ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สร้างฮาเร็มในต่างโลก 1

    ลำดับตอนที่ #2 : เรียกข้าว่าท่านประธานซัน

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ค. 64


    บทที่ 2 เรียกข้าว่าท่านประธานซัน!

     

     

       ผืนฟ้าโรยม่านรัตติกาลแต่งแต้มด้วยดวงดาวหลายล้านดวงลงคลุมทั้งโลก

    ให้ตกสู่ความมืดและแสงระยิบระยับของดวงดาราแสนไกล

    ลมเย็นพัดแรงขึ้นตามความดันอากาศกดต่ำลง ในหูแว่วเสียงฟ้าร้องไกลๆ

    ดั่งพร้อมมีสายฝนโปรยปรายลงมาได้ทุกเมื่อ

     

    บนทางเดินเท้า ชายชราในสูทดำสนิทก้าวเท้าเหยียบพื้นอย่างมั่นคง

    สายลมรอบตัวกระพือชุดสูทและเส้นผมเพียงไม่กี่กระจุกให้สะบัดไหวตามกระแสลม

    หลังเจ้าสำนักปราณวินซีเรียตัดสินใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น และพร้อมเริ่มต้นชีวิตใหม่...

    แม้ว่าร่างนี้มันจะใกล้สิ้นอายุขัยเต็มทีแล้วก็ตาม

     

                เท้าพาร่างสูงใหญ่มุ่งสู่คฤหาสน์นอกเมืองหลวงที่ห่างออกไปร่วมสิบกิโลเมตร

    ชายชราผู้ก้าวย่างบนทางไร้สิ่งรบกวนไม่นึกใส่ใจเรื่องรอบตัว

    ยิ่งในยามนี้จิตวิญญาณภายในตกสู่ภวังค์ลึก

    ซันกุ้ยเซียนครุ่นคิดจนกลายเป็นหมกมุ่น....

    ก่อนอื่น เขาต้องรับผิดชอบธุรกิจของไอ้แก่นี่ให้ได้ก่อน และหลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที....

    แม้เขาได้สังขารชราภาพ เสมือนเสียเปรียบวิญญาณแท้จริงของร่าง

    ทว่าคลังปัญญาและเล่ห์ลู่ธุรกิจมากมายมหาศาล

    กลับถูกสั่งสมมหาศาล เขารู้สึกดั่งตนยกระดับจิตวิญญาณขึ้นอีกครั้ง

               

    ชายหนุ่มเรียบเรียงความคิดใหม่อีกครั้งเพื่อตัดสินใจกับธุรกิจของเจ้าของร่าง....

    กล่าวว่าธุรกิจอาวุธสงครามเป็นสีดำ....มันก็ไม่เชิงนัก เพราะผู้ประกอบธุรกิจสาขานี้แข็งแกร่งเช่นคุณเจริญ  ชำนาญสรรพกิจนั้น นับว่าหายากมากในโลกเล็กๆ ใบนี้

    จากความทรงจำและการคร่ำหวอดหลายทศวรรษทำให้ชายหนุ่มได้รับคุณประโยชน์

    นับอนันต์

     

                ร่างสูงเก้าขึ้นสู่ทางเดินเท้าข้ามแม่น้ำสายใหญ่ที่กั้นแบ่งเขตแดน

    ระหว่างเมืองหลวงกับเขตนอกพระนคร....เรือนร่างสูงโปร่งยังคงก้าวตรง

    มุ่งไปเบื้องหน้า

    ริมฝีปากไร้หนวดเคราผุดรอยยิ้มชนิดหนึ่ง

     

              เฮ้ย หยุดนะโว้ย!” เงาดำหลายคนกระโจนพลิกตัวขึ้นจากขอบสะพานแล้วจ่อจี้

    มีดขาววับเข้าโอบล้อมชายชราที่หยุดฝีเท้าก้าวย่างลง

     ถ้าขยับมึงตายแน่!” กลิ่นสุราโชยหึ่งมากับสายลมแรง

    แต่ต้นที่ถูกจี้และกระชับวงล้อมเข้าหาตัวด้วยคมมีดนับสิบเล่มของชายฉกรรจ์โพกผ้าดำ

    รอยยิ้มแปลกๆ ของชายชราผู้ถูกสลับวิญญาณก็ยังคงประดับ

    บนใบหน้าเหี่ยวย่นราวไม่เห็นสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ในสายตา

     

              แน่ใจแล้วเรอะจะปล้นข้า? เป็นครั้งแรกที่แพะอ้วนของเหล่าวัยรุ่นคึกคะนอง

    เอ่ยขึ้นด้วยยิ้มไม่คลายจากดวงหน้าแก่ชรา

    หุบปากเหี่ยวๆ แล้วส่งของมีค่ามา!” ชายร่างบึกบึน

    ท่าทางคล้ายหัวหน้าแก๊งทรชนเอ่ยข่มขู่พร้อมยกแขนขึ้นเบ่งมัดกล้ามเป็นลูกๆ

    ชายชราถอนใจเฮือกก่อนคว้าอุปกรณ์บนเอวขึ้นมากรอกเสียงลงไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

    แต่ส่งผลให้เหล่าไวร้ายตาเหลือก

     

              แผนลุล่วง หลอกล่อเป้าหมายออกมาครบแก๊ง ตำรวจน้ำพร้อมสายตรวจอากาศ

    ล็อกเป้าหมาย ขอหน่วยปราบปรามอาชญากรรมเข้าจับกุม!”

    ตูม! ตูม! ตูม!

     

                สะเก็ดน้ำแตกกระจายเป็นคลื่นสูงหลังชายฉกรรจ์นับสิบรีบตาลีตาเหลือกพุ่งหลาวลงสู่แม่น้ำใหญ่และพากันว่ายหนีไม่คิดชีวิต

    อาจเป็นด้วยโชคช่วย ในหูแว่วเสียงกรีดร้องของสัญญาณไซเรนลอยมาตามลม

    หากโจรเล็กโจรน้อยเหล่านี้ตรวจสอบให้ละเอียดและใจเย็นสักนิด

    ก็จะพบว่าสิ่งที่รวบอยู่ในมือของเจ้าสัวชราเป็นเพียงกระเป๋าบรรจุโทรศัพท์

     

             

    หึ หึ ข้าถามแล้ว ว่าพวกเจ้าจะเอาจริงๆ เรอะ!”

    ชายชราเช็ดมือกับกระเป๋าสูท ก่อนสาวเท้าก้าวต่อไป พลางผิวปาก

    คลอไปกับสายลมพัดโหมรุนแรงขึ้น

     

     

     

     

    บริษัท world haunt

     

                คุณภิภพยกโทรศัพท์ขึ้นติดต่อหาลูกสาวบุญธรรม รอเป็นนานสองนาน

    กว่าปลายทางจะรับสาย

    คะพ่อ....หนูง่วงจะตายอยู่แล้ว? ลูกสาวกรอกเสียงสะลึมสะลือมาตามสายโทรศัพท์

    คุณภิภพได้แต่เหลือกตาระอา

    ดาว พ่อบอกเฝ้าปู่ นี่ทุ่มกว่าแล้วนะ ปู่ยังไม่ออกจากห้องตรวจอีกเหรอ?

    โหย พ่อไม่ต้องกลัวปู่หายหรอกน่า อาจเผลอหลับในนั้นก็ได้ ถ้าออกมาแล้ว

    คงเรียกหนูตื่นเองแหละ ภิภพทำหน้าปลง หาสาระจากคำพูดลูกสาวไม่ได้สักคำ

    ขอให้มันจริง ปู่หายแกไปตามหานะ คุณภิภพเอ่ยเย้าเด็กสาวปลายสาย

    ได้เลย ปู่แก่ขนาดนั้นถ้าเดินออกจากโรงบาลไหว หนูยอมตามหาเลย!”

    แสงดาวโต้ตอบพ่อบุญธรรมด้วยความเคารบรักคุณปู่สุดหัวใจ

    คุณภิภพพับเก็บคอมพิวเตอร์พกพาและจัดการเคลียร์เอกสาร ปากก็เอ่ยกับปลายทาง

     ยังไงก็ไปดูปู่บ้างยัยหนู เดี๋ยวแม่รอกินข้าวนาน

    ปลายสายไม่ได้ตอบรับ คุณภิภพได้ยินเสียงสอบถามของบุตรสาวบุญธรรมอยู่สองสามคำ

    ก่อนตาเหลือกเมื่อได้ยินลูกสาวร้องโวยวาย

     

              ฮ้า....ว่าไงน้ะค้ะ คนแก่ในห้องนี้ออกไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว!” หลังจากได้ยิน

    เพียงประโยคนี้ สายก็ถูกตัดฉับ ผู้เป็นพ่อทำตาปริบๆ

    แล้วคิดในใจ

    แสงดาวไม่ค้นหาคุณปู่จากระบบสัญญาณติดตามตัว

    แม้คุณภิภพจะคิดได้และค่อยๆ ค้นหาอย่างใจเย็น แต่ผิดกับแสงดาวลิบโลก

     

     

     

     

    ในโรงพยาบาล

     

               

    หญิงสาววัยสิบแปดในชุดเสื้อแขนยาวสีฟ้าอ่อนสกรีนตราสถาบันชื่อดัง

    ของเมืองหลวง เข้าชุดกับกางเกงวอมสีเทาอ่อนที่สวมอยู่

    ดวงตาคมใต้แพรขนตาล้อมกรอบดวงหน้าสวยอย่างหาตัวจับยาก

    ริมฝีปากรูปกระจับสีเชอรี่อ่อนจมูกเล็กโด่งได้รูปงาม

    คิ้วโค้งดำสนิทประดับบนดวงหน้าเนียนรูปไข่ซึ่งฉายความยุ่งยากใจ

    จนดวงเนตรคมๆ โชนแสน ริมฝีปากบางก็บ่นไปถึงคนแก่ประจำบ้านที่ชอบสร้างความวุ่นวาย....

     

                ร่างระหงกางร่มรถจักรยานเหาะแล้วปั่นไปตามเส้นทางเดินเท้า

    อย่างไม่กลัวผิดกฎหมาย.....ไม่ต้องคิดอะไรมาก

    ครอบครัวชำนาญสรรพกิจเป็นตระกูลอภิมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองไทย

    ทำให้เกวลิน  ชำนาญสรรพกิจ หรือคุณหนูแสงดาว

    มักชาชินกับการแหกกฎหมายอยู่บ้าง

     

                จักรยานพุ่งผ่านม่านฝนตกพรำลงมาบดบังทัศนวิสัย

    จนทำให้คนปั่นจิ๊ปากหงุดหงิด

    ด้วยเส้นทางมากมายส่งผลให้แสงดาวต้องหยุดคิดและตัดสินใจอยู่แทบจะทุกครั้งที่เจอทางแยก

    นอกจากปู่บ้าจอมขี้เกียจจะชอบโดดงานแล้วสิ่งที่ชายชราโปรดปรานไม่แพ้กันก็คือการกลับบ้านในคฤหาสน์นอกเมืองที่อยู่ห่างออกไปเกือบสิบกิโล

    แสงดาวปรับจักรยานเป็นระบบปั่นอัตโนมัติส่วนตัวเองก็สอดส่ายสายตาหาคนแก่เจ้าปัญหา

    ไปตลอดทางสายเล็กที่จักรยานปาดน้ำฝนจนกระเซ็นเป็นสายยาว

     

     

     

     

                ซันกุ้ยเซียนแหงนหน้าคอตั้งบ่ามองคฤหาสน์บนเนินสูงแล้วได้แต่กลืนน้ำลาย

    อย่างตื่นตลึงกับความอภิมโหฬาร

    แว่บหนึ่ง ละม้ายความรู้สึกบ่งว่าภาพตรงหน้าไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเคยเห็น

    คฤหาสน์หรูถูกจัดสร้างตามรูปแบบของปราสาทในยุคโบราณโดยชูยอดแหลมทะลุเมฆ

    แต่งแต้มด้วยสีสันสีครีมสดใส

    เพียงพื้นที่ส่วนตัวบ้านก็กินเนื้อที่ไปเกือบสองพันตารางเมตร

    หากนับรวมอาณาเขตทั้งหมดของคฤหาสน์ชำนาญสรรพกิจคงไม่ต่ำกว่าสิบตารางกิโลเมตร

    ในพื้นที่แถบนี้

     

               

    คฤหาสน์ยักษ์จัดสวนอย่างลงตัวด้วยแนวคิดผสมผสานระหว่างสวนหิน

    สไตล์ตะวันตกและสวนดอกไม้รูปแบบตะวันออก

    ทะเลสาบขนาดเล็กกว้างเกือบหกพันเมตรเป็นจุดศูนย์กลางของบ้านชำนาญสรรพกิจ

    ซึ่งมีส่วนหนึ่งทอดตัวอยู่เหนือทะเลสาบสีฟ้ากระจ่างใส แม้เป็นค่ำคืนที่มืดมิด

    และเม็ดฝนโปรยพรำลงมาต่อเนื่องเช่นนี้

    สูทราคาแพงเริ่มหมดสภาพ ชายชรารีบก้าวเข้าคฤหาสน์ด้วยคีการ์ดประจำตำแหน่งของตัว

    เพียงไม่นาน ประตูโลหะเนื้อแข็งแกร่งก็เคลื่อนออกเป็นทางเดินที่ปูลาดด้วยหินมรกต

    สะท้อนแสงแวววาว

    ตะเกียงไฟฟ้าคริสตัลประดับหินสีส่องประกายงดงามล้อระริกกับแสงไฟ

    เมื่อก้าวเข้าสู่คฤหาสน์ก็มุ่งตรงสู่ห้องรับแขกแล้วทิ้งตัวลงจ้องเหม่อไปที่รูปเขียนข้างผนัง.....

    มันเป็นวันเกิดครบรอบห้าปีของแสงดาว ชายชราผู้รักหลานจนอยากกระทืบ

    มอบเค้กให้หลานสาวสุดเลิฟด้วยความเต็มใจอย่างสุดซึ้ง.....แต่กลับเกิดอุบัติเหตุทำให้เค็ก

    ทั้งห้าปอน

    มาประดับตกแต่งบนใบหน้าเขาที่แข็งค้าง

     

             

    อ้าว คุณพ่อ วันนี้คิดยังไงถึงกลับบ้านได้เนี่ย? ชายชรายกมือก่ายหน้าผากแล้วบ่นเพลียๆ

    โอย....ฟ้าใส ก็ลูกสาวตัวแสบของเธอนะสิ ทิ้งฉันไว้โรงพยาบาล

    แล้วนี่เจ้าภพยังไม่กลับมาอีกเหรอ? ชายชราบ่นให้รอยยิ้มของลูกสไภ้ขยายกว้าง

    แต่เส้นเลือดในสมองเขากำลังแทบเขียวและซีดเมื่อเห็นคนที่ขี่จักรยานเข้าคฤหาสน์มา

    แล้วตรงดิ่งเข้ามาหาชายชราที่รีบกระเด้งตัวลุกขึ้น

     

              ปู่สุดที่รักกก!”

    ชายชราอ้าแขนกว้างแล้วรับการโอบกอดของเด็กสาวที่โถมตัวเข้ามาจนซาลาเปาสองลูก

    ที่ไม่ได้เล็กๆ กระแทกกับร่างแก่ชราจนล้มลงบนโซฟา

    โดยมีเสียงหัวเราะแสนสนุกสนานของฟ้าใสลูกสไภ้จอมใสซื่อเป็นฉากหลัง

    ปู่ขา หนูน่ะ คิดทึ้งคิดถึงปู่มากเลยอะ!” พูดเสียงสูงพลางบิดหูชายชราสุดแรงเกิด

    อ๊ากกกก! หลานสุดที่เลิฟปู่ก็รักหลานมากเลยยย!!!” ชายชราแทบหายใจไม่คล่อง

    โรคหอบหืดกำลังถามหา แต่เขาก็ทำเพียงปลงแล้วยกมือขึ้นเคาะมะเหงกแจกหลานสาว

    ไปหลายสิบจนเกือบร้อยทีกว่าหูเขาจะหลุดเป็นอิสระ…….

     

     

     

     

    บอร์ดบริหารดำเนินงานของบริษัท world haunt

     

               

    หลังจากเจ้าสัวเจริญสรุปทุกหัวข้อการประชุมเรียบร้อยก็ทำหน้าขรึม

    ก่อนเอ่ยปากขึ้น

    พร้อมเท้าก้าวตรงประชิดประตูทางออก

     

             

    อะแฮ่ม ทุกท่าน..... เพียงไม่กี่คำทำให้ผู้บริหารหลายฝ่ายจ้องมาเป็นตาเดียว

    ต่อไปนี้ ผมขอแจ้งให้ทราบร่วมกันว่า ผมขอใช้อำนาจประธานกรรมการบริหารสูงสุด

    ของบริษัท

    เปลี่ยนชื่อเล่น จากดวงเฮ็ง เป็นซัน

    ที่มีความหมายว่าดวงตะวัน ต่อจากนี้ไปผมคือท่านประธานซัน

    บริษัทของเราจะเป็นดั่งแสงสุริยันกลางคิมหัน สาดฉายไปทั่วทั้งใต้หล้า

    แล้วกระจายข่าวออกไปให้ลูกน้องทุกฝ่ายทุกแผนกรับทราบร่วมกัน

    ใครไม่ปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง ไล่ออก!!!”

     

     

    เสริมบท

     

     

    ท่านประธานซัน: หลานสุดที่รักซาลาเปาของหนู บร๊ะจ๊ะละฮึ่ม!

    แสงดาว: ไอ้ปู่ลามก.......กรี๊ดดด!!!

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป บทที่ 3 คู่แข่ง

     

     

     

    …………..***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×