คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : การรักษาฉบับท่านประธาน
บทที่ 15 การรักษาฉบับท่านประธาน
ทุกสายตาเบือนไปจับลงบนร่างของคนที่มีสิทธิเด็ดขาดในการตัดสินใจของตึกนี้
ทุกคนอ้าปากค้าง
“เฮ้ย ท่านประธานซันทำไมผมแก หน้าแก...?” หลายเสียงที่เป็นเพื่อนวัยแก่ชราร้องระงมอย่างฮือฮา ประหนึ่งว่าชายตรงหน้าไม่ใช่ท่านประธานซันคนเมื่อวานอีก
ชายหนุ่มที่แบ่งพลังคลึ่งเก้าเทวดามาคงร่างแก่หงำเหงือกให้ไว้คงเดิมเผยยิ้มแต่ยังคงปล่อยให้หลายสายตาชื่นชมกับเรือนผมยาวสีดำสนิทซึ่งถูกมัดรวบเป็นเส้นเดียว วงหน้าแกร่งทระนงยังคงความเข้มคมตามฉบับนักธุรกิจเขี้ยวลากดินเหมือนเคย ดวงตาคมเฉียบไร้ม่านความฟ่าฟางจ้องทุกคนด้วยแววตาประดุจเหยี่ยว
ชุดกึ่งสูตรเพราะไม่มีเสื้อตัวนอกขับผิวขาวนวลของเขาให้มองกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ
แม้แต่น้ำค้างใสยังต้องขยี่ตาหลายครั้ง เพียงเท่านี้ชายหนุ่มก็ภาคภูมิใจเหมือนได้ขึ้นไปเหยียบสวรรค์แล้ว
“เรื่องนี้มีความลับ.....ไว้คุยกันตอนประชุมตอนสองทุ่ม ตอนนี้ผู้บริหารทุกฝ่ายแยกย้ายกันไปได้แล้ว หาข้าวเติมให้เต็มกระเพาะด้วยเราจะเข้าประชุมยาว” ได้ยินแค่นั้นเสียงโอดโอยตามมาดังระงมกว่าตอนแรกอีก แต่ทุกคนก็รีบเผ่นกลับบ้านหรือไปหาอาหารดีดนตรีเพราะฟังก่อนต้องเข้าประชุมยาวติดต่อกันหลายชั่วโมงข้างหน้า
“คุณหนูตัวน้อย เอาใบสมัครงานของเธอมาดูหน่อย” ท่านประธานซันเดินไปผลักหมาป่าให้คว่ำลงไปนอนจูบกับโซฟาข้างๆ แล้วยึดเก้าอี้ของเลขาหนุ่มที่ได้แต่ขมุบขมิบปากก่นด่าท่านประธานไปถึงรุ่นบรรพบุรุษ
“เอ่อ..หมา โทษที แต่นายไปล้างน้ำลายก่อนน้ะ” ท่านประธานยังเอียงหน้ามาบอกด้วยความใจดีจนเลขาหนุ่มตาเหลือก
“ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้เล่าท่านประธาน!” หมาป่าเผ่นออกจากห้องไปด้วยหูที่ตั้งขึ้นแดงก่ำ
น้ำค้างใสเหลียวมองรอบๆ world haunt ที่ต่างทำงานด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
แล้วหันกลับมามองประมุขแห่งอาณาจักรนี้ที่จ้องผ่านรายละเอียดประวัติและการศึกษาที่ผ่านมา
“จบแค่ high schoolเกรด สิบสอง ด้วยเกรดเฉลี่ย 3.70 มาทำงานในบริษัทชั้นนำได้ไงเนี่ย เส้นรึเปล่าหนูน้อย?” ดวงตาสีนิลสลับฟ้าน้ำเงินกลับมาอีกแล้ว จนคนที่เป็นคู่ประสานสายตาต้องสะบัดหน้าหลบไปทางอื่น
“เค้า....ไม่อยากหยิบประวัติการศึกษาที่บ้านมาหมด” ท่านประธานเลิกคิ้วขึ้นกับสรรพนามที่เปลี่ยนไป
แต่ชายหนุ่มก็ยังป้อนคำถามต่อไป
“แล้วประวัติแค่นี้อยากให้รับมาเป็นพนักงานชงกาแฟหรือไง?” น้ำค้างใสเอียงคออย่างงงๆ
“ตำแหน่งนี้มีด้วยหรอค้ะ?” ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ แต่ไม่ได้ตอบคำถามนี้ของหญิงสาว
ดวงตาคมไล่ผ่านประวัติการทำงานแล้วพยักหน้าพึงพอใจ
“เรียนจบปริญญาตรีห้าสาขา จบปริญญาโทสามสาขา จบปริญญาเอก สิบแปดสาขา นี่เธอสัตว์ประหลาดรึเปล่า!”
ท่านประธานซันถามคนที่ยิ้มแหยๆ อย่างไม่เกรงใจ
“มีสามสาขาที่เธอเรียนทั้งตรีโทเอกนี่คุณหนูตัวน้อย ทำไมไม่เลือกทำงานเกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์ วิศวกรรมหรือบริหารทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลหละ?”
น้ำค้างใสยิ้มแห้งๆ แล้วตอบอ้อมแอ้ม
“ก็ทำอยู่นิดหน่อย” ชายหนุ่มชักตะหงิดๆ กับแววตาหลุกหลิกของหญิงสาวตรงหน้าจึงหรี่ตาจ้องเธออย่างคาดคั้น
“อย่ามองแบบนั้นสิค้ะ ก็....เค้า....” น้ำค้างใสหน้าแดงก่ำ ไม่รู้ทำไมเวลาเธอจ้องประสานสายตาคู่นั้นนานๆ เธอเหมือนกำลังตกลงสู่ถังน้ำหวานที่น่าจะลึกเหมือนมหาสมุทร
“ตอบหน่อยสิ คุณหนูตัวน้อย!” ท่านประธานลุกขึ้นและเดินมานั่งลงบนพื้นตรงกับน้ำค้างใสที่ความสูงของเธอเพียงเขานั่งพื้นและทำหลังตรงๆ ก็เห็นแววตาและรอยยิ้มแห้งๆ
“สัญญาก่อนได้ไหม๊ ว่าจะไม่เอาไปบอกพ่อหรือลุงหรือใครคนอื่น!” คำพูดนี่มันมีลับลมคมในชัดๆ ท่านประธานซัน
จึงพยักหน้ารับ
“ก็ตอนนี้เค้าสร้างบริษัทวิทยาการเพื่อนักเรียนนักศึกษาสำหรับการศึกษาและการสำรวจทรัพยากรทางทะเลอยู่”
ท่านประธานซันทบทวนในหัวเล็กน้อยและเลิกคิ้วขึ้น
“บริษัทชื่อ....?” ชายหนุ่มพยายามหรี่ตาและกลั้นหัวเราะเขาพอนึกออกบ้างแล้ว สายตาที่ใช้จ้องมองหญิงสาวจึงทอแววลึกซึ้งมากขึ้นกว่าเดิม
มีเพียงบริษัทเดียวที่ยึดมั่นต่ออุดมการณ์เพื่อการกุศลจนแม้แต่บริษัทเล็กๆ ยังคงดูถูก บริษัทที่ถูกประคองด้วยพนักงานไม่ถึงห้าสิบคนกลับอยู่มาได้จนถึงปัจจุบันและสร้างนานาคุณประโยชน์ต่อสังคมและดินแดนยากเข้าถึงของรัฐ ก็มีบริษัทแห่งนี้ที่บุกเบิกและให้การศึกษาอย่างเต็มรูปแบบทั้งด้านปัญญาและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ด้วยคำนิยามที่เรียบง่ายแต่
ทรงพลัง
จงสร้างสิ่งที่ร้อยคนรักไม่ใช่ล้านคนชอบ
ทำให้เป็นขวัญใจของประชาชนชั้นรากหญ้าที่มีอยู่ทุกยุคทุกสมัย และเป็นหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้พลเมืองชั้นสองเปลี่ยนแปลงไปเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาสังคมที่เห็นแก่ตัว
เป็นส่วนหนึ่งของโครงการที่ยิ่งใหญ่อย่าง เยาวชนเปลี่ยนไทย ที่กำลังเดินหน้าสร้างจิตสำนึกให้เด็กรักการศึกษาและสิ่งแวดล้อม....แต่ขบวนการนี้ก็ถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากคนในบ้านเมืองหัวโบราณที่รับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย
“love sun” น้ำค้างใสตอบเสียงแผ่วและรีบก้มหน้าอายม้วน
จนท่านประธานซันต้องยื่นมือไปเขย่าศีรษะเล็กได้รูปอย่างพึงพอใจ
“เธอมาทำงานกับฉันในฐานะพนักงานแลกเปลี่ยน ของ love sun ดีกว่า world sky เดี๋ยวฉันจะชดใช้ตามมูลค่าที่สูญเสียไป” ชายหนุ่มกล่าวเอื่อยๆ จนน้ำค้างใสต้องเงยหน้าขึ้นสบตาด้วยดวงตากลมโต
“ลุกขึ้นยืน!” ชายหนุ่มออกคำสั่งให้ร่างบางสะดุ้ง
แต่ท่านประธานซันรู้ว่าคนตัวเล็กๆ ที่อยู่บนล้อเข็นนี้มีพลังใจนักสู้แค่ไหน ชายหนุ่มจับมือเล็กชื้นเหงื่อเป็นทีท่าให้กำลังใจ
“เชื่อในตัวเธอเองว่าทำได้” ชายหนุ่มกล่าวเสียงทุ้ม ใช้น้ำเสียงของชายหนุ่มกล่าวกับคนร่างบางจนเงยดวงตาใสขึ้นมาสบกับดวงตาสีดำไร้ประกาย
น้ำค้างใสหลับตาแล้วกัดฟันลุกขึ้นยืนแต่ความเจ็บปวดที่ทำให้วงหน้าเรียวนิ่วได้เหมือนเจ็บปวดทำให้ชายหนุ่มต้องโอบเอวเล็กไว้หลวมๆ แต่ดูเหมือนคนโดนโอบจะไม่คิดแบบนั้น
หญิงสาวกระโดดออกไปจนได้ยินเสียงกระดูกช่วงต้นขาและบั้นเอวของคนร่างบางลั่นเคลื่อนเข้ากระแทกกันทำให้
ท่านประธานซันต้องหัวเราะขบขัน
“อย่าเข้ามาน้ะ เค้าจะโกรธมากกว่านี้แน่น้ะ ถ้าเข้ามาอีก” แมวเหมียวขู่คำรามอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มจึงเดินเข้าหาคนร่างบางที่วันนี้อยู่ในชุดเรียบร้อยอย่างเสื้อเชิ๊ดสีขาวจดกระดุมสวมทับด้วยเสื้อสูตรสีดำและกระโปรงยาวคลุมเข่าสีดำสนิทเข้ากับเสื้อสีเดียวกัน
ทำให้คนร่างบางและดูงดงามจับตาเหมือนนางฟ้าน้อยๆ ท่ามกลางสวนดอกไม้
ดวงตาใสไร้มารยาริมฝีปากอิ่มเม้มน้อยๆ เหมือนแง่งอนทำให้ชายหนุ่มต้องยิ้มปลอบใจตัวเอง
เรือนผมยาวสลวยถูกถักมัดไว้อย่างเรียบร้อย
“ส่งมือมาเราจะไปหากินข้าวกัน” ท่านประธานซัน ร้องบอกหอกหักว่าเขาจะพาหญิงสาวออกไปหาอะไรกินสักพัก
น้ำค้างใสภายใต้การจับจูงของชายชราที่ตอนนี้เธอคิดว่าเขาไม่เหมือนชายชราแล้ว
เก้าตามฝีเท้ามั่นคงของชายตรงหน้าไปอย่างเผลอไผล
“คุณอายุกี่ปีกันแน่?” ท่านประธานซันทำเพียงหัวเราะหึๆ แต่ไม่ได้ตอบคำถามในทันที ทำให้ความอยากรู้อยากเห็นของหญิงสาวกระตือรือร้นขึ้นมาเหมือนเด็กๆ
“อยากรู้ร่างไหนหละ หรือสองร่างรวมกัน” คำพูดของชายหนุ่มทำให้น้ำค้างใสข้อนข้างจับต้นชนปลายไม่ถูก
“สอง...ร่าง....” เธอจะถามว่าสองร่างรวมกันหมายความว่าอะไร แต่คำตอบของเขาทำให้เธอแทบล้มลงเป็นลม
“เก้าสิบสามปี!”
น้ำค้างใสอึ้งและหยุดเดินเสียดื้อๆ ทั้งๆ ที่พวกเขาอยู่ในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ตรงข้าม world hauntพอดี
“เดี๋ยวค่ะ เดี๋ยวๆ ช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยได้ไหม๊?”
ท่านประธานซันลากหญิงสาวที่ถูกโอบเอวมาในมุมที่ผู้คนข้อนข้างบางตาแล้วพูดเหมือนมันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
“ฉันไม่ใช่คนของโลกนี้ ถูกสลับวิญญาณมา...แล้วก็ที่เธอเห็นฉันบินได้นั่นที่จริงมันเป็นพลังงานในร่างกายที่เกิดจากการปรับลมหายใจเป็นจังหวะที่ถูกต้อง“
“แล้วตอนนี้ ที่เธอยังยืนอยู่ได้ก็เพราะลมปราณของฉันที่รับทุกอย่างจากร่างกายของเธอส่วนบนไว้ ทำให้ร่างเธอไม่เอียงหักไปก่อน ถ้าฉันไม่โอบเอวเธอ เธอจะเป็นอันตราย” น้ำค้างใสจ้องรอยยิ้มและแววตาแสนใสซื่อที่มองยังไงก็ไม่น่าไว้ใจ
“ไม่ไว้ใจค่ะ” หญิงสาวกล่าวกับคนตัวสูงแล้วเงยหน้ามองเขาเหมือนนึกอะไรได้บางอย่าง
“คุณบอกว่าอายุของคุณรวมกับปู่ดวงเฮ็งแล้วได้เก้าสิบสามปี....งั้นแปลว่า....เอ่อแปลว่าที่จริงคุณอายุแค่ยี่สิบสี่เองเหรอ?” ท่านประธานซันหัวเราะเบาๆ และพยายามเบี่ยงความสนใจของน้ำค้างใสให้มองส่วนอื่นของห้างบ้างนอกจากจ้องตาเขาจ้องเอาๆ เหมือนจะหาร่องรอยการโกหก
“ตอบเค้าก่อน......” แม้ในใจจะคิดไปแล้วแต่ปากกำลังพูด
“เฮ่ออ...เด็กสาวแสนใสซื่อจริงๆ นะแม่คุณ!” ท่านประธานซันโยกศีรษะเล็กจนคนถูกกระทำหน้ายุ่ง
“แล้วถ้าเค้า...อยากบินได้บ้างจะได้ไหม๊?”
ท่านประธานซันยิ้มเจ้าเล่ห์
“ได้สิแต่ร่างกายเธอต้องหายดีเสียก่อน.....เฮ่ออ แต่การรักษามันข้อนข้างลำบากมากเธอจะรับได้เหรอ?”
น้ำค้างใสตาเป็นประกาย แต่น้ำเสียงใสก็เอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ
“รักษาแบบไหนค้ะ......?”
ท่านประธานซันก้มไปกระซิบให้ได้ยินแค่สองคน
“ถอดเสื้อผ้าแล้วขึ้นเตียงกับฉันไง!~~~~~~~”
น้ำค้างใส..........พูดไม่ออกไปอีกเจ็ดวัน
เสริมบท
ท่านประธานซัน: ข้าบอกแล้วข้าจะตื่นเช้ากินน้ำค้างเพื่อเสียงที่ไพเราะเสนาะหูฮ่าๆ
น้ำค้างใส: แงๆ ต้องโดนงาบแน่เลย!*@&)###
โปรดติดตามตอนต่อไป บทที่ 16 ว่าที่เมียดีเด่น!
………………………….***
ความคิดเห็น