คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : น้ำค้างใส
บทที่ 9 น้ำค้างใส
ในช่วงเวลาที่ท่านประธานซันใช้วิชาตัวเบาท่องคลื่นหิมะทะยานไปตามยอดตึกในมุมลับตา ในยามใกล้แสงลา ชายหนุ่มในร่างชรารู้สึกเหมือนมีสายตาของใครจ้องมองจึงเหลียวกลับไป
จนในที่สุดคิ้วเข้มก็ต้องเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ....ถ้าจำไม่ผิดนั่นเป็นหญิงสาวบนล้อเข็นที่เขาเพิ่งพบเธอไปเมื่อเช้า....ว่าแต่ทำไมไปอยู่ในห้องนิรภัยของ world sky
ได้
ด้วยความสงสัยร่างสูงจึงเหินทะยานข้ามตึกสูงที่อยู่ห่างกันเกือบหกสิบเมตร
ด้วยความรวดเร็ว สายตาของคนอื่นแทบตามไม่ทัน....แต่สำหรับคุณหนูตัวน้อยที่จับจ้องเขา
จนปากน้อยๆ นั่นอ้ากว้าง ทำให้ท่านประธานซันตัดสินใจต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อปิดปาก
แม่สาวตัวน้อยที่ดันมารู้ความลับของเขา
แม้ท่านประธานซันจะคิดแบบนั้น แต่ความรู้สึกจริงๆ คงมีเพียงแต่ชายหนุ่มเท่านั้นที่รู้
เท้าแตะลงบนขอบระเบียงพร้อมร่างชราสูงใหญ่ในชุดออกทะเลอย่างเสื้อแขนสั้นสีส้มสดใส กางเกงขาสั้นสีแดงแปร๊ดและรองเท้าแตะสีเขียวในมือห้อยหมวกสานไม้ไผ่ที่ปลิวลมไสวไว้
เท้าในรองเท้าแตะพาร่างสูงเก้าผ่านซากความระเนระนาดเละเทะจากบอลลูนและกระเช้าลอยฟ้าที่ยอมทุ่มทุนเพื่อแลกกับรางวัลหลายล้านดอลลาร์หากรวมมูลค่าจริงๆ
รอยยิ้มเหมือนดอกทานตะวันยิ้มแฉ่งคงประดับบนใบหน้าบานชื่น ของชายหนุ่มในคลาบแก่
ไปจนสุดทาง ที่ก้าวไป
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
ประตูห้องนิรภัยที่กว้างราวๆ สามร้อยเมตรถูกเคาะเบาๆ จนทำให้สายตาของผู้บริหารและพนักงานหลายร้อยคนที่หนีออกจากตึก world sky สาขาหลักไม่ทันหันขวับไปจ้อง
ด้วยแววตาเบิกโพลง
และยิ่งมองเห็นคนที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ภายนอก ดวงตาแต่ละคนก็ลุกโชนไฟแค้นจนทำให้
คนด้านนอกต้องกุมท้องหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง
“อ๊ากก พวกเรามันกล้ามาเยาะเย้ยถึงที่นี่ รุมกระทืบมันเลย!”
ท่านประธานสมโชคร้องเสียงเหี้ยมพร้อมวิ่งดิ่งไปกระชากประตูนิรภัยเปิดผัวะจนแทบกระแทกใบหน้าของเจ้าของชุดสุดชิว
“ไอ้ดวงเฮ็งงง!!”
หมัดขวาเหี่ยวๆ ยิงผัวะออกไปภายนอกจนคนมาเยือนต้องกระโดดหนีแล้วชูมือร้องโวยวาย
เสียงลั่น
“พวกเราๆ ท่านประธานสมโชคอยู่นี่ รีบมายิงเร็วๆ รางวัลแบบไม่จำกัดคนด้วย”
ดูเหมือนประโยคของท่านประธานซันจะเป็นประโยคศักดิ์สิทธิ์หลังพูดตะโกนแหกปากไปหลายรอบ เสียงติ๊งของเครื่องเดินทางขึ้นลงของทางบริษัทหลายช่องทางก็กรีดเสียงดังลั่น
ติดตามมาด้วยเสียงร้องให้หากันอย่างวุ่นวาย
ชายชราร่างผอมสูงเพียงร้อยหกสิบเซนติเมตรตาเบิกโพลง
“อ๊ากก ไอ้ชั่วเอ้ย วันนี้ข้าจะฆ่าแกให้ได้~”
ชายหนุ่มในร่างใหม่หัวเราะฮ่าๆ เหมือนเห็นเรื่องที่ชายชราพูดออกมาเมื่อตะกี้เป็นเรื่องตลก
ทำให้เจ้าของคำพูดโกรธควันออกหู
ชายชราออกวิ่งตามท่านประธานซันที่แกล้งวิ่งวนและแหกปากร้องลั่น
ภาพที่เกิดขึ้นมันจึงเหมือนชายแก่สองคนกำลังวิ่งไล่จับกันอย่างสนุกสนาน
เพียงแต่ฝ่ายหนึ่งร้องแหกปากด้วยรอยยิ้ม
บานแฉ่งเต็มใบหน้าและบางครั้งยังแกล้งกระโดดผ่านโต๊ะทำงานเก้าอี้จนร่ำๆ
ท่านประธานสมโชคจะลื่นล้มหัวฟาดพื้นอยู่รอมร่อ
และฝ่ายที่วิ่งไล่หน้าแดงเหงื่อไหลย้อยจนชุดสูตรแน่นเปรี๊ยะเป็นตัวถ่วงในการไล่วิ่งตามไอ้แก่ตัวแสบข้างหน้า
“หยุดนะโว้ย ข้าจะฆ่าแก!” ท่านประธานสมโชคแหกปากร้องลั่นชั้นทำงาน
และยังคงวิ่งวนตามชายตรงหน้าที่ไม่มีท่าทางจะหอบเหนื่อยแม้แต่น้อย
“หยุดก็โง่นะสิปู่ รับไป เทพเจ้าเขียวประธานพร~” อีกฝ่ายก็โต้ตอบเสียงร่าเริง
พร้อมรองเท้าแตะสองข้างที่ลอยหวือข้ามระยะห้าเมตรพุ่งเข้าหาใบหน้าของชายชราที่แหกปากร้องโวยวายและรีบก้มหัวหลบจนปล่อยรองเท้าเขียวไปกระทบกับบอลน้ำด้านหลังที่ไล่ยิง
ท่านประธานสมโชคมาตั้งแต่ต้นหลายสิบลูกจนเกิดเสียงระเบิดลั่น
ต้องยอมรับทักษะการวิ่ง กระโดด หมอบคลาน หรือแม้แต่หลบหลีกของท่านประธาน
แห่ง world sky เพราะเข้าขั้นสุดยอดของสัญชาตญาณของคนธรรมดาที่ไม่ได้ฝึกพลังยุทธ์
บลึ้มม บลึ้มม บลึ้มม!
ท่านประธานสมโชคตีลังกาไปข้างหน้าด้วยความเท่ประหนึ่งจาพนมกลับชาติมาเกิด เพียงแต่สิบวินาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงกระดูกลั่นกรอบแกรบจนเจ้าตัวต้องแหกปากร้องโอดโอย
“ปู่แค่นี้ก็กระดูกพรุนแล้วเหรอ? รีบตามมาเร็วๆ” ท่านประธานสมโชควิ่งกระโผกกระเผกตามท่านประธานซันที่หักเลี้ยวกลับวิ่งดิ่งเข้าห้องนิรภัย จนเสียงผู้บริหารหญิงแหกปากร้องกรี๊ดๆ กันจนตึกแทบถล่ม
“อ๊ากก แกกก” ชายชราที่ประสบความไม่สะดวกทางไขข้อกระดูกรีบกลิ้งตัวหลบกระสุนน้ำ
และถีบประตูห้องนิรภัยโครม
ได้ยินเสียงน้ำกระทบประตูนิรภัยจนทั้งห้องสั่นคลืนแทบตลอดเวลา
หางตาไวขั้นเทพของท่านประธานสมโชคเหลือบไปเห็นขากางเกงสีแดงแปร๊ดที่วิ่งผ่านหน้าไปมือจอมมารก็รีบคว้าไปแต่จับได้เพียงข้อเท้าของคนที่แหกปากร้องโวยวาย
“เฮ้ยปู่ๆ มาดึงผมไว้ทำไมอ๊ากก!”
สองชายชราล้มกลิ้งลงไปบนพื้นกันทั้งคู่ ท่านประธานซันร้องแหกปากเมื่อถูกวิชาหักกระดูกจากท่านประธานสมโชคที่คลานไล่ตามเหมือนคุณปู่จอมอาฆาต
คนทั้งห้องแตกฮือกันเป็นทางกว้างจนท่านประธานซันรีบคลานหนี
แต่สะเหมือนท่านประธานสมโชคจะไม่ยอมแพ้ในอุดมการณ์จะกระทืบไอ้บ้าตรงหน้า
ฝ่ายหนึ่งจึงแหกปากโวยวายและคลานหนี แต่อีกฝ่ายหนึ่งก็ร้องเสียงเหี้ยมและไล่คลานตาม
ด้วยความเร็วชวนตลึง
“นางฟ้า คุณหนูตัวน้อยยยยย!” คนถูกเรียกเสียงโหยหวนสะดุ้งเฮือก แต่มันช้าเกินไป
ท่านประธานซันคลานมาหยุดตรงหน้าและรีบช้อนอุ้มร่างเล็กขึ้นไว้ในวงแขนท่ามกลางแววตาตลึงงัน ของคนทั้งห้องนิรภัย ไม่เว้นแม้แต่ชายชราผู้เป็นลุงที่ยกมือค้างอ้าปากเหวอ
“ยัยหนู/น้องพี่/คุณน้ำค้าง/คุณน้ำ/พี่น้ำ/น้องน้ำค้างใส!!!” สารพัดเสียงประสาน
แหกห้าวเสียงดังลั่นจนหญิงสาวในวงแขนของชายชราตัวสูงใหญ่ต้องยกมือขึ้นมาปิดหู
อย่างเพลียใจ
“คุณหนูตัวน้อย เราคงมีเรื่องต้องคุยกันยาว!” น้ำเสียงอ่อนของท่านประธานซันทอดเนิบๆ
จนหญิงสาวขนลุก
“เฮ้ยย ปล่อยหลานสาวข้าลงนะโว้ย ไม่งั้นแกได้ตายแน่” ท่านประธานสมโชคถึงขั้นกระโดดขึ้นชี้หน้าและเต้นเหยงอย่างโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“ท่านประธานดวง.....”
“เรียกผมว่าท่านประธานซัน!” ดวงตาทุกคู่ในห้องนิรภัยเบิกโพลงด้วยความแปลกใจและสงสัย
น้ำเสียงของชายชราในวินาทีนี้เปลี่ยนเป็นทุ้มเย็นและดวงตาเปร่งประกายสีน้ำเงินสลับดำ
อย่างพิสดารจนสะกดคนทั้งห้องให้รวมศูนย์สายตามาจ้องที่ดวงเนตรคู่แปลกและงดงาม
เปี่ยมพลัง ยกเว้นก็แต่คนที่อยู่ในวงแขนที่เพียงเบือนหลบไป
อีกทาง และคิดถึงภาพติดตาและเรื่องราวแปลกประหลาดที่ตัวเองพบเจอมาตั้งแต่ตอนเช้า
“แกจะชื่ออะไรก็ช่างแต่ฉันจะเรียกแกว่า ไอ้เลวเอ๊ยย!” ท่านประธานสมโชคจะกระโดดเข้าหา
แต่ชายหนุ่มอดีตยอดยุทธ์ก็ยกร่างบางที่น้ำหนักเบายิ่งกว่าปุยนุ่นขึ้นขวางจนชายชราตาแดงก่ำ
“ปล่อยหลานข้า!” ประโยคครั้งนี้แทบเป็นการตะโกนสุดเสียงทำให้คลื่นเสียงประหนึ่งสายฟ้าฟาดใส่ แต่สำหรับชายหนุ่มผู้เคยเผชิญอัสนีสวรรค์อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันกลับฉีกยิ้มถูกใจ
คนทั้งห้องนิรภัยหัวหดกันสะดุ้งเฮือก
“ผมจะปล่อยก็ต่อเมื่อเรามาทำข้อตกลงกันเรียบร้อยก่อน” น้ำเสียงทอดสนุก
ของท่านประธานซันทำให้ดวงตาใสจ้องหน้าคนที่อุ้มเธอมาหลายนาทีแล้วแต่ไม่มีวี่แวว
จะแขนสั่นระริกเหมือนคนชราแม้แต่น้อย
“ฉันไม่ตกลงกับแก แกทำฉันได้เจ็บมาก ครั้งนี้ ต้องเอาคืนแกเป็นสิบเท่า” ชายชรากระโดดเหยงร้องโหยหวนชี้หน้าชายหนุ่มที่อมยิ้มขบขัน
“พี่ใจเย็นๆ ทุกคนให้เกียรติท่านประธานดวง...เอ่อท่านประธานซันหน่อยน้ะ” คุณฟ้าแลบ
ต้องยิ้มแห้งๆ กับแววตาโหดๆ ของท่านประธานซันแล้วอดปาดเหงื่อไม่ได้
“ดีมาก” พูดตอบรับเพียงสั้นๆ แล้วเดินไปมุมหนึ่งที่มีชุดโต๊ะนั่งเหมาะสำหรับ
การทำข้อตกลงครั้งนี้มาก ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อมีตัวประกันแสนสวยอยู่ในอ้อมแขน จะต้องกลัวปะไร
“ยิ้มแบบนี้...” ในที่สุดท่านประธานซันก็จดจำน้ำเสียงใสซุกซนได้
“อ้อ คุณหนูตัวน้อย ฉันต้องปิดปากเธอทั้งด่าฉันว่าตาแก่งี่เง่า ทั้งเห็นความลับของฉันอีก”
หญิงสาวหุบปากเงียบกริบไปทันที ในหูเพียงได้ยินเสียงหัวใจเต้นตึกตักสม่ำเสมอในอกข้างซ้ายของชายผู้โอบอุ้มเธออยู่
พอท่านประธานซันนั่งลง ท่านประธานสมโชคก็กระแทกก้นนั่งลงจนเก้าอี้ลั่นเปรี๊ยะ
ตามมาด้วยคุณฟ้าแลบและคุณย่าต้นอ้อที่นั่งเป็นประธานอยู่หัวโต๊ะ
“นั่งลงแล้วก็ปล่อยหลานสาวผมเสียที” ท่านประธานสมโชคเน้นทุกคำพูดจนพลัง
ความหวงหลานพุ่งกระฉูด
ท่านประธานซันยังไม่คิดจะปั่นหัวใครมากไปกว่านี้ ชายหนุ่มจึงค่อยๆ บรรจงวางร่างเล็กกว่าเขามากลงบนเก้าอี้ข้างๆ
และจัดท่าทางให้คนตัวเล็กที่หน้าแดงเป็นมะเขือเทศสุกไปเรียบร้อย
สายตาผู้เป็นพ่อ ลุง และย่า เหล่มองด้วยแววตาเขม็ง
อ๊ากก หลานข้าอย่าคิดบ้าๆ หาสามีเป็นคนแก่และเลวอย่างไอ้บ้านี่นะโว้ย!
โอ้สวรรค์ลูกพ่อ~
หลานย่าม่ายยย!
ความคิดแต่ละคนกระเจิดกระเจิงไปไกล จนท่านประธานซันซึ่งเปลี่ยนสีตาและประกายตากลับมาเป็นขุ่นมัว หันกลับมาส่งยิ้มให้ทุกชีวิตบนโต๊ะเจรจา
“เอาง่ายๆ เลยแล้วกันน้ะ” ท่านประธานซันเปิดฉากบนโต๊ะเหมือนกำลังจะสรุปผล
ทำทุกใบหน้าแต่ละคนเหวอไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
“ฮ้า ท่านประธานซัน!” ชายหนุ่มในคราบคนแก่หน้าตายิ้มแย้มยกมือขึ้นก่อนพูดเรื่องที่ตัวเองต้องการพูด
“ผมต้องการพูดสองเรื่อง คือ หนึ่ง
รีบถอนธุรกิจอาวุธสงครามกับประเทศทางแถบแอนตาร์กติกซ้ะ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
ถ้าถอนการติดต่อทางนั้นแล้วส่งเอกสารยืนยันไปให้ผมด้วย” ทุกคนอ้าปากค้างอย่างตกตลึง เหมือนชายตรงหน้ามาพูดว่าตัดขาตัวเองซ้ะ ตัดแล้วก็ส่งมาให้ผมตรวจสอบให้แน่ใจด้วย
“นี่มันจะมาก......” ท่านประธานสมโชคยังไม่ทันโวยวาย ท่านประธานซันก็ยกมือห้ามแล้วกล่าวตัดบท
“ถ้าคุณทำได้ ผมจะชดใช้ค่าเสียหายครั้งนี้เป็นมูลค่าหนึ่งแสนล้านบาททันที ในเบื้องต้น ค่าใช้จ่ายหลังจากนั้นผมพร้อมรับผิดชอบ!” ท่านประธานยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่คนอื่นในโต๊ะ
อ้าปากกว้างค้างตลึงไปยิ่งกว่าเก่า
ไม่มีเหตุผลที่ชายตรงหน้าจะต้องมาเสนอข้าเรียกร้องและการชดใช้มูลค่ามหาศาลขนาดนี้
“ผมเชื่อว่าท่านประธานคงไม่ได้มีแค่นี้ใช่ไหม๊?” สายตาของฟ้าแลบจ้องชายฝั่งตรงข้ามด้วยแววตาตึงเครียด
“ใช่ ถ้าพวกคุณถอนธุรกิจอาวุธกับทางประเทศแถบแอนตาร์กติก ผมก็จะถอนด้วย
และผมจะปลดล็อกระบบของปืนฉีดน้ำไม่ต้องมายิงอาคารทำการแต่เงื่อนไขเก้าสิบเก้ารางวัลยังคงเดิม ใครยิงพวกคุณได้ก็ได้รางวัล และการชดใช้เกี่ยวกับข้อเรียกร้องทางด้านการถอนธุรกิจและซ่อมแซมอาคารผมจะรับผิดชอบเอง
ส่วนเงื่อนไขข้อที่สอง……”
ท่านประธานซันหัวเราะเจ้าเล่ห์และเบือนสายตาพราวมาจ้องคนข้างตัว
“ไม่/ไม่/ไม่”
สามเสียงของญาติผู้ใหญ่ประสานขึ้นพร้อมกันจนท่านประธานซันปล่อยก๊ากอย่างไม่เกรงใจ
“ผมต้องการให้ คุณน้ำค้างใส รุ่งรัตติพาคิน ไปเป็นพนักงานแลกเปลี่ยนที่ world haunt เป็นเวลาสามสิบหกเดือน!!!”
เสริมบท
ท่านประธานซัน: ฮ่าๆ ตื่นเช้าๆ ข้าจะเป็นแมลงกินน้ำค้างงงง!
น้ำค้างใส: *&#^!%@&#)__++
โปรดติดตามตอนต่อไป บทที่ 10 ศิษย์ข้าต้องเทพเกรียน!
……………………***
ความคิดเห็น