คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เรียกข้าว่าท่านประธานซัน
บทที่ 2 เรียกข้าว่าท่านประธานซัน!
ผืนฟ้าโรยม่านรัตติกาลแต่งแต้มด้วยดวงดาวหลายล้านดวงลงคลุมทั้งโลก
ให้ตกสู่ความมืดและแสงระยิบระยับของดวงดาราแสนไกล
ลมเย็นพัดแรงขึ้นตามความดันอากาศกดต่ำลง ในหูแว่วเสียงฟ้าร้องไกลๆ
ดั่งพร้อมมีสายฝนโปรยปรายลงมาได้ทุกเมื่อ
บนทางเดินเท้า ชายชราในสูทดำสนิทก้าวเท้าเหยียบพื้นอย่างมั่นคง
สายลมรอบตัวกระพือชุดสูทและเส้นผมเพียงไม่กี่กระจุกให้สะบัดไหวตามกระแสลม
หลังเจ้าสำนักปราณวินซีเรียตัดสินใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น และพร้อมเริ่มต้นชีวิตใหม่...
แม้ว่าร่างนี้มันจะใกล้สิ้นอายุขัยเต็มทีแล้วก็ตาม
เท้าพาร่างสูงใหญ่มุ่งสู่คฤหาสน์นอกเมืองหลวงที่ห่างออกไปร่วมสิบกิโลเมตร
ชายชราผู้ก้าวย่างบนทางไร้สิ่งรบกวนไม่นึกใส่ใจเรื่องรอบตัว
ยิ่งในยามนี้จิตวิญญาณภายในตกสู่ภวังค์ลึก
ซันกุ้ยเซียนครุ่นคิดจนกลายเป็นหมกมุ่น....
ก่อนอื่น เขาต้องรับผิดชอบธุรกิจของไอ้แก่นี่ให้ได้ก่อน และหลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที....
แม้เขาได้สังขารชราภาพ เสมือนเสียเปรียบวิญญาณแท้จริงของร่าง
ทว่าคลังปัญญาและเล่ห์ลู่ธุรกิจมากมายมหาศาล
กลับถูกสั่งสมมหาศาล เขารู้สึกดั่งตนยกระดับจิตวิญญาณขึ้นอีกครั้ง
ชายหนุ่มเรียบเรียงความคิดใหม่อีกครั้งเพื่อตัดสินใจกับธุรกิจของเจ้าของร่าง....
กล่าวว่าธุรกิจอาวุธสงครามเป็นสีดำ....มันก็ไม่เชิงนัก เพราะผู้ประกอบธุรกิจสาขานี้แข็งแกร่งเช่นคุณเจริญ ชำนาญสรรพกิจนั้น นับว่าหายากมากในโลกเล็กๆ ใบนี้
จากความทรงจำและการคร่ำหวอดหลายทศวรรษทำให้ชายหนุ่มได้รับคุณประโยชน์
นับอนันต์
ร่างสูงเก้าขึ้นสู่ทางเดินเท้าข้ามแม่น้ำสายใหญ่ที่กั้นแบ่งเขตแดน
ระหว่างเมืองหลวงกับเขตนอกพระนคร....เรือนร่างสูงโปร่งยังคงก้าวตรง
มุ่งไปเบื้องหน้า
ริมฝีปากไร้หนวดเคราผุดรอยยิ้มชนิดหนึ่ง
“เฮ้ย หยุดนะโว้ย!” เงาดำหลายคนกระโจนพลิกตัวขึ้นจากขอบสะพานแล้วจ่อจี้
มีดขาววับเข้าโอบล้อมชายชราที่หยุดฝีเท้าก้าวย่างลง
“ถ้าขยับมึงตายแน่!” กลิ่นสุราโชยหึ่งมากับสายลมแรง
แต่ต้นที่ถูกจี้และกระชับวงล้อมเข้าหาตัวด้วยคมมีดนับสิบเล่มของชายฉกรรจ์โพกผ้าดำ
รอยยิ้มแปลกๆ ของชายชราผู้ถูกสลับวิญญาณก็ยังคงประดับ
บนใบหน้าเหี่ยวย่นราวไม่เห็นสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ในสายตา
“แน่ใจแล้วเรอะจะปล้นข้า?” เป็นครั้งแรกที่แพะอ้วนของเหล่าวัยรุ่นคึกคะนอง
เอ่ยขึ้นด้วยยิ้มไม่คลายจากดวงหน้าแก่ชรา
“หุบปากเหี่ยวๆ แล้วส่งของมีค่ามา!” ชายร่างบึกบึน
ท่าทางคล้ายหัวหน้าแก๊งทรชนเอ่ยข่มขู่พร้อมยกแขนขึ้นเบ่งมัดกล้ามเป็นลูกๆ
ชายชราถอนใจเฮือกก่อนคว้าอุปกรณ์บนเอวขึ้นมากรอกเสียงลงไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
แต่ส่งผลให้เหล่าไวร้ายตาเหลือก
“แผนลุล่วง หลอกล่อเป้าหมายออกมาครบแก๊ง ตำรวจน้ำพร้อมสายตรวจอากาศ
ล็อกเป้าหมาย ขอหน่วยปราบปรามอาชญากรรมเข้าจับกุม!”
ตูม! ตูม! ตูม!
สะเก็ดน้ำแตกกระจายเป็นคลื่นสูงหลังชายฉกรรจ์นับสิบรีบตาลีตาเหลือกพุ่งหลาวลงสู่แม่น้ำใหญ่และพากันว่ายหนีไม่คิดชีวิต
อาจเป็นด้วยโชคช่วย ในหูแว่วเสียงกรีดร้องของสัญญาณไซเรนลอยมาตามลม
หากโจรเล็กโจรน้อยเหล่านี้ตรวจสอบให้ละเอียดและใจเย็นสักนิด
ก็จะพบว่าสิ่งที่รวบอยู่ในมือของเจ้าสัวชราเป็นเพียงกระเป๋าบรรจุโทรศัพท์
“หึ หึ ข้าถามแล้ว ว่าพวกเจ้าจะเอาจริงๆ เรอะ!”
ชายชราเช็ดมือกับกระเป๋าสูท ก่อนสาวเท้าก้าวต่อไป พลางผิวปาก
คลอไปกับสายลมพัดโหมรุนแรงขึ้น…
…
บริษัท world haunt
คุณภิภพยกโทรศัพท์ขึ้นติดต่อหาลูกสาวบุญธรรม รอเป็นนานสองนาน
กว่าปลายทางจะรับสาย
“คะพ่อ....หนูง่วงจะตายอยู่แล้ว?” ลูกสาวกรอกเสียงสะลึมสะลือมาตามสายโทรศัพท์
คุณภิภพได้แต่เหลือกตาระอา
“ดาว พ่อบอกเฝ้าปู่ นี่ทุ่มกว่าแล้วนะ ปู่ยังไม่ออกจากห้องตรวจอีกเหรอ?”
“โหย พ่อไม่ต้องกลัวปู่หายหรอกน่า อาจเผลอหลับในนั้นก็ได้ ถ้าออกมาแล้ว
คงเรียกหนูตื่นเองแหละ” ภิภพทำหน้าปลง หาสาระจากคำพูดลูกสาวไม่ได้สักคำ
“ขอให้มันจริง ปู่หายแกไปตามหานะ” คุณภิภพเอ่ยเย้าเด็กสาวปลายสาย
“ได้เลย ปู่แก่ขนาดนั้นถ้าเดินออกจากโรงบาลไหว หนูยอมตามหาเลย!”
แสงดาวโต้ตอบพ่อบุญธรรมด้วยความเคารบรักคุณปู่สุดหัวใจ
คุณภิภพพับเก็บคอมพิวเตอร์พกพาและจัดการเคลียร์เอกสาร ปากก็เอ่ยกับปลายทาง
“ยังไงก็ไปดูปู่บ้างยัยหนู เดี๋ยวแม่รอกินข้าวนาน”
ปลายสายไม่ได้ตอบรับ คุณภิภพได้ยินเสียงสอบถามของบุตรสาวบุญธรรมอยู่สองสามคำ
ก่อนตาเหลือกเมื่อได้ยินลูกสาวร้องโวยวาย
“ฮ้า....ว่าไงน้ะค้ะ คนแก่ในห้องนี้ออกไปเมื่อชั่วโมงที่แล้ว!” หลังจากได้ยิน
เพียงประโยคนี้ สายก็ถูกตัดฉับ ผู้เป็นพ่อทำตาปริบๆ
แล้วคิดในใจ
แสงดาวไม่ค้นหาคุณปู่จากระบบสัญญาณติดตามตัว
แม้คุณภิภพจะคิดได้และค่อยๆ ค้นหาอย่างใจเย็น แต่ผิดกับแสงดาวลิบโลก
…
ในโรงพยาบาล
หญิงสาววัยสิบแปดในชุดเสื้อแขนยาวสีฟ้าอ่อนสกรีนตราสถาบันชื่อดัง
ของเมืองหลวง เข้าชุดกับกางเกงวอมสีเทาอ่อนที่สวมอยู่
ดวงตาคมใต้แพรขนตาล้อมกรอบดวงหน้าสวยอย่างหาตัวจับยาก
ริมฝีปากรูปกระจับสีเชอรี่อ่อนจมูกเล็กโด่งได้รูปงาม
คิ้วโค้งดำสนิทประดับบนดวงหน้าเนียนรูปไข่ซึ่งฉายความยุ่งยากใจ
จนดวงเนตรคมๆ โชนแสน ริมฝีปากบางก็บ่นไปถึงคนแก่ประจำบ้านที่ชอบสร้างความวุ่นวาย....
ร่างระหงกางร่มรถจักรยานเหาะแล้วปั่นไปตามเส้นทางเดินเท้า
อย่างไม่กลัวผิดกฎหมาย.....ไม่ต้องคิดอะไรมาก
ครอบครัวชำนาญสรรพกิจเป็นตระกูลอภิมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองไทย
ทำให้เกวลิน ชำนาญสรรพกิจ หรือคุณหนูแสงดาว
มักชาชินกับการแหกกฎหมายอยู่บ้าง
จักรยานพุ่งผ่านม่านฝนตกพรำลงมาบดบังทัศนวิสัย
จนทำให้คนปั่นจิ๊ปากหงุดหงิด
ด้วยเส้นทางมากมายส่งผลให้แสงดาวต้องหยุดคิดและตัดสินใจอยู่แทบจะทุกครั้งที่เจอทางแยก
นอกจากปู่บ้าจอมขี้เกียจจะชอบโดดงานแล้วสิ่งที่ชายชราโปรดปรานไม่แพ้กันก็คือการกลับบ้านในคฤหาสน์นอกเมืองที่อยู่ห่างออกไปเกือบสิบกิโล
แสงดาวปรับจักรยานเป็นระบบปั่นอัตโนมัติส่วนตัวเองก็สอดส่ายสายตาหาคนแก่เจ้าปัญหา
ไปตลอดทางสายเล็กที่จักรยานปาดน้ำฝนจนกระเซ็นเป็นสายยาว
…
ซันกุ้ยเซียนแหงนหน้าคอตั้งบ่ามองคฤหาสน์บนเนินสูงแล้วได้แต่กลืนน้ำลาย
อย่างตื่นตลึงกับความอภิมโหฬาร
แว่บหนึ่ง ละม้ายความรู้สึกบ่งว่าภาพตรงหน้าไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเคยเห็น
คฤหาสน์หรูถูกจัดสร้างตามรูปแบบของปราสาทในยุคโบราณโดยชูยอดแหลมทะลุเมฆ
แต่งแต้มด้วยสีสันสีครีมสดใส
เพียงพื้นที่ส่วนตัวบ้านก็กินเนื้อที่ไปเกือบสองพันตารางเมตร
หากนับรวมอาณาเขตทั้งหมดของคฤหาสน์ชำนาญสรรพกิจคงไม่ต่ำกว่าสิบตารางกิโลเมตร
ในพื้นที่แถบนี้
คฤหาสน์ยักษ์จัดสวนอย่างลงตัวด้วยแนวคิดผสมผสานระหว่างสวนหิน
สไตล์ตะวันตกและสวนดอกไม้รูปแบบตะวันออก
ทะเลสาบขนาดเล็กกว้างเกือบหกพันเมตรเป็นจุดศูนย์กลางของบ้านชำนาญสรรพกิจ
ซึ่งมีส่วนหนึ่งทอดตัวอยู่เหนือทะเลสาบสีฟ้ากระจ่างใส แม้เป็นค่ำคืนที่มืดมิด
และเม็ดฝนโปรยพรำลงมาต่อเนื่องเช่นนี้
สูทราคาแพงเริ่มหมดสภาพ ชายชรารีบก้าวเข้าคฤหาสน์ด้วยคีการ์ดประจำตำแหน่งของตัว
เพียงไม่นาน ประตูโลหะเนื้อแข็งแกร่งก็เคลื่อนออกเป็นทางเดินที่ปูลาดด้วยหินมรกต
สะท้อนแสงแวววาว
ตะเกียงไฟฟ้าคริสตัลประดับหินสีส่องประกายงดงามล้อระริกกับแสงไฟ
เมื่อก้าวเข้าสู่คฤหาสน์ก็มุ่งตรงสู่ห้องรับแขกแล้วทิ้งตัวลงจ้องเหม่อไปที่รูปเขียนข้างผนัง.....
มันเป็นวันเกิดครบรอบห้าปีของแสงดาว ชายชราผู้รักหลานจนอยากกระทืบ
มอบเค้กให้หลานสาวสุดเลิฟด้วยความเต็มใจอย่างสุดซึ้ง.....แต่กลับเกิดอุบัติเหตุทำให้เค็ก
ทั้งห้าปอน
มาประดับตกแต่งบนใบหน้าเขาที่แข็งค้าง
“อ้าว คุณพ่อ วันนี้คิดยังไงถึงกลับบ้านได้เนี่ย?” ชายชรายกมือก่ายหน้าผากแล้วบ่นเพลียๆ
“โอย....ฟ้าใส ก็ลูกสาวตัวแสบของเธอนะสิ ทิ้งฉันไว้โรงพยาบาล
แล้วนี่เจ้าภพยังไม่กลับมาอีกเหรอ?” ชายชราบ่นให้รอยยิ้มของลูกสไภ้ขยายกว้าง
แต่เส้นเลือดในสมองเขากำลังแทบเขียวและซีดเมื่อเห็นคนที่ขี่จักรยานเข้าคฤหาสน์มา
แล้วตรงดิ่งเข้ามาหาชายชราที่รีบกระเด้งตัวลุกขึ้น
“ปู่สุดที่รักกก!”
ชายชราอ้าแขนกว้างแล้วรับการโอบกอดของเด็กสาวที่โถมตัวเข้ามาจนซาลาเปาสองลูก
ที่ไม่ได้เล็กๆ กระแทกกับร่างแก่ชราจนล้มลงบนโซฟา
โดยมีเสียงหัวเราะแสนสนุกสนานของฟ้าใสลูกสไภ้จอมใสซื่อเป็นฉากหลัง
“ปู่ขา หนูน่ะ คิดทึ้งคิดถึงปู่มากเลยอะ!” พูดเสียงสูงพลางบิดหูชายชราสุดแรงเกิด
“อ๊ากกกก! หลานสุดที่เลิฟปู่ก็รักหลานมากเลยยย!!!” ชายชราแทบหายใจไม่คล่อง
โรคหอบหืดกำลังถามหา แต่เขาก็ทำเพียงปลงแล้วยกมือขึ้นเคาะมะเหงกแจกหลานสาว
ไปหลายสิบจนเกือบร้อยทีกว่าหูเขาจะหลุดเป็นอิสระ…….
…
บอร์ดบริหารดำเนินงานของบริษัท world haunt
หลังจากเจ้าสัวเจริญสรุปทุกหัวข้อการประชุมเรียบร้อยก็ทำหน้าขรึม
ก่อนเอ่ยปากขึ้น
พร้อมเท้าก้าวตรงประชิดประตูทางออก
“อะแฮ่ม ทุกท่าน.....” เพียงไม่กี่คำทำให้ผู้บริหารหลายฝ่ายจ้องมาเป็นตาเดียว
“ต่อไปนี้ ผมขอแจ้งให้ทราบร่วมกันว่า ผมขอใช้อำนาจประธานกรรมการบริหารสูงสุด
ของบริษัท
เปลี่ยนชื่อเล่น จากดวงเฮ็ง เป็นซัน
ที่มีความหมายว่าดวงตะวัน ต่อจากนี้ไปผมคือท่านประธานซัน
บริษัทของเราจะเป็นดั่งแสงสุริยันกลางคิมหัน สาดฉายไปทั่วทั้งใต้หล้า
แล้วกระจายข่าวออกไปให้ลูกน้องทุกฝ่ายทุกแผนกรับทราบร่วมกัน
ใครไม่ปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง ไล่ออก!!!”
เสริมบท
ท่านประธานซัน: หลานสุดที่รักซาลาเปาของหนู บร๊ะจ๊ะละฮึ่ม!
แสงดาว: ไอ้ปู่ลามก.......กรี๊ดดด!!!
โปรดติดตามตอนต่อไป บทที่ 3 คู่แข่ง
…………..***
ความคิดเห็น