ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ShoT FiC. ReBoRn บ้าๆ บอๆ กับทุกฟิคตามสไตล์จาปอนเน่

    ลำดับตอนที่ #1 : [BJ] ขอกอดเธอเอาไว้ตรงนี้ และจะรักเธอจนนาทีสุดท้าย #1

    • อัปเดตล่าสุด 28 ธ.ค. 53


    ฟิค BJ ฉลองครบ 50%

    และพี่แอ้จะรวบเล่ม~

     

    ตอน : ขอกอดเธอเอาไว้ตรงนี้ละจะรักเธอจนนาทีสุดท้าย #1

     

    ลมหนาวเริ่มพัดเข้ามาสู่เมืองอิตาลีแล้ววันเตาผิงอุ่นๆี่ออกมาจากปล่องไฟก็เริ่มมีให้เห็นบ้างแล้ว

     

    ต้นไม้เริ่มผลัดใบดหยุดหาอาหาร และเริ่มกลับเข้าสู่รังัตว์ต่างๆ่างเริ่มจำศีลีหญิงสาวคนหนึ่งที่เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนั้นจากริมหน้าต่างของปราสาทในป่าลึก

     

    “นี่ก็เข้าถึงฤดูหนาวแล้วสินะคะุ่นพี่” เสียงหวานเอ่ยเรียบๆุยกับร่างสูงที่ยืนอย่างข้างๆ

     

    ร่างบางเจ้าของเสียงนั้นนั่งอยู่บนรถเข็นของโรงพยาบาลของวองโกเล่ นัยน์ตาของเธอมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเลื่อนลอย้าคลุมสีขาวถูกวางไว้คลุมไหล่ของเธอ

     

    นี่ก็ 3 สัปดาห์แล้ว หลังจากอุบัติเหตุในครั้งนั้น ในตอนนั้นเมฆาสาวาเมเลียห่งวาเรียด้ออกไปปฏิบัติภารกิจเพียงลำพังพราะเธอไม่อยากให้รุ่นพี่ที่น่ารำคาญของเธอตามมาด้วยึงแอบบอกบอสออกไปทำลับๆดยที่คู่หูของเธอไม่รู้ต่พอรุ่งขึ้นอีกวันลับมีรายงานมาว่าร่างของเธอถูกศัตรูในภารกิจโยนลงจากสะพานำให้เธอสูญเสียความทรงจำส่วนหนึ่งไปละนี่ก็เกือบร่วมเดือนวามทรงจำของเธอยังไม่กลับมา

     

    สิ่งที่เธอสูญเสียไปนั้นือการมีตัวตนอยู่ของคนรอบข้างธอลืม่อม่ี่้องพื่อนรือไม่แม้แต่คนในวาเรียองโกเล่าเฟียธอลืมไปหมดเลย สิ่งที่เธอยังจำได้คือชื่อของเธอ ความรู้ที่เคยเรียนมา ที่อยู่ตอนอยู่ที่นิวยอร์ก และมหาวิทยาลัยที่จบมาเพียงเท่านี้ิ่งที่เธอจำได้มีเพียงเท่านี้ ...จริงๆ

     

    ในครั้งแรกที่เบลรู้ เขาก็ไม่ได้ตระหนักอะไรขาก็เพียงแค่ขับรถตามรถโรงพยาบาลที่มาเอาร่างของเจมี่ไปต่พอผลการตรวจออกมาว่าเธอสูญเสียความทรงจำต่เบลเชื่อว่าเธอยังคงจำเขาได้ขาจึงปล่อยไปต่พอเจมี่ฟื้นำแรกที่เธอทักทุกๆนในห้องือ...

     

    พวกคุณเป็นใครกันคะราวกับมีเข็มนับพันเล่มทิ่มแทงเข้ามาใส่ตัวพวกเขา่างบางตรงหน้าจำเขาไม่ได้ละอาการฉีกขาดของกล้ามเนื้อที่ขาำให้เธอเกือบพิการต่ก็ต้องพักรักษาอีกนานละหลังจากนั้นเพียงสามวันันซัสก็พาเธอกลับมาที่ปราสาทละเบลก็อาสาดูแลเจมี่จนกว่าเธอจะหายขายังจะบทสนทนาแรกหลังจากที่พาเจมี่ออกมาจากโรงพยาบาลได้...

     

    ที่นี่สวยดีนะคะ’ ร่างบางพูดขณะนั่งอยู่บนรถเข็นบลพาเธอมาในที่ที่ครั้งแรกเขาแกล้งเธอ ส่วนหย่อมที่เจมี่เอางานแรกมาทำ

     

    แต่ว่านายเป็นใคร ไม่เห็นจะคุ้นหน้าล้วพาฉันมาที่นี่ทำไม’ เสียงหวานๆังเอ่ยเจื้อย่อนจะวางมือลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นเมเปิล้างๆป็นต้นสนขนาดใหญ่ละม้าหินตัวนี้มีรอยด่างดำราวกับถูกไฟไหม้

     

    ... ใครกันนะคิดชั่วร้ายมาจุดไฟในที่ที่สวยงามแบบนี้

     

    ร่างบางนึกในใจ่อนจะเอามือลูบรอยด่างดำนั้น

     

    ฉันน่ะเป็นรุ่นพี่ของเธอนะต่ก่อนเราเคยทำงานด้วยกันด้วย’ เบลพูดอย่างอ่อนโยน่อนจะเอาหย่อนตัวลงนั่งลงที่ม้าหินข้างรถเข็นของเจมี่

     

    เหรอ คุณหมอที่โรงพยาบาลบอกว่าฉันสูญเสียความทรงจำอโทษนะที่ฉันจำรุ่นพี่ไม่ได้ร่างบางเอ่ยอย่างสำนึกผิดเล็กน้อยธอกลายเป็นคนหัวอ่อนจนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน?

     

    แต่เธอก็ยังยอมเรียกเบลว่ารุ่นพี่ย่างน้อยเธอก็ยังพอถนอมน้ำใจของเบลไว้ได้

     

    ที่นี่เป็นที่แรกที่ฉันแกล้งเธอ...’ เบลเอ่ยออกมาอย่างเลื่อนลอยตอนนั้นเธอกำลังจัดการกับรายงานที่ฉันเขียน... พอมีเสียงเอะอะจากในปราสาท เธอเลยทิ้งงานไว้ที่นี่ละรอยนั่นแหละ เป็นรอยที่ฉันเผากองเอกสารเธอ’ เบลเอ่ยออกมาอย่างขบขันในความซุกซนของตัวเอง ก่อนจะเอามือไปวางทาบลงบนมือของเจมี่ที่กำลังลูบรอยด่างนั่นอยู่

     

    ไม่ได้โต้ตอบอะไร ไม่ได้ลุกขึ้นมาตวาดเหมือนแต่ก่อนม่ได้บ่นกระปอดกระแปดเหมือนตอนบอสโมโห ไม่ได้กวนส้นเหมือนตอนเจอกับสควอโล่ครั้งแรกธอเปลี่ยนไปจริงๆ

     

    “รุ่นพี่!” เสียงหวานดังขึ้น ทำให้ร่างสูงหลุดออกจาภวังค์ และหันกลับมามองหน้าหวานอย่างเลิกลัก

     

    “มะ... มีอะไร”

     

    “เมื่อกี้รุ่นพี่ลุซซูเรียตะโกเรียกให้ไปทานดินเนอร์จมี่หิวแล้ว T^T” ร่างบางทำหน้าออดอ้อนและมู่ปากเล็กๆำให้เบลต้องเข็นรถเข็นพาเธอไปยังห้องอาหาร

     

    เมนูวันนี้ไม่ดีมีอะไรพิเศษมากมายีเพียงสเต็กปลาหิมะร้อนๆ ทานคู่กับซุปครีมพาสต้า เรียกน้ำลายจากร่างบางที่นั่งอยู่บนรถเข็นได้ดีมาก

     

    เมื่อถึงโต๊ะอาหาร ทุกคนเริ่มทานกันบลก็ยังคงไปนั่งข้างเจมี่เสมอขามองผ้าพันแผลที่พันแขนของเธอไว้ประมาณสองสามจุดขาหลับตาละพยายามไม่ให้ตัวเองรู้สึกผิดไปมากกว่านี้

     

    “รุ่นพี่ไม่กินเหรอคะดี๋ยวมันจะเย็นหมดนะ ^  ^” เจมี่ที่อดีตไม่เคยแม้แต่จะยิ้มให้บุคคลตรงหน้าเลยแม้แต่น้อยต่ตอนนี้เธอกลับยิ้มให้เขา...อยู่บ่อยๆ

     

    “อืม” เขาตอบรับในลำคอ่อนจะเริ่มเอามีดหั่นเนื้อปลาหิมะ และเอาเข้าปากขาไม่รู้ตัวเลยว่าถูกหญิงสาวที่นั่งข้างๆ้องอยู่

     

    ไม่รู้สินะ เธอลืมคนที่น่ารักแบบนี้ไปได้ยังไงคนอ่อนโยนนน่ารักแบบนี้น่ะธอจะลืมเขาได้ยังไง

     

    และแล้วน้ำตาก็นองหน้า ทุกครั้งเลยี่คิดถึงเรื่องของผู้ชายคนนีู้้ชายที่ไม่รู้ว่าตนนั้นเธอคิดยังไงกับเขากันนะ่อนที่เธอจะสูญเสียความทรงจำ...

     

    ร่างบางใช้หลังมือปาดน้ำตา่อนจะจัดการกับอาหารตรงหน้าต่อ

     

    หลังจากที่กินอาหารอะไรเสร็จแล้ว ทุกคนก็แยกย้ายกันไปทำธุระส่วนตัว้างก็พักผ่อน้างก็นั่งเล่นอยู่หน้าเตาผิงละเวลานี้ป็นเวลาที่เบลจะไปพักผ่อน เจมี่ก็จะมีพยาบาลมาอยู่ดูแลตั้งแต่ช่วงค่ำยาบาลช่วยเธออาบน้ำ และดูแลต่างๆากมายนไปจนถึงจะเข้านอน่างบางอยู่ในชุดนอนสีชมพูกระโปรงยาวร้อมกับผ้าคลุมไหล่บางๆี่คลุมไว้ตลอดธอจำได้ว่ามันเป็นผ้าของเบลธอจึงไม่เคยเอาออกห่างตัว...

     

    เธอนั่งอยู่ข้างหน้าต่างในห้องของตัวเอง อนนี้มีพยาบาลที่จะยืนเฝ้ายามอยู่หน้าห้องละจะแวะเวียนเข้ามาดูแลนกว่าร่างบางจะหลับต่วันนี้ดูเหมือนจะไม่เหมือนทุกวัน

     

    นี่ก็ดึกมากแล้วธอยังไม่ยอมนอนเลย เธอเอาแต่จ้องหน้าต่างแล้วก็ร้องไห้ เกิดอะไรขึ้นกับเธอกัน

     

    ตึง! ตึง!

     

    นาฬิกาโบราณเรือนใหญ่ีบอกเวลาเที่ยงคืนจมี่ที่ยอมขึ้นไปนอนบนเตียงก็ยังไม่หลับธอนอนจ้องเพดานสีขาวที่เวิ้งว้างดูว่างเปล่า น้ำตาไหลออกมาเป็นสายสียงสะอื้นเบาๆังดังออกมาเป็นระรอกละด้วยอาการป่วยธอจึงหลับไปลับสู่ห้วงนิทราเหมือนในทุกๆัน

     

    ...แค่วันนี้เธอสามารถทนเจ้าชายให้ได้ตลอด ห้ามเถียง้ามขัด ห้ามงอแงป็นอันผ่าน

    ...มั่นใจเหรอว่าเนี่ยนะเป็นเกมส์

     

    ...ได้เจ้าชายจะให้เธอช็อปเต็มที่

    ...แต่มีข้อแม้หนึ่งข้อ

    ...เจ้าชายจะให้เธอเข้าได้ร้านละห้านาที

     

    ...ขอโทษที

    ...เจ้าชายก็ไม่ได้เกลียดเธอหรอนะ ...แค่เจ้าชายอยากจะชนะ

    ...อโหสิกรรมให้เจ้าชายด้วย

     

    เสียงที่สะท้อนอยู่ภายในจิตใต้สำนึกด้เลือนรางหายไปาพตรงหน้าค่อยๆับวูบละกลายเป็นฝันที่ไม่อยากจะนึกต่อ...

     

    สะพานหินอ่อนขาวที่ทอดยาวอยู่นอกตัวเมืองอิตาลีีคนรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญุ่กคนล้วนแต่ใส่สูทูทสีดำที่บ่งบอกถึงความอำมหิตและน่ากลัว

     

    ร่างบางที่ยืนประจันหน้าอยู่กับเหล่าชายชุดดำ แสยะยิ้มให้กับเหล่าชายฉกรรจ์่อนจะหยิบมีดสั้นี่มันคงติดมือมาด้วยออกมา

     

    เธอกำลังจะละเลงมีดเส้นออกมาปาดคอหอยชายฉกรรจ์ที่จับกลุ่มก้อนกันอยู่ตรงนี้าวกับมีบางอย่างเกิดขึ้น

     

    ร่างของเธอทรุดลงกับพื้นือข้างหนึ่งยันพื้นไว้เพื่อกันตัวเองล้มีกข้างหนึ่งยกขึ้นกุมขมับด้วยความเจ็บปวด

     

    ...ปวดหัว

     

    ...ปวดหัวเหลือเกิน ปวดจนทนไม่ไหวครก็ได้่วยด้วย!!

     

    ช่วงเสี้ยววินาที เธอเหลือบไปเห็นชายคนหึ่งี่ถือเครื่องอะไรบางอย่างึ่งน่าจะเป็นสาเหตุของอาการปวดหัว ก่อนที่ร่างของเธอจะถูกหนึ่งในชายชุดดำายื้อให้ดึงขึ้น

     

    เธอสวยมากนะวยจนเกินจะรับไหวได้ธอไม่น่ามาเป็นศัตรูกับพวกเราตั้งแต่แรก

     

    เจมี่กำมือแน่นด้วยแรงที่เท่าจะมีอย่างเคียดแค้น่อนจะหมดสติไป...

     

     

    ...ตื่นขึ้นมาอีกที เธออยู่ในห้องห้องหนึ่งึ่งเป็นสีดำมิดร้ซึ่งแสงสว่างวามหนาวเย็นก็เริ่มปะทะกับผิวกายกิดอะไรขึ้น?

     

    ในระหว่างที่กำลังงุนงงกับสถานการณ์จมี่ก็เผลอไปจับเจออะไรบางอย่างเข้าันเป็นบางของเหลวที่มีกลิ่นคาวาวจนเกินจะทน

     

    และเธอก็เพิ่งรู้สึกตัว่างกายของเธอไร่สิ่งปกปิดีบาดแผลที่เหวอะหวะร้อมรอยฟกช้ำเต็มไปหมดละโซ่ที่ตรวนอยู่ที่ขามันทำให้เธอกลัว

     

    ไม่มีมานานแล้วนะ ความกลัวของเมฆาสาวคนนี้ธอพยายามความหาสิ่งที่น่าจะช่วยเธอได้

     

    แต่หายไปหมดแล้ว อุปกรณ์สื้อผ้าละอาวุธที่เธอติดตัวมาด้วยันหายไปพร้อมๆับความหวังของเธอ

     

    ..ความหวังที่ว่าคนๆ นั้นจะมาช่วย

    ...ความหวังที่ว่าคนๆ นั้นจะรู้สึกตัว

    ...ความหวังที่มั่นใจว่าเขาจะต้องมา

     

    มันหายไปหมดแล้ว ...จริง่ะหรือ?

     

    แอด~

     

    เสียงประตูที่ถูกเปิดเข้ามาผยให้แสงสว่างส่องเข้ามาในห้องมืดนี้ เหล่าชายฉกรรจ์ชุดดำแสยะยิ้มให้กับร่างบาง ก่อนจะค่อยๆ่างกรายเข้ามา

     

    คนที่เขามามีเพียงคนเดียวลังจากนั้นประตูก็ถูกปิดลงละมีเสียงลงกลอนอย่างแน่นหนา

     

    ตึกๆ

     

    เสียงของส้นรองเท้าที่กระทบกับพื้นอันเย็นเฉียบนี้ำให้ร่างบางเริ่มถอยหลังจนหลังชิดติดกับกำแพงวามเย็นกระทบเข้ากับผิวเนียน

     

    หัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำด้วยความกลัว ความหวาดระแวงเริ่มเกิดขึ้น ไม่รู้ว่าชายคนนั้นจะโผล่มาทางไหน

     

    และแขนของเธอก็ถูกกระชากรงกระชากทำให้เธอหงายลงไปนอนกับพื้นขนเธอถูกตรึงไว้บนศีรษะ

     

    มือหนาอันน่ารังเกียจค่อยๆูบไล้ไปตามผิวเนียนที่มีแผลเหวอะหวะของร่างบาง่างบางที่ทนไม่ไหวม่เคยมีใครมาล่วงเกินเธอแบบนี้

     

    ร่างบางใช้เท้าถีบไอ้คนตรงหน้าออกไปด้วยแรงทั้งหมดที่มี่อนจะคว้าเสื้อสูทนอกของมันออกมาธอเอามาห่มตัวเองเอาไว้ก่อนจะหันไปในทางที่เธอเห็น

     

    ตอนที่เปิดประตูเข้ามาธอเห็นหน้าต่างทึบอยู่ข้างบนธอวิ่งและกระโดดนตัวเองกระเด็นหลุดออกมา

     

    “เฮือก!” ร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้นมา นัยน์ตาเบิกกว้างด้วยความหวาดระแวง หัวใจเต้นเร็วไม่เป็นส่ำด้วยความกลัว เกิดอะไรขึ้น?

     

    “ฮือออออ ฮึก... ฮือๆ” ร่างบางเอามือปิดหน้าร้องไห้ด้วยความกลัว เป็นแรงดึงดูดให้หลายคนที่ยังไม่หลับวิ่งขึ้นมาบนห้องเธ

     

    ปัง!

    เสียงกระแทกประตูอย่างแรงทำให้มันถูกเปิดออกผยให้เห็นชายหนุ่มผมทองที่เดินเข้ามาหาร่างบางอย่างตื่นตระหนก

     

    “รุ่นพี่... ฮือๆ รุ่นพี่! รุ่นพี่! เจมี่กลัว ฮือออ รุ่นพี่!” ร่างบางกระโจนกอดชายหนุ่มทันทีที่เข้าไปใกล้่อนจะร้องไห้ฟูมฟายราวกับว่าเธอเพิ่งไปเจอกับปีศาจหรืออสูรกายยักษ์

     

    ...ทำไมเธออ่อนแอแบบนี้

     

    เบลเริ่มรู้สึกฉุนเฉียวในใจ นึกโกรธตัวเองทษตัวเองว่าที่เจมี่เป็นแบบนี้ก็เพราะเขา

     

    ... ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ความรู้สึกในใจที่เริ่มเอ่อล้นออกมา เริ่มรู้สักว่ามันชัดเจนขึ้น ความรู้สึกที่ห่วงใย อยากดูแลละอยู่เคียงข้างเสมอนวันเวลาอันโหดร้ายแบบนี้ขากลับไม่สามารถช่วยเจมี่ได้

     

    “เฮ้ย! เกิดอะไรขึ้นวะเบล!?” เสียงที่ตะโกนไล่หลังมา คือเสียงของสควอโล่ กับบอสที่เดินเข้ามาอย่างตื่นตระหนกเล็กน้อย

     

    “ฉันจะไม่ปล่อยให้เจมี่อยู่คนเดียวอีกแล้ว” เสียงของเบลเอ่ยออกมาอย่างทุ้มต่ำสียงนั้นเลื่อนลอยแต่เข้มจนดูน่ากลัวุกคนกำลังงุนงงกับการกระทำของเบลี่มันเกิดอะไรขึ้น?

     

    ก่อนที่จะมีใครได้ถามอะไรบลก็อุ้มเจมี่ไปยังห้องของตัวเอง

     

    “เฮ้ย! ไอ้เบล แกจะพายัยนั่นไปไหนวะ” เสียงที่ตะโกนไล่หลังมาชายหนุ่มหาได้สนใจไม่ เพียงแต่ก้มหน้าลง มองใบหน้าที่ซบแผงอกของเขาละกำลังร้องไห้สียงสะอื้นค่อยๆรีดลึกลงไปในจิตใจของชายหนุ่มจ็บปวด...

     

    เบลวางเจมี่ลงบนเตียงของเขา ถึงแม้ห้องของเธอกับเจมี่จะอยู่เพียงตรงกันข้ามกันต่ทำไมกลับรู้สึกว่ามันยาวไกลเหลือเกินส้นทางระหว่างเขากับเธอมันยาวเกินไปกลเกินกว่าจะไปถึงูงยิ่งกว่าจะเอื้อมไหว

     

    ตอนนี้เจมี่หลับสนิท คงจะเพลียจากอาการร้องไห้ธอเพิ่งหลับเมื่อสองสามนาทีก่อน เบลเหม่อมองร่างบาง่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้างๆจมี่

     

    “เจ้าชายขอโทษ ฉันชายไม่น่าปล่อยให้เธอไปเลยัยอวดเก่ง!” เสียงสำนึกผิดของเบลก็จบลงเพียงเท่านั้น

     

    บ้าจริง! เจมี่หลับไปแล้ว เธอจะได้ยินได้ยังไง

     

    เบลสบถกับตัวเอง ก่อนจะลงจากเตียง ไปนอนบนโซฟาขารู้สึกผิดจนไม่อาจจะแตะต้องร่างกายอันบอบบางนั้นได้...

     ♫ ให้รักเดินทางมาเจอกัน - ดา เอ็นโดรฟิน ♪

    ให้รักเดินทางมาเจอกัน - ดา เอ็นโดรฟิน

     TO BE CONTINUE IN #2

    + +

    Free...Theme+Mouse...Click!!

    ให้รักเดินทางมาเจอกัน - ดา เอ็นโดรฟิน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×