คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4
ค่ำคืนแห่งราตรีกาลที่เงียบสงัด คืนนี้แสงดาวสุกสกาวเต็มท้องฟ้า ดวงจันทร์ส่องประกายทอแสงนวล ความอบอุ่นยามราตรีที่ใครหลายคนมองข้าม ช่างเป็นภาพที่แลดูงดงามยิ่งนัก
สายลมแผ่วๆที่พัดมาปะทะใบหน้าเรียวสวย ได้รูปกับดวงตาคู่งามที่เป็นประกายเจิดจรัส จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเฉียบได้รูป ผมดำยาวเป็นลอนสลวยพลิ้วไปตามแรงลมอ่อนๆ หากจะเปรียบความงามระหว่างหญิงสาวร่างระหงคนนี้ กับหมู่ดาวนับล้านที่ส่องแสงสุกสกาวทั่วฟากฟ้า คงมิอาจเปรียบเปรยได้ว่า สิ่งใดงดงามกว่ากัน แต่สำหรับเธอนั้น ดวงดาวทุกดวงบนท้องฟ้า งดงาม มีค่า และมีความหมายสำหรับตัวเธอมากที่สุด เพราะอย่างน้อย มันก็ทำให้เธอสบายใจทุกครั้งเวลาแหงนหน้าขึ้นมองดาว
“คืนนี้ ดาวสวยจังเลยนะ” นยนะ พึมพำกับตัวเองหากแต่สายตายังคงจับจ้องท้องฟ้าเบื้องบน
“ดาวจ๋า...บอกฉันได้ไหมว่าตอนนี้ ดาวกำลังยิ้มหรือกำลังร้องไห้เหมือนฉัน ดาวอยู่บนฟ้ามาตลอด เคยเหงาบ้างไหม ดาวจะเหมือนกับฉันตอนนี้ไหม ฉันที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียว” เธอทรุดตัวลงนั่งชันเขากับพื้นระเบียงห้องที่มีบริเวณไม่กว้างนัก
ทุกๆคืน นยนะจะออกมายืนรับลมชมดาวอยู่บริเวณระเบียงห้องนอนของเธอเป็นประจำ ที่ตรงนี้เป็นเสมือนมุมพักผ่อนส่วนตัวที่เธอโปรดปรานมากที่สุด มันทำให้เธอรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้สัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืนเช่นนี้รวมทั้งยังเป็นที่ระบายความทุกข์ภายในใจออกมา ไม่ว่าทุกข์หรือสุข ผู้ที่คอยรับฟังปัญหาของเธอจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ดวงดาวนับล้านที่ส่องแสงระยิบระยับอยู่บนฟากฟ้า
“มีคนเคยบอกว่า ถ้าเราได้อยู่กับตัวเอง อยู่กับความเหงา ความโดดเดี่ยวอ้างว้างบ่อยๆ มันจะทำให้เราเข้มแข็งขึ้น ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ฉันขอเลือกที่จะเป็นคนอ่อนแอที่ไม่เหงายังดีกว่า อยากลืมทุกสิ่งที่คิดถึงแล้วต้องเสียใจ จะมีใครสักคนไหมนะที่กำลังคิดถึงฉัน เมื่อไหร่กันที่ฉันจะได้เจอเขา เมื่อไหร่ที่ฉันจะไม่ต้องเหงาอย่างนี้อีกต่อไป บอกฉันได้ไหมดวงดาว”
ร่างสูงโปร่งค่อยๆลุกขึ้นยืน เธอก้าวไปยืนแนบชิดติดริมระเบียง พลางถอนหายใจนิดๆ ขณะที่สายตายังคงทอดยาวไปยังท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ ด้วยใจที่เริ่มเหม่อลอย หากเวลานั้นเองที่มีแสงของดาวตกส่องลงมาจากเบื้องบน หญิงสาวรูปงาม นัตย์ตาเป็นประกายไม่ต่างจากแสงของดาวน้อย เผยยิ้มที่ริมฝีปาก ก่อนจะหลับตาลงช้าๆแล้วอธิษฐานเบาๆในใจ พอดีกับที่สายลมเย็นพัดผ่านปะทะใบหน้ารูปงามกับเส้นผมที่พลิ้วไสว ราวเป็นการตอบรับ
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
สายลมเอื้อยๆพัดพาความหนาวเย็นเข้ามา ต้นไม้ต่างๆพากันพลิ้วไหวไปตามแรงลม ทุกอย่างดูเงียบสงบ จะมีก็แต่เสียงกระดิ่งจากโมบายดังมาจากประตูหน้าต่างช่วยทำลายความเงียบลงได้บ้าง บรรยากาศที่หนาวเย็นในค่ำคืนนี้ ทำให้เหมือนมีความเหงามาครอบคลุมหัวใจดวงเล็กๆ ของสาวน้อยหน้าตาน่ารัก ที่นั่งอยู่ตรงม้านั่งสวนหลังบ้าน แววตาของเธอแฝงไปด้วยความเหงาและเศร้า ไร้ประกายของรอยยิ้มบนใบหน้า
“คุณพ่ออยู่บนนั้น คงสบายดีใช่ไหมค่ะ” ปั้นดาว เอ่ยพลาง แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า
ก่อนที่พ่อของเธอจะจากไป คำพูดของพ่อที่ไม่เคยเลือนหายไปจากใจเธอ สิ่งที่พ่อได้บอกกับเธอเสมอว่า
“ถึงแม้วันใดวันหนึ่ง พ่อจะไม่ได้อยู่คุยกับหนูเหมือนทุกวันนี้ แต่พ่อก็ไม่ได้จากหนูไปไหนนะเมื่อไหร่ที่หนูคิดถึงพ่อ หนูมองขึ้นไปบนฟ้านะลูก พ่อจะอยู่บนนั้น พ่อจะอยู่เคียงข้างดาวตลอด”
ภาพความทรงจำเก่าๆ ที่ไม่เคยเลือนหายไปจากใจเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าแต่ก่อนที่ตรงนี้จะเคยมีพ่อนั่งคุยกับเธออยู่ข้างๆเสมอ ทุกๆคืนพ่อจะเล่านิทานเกี่ยวกับดวงดาวต่างๆให้เธอฟัง และพร่ำสอนเธอเสมอว่า ความรักก็เหมือนดวงดาวบนท้องฟ้า อาจจะมองเห็นบ้างไม่เห็นบ้าง ความรักก็จะสวยงามและส่องสว่างอยู่ตรงนั้นเสมอ เหมือนดั่งความรักที่พ่อมีต่อเธอ แม้ว่าในตอนนี้เธอจะไม่มีพ่อเหมือนแต่ก่อน แต่ความรักของพ่อก็สวยงามและยิ่งใหญ่ในใจเธอเสมอมา
“หนูคิดถึงคุณพ่อจังเลยค่ะ อยากฟังนิทานของคุณพ่ออีกครั้ง ถ้าเป็นแต่ก่อนหนูคงร้องไห้งอแงใหญ่เลยนะค่ะ ถ้าวันไหนคุณพ่อไม่เล่านิทานให้หนูฟัง แต่คุณพ่อรู้ไหมค่ะว่าเด็กขี้แยของคุณพ่อคนนี้ โตเป็นผู้ใหญ่และเข้มแข็งขึ้นเยอะแล้ว เข้มแข็งพอที่จะเผชิญกับความจริงในวันข้างหน้า เผชิญกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ หนูไม่ใช่เด็กขี้แยอีกต่อไปแล้วนะค่ะ ” น้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อยของสาวน้อยน่ารัก ที่พร่ำเพ้อกับท้องฟ้าและดวงดาวเบื้องบน
น้ำใสๆไหลรินออกมาจากดวงตากลมโตดูเป็นประกายงดงาม เมื่อเธอแลมองรอบๆบ้าน อีกไม่นานเธอต้องจากบ้านหลังนี้ไปแล้วหรอ บ้านที่เธอทั้งรักทั้งอบอุ่นทุกครั้งเมื่อได้อยู่บ้านหลังนี้ บ้านที่เธอเคยมีความสุขกับครอบครัวที่อบอุ่น ไม่อยากไปจากที่นี้เลย
“คุณพ่อก็คงเสียใจไม่แพ้หนูใช่ไหมค่ะ อีกไม่นานหนูกับแม่ต้องไปจากที่นี้แล้วนะค่ะ หนูรักพ่อและหนูก็รักบ้านหลังนี้ ถ้าเลือกได้หนูจะไม่มีทางให้เรื่องมันเป็นแบบนี้เลยค่ะ แต่...ทุกอย่างจะให้เป็นอย่างใจนึก คงเป็นไปไม่ได้ เท่าที่หนูทำได้ก็คงจะมีแต่เก็บภาพความทรงจำดีๆที่เกิดขึ้นกับบ้านของเราไว้ในใจตลอดไป ”
ปั้นดาว หวนนึกถึงเรื่องที่คุยกับคุณลุงปรีชาเมื่อบ่ายวันนี้ขึ้นมา ป่านนี้พี่สาวของเธอทำอะไรอยู่หนอ ถ้าให้เธอเดา คงกำลังนั่งร้องไห้เหมือนเธอก็เป็นได้ หวนนึกแล้วยังมีผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่งจิตใจของเขาตอนนี้ก็คงไม่ต่างจากเธอสักเท่าไหร่ ดีไม่ดีอาจจะเสียใจมากกว่าเธอด้วยซ้ำ
“พี่คงเสียใจมากสินะค่ะ ดาวขอโทษนะที่ครอบครัวดาวเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด จะพอมีวิธีไหนบ้างไหมนะ ที่พอจะชดเชยความเสียใจทั้งหมดของพี่ ดาวยินดีทำนะค่ะ ” ปั้นดาวพึมพำกับตัวเอง
สายลมอ่อนๆพัดผ่านมาอย่างไม่ขาดสาย ถ้าเป็นได้หนูขอให้สายลมในค่ำคืนนี้ช่วยพัดพาความเศร้า ความเสียใจ ของพี่สาวของหนูให้จ่างหายไปเสียที
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
~~ มันก็เป็นแค่เพียงภาพหลวง หลอกตา ที่เธอสร้างขึ้นมาให้ฉันตายใจ......~~
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือ ที่เจ้าของเครื่องกำลังนอนคดคู้อยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาอย่างอบอุ่นดังขึ้น ร่างสูงโปร่งลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงียก่อนจะกดปุ่มรับสาย
“ฮาโหล... มีไรเหรอเก้า” น้ำเสียงงัวเงียเอ่ยทัก
“ไง คุณหนู แกยังไม่ตื่นอีกเหรอ”
“ถ้าไม่ตื่นแล้วจะมาคุยกับแกได้เหรอ.. นายเซ่อ”
“เออ..แกถูกหมด แล้วแกเตรียมตัวพร้อมแล้วยังเนี่ย ”
“เตรียมตัวอะไรของแก” น้ำเสียงกับสีหน้างุนงงเล็กน้อย
“อย่าบอกนะ นี่แกลืมนัดของเราหรอ เราจะไปเที่ยวทะเลที่พัทยาด้วยกันไงยัยปลาทอง”
“เอ่อ..เออ..ใช่ๆ งั้นเดี๋ยวฉันขอเตรียมตัวก่อน ” ใช่วันนี้เธอมีนัดไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆที่พัทยา สงสัยเพราะปัญหาอะไรหลายๆอย่างทำให้เธอลืมเรื่องนี้ไปอย่างสนิท
“จ๊ะ เร็วๆนะแกเดี๋ยวฉันไปรับ” กรกชเอ่ยตอบก่อนจะวางสาย
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ความคิดเห็น