ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สร้างฮาเร็มในต่างโลก 1

    ลำดับตอนที่ #4 : เรามาแต่งงานกันน้ะ

    • อัปเดตล่าสุด 22 ธ.ค. 63


    บทที่ 4 เรามาแต่งงานกันนะ!

     

     

       ท่านประธานซันนั่งทอดอารมณ์เอื่อยๆ หลังจากตื่นขึ้นมาในสภาพลมปราณสมบูรณ์เต็มร้อยดวงเนตรเหนือมนุษย์หลายร้อยเท่ากวาดมองทะลุกระจกลงไปมองเห็นผู้คนพลุกพล่าน

    บนท้องถนน

    แสงตะวันเรืองรองสาดจับขอบฟ้าสีครามแก่ยามเช้าแบบนี้เป็นทัศนียภาพอันงดงาม

    ที่หาชมได้ยากในมหานครที่ต่างแข่งขันด้วยความวุ่นวายและเห็นแก่ตัว

    ชายชรายกยิ้มเมื่อสัมผัสได้ถึงคนที่ผลักประตูผัวะเดินเข้าห้องมายืนตรงหน้าแล้วถามเสียงเข้ม

     

    ปู่ หนูน่ารักป้ะ? ชุดยูนิฟอร์มของมหาวิทยาลัยระดับประเทศเมื่อถูกสวม

    บนร่างบางระหงของหลานสาวตัวแสบแล้ว

    เสริมให้แสงดาวไร้มลทินแลดูงดงามมากกว่าในยามปกติอยู่มากนัก

    จนยอดยุทธซันถึงกับกลืนน้ำลายกับก้อนซาลาเปาน่าหลงใหลคู่นั้น

    ผิวขาวละอองชมพูทำให้เฟรชชี่ปีหนึ่งของคณะสัตวแพทย์ดูน่ารักและสวยบาดใจ

    เหนือใครหลายล้านคน

     

    อื้ม น่ากินมาก!” ยอดยุทธซันรีบปิดปากแล้วกระโดดขึ้นจากโต๊ะทำงาน

    ปู่ ว่าไงน้ะ!” แสงดาวเบิกตากว้างหน้าแดงจรดใบหู ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย

    ที่แสงดาวไม่ได้เป็นคนใสๆ เพราะโลกนี้มันโหดร้าย

    ไอ้ปู่จอมลามกเอ้ย!”

    ชายหนุ่มในร่างแก่รีบเผ่นออกทางประตูหลังห้องทำงาน หนีหลานสาวกำมะลอที่โกรธจัด

    เลือดขึ้นหน้า.....และในภายหลังพอคุณภิภพไถ่ถามแสงดาวก็เอาแต่หน้าแดงก่ำ

    แล้วหักนิ้วด้วยความโกรธ

    ในแว่บหนึ่งดวงตาสีเทาที่ไม่เคยฟ่าฟางของชายชรากลับทอแสงสีดำสนิทอมฟ้าอ่อนจางๆ

    จนแสงดาวไม่ทันสังเกต

     

    ท่านประธานซันเผ่นหนีความในใจที่เผลอพูดไปให้หลานสาวตัวแสบได้รับรู้

    ตาลีตาเหลือกลงมาทางบันไดหนีไฟฉุกเฉิน

    ในระหว่างทางชายชราหายใจหอบเล็กๆ แต่ด้วยกำลังภายในอันล้ำเลิศทำให้ร่างที่ล่องลอย

    เหนือพื้นบันไดสิบเซนติเมตรคงลอยลงมาจนถึงชั้นล่างได้อย่างปลอดภัย

    แอบชะโงกศีรษะและสอดสายตาซ้ายขวาเล็กน้อยก่อนจะปั้นมาดเข้มเดินออกไปสู่ฟุตบาท

    และไอเย็นฉ่ำยามเช้าของมหานครหลวงของประเทศ

    ตามไรทางที่ผ่านไปยามเช้าท่านประธานซันเหลือบสายตาฟ่ามัวมองวิถีชีวิตความเป็นไป

    ของเมืองหลวงแสนวุ่นวายแต่เช้า

     

    ไม่ว่าจะตลาดสดที่อยู่ห่างออกไปชาวจีนแผ่นดินใหญ่ต่างส่งเสียงสนทนาล้งเล้ง

    แลกเปลี่ยนสินค้า  ไม่แพ้แม่ค้าร้านตลาดที่แข่งขันเรียกลูกค้าสลับซุบซิบนินทาเรื่องทั่วไปประจำวันซึ่งชายหนุ่มในร่างไม้ใกล้ฝั่งก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง

    เมื่อเวลาผ่านไปในมือก็มีของติดไม้ติดมือมาจนเขาต้องมัดรวมถุงผ้าสารพัดขนาดขึ้นแบก

    บนแผ่นหลังแล้วเดินต่อไปด้วยความครึ้มอกครึ้มใจ เพราะนี่มันถือเป็นครั้งแรกทั้งสองร่างที่เขาได้มีโอกาสมาเดินตลาด

     

    คุณปู่ค้ะ ช่วยซื้อดอกไม้หน่อยค้ะ แม่หนูตื่นมาจัดตั้งแต่ตีสองเลยนะค้ะ

    ได้โปรดเถอะค้ะ ก่อนซันกุ้ยเซียนในคลาบของชายชราที่เปลี่ยนมาสวมชุดลำลอง

    ด้วยเสื้อยืดตามสมัยนิยมและกางเกงขายาวเข้ารูปกันสีขาวอ่อนทั้งชุดเมื่อกอบรวมกับท่าทางทะมัดทะแมงและดวงตาที่เปลี่ยนแปลงเป็นสีดำสนิทอมฟ้าจางๆ ทำให้ชายชราประหลาดตรงหน้ากลายเป็นจุดสนใจของคนช่างสังเกต

    หืม แม่หนูตัวน้อย ดอกไม้นี่นะเหรอ? ท่านประธานซันย่อตัวลงมาให้ความสูง

    ได้ระดับเดียวกับเด็กสาววัยประถมที่จ้องตอบด้วยดวงตาใสแป๋ว

    เมื่อเห็นดวงตาสีดำใสยังคงอ้ำอึ้งและเด็กหญิงตรงหน้าไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ชายชราก็ยืนขึ้นและคว้าตะกร้าดอกไม้มาจากมือเล็กแล้วยัดธนบัตรมูลค่าหนึ่งพันบาทใส่มือเล็กที่ยังนิ่งค้าง

    อยู่ที่เดิม

    ถือว่าเป็นเงินค่าขนมน้ะแม่หนูตัวน้อย ท่านประธานซันเดินลับเหลี่ยมตลาดหายไปแล้วเด็กหญิงตัวน้อยจึงเพิ่งรู้ตัว

     

    ง่า......ส่งเงินในมือเธอมาให้พวกเรา!” พลันรอบตัวเด็กหญิงตัวน้อยก็ถูกรายล้อม

    ด้วยชายวัยรุ่นนับสิบคน

    เด็กหญิงตัวสั่นเทา...นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตการณ์แบบนี้กับเธอ....หลายครั้งที่เกิดเหตแบบนี้ขึ้นและผลลัพธ์ก็คือเธอเดินกลับบ้านด้วยท้องและกระเป๋าที่ว่างเปล่า

     ทำให้มารดาที่ไม่สามารถจะเคลื่อนไหวท่อนล่างได้สะดวกต้องร่วมร่ำไห้ไปกับลูกสาวตัวน้อย.....ที่ไม่สามารถขัดขืนกฎปลาใหญ่กินปลาเล็กได้

     

    อ้าว แม่หนูตัวน้อย ข้าลืมว่าเดี๋ยวเจ้าอาจจะไม่มีตะกร้าไปใส่ดอกไม้รอบใหม่

    ข้าเลยเอาตระกร้ามาคืน จู่ๆ ท่านประธานซันก็เดินกลับมาแล้วร้องโพล่งอย่างนึกได้

    เมื่อเห็นเด็กสาวที่เขาเสียมารยาทคว้ามาทั้งตะกร้าขายดอกไม้ของเธอ

    กลุ่มชายวัยรุ่นสะดุ้งและเหลียวซ้ายแลขวาอย่างลุกลี้ลุกลน

    แล้วพวกเจ้ามีอะไรรึหนุ่มน้อย พูดพลางยิ้มร่าแล้วเดินไปใช้มือข้างที่ไม่มีปลาหมึกเผาตบไหล่ชายที่ข่มขู่เด็กสาวตัวน้อย จนร่างสูงงอลงเป็นกุ้งเผา นอกจากนี้ผู้ที่ถูกตบไหล่เบาๆ ยังรู้สึก

    จุกเสียดจนร่างร่วงลงไปร้องครางด้วยความทรมานน้ำตาไหลพรากอยู่บนพื้น

    ยอดยุทธซันมือไม้ปั่นป่วนเมื่อกี้เขาอารมณ์ดีเกินไปที่ได้รับดอกไม้ขนมและอาหารมากมาย

    ที่เขายังไม่รู้จัก จึงเผลอตบไหล่สหายน้อยเหล่านี้ด้วยความรุนแรงเต็มระดับปราณขั้นมนุษย์

    เฮ้ย พวกเรา~” เหล่านักเรียนชายเตรียมเผ่น แต่ยอดยุทธซันก็ทำเพียงแผ่ลมปราณเหนียวหนืดออกไปล็อกเป้าหมายจนไม่มีใครสามารถขยับเท้าได้แม้แต่คนเดียว ทำให้ดวงตาของแต่ละคนตื่นตระหนกสุดขีด

    ท่านประธานซันรีบเดินเข้าไปพยุงร่างผอมบางของเด็กหนุ่มที่ตัวสั่นสะท้านเมื่อมือใหญ่

    ของชายชราสัมผัสไหล่

    ขอโทษทีพ่อหนุ่ม เมื่อกี้ปู่เผลอใช้แรงเกินหน่อย พูดพลางหัวเราะฮ่าๆ

    ก่อนยื่นตะกร้าส่งคืนให้เด็กหญิงที่รีบพนมมือไหว้ขอบคุณชายชราตรงหน้าที่สะเหมือนไม่รู้ตัวว่าได้ช่วยเหลือเธอจากวิกฤตแห่งชีวิตครั้งหนึ่ง

    คุณปู่ค้ะ เงินนี่....มากเกินไปค่ะ เด็กหญิงยื่นธนบัตรมูลค่ามหาศาลสำหรับเธอคืนให้ชายชรา

    ที่เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย

    ท่านประธานซันยกยิ้มและปลายตาจ้องกลุ่มเด็กหนุ่มที่พยายามจะตะเกียดตะกายหลบหนี

    จากแรงดึงดูดลึกลับที่แผ่ออกมาจากร่างกายของชายสูงอายุตรงหน้า

    คุณปู่ครับ...ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะนะครับ พวกเราจะไม่ทำอีกแล้ว!”

    ชายหนุ่มที่กุมหัวไหล่ด้วยความสั่นกลัวร้องบอกชายชราเสียงสั่นเทาปากคอยังคงกระทบกันอย่างต่อเนื่อง

    หืมปล่อย ปู่ไม่ได้ทำอะไรน้ะ หลานๆ จะไปก็รีบไปสิเดี๋ยวไปเรียนไม่ทันน้ะ ชายชรายิ้มแย้มบอกหน้าตาย ส่วนฝ่ายชายวัยรุ่นทั้งสิบห้าคนได้แต่ตาเหลือก

    โอ้...นางฟ้า~” จู่ๆ ชายชราก็ร้องโพล่งเสียงดังจนทำเอาเด็กหญิงขายดอกไม้และเด็กหนุ่ม

    ทั้งสิบห้าคนที่ทำหน้าเจียนจะร้องไห้ได้แต่ผวา

    ท่านประธานซันขยับตัววูบเดียวร่างก็กลายเป็นหมอกควันเบาบางสลายวับไปต่อหน้าต่อตา

    ชายวัยรุ่นและเด็กสาวที่เผลอปล่อยตะกร้าดอกไม้ว่างเปล่าหลุดมือ

    ผีหลอก!”

     

     

    ท่านประธานซันเดินทอดฝีเท้าเข้าหาร่างบางที่เหม่อสายตาจ้องไปในสายน้ำเอื่อยๆ

    ซึ่งไหลตัดผ่านเมืองหลวงของประเทศ

    ลำน้ำกว้างๆ ทำให้ลานสายตาขยายขอบเขตของผู้จ้องมอง

    สายลมพริ้วเรือนผมสีดำราวไหมนิลเนื้อละเอียดปลิวไปกับสายลมริมน้ำ ในย่านนี้

    ค่อนข้างไร้คนสัญจร

     แม้แต่หาบเร่หรือแผงลอยยังตั้งอยู่ห่างๆ กัน

    ชายหนุ่มเปลี่ยนประกายตาของตัวเองเป็นดวงเนตรสีนิลกาลอมไพลินจางๆ

    พร้อมก้มลงไปกระซิบข้างหูเล็กของคนที่กำลังเหม่อลอย

     

    โอ้ แม่สาวน้อย เจ้าจะให้เกียรติข้าได้ส่งคำขอหรือไม่.......

    แต่งงานกันน้ะ คุณหนูตัวน้อย!!!”

    เกิดความเงียบเกินหนึ่งนาที พลันเหมือนภาพจะกลายเป็นเชื่องช้าลง ฝ่ามือเรียวหมุนกลับหลังและกระทบกับใบหน้าของท่านประธานซันเต็มแรง

    เพียะ!

     

    ดวงตากลมโตจ้องชายสูงวัยตรงหน้าแล้วม่านตาก็ขยายขึ้น

    กรี๊ดๆ ไอ้แก่ลามก ช่วยด้วยค่ะ!ไอ้แก่ลามก!!” หญิงสาวกรีดร้องจนผู้คนรอบตัวแตกฮือ

    วิ่งกรูเข้าหาชายชรา

    ที่ทำเพียงตีหน้าตายแล้วตะโกนแข่งกับเสียงร้องกรี๊ดๆ ของคุณหนูตัวน้อยข้างหน้า

    อย่าตกใจครับ หลานสาวผมสติไม่ค่อยสมประกอบ อย่าตกใจครับเธอไม่ปกติ

    อย่าเข้าใจผิดครับ ท่านประธานซันแข่งขันแหกปากลวงโลกกับหญิงสาวตรงหน้าที่หน้าซีดสลับแดงเพราะความโกรธที่แล่นขึ้นสู่ใบหน้าจนร่างบางสั่นระริกไปทั้งตัว

    ผู้คนรอบข้างเริ่มเกิดอาการไทยงง เนื่องจากไม่รู้สมควรจะเชื่อใครจึงได้แต่ยืนลังเล

    ท่านประธานซันทำเนียน รีบย่อตัวลงให้เสมอกับคนที่นั่งอยู่บนล้อเข็นแล้วโอบแขนรอบเอวเล็กจนดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจสุดขีด

    โอ๋ๆ ไม่เป็นไรน้ะ ปู่อยู่ตรงนี้แล้ว!” เหมือนละครฉากใหญ่จะจบลงด้วยความสุขของทุกฝ่าย ชาวบ้านโดยรอบจึงสลายตัวด้วยรอยยิ้ม แต่ร่างบางและชายชราปริศนากำลังเกิดโศกนาฏกรรมน้ำตาตก

    ร่างบอบบางสั่นสะท้านและปล่อยหยดน้ำใสไหลรินจากดวงตากลมใสที่สั่นระริก

    ริมฝีปากบางสีชมพูสั่นอย่างพูดไม่ออก

    อืม...คุณหนูตัวน้อย ขาของเธอคงขยับไม่ได้มาสักพักหนึ่ง ท่านประธานซันคุกเข่าลง

    ก่อนวางมือบนน่องเรียวจนคนตัวบางสะดุ้งเฮือกด้วยความตื่นตระหนก

    คุณ.....คุณปู่อย่า...อย่ายุ่งกับคนพิการอย่างหนูเลยน้ะ ท่านประธานซันคล้ายจะเคยได้ยินน้ำเสียงใสซุกซนนี้ แต่ด้วยสมองแบบชราภาพทำให้เขาหลงลืมไปแล้ว

    ถ้านี่เรียกว่าพิการ แล้วคนที่ธาตุไฟแตกซ่านไม่เรียกว่าคนที่มีแต่ร่างไร้วิญญาณเลยรึ?

    ท่านประธานซันเงยหน้าขึ้นสานสายตาคู่กลมใสที่ทำน้ำตาแห้งได้เหมือนสั่งหยุด

    เธอมองชายชราตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก

    ค้ะ....อะไรนะ? ท่านประธานซันไม่ได้สนใจคำพูดของหญิงสาวมากนัก

    ชายหนุ่มในคราบสูงวัยแผ่พุ่งลมปราณเข้าสู่เส้นโลหิต เส้นเอ็น กระดูกและกล้ามเนื้อทุกส่วน

    บนลำขาเรียวเล็ก

    ลมปราณหมุนวนเป็นคลื่นพลังสายอบอุ่นแผ่ขยายทะลุทะลวงหุ้มห่อทั้งลำขาใต้ผ้าคลุมสีขาวอ่อน

    ความร้อนที่แผ่ไปทั้งท่องขาเล็กเปรียบสะเหมือนไออุ่นควันบางลูบไล้ผ่าน

    พร้อมกับน้ำเสียงทุ้มต่ำที่แว่วผ่านมาตามสายลม

    คุณหนูตัวน้อย มารอเราที่นี่ทุกเช้า ไม่เกินสามสัปดาห์อาการของเธอจะหายสนิท

    ท่านประธานซันกลายเป็นภาพติดตาหายวับไปในครองสายตาที่จ้องตลึงของหญิงสาว

    ซึ่งทำได้เพียงกะพริบตาอย่างงุนงมและเปี่ยมด้วยความสงสัยจากจิตใจเบื้องลึก

    ติ๊ดๆ

     

    มือเรียวรับโทรศัพท์ในกระเป๋าข้างตัวแล้วโต้ตอบกับคนในสายเพียงสั้นๆ

    ค่ะ จะรีบเข้าบริษัทให้เร็วที่สุด รอแป๊บน้ะค้ะท่านประธาน เหมือนคนในสายบ่นพึมพำ

    อะไรบางอย่างก่อนสายจะตัดไป

    หญิงสาวได้แต่นั่งนิ่งจ้องสายน้ำที่หมุนระลอกกลายเป็นลูกคลื่นสีขาวและนึกถึงคนประหลาด

    ที่เรียกเธอว่า......

    คุณหนูตัวน้อย!

     

     

    เสริมบท

     

    นักเขียน: โอ้ คุณหนูตัวน้อย นี่เธอชอบแบบผู้ชายอมตะเหรอ หญ้าอ่อนๆ อย่างเธออะ~

    คุณหนูตัวน้อย: ว้าย นักเขียนแมวๆ ไปตายซ้ะ!

    เอฟเฟล็กพลังคลื่นน้ำสาดใส่!!!

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป บทที่ 5 แก๊งเกรียน

     

     

     

    …………………..***

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×