ตอนที่ 7 : BamBam's attract 06 : กฏข้อที่6 คอยขัดขวางศัตรูหัวใจ 100%
กฏข้อที่6 : คอยขัดขวางศัตรูหัวใจ
“ แบมแบม... ”
“ ตะ...เตนล์ ”
“ แบมแบม... ”
“ เตนล์... ”
“ แบ่มแบ๊มมมมม ”
“ ไอ้เตนล์ ! อ๊าาาาาา ”
TOT !!
ใครก็ได้ช่วยแบมแบมที !
ผมพยายามสะบัดร่างของไอ้ปลิงดูดเลือดสัญชาติเดียวกันผู้มีนามว่าเตนล์ออกจากตัวเมื่อมันโถมตัวเข้ามากอดผมแน่น กอดไม่พอนะ ไอ้ที่เอาจมูกมึงมาหอมไหล่กูฟอดๆ นี่คืออะร๊ายยยย TOT
ย้อนกลับไปเมื่อสิบห้านาทีก่อน ตอนที่ผมกำลังนั่งดื่มด่ำกับชานมไข่มุกอยู่ที่ร้าน JYP café ข้างคณะฯ อยู่ๆ พี่ยองแจก็โทรตามผมให้ไปดูแลไอ้นักเรียนจากโรงเรียนสาธิตSM ที่ห้องซ้อมเพราะตอนนี้พี่เนียร์กับฮันบินติดเรียน แรก ๆ ก็ตื่นเต้นดีอยู่หรอกนะเพราะได้ยินมาว่าคนนึงเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนส่วนอีกคนนี่เป็นประธานนักเรียนของที่นั่น
แต่รู้อะไรไหมครับ พอผมเปิดประตูเข้าไปในห้องซ้อมนี่ถึงกับช็อกตาตั้ง เออ เส้นผมก็ตั้งด้วย เมื่อเห็นว่าไอ้นักเรียนแลกเปลี่ยนที่ว่านั่นเป็นใคร...
ไอ้เตนล์...ไอ้ปลิงดูดเลือดที่เกาะผมหนึบแน่นเหนียวทนยิ่งกว่ากาวหลอดสีเหลืองยี่ห้อยู๊ฮู มันเป็นใครน่ะหรือครับ ? มันก็คือเด็กผู้ชายที่หน้าเหมือนลิงซึ่งเคยมาสารภาพรักกับผมตอน ป.4 แล้วขี้ตู่ว่าผมเป็นแฟนกับมันยัน ป.6
มันทำตัวติดผมยิ่งกว่าหินปูนที่เกาะตามไรฟัน ราวกับมันเป็นพยาธิที่ชอนไชอยู่ในลำไส้ใหญ่ และที่ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นราวกับขี้ตาที่เกาะอยู่ในเบ้าตาของผม ไม่ว่าผมจะไปที่ไหนก็มักจะมีมันขนาบข้างอยู่เสมอ แถมยังโดนมันจับฟัดเช้าฟัดเย็นราวกับตุ๊กตา ไม่อยากจะบอกเลยว่าที่ฟันมันเรียงสวยไม่เกิดเป็นฟันซ้อนนี่ก็เพราะผมนี่ล่ะ เมื่อไหร่ที่ผมรำคาญมันมาก ๆ ก็ต่อยหน้าแม่งจนฟันร่วงไปทีละซี่สองซี่ แถมมันไม่โกรธผมด้วยนะ เสือกดีใจซะอีกคุณผู้อ๊านนนน มันบอกว่าดีซะอีกจะได้ไม่ต้องรบกวนตังค์หม่าม๊าไปถอนฟัน
อิบร้าาาาา มึงมันไม่เต็มไอ้เตนล์ T^T พอผมจบ ป.6 ผมก็ขออนุญาติหม่าม๊ามาเรียนต่อที่เกาหลีแม่ง คนอย่างไอ้เตนล์แค่ย้ายโรงเรียนหนีไม่พอ แม่งต้องย้ายประเทศหนีเลยครับ แต่ตอนนี้ผมรู้ซึ้งแล้วล่ะครับ แค่ย้ายประเทศหนีคงไม่พอ สงสัยคงต้องย้ายกาแล็กซี่ โฮฮฮฮฮฮฮ TOT
“ คิดถึงจังเลยยยยยย ในที่สุดเราก็เจอกันสักที นี่เตนล์เตนล์ไม่เคยลืมแบมมี่เลยน๊า ยังรอเธออยู่เสมอแม้ไม่รู้เธออยู่หนใด ~ ”
“ เชี่ยยย ปล่อยกูสัดเตนล์ ! ” ผมเบี่ยงตัวหลบด้วยความสยดสยองเมื่อไอ้เตนล์ยื่นหน้าเข้ามาหมายจะหอมแก้ม กูไม่ยอมหรอกเว้ย ! กูไม่ใช่อิแบมมี่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว เอ้ย ไม่ใช่ดิ กูไม่เคยเป็นแบมมี่ของมึงสักหน่อย อย่านึกว่ากาลเวลาเปลี่ยนหนังหน้าของมึงที่ถูกพัฒนาจนหล่อดูดีมีชาติตระกูลผันตัวจากลิงป่ากลายเป็นนกหงส์หยก(?) จะทำให้กูหวั่นไหวได้ ไม่มีทางงงงงง
“ อย่าดิ้นสิ แบมมี่ก็น่าจะรู้นะว่าขัดขืนไปก็ไร้ประโยชน์ มามะ มาให้เตนล์เตนล์หอมซะดีๆ อิ๊อิ๊-3- ”
“ อ้ากกกกกกกกกก ”
พลั่ก
“ ทำอะไรกันน่ะ -*- ? ” ขอบคุณพระเจ้า ! ขอบคุณที่ส่งคนมาช่วยลูกช้าง ! ชีวิตของแบมแบมเกือบตกอยู่ในอันตรายแล้วจริง ๆ ถ้าหากไม่มีคนเปิดประตูห้องซ้อมเข้ามา คนมาใหม่หน้าตาน่ารักอยู่ในชุดเครื่องแบมเดียวกันกับไอ้เตนล์จับลูกบิดประตูค้างไว้มองมาที่เราสองคนงง ๆ อ่า คงจะเป็นประธานนักเรียนสินะ
ถือว่าเป็นคราวซวยของผมแหละครับ ถ้าหากว่าผมมาช้ากว่านี้สักหน่อยก็คงไม่ต้องอยู่ในห้องนี้สองต่อสองกับมัน เกือบโดนปล้ำแล้วไหมล่ะแบมแบม T^T
“ คนเค้ากำลังจู๋จี๋กันอยู่ไม่เห็นหรือไงพี่แบค-3- ” ไอ้เตนล์ทำปากยื่นใส่คนน่ารักนามว่าพี่แบค นี่มึงคิดว่ามึงน่ารักหรือไง แม่งงงง อุบาทว์ ! ผมใช้จังหวะที่มันเผลอสะบัดตัวออกจากมือปลาหมึกของมันแต่กลับไม่เป็นผลเมื่อไอ้เตนล์รู้ตัวแถมยังกอดรัดผมแน่นเข้าไปอีก ไอ้สัด มึงมาสิงร่างกูเลยมั้ย !
“ แบมมี่อย่าดิ้นสิ เตนล์เตนล์คิดถึง ขอกอดก่อน ” กอดพ่อมึงสิครับ กูขนลุก นี่ดีนะที่พี่มาร์คกับพวกพี่เนียร์ยังไม่มา ไม่งั้นล่ะมึงเอ้ยยยย กูไม่อยากจะคิด...
“ อ้าว เจอแล้วเหรอ... ”
สลัด ! พระเจ้าช่วยกล้วยตานีตากแห้ง !
พูดถึงมาร์ค มาร์คก็มา ผมแทบจะกลั้นใจตายเมื่อพ่อเจ้าประคุณรุนช่องเดินเข้ามาในห้องซ้อมก่อนจะชะงักอยู่กับที่เมื่อเห็นผมกับไอ้เตนล์ยืนโรมรันพันตู (?) กันอยู่
คิ้วเข้มขมวดเป็นปม มองผมสลับกับไอ้เตนล์ไปมา ก่อนปากหยักจะเผยออกเรียกชื่อผมงง ๆ
“ แบมแบม ? ”
“ เอ่อ-0- ” ช็อกสิกู พี่มาร์คอย่าพึ่งคิดไปไกล อย่าพึ่งมองน้องแบมแบบนั้น คือมันไม่มีอะไร มันไม่มีอะไร น้องแบมแค่ถูกขืนใจ น้องแบมไม่ได้สมยอมมมมมมม TOT
“ แบมมี่นี่ใครอ่ะ ” ไอ้เตนล์มึงไม่พูดนี่ไม่มีใครว่ามึงเป็นใบ้เลยนะ
“ แบมมี่ ? ” พี่มาร์คทวนชื่อผมงง ๆ
“ เอ่อ-0- ” ค้างสิกู
“ ไอ้เตนล์ -_- ” พี่แบคคนงามปรามไอ้เตนล์
“ บอกเตนล์เตนล์มาสิ นี่อย่าบอกนะว่านอกใจเตนล์เตนล์อ่ะ ” ไอ้เตนล์ ! มึงพูดอะไรของมึงเนี่ยยยย แล้วมึงดู มึงดูหน้าพี่มาร์คของกูสินั่นนนน ไอ้หน้านิ่ง ๆ นั่นคืออะไรรรรร
ผมก้มลงแงะมือปลาหมึกของไอ้เตนล์ออกจากเอว แรก ๆ มันไม่ปล่อยนะ พอผมถลึงตาใส่พร้อมกับชูหมัดใส่เท่านั้นแหละ ถึงกับคลายอ้อมกอดออกอย่างไว นี่มึงยังไม่ลืมหมัดอรหันต์ของกูสินะ หึหึ คราวนี้ถ้าฟันมึงร่วงนี่ไม่มีฟันแท้ขึ้นให้มึงอีกแล้วนะ ฟันปลอมอย่างเดียวครัช
“ ทำไมแบมมี่ทำกับเตนล์เตนล์งี้อ่ะ ”
“ มึงเงียบได้ป่ะเนี่ย นี่กูยังไม่ได้เคลียร์เลยนะเรื่องที่มึงมากอดกูเนี่ย แล้วกูก็ไม่ใช่แฟนมึง ไอ้ลิงกัง ! ”
“ แบมมี่นิสัยไม่ดีอ่ะ ว่าคนอื่นเป็นลิงแล้วทำไมไม่ดูตัวเองบ้างดูสิน่ะหูตัวเองก็กางยังกะลิงแสม นี่เตนล์เตนล์ยังไม่เห็นว่าแบมมี่เลยนะ”
=________=;;
กูจะกระโดดถีบยอดหน้ามึงก็เพราะว่ามึงว่ากูเหมือนลิงแสมนี่แหละไอ้เตนล์
“ นี่รู้จักกันเหรอ ? ”
พี่แบคคนน่ารักถามมองหน้าผมกับไอ้เตนล์สลับกันไปมาก่อนจะเดินเข้ามาในห้องซ้อม ตัวเล็กน่าฟัด น่ารักน่าชังจุงเบยยยย >< นี่จะปลื้มละนะ จะปลื้มพี่ละนะ พึ่งรู้นะเนี่ยว่าประธานโรงเรียนสาธิตSM น่ารักขนาดนี้ ได้โปรดเอาพี่ยองแจไปแล้วเอาพี่แบคคนงามมาเปลี่ยนกันที
“ รู้สิ นี่แฟนหนูเลยนะพี่แบค >< ”
เดี๋ยวนะ...
มึงแทนตัวเองว่าอะไรนะเตนล์ ?
“ จริงเหรอ ? ” พี่แบคเบิกตากว้างยกมือสองข้างขึ้นประทับอก เอิ่มมมมม จะโอเวอร์แอคติ้งไปไหนครับคุณเพี่ยยยย คืออย่าบอกนะว่าเชื่อไอ้เตนล์มันน่ะ =__=;;
ถ้าเชื่อจริงนี่กูจะแอบไปร้องไห้ละนะ
“ ใช่ที่ไหนล่ะ ใครเป็นแฟนกับมันได้นี่ก็ประหลาดแล้วครับพี่ ” ผมบอกเสียงนอยด์ บอกเลยกูยังไม่พร้อมเป็นบ้า นี่ก็สงสัยอยู่นะว่าตัวเองผ่านช่วงเวลาเลวร้ายในวัยเด็กมาได้ยังไง เอ๊ะ หรือกูจะแอบเป็นโรคจิตวะ อารมณ์แบบตอนเด็ก ๆ มีปมถูกจู่โจมแสดงความรัก พอโตขึ้นมารักใครก็เลยไม่กล้าแสดงออก
ไอ้เตนล์ เพราะมึงคนเดียวเลยกูถึงได้ไม่กล้าบอกรักพี่มาร์ค -_-+
“ ก็ว่างั้นแหละ ขนาดพี่คุยกับมันแค่สิบนาทียังต้องพึ่งยาพาราไปสองเม็ด ”
เห็นไหม ไม่ได้มีแค่ผมที่รู้สึกไปเองคนเดียว
“ ใจร้าย T^T ”
มึงเบะปากทำไมเหรอเตนล์ มึงจะร้องไห้เหรอ ปัญญาอ่อนว่ะ =_= มึงดูซิ มึงดูพี่มาร์คของกูซินั่นน่ะ ยืนเงียบเป็นหุ่นหน้านิ่งไม่พูดอะไรสักคำซินั่น มึงดูซิ กูชอบคนแบบนั้น คนบ้า ๆ อย่างมึงกูไม่ชอบหรอก !
เอ๊ะ แต่ทำไมน้องแบมรู้สึกเสียวสันหลังแปลก ๆ =_=
ไม่ใช่หรอกมั้งงง คิดไปเองแหละ
“ สรุปรู้จักกัน ? ” พี่มาร์คที่ยืนเงียบอยู่นานเอ่ยถามขึ้น
“ เอ๊ะ ก็บอกแล้วไงว่าเป็นแฟ... ”
“ ก็ไม่เชิงครับ เคยเรียนประถมด้วยกันน่ะฮะ แต่ก็ไม่สนิทกันเท่าไหร่ ไม่มีอะไร นี่ไม่ได้เจอกันนาน ไอ้เตนล์มันก็เลยโอเว่อร์ไปหน่อย มันก็เป็นคนแบบนี้แหละ เป็นพวกล้น ๆ ไม่เหมือนชาวบ้านเค้า ใครไม่รู้จักนี่จะชอบหาว่ามันบ้า ซึ่งแบมเองก็คิดอย่างนั้น มันทั้งบ้าทั้งน่ารำคาญ สมควรแล้วแหละที่โดนแบมต่อยฟันร่วงตั้งแต่เด็ก แต่โดยรวมแล้วก็ไม่มีอะไร ก็แค่คนรู้จัก ”
กูว่ากูลน
แบบยิ่งแก้ยิ่งแย่ว่าป่ะ มันเหมือนว่ายน้ำในอ่างเลยอ่ะ ไม่ไปไหนวนอยู่ที่เดิม T^T แต่ก็ไม่อยากให้พี่มาร์คเข้าใจผิดอ่ะ คือมันไม่มีอะไรจริง ๆ อ่ะ
“ ก็ฟังดูสนิทกันดีนี่ ” พี่มาร์คเลิกคิ้วก่อนจะอมยิ้มน้อย ๆ ดะ...เดี๋ยวนะ คือเมื่อกี้นี่ยังหน้านิ่งอยู่เลย แล้วนี่คือ ?
“ ใช่ไหมล่ะ ! บอกแล้ว ! ” ไอ้เตนล์นี่มึงจะตะโกนทำไมเนี่ย ผมอ้าปากเตรียมจะแก้ไขข้อเข้าใจผิดอีกครั้งแต่กลับต้องหุบปากฉับเมื่อพี่มาร์คเอื้อมมือไปดึงแขนพี่แบคเข้าไปยืนข้างตัวแล้วเอ่ยเสียงทุ้ม
“ นี่ก็รู้จักกัน ดีแล้วจะได้สนิทกัน ไม่ต้องปรับตัวมาก ”
ห้ะ ? เดี๋ยวนะ บางทีผมอาจจะฟังผิดไป ?
“ โอ๊ะ นี่ใช่ไหมที่ทำให้พี่แบคทิ้งหนูบ่อย ๆ ” เดี๋ยวนะทิ้งอะไร ? เตนล์มึงพูดให้เคลียร์
“ ... ”
“ วันนั้นที่ออกไปคุยโทรศัพท์แล้วหน้าแดง ๆ ”
“ ... ”
“ แล้ววันนั้นที่ปากเจ่อ ๆ เข้ามาในบ้าน ”
“ O///O ”
“ อย่าบอกนะว่าคนนี้ ”
“ O///O ”
“ ใช่เปล่าาาาา แอร๊ กิ๊กกันก็ไม่บอก มิน่าล่ะถึงได้อยากมาที่นี่นัก คริคริ ”
“ O///O ”
อะไรคือยืนเงียบ ?
อะไรคือพี่มาร์คหันไปมองพี่แบคแล้วยิ้ม ?
อะไรคือทั้งสองคนไม่ปฏิเสธ ?
แล้วอะไรคืออยู่ดี ๆ ผมถึงได้รู้สึกเกลียดขี้หน้าอีพี่แบคคนนี้ขึ้นมาเสียดื้อ ๆ
“ พี่มันร้ายแบคฮยอน ~ ”
หงุดหงิด !!
แบมแบมหงุดหงิด !!
นี่ไปรู้จักกันตอนไหน ? อะไรยังไง ! ทำไมแบมแบมไม่รู้ ! ปกติเรื่องทุกเรื่องของพี่มาร์คผมต้องรู้ แต่นี่คืออะไร พี่มาร์คไปกิ๊กกับไอ้พี่แบคเหรอ ? ไม่มีทาง แบมแบมไม่ยอม !
ผมเดินดุ่ม ๆ ออกมาจากห้องนั้นด้วยความหงุดหงิด ในเมื่อไม่ยอมตอบอะไรก็ไม่ฟังก็ได้ ! ขอหลบมาสงบสติอารมณ์สักเดี๋ยว ไม่อยากไปกระโดดตบประธานนักเรียนโรงเรียนพี่น้องเดี๋ยวจะมองหน้ากันไม่ติด
ผมเดินมาหยุดอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใกล้ ๆ กับลานน้ำพุ แล้วกระแทกก้นลงนั่งม้านั่งตามแรงอารมณ์ โมโห มันน่าโมโห ทำไมต้องชอบยิ้มให้คนอื่นล่ะ ทำไมต้องมองเขาแบบนั้น รอยยิ้มแบบนั้นสายตาแบบนั้นมันต้องเป็นของผมคนเดียวเซ่ ! ไหนพี่ชมว่าผมน่ารักไง พี่ก็ต้องรักผมคนเดียวสิ
นี่จะร้องไห้ละนะ จะร้องไห้แล้ว T^T
“ แบมมี่ ~ ”
กูจะร้องไห้หนักกว่าเดิมก็เพราะมึงนี่แหละเตนล์ ปล่อยกูอยู่คนเดียวได้ไหมหา !
“ เป็นอะไรอ่ะ เดินออกมาทำไม ทำไมไม่อยู่ในห้องซ้อมรอสมาชิกในวงล่ะ ”
“ ... ”
“ แบมมี่ ”
“ ... ”
“ ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ มีอะไรบอกเตนล์เตนล์ได้นะ ”
แม่ง
อยากร้องไห้ว่ะ เมื่อสองสามวันก่อนก็ยัยรุ่นพี่โซรา พอมาวันนี้ก็ไอ้พี่แบค ทำไมศัตรูหัวใจของผมมันถึงได้เยอะขนาดนี้วะ ไอ้รายแรกน่ะไม่เท่าไหร่หรอก เพราะตอนสุดท้ายพี่มาร์คก็ออกมาตามผมแถมยังชมผมว่าน่ารัก แอร๊ คิดแล้วฟิน ~_~ แต่อีกคนนึงนี่สิ เห็นผมเดินออกมาขนาดนี้แล้วยังไม่ออกมาตามอีก นี่คืออะไร ?
นี่คือพี่เลือกแล้วใช่ป่ะ ? เลือกแล้วใช่ไหม ?
แล้วผมล่ะ ? พี่ไม่เลือกผมอ่ะ? ผมแอบรักพี่มาตั้งห้าปีเลยนะ ริลัคกี้ของพี่ไง ซาแซงแฟนของพี่น่ะ คนที่แอบมองพี่ แอบชื่นชม และรอพี่น่ะ แค่พี่หันมา หันมามองสักนิดแล้วพี่นะเห็น...ฮึก แม่ง อยากร้องไห้ว่ะ
“ แบมแบม ”
“ ... ”
“ รู้อะไรไหม กว่าเตนล์จะมายืนตรงจุดนี้ได้อ่ะมันยากขนาดไหน เตนล์ไม่เคยคิดยอมแพ้หรอกนะ บางสิ่งบางอย่างน่ะ เรารอมานานมาก นานจนเกือบจะได้มัน แต่แล้ววันนึงเมื่อสิ่งนั้นกำลังจะลอยหายไป แบมจะไม่คว้ามันไว้เลยเหรอ จะไม่เอื้อมมือออกไปคว้ามันไว้เลย ? จะทำแค่เพียงมองดูแล้วปล่อยให้มันผ่านไปเหรอ ? ”
“ ... ” ผมหันขวับไปมองไอ้เตนล์ที่บัดนี้เริ่มเข้าสู่โหมดคนปกติ พูดจารู้เรื่องกับเขาก็เป็นด้วย ไม่มีแววตาขี้เล่นในดวงตาคู่นั้นเลย มันคงจะจริงจังมากสินะ ความฝันของมันก็คือการเป็นนักเปียโนขั้นเทพ เหมือนกันกับผมที่อยากจะเป็นนักกีตาร์ที่สมบูรณ์แบบ...
มันอาจจะหมายถึงเรื่องนั้น แต่สำหรับผมไม่ใช่...
“ ไม่เสียดายโอกาสนั้นเลยหรือไง ? ”
แต่ว่า...
ก็จริงของมันนะ ผมจะปล่อยให้โอกาสนั้นหลุดมือไปได้ยังไง ผมไม่มีทางปล่อยพี่มาร์คหรอก ก็แอบรักมาตั้งนาน แถมยังดูเหมือนว่ามันจะเพิ่มมากขึ้นทุกวันเสียด้วยสิ
ในเมื่อผมทำให้พี่มาร์คชอบน้องหมีริลัคคุมะได้ แล้วทำไมผมถึงจะทำให้เขาชอบคนให้มันไม่ได้ล่ะ แบมแบม...ต่อไปนี้มึงต้องไฝว้ ! มึงจะปล่อยให้ใครหน้าไหนมาแย่งพี่มาร์คของมึงไปไม่ได้ มึงต้องกำจัดมันทิ้ง กำจัดมันทิ้งแม่งให้หมดทุกคน คราวนี้แหละ กูจะเป็นซาแซงแฟนขาโหดแบบเต็มตัว คอยกำจัดทุกคนที่เข้าใกล้คนที่กูรักให้หมดทุกตัว !
“ เตนล์กูมีเรื่องจะถาม ”
“ ได้สิ แบมมี่ว่ามาเลย แต่ถ้าจะถามว่าเตนล์เตนล์จะยอมเป็นแฟนกับแบมมี่ไหมนี่ไม่ต้องเลยนะ เพราะตอนนี้เราก็เป็นแฟ... ”
“ ไม่ใช่โว้ยยยย ! ” กูขอไอ้เตนล์โหมดปกติคืนได้ไหมเนี่ย ทำไมมึงปรับอารมณ์เร็วดีเหลือเกิน =_=
“ ก็ไม่เห็นต้องตะคอก -3- ”
“ ฟังกูจะถาม มึงรู้ไหมว่าสองคนนั้นเค้ารู้จักกันได้ไง ? ”
“ สองคนไหน ? ” ยังจะมาตีหน้าโง่อีก =_=
“ ก็พวกสองคนนั้นไง ” กูไม่อยากเรียกชื่อมันแสลงปาก
“ อ่อ ๆ พวกพี่แบคอ่ะเหรอ ”
“ เออ ”
“ เห็นว่ารู้จักกันตั้งแต่อยู่ญี่ปุ่นอ่ะ เรียนโรงเรียนเดียวกันกับพี่แบค เป็นคนเกาหลีเหมือนกันก็เลยเข้ากันได้ พอพี่แบคมานี่ก็ยังติดต่อกันอยู่”
“ ยังไงกูงง อิพี่แบคมันไปทำอะไรอยู่ญี่ปุ่น-*- ” นี่มันอธิบายไม่เข้าใจหรือกูฟังไม่รู้เรื่อง
“ เอ้า ก็พี่แบคเป็นเด็กแลกเปลี่ยน มาอยู่นี่สามเดือน ไม่รู้อ่อ ”
ห๊ะ !
ดะ...เดี๋ยวนะ
ขอเวลาช็อกกับเรื่องอื่นก่อนแป๊ป ทางสาธิตSM บอกว่าส่งเด็กแลกเปลี่ยนกับประธานนักเรียนมา ถ้าหากว่าพี่แบคเป็นเด็กแลกเปลี่ยนแล้วไอ้เตนล์...
“ เตนล์ กูให้โอกาสมึงพูดใหม่ ใครเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ”
“ เอ้า ก็พี่แบคไง เดี๋ยว ๆ นี่แบมมี่คงจะไม่ได้คิดว่าเตนล์เตนล์เป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนหรอกใช่ไหม ? ”
“ อ้าว แล้วไม่ใช่ ? ”
ฉิบหาย...
คงไม่ใช่หรอกม๊างงงงง
“ เปล่าอ่ะ เตนล์เตนล์นี่แหละประธานนักเรียนโรงเรียนสาธิตSM บราโว่ ! ”
พ่อมึงสิครับ
โรงเรียนนี้แม่งคิดอะไรอยู่ววววววววว !!!
5 วิธีกำจัดศัตรูหัวใจ by แบมแบม
ข้อที่หนึ่ง : ออดอ้อนคนของเราให้อีกฝ่ายเห็น
ผมตัดสินใจเดินกลับไปยังห้องซ้อมโดยปราศจากไอ้เตนล์ เห็นมันบอกว่าต้องกลับไปจัดการเอกสารอะไรสักอย่างที่โรงเรียนแล้วจะรีบกลับมา เอาจริง ๆ นี่ยังช็อกไม่หายเลยนะครับ แอบสงสัยอยู่เหมือนกันว่าที่โรงเรียนนั่นใช้เกณฑ์อะไรในการคัดเลือกประธานนักเรียน =___=
เอาล่ะ วกกลับมาที่เรื่องของเรากันต่อ ผมตัดสินใจอย่างแน่วแน่แล้วนะว่าผมจะขัดขวางอิพี่แบคทุกวิถีทาง รู้จักแบมแบมน้อยไปซะแล้วนะครับ งานนี้มันต้องมีสักคนที่ต้องไปและคนคนนั้นจะต้องไม่ใช่ผม
เปิดประตูห้องซ้อมเข้าไปปุ๊ปก็จ๊ะเอ๋กับภาพบาดตาบาดใจปั๊บ อะไรคือพี่มาร์คของน้องแบมไปยืนอยู่ข้างอิพี่แบคอย่างนั้นล่ะครับ ยืนข้างกันไม่พอยังมีก้มหน้าก้มตาดูโทรศัพท์เครื่องเดียวกันอีก แล้วไอ้ที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นั่นมันคืออะไร
ฮอลลลลลลลลลลลล แล้วนั่นอิพี่แบค ไม่มีมือจับมือถือเองหรือไง ทำไมต้องให้พี่มาร์คถือด้วยวะห้ะ ! น้องแบมจิไม่ทน นี่พูดเลย !!
“ อ้าวแบมแบม ” แหม่ นึกว่าจะไม่เห็นหัวกันซะและ !! ผมเบะปากอย่างน่ารักใส่พี่มาร์คไปหนึ่งที ก่อนจะเดินเข้าไปแทรกกลางใช้สะโพกงอน ๆ ดันอิพี่แบคออกไปอย่างแนบเนียน โฮะ ๆ นายร้ายปีนี้ต้องตกเป็นของน้องแบมครับ เดี๋ยวคอยดูนะอิพี่แบค คอยดูนะว่าน้องแบมคนน่ารักจะอ้อนพี่มาร์คยังไง เฮอะ !
“ พี่มาร์ค ~ ” นี่ ว่าแล้วก็ต้องเรียกชื่อเสียงยานคางแถมช้อนตาขึ้นมองอย่างยั่วยวน มีใครจะไฝว้กับกูไหมบอกมา
“ เป็นอะไร ทำไมทำหน้าอย่างนั้น ? ” สุดหล่อของแบมขมวดคิ้วมอง มาครับ งานบีบน้ำตาต้องมา เคยบังคับให้ตัวเองหาวไหมครับ ? แบบอารมณ์อยากมีน้ำตาเราต้องหาว แต่หาวแบบอ้าปากไม่ได้นะครับ เดี๋ยวอีกฝ่ายจะรู้ เราต้องกลั้นไว้ครับ ปากนี่ห้ามเปิด จมูกนี่บานได้นิดหน่อยอย่ามาก เดี๋ยวมันจะผิดสังเกต หลังจากนั้นก็มาครับ น้ำตาที่น้องแบมรอคอยก็เอ่อล้นขึ้นมาบริเวณหัวตา
“ พี่มาร์ค แบมปวดหัวอ่ะ ” ต้องอย่าลืมทำเสียงสั่นเครือนะครับ แสร้งทำเสียงแหบ ๆ นี่จะดีมาก ให้เสียงอยู่บริเวณกกลิ้นได้นี่คือดี
“ ยังไม่หายไข้อีกเหรอ ? ” พี่มาร์คเลิกคิ้วแล้วยกมือขึ้นมาอังหน้าผากของผม แอร๊ นี่ฟินนะเออ -,.-
“ ฮื่อ ไม่รู้สิ ” ผมส่ายหน้าเบา ๆ โดยไม่ลืมที่จะชำเลืองมองไปยังคนข้างหลังที่มองมาที่ผมอยู่ก่อนแล้ว ไงล่ะ ๆ อ้าปากเหวอขนาดนั้นพี่มาร์คไม่เคยทำให้ล่ะสิ โด่วววว
“ อ่า ”
“ แบมอยากกลับบ้าน ไปส่งแบมหน่อยนะ ” ทำหน้าตาน่าสงสารเข้าไว้แบมแบม เดี๋ยวมึงวินเชื่อกู เดี๋ยวมึงวินนนนนนน
“ ได้สิ ” ได้ยินอะไรไหมครับ เสียงพลุของน้องแบมน่ะ ฮริ้งงงง น้องแบมจุดพลุฉลองเรียบร้อยแล้วนะครับผม “ แบคงั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งแบมแบม... ”
พลั่ก
“ อ้าว อยู่กันครบเลย พี่มาร์คหวัดดีฮะ แล้วนั่น โอ้ะ ใช่นักเรียนจากสาธิตSMเปล่า ” อิพี่เนียร์ มึงจะเข้ามาตอนนี้ทำม๊ายยยยยย ผมชักสีหน้าใส่ไอ้พี่เนียร์กับฮันบินที่เดินเข้ามาในห้องซ้อม กำลังจะเข้าแผนอยู่แล้วแท้ ๆ
“ เนียร์มาก็ดีแล้ว พี่ฝากแบคด้วยนะ เดี๋ยวต้องไปส่งแบมแบม ”
“ หือ ? เปี๊ยกเป็นไรอ่ะ ” พี่เนียร์หันมาจ้องหน้าผม แม่งงงง อย่ามองงั้นดิเห้ย เดี๋ยวพิรุธจะออกกกกก
“ น้องไม่สบายเดี๋ยวพี่จะไปส่ง ”
“ เอ้า แล้วทำไมต้องไปลำบากพี่มาร์ค มา ๆ เดี๋ยวผมไปส่งเองดีกว่า ”
“ เอ่อ ” มึงจะมาเป็นคนดีอะไรตอนนี้ครับพี่เนียร์ เมื่อก่อนนี่ตะโกนด่ากูจั๊งงงงง พอมาตอนนี้อะไรจะแสนดีขนาดนั้นล่ะครับ !
“ เอางั้นเหรอ ? ” พี่มาร์คหันไปถามพี่เนียร์ ไม่ ๆ ไม่เอา ๆ แบมแบมไม่ไป
“ เอางั้นดิพี่ ยังไงซะแบมแบมมันก็น้องผม ป่ะ แบมแบม ”
“ เอ่อ ”
“ มาดิ ยืนบื้อไรอยู่ล่ะ ”
“ บะ...แบมไม่ปวดแล้ว ”
“ -*- ”
“ คือหมายถึงไม่ปวดมาก ตอนนี้ยังไหว จริง ๆ คือซ้อมต่อได้นะ แบมโอเค แหะ ๆ ”
“ -*- ”
“ แบมโอเคนะ จริง ๆ ( . . ) ”
“ อย่าให้รู้ว่าสำออย -_-+ ”
มะ...ไม่เห็นจะต้องชี้หน้ากันด้วยสายตาโหด ๆ อย่างนั้นเลย
ข้อที่สอง : เผชิญหน้าตรง ๆ จิกกัดเล็ก ๆ ข่มให้เห็นไปเลย
หลังจากแผนการแรด เอ้ย แผนการแรกล้มเหลวไปอย่างน่าเสียดาย ไม่เป็นไรครับ แบมแบมมีแผนสอง หึหึ
“ แบคฮยอนนี่น่ารักเนอะ ยิ้มทีนี่โลกสดใสเลย ถ้าให้เดาคงจะต้องมีคนชอบมากแน่ ๆ ” ผมเหล่มองพี่เนียร์ที่เอ่ยชมอิพี่แบคอยู่มุมหนึ่งของห้อง แล้วนั่น ห้องตั้งกว้างทำไมต้องไปยืนข้างพี่มาร์คของผมด้วยวะห๊ะ !
“ นั่นดิพี่ โอ้ยยย ทำไมโรงเรียนเราไม่มีนักเรียนแลกเปลี่ยนน่ารักๆ แบบนี้บ้างเนาะ ” ฮันบิน ต่อไปนี้มึงคือศัตรูหมายเลขสองของกู -_-
“ จะไม่มีได้ไงล่ะ ก็ไอ้เฟร็ดไงมึง ” ผมโพล่งขึ้นก่อนจะเดินไปแทรกกลางระหว่างพี่มาร์คกับอิพี่แบคที่ยืนเขินอยู่เพราะคำชม “ มันน่ารักจะตาย ตัวก็สูงโปร่งไม่เตี้ยตะแมะแคระ ตานี่ก็กลมโตราวกับไข่ห่าน ผิวแม่งก็ขาวอมชมพูไม่ขาวซีด มันน่ารักจะตาย ”
สาบานเลยนะว่าไม่ได้จิกใครจริง ๆ
เชื่อดิ เชื่อ !!! ผมก็แค่เน้นย้ำคำบางคำพร้อมกับจิกตาไปที่คนข้างตัวจนก้มหน้างุดเท่านั้นเอง
“ ที่พูดมานี่คือไม่ได้ดูตัวเองเลยใช่มะ ” ฮันบินกอดอกมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า เดี๋ยวเหอะมึง เดี๋ยวกูโบกเข้าให้
“ ทำไม กูทำไม ทำไม ๆๆๆ ”
“ กูได้ข่าวว่ามึงก็ไม่ได้สูงเท่าไหร่นี่เปี๊ยก แม่งตัวก็ดำยังกับเมี่ยง ตาโตก็จริงแต่แม่งชอบบวม ตาบวมไม่พอนะเว้ย แก้มนี่บวมยิ่งกว่า อ้ะๆ แล้วนั่น หูหรือหรืออะไรจ๊ะ ทำไมกางอย่างนั้นหนอ มึงผึ่งออกมารับลมเหรอครับ คิคิ ”
“ เหยดดดดดดดด พูดถูกใจพี่ว่ะ ” ว่าแล้วสมาชิกร่วมวงทั้งสองคนก็หันไปไฮไฟว์กันจากนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะกันอย่างเมามัน ผมมองการกระทำอันอาจหาญของคิมฮันบินผู้เป็นศัตรูตลอดกาลนับจากวันนี้เป็นต้นไปอย่างเคียดแค้นก่อนตวัดสายไปไปมองร่างของคู่อริที่พยายามกลั้นหัวเราะจนไหล่เล็กนั่นสั่นเทา
แต่...
ใดใดไม่เท่าสุดหล่อของแบมแบมที่ยืนหัวเราะเบา ๆ อยู่ตรงนั้น...
อ๊ากกกกกกกกกก ฮือ แม่จ๋า น้องแบมแพ้อีกล๊าวววววววว TOT
ข้อที่สาม : อะไรที่ของเขาที่เห็นว่าดี ของเราต้องดีกว่า
“ เออนี่ เห็นทางสาธิตSM บอกมาว่าแบคร้องบัลลาดได้เหรอ ” ผมเงี่ยหูฟังบทสนทนาบทใหม่ของพี่เนียร์กับอิพี่แบค โดยมีไอ้ฮันบินกับพี่มาร์คนั่งอยู่ด้วย เฮอะ คงจะมีแต่ผมสินะที่ถูกถีบออกมานอกวงน่ะ !
“ อ๋อ อืม พอได้น่ะ ^^ ”
“ พอได้อะไรล่ะ เราได้ยินมาว่าแบคได้รางวัลมาตั้งเยอะเลยนี่ ” มึงจะไปเสือกอะไรเรื่องของเขานักหนาเนี่ยพี่เนียร์ =__= ;;
“ จริงอ่ะ ? ร้องให้ฟังหน่อยสิครับ >< ” มึงนี่ก็ตื่นเต้นกับทุกสถานการณ์เนาะไอ้บิน
“ เอ่อ ” ไง ๆๆๆ ไม่กล้าอ่ะดิ โถ่ จริง ๆ แค่โม้อ่ะ เชื่อดิ ไม่งั้นอ่ะนะร้องไปแล้ว
“ ร้องสิแบค เราร้องเพราะออก ^^ ” พี่มาร์คคคคค อย่าไปพูดกับมันสิครับ อย่าไปพูดดดดดด !!!
“ แต่เราว่า... ”
“ เดี๋ยวแบมร้องให้ฟังเอง กะอีแค่บัลลาด ! ” นั่น ว่าแล้วกูก็ต้องเสนอตัว เฮอะ ! รำคาญ จะชื่นชมอะไรกันนักหนา ดนตงดนตรีอ่ะ จะไม่ซ้อมกันเลยไง ?
“ แกอ่ะนะ ? ” พี่เนียร์เลิกคิ้ว
“ เออ ไม่อยากจะบอกว่าตอนอยู่ที่ไทยอ่ะกวาดรางวัลมาทุกเวที ” นี่กูไม่ได้โม้ แต่กูแหลสด !!
“ โม้ป่ะวะ ไหนโชว์ดิ๊ ”ฮันบินชี้ไม้ชี้มือมาตรงหน้าแล้วบอกผมเสียงกวนโอ๊ย
“ พอดีว่าวันนี้กูเจ็บคอ ” ผมโบกมือ จะให้กูโชว์เรอะ ! บัลลาดคือไรกูยังไม่รู้เลยสัด
“ อ้าว ไหนบอกจะร้องให้ฟัง ”
“ ก็ตอนนั้นกูยังไม่เจ็บคอ ”
“ ถุย ตอนนั้นกับตอนนี้ห่างกันไม่ถึงนาที อย่ามาโม้ จริง ๆ แล้วมึงร้องไม่เป็นใช่ป่ะล่ะ ไอ้ขี้โม้ ” มึงอยากเจอฝ่าตีนอรหันต์ของกูใช่ป่ะคิมฮันบิน -_-+
“ ก็กูบอกแล้วไงว่า...”
“ พอๆ เลิกทะเลาะกัน ไอ้บินหุบปากไป ส่วนเปี๊ยก ไหนร้องให้พี่ฟังดิ๊ สักท่อน เดี๋ยวตัดสินให้ ” พี่เนียร์พูดตัดบท
“ เอ้า ก็บอกแล้วไงว่า...”
“ ถ้าไม่ร้องนี่แปลว่าโม้นะเว้ย ” คิมฮันบิน เดี๋ยวมึงได้ตาย
“ ... ”
“ เอาดิ ” ยังอีก
“ ... ”
“ ร้องดิเห้ย ” นี่มึงจะกดดันกูไปถึงไหน
“ ... ”
“ แม่งโม้อ่ะ ”
“ ... ”
“ ร้อง ”
“ เออ ๆ ” ผมรับคำ แม่ง ไม่เห็นต้องมองกันขนาดนั้นเลย กะอีแค่ร้องเพลงจะไปยากอะไร มันก็คงจะเหมือนกับที่ผมแหกปากร้องในห้องน้ำเวลาอาบน้ำนั่นแหละ ว่าแล้วก็สูดหายใจเข้าให้เต็มปอดแล้วหลับตาพริ้มเพื่อตั้งสมาธิก่อนจะเผยอริมฝีปากออกเปล่าเสียงอันแสนไพเราะเพราะพริ้งออกมากลางห้องซ้อม...
แม่ครับ...
นี่ใช่ไหมบัลลาดที่ทุกคนพูดถึง...
“ เมียพี่มีชู้~~~~~~~~~~~~~ ”
ผลั๊วะ !
“ บัลลาดบ้านมึงดิ ไอ้ฟายยยยย ”
แล้วผมก็ต้องยกมือขึ้นกุมหัวที่ถูกพี่เนียร์บรรจงตบจนทิ่มด้วยความเจ็บปวด ...
ใดใดไม่เท่าเสียงหัวเราะของพี่มาร์คอีกแล้วครับ...
TOT ฮือออออออออออออออออออออ
ข้อที่สี่ : รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
วิธีรองสุดท้ายของแบมแบม...ถ้าวิธีนี้ไม่สำเร็จอีกนี่ผมคงต้องพึ่งมือปืนมายิงอิพี่แบคแล้วล่ะครับ -_-+ เออ ยิงพี่แบคไม่พอนะครับ กูจะแถมลูกกระสุนให้พี่เนียร์กับไอ้ฮันบินด้วย ข้อหาขัดขวางกูจั๊งงงง
ผมอาศัยช่วงพักเบรกตอนที่ไม่มีใครอยู่ในห้อง แอบย่องเข้าไปใกล้กับกระเป๋าอิพี่แบค หึหึ มันต้องมีอะไรสักอย่างแหละ มันต้องมีสักอย่างที่ทำให้ผมรู้ถึงจุดอ่อนของมัน !
ว่าแล้วก็ค้นหาโดยทันที ค้นไปได้ไม่เท่าไหร่มือของผมก็สัมผัสได้ถึงสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่ง หุหุ เอาล่ะครับ เราจะมาดูกันว่าในเครื่องนี้จะมาความลับอะไรซ่อนอยู่ อิ๊อิ๊
ว่าแล้วก็จิ้ม...
ปลดล็อก และ...
เชี่ย
รหัสผ่าน =_____________________= ;;
กูเจอปัญหาแล้วพี่น้อง
รหัสผ่านอะไรวะ ?
วันเดือนปีเกิดแม่งก็ไม่รู้ แล้วกูจะใส่อะไรลงไปล่ะเนี่ย =_=
เอาวะ หน้าโง่ ๆ อย่าอิพี่แบคคงจะไม่พ้นหนึ่งสองสามสี่หรอก
ว่าแล้วก็กด...
ไม่ใช่ว่ะ =_=
อะไรล่ะทีนี้ ปีเกิดอ่อ ? อิพี่แบคเกิดปีไรอ่ะ ? คือมันเป็นรุ่นพี่ของผมปีนึงใช่ป่ะ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องเอาปีเกิดของเราตั่งนะครับ แล้วทีนี้ก็ลบหนึ่ง เมื่อได้จำนวนที่ต้องการแล้วก็กด...
เหยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เข้าได้ว่ะครับ !!!
โง่จริงโง่จัง ต้องอิพี่แบคนะครับโผมมมมมมมมม
ผมแสยะยิ้มให้กับความร้ายกาจของตัวเองหนึ่งที ก่อนจะสไลด์หาข้อมูล ทว่า...
“ ทำอะไรน่ะ ”
“ เฮือก ” ผมสะดุ้งโหยงเมื่อพี่แบคกับไอ้เตนล์( ซึ่งกลับมาตอนไหนไม่รู้ )เปิดประตูห้องซ้อมเขามาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง
“ นั่นโทรศัพท์พี่นี่ ”
“ ... ” เหยดดดด ตาดีด้วยเว้ยเห้ย แต่จะให้ปฏิเสธยังไงในเมื่อหลักฐานมันคามือ U_U
“ แบมแบม ? นายไปเอามาได้ยังไงน่ะ ” พี่แบคขมวดคิ้วก่อนจะเดินเข้ามาดึงโทรศัพท์ของตัวเองกลับไปพลางตวัดสายตามองมาที่ผมด้วยความไม่พอใจ
“ ... ”
“ นายไม่ควรมายุ่งกับของของคนอื่นนะ ” พี่แบคว่าเสียงเข้ม
“ เฮ้ย พี่แบค อย่าว่าแบมมี่แบบนั้นดิ ” ไอ้เตนล์หันไปบอกพี่ แบคสลับกับมองมาที่ผมซึ่งยืนหน้าซีดเผือด
“ ก็มันจริงนิเตนล์ ของพี่นะ แบมแบมไม่มีสิทธิ์มายุ่ง ”
ไม่มีสิทธิ์มายุ่ง ?
ใครกันแน่ที่ควรพูดคำนั้นออกมาน่ะ !
“ แล้วทีพี่ล่ะ พี่ยังมายุ่งกับคนของผมเลย ” ผมโพล่งออกไป ไม่ไหวแล้วนะ ผมทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ นะ
“ หือ ? นายพูดอะไร พี่ต่างหากที่... ”
“ ไม่ต้องมาตีหน้าซื่อเลยแบคฮยอน พี่น่ะ มีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับคนของผม ”
“ ห๊ะ ? คนของนาย ? ” พี่แบคขมวดคิ้วแล้วมองผมสลับกับไอ้เตนล์งง ๆ นี่อย่าบอกนะ ว่าพี่คิดว่าผมหมายถึงไอ้เตนล์น่ะ !
“ ใช่ ! พี่มีสิทธิ์อะไรไปยืนข้างเขา พี่มีสิทธิ์อะไรไปยิ้มให้เขา พี่มีสิทธิ์อะไรไปคุยกับเขา ออกห่างจากเขาเลยนะ ออกห่างจากพี่มาร์คเลยนะ ผมชอบของผมมาตั้งนานแล้วแท้ ๆ พึ่งจะได้มีโอกาสคุยกับเขาได้ไม่เท่าไหร่ แล้วพี่เป็นใคร ทำไมถึงได้ทำอย่างนี้ ”
“ นะ...นายชอบพี่มาร์คเหรอ ? ” พี่แบคเบิกตากว้างเช่นเดียวกันกับไอ้เตนล์ที่ยกมือขึ้นประทับอกประหนึ่งเจอกับเรื่องอัศจรรย์ใจ
“ ใช่ ! ผมชอบพี่มาร์ค ชอบมานานแล้ว ชอบก่อนที่พี่จะชอบซะอีก พี่เป็นใคร ทำไมถึงต้องมายุ่งกับเขา ผมมาก่อน ผมมีสิทธิ์ชอบเขาได้แค่คนเดียวนะ ฮึก... ” แม่ง พูดแล้วจะร้องไห้ จริง ๆ นะ ถ้าหากว่าพี่แบคกับพี่มาร์คชอบกันจริง ๆ ผมจะไปทำอะไรได้...
“ ปะ...ไปกันใหญ่แล้ว...”
“ ไปกันใหญ่อะไรล่ะ พี่นั่นแหละ เลิกยุ่งกับเขาเลยนะ ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะ...ผมจะ...ผมจะร้องไห้จริง ๆ ด้วย ฮึกฮืออ ” กูร้องไห้แล้วนะ ร้องไห้แล้ว ฮือออออออออออออ
“ แบมแบม ฟังพี่ ”
“ ฮือออออ ” ผมยืนร้องไห้ราวกับเด็ก ๆ ยืนปล่อยโฮให้น้ำตาไหลลงมา เออ มองกูเลย กูจะร้องไห้ คอยดูสิถ้าไม่สำนึกผิดพี่ก็ไม่ใช่คนแล้วอิพี่แบค !
“ คือพี่ไม่ได้ชอบพี่มาร์ค ! ”
“ ฮือออ ไม่ต้องมาพูด...ฮะ ! ”
“ พี่ไม่ได้ชอบพี่มาร์ค แล้วพี่มาร์คก็ไม่ได้ชอบพี่ คือพี่มีแฟนอยู่แล้ว อยู่ญี่ปุ่น ”
“ จะ...จริงป่ะเนี่ย ? ” อย่าหลอกแบมนะ...
“ จริงสิ พี่มีแฟนแล้ว กับพี่มาร์คนี่ไม่มีอะไร ”
“ ละ...แล้วพี่คุยโทรศัพท์กับใครอ่ะ ”
“ ก็กับแฟนพี่สิ ” พี่แบคยกมือขึ้นเสยผมแล้วแล้วแลบลิ้นออกมา สาบานเลยว่าผมเห็นว่าหน้าของพี่แบคขึ้นสีชมพูระเรื่ออ่ะ
“ ละ...แล้วเรื่องจูบที่ไอ้เตนล์ว่า ? ”
“ ระ...เรื่องนั้น .////. ”
“ พี่จูบกับพี่มาร์คใช่ไหม T^T ” นี่กูจะร้องไห้อีกละนะ ปฏิเสธสิ ปฏิเสธธธธธธธธธ
“ เห้ย ! ใช่ที่ไหนเล่า ! ”
“ แล้วพี่จูบกับใครล่ะ ”
“ ก็กับแฟนพี่เซ่ พอดีว่าช่วงนั้นทะเลาะกันแฟนพี่ก็เลยบินมาหาแล้วก็ปรับความเข้าใจกันนิดหน่อย ” พี่แบคโวยวายหน้าแดงก่ำ
“ แล้วทำไมตอนที่ไอ้เตนล์แซวพี่ถึงไม่ปฏิเสธล่ะ ”
“ โอ้ยยยย ก็มันเขินนิ อีกอย่างนะเด็กโง่ พี่มาร์คน่ะเป็นเพื่อนกับแฟนพี่ตอนที่เค้าบินไปแลกเปลี่ยนอยู่นั่น ตอนนั้นอ่ะ พี่กับแฟนก็จีบ ๆ กันอยู่ แล้วก่อนที่พี่จะบินมานี่เราก็พึ่งจะตกลงเป็นแฟนกัน มันก็เลยเขินเวลาพูดถึงเขาต่อหน้าพี่มาร์ค เพราะพี่มาร์คน่ะชอบแซวพี่ เข้าใจยัง ”
หมะ...หมายความไง มันคือแบบ...คือผมเข้าใจผิดไปเองงั้นเหรอ?
“ ทีนี้สบายใจยัง ? ”
“ ... ”
“ ถ้ายังไม่เชื่อถามเตนล์ดูก็ได้นะ ”
“ ... ”
“ ใช่ไหมเตนล์ ” ผมกับพี่แบคหันหน้าไปมองไอ้เตนล์ซึ่งยืนขมวดคิ้วอยู่ราวกับกำลังทบทวนอะไรบางอย่างก่อนพึมพำออกมา
“ อ้าว พี่เขาไม่ได้ชื่อชานยอลหรอกเหรอ ? ”
“ หืม ? เกี่ยวอะไรกับคนชื่อชานยอล ? ” ผมถาม เอาจริง ๆ ตอนนี้เริ่มรู้สึกระแวงละ มันเหมือนกับมีอะไรมาสะกิดใจยิก ๆ เริ่มคันมือคันเท้าเหมือนกำลังจะได้ทำร้ายคน
“ เอ้า ก็คนที่พี่แบคคุยด้วยไง ชื่อชานยอล เห็นคุยกันทุกวัน นี่ก็ไม่เคยเห็นหน้าหรอก แต่ถ้าพี่คนนี้ชื่อมาร์คงั้นก็คงไม่ใช่แฟนพี่แบคหรอก เพราะพี่แบคบอกว่ารักพี่ชานยอลคนเดียว ”
กูว่าแล้วไง !!!
เชี่ยเตนล์!!!
กูจะฆ่ามึงงงงงงงงงงงง
“ มึงตายไอ้เตนล์ วันนี้มึงตายยยยยยยยยยยย !!!!!!!!! ”
“ อ่อกกกก แบมมี่ อย่าทำเค้า เค้าหายใจไม่ออก แอร่กกกกกก ”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

วงวารน้องแบม
งานเข้าแล้วแบม หึงไม่เข้าเรื่อง
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2558 / 18:30
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 22 มกราคม 2558 / 20:36
ฮืออออ อิจฉาน้องแบมอ่ะ
ไม่ใช่ละ อินี่ไม่เกี่ยวนี่หว่า 555