ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศิษย์เฒ่าจันทรา มาแจกรักแล้วจ้า

    ลำดับตอนที่ #16 : EP.16 ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีนก!!!!!

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.พ. 60




    ปีศาจจิ้งจอก อิงถิง

    =======================================================


    “เจ้าศิษย์น้องทรยศ ถึงกับขายข้าให้นางปีศาจ” เสี่ยวหมิงตะโกนดังลั่นทันทีที่ม้วนผ้าหลุดออกจากปาก


    “ใครกันแน่ที่เริ่มก่อน นายแกล้งชั้นก่อนนะ แถมฝีมือห่วย แก้มนต์เองก็ไม่ได้”


    “..........” เจอคำพูดสวนเข้าไปถึงกับจุก เถียงไม่ออกเลยทีเดียว


    “ครั้งนี้ถือว่านายทำดีไถ่โทษ เสียสละเอาตัวเข้าแลกเพื่อช่วยชั้นก็แล้วกันนะ  ถ้าอากงแวะมาคราวหน้า ชั้นจะชมนายให้อากงฟังเยอะๆเลย เที่ยวให้สนุกน้า เสี่ยวหมิง” ยัยหัวจุกตัวดี โบกมือส่งหยอยๆ แถมทำหน้าทำตาล้อเลียน  


    “เจ้าเด็กบ้า รอข้ากลับมา……” แต่ก็ไม่ทันจะได้พูดจบประโยค อิงถิงหันมาขยิบตาให้ไฉไฉหนึ่งที จากนั้นก็ลากเขาผ่านประตู วาร์ปเข้าไปในแดนมายาเสียแล้ว


    หนทางแห่งการบรรลุของท่านเซียนน้อยนี่ช่างลำบากตากตรำเหลือเกิน…. ถึงกับต้องเอาตัวเข้าแลกเชียวหรือ


    ...................................................................................................................


    เสี่ยวหมิงจากไปแล้ว…………….

    ถึงจะจากไปแค่ชั่วคราวก็เถอะ  ถือว่าเป็นช่วงเวลาคืนความสุขให้ประชาชนตัวน้อยๆก็แล้วกัน


    ไฉไฉหยิบอาหารที่เสี่ยวหมิงทำเตรียมไว้ให้ออกมาอุ่น..

    เสี่ยวหมิง นายนี่น่ารักจริงๆ ถึงกับเตรียมอาหารไว้เต็มตู้

    ทำเหมือนรู้ว่าตัวเองต้องเดินทางไกลยังงั้นแหละ ไปอยู่เมืองจิ้งจอกแล้วจะเป็นยังไงกันนะ


    เซียนน้อยผู้แสนซึนถูกกักขังอยู่ในถ้ำปีศาจจิ้งจอกสาวสุดเซ็กซี่ อร๊างงงง นี่มันพล็อตจำเลยรัก ตบจูบๆชัดๆ

    ถ้าไม่ปิ๊งกันล่ะก็คนเขียนต้องถูกเทพเจ้าแห่งนิยายรักลงโทษเอาแน่ๆ


    ไม่ต้องรีบกลับน้าเสี่ยวหมิง ชั้นจะรอนายกลับมาพร้อมไซบีเรี่ยน ฮัสกี้ตัวน้อยๆ สักสี่ห้าตัว..


    เอ๋...ไม่ใช่ละ….. ต้องเป็นจิ้งจอกสิ

    จิ้งจอกน้อยตัวกลมๆ หางเป็นพวง ตัวขาวๆฟูๆ น่ารักจังเลยลูก คุณอารอหนูๆอยู่น้า


    ไฉไฉผู้เพลิดเพลินกับอาหารอร่อย และจินตการสุดลึกล้ำ ไม่ได้รู้เลยว่า ว่าที่ป๊ะป๋าของฮัสกี้ เอ๊ย จิ้งจอกตัวน้อยๆ ในจินตนาการของเธอนั้น.. ตอนนี้…


    ใบหน้าแดงก่ำ …..โอ้ว


    เหงื่อโทรมกาย ….โอ้วววว……

    .

    ขาทั้งสองข้างสั่นระริก.. ........โอ้วววว


    หายใจหอบถี่ ……….. ..............โอ้ววววววววว


    ละล่ำละลักพูดกับจิ้งจอกสาวที่นอนทอดกายอย่างเกียจคร้านอยู่บนแท่นหิน


    “พอหรือยัง…ข้าจะพักได้หรือยัง”


    “ยังไม่ครบเลยนี่”


    “ข้าไม่ไหวแล้วนะ” ลมหายใจกระชั้นถี่เริ่มแผ่วลง


    “มัวแต่อิดออด เมื่อไหร่จะครบ”


    “เจ้าบอกว่าให้ข้าทำแค่สิบสองเมนูไม่ใช่เหรอ นี่ ข้าทำเยอะกว่าเจ้าสั่งแล้วนะ “


    “แล้วมันครบมั้ยล่ะที่สั่งน่ะ บอกให้ทำของว่าง ของคาว กับแกล้ม นี่ก็ทำแต่ของหวาน ซาละเปา บัวลอย ลูกชุบ

    ของพวกนี้มันกินกับเหล้าได้มั้ย!!! หยุดบ่น กลับไปเข้าครัวแล้วทำมาให้ครบ”


    ชายหนุ่มยืนกัดฟันกร่อดๆ ยกชายผ้ากันเปื้อนขึ้นมาเช็ดเหงื่อ  

    นังปีศาจ ตั้งแต่มาถึงก็ชี้นิ้วสั่งๆๆ นึกว่าตัวเองอยู่ภัตราคารหรือยังไง

    นี่ข้ายืนอยู่หน้าเตาจนผิวหยาบกร้าน ปากแห้งผาก ขาทั้งสองข้างก็แทบจะทรุด


    อยากกินนักเหรอ จะทำให้กินๆๆๆๆๆ จนอ้วนเลย เจ้าจะเสียใจ ที่มาลองดีกับข้า

    บ่นในใจแล้วก็เดินลิ่วๆเข้าครัวไปด้วยความเคียดแค้น

    ......


    สี่ยอดกุมาร (4)


    ไฉไฉเด็กดี : เพื่อนๆ วันนี้เรามาเรียนเองนะ ไม่ต้องมารับแล้ว เจอกันที่ห้องเล็กตึกไม้นะ”


    ไฉไฉกดส่งข้อความบอกเพื่อนๆ วันนี้เธอออกจากหอมาตั้งแต่เช้า เนื่องจากกิจกรรม "ลับฝีปากกับศิษย์พี่" ถูกยกเลิกไปชั่วคราว ประกอบกับมนต์เสน่ห์ด้ายแดง ที่เสี่ยวหมิงร่ายไว้ถูกปีศาจจิ้งจอกอิงถิงทำลายไปหมดแล้ว

    ไฉไฉจึงไปไหนมาไหนได้อย่างสบายใจ


    ขณะที่เธอเดินเข้ามาถึงหน้าห้องเล็กข้างห้องชมรมเรื่องลึกลับและสยองขวัญ ที่ตอนนี้กลายเป็นสถานที่รวมตัวชั่วคราวของเหล่าสหาย


    มีบางคนอยู่ที่นี่ก่อนแล้ว


    “พี่วินมาเช้าจังเลยค่ะ เพิ่งเจ็ดโมงเอง”


    ชายหนุ่มหันมาตามเสียงเรียก แล้วก็ยิ้มกว้างเมื่อเห็นร่างเล็กผมจุกยืนอยู่ไม่ไกล


    “พี่รีบมารดน้ำต้นไม้น่ะ” ...เอ๊ะ… “ทำไมออกจากหอมาเองล่ะ เพื่อนๆบอกว่าจะไปรับไม่ใช่เหรอ”


    ท่าทีเขาดูกระวนกระวายใจ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าไฉไฉกำลังอยู่ในสภาวะไม่ปลอดภัย เธอไม่ควรเดินไปไหนมาไหนคนเดียวแบบนี้


    “ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้วค่ะ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดน่ะค่ะ”

    แถมตอนนี้คนร้ายตัวจริงกำลังชดใช้กรรมไม่ว่างมาก่อเรื่องอีกนานเลย


    “แต่พี่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี อย่าเพิ่งไปไหนมาไหนคนเดียวนะครับ”  


    แววตาห่วงใยนั่นจ้องมองเธออย่างเปิดเผย….. ไม่นะ พี่วิน จะมาใจดีเรี่ยราดแบบนี้ได้งัย เปลี่ยนเรื่องด่วนๆๆๆ


    “พี่วินปลูกต้นอะไรเหรอคะ…. ทำไมมันเหมือนจะมีแต่ผักล่ะคะ”


    ชายหนุ่มมองตามสายตา แล้วก็กระแอมเพื่อไล่ความเขิน ก่อนจะค่อยๆตอบว่า


    “นั่นต้นขึ้นฉ่าย”  


    “……………… “


    “นั่น ไชเท้า” ...


    “นั่นต้น ชุงไฉ่ (ผักกวางตุ้ง)” … ชักไม่เข้าท่าแล้ว


    “นั่น ตั้วไฉ่  (ผักกาดขาว)” คิดไปเองหรือเปล่าหนอเรา เหมือนจะเน้นคำว่าไฉ่จังเลยนะ


    “ตรงโน้น ต้นส้มจิ๋ว กับ มะนาวจิ๋ว”


    “โฮะๆๆ พี่วิน ขยันปลูกผักจังเลยนะคะ”


    “ครับ ต้นไม้เล็กๆ สีเขียวๆ ดูแล้วเพลินตา แล้วก็น่ารักดี ”  แล้วกัน พี่จะหันมาส่งรอยยิ้มแบบนี้ทำไมกันค้า

    ถึงจะเป็นพี่วินที่แสนใจดี แต่ถ้าพี่เผลอทำใจดีแบบนี้กับสาวๆบ่อยๆ มะนาวจะเสียใจเอาได้นะคะ

    เพื่อป้องกันการทำร้ายจิตใจของมะนาวผู้แสนดี ต้องรีบชิ่งซะแล้ว


    “ไฉไฉไปทานข้าวเช้าก่อนนะคะ” ว่าแล้วก็รีบเผ่นแน่บจากไป ทิ้งวินให้มองตามหลังอย่างเสียดาย


    โอกาสที่จะได้คุยกันสองต่อสองก็มีน้อยอยู่แล้ว เธอยังจะรีบหนีไปไหนอีกหนอ..


    ดูท่าทางเขาจะไร้โชคเรื่องความรัก…. มะนาวก็เอาแต่หลบ ไฉไฉก็เพิ่งวิ่งหนีไป

    เหลือต้นผักน้อยและเจ้ามะนาวจิ๋วไว้ให้ดูต่างหน้า….

    …………………………………………………………………..


    ใกล้ช่วงสอบกลางภาค เหล่าสหายต่างก็คร่ำเครียดกับการทบทวนบทเรียน มีลูกค้าติดต่อเข้ามาเป็นระยะ พวกเขาจึงคัดกรองไว้แค่วันละหนึ่งคน

    เมื่อเสร็จสิ้นภาระกิจกาพเทพ จึงต้องกลับสู่สถานะนักศึกษาใกล้สอบ ห้องเล็กข้างห้องชมรมก็กลายเป็นที่ติวหนังสือโดยมีพี่แจน และพี่วิน แวะเวียนมาติวให้อย่างสม่ำเสมอ..


    เย็นวันหนึ่ง หลังจากที่เหล่าสี่สหายทบทวนเนื้อหาบทเรียนเสร็จ


    “เพื่อนๆ วันนี้เค้ากลับบ้านนะ ต้องแวะไปธุระกับพี่เจ” อาจู บอกเพื่อนขณะเก็บของเตรียมกลับบ้าน


    “เดี๋ยวนี้เรียกพี่เจ ซะจนติดปากเลยนะ เมื่อก่อนยังเรียกว่า อีตานี่ อยู่เลย”


    “หยุดเลยไฉไฉ หยุดแซวเรื่องนี้  ชั้นไปก่อนนะ ต้องแวะซื้อของขวัญวันเกิดพ่อเค้า”  รู้อยู่แล้วว่าเจ้าพวกนี้จ้องจะแซว อาจูรีบเดินออกไปก่อนที่ใครจะทันได้ออกปาก


    “ที่ว่าไม่เฮิร์ทเรื่องพี่วิน คงไม่ใช่เพราะทำใจได้เร็วหรอก เราว่าเพราะเจอคนใหม่มากกว่า”


    “เอาเหอะ เพื่อนไม่เศร้าก็ดีแล้ว” คนที่สบายใจกับนี้เรื่องที่สุดก็คงเป็นมะนาวนี่แหละ

    แม้เขาเองจะยืนยันนอนยันว่าตัวเองไม่ได้เกี่ยวข้องกับพี่วินอย่างที่เพื่อนๆเข้าใจ แต่ก็อดเป็นห่วงความรู้สึกอาจูไม่น้อย


    “ไปหาไรกินก่อนกลับดีมั้ย พี่แจนบอกว่ามีร้านชาบูเปิดใหม่ใกล้ประตูสนามกีฬา เราว่าจะไปลองวันนี้”


    “เรายังอยากอ่านต่ออีกนิดน่ะ ยังมีบางอันที่ไม่เข้าใจน่ะ” ไฉไฉปฏิเสธเรื่องกิน นี่น่าจะเรื่องใหญ่ แต่เพราะเจ้าตัวกำลังง่วนอยู่กับตัวอย่างข้อสอบหรอกนะ ถึงได้ทำเป็นคูล ไม่ตอบรับคำชวนของแจ็คกี้


    “มะนาวล่ะ ไปกับเรามั้ย”


    “เราว่าจะอยู่ติวเป็นเพื่อนไฉไฉดีกว่า”


    “ก็ดี กลับคนเดียวอันตรายแย่เลย” แจ็คกี้เห็นด้วยกับมะนาว ก่อนจะแยกตัวออกไป แจนตะโกนบ๊ายบายให้มะนาว และไฉไฉที่หน้าประตู แล้วเดินพูดคุยกระหนุงกระหนิงออกไปกับแจ็คกี้


    …………………………..


    “เฮ่อ…. เสร็จแล้วๆๆๆๆๆๆๆ มะนาวนี่อัจฉริยะจริงๆเลย อธิบายจนเราเข้าใจทุกข้อเลย”


    “ก็บอกให้ตั้งใจเรียน”


    “ก็ตั้งใจแล้ว…. คนเค้าหัวไม่ดีนี่นา”


    “แน่ใจเหรอหัวไม่ดีเหรอ….. สัปหงกทั้งวัน เราเห็นนะ”


    “ไม่มี๊……...ไม่จริง สัปหงกตอนไหน”


    “วิชาอังกฤษธุรกิจ วิชาบัญชีต้นทุน วิชาจิตวิยา”


    “แหะๆ……” เจ้าตัวได้แต่ยิ้มเขิน ก็นึกว่าเนียนจนไม่มีใครเห็นแล้วนี่นา

    “กลับกันเลยนะ นี่จะทุ่มนึงแล้ว” มะนาวบอกเมื่อเห็นด้านนอกอาคารเปิดไฟสว่างจัา ทั้งสองคนช่วยกันเก็บของ ปิดหน้าต่าง


    ที่หน้าห้องชมรม ไฉไฉออกมายืนนรอมะนาวซึ่งกำลังกลับไปเอาของที่ตู้ล็อกเกอร์ก่อนจะขับรถมารับเธอ


    ไฟห้องชมรมยังเปิดอยู่ คงเป็นวินที่กลับคนสุดท้ายอีกตามเคย


    “ไฉไฉยังไม่กลับอีกเหรอ”


    “พี่วิน… ไฉไฉรอมะนาวอยู่ค่ะ พี่วินยังไม่กลับเหรอคะ”


    “อีกแป๊บนึงก็กลับแล้ว….”


    “.........................” จะคุยอะไรต่อดีนะ…. พี่วินก็ยังยืนยิ้มมองเธออยู่ได้


    โชคดีที่เธอสังเกตุเห็นแสงไฟจากรถที่มุมถนน มะนาวกำลังมาแล้ว


    “กลับก่อนนะคะ พี่วิน มะนาวมาแล้ว อย่ายืนตรงนี้นานนะคะ เดี๋ยวยุงกัด”

    เธอรีบหมุนตัวกลับไปทางด้านหลัง ด้วยอารามรีบร้อน และความซุ่มซ่ามจึงสะดุดเข้ากับสายยางสีเขียวที่วินม้วนเก็บเอาไว้ข้างก๊อกน้ำอย่างจัง


    เธอเห็นภาพวินทำหน้าเหวอเพราะตกใจ แล้วทุกอย่างก็วูบ เหมือนเธอกำลังลอยอยู่ในอากาศ


    ดูเหมือนจะมีใครบางคนรับเธอไว้ได้ทัน เมื่อเงยหน้าขึ้นมองง.. กรอบแว่นพี่วิน อยู่ใกล้ขนาดนี้เลยเหรอ

    ใกล้มากจนเห็นแววตาร้อนรนคู่นั้น ที่ดูเป็นห่วงเธออย่างจริงจัง


    “ไฉไฉเป็นอะไรมั้ย พี่ขอโทษนะ พี่เก็บสายยางไม่ดี”


    ไฉไฉกำลังยืนงง… ขอจูนคลื่นสมองแป๊บนึง… จากนั้นก็กวาดตามองรอบๆ นี่เรากำลังอยู่ในอ้อมกอดพี่วิน ...

    เรากำลังเดินไปหามะนาวที่รถไม่ใช่เหรอ ทำไมจู่ๆ…


    “ไฉไฉ เป็นอะไรรึเปล่า” เพื่อนร้องเรียกจากทางด้านหลัง…

    มะนาวที่กำลังเดินมาถึง เห็นไฉไฉกำลังล้มลง เพราะสะดุดสายยางจึงรีบวิ่งเข้ามาช่วย

    แต่เมื่อเห็นคนใกล้ตัวเร็วกว่า เขาได้แต่ชะงัก ยืนดูภาพสโลวโมชั่นด้านหน้า


    ความรู้สึกนี่มันคืออะไรกันนะ ……


    ไม่รู้ว่า หงุดหงิด โกรธ หรือเสียใจ เหมือนในใจรู้สึกขมและฝาดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน

    แม้จะรู้ว่าเป็นอุบัติเหตุ แต่ภาพสองคนกำลังกอดกันที่เห็นอยู่นี้ทำให้เขาปวดใจไม่น้อย


    เห็นทีเรื่องนี้ เขาคงทำใจเย็นอยู่ไม่ได้แล้ว

    =========================================== จบตอน 16

    เข้าช่วงดราม่าจนได้
    เราที่ถนัดแต่เรื่องคอมมาดี้ พยายามเหลือเกินที่จะหลีกเลี่ยงฉากดราม่าจนมาถึงทางตันแล้ว
    แต่ว่ามันคือชีวิตนี่เนอะ เมื่อผ่านเรื่องดราม่าไป ความสดใสก็จะมาเยือน

    เรามาผ่านดันเจี้ยนดราม่ารักใคร่หวานขมนี่ไปด้วยกันนะคะ

    《โชคดีสามช้อนโต๊ะ》

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×