คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : EP.17 เอาจริงล่ะน้า!!!!!!!!
“เป็นงัย ได้แผลรึเปล่า” มะนาวเอ่ยถามระหว่างที่ทานข้าว
อันที่จริงเขาไม่มีอารมณ์ที่จะมานั่งทานข้าวอย่างสบายใจแบบนี้หรอก เขาหงุดหงิดจนแทบอยากจะจับยัยตัวเล็กนี่มาเค้นถามตั้งแต่อยู่ในรถ ติดอยู่ตรงที่เจ้าตัวส่งเสียงท้องร้องจ้อกๆไม่หยุด
“เหมือนจะเคล็ดนิดนึงน่ะ ตอนที่ขาไปสะดุดสายยาง”
ไฉไฉก้มลงสำรวจขาข้างที่สะดุด แม้ไม่มีบาดแผล แต่จุดที่กระแทกเมื่อครู่ยังทำให้มีอาการปวดเล็กน้อย
“เดินเหินไม่เคยระวังเลยนะ”
คุณชายสามไปหงุดหงิดจากไหนมาเนี่ย ไฉไฉเหลือบตามอง...เหมือนว่าตั้งแต่ลงจากรถ มะนาวก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเหมือนกำลังปวดฟันยังงั้นแหละ
“ก็ตรงนั้นมันมืด”
“ยิ่งมืดยิ่งต้องระวัง”
“ดุเข้าไป ตัวเองก็อยู่ใกล้ๆทำไมไม่เข้ามาช่วย” ช้อนปักลงกลางจานข้างผัดปูดังกึก ชักเริ่มฉุนแล้วนะ
“หืมมมม ก็เห็นว่ามีอัศวินเข้าไปช่วยแล้วไม่ใช่หรือขอรับ”
นี่มันบทสนทนาอะไรกัน มะนาวที่แสนใจดีหายไปไหน
ไม่ปลอบใจไม่เท่าไหร่
ตอนนี้เอาแต่เหน็บแนม แถมยังเอาชื่อจริงพี่วินมาล้อเธออีกแน่ะ..
“อัศวง อัศวินอะไรล่ะ เราตกใจพี่วินมากกว่าตกใจที่สะดุดสายยางอีก”
นี่ก็จริงส่วนหนึ่ง เธอตกใจที่จู่ๆวินก็โผล่มาใกล้ๆ
เสียงกึ่งบ่นกึ่งฉุนทำให้สีหน้ามะนาวดีขึ้นเล็กน้อย… เมื่อนึกถึงว่ากำลังหงุดหงิดเรื่องอะไร ก็เผลอหลุดห้วเราะออกมา
ลืมไปได้ยังไงนะ ว่ายัยตัวเล็กนี่ความรู้สึกช้า… กังวลไปเกินกว่าเหตุแท้ๆ
“แน่ะ ยังมาหัวเราะเราอีก มันน่าตกใจจริงๆนะ จู่ๆพี่แกก็โผล่พรวดเข้ามาที่มืดๆแบบนั้น ดีนะที่เราไม่เผลอชกพี่แกเข้าให้”
ถ้าเป็นสาวๆคนอื่น ฉากฮีโร่วิ่งเข้าไปช่วยนางเอกเมื่อครู่คงเป็นฉากโรแมนติกชวนฝันมากๆ
พี่วินนี่ก็น่าเห็นใจจริงๆ ดันมาสนใจยัยหอยทากตัวน้อยนี่
นอกจากจะไม่ประทับใจแล้ว แม่คุณยังเก็บเอามาบ่นได้เป็นวรรคเป็นเวร
ความหงุดหงิดก็ค่อยๆหายไปจนแทบไม่เหลือ ยัยบ๊องนี่ก็ช่างทำให้คนโล่งใจและก็หนักใจในเวลาเดียวกันซะจริง
เมื่อเห็นเพื่อนสนิทคลายสีหน้าเคร่งเครียดลงแล้ว ไฉไฉจึงค่อยๆรวบรวมความกล้า
“แล้วนี่ เมื่อกี้หงุดหงิดอะไรเหรอ”
….ยัยบ๊องเอ๊ยย ทีเรื่องอื่นล่ะความรู้สึกช้า “ไม่ได้หงุดหงิด”
“เอาแต่จิกเราเรื่องพี่วินตั้งแต่เมื่อกี๊แล้วนะ”
“เราถามเรื่องที่ไฉไฉหกล้ม เกี่ยวอะไรกับพี่วิน”
“อย่ามาทำเฉไฉน่า….,มะนาว...พี่วินใช่ป่ะ.”
“อะไรคือ เรา… พี่วิน”
“ก็แบบว่า เห็นคนอื่นอยู่กับพี่วินแล้วไม่พอใจ อะไรงี้น่ะ”
“......หืม??!!???.....”
“นายอาจจะ..แบบว่ารู้สึกไม่ดี แบบว่า..หึงหวง”
“เราไม่ได้หวงพี่วิน!!”
“ออออ”
มะนาวสูดหายใจลึกๆเพื่อตั้งสติ ก่อนจะตอบเธอด้วยช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ
“แล้วเราก็บอกไปตั้งกี่ครั้งแล้วว่าเราไม่ได้ชอบพี่วินแบบนั้น”
“ออออ”
“เราไม่ได้ชอบผู้ชาย เราชอบผู้หญิง!!!”
“……….” นี่มะนาวจะจริงจังมากไปมั้ย
“เราไม่ได้ชอบคนสวย เราชอบคนน่ารัก”
“ออ จ้า” ก็แล้วทำไมต้องจ้องหน้าเขม็งแบบนี้ด้วยน้า
“เราไม่ชอบคนตัวสูง เราชอบคนตัวเล็กๆ “
“ออ…..เข้าใจแล้ว”
“เราไม่ได้ชอบคนเรียบร้อย เราชอบคนซุ่มซ่ามนิดๆ”
“…… พอแล้วมั้ง”
“เราไม่ได้ชอบคนเก่ง เราชอบคนใจดี”
“……….”
“เราชอบ ..”
“มะนาว “เธอรีบขัดขึ้น
“หืม”
“พอแล้ว… เข้าใจแล้ว”
“เข้าใจแน่แล้วนะ”
“อืม…เราถามเล่นๆ ต้องซีเรียสขนาดนี้ด้วยเหรอ”
“ก็เราซีเรียสนี่ เราจริงจังนะ ”
"เข้าใจแล้วจ้า"
“เข้าใจจริงๆเหรอ… ไม่มั้ง ให้เราอธิบายให้ชัดๆกว่านี้มั้ย”
เขาค่อยโน้มตัวไปข้างหน้า ใกล้พอมากพอที่เธอจะหลบตาไปไหนไม่ได้อีก
“เข้าใจแล้ว”
“แน่นะ “
“แน่จ้า พอแล้วจ้า”
ว่าแล้วก็ยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ ก่อนจะรีบเดินไปจ่ายเงิน
พอเถอะนะ มะนาว ตอนนี้มันชักจะรู้สึกแปลกๆแล้วล่ะ
---------------------------------------------------------------------------------------------
ไฉไฉเดินเข้าห้องพักด้วยความงุนงง เมื่อเพื่อนสนิทเริ่มมีท่าทีแปลกๆ พูดจาแปลกๆ
ที่แปลกที่สุดคือ เธอดันหวั่นไหวด้วยน่ะสิ แย่แล้วๆ ไม่ได้การ ต้องรีเซ็ตๆๆๆ
ว่าแล้วก็ยกสองมือขึ้นตบหน้าตัวเองหลายที
“ให้ช่วยมั้ย” เสียงใสเย็นยะเยือกถามขึ้นอย่างมีน้ำใจ
เฮ้ยยยย พี่สาวจิ้งจอก “พวกคุณ มาตั้งแต่เมื่อไหร่”
หญิงสาวที่เอนกายบนโซฟาโบกมือให้เธอช้าๆ มีเสี่ยวหมิงนั่งหน้ามู่ทู่อยู่ที่โซฟาตัวข้างๆ
“มานั่งเล่นรอเจ้าตั้งแต่บ่ายๆแล้วล่ะ วันนี้ศิษย์พี่ของเจ้าทำตัวดี ไม่ดื้อรั้น ข้าเลยพาออกมาเที่ยวเป็นการให้รางวัล”
ให้รางวัล...งั้นเหรอ นี่มันความสัมพันธ์แบบไหนกัน
เมื่อคิดถึงความจริงที่ว่าอิงถิงเป็นจิ้งจอก … จิ้งจอกก็ต้องการสัตว์เลี้ยงด้วยเหรอ
… แล้วเสี่ยวหมิง...นายเป็นสัตว์เสี้ยงแบบไหน กระตายน้อยรึ หรือว่าชิวาว่า ไม่เข้าท่าเลย
“พูดมาก ข้าจะไปไหนมาให้ต้องให้เจ้าพาไปด้วยเหรอ" เขาหันไปโต้ตอบเสียงดัง
"ศิษย์น้องเจ้าไม่สบายรึ ทำไมใบหน้าแดงก่ำ”
ไม่พูดเปล่า เจ้าตัวเดินดุ่มๆเข้ามาดูใกล้ๆด้วยความเป็นห่วง
“เปล่า… สบายดี”
“หืม….. มาให้ข้าจับชีพจรเจ้าดูหน่อย” ชายหนุ่มคว้าข้อมือเธอ
ยกนิ้วชี้และนิ้วกลางของมือที่ว่างทาบที่ข้อมือตรงจุดชีพจร
“ไม่ได้เป็นไข้” ยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมา รู้สึกตัวอีกที ปีศาจจิ้งจอกแสนสวยก็แว่บมายืนข้างเธอซะแล้ว
แถมยังทำจมูกฟุดฟิดๆ ใกล้ๆเธออีกแน่ะ
“เหม็นเหงื่อเหรอคะ” ยกแขนเสื้อขึ้นพิสูจน์สักหน่อย…. เอ๋ ไม่มีกลิ่นนี่นา หรืออาจะมีกลิ่นกับข้าว...
เมื่อนึกถึงกับข้าว ความทรงจำระหว่างมื้ออาหารเย็นก็กลับมาอีกครั้ง...แง....
“ข้าว่า ข้าได้กลิ่นสายลมวสันต์จันทรา” ปีศาจสาวยกมือกอดอกทำท่าเจ้าเล่ห์
“หืม????? “ เสี่ยวหมิงเลียนแบบท่าทางปีศาจจิ้งจอกด้วยการทำจมูกฟุดฟิดๆแล้วเดินวนรอบตัวเธอ…
ไฉไฉมองร่างสูงโปร่งทำท่าทางงกๆเงิ่นแล้วก็รู้สึกหดหู่ใจพิกล ทำไมช่างดูไร้เสน่ห์แบบนี้นะ
ไม่มีมาดเซียนเล้ยเสี่ยววหมิงเอ้ยยย
กลับมาที่ประเด็นสำคัญกันก่อน
“สายลม..วสันต์ จันทรา….???” มันกลิ่นอะไรล่ะเนี่ย
“ก็ไอ่เรื่องรักๆใคร่ๆ ของหนุ่มสาว……” อิงถิงหยุดไว้แค่นี้ก่อนหลิ่วตาใส่เธอ
“เรื่องรักๆ ใคร่ๆงั้นเหรอ” ขอสตั๊นท์สามวิ … รักใคร่… รักใคร่… รัก...ใครล่ะ
...ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มกรุ่มกริ่มของมะนาวเริ่มโจมตีเธออีกแล้ว
“พักนี้มีเรื่องให้หัวใจเจ้าเต้นแรงกว่าปกติหรือไม่เล่า”
ก็พอมี เสียงเล็กๆในใจตอบออกไป
“แล้วมีใบหน้าของคนบางคนทำให้หัวใจสั่นไหวหรือไม่”
ก็เหมือนจะมี ..เสียงนั้นยังคงตอบคำถามแทนเธอ
“มีคำพูดของคนบางคนทำให้ร้อนรนกระวนกระวายหรือไม่”
ก็….มี
“ดูท่า ดอกท้อเจ้าจะเบ่งบานเสียแล้ว”
“ด..อกท้อ...เบ่ง บานเหรออคะ???”
อิงถิงยิ้มเจ้าเล่ห์แต่ไม่ได้ตอบเธอ มีแต่เสี่ยวหมิงที่โพล่งขึ้นมาแทน
“ศิษย์น้อง เจ้า…...มีความรักเหรอเนี่ย ยัยหนูกะโปโล” เสี่ยวหมิงเดินเข้ามาใกล้ๆจ้องมองเธอเหมือนเห็นตัวประหลาด
“วันก่อนยังเป็นแค่ยัยหนูตัวแคระแกร็นอยู่เลย….. ไม่เจอหน้าไม่กี่วัน เติบโตขึ้นเพียงนี้ ไม่เสียแรงที่ศิษย์พี่คอยประคบประหงมดูแล ยัยหนูเติบโตได้ดีๆ”
น้ำตากำลังจะปริ่มๆขอบตาของศิษย์พี่ผู้แสนอ่อนไหวเสียแล้ว… ก่อนจะถูกเบรกอารมณ์ซาบซึ้งด้วยหมอนข้างที่อิงถิงปามากลางหน้าผากพอดิบพอดี
“จะมาทำซาบซึ้งอะไรกัน เจ้าคลอดนางออกมาเองรึ ถึงได้ทำท่าพิรี้พิไรอย่างนี้ ทำอย่างกับนางจะออกเรือน”
อิงถิงเอ่ยด้วยความหมั่นไส้
“ข้าปลาบปลื้มศิษย์น้องของข้า เจ้ายุ่งอะไรด้วย"
เสี่ยวหมิงอดกลั้น ใจอยา่กตะโกนใส่หน้าให้สะใจ แต่ทำได้ขมุบขมิบบ่นเท่านั้น
ปั้ก!!!! หมอนใบที่สองตามมา ตรงหน้าผาก ที่เดิมเป๊ะ
"แอบว่าอะไร พูดออกมาเดี๋ยวนี้เลย!!!!" ขณะที่หมอนใบที่สามกำลังจะตามมา เสี่ยวหมิงผู้กล้ำกลืนก็หมดความอดทนเสียแล้ว
“ข้อบอกว่าข้าปลาบปลื้มศิษย์น้องของข้า เจ้ายุ่งอะไรด้วย!!!! ปิศาจไร้หัวใจ เอาแต่หลอกลวงอย่างเจ้า ไม่มีทางเข้าใจคนมีความรักหรอก!!!!!”
“หนอยแน่....เอา อีกแล้ว เจ้าว่าข้าอีกแล้วนะ คำก็ปีศาจ สองคำก็ปีศาจ.. กลับไปเดี๋ยวนี้เลย หมดเวลาเยี่ยมแล้ว”
บรรยากาศในห้องสงบเงียบขึ้นมาทันตา
ตกลงสองคนนั้นมาทำไรอะไรที่นี่กันแน่ มาทะเลาะกัน.. แล้วก็ไป....
ทิ้งภาระหนักอึ้งไว้ที่ช้านนนนน เธอทรุดลงกับพื้นอย่างหมดแรง
เที่ยงคืน สี่สิบห้านาที
ไฉไฉเดินโซเซออกมาจากห้องน้ำ เธออาบน้ำไปสามรอบแล้ว
ก็ในเมื่อคืนนี้ล้วนมีแต่เรื่องน่าเวียนหัว นอนไม่หลับแน่ถ้ายังวุ่นวายใจแบบนี้ เธอจึงหาวิธีทำให้จิตใจสงบลง
ครั้งแรก ก็สดชื่นดี แต่ยังนอนไม่หลับ
ครั้งที่สอง เธอรู้สึกดีขึ้น อย่างน้อยก็ต่อสู้กับน้ำเย็นจนปัดรอยยิ้มและคำพูดกำกวมของมะนาวออกไปได้บ้าง
ครั้งที่สาม….เริ่มหนาวแล้ว…… อย่างน้อยก็มีเรื่องให้กังวล เธอค่อยๆมุดตัวเข้าไปในผ้าห่ม..
ใต้ผ้าห่มอุ่นแสนสบาย… ตาเธอเริ่มปรือแล้ว ดีจริง วิธีนี้ได้ผล
แสงสว่างวาบจากโทรศัพท์ ใครส่งข้อความมาหรือเปล่านะ.. เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดู
มะนาวส่งข้อความมา….
San>333 : หลับหรือยัง..
ไฉไฉเด็กดี : เกือบแล้ว
San>333 : งั้นนอนเถอะ
........................................................
San>333 : ไฉไฉ..
ไฉไฉเด็กดี :ว่างัย??
San>333 : พรุ่งนี้เราไปรับนะ…
ไฉไฉเด็กดี :ไม่เป็นไร เราไปเองได้
San>333 : เราไปรับนะ…อยากเจอไฉไฉไวๆ
San>333 : ฝันดีนะคับ Good night
เฮือกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก มะนาวพูดนะคับกับเธอด้วย……
ไฉไฉยังนอนลืมตาโพลงอยู่ใต้ผ้าห่ม มีแต่คำถามวนเวียนไปมา ก่อกวนใจ
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ตั้งแต่ครั้งที่พบกัน มะนาวก็คอยดูแลเอาใจใส่เธอมาตลอด… ไปไหนไปด้วย
อืมม...ลองเปรียบเทียบกับแจ็คกี้สิ…
ก็สนิทเท่ากันทั้งคู่ ........
แต่แจ็คกี้ไม่เคยถือกระเป๋าให้ ไม่เคยมายืนรอหน้าห้องน้ำตอนไปดูหนัง ไม่เคยไปร้านหนังสือเป็นเพื่อน ไม่เคยจูงมือตอนเดินลงบันได ไม่เคยแบ่งหมูกรอบของโปรดให้
……..แต่ถ้าตอนหิวมากๆมะนาวก็ไม่แบ่งนะ.. (_ _|||)
ก็ไม่ใชว่าเป็นไปไม่ได้นี่นา ..เท่านี้หัวใจก็พองโต..
แต่ก็แฟ่บลงทันควันเมื่อหวลนึกถึงคำพูดหนึ่งของมะนาว…
ฟุ้งซ่านจริงๆเลยเรา…. จะเป็นไปได้ยัง
-------------------------------------------------------------------
ตีหนึ่งสี่สิบห้านาที
ไม่ใช่แค่ไฉไฉที่ยังนอนไม่หลับ ยังมีอย่างน้อยสองคน ที่มีเรื่องให้คิดจนข่มตานอนไม่ลง แต่จะด้วยอารมณ์และเหตุผลเดียวกันหรือเปล่าหนอ
มะนาวกำลังนอนยิ้มกริ่ม… เมื่อนึกถึงว่าตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
เพราะเขาจะเริ่มรุกแล้วนะ เตรียมตัวไว้เลย ยัยหอยทากน้อย
ส่วนพี่วิน ที่เพิ่งย้ายกลับมานอนที่ห้องตัวเองเป็นวันแรกก็กำลังนอนพลิกไปพลิกมา …
ไม่ได้กลับมานอนแค่เดือนกว่า...ถึงกับแปลกที่จนนอนไม่หลับเลยเหรอ….
หรือว่าจะเป็นเพราะ เมื่อเย็นวันนี้
“พี่วินคะ ปล่อยไฉไฉก่อนนะคะ มะนาวมารับแล้ว”
เสียงเธอร้องเตือนทำให้เขาได้สติ เขาค่อยๆผละมือออกหลังจากพยุงให้เธอยืนได้อย่างมั่นคง
“ขอบคุณมากนะคะพี่วิน ไม่ได้พี่วินช่วยเอาไว้ คงล้มหัวร้างข้างแตกแน่ๆเลยค่ะ”
"ไม่เป็นไรครับ ไฉไฉไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว"
“ไฉไฉกลับบ้านก่อนนะคะ"
ร่างเล็กโบกมือลา เขาโบกมือตอบ มองตามเธอที่เดินไปจนสุดทางเดิน
มะนาวยืนรออยู่ตรงนั้น!!!! โชคดีจริง..ได้เจอกันก่อนกลับบ้านทั้งสองคนเลย เขาจึงโบกมือให้อย่างยินดี
แต่มะนาวไม่ยิ้มตอบ ทำหน้าบึ้งๆตาขวางใส่อีกต่างหาก เขาได้แต่อึ้ง มะนาวค่อยๆประคองไฉไฉเดินขึ้นรถไป..
Σ(っ゚Д゚;)っ เฮือก........นี่เขาไม่ได้มองผิดไปใช่มั้ย...
นี่มันเหมือนกับอาการแสดงความเป็นเจ้าของอย่างที่ผู้ชายจะสื่อถึงกันได้
เหมือนมะนาวกำลังบอกเขาว่า "อย่ามายุ่ง!!!!!!"
นี่..คงไม่ใช่ว่า... เรากำลังแข่งกับคนที่ชอบ เพื่อจีบคนที่เราชอบอีกคนหรอกนะ
ด่านรักของพี่วินครั้งนี้ ช่างหนักหน่วงเหลือเกิน
ความคิดเห็น