คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : EP.15 ด้วยรักและหลอกหลอน (อัพเพิ่มแล้วจ้า)
แวะเอาไฉไฉและศิษย์พี่คนดีมาอวยพรวันปีใหม่จีนทุกท่านนะคะ
มีความสุข ร่ำรวยเงินทอง เฮงๆๆตลอดปีจ้า
เลอะเทอะไปหน่อยอย่าถือสาข้าน้อยเลย วาดลบ วาดลบจนกระดาษแทบขาด
ไม่ได้มามือเปล่าน้า...เค้าแอบแปะตอนใหม่ด้วย พรุ่งนี้มาอัพเพิ่มยาวๆเลยจ้า.. (เอามาแปะแล้วจ้า)
==============================================================
“มีลูกค้าแล้ว เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ท่านซีอีโอประกาศด้วยความตื่นเต้น พลางกวักมือเพื่อนๆให้มาดูลูกค้าคนแรกที่เพิ่งส่งข้อความเข้ามา
“เป็นผู้ชายซะด้วย” แจ็คกี้อ่านทวนข้อความ “ผิดคาดเนอะ คิดว่าจะเป็นผู้หญิงซะอีก”
“วันนี้เราเลิกเรียนบ่ายสาม นัดสามโมงครึ่งดีมั้ยไฉไฉ”
“ก็ได้” ไฉไฉตอบแล้วเงียบไป คุณชายสามที่อยู่ข้างๆจึงสังเกตได้
“เป็นอะไรไป หน้าซีดๆ ไม่สบายเหรอ “
“เปล่า แค่รู้สึกแปลกๆอ่ะ ครั่นเนื้อครั่นตัวชอบกล”
อาจูวางมือมือทาบลงบนหน้าผาก “ไม่มีไข้นี่”
“ก็ไม่ได้รู้สึกปวดหัวเป็นไข้อะไรหรอก แค่รู้สึกไม่สบายตัว หนาวๆร้อนๆแปลกๆ น่ะ”
“ไฉไฉ ไปห้องน้ำมะ?”
“แจ็คกี้… ขอบใจนะที่เป็นห่วงแต่เราไม่ได้ปวดอี” นายจะช่วยอะไรจริงๆจังได้สักเรื่องมั้ยนะ แจ็คกี้เอ๊ยยยยย
“มีอีกคนแล้ว นัดต่อกันเลยได้มั้ยอ่ะ”
“อืมๆ ห่างจากคนแรกสักครึ่งชั่วโมงนะ”
ไม่เลวๆ สำหรับวันแรก มีลูกค้ามาสองคน ถือว่าไม่เลว โครงการนี้น่าจะไปได้สวย..
หลังเลิกเรียน ห้องล็อกเกอร์ ตึกคณะ
“อ๊ากกกกกกกกกกกก” เพื่อนๆต่างตกใจเมื่อจู่ๆไฉไฉ ร้องเสียงดัง มือชี้ ไปยังล็อคเกอร์ประจำตัวที่เปิดค้างอยู่
มีรูปภาพร่วงลงมาหลายใบพร้อมตุ๊กตาผ้าคู่หนึ่ง
มะนาวดึงไฉไฉให้มาหลบข้างหลัง แล้วค่อยๆ คีบตุ๊กตาขึ้นมาดูด้วยความแปลกใจ
ส่วนแจ็คกี้กับอาจูก็ช่วยกันรวบรวมรูปภาพที่ปลิวตกอยู่ตามพื้น และบางส่วนที่ยังกระจัดกระจายอยู่ในตู้
“ รูปแกทั้งนั้นเลยไฉไฉ” อาจูชูรูปให้เพื่อนๆดู ทุกรูปเป็นภาพแอบถ่ายไฉไฉหลายอิริยาบท
“มีเขียนบอกรักแกด้วยอ่ะ” อาจูหยิบรูปภาพใบหนึ่งออกมาจากปึก บนภาพมีข้อความลายมือโย้เย้ "ผมรักคุณ" ด้วยหมึกสีแดง
แจ็คกี้ รู้สึกผิดสังเกตุ จึงคว้ารูปภาพในมืออาจูเอามาดมเพื่อพิสูจน์
“ละ… เลือด… อี๋” ปาทิ้งแทบไม่ทัน นี่มันโรคจิตชัดๆ ใช่เลย วิธีการแปลกประหลาดนี่มันคุ้นๆเหมือนที่เขาเคยเจอ เพียงแต่ไม่พิศดาร น่าขยะแขยงแบบนี้
“ตุ๊กตานี่มัน…..”
ภาพแอบถ่ายเขียนบอกรักด้วยเลือด หรือจะสู้ไอเทมสุดโหดในมือมะนาวนี่ไปได้
ตุ๊กตาผ้ายัดนุ่นขนาดเท่าอุ้งมือสองตัวถูกมัดประกบกันด้วยไหมพรมสีแดงสด เหมือนจะมีเส้นผมและตะปูขึ้นสนิมมัดรวมอยู่ด้วย
“ยังกะตุ๊กตาคนเล่นของแน่ะไฉไฉ เค้าพิศวาสแกถึงขนาดต้องทำเสน่ห์เลยเหรอ”
ไฉไฉที่ยังเกาะชายเสื้อมะนาวแน่นเป็นลูกลิง ค่อยๆโผล่หน้าออกมาดู
“ทำน่ากลัวขนาดนี้ นี่เรียกว่าพิศวาสหรือว่าอาฆาตกันแน่”
“ฤกษ์ไม่ดีซะแล้ว วันนี้ยกเลิกนัดก่อนดีไหม” แจ็คกี้เห็นสภาพไฉไฉที่ตอนนี้หน้าซีดเป็นไก่ต้ม แล้วอดเป็นห่วงไม่ได้ กลับไปพักผ่อนดีกว่า ไม่ก็ไปให้หลวงพ่อรดน้ำมนต์ให้
“นัดเค้าไว้แล้วซะดิบดี อย่ายกเลิกเลย เกรงใจเค้า พวกเธอก็คอยอยู่ใกล้ๆเราละกัน”
สี่สหายพากันเดินเกาะกลุ่มกันอย่างระมัดระวัง ระแวงไปทุกสิ่งอย่าง กว่าจะพากันมาถึงห้องชมรมได้ ก็เกือบสามโมงครึ่ง
พักเหนื่อยกันได้ครู่เดียวลูกค้าแรกที่ทุกคนต่างรอคอยก็มาถึง
ชายหนุ่มร่างสูงค่อยๆเดินเข้ามาด้วยท่าทางเหนียมอาย รอยยิ้มใสซื่อทำให้เหล่าสมาชิกคลายท่าทีระมัดระวังลง
“เชิญนั่งค่ะ” อาจูพาลูกค้ามานั่งที่เก้าอี้ที่เตรียมไว้ คุณลูกค้าหนุ่ม ยังคงยืนรีรอไม่กล้านั่งด้วยความขัดเขิน…
“คนเยอะขนาดนี้ ผมคงไม่กล้าพูดแน่ครับ ..”
อืม...หนุ่มขี้อายสินะ “งั้น..เราออกไปรอที่ห้องชมรมก็ได้ค่ะ” แล้วนำทีมเพื่อนๆ อพยพไปรอที่ห้องชมรมด้านข้าง
เมื่อเห็นประตูกระจกปิดสนิทแล้ว ชายหนุ่มก็ดูประหม่าน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อลูกค้าประจำที่แล้ว ถึงเวลาเริ่มงานแล้วสิ
“เล่าเรื่องคนที่คุณชอบให้ฟังคร่าวๆได้มั้ยคะ”
“………… เอ่อ…” ดูท่าทางจะขี้อายมากๆ
“แค่คร่าวๆก็ได้ค่ะ ว่าชื่ออะไร เจอกันที่ไหน”
“เคยเจอแค่ครั้งเดียวครับ ที่โรงอาหาร จากนั้น ผมก็ลืมหน้าเค้าไม่ลงเลย…. ผมหยุดคิดถึงไม่ได้เลย….”
อืม เล่ามา เล่ามาอีก ตอนนี้ไฉไฉเพียงต้องการเวลาอีกนิดหน่อย เพื่อประมวลผล ระหว่างที่เธอเพ่งสายตาเพื่อขอภาพจากจอแอลซีดีเทพ .. ในความมืดสลัวนั้นกลับมีเพียงภาพกลุ่มไหมก้อนใหญ่ ท่ามกลางเมฆหมอกสีม่วง
ยิ่งเพ่ง ยิ่งมึน ยิ่งเพ่งยิ่งมึน โอย.. ตาลาย จากนั้นก็ สะดุ้งโหยง เมื่อรู้สึกได้ถึงมือเย็นเฉียบคู่หนึ่งกำลังกุมมือเธอเอาไว้
ชายหนุ่มผู้แสนขี้อาย เมื่อครู่ ยืนค้ำอยู่เหนือโต๊ะ ก้มมองเธอด้วยสายตาลุ่มหลง !!!
“ผมชอบคุณ แค่เห็นหน้าแว่บเดียว ผมก็ชอบคุณ ไม่สิ ผมรักคุณ”
“เฮ้ย” แจ็คกี้ที่หันมาเจอพอดีถึงกับร้องเสียงหลง เพื่อนๆต่างกรูเข้ามา ช่วยกันดึงชายหนุ่มออกไป
“นายเป็นไอ้โรคจิตที่ส่งของอะไรนั่นมาใช่มั้ย” อาจูฉุนขาดแล้วตอนนี้ หนอยแน่ …ทำเป็นขี้อายจนเธอตายใจ ที่แท้ก็เป็นเจ้าโรคจิต
“ของอะไร ผมเปล่า ผมแค่อยากคุยกับไฉไฉแค่นั้นเอง”
“หา???"
“ผมส่งข้อความมาเพราะอยากคุยกับเค้าเท่านั้นเอง ของอะไรนั้นผมไม่รู้เรื่องนะ ชายหนุ่มระล่ำระลักบอก
ซักไซ้ไร่เรียงกันจนทราบว่า ชายหนุ่ม ชื่อโต้ง อยู่ปีสาม คณะวิทยาศาสตร์ ชายหนุ่มเจอไฉไฉที่โรงอาหารเมื่อวาน ก็รู้สึกตกหลุมรักอย่างรุนแรง อยากเห็นหน้า อยากคุยด้วย ยังสารภาพอีกว่า เมื่อเช้ายังแอบไปดักเจอที่โรงอาหาร จนเมื่อได้ยินเพื่อนผู้หญิงที่คณะกำลังคุยเรื่องประเด็นแม่หมอไฉไฉอยู่ พวกเธอเปิดรูปภาพของสี่สหายที่อาจูใส่ไว้ในกระทู้ เห็นเพียงแว่บเดียวเขาก็จำได้ จึงได้ลองหยั่งเชิงถามข้อมูลสาวๆพวกนั้น แล้วจึงส่งข้อความเพื่อขอนัดเจอ
เมื่อถูกปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย ชายหนุ่มจึงเดินคอตกออกห้องไป พร้อมทั้งถูกคาดโทษไม่ให้เข้าใกล้ไฉไฉในระยะสิบเมตร …
“ไฉไฉ…. ท่าทางชะตาดอกท้อจะกำลังเบ่งบานนะ..” อาจูพูดพลางตามหลังชายหนุ่มที่กำลังเดินจากไป
“ท้งท้ออะไรล่ะ น่ากลัวจะตาย แกแบ่งไปสักคนไหมล่ะ”
“อี๋ ไม่เอาอ่ะ” นี่แล้วที่เหลืออีกคนนี้จะทำไง”
“…ยกเลิกไปก่อนดีมั้ย ……เราระแวงไปหมดแล้ว…………”
“แต่ว่า คนที่สองที่จะมานี่ อาจจะเป็นเจ้าโรคจิตตัวจริงก็ได้นะ เราลองปล่อยให้เข้ามา แล้วดักจับดีมั้ย” จะไหวมั้ยแจ็คกี้ ...
“ไม่ดี” สองเสียงประสานขึ้นพร้อมกัน จนคนพูดเองยังตกใจ มะนาวกับพี่วินหันมามองหน้ากัน.
เอ๋… พี่วิน ...มาตอนไหน จำได้ว่าก่อนหน้านี้ พี่วินนั่งกินขนมปังอยู่ในห้องชมรมนี่นา
อะๆๆๆๆ โมเม้นนี้มันช่าง…… อาจูส่งสายตาให้แจ็คกี้
“นายคิดเหมือนที่ชั้นคิดมั้ย บีหนึ่ง”
แจ็คกี้มองกลับอย่างรู้กัน “ชั้นกำลังคิดอยู่นะ บีสอง นายล่ะบีสา่ม”
“ชั้นก็คิดเหมือนพวกนายเลย “
เอ๋… บีสาม…. อ้าว เฮ้ย!!! พี่แจน!!!พี่แจนมาตั้งแต่เมื่อไหร่ นั่งกินขนมปังอยู่กับพี่วินไม่ใช่รึ
นี่มันช่างเป็นการแบ่งกลุ่มที่ลงตัวจริงๆ กลุ่มรักสามเศร้า และกลุ่มสามกล้วยหอมจอมซน
แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนที่จะออกทะเลไปไกลกว่านี้ … อย่าลืมว่าเรากำลังเจอปัญหาความไม่ปลอดภัยของไฉไฉกันอยู่นะ อาจูเตือนสติทีมกล้วยหอม ก่อนจะหาข้อตกลงเรื่องลูกค้าคนที่สอง .
ทั้งหกคนลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ ว่าควรจะยกเลิกนัดครั้งนี้ไปก่อน พร้อมวางมาตรการความปลอดภัยอย่างแน่นหนา โดยตกลงว่า มะนาว กับแจ็คกี้จะคอยรับส่งไฉไฉและอาจูตั้งแต่วันนี้จนกว่าจะหาเจ้าโรคจิตเจอ
ส่วนพี่แจนและพี่วิน จะรับหน้าที่ เอากล้องวงจรปิดตัวจิ๋วไปติดที่ห้องล็อคเกอร์เพื่อหาตัวคนร้าย
ไฉไฉยอมทำตามที่เพื่อนเสนอแนะแต่โดยดี ตอนนี้คิดอะไรไม่ออกแล้ว อยากกลับหอจริงๆ อย่างน้อยเสี่ยวหมิงน่าจะพอช่วยอะไรได้บ้าง
--------------------------------------------------------------------------------------------
ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง
“เสี่ยวหมิง ออกมาหน่อยเร็ว มีเรื่องอยากจะ….”... อ้าว……นี่มัน
เสี่ยวหมิงนั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนโซฟา รอบตัวมีแถบผ้าขาวพันจนแน่นจนเจ้าตัวขยุกขยิกไม่ได้ ปลายผ้าปรากฏเป็นสาวสวยคนหนึ่ง แต่งตัวคล้ายชุดจีนโบราณดูแปลกตา เนื้อผ้าประกายวิบวับยิ่งทำให้ผิวเธอดูขาวผ่อง หน้ารูปไข่ ตากลมโต ริมผีปากแดง ผมดำขลับยาวถึงกลางหลัง ดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลอ่อนดูใสแจ๋วเหมือนตากวาง สาวสวยยิ้มให้เธออย่างยินดี
“กลับมาแล้วหรือ แม่นางไฉไฉ”
แม่...นาง….. นี่มัน...ยุคไหนกันนะ …
“คุณเป็นใครคะ แล้วนี่มาทำอะไรที่นี่เนี่ย…”
อีกด้านหนึ่งเสี่ยวหมิงกำลัง ดิ้นขลุกขลักอยู่ในม้วนผ้า ได้ยินเสียงดังอู้อี้ลอดออกมา
“อ้วยอ้วยยยยยย”
“พูดว่าอะไรนะ กล้วยๆ???”
“อ้วยอ้วยยยยยย” ปลายเสียงสะบัดเล็กน้อย ดูท่าจะเหลืออดแล้ว
“ออออ ช่วยด้วย”
“แม่นางน้อยนี่ตลกดี ข้าชื่อ อิงถิง” หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย โอ้วววว หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงนั่นทำเอาไฉไฉเสียสมาธิไปครู่หนึ่ง
สาวสวยยกนิ้วเรียวระหงชี้ไปยังเสี่ยวหมิง ดวงตาคู่สวยมีแววระริกตัดพ้อ
“ข้ามาที่นี่..เพื่อมาตามหาชายใจดำ ที่ทำให้ข้าต้องถูกขังอย่างทุกข์ระทมในถ้ำจิ้งจอกตั้งห้าร้อยปี วันนี้ข้าจะพาเขากลับไปให้ได้!!!”
--------------------------------
“โฮ่วววว ร้ายกาจ ชั้นคิดว่านายแค่ปากร้าย ที่แท้นายก็แบดบอยตัวจริงนี่นา”
เสี่ยวหมิงดิ้นรนสุดแรง เมื่อยื่นใบหน้าพ้นขอบผ้าได้ก็ร้องสุดเสียง
“อย่าไปเชื่อนาง นางเป็นปีศาจจิ้งจอกชั่วร้าย นางหลอกลวงผู้คน ถูกจับขังไว้ก็สมควรอยู่แล้ว”
“หลวกลวงยังไง ข้าก็เกี้ยวพาราสีพวกเขาเหมือนที่ชายหนุ่มหญิงสาวทั่วไปเขาทำกัน”
ร่างบางในชุดขาวพลันหายวับ แล้วปรากฏขึ้นอีกบนตักเสี่ยวหมิง สองแขนโอบรอบคอเอาไว้แล้วค่อยๆเอนกายซบทำเสียงออดอ้อน
“คำก็ปีศาจ สองคำก็มารยา ทีเจ้าทำให้ชายที่เป็นที่รักของข้าหนีไปคนแล้วคนเล่า ข้ายังไม่ได้เอาคืนเลยนะ”
“ชายคนรักอะไรกัน เจ้าใช้มายาจิ้งจอกหลอกล่อ”
“เจ้าก็ใช้ด้ายแดง ผูกชายคนรักข้ากับหญิงอื่น ข้าช้ำใจแค่ไหน” เมื่อเห็นเสี่ยวหมิงเบือนหน้าหนีอย่างขัดขืน นางก็จงใจโน้มตัวเข้าไปใกล้ชิดมากขึ้นๆ
ไอ้หยา แทบจะละลายติดกันได้แล้ว นี่มันเรท 18+แล้วนี่
ไฉไฉมองภาพเกือบวาบหวามเบื้องหน้าแล้วนึกชั่งใจ เราควรจะห้าม หรือว่าจะยกมือขึ้นมาปิดเพื่อเซนเซอร์ดีมั้ยนะ
แต่..เรา 19 แล้วนี่ ดูได้ๆ จากนั้นก็ปล่อยให้เหตุการณ์ข้างหน้าดำเนินต่อไป
“คุณชายหมิงเย่ว ตามข้าไปดีๆ หรือไม่ก็ ส่งด้ายแดงของเจ้ามา”
“ไม่มีทาง เจ้าปล่อยข้านะ ไม่งั้นข้าจะเรียกอาจารย์มาจัดการเจ้า”
“ศิษย์น้อง เจ้ารีบเรียกท่านอาจารย์มาเดี๋ยวนี้เลย”
“หืม…. .ยังไงๆก็ดูเหมือนคู่รักทะเลาะกัน ต้องเรียกอากงมาเคลียร์ให้ด้วยเหรอ นายโตแล้วนะ”
“ยัยเด็กบ๊อง นี่นางเป็นปีศาจจิ้งจอกนะ” ..พูดได้เท่านี้ สาวสวยบนตักจึงพันผ้าเป็นก้อนๆแล้วเอายัดปากซะเลย
ไฉไฉเกิดลังใจขึ้นมาอีกครั้ง ถึงตานี่จะปากร้าย ชอบแกล้ง แต่ต้องยอมรับว่าฝีมือทำอาหารไม่เป็นรองใคร แถมยังทำได้หลากหลายเมนู เย็บปักถักร้อยก็เก่ง พอจะลบล้างเรื่องชั่วร้ายลงไปได้บ้าง พักนี้ก็ดูเรียบร้อย ช่างเอาอกเอาใจ แล้วก็นวดเก่ง น้ำหนักมือก็พอดี .. อืม……
“เอี๊ยกอาอานมาอิ้”
ตานี่พูดอะไรของเค้านะ อู้อี้เหลือเกิน ฟังไม่รู้เรื่อง เรียกอากงมาเคลียร์ก็ได้ ไฉไฉพนมมือ ตั้งสมาธิเพื่อนึกถึงอากง
“แม่นางไฉไฉ…อย่าเพิ่งรีบด่วนตัดสินใจ” เสียงหวานแทรกเข้ามา น้ำเสียงอ้อยอิ่งชวนให้เคลิบเคลิ้ม .. มายาจิ้งจอกนี่นา
“ให้ข้าบอกเงื่อนไขเจ้าก่อน แล้วค่อยตัดสินใจดีไหม”
เย้ย!!!พี่คนสวยโผล่มายืนข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ แข็งใจไว้ ตั้งสมาธิหน่อยๆๆ อากงขา ช่วยเสี่ยวหมิงด้วย ๆ
“พักนี้ มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นกับแม่นางใช่หรือไม่”
……… ร รู้ได้งัย
“ มีคนเอาของประหลาดมามอบให้ แถมยังคอยสะกดรอยตามเจ้าไปแทบทุกที่”
“........คุณรู้ได้งัย”
“ บอกให้ก็ได้ … ” พูดค้างไว้เท่านี้ แต่สายตาตวัดไปทางชายหนุ่มที่โดนมัดอยู่บนโซฟา เห็นใบหน้าสลดสำนึกผิดแล้วก็……
“เสี่ยวหมิง… นายทำเหรอ……..”
"แม่นางน้อย ศิษย์พี่รูปหล่อของเจ้าน่ะเค้าจับเจ้ามาทดลองวิชาเสน่ห์ ผู้ชายที่มาวุ่นวายกับเจ้าก็เป็นเพราะเหตุนี้ล่ะ"
"....................." ไอ่เจ้าเสี่ยวหมิง
"ไม่ใช่แค่คนสองคนนะ เท่าที่ข้าสัมผัสได้ พรุ่งนี้น่าจะมีไม่ต่ำกว่าห้าคน มาอ้อนวอนขอความรักจากเจ้า.. นี่ยังไม่รวมเจ้าหนุ่มประหลาดที่ยังจะเอาของขวัญแปลกๆมาแอบใส่ไว้ในตู้เจ้าอีกนะ
ไอ่เจ้าบ้า… ขอถอนคำพูด และความเห็นอกเห็นใจเมื่อกี้ออกไปให้หมด
เสี่ยวหมิงๆได้แต่พยักหน้าอย่างหงอยๆ ศิษย์น้อง ข้าผิดไปแล้ว…
กรอด…เห็นหน้าเศร้านี่แล้ว ยิ่งโกรธไปใหญ่ “…บอกเงื่อนไขมาสิ …….. “
“ ให้ข้ายืมตัวคุณชายไปดูเล่นสักสามเดือน..”
เอาไปตั้งสองสามเดือน อยากให้เอาไปเป็นปีๆด้วยซ้ำ แต่ใครจะอยู่ช่วยแก้ปัญหาให้เราได้ล่ะ …
“สองเดือน ข้าจะเอามาคืน…..”
“.........” ยังคงพิจารณาอยู่
“หนึ่งเดือนก็ได้เอ้า”
“..........................” ไฉไฉก็ยังพิจารณาอยู่
“หนึ่งเดือน แล้วข้าจะแก้เรื่องวุ่นๆนี่ให้เจ้า”
“ดีล ปิดการขาย คุณแก้ปัญหาให้หนูได้ ก็เอาหมอนี่ไปเลยเดือนนึง”
“เย้ๆ” ทันทีที่ตกลงกันได้ ไม่รู้ว่าสายรุ้ง พร้อมทั้งกลีบดอกไม้ปลิวว่อนมาจากไหน นี่บรรยากาศยังกะงานแต่งเลยอ่ะ
อิงถิงเดินมาข้า่งหน้า่ไฉไฉ โบกชายเสื้อสองสามครั้ง ด้ายแดงที่เมื่อครู่ยังมองไม่เห็น ตอนนี้ร่วงกองลงมาเต็มพื้น ความรู้สึกหนักอึ้ง ครั่นเนื้อครั่นตัวที่สะสมไว้ตั้งแต่เช้า ก็พลันหายไปในพริบตา
เจ้าตัวยิ้มพอใจกับผลงาน พร้อมหันมาบอกเสี่ยวหมิงที่นั่งคอตก ยอมรับชะตากรรม
“บอกลาศิษย์น้องเจ้าซะสิ เราจะออกเดินทางกันแล้ว”
============================================================================
เสี่ยวหมิงจะเป็นไงต่อไปน้า....
ตอนนี้จะมีบทวาบหวานกว่านี้มั้ยน้า
ง่วงแล้วไปนอนดีกว่าน้า......
#โชคดีสามช้อนโต๊ะ
ความคิดเห็น