คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : แก๊งเกรียน!
บทที่ 5 แก๊งเกรียน
ท่านประธานซันเดินย้อนกลับมาทางตลาดที่ห่างออกไปหลายร้อยเมตร
สายตาก็ปรายไปพบกลุ่มวัยรุ่นแก๊งเดิมที่ยืนเรียงแถวทำหน้าจ๋อยต่อหน้าคนบนรถมอเตอร์ไซค์
ที่ชี้หน้าตวาดเสียงลั่นตลาดจนผู้คนแถวนั้นวิ่งหนีกระเจิง
“ไอ้พวกบ้า พวกแกมาทำตัวบ้าอะไรแถวนี้ไปๆ!” ท่านประธานแห่ง world haunt เดินเข้าใกล้ด้วยรอยยิ้มบางๆ พอมีสายตาหลายคู่ของชายวัยรุ่นหันมาสบตาปิ๊งๆ ก็เกิดอาการตัวสั่น
ไปทั้งกลุ่มจนคนบนมอเตอร์ไซค์สบถอย่างหัวเสีย
“พูดแค่นี้มาตัวสั่น พวกแกนี่สวะจริงๆ” ชายชราเผยอยิ้มแวบหนึ่งก่อนก้าวเข้าไปแตะไหล่คน
บนมอเตอร์ไซค์ที่ถึงกับสะดุ้งขนหัวลุกอย่างประหลาด
”ใครว้ะ?” นอกจากคำถามที่ยิงมายังมาพร้อมๆ กับหมัดที่ถูกปล่อยเข้าใส่ใบหน้าของชายชรา
ที่ยืนนิ่งให้หมัดลุ่นๆ กระทบกับใบหน้าดังผัวะสนั่นแต่กลับเป็นคนชกเองที่ร้องแหกปาก
อย่างเจ็บปวด
“พ่อหนุ่ม ว่ากันว่าขิงยิ่งแก่มันยิ่งเผ็ด ปู่ก็ทำนองนั้นแหละ” น้ำเสียงเรียบๆ ทำให้คนที่
ทั้งแขนปวดแปลบหน้าซีดเผือดเหลือสองนิ้ว
คนที่ยืนกดไหล่อยู่ข้างมอเตอร์ไซค์ของเขาแลดูมีราศีจากรอยยิ้มในดวงตาฟ่าสีเทามัว
ในความรู้สึกเขามันกลับแลดูแหลมคมอย่างประหลาด
“ปู่ ผมขอโทษครับ” ลูกน้องอ้าปากค้างอย่างตกตลึงเมื่อได้ยินลูกพี่พูดขอโทษคนเป็นครั้งแรก มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำให้คน คนหนึ่งพูดขอโทษ
แต่ตรรกะนี้สำหรับลูกพี่พวกเขามันเป็นเรื่องยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นสวรรค์
“อื้ม ดีๆ แบบนี้ต้องเอาอีก!” ลูกพี่นั่งมอเตอร์ไซค์รู้สึกวิงเวียน จนแทบล้มลงก้มกราบลงบนพื้น
คนแก่ประหลาดตรงหน้านี่มันอะไรกันว้ะ
นอกจากจะไม่เมตตาปรานีเหมือนคนแก่ทั่วไปแล้วยังยิ้มเหี้ยมหน้าตาย
“ปู่ ปู่ ปู่ อย่า...อย่า...ทำอะไรพวกเราเลยปู่” ลูกพี่ลงจากมอเตอร์ไซค์แล้วยกมือไหว้ท่วมหัว
จนชายชรากะพริบตางงๆ
“อ้าว ไอ้หนุ่มแกทำอะไรข้าหมายถึงพวกแกนี่สัมมาคารวะดี แบบนี้น่าจะสอนอะไรได้อีกมาก!”
ชายหนุ่มวัยมัธยมปลายตาเหลือก
แล้วที่ตรูทำลงไปนี่อะไรเนี่ย นอกจากจะเสียหน้ากับไอ้พวกลูกน้องแล้วยังเสียเกียรติเขาสุดๆ
ชายหนุ่มแทบจะร้องไห้หาแม่ ถ้าไม่ติดตรงชายชราตรงหน้าที่เอ่ยชักชวนพวกเขา
ให้เข้าไปดื่มอะไรร้อนๆ ในร้านแผงเล่กาแฟข้างทาง
พอกาแฟตกถึงท้องชายวัยรุ่นหัวหน้าแก๊งอะไรสักอย่างค่อยระงับเหงื่อชื้นไรผมได้บ้าง
ชายชราตรงหน้าที่นอกจากนมร้อนๆ แล้วยังไม่สนใจอะไรอีก
“ไอ้หนุ่มพวกแกเป็นแก๊งอะไร?” น้ำนมขาวสะอาดถูกกระดกครั้งเดียวชายชราก็เอ่ยถาม
กับชายหนุ่มที่นั่งตัวแข็งฝั่งตรงข้ามด้วยแววตาครุ่นคิด
“ฮ้ะ ปู่ รู้ได้ไงว่าพวกเราสังกัดแก๊ง?” ชายชราอมยิ้มทำให้รัศมีความเหี้ยมลดลงกว่าเดิม
“แกคิดว่าข้าผ่านโลกมากี่ปี…..” ยอดยุทธ์ซันใช้อายุของคุณปู่ดวงเฮ็งมาหักกลบลบไป
จึงถือว่าเขาใช้ชีวิตมานานเกือบร้อยปีเพราะนำอายุเขามารวมกับร่างของชายชรา ฉะนั้นจึงสามารถอ้างได้
โดยไม่ละอายต่อคุณธรรมฟ้าดิน
“แหะๆ พวกเราแก๊งขนมังกร.....!” หลังจากท่านประธานซันพยายามคิดสักพักหนึ่ง
ก็ยังคิดไม่ออก
“ไอ้หนุ่ม ข้าสงสัยมังกรประเพศไหนมีขน?!” ชายหนุ่มยิ้มค้างจ้องชายชรา
“มังกรขน......” ชายชรารีบยกมือห้ามและพูดแซก
“อย่านะโว้ย อย่าคิดจะเล่นมังกรแก้ว แก้วมังกร ยังไงข้าก็ไม่เจอขนอยู่ดีหวะ!”
ชายหนุ่มอ้าปากค้างพร้อมลูกน้องรอบข้างที่หัวเราะแต่พยายามกลั้นจนหน้าแดงก่ำ
“โห่ ปู่ ไม่ให้ชื่อแก๊งขนมังกร แล้วจะให้พวกผมชื่ออะไร!”
ท่านประธานซันเพิ่งจะรู้ว่าแก๊งขนมังกรมีสมาชิกทั้งหมด
สิบหกคน เป็นลูกน้องทั้งหมดสิบห้าคน....ก็ไอ้สิบห้าคนที่จะแย่งเงินพันบาทจากเด็กป. ปลายนั่นแหละ
ส่วนไอ้หนุ่มตรงหน้าก็คือหัวหน้าแก๊ง
“แก๊งกาก~”
ชายชรารู้สึกเหมือนจะมีบรรยากาศดราม่าลอยมาจึงรีบหัวเราะฮ่าๆ แล้วเอ่ยเสียงดัง
“ข้าท่านประธานซันผู้ดีเลิศที่สุดในปฐพีและสามโลก ขอแต่งตั้ง ไอ้หนุ่มมอเตอร์ไซค์เป็น
หัวหน้าแก๊งเกรียน ภายใต้สังกัดของท่านประธานซันผู้ดีเลิศ แล้วขอให้พวกเจ้าเป็นสิบห้าลูกน้องผู้ซื่อสัตย์และ........”
ท่านประธานซันยังคงกล่าวคำเยินยอเสียยาวเหยียด จนชายหนุ่มที่ได้เจอชายชราสุดเพี้ยน
ทำหน้าปลงๆ
“เอาหละสุดท้าย พวกเจ้าจำไว้ให้ดี ไม่ว่าอดีตพวกเจ้าจะเป็นอะไรมาก็ตาม....
แต่นับจากปัจจุบันนี้พวกเจ้าคือผู้พิทักษ์
เมืองหลวง พวกเจ้าคือแก๊งเกรียน.......พวกเจ้าคือเกรียนคุณธรรม ส่วนรวมมาก่อนส่วนตัว
พวกเจ้าคืออนาคตที่สดใสและงดงามของโลกนี้จงจำคำพูดของข้าไว้!”
ท่านประธานซันจบประโยคลงด้วยสีหน้าโล่งอกโล่งใจของกลุ่มอดีตแก๊งขนมังกร
หลังจากการสวดยาวนานเกือบสิบห้านาที
ชายชราก็เรียกบริกรมาคิดเงินรวมทั้งหมดให้อนาคตลูกศิษย์
แล้วเอ่ยทิ้งท้ายให้ทั้งหมดอ้าปากค้าง
“จงเป็นมิตรกับคนหลังห้อง
จงเป็นเพื่อนพ้องกับคนที่จ้องออกไปนอกหน้าต่าง
จงปล่อยวางกับคนที่ในตามุ่งมั่น
จงสร้างสรรค์กับคนที่แตกต่าง
ไว้เจอกันที่นี่เวลาห้าโมงเย็น เจ้าพวกเกรียนคุณธรรม!”
ท่านประธานซันเดินออกจากร้างแผงเร่ข้างทางหายลับไปกับแสงอาทิตย์ยามสายของดวงตะวันในวันที่ท้องฟ้าสดใส
ทิ้งไว้เพียงชายหนุ่มมอเตอร์ไซค์กับเพื่อนพ้องอีกสิบห้าคนที่ก้มหน้านิ่งมองพื้นด้วยแววตา
หลากหลายความรู้สึก
“ในที่สุด.....พวกเราก็เจอยอดปรมาจารย์แล้ว~” ชายหนุ่มหัวหน้าแก๊งเกรียนคุณธรรมถอนหายใจก่อนทั้งหมดจะแยกย้ายกันไปเรียนในสถาบันของตัวเอง.....ชีวิตของพวกเขากำลังจะเปลี่ยนไป จากพลเมืองชั้นสอง.....จากเด็กเดนสังคม....พวกเขาจะลองขอเป็นคนที่ทำเพื่อ.....ตัวเอง
แต่เกิดผลดีต่อคนอื่น....ดูสักครั้ง
ท่านประธานซันเดินโปรยยิ้มเข้าบริษัท world haunt ตั้งแต่ชั้นแรกยันชั้นทำงานของเขา ทำเอาพนักงานหลายพันชีวิตหวาดผวาไปตามกัน
ไม่รู้เช้านี้ท่านประธานไปกินอะไรผิดสำแดงมาอีกรึเปล่า
“ดวง....ท่านประธานซัน!” หญิงชราวัยเดียวกับท่านประธานซันร้องทักทายในระหว่างที่ชายชราเดินออกจากครอบแก้วใสคล้ายกระเช้าที่นำผู้บริหารระดับสูงขึ้นมาสู่ชั้นทำงานบนสุดของตึก world haunt
“ว่าไงคุณปลาบู่ เอ้ย คุณจันทร์ผ่อง” ชายชราส่งยิ้มให้คนวัยเดียวกันโดยทำเหมือนไม่สนใจรอยยิ้มแข็งค้างของคนหน้าตาแจ่มใส
“ขออภัยท่านประธานที่เคารบเล็กน้อย มีคนมารอพบท่านตั้งแต่คลึ่งชั่วโมงก่อน” ท่านผู้บริหารหน้าปลาบู่กระแทกเสียงใส่ชายชราที่ทำเป็นไม่สนใจและเดินสะบัดตูดผ่านหน้าหญิงชราไป
จนทำให้คนแก่จริงๆ ต้องยกมือขึ้นกุมขมับ
“หมานัดไว้เหรอ?” หญิงชราอดหัวเราะไม่ได้กับชื่อย่อสั้นของเลขาฯหน้าห้อง
ที่สั้นแล้วสั้นอีก
“เปล่า เป็นคุณ อหวินหงหลิน ตัวแทนมาเจรจาเรื่องอาวุธรุ่นล่าสุดที่ส่งให้ทางภาคความมั่นคงของจีน”
ท่านประธานซันลากเสียงยาวรับทราบก่อนจะหันมาส่งถุงของในมือให้หญิงชราแล้วกล่าวสั้นๆ
“ฝากด้วยน้ะพี่ปลาบู่แจกไปให้เกลี้ยง ไม่พอเอาเงินบริษัทซื้อแจก” ท่านประธานซันเงียบไป
พักหนึ่งก่อนเผยยิ้มกว้าง
“สุดสัปดาห์นี้เราจะไปดูงานที่ชลบุรีแล้วจะบินไปต่อที่กาญจนบุรีแล้วไปจบที่แม่ฮ่องสอน
ฝากแจ้งประชาสัมพันธุ์ด้วยน้ะ” แม้หญิงชรายังคงครองสีหน้าบิดเบี้ยวแต่ก็ยังต้องเอ่ยถามคนที่หันหลังให้
“เดี๋ยวดวง...เอ่อนั่นแหละ ท่านประธานซัน เราจะใช้เวลากี่วัน?” ท่านประธานสาวเท้าก้าวต่อ ก่อนตอบอย่างไม่แน่ใจ
“อย่างมากไม่เกินสองอาทิตย์หรอกมั้ง” หญิงชรากลอกตา เรื่องไปเที่ยวแล้วท่านประธานทุ่มหมดหน้าตักถึงไหนถึงกัน...จริงๆ
ประตูห้องทำงานสุดหรูถูกมือหนาผ่านกาลเวลาผลักเข้ามาแล้วคิ้วขาวโพลนต้องเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ
ในห้องทำงานส่วนหน้าซึ่งเป็นโต๊ะรับแขกชุดใหญ่ ด้วยโซฟาหนังสีขาวขัดมัน
ที่ยัยหลานสาวตัวแสบชอบมานอนเล่นจนผล็อยหลับไป
เวลานี้มีคนสองคนกำลังสนทนากันอย่างสุภาพ ฝ่ายต้อนรับแขกก็คือเจ้าเลขาฯหมาป่าของเขา ส่วนผู้เป็นแขก
ท่านประธานซันเลิกคิ้วขึ้นเล็กๆ
ชายหนุ่มไม่แสดงอาการออกทางสีหน้า
เมื่อคนในห้องเห็นว่าเจ้าของห้องกลับมาแล้วหมาป่าจึงรีบเดินปาดเหงื่อตัวลีบ
เข้ามากระซิบเสียงเบากับท่านประธานซัน
ที่ส่งยิ้มให้ฝ่ายตรงข้าม
“คุณอหวินหงหลินมารอท่านประธานตั้งแต่แปดโมงคลึ่งแล้วครับ” ชายชราหัวเราะเบาๆ ก่อนก้าวเข้าไปทักทายตามฉบับของชาวตะวันตก ประสานักธุรกิจในวงการอันตราย
“ไม่ทราบว่าท่านประธานไปไหนมาแต่เช้าค้ะ?” เพียงคำถามแรกของคนในตาหงเรียวสง่า
ก็ทำให้ชายหนุ่มได้อมยิ้ม
ร่างบางในสูตรสีขาวสั้นเหมือนนักธุรกิจทั่วๆ ไป สูตรสีขาวตัดเรือนผมสลวยสีน้ำตาลอ่อน
แกมดำและดวงเนตรสีน้ำตาลใส
ดวงหน้าเรียวรูปไข่กอบด้วยคิ้วงามราวเส้นโค้งของขอบฟ้า ในตาลึกซึ้งเหมือนห้วงทะเล
ดวงดารา ปลายจมูกเชิดตรงแสดงเชื้อสายเลือดและความสูงศักดิ์ เรียวปากอิ่มบางสีเชอร์รี่อ่อน ทำให้นักธุรกิจด้านอาวุธสงครามแห่งภาคพื้นแผ่นดินซึ่งมีประชากรเป็นอันดับหนึ่งของโลกตั้งแต่อดีตตราบปัจจุบันแลดูสะเหมือนหงสาผู้งดงามแต่กลับแฝงด้วยเงื้อมกงเล็บและคมเขี้ยวของจอมมังกรร้าย…..
อหวินหงหลินเป็นเพียงเด็กสาววัยสิบหก ที่ก้าวขึ้นมาสืบทอดกิจการใหญ่ทุกสาขา
ของตระกูลอหวินสายหลักและยังสามารถครอบงำทุกตระกูลสายรองและสายย่อยได้อย่างเบ็ดเสร็จ
ทำให้ร่างบางข้างหน้าได้ชื่อว่า.....อัจฉริยปีศาจแห่งแดนมังกร……..
เสริมบท
ท่านประธานซัน: สำหรับข้า นางเสือร้ายแบบนี้ตอนอยู่บนเตียง.....อ้า!!!
นักเขียน: *&^%#$!*@()$+
โปรดติดตามตอนต่อไป บทที่ 6 ผมคือท่านประธานซัน ไม่ใช่เสือแก่ไร้น้ำยา!
……………………..***
ความคิดเห็น