คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : เมียนะ! ไม่ใช่แมว
บทที่ 18 เมียน้ะ ไม่ใช่แมว!
ท่านประธานยังมีน้ำใจเดินกลับมาช่วยยกเก้าอี้ขึ้นโดยทำเมินสายตาอึ้งสนิทปนนับถือสุดใจขาดดิ้นจากผู้บริหารหนุ่มๆ
ที่มองท่านประธานปากอ้าตาโต
น้ำค้างใสก็ตาค้างไป จนในที่สุดหญิงสาวยังอดหัวเราะคิกไม่ได้ กับปฏิกิริยาขั้นเลวร้าย
ของชาวบริษัท world haunt
“งั้น สะ แสดง วะ ว่า...ที่แกบอกขอลาเมียป่วยวันนี้.....?” หญิงชราหน้าปลาบู่เสียงแหบแห้ง
ท่ามกลางอาการอ้าปากค้างของภิภพและเกษมเพื่อนซี้
“อ่าว....ก็เมียป่วยจริงๆ นะซี แต่ตอนนี้หายดีแล้ว ฉันถึงมาทำงานได้ไง” ท่านประธานตอบกลับอย่างงงๆ
พวกนี้คิดว่าเขาล้อเล่นหรืออย่างไร?
หลายคนที่ยังไม่รู้ถึงใบลาของท่านประธานก็ซักถามกันให้วุ่น ส่วนคนที่รู้ก็กระซิบกระซาบคุยกันจนเสียงดังระงมอื้ออึง
แต่แล้ว ทุกเสียงก็เงียบงันลงราวถูกสับสวิตช์ เมื่อท่านประธานซันเหลียวมองหน้าประตูห้องประชุมซึ่งเป็นระบบเปิดปิดอัตโนมัติ ชายหนุ่มจึงคลี่ยิ้มมุมปาก
เพราะคาริฟื้นไข้บ้างแล้วหลินหลินจึงชวนแต่งตัวและออกมาหาสามีที่เบื้องนอก ระหว่างทางที่ผ่านมา
ทั้งสองไม่พบแม้แต่พนักงานทำความสะอาด จึงแวะไปดูบอร์ดการทำงาน
ได้รับรู้ ว่าในยามนี้เกิดการประชุม ณ ห้องประชุมกลางของบริษัท
สองสาวไม่ลืมคำกำชับของชายหนุ่ม หากพวกเธอตื่นแล้วให้ออกไปตามหาเขา
เมื่อมาถึง จึงตัดสินใจเดินเข้าห้องประชุมมา
คาริอยู่ในชุดเสื้อกระโปรงเข้าชุดสีฟ้าน้ำทะเลขับผิวขาวจัดและแก้มอมชมพูของเธอให้แลงดงาม
หลินหลินเปลี่ยนมาสวมชุดเสื้อกระโปรงสีขาวอ่อนและเอี๊ยมเข้ารูปสีเหลืองสดใสทำให้สองสาวผู้มาใหม่ตกเป็นเป้าสายตาของคนหลายร้อยที่ส่วนใหญ่อยู่ในจอสามมิติเพราะการประชุมทางไกล
“ซัน ยังประชุมไม่เสร็จเหรอ พวกเราไปนั่งเล่นที่ห้องรอนะ” คาริเมะเอ่ยขึ้นอย่างเกรงใจ
ชายผู้ยืนนิ่งอยู่ใจกลางโถงประชุมส่งยิ้มอ่อนหวานให้สองสาวที่ยังไม่ชินกับอีกมุมน่ารักๆ ของผู้ชายตรงหน้า
“เสร็จพอดี คาริกับหลินหลินเอาข้าวมากินในนี้ได้เลยนะ จะได้อ่านแผนงานการประชุมครั้งนี้ไปด้วย”
เฮ้ย! ทุกคนระลึกถึงคำสั่งเด็ดขาดของท่านประธานว่า นอกจากของว่างแล้วห้ามนำอะไรมากินในนี้
ไหนมันเป็นแบบนี้.....เฮือก!
ทุกคนถอนหายใจพรืดอย่างไม่ต้องนัดหมาย จึงได้รับสายตาอำมหิตจากท่านประธานที่
รีบก้าวเข้าหาสองสาวแล้วเบียดตัวเข้าไปโอบไหล่บางของทั้งคู่ที่สะดุ้งอย่างไม่ทันตั้งตัว
และนี่ก็ต่อหน้าคนเป็นร้อยเกือบพัน
ทุกคนออกอาการเหวอหนักหน่วง ยิ่งชายชราสูตรขาวที่อ้าปากค้างมาเกือบสิบนาทีแล้ว.....
“หลินหลินพ่อเราถามแล้วนะว่าเมื่อไหร่จะกลับบ้าน แล้วเมื่อคืนหนู.....โดนไอ้บ้านี่ย่ำยีใช่มั้ย?
หนูคาริ พ่อหนูมาตามถึงเมืองไทยแล้วนะ!”
สองสาวสะดุ้งเมื่อเดินมาสังเกตรอบห้องประชุมที่ทุกคนได้แต่อึ้งกับความบ้าระห่ำของท่านประธานซันที่มีเมียทั้งที
ก็เล่นควบสอง
“ตาทวด....เอ่อคือ....หนู” หลินหลินยิ้มเจื่อนและรีบหลบหลังท่านประธานซันและยื่นหน้ามาตอบด้วยรอยยิ้ม
ซุกซน
“ใช่ค่ะ...หรือไม่ใช่ดีนะ พี่ซันขา ตอบตาทวดหน่อย!” ทุกคนออกอาการตลึงงัน เพราะไม่เคยเห็นคุณหนูอวิ๋น ผู้เป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงสุดของ lucky moon
มีมุมน่ารักสดใสเช่นนี้มาก่อน
ทุกสายตาได้แต่มองท่านประธานซันอย่างอิจฉาตาร้อน
“คาริ โอเคขึ้นไหมครับ?” ชายหนุ่มอังหน้าผากนวลเบามือแล้วจึงพยักหน้าพอใจ
“พวกเราทำอาหารมาเยอะเลยนะ” หลินหลินพูดในขณะที่คาริยังคงเขินจัด เพราะไม่เคยชิน
“ไหนครับ?” ชายหนุ่มทำท่าสงสัย หลินพูดคล้ายเยอะมากแต่เท่าที่เห็นคือพวกเธอเดินมาตัวเปล่า
“นี่ไง” เด็กสาวจากแดนมังกรยิ้มสดใสแล้วสะบัดมือสร้างรอยขาดเล็กๆ บนอากาศแล้วจึงดึงถาดอาหารหลายชนิดออกมาจัดเรียงบนโต๊ะจนเรียกเสียงกลืนน้ำลายหลายเอื้อกรอบห้องประชุม
ไม่เพียงท่านประธานซันที่อยากชิม แต่ทั้งห้องประชุมและในจอสามมิติที่กลืนน้ำลายต่อๆ กัน ก็จ้องอาหารมื้อค่ำ
หน้าตาสวยไม่แพ้แม่ครัวกันตาไม่กะพริบ
“พอดีหลินตื่นมาตั้งแต่ห้าโมงแล้ว คาริยังหลับอยู่ เลยไปใช้วัตถุดิบในห้องทำอาหารแล้วซันก็ส่งมาเพิ่ม
พร้อมเสื้อผ้า” เด็กสาวยังคงกล่าวต่อไปด้วยน้ำเสียงมีชีวิตชีวา
“อร่อยรึเปล่าน้า....?” ท่านประธานซันหัวเราะขำกับแววตาขวางของเมียสาวที่ทำท่าจะยกหมัดขึ้น
แต่แล้วก็ร่วมหัวเราะขำกับสามี แต่ไม่วายค้อนวงใหญ่
คาริจัดเรียงอาหารบนโต๊ะแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่แสดงอารมณ์
“น้ำค้าง....เธอมาลองชิมอาหารญี่ปุ่นต้นตำหรับแท้กับอาหารจีนต้นตำหรับดูไหม๊?” ท่านประธานสมโชคเหลือบมอง
ท่านประธานอวิ๋นซึ่งตาเหลือกค้างน้ำลายฟูมปากไปแล้ว
เพียงไม่นานภาพบนหน้าจอของ lucky moon ก็จางหายไป
“เอ่อ...ไม่ดีกว่าค่ะ” น้ำค้างใสยังตอบไม่จบประโยคดีร่างบางก็ลอยขึ้นและคนร่างใหญ่ก็พูดเสียงนุ่ม
“เธอได้สิทธิพิเศษจากไหนเนี่ย ปรกติคาริต้องชวนฉันก่อนนะ!” สองสาวหัวเราะขบขันกับสีหน้าและแววตาปริบๆ
ของน้ำค้างใส
เนื่องจากรับรู้ความทรงจำของชายหนุ่มทำให้สองสาวรู้ความคิดของท่านประธานซันเหมือนคนรู้ใจกันมาเนิ่นนาน
“อ๊ากก ปล่อยหลานข้าเร็วๆ ไม่งั้น ไม่งั้นข้าจะบุกไปตึกแกตอนนี้นะเฟิ้ย!” ชายหนุ่มหันไปยกมือขึ้นโบก
ให้ท่านประธานสมโชคแล้วพึมพำปากเป็นความหมายชวนกระอัก
‘นี่ว่าที่เมียดีเด่นของผมนะ จะปล่อยไปได้ไง’
ไม่ทราบว่าเจ้ากรรมหรือนายเวรดลบันดาลให้ชายชราสามารถอ่านริมฝีปากของฝ่ายตรงข้ามได้ เพียงพริบตาเดียว
ภาพในจอก็วูบดับไป ทุกคนไม่คิดว่าชายชราวัยหกสิบจะถลามา World haunt ในเวลานี้แน่
น้ำค้างใสถูกอุ้มวางลงบนเก้าอี้ตัวหนึ่งรอบโต๊ะใหญ่ของห้องประชุม
ระหว่างหลินจะเหลียวไปบอกว่าอาหารขนมและผลไม้มีเยอะ กินกันทั้งหมดนี้ก็ไม่หมด
ชายหนุ่มพลันมายืนซ้อนอยู่เบื้องหลังแล้วตวัดวงแขนกอดร่างบอบบางพลางยกปลายนิ้วจดริมฝีปากหลินๆ อย่างรู้ดี
ว่าเด็กสาวใจดีและใจกว้างอย่างเธอจะพูดสิ่งใด
“ทุกคนเห็นบนหน้าจอแล้วนะ ต้องฝึกให้สำเร็จก่อน ไม่งั้นอาหารฝีมือหลินอดทุกคน!” ผู้บริหาร
ห้าสิบเก้าคนและหมาป่าร้องเสียงพิกลฟังดูโหยหวน ก่อนทุกคนจะรีบเผ่นไปหาที่นั่งหลับตาลงและเข้าสู่ภวังค์การฝึกฝน
ไม่รอช้า การจะได้ชิมอาหารฝีมือของสาวน้อยร้อยล้านอาจยากเข็ญเสียยิ่งกว่าปีนป่ายขึ้นสวรรค์
ท่านประธานซันอมยิ้มและไล่แกล้งสองเมียสาวอย่างมีความสุข ส่วนน้ำค้างใสไม่มีโอกาสจะเอ่ยปากประท้วง
เพราะเธอกลายเป็นหนูทดลองอาหารสองสัญชาติด้วยความเต็มใจ
“อร่อยมากเลย ฝีมือหลินกับคาริสุดยอดไปเลย” ท่านประธานซันเอียงคอมองหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง
นี่ ความเกรงใจเมื่อสิบห้านาทีแรกมันหายไปไหนกัน?
“พอก่อนเลยคุณหนูตัวน้อย เดี๋ยวก็อ้วนเกินหรอก เธอก็ต้องฝึกเหมือนกัน ฟังให้ดี เมื่อฝึกจนเข้าขั้นมนุษย์
ให้เคลือบลมปราณกับขาทุกส่วน เข้าขั้นวิญญาณให้กระจายลมปราณไว้ในชีพจรเสริมกำลังและพลังในกล้ามเนื้อ
กระดูก และเส้นเอ็นในขา
ถ้าเข้าขั้นเทวดาค่อยปล่อยพลังไปทั่วตัว หลังจากนั้นกระบวนการรักษาก็จะสมบูรณ์ จำไว้ให้ดีนะครับ รักษาสุขภาพก่อน
พลังเราสามารถค่อยๆ ฝึกฝนได้” ท่านประธานซันตะหงิดๆ กับคำพูดของตัวเองละม้ายเคยกล่าวออกไปแล้วรอบหนึ่ง
แต่ด้วยความแก่ชราเขาจึงหลงลืมมันไปอีกครั้ง
“คะ ก็นึกว่าต้องรักษา....แบบนั้น!” น้ำค้างใสพูดเสียงเบาและรีบเบือนหน้าไปทางอื่นด้วยแววตาเขินอาย
ท่านประธานซันอดหัวเราะไม่ได้ เขาไม่คิดว่าน้ำค้างใสจะคิดเป็นจริงเป็นจังอีกแล้ว
“แหมๆ คุยความลับอะไรกัน ไม่บอกพวกเราเลยนะ” คาริที่กำลังแลกเปลี่ยนอาหารและขนมกับหลินๆ หันมาค่อนเข้าให้
ทำให้คนที่กำลังคิดคล้ายๆ กันอดหัวเราะขำไม่ได้
“เรากำลังคิดว่า คืนนี้ควรจัดการคาริกับหลินหลิน กี่รอบดีต่างหาก” และแล้วก็เกิดความวุ่นวายเมื่อสองสาวลุกขึ้น
ไล่ทุบสามีพวกเธอเสียหลายตุ้บ
หลังจากน้ำค้างใสสู่ห้วงภวังค์การฝึกตนไปแล้ว หลินที่เคี้ยวผลไม้อยู่ก็อมยิ้มและเอนมาซบไหล่ข้างหนึ่งของชายหนุ่ม
คาริก็เอนตัวเข้าพิงศีรษะกับหัวไหล่กว้างไม่ต่างกัน สองสาวผล็อยหลับไปเหมือนเด็กๆ ท่านประธานซันมองสองสาว
อย่างอ่อนใจเจือความรักใคร่
แล้วได้แต่บ่นอยู่คนเดียวทั้งยังยิ้ม
“นี่เมียหรือแมวเนี่ย กินอิ่มก็หลับปุ๋ย” ชายหนุ่มจึงจัดท่าทางของเมียสาวทั้งคู่ให้พิงหัวไหล่เขาได้สบายที่สุด
“อย่าเปรียบเทียบภรรยาแบบนั้นสิพ่อหนุ่ม......นี่เมียน้ะ ไม่ใช่แมว!”
ฝุบ!
คมดาบวาดผ่านร่างของท่านประธานซันที่หายไป แต่เพียงพริบตาเดียวร่างสูงก็ปรากฏตัวขึ้นและจ้องมอง
ชายผู้ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้า
ผู้มาเยือนในห้วงอากาศไร้ที่หยั่งเท้าเป็นชายหนุ่มที่ไม่อาจคเนย์อายุได้ ผมยาวสีดำแซมขาวถูกมัดเรียบร้อย ใบหน้าเรียวหล่อเหลาติดกระด้างและเย็นชา คมดาบวาววับซ่อนเก็บอยู่เบื้องหลัง ดวงตาพิมพ์เดียวกับคาริ
มองเขาด้วยนัยน์ตาคมกริบของจอมดาบแห่งยุค
ไอเย็นยะเยือกที่แผ่สยายอยู่รอบตัวเป็นสะเหมือนเกราะกำแพงกีดกั้นคนภายนอกไม่ให้เข้าถึงตัว
“ท่านประธานซันแห่ง world haunt ผมรู้ว่าคุณไม่ใช่คนอ่อนแอ ผมอยากทดสอบให้แน่ใจว่าคุณจะปกป้อง
ลูกสาวผมได้จริงๆ โปรดอย่าออมมือ”
ชายหนุ่มชอบความตรงไปตรงมาของชายตรงหน้าอยู่ไม่น้อย พลังลมปราณในร่าง
แม้ไม่รู้ว่ามันเป็นไปได้อย่างไรแต่มันกลับทะลุห้าร้อยปีขึ้นไปแล้ว
หากเป็นโลกเดิมของเขาคงเรียกพลังขั้นนี้ว่าครึ่งก้าวเทวดา
“ครับ ท่านจอมดาบริคาสึโมะ!” ชายหนุ่มพอรู้กิตติศัพท์ความโหดและเด็ดเดี่ยวของพ่อลูกจากดินแดนปลาดิบอยู่บ้าง จากริมฝีปากของคาริในช่วงที่เธอได้พูด
แต่ช่วงเวลาส่วนใหญ่ริมฝีปากของเธอและเขามักจะติดกันจนมีแต่เสียงครางเท่านั้นที่รับรู้ซึ่งกันและกัน
“เด็ดเดี่ยวดีนี่ไอ้หนู ถ้าข้าจะรุมแกคงไม่ว่าใช่ไหม? ยังไงหลานสาวข้าทั้งคน ข้าก็ห่วงว่ะ?!”
ครานี้ผู้มาถึงทำให้ท่านประธานซันตื่นตระหนกขึ้นจริงๆ
“เทพหอก” ท่านประธานซันข้อนข้างตื่นตลึง เพราะเขาไม่สามารถสัมผัสพลังลมปราณของคนตรงหน้า
ผู้ล่องลอยสู่กรอบหน้าต่างบานกว้างและพลิ้วมายืนนิ่งอยู่เบื้องขวาจอมดาบจากแดนอาทิตย์อุทัยได้แม้แต่น้อย
หอกยาวสีเขียวขจีแนบติดกาย
คำรำพึงของปรมาจารย์แห่งดาบทำให้ท่านประธานซันตื่นตัวขึ้น
จากท่วงท่าของทั้งคู่แล้ว ทั้งสองต้องตึงมือเขาเป็นที่สุด และยังไม่มีความมั่นใจจะเอาชัยใครคนหนึ่งได้แม่นมั่น
“นั่นสิ เหลนสาวของข้า ก็ไม่อยากได้ไอ้กระจอกมาปกป้องหรอกนะ!” เงาร่างเลือนรางของเซียนในชุดขาวปรากฏกายขึ้น
พร้อมหยั่งเท้าลงเบื้องซ้ายของท่านริคาสึโมะ
“เทพกระบี่!” สองชายชราตื่นตลึงต่อท่าร่างและวิชายุทธ์เหมันต์ปรโลกถึงขั้นสูงสุดยอดของชายผู้มาใหม่
แต่คนที่ผวายิ่งกว่าคือคนที่พึมพำและกัดฟันกรอด
“ลมปราณห้าร้อยปี ลมปราณสี่พันปี ลมปราณแปดพันปี ช่างเป็นคนแก่ชราที่ร่วมมือร่วมใจกันยิ่งนัก!”
ชายหนุ่มแดกดันใส่สามเทพที่ยืนแสยะยิ้มแล้วตวัดอาวุธเข้าใส่ก่อนทันที…
เสริมบท
ท่านประธานซัน: เฮ่ออ แต่ละคนหวงกันสุดฤทธิ์
เสียงลึกลับ: ใช้ร่างปีศาจเลยย จับสามคนนี้มา...เอ๊ยย พูดผิด!
โปรดติดตามตอนต่อไป บทที่ 19 สามเทพvsท่านประธานซัน!
…………***
ความคิดเห็น