและส่งสายตาอาฆาตกราดมาถึงคนทิ้งตัวลงนั่งเบียดเทพกระบี่และเทพดาบจนกระเด็นไปอีกโซฟา

    เฮ้ยๆ ทำอะไรเกรงใจญาติผู้ใหญ่บ้าง ถ้ากลับมาจากทัศนศึกษาและไปเตะเมฆดำกระเด็นเรียบร้อย

    ต้องไปบ้านข้ายกน้ำชาตระกูลอวิ๋นนะโว้ย!” ชายชราเงื้อมือขึ้นจะแพ่นกระบานเหลนเขยตัวดี

    ไอ้เด็กเปรด ลูกสาวข้าทั้งรักทั้งหวง ถ้าไม่เคารพพ่อตาเอ็งเตรียมแห้วตายไปทั้งชาติ!” เทพดาบสะบัดสายตาเหี้ยมโหดเตรียมตวัดตัดเยื่อใยของท่านประธานซันจนคนถูกพาดพิงสะดุ้งโหยง

     

                แหม ไม่ประจบเลยนะเอ็ง!” เทพเกษตรกรหันมาค้อนตาคว่ำ

    ชายหนุ่มยิ้มและตอบหน้าตาย

    โธ่ ปู่ทั้งหลาย เมียผมนะครับ แม้สองสาวจะเป็นภรรยาทางพฤตินัยแล้ว แต่ยังไม่ชินกับรอยยิ้มทะเล้นและความตรงไปตรงมาของสามีหนุ่มที่ทำท่าเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ

     

                ฮ่าๆ ยอดมากว่ะ ข้าสะใจมาก เทพจักรกลฮามาเก๊า ไม่เคยเห็นเพื่อนๆ สูงอายุออกอาการหวงสุดฤทธิ์สุดเดชถึงเพียงนี้มาก่อน ครั้นรับรู้เป็นบุญตาจึงหัวเราะลั่นและยกนิ้วให้ชายหนุ่มที่ยิ้มแป้น

    ผมสงสัยปู่ทั้งหลาย? มีอาส่งสายตาว่าไม่นับเขารวมกับคุณเทพชราเหล่านี้

     

                อะไรของเอ็ง? เทพหอกเอ่ยถามแทนคนที่เหลือ

    เทพนักปราชญ์เนี่ย เขาเป็นลูกเต้าเหล่าใครยังไงเหรอปู่? ชายชราแต่ละคนเงียบไปละม้ายใช้ความคิดอย่างเคร่งเครียด

    ตัวเล็ก ขาว สวย หมวย อึ๋ม จัดว่าเซ็กซี่ เทพธนูตอบอย่างภาคภูมิใจ

    โป๊ก!

     

                เทพประมงแพ่นกระบานเจ้าหน้าหื่นทันทีทันใด

    คำกล่าวของเทพธนูทำให้สามสาวให้ความสนใจกับคนที่ได้ฉายานามว่าเทพนักปราชญ์

    ที่ว่าตัวเล็กถ้าเอ็งหมายถึงความสูงไม่เกินร้อยห้าสิบเซนน่ะใช่!” เทพจักรกลยกนิ้วประกอบพลางว่า

    ผมยาว สวมแว่นสายตา ดวงตาสีฟ้าๆ แช่แข็งได้ไม่ต้องใช้ตู้เย็น เทพเกษตรกรบรรยายต่อ

    ชอบสวนชุดวันพีชสีดำ เทพกระบี่ต่อให้

    ชอบอ่านหนังสือนิยายตลอดเวลา เทพดาบบอกเบื่อๆ

     

                เกลียดเสียงร้องเพลงของพวกเราฮ่าๆ เทพหอกบอกยิ้มๆ

    ไม่มีพลังปราณสูงอะไร แต่พวกข้าก็ไม่ค่อยแน่ใจหรอก เทพจักรกลเอ่ยซึ่งหกเทพที่เหลือก็พยักหน้าเห็นด้วย

    ชอบทำตัวแก่แดด เทพประมงสรุปยิ้มๆ

    ท่านประธานซันกะพริบตาปริบๆ

    เขาพยายามประมวลทุกคำบอกเล่าให้เชื่อว่ามีคนเช่นนี้อยู่จริงๆ

     

                แล้วอายุล่ะ? ชายชราทั้งหมดหันมาจ้องแล้วเลิกคิ้ว

    เหมือนอยากไถ่ถามว่าอยากรู้จริงๆ ใช่หรือไม่

    แน่ใจนะว่าอยากรู้....ไม่สุภาพนะ ถามอายุสุภาพสตรีเนี่ย เทพดาบเอ่ยเหมือนอยากให้ท่านประธานซันลองคิดดีๆ

    ยังเรียกสุภาพสตรีได้อีกเรอะเทพนักปราชญ์เนี่ย

    หกเทพที่เหลือบ่นพึมพำในเชิงเห็นด้วย

    ไม่มากไม่น้อย เป็นตัวเลขน่ารักดีนะข้าว่า ท่านประธานซันออกอาการลุ้นไม่ต่างจากสามสาวที่มีแววตาสนใจใคร่รู้

     

                หกสิบเก้า อีกไม่กี่เดือนก็เจ็ดสิบแล้ว!”

     

     

     

    เสริมบท

     

     

    ท่านประธานซัน: อ่าฮ้ะ เลขสวยจริงๆ

    เจ็ดเทพ: มันสุ่มเสี่ยงไปทางโน้นนา!

     

     

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป บทที่ 23 ลากขึ้นเตียง

     

     

     

    ………….***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×