คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : 3 เทพ vs ท่านประธานซัน
บทที่ 19 สามเทพ vs ท่านประธานซัน!
“ตาย” สามชายชราร้องคำรามแทบพร้อมกัน
เทพดาบริคาสึโมะแม้มีพลังลมปราณอ่อนที่สุดกลับมีความเร็วสูงสุด
เพียงพริบตาร่างในชุดดำแบบนินจาก็ปรากฏขึ้นผสานคมดาบที่ฟาดเข้าหาชายหนุ่มผู้ถูกทดสอบถึงตายด้วยความไร้ปรานี
เปรี้ยง!
เสียงกระแทกระหว่างหลังมือของชายหนุ่มผู้หมุนตัวพลิกฝ่ามือเข้าปะทะกับคมดาบ
ดังสะท้านสาดเสก็ดไฟแลบแปลบ
ร่างสูงใหญ่ของท่านประธานซันพุ่งทะยานออกจากหน้าต่างห้องประชุมไปอย่างรวดเร็ว
ตามมาติดๆ คือเปลวหอกแทงวืดผ่านอากาศด้วยความเร็วแหวกกระชากสายลมขาดสะบั้น
ของเทพหอกสมโชค
ตูม!
ยอดยุทธ์หนุ่มไม่กล้ารับพลังปราณสี่พันปีโดยตรงจึงเบี่ยงตัวออกข้างและหวดเท้า
เตะคมหอกปลิวขึ้นสูงสู่เบื้องบนจนคนแทงหอกต้องร้องสบถ
“ไอ้เจ้าเล่ห์!” ท่านประธานซันทุ่มเทวิชาท่าเท้าคลื่นหิมะจนในอากาศลอยว่อนด้วยกระแสคลื่นพลังยุทธ์ขาวพิสุทธิ์ลิ่วคว้างออกรอบตัวเป็นเส้นสายสีขาวราวอัญมณีบนฟากฟ้า
ฝุบ ฝุบ ฝุบ!
คมดาบ ปลายกระบี่ และเปลวหอก ต่างพุ่งกระหน่ำเข้าหาจากทิศทางต่างกัน
ร่างสูงหมุนตัวเตะกราดเท้ากระแทกคมดาบจนเกิดเสียงลั่นเปลี้ยง
พร้อมหมุนเข้าประชิดเทพหอก ชายชรารีบหมุนหอกเข้าตั้งรับศอกศั้นของคนที่เข้าประชิดตัว
จนเกิดเสียงปะทะดังลั่น
บึ้ม!
ท่านประธานซันกระเด็นคว้างไปในอากาศหลายตลบ คมกระบี่ที่ลากยาวเป็นเส้นสายน้ำแข็งสีมืดทมิฬพุ่งทะยานเข้าหาด้วยความเร็วจนอากาศกลายเป็นห้วงเหวสีดำมืดในชั่วพริบตา
เปรี้ยง!
“อั้ก!”
ปรกติ ชายหนุ่มไม่นึกเสี่ยงรับกับพลังลมปราณที่สูงกว่าเขาหลายพันปี
แต่ในยามจวนตัว ก็จำเป็นต้องทุ่มเทหัตถ์ขวาที่กลายเป็นสีดำเจิดจรัสราวหลุมดำมืดมิดออกไป
ฟาดปะทะคมน้ำแข็งสีดำที่พุ่งเข้าหาเขาด้วยความโหดเหี้ยม
จิตสังหารที่โพยพุ่งมาจากผู้กุมกระบี่กดกระแทกเข้าหาราวมหาสมุทรคลุ้มคลั่ง
“หัตถ์มารลิขิตฟ้า” ผู้ได้รับความเสียหายครั้งแรกกลายเป็นเงาเลือนเข้าประชิดตัว
เทพกระบี่อวิ๋นเหวินชิงพร้อมประทับหัตถ์ดำทะมึนลงกับเงากระบี่ตรงหน้า
จนแตกสลายเป็นละอองน้ำแข็งชิ้นเล็กชิ้นน้อย
วูบ
เทพดาบหมุนข้อมือเหวี่ยงคมดาบตามแนวขวางคุกคามรังสีดาบเย็นเยียกเข้าหา
ชายหนุ่มจำเป็นต้องล้มเลิกการรุกไล่ชิงชัยกับเทพกระบี่ แล้วหมุนคว้างอาศัยเท้าหนึ่ง
เป็นแกนเหวี่ยงร่างทะยานเข้าหวดเท้าเตะดาบที่สั่งสมลมปราณจนกระเด็นไปอีกทิศหนึ่งมือเปร่งประกายสีขาวเรืองเจิดจ้า
“หัตถ์เทพล่าวิญญาณ”
สองหัตถ์ประจำตัวของท่านประธานซันถูกอาบผนึกบนสองมือซ้ายขวา
แยกย้ายกันบุกทะลวงเอาชีวิตรอดจากสามเทพที่ติดตามราวเป็นเงาตามตัว
“วิชายุทธ์เหมันต์ปรโลก กระบี่วิญญาณหิมะ!”
ผืนฟ้าอาบชโลมด้วยม่านดำอันเย็นยะเยือก ความหนาวเย็นแผ่พุ่งออกไปจนสองเทพ
ต้องดีดเท้าถอยห่างนอกระยะสนามยุทธ์
“วิชายุทธ์ดาบเทพเก้าวิถี ดาบสวรรค์ลงทัณฑ์เทพ!” ผืนอากาศรอบตัวเทพดาบสั่นสะเทือนเลือนลั่นพร้อมประกายรังสีดาบสีทองเจิดจ้าวาดล้อมออกไปทั่วแผ่นฟ้าในรัศมี
หลายร้อยเมตร
“วิชายุทธ์หอกอสูรสั่งฟ้า หอกมารล้างภพ” หอกสีเขียวใสกรีดร้องด้วยพลังลมปราณ
สีแดงก่ำราวโลหิตทะลักพุ่งออกเป็นวิถีทางยาวเหยียดสีแดงเลือดพุ่งทะยานเข้าหา
ผู้ลอยคว้างกลางนภา แววตาเฉียบคมแฝงด้วยความสุขุมเจ้าเล่ห์
“มาด้วยพลังสูงๆ แบบนี้ยิ่งดี”ชายหนุ่มแกล้งลดพลังตัวเองลงกว่าคลึ่ง
เขาพึมพำแล้วหลับตาลง
“ท่านพ่อ...ในที่สุด ข้าก็เข้าใจเคร็ดความสำคัญของวิชายุทธ์ท่านแล้ว” ชายหนุ่มพุ่งทะยานเข้าหากระบี่วิญญาณหิมะ ดาบสวรรค์ลงทัณฑ์เทพ และหอกมารล้างภพด้วยความเร็วที่ทิ้งเกล็ดหิมะระยิบระยับในห้วงอากาศพร้อมสายลมที่กรีดออกเป็นช่องว่างชั่วเวลาหนึ่ง
“หัตถ์เทพล่าวิญญาณ หัตถ์มารลิขิตฟ้า ผสาน วิชายุทธ์ปิดฟ้าขโมยอาทิตย์”
ชายหนุ่มผู้อาบหัตถ์ซ้ายด้วยปราณยุทธ์สีพิสุทธิ์ทอประกายเจิดจ้า หัตถ์ขวาดำทมิฬดั่งอสูรร้าย
หมุนตัวฝ่าเข้าไปในวงโคจรของกระบี่ทมิฬสุดคนานับ มือขวาดำสนิทควงเป็นครึ่งวงกลม
พร้อมสลับเท้าฟาดหัตถ์ซ้ายที่บรรจุพลังลมปราณสองพันปีเต็มเปี่ยมของตนประสาน
กับกระบวนท่าวิญญาณหิมะที่ไหลเวียนแตกออกเป็นสามทิศพุ่งเข้าหาสามเทพที่
ร้องแหกปากลั่นด้วยความตื่นตระหนก
“ไอ้เจ้าเล่ห์ ไอ้บัดซบ ไอ้เวรประธานซัน!” สามเทพแห่งยุคต้องดีดเท้าถอยหนีกัน
เป็นพัลวัน
ท่านประธานซันดวงตาวาวโรธ ชายหนุ่มในคราบชราลิ่วล่องกลางนภาราวเมฆมหึมา
หมุนตัวอีกครั้งร่างพลันกระจายพุ่งออกเป็นสามทะยานเข้าหาสามเทพด้วยความเร็ว
ชั่วเสี้ยวพริบตา
“ท่าเท้าลวงสวรรค์” ถูกใช้ออกด้วยพลังลมปราณพันปีขั้นเทวดาของชายหนุ่ม
ผู้เคยเป็นอดีตยอดยุทธ์แม้เป็นเพียงพลังลมปราณขอบขั้นวิญญาณก็ยังมีพลังเหลือล้น
บึ้ม! บึ้ม! บึ้ม!
วิชายุทธ์ปิดฟ้าขโมยอาทิตย์ เน้นทักษะลมปราณสายเทคนิค อาศัยจังหวะและโอกาส
คอยฉกฉวยช่องว่างเข้าควบคุมพลังลมปราณมหาศาลของฝ่ายตรงข้ามแล้วชักนำ
ด้วยพลังยุทธ์ของฝ่ายตนและศัตรู แล้วจึงตอบสนองต่อศัตรูด้วยอนุภาพที่มากเป็นทบทวี
ทำให้วิชายุทธ์ปิดฟ้าขโมยอาทิตย์กลายเป็นยอดวิชาไร้ผู้ต้านสายเทคนิคเต็มภาคภูมิ
“อ๊ากก โอ๊ยย เฮ้ย!”
สามยอดฝีมือผู้ถูกขนานสมยานามเทพศาสตรา ซึ่งได้รับความเกรงขามตลอดมาหลายสิบปี
ปลิวไถลไปในอากาศทุลักทุเล
พลังลมปราณแปดพันปีของเทพกระบี่อวิ๋นเหวินชิงผสานสองพันปีของท่านประธานซัน
กอปรเป็นพลังแรกธรรมชาติ เข้าสู่ขอบเขตหนึ่งหมื่นปีกระแทกทำร้ายจนร่างปลิวออกไปไกล
และยิ่งสองเทพที่เหลือทุ่มเทใช้พลังดาบและหอกอย่างสุดตัวจึงไม่อาจวกพลังเฮือกสุดท้ายกลับมาป้องกันตนได้
สามร่างจึงกระเด็นกระดอนเข้ากระแทกตึก world haunt ก่อนร่างจะถูกมวลลมปราณตกค้าง
ส่งกระเด้งสู่ชั้นดาดฟ้าสูงลิบลิ่วแล้วร่วงลงมาฟาดพื้นเสียงดังสนั่น
“ท่านอาจารย์คะ?” ตั้งแต่เกิดใหม่ในร่างชรา เขาจำได้ว่ามีศิษย์หญิงเพียงคนเดียว
คือเทพธิดานาคีพิสุจน์ที่เก่งกาดจนเข้าถึงขอบเขตพลังธรรมชาติหนึ่งหมื่นปี
เป็นผู้บรรลุพลังสูงสุดและแข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้ แม้แต่ท่านประธานซัน
ยังไม่สามารถรับมือเธอได้เกินครึ่งกระบวนท่า
“หืม แม่หายดีรึยัง?” ศิษย์ตัวน้อยที่เคลื่อนร่างมาจากสุดสายตา
เพียงพริบตาเดียวก็เข้ามาถึงเบื้องหลัง เด็กสาวก้มหัวทำความเคารพ
ก่อนเอ่ยถามและมองสำรวจร่างของชายหนุ่มอย่างตกตลึง
“ฮ๊า อาจารย์...ทำไมร่างท่าน?” ชายหนุ่มหัวเราะ หลังจากเขาปลดปล่อยพลังลมปราณสุดกำลัง ร่างที่แท้จริงของเขาก็ปรากฏขึ้น
ท่านประธานซันปาดเหงื่อเม็ดโป้งบนใบหน้า แม้จะเหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาด
แต่ดวงเนตรคมคู่ฟ้าน้ำเงินยังฉายความสงบนิ่ง
“อาจารย์ไม่เป็นไร นาคีช่วยสำรวจให้อาจารย์หน่อยมีใครพบเห็น
หรือระแคะระคายการต่อสู้ของอาจารย์บ้าง ช่วยใช้วิชายุทธ์จักรพรรดิลมหนาว
ลบความทรงจำคนเห็นหน่อยนะ” นาคีรับคำแต่ไม่วายมองชายหนุ่มอย่างห่วงใย
ท่านประธานซันซ่อนมือสั่นระริกไว้เบื้องหลัง ภายใต้บุคลิกภาพโอ่อ่าผ่าเผย ลูกศิษย์ตัวน้อย
ไม่มีวันทราบได้ ประกอบกับความสงบเยือกเย็นของผู้เป็นอาจารย์ยิ่งทำให้เด็กสาววางใจลง
”นาคีรักษาแม่สำเร็จไหม มีอะไรให้อาจารย์ช่วยรึเปล่า?
แล้วบอกเจ้าสิบหกตัวที่กำลังเดินทางมานะ
อาจารย์ขอให้ลาออกจากโรงเรียน ส่วนเหตุผลตอนนี้อาจารย์ยังไม่พร้อมจะบอก
เมื่อถึงเวลา อาจารย์อาจต้องพาพวกเขาเดินทางไกล อีกหลายเดือนอาจารย์อาจไม่อยู่ในกรุงเทพฯ
เดือนหน้านาคีต้องไปสมัครหมอ ถ้าก่อนอาจารย์จะเดินทางไกลเดี๋ยวอาจารย์จะไปให้กำลังใจ”
เด็กสาวประมวลคำพูดยาวยืดของอาจารย์ก่อนพยักหน้ารับหงึกหงัก
“ค่ะ นาคีรักษาแม่ได้แล้ว อาจารย์คะ ถ้าอาจารย์ต้องเดินทางไกล ให้นาคีได้มีโอกาสตามพวกพี่ๆ ไปด้วยนะคะ หนูจะไม่ทำตัวเป็นภาระอาจารย์หรือศิษย์พี่ค่ะ” ท่านประธานซันแทบส่ายหน้าทันที ขณะจะปฏิเสธก็สบกับนัยน์ตามุ่งมั่นและแน่วแน่จนคำพูดตัดรอนที่มาจ่อรอที่ริมฝีปาก
ถูกกลืนกลับเข้าไป ท้ายที่สุดเขาจึงพยักหน้าและสำทับ
“อาจารย์อนุญาต แต่นาคีต้องคิดให้รอบคอบ ระหว่างที่ไม่อยู่คุณแม่ของนาคีจะอยู่จะกินยังไง ตอบตัวเองให้ได้แล้วเตรียมตัวไว้นะครับ”
นาคีโค้งตัวให้ก่อนเคลื่อนร่างทะยานลงสู่พื้นเพื่อแจ้งเจ้าเทพซุสและสหายที่กระหืดกระหอบ
กันมาแต่ไกล เมื่อทุกคนรับทราบสารจากชายหนุ่มแล้วจึงหันมาทำความเคารพอาจารย์
และไม่ถามสิ่งใดมากความก่อนสลายตัวไป
แปะ แปะ แปะ
สามเทพมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าแล้วมองข้ามท่านประธานซันไปถึงกลุ่มบุคคล
ที่จางหายไปราวพูตผี
เทพดาบริคาสึโมะปรบมือให้และส่งยิ้มให้ชายหนุ่มอย่างจริงใจ
“นอกจากจะเป็นบุคคลที่น่ากลัวทั้งทางพลังและปัญญา ยังมีเหล่าศิษย์ที่ไม่คิดทรยศ
เพราะเป็นพลเมืองชั้นล่างไม่มีใครสนใจและในใจยังไม่ปลูกฝังกิเลสเกินเยียวยา”
จอมดาบจากแผ่นดินดวงอาทิตย์เดินบนอากาศดั่งก้าวอยู่บนพื้นเข้ามาตบไหล่ท่านประธานซันอย่างนับถือ
“เฮอะ ก็แค่ศิษย์ไม่กี่คน” แม้เทพหอกสมโชคจะพูดแบบนั้นแต่รอยยิ้มปลื้มปริ่มก็ระบายทั่วใบหน้าเหี่ยวย่น
“ศิษย์ที่เด่นล้ำกว่าอาจารย์ทุกคนนัก” สามเทพสบตากันก่อนระเบิดหัวเราะโดยไม่สนใจสายตาอาฆาตของชายหนุ่มผู้ยืนเป็นหัวหลักอยู่เดียวดาย
“โดยเฉพาะแม่หนูนั่นนับเป็นยอดอัจฉริยในรอบหมื่นปีจริงๆ ลมปราณสมบูรณ์บริสุทธิ์
เข้าขั้นเซียนไร้พ่าย“ เทพกระบี่อวิ๋นเหวินชิงมองตามทิศทางที่นาคีหายตัวไป
“แต่เสียใจด้วย เพราะทั้งหมดนั่น......ศิษย์ข้าฮ่าๆๆ!”
สามเทพคิ้วกระตุกไปตามกัน ก่อนส่ายหน้าเมื่อชายหนุ่มขยับเคลื่อนไหวหายตัวไปในพริบตา
“เป็นชายหนุ่มที่ไม่ธรรมดามาก อายุแค่ยี่สิบ ยังครอบครองพลังถึงสองพันปี
ที่มหัศจรรย์คือผ่านการบ่มเพาะฝึกฝนเท่านั้น ไม่มีกระบวนการยกระดับพลังปราณ
ด้วยยาวิเศษเลย” เทพกระบี่ยังเงยหน้ามองฟ้าแล้วถอนหายใจชมเชย แต่ยามได้ยินประโยคที่ลอยมาตามลมทำเอาเส้นเลือดในสมองเดือดปุดๆ
“มา คาริ หลินหลิน คุณหนูตัวน้อย พวกเราปิดห้องขึ้นเตียงดีกว่า!”
สามเทพเคลื่อนร่างเข้าสู่ห้องประชุมของ world haunt แล้วได้แต่กัดฟันกรอด
“ไอ้เวรซัน แกจะพูดบ้าอะไร หลานข้ายังอยู่ในโลกปราณอยู่โว้ย” ท่านประธานซันยิ้มขำ
สามชราไม่ยอมแก่ แต่มาโชว์พลังความหวงขั้นเทพสมชื่อพวกเขา
ชายหนุ่มเบาเครื่องปรับอากาศให้หลงเหลือเพียงขั้นอบอุ่น แล้วคลี่ผ้านวมห่มให้หลินและคาริ
ที่พริ้มตาหลับบนโซฟาตัวใหญ่ข้างห้องประชุม
“ก็ผมนึกว่าพวกเธอตื่นกันแล้ว ก็คนมีเมียเยอะก็แบบนี้แหละ” สามเทพลุกพรวด
แล้วชี้หน้าอยากร้องเอ็ดตะโร แต่กลับนึกคำด่าไม่ออก เมื่อมองเห็นสิ่งที่ชายตรงหน้าทำให้แก้วตาดวงใจของพวกเขา
ท่านริคาสึโมะยังเดินไปลูบแก้มอิ่มของบุตรสาวด้วยความรักใคร่
“ขอบคุณ ขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้คาริได้เจอนาย”
เจ้าของผมยาวสีดำแซมขาวทอดตามองลูกสาวอย่างสบายใจ ก่อนเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโต๊ะ
ที่ลูกสาวและเพื่อนลูกสาวเคยนั่งเล่นกินข้าวเย็นแล้วจัดการอาหารบนโต๊ะในหม้อ
อย่างไม่เกรงใจ
“ผมขอถามหน่อยได้ไหม นอกจากเทพดาบ เทพกระบี่ เทพหอกแล้วยังมีเทพอะไรอีก?” ท่านประธานซันก้าวไปทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ของตัวเองแล้วใช้พลังลมปราณอุ่นชาจนร้อน
แต่เขากลับไม่ใช่คนแรกที่ได้ดื่ม
เทพกระบี่คว้าแก้วมารินน้ำชาสีทองสดใสแล้วเลิกคิ้วขึ้นอย่างพอใจ
“นอกจากพวกข้า แก่ๆ แบบนี้ ยังมีอีกหลายคน
เทพธนู เทพเกษตรกร เทพประมง เทพจักรกล เทพนักปราชญ์”
ท่านประธานซันนับนิ้วประกอบคำกล่าวของท่านประธานสมโชคแล้วพยักหน้ารับ
เสริมบท
ท่านประธานซัน: ข้าเทพเกรียน!
เสียงปริศนา: เข้าท่าแฮะ
โปรดติดตามตอนต่อไป บทที่ 20 เพื่อมิตรภาพแห่งผองเรา!
……………***
ความคิดเห็น