คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : EP. 14 โทดทีๆ ศิษย์พี่มือลั่น
“เสี่ยวหมิง….ทำไมมันยุ่งเหยิง อิรุงตุงนังแบบนี้เล่า…”ชายชราถอนหายใจ
เบื้องหน้า ไฉไฉนั่งทานอาหารกลางวันอย่างเอร็ดอร่อย ไม่รู้สึกรู้สาเลยว่ารอบตัวมีด้ายแดงพันยุ่งเหยิง ปลายเส้นระโยงระยาง ไปพันรอบตัวที่ชายหนุ่มข้างโต๊ะ แล้วก็โยงไปที่ชายหนุ่มอีกคนที่นั่งโต๊ะเยื้องไปทางด้านหลัง โยงไปเรื่อยๆ นับจำนวนคนที่อยู่ท่ามกลางกองด้ายแดงนี้ได้ร่วมยี่สิบคน
“ศิษย์แค่อยากทดสอบฝีมือดูน่ะขอรับ… ไม่คิดว่า ชะตาไร้รักของนางจะทำให้ออกมาเป็นแบบนี้”
“เสี่ยวหมิง…..นั่นศิษย์น้อง ไม่ใช่หนูตะเภา จะเอามาทดลองสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ถ้านางเป็นอะไรไปขึ้นมาจะทำยังไง”
“ท่านอาจารย์ ศิษย์หมายตาศิษย์น้องสำรองไว้แล้วขอรับ เจ้าหนูอาจูนั่นท่าทางใช้ได้ เอาการเอางาน….” ปลายเสียงแผ่วลงเมื่อเห็นตาเรียวเล็กใต้คิ้วขาวโพลนหรี่ลงอย่างไม่พอใจ
“จะแก้ไขเดี๋ยวนี้แหละ ขอรับ”
ชายหนุ่มบอกเสียงอ่อยๆ ก่อนโบกแขนเสื้อร่ายมนต์อำพรางกาย แล้วแว่บไปโผล่ข้างชายหนุ่มที่นั่งอยู่ห่างออกไป
ควานมือเข้าไปกลางกลุ่มด้ายยุ่งเหยิง งมไปงมมาที่สุดก็เจอปลายด้าย เขาค่อยๆสาวเส้นด้ายออกมาจากรอบๆตัวชายหนุ่มด้วยระมัดระวัง ดึงตรงโน้น สอดออกทางนี้ วนไปตรงโน้นที ตรงนี้ที ดึงไปดึงมา…….
แล้วกัน….ทำไมมันยุ่งเหยิงกว่าเดิมเล่า
ชายชราถึงกับกุมขมับ เมื่อกี้นับได้ยี่สิบ นับอีกที นี่มันเกินสามสิบคนเข้าไปแล้ว!!!!
โอยยยย อยู่มาก็เป็นพันปี จะหัวใจวายก็คราวนี้
“เสี่ยวหมิง อาจารย์ขอสั่งให้เจ้าทำดีไถ่โทษศิษย์น้องของเจ้า นับตั้งแต่วินาทีนี้ ไปจนกว่าเจ้าจะแก้ก้อนด้ายขยุกขยุยนี่ได้”
ชายหนุ่มคอตก แต่สายตายังดื้อรั้นคล้ายไม่ยอมรับ ขีนไปทำดีเอาอกใจ นังหนูนั่นเป็นได้เหลิงแล้วหาเรื่องแกล้งเขาไม่เว้นวันแน่ๆ
“ถ้าอาจารย์ได้ยินนางบ่นเรื่องเจ้าแม้เพียงนิดเดียว อาจารย์จะจับเจ้ามัดแล้วโยนเข้ารังปีศาจแมงมุมแม่ม่ายซะเลย”
ท่านเทพทิ้งคำพูดสุดท้ายก่อนหายไปตัวแว่บไป ไม่ให้ชายหนุ่มได้ต่อรองใดๆทั้งสิ้น
เสี่ยวหมิงมองภาพยุ่งเหยิงเบื้องหน้า … ใบหน้าหล่อเหลาสลดวูบ ไม่เหลือเค้าความหยิ่งผยอง
ค่อยๆเดินโซซัดโซเซ ตามไฉไฉและมะนาวออกจากโรงอาหาร
-------------------------------------------------------------------------------------
“เนี่ยเหรอ ออฟฟิสชั่วคราว”
ไฉไฉกลอกตามองรอบๆห้อง นี่มันห้องชมรมลึกลับสยองขวัญชัดๆ อาจูนึกยังไง ถึงได้มาขอใช้ห้องนี้
รู้ทั้งรู้ว่าพี่วินอยู่ห้องข้างๆนี่แท้ๆ ไม่กลัวแสลงใจหรือไงนะ
“ก็อาคารกิจกรรมไม่ว่างนิ อาคารนี้มีห้องว่างถมเถ สะดวกจะตาย บรรยากาศก็ร่มรื่น”
นี่ไม่ใช่ประเด็นเฟ่ยยยย!!! ไฉไฉลากอาจูมาที่มุมห้อง กระซิบกระซาบพอให้ได้ยินกันสองคน
“ทำไมแกเจาะจงเลือกห้องนี้ เห็นอยู่ว่าตรงประตูกระจกมันมองทะลุไปถึงห้องชมรม นี่แก… ไม่กลัวแสลงใจเหรอ”
“หืม….. แสลงใจทำไม เปลี่ยนเป็นตังค์ได้ก็หายนอยด์แล้ว”
ง่ายไปมั้ยหล่อน .คนปกติเค้าเฮิรท์กันสามวันเจ็ดวัน บางคนเป็นปีๆ แต่อาจูนี่… ไม่ถึงสองชั่วโมง .เร็วไปมั้ย
ชั้นไม่สงสัยแล้ว ว่าทำไมเธอถึงได้ตัดสินใจเข้าชมรมลึกลับสยองขวัญอะไรนี่ ตอนแรกนึกว่าเข้ามาเพราะพี่วิน
ที่แท้ ยัยเพื่อนคนนี้ก็มีนิสัยแปลกประหลาดแบบนี้นี่เอง
“ไม่ต้องสนใจชั้นหรอกแก ชั้นหายเศร้าแล้ว มาๆๆ มานั่งนี่ จัดโต๊ะให้แม่หมอกับมะนาวเอาไว้เรียบร้อยแล้ว”
ไฉไฉกลับมาที่โต๊ะตามคำชักชวนของเพื่อน มะนาวนั่งอยู่ก่อนแล้ว โต๊ะทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตั้งเด่นอยู่กลางห้อง มีเก้ากี้ล้อมโดยรอบ อาจูจัดแจงให้มะนาว นั่งคู่กับไฉไฉ ส่วนเธอและแจคกี้ นั่งฝั่งซ้าย ขวา ด้านหน้าที่เหลือเก้าอี้เป็นที่นั่งสำหรับลูกค้า
อืม…ดูๆไปก็ไม่เลว สภาพห้องไม่โทรมเกินไปนัก
ผ้าม่าน… ก็พอทน…
แสงสว่างส่องถึงกำลังพอดี อากาศไหลเวียนพอใช้ มีแอร์ด้วย ใช้ได้ๆ
ก็นับว่าไม่เลวนักสำหรับออฟฟิสชั่วคราว ไม่เลวๆ …..
กึก……. ตอนนี้เริ่มไม่ดีแล้ว ใครนะจำเพาะเจาะจงให้เธอกับมะนาวนั่งตรงนี้ …..
ตรงพอดีกับประตูกระจกที่เชื่อมกับห้องชมรม…เห็นเงาแจ๊คกี้ ชี้มือชี้ไม้คุยอยู่กับพี่แจนท่าทางสนุกสนานอยู่ตรงมุมห้อง
แล้วมันไม่ดียังไงน่ะเหรอ
ก็ตรงเป๊ะพอดีกับโต๊ะพี่วินเลยน่ะสิ แค่เงยหน้าขึ้นมาก็ป๊ะกันแล้ว ไฉไฉผงะไปเล็กน้อยเมื่อสบสายตาของพี่วิน
ท..ทำไมมองมาทางนี้ล่ะ มะนาวอยู่ตรงนี้แท้ๆ ก็มองมะนาวไปสิ พี่วินจะมาจ้องหน้าเธอทำไมกันเนี่ย
สายตานิ่งเรียบเฉยนี่ช่าง....ชวนขนหัวลุก เธอเคยเจอแต่ตอนที่พี่วินยิ้มให้ ไม่เคยโดนจ้องเหมือนจะมองทะลุผ่านร่างได้ขนาดนี้
โอยยยย ขนหัวลุก
หันไปมองคนนั่งข้างๆ หน้าคล้ำไปทั้งแถบแล้ว…..
มะนาวนั่งกอดอกทำหน้าซังกะตาย …..สังหรณ์ใจอยู่แล้ว ไม่น่าปล่อยให้สองคนนี้มาเจ้ากี้เจ้าการเล้ย…
คนนึงก็เอาแต่สนุก อีกคนก็ไม่ห้ามปราม แถมตามใจกันจนเลยเถิด ยัยเด็กหัวจุกข้างๆนี่ก็..หันมาจ้องไม่พอ แถมยังมองเขาแบบเห็นใจอีกแน่ะ..
หนีแม่ ก็เจอพี่หนึ่ง หนีพี่หนึ่งเจอพี่สอง หนีพี่สอง มาเจอเพื่อนเพี้ยนๆอีก เพลีย……
…………………………………………………………………………
หนึ่งวันของไฉไฉกับมะนาวจบลงอย่างทุลักทุเล ทั้งคู่ขอเวลานอกชั่วคราว ปล่อยอีกสองคนที่เหลือไว้ที่ห้องชมรม แล้วแยกย้ายกันกลับมาพักผ่อน
ทั้งๆที่เรียนแค่ครึ่งวัน แถมช่วงบ่ายก็ไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แค่นั่งคุยกับเพื่อนเท่านั้น เรี่ยวแรงหายไปไหนหมดนะ ไฉไฉทิ้งตัวลงโซฟา สองแขนวางแผ่ข้างตัวอย่างอ่อนแรง
“ศิษย์น้องคนดี เหนื่อยมากใช่หรือไม่ ข้าเตรียมน้ำดื่มไว้ให้แล้ว” ร่างสูงนั่งเบียดเธอบนโซฟา ในมือมีแก้วน้ำเก็กฮวยเย็นเฉียบ
“หืม….” ทำมาเอาอกเอาใจ ท่าทางมีพิรุธ “นายวางยาอะไรไว้ป่ะเนี่ย”
“เปล่าเลย ศิษย์น้องที่รัก ข้าเห็นเจ้ากลับมาเหนื่อยๆ จึงอยากแสดงน้ำใจ” เจ้าตัวทำตาใสซื่อ พยักเพยิดให้เธอรับน้ำมาดื่ม
ไฉไฉรับแก้วน้ำมาอย่างเสียมิได้ ก็ยังระแวงอยู่ดี “ถ้าจับได้ว่าแกล้งอะไรอีก ชั้นจะฟ้องอากง”
“ไม่มีเลยยยย ไม่ได้แกล้งอะไรทั้งนั้น มาๆๆ ข้าทุบไหล่ให้นะ” จากนั้นกุลีกุจอเดินมาทุบไหล่ให้อย่างแข็งขัน
“ทำผิดอะไรมาหรือเปล่า”
“เปล๊าาาาาา ไม่มี๊……” ตอบเสียงสูงเชียวนะ ตานี่ไปทำอะไรพิลึกๆมาแน่ๆ ช่างเหอะ วันนี้ไม่มีแรงตอแยแล้ว
ไม่รู้ว่ามีแผนอะไร แต่วันนี้จะยอมให้นายเอาใจหนึ่งวันก็แล้วกัน
“ตรงนี้ด้วย..” ชี้ไหล่อีกข้าง ...อีกฝ่ายก็ยอมทำตามไม่ปริปากบ่น
“ตรงนี้ๆๆ”
“นวดแขนๆ”
“ไหล่อีกข้างนะ”........
เกือบชั่วโมงแล้วนะ ..ยัยเด็กนี่ยังไม่ให้เขาได้หยุดพักมือเลย ข้านวดจนมือจะหงิกอยู่แล้วนะเจ้าเด็กตัวแสบ
กัดฟันกร่อดๆ เก็บอาการไว้ในใจ … เผลอไปนิดเดียวแท้ๆ กลายเป็นเบี้ยล่างให้เด็กนี่โขกสับ
“ข้าวเย็นล่ะ” ถามพลางเอามือชี้ ไปที่ไหล่อีกข้าง
“ข้าเตรียมทำข้าวต้มกุ๊ย กับกับข้าวอีกสองสามจาน” หายใจเข้าลึกๆ แล้วก็นวดๆๆๆๆ
"ดีๆๆ" “แล้วนายทำสเต๊กเป็นมั้ย พิซซ่า พาสต้า สลัด”
….. ฟู้่ว อาหมิงเอ๋ย ใจเย็นๆ “ก็พอได้”
“งั้นเอาหมดนั่นแหละ พรุ่งนี้เช้าทำไว้เยอะๆนะ จะเอาใส่กล่องไปเผื่อเพื่อนๆ”
............................
............................
...........................
ตำแหน่งเซียนนี้ ข้าไม่ได้ส่งฝาชาเขียวชิงโชคได้มานะ เจ้าย่ำยีซะจนไม่เหลือซากแล้ว
“………….ได้ๆ ศิษย์น้องคนดี”
หาทางแก้ไอ้เจ้าด้ายขยุกขยุยนั่นได้เมื่อไหร่ ข้าจะเอาคืนร้อยเท่าเลยคอยดูสิ
“หยุดนวดทำไม นี่ๆๆ หลังนี่ด้วย ขาก็ปวด นายนวดเท้าเป็นป่ะ นวดหน้าได้มั้ย ทำทรีทเม้นต์หน้าใสได้ป่ะ”
“ศิษย์น้องคนดี…….เจ้าเห็นข้าเป็นร้านสปาหรือยังไง”
-----------------------------------------------------------------------------------------------
เช้าวันใหม่ ..
ไฉไฉหอบถุงผ้าใบใหญ่บรรจุกล่องอาหารหลายใบจนโป่งพองผิดรูปร่างเดินออกจากห้อง
“ขอบคุณน้า เสี่ยวหมิง… ถ้าอากงมา ชั้นจะชมนายให้อากงฟังเยอะๆเลย”
ร่างสูงโปร่ง ขอบตาดำคล้ำ นอนพิงโซฟาอย่างเหนื่อยล้า… โบกมือไล่เธอออกไป ส่วนมืออีกข้างควานหารีโมตแอร์มาเปิด กดเร่งความเย็นจนเย็นฉ่ำไปทั่วห้อง
“อาจารย์ได้ยินไหมขอรับ.. นางชมข้าด้วย……” คร่อก… สลบคารีโมทแอร์ อวสานเชฟหมิง
ออฟฟิสชั่วคราว กลายเป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าสี่สหาย วันนี้เพื่อนๆตื่นเต้นกันใหญ่ เมื่อเห็นไฉไฉ หอบเอาของอร่อยมาเต็มไปหมด ดูยังไงๆ ก็เยอะเกินปริมาณสี่คนอยู่ดี พี่วินกับพี่แจนที่อยู่ห้องข้างๆจึงถูกเรียกมาร่วมโต๊ะด้วย
กริบ…… ทุกสายตาหยุดอยู่ที่วินที่กำลังใช้ส้อมม้วนเส้นสปาเก๊ตตี้อย่างบรรจง ทุกคนยังจำภาพพี่วินที่วิ่งพรวดพราดออกไปจากโต๊ะทันทีหลังจากที่กินเกี๊ยวกุ้งคำแรก
….ยังคงมองตาม .. ส้อมที่ม้วนๆๆๆ แล้วยกขึ้น
สายตาที่จับจ้องจากสมาชิกรอบโต๊ะ ทำเอาวินเกร็งไปหมด บังคับมือที่กำลังสั่นอยู่ให้มั่นคง ใจเย็นๆๆ รักษาภาพลักษณ์หนุ่มแว่นสุดคูลเอาไว้ อย่าให้ใครรู้ว่าเราเขิน …
ค่อยๆงับเข้าปาก… เคี้ยวไปแล้วๆๆ จะลุกออกไปห้องน้ำอีกมั้ยนะ ….. กองเชียร์แทบหยุดหายใจ
วินค่อยๆกลืนสปาเกตตี้ช้าๆ คราวนี้เขาเตรียมตัวไว้อย่างดี ไม่มีทางหลุดเขินหรือประหม่าจนต้องลุกหนีเหมือนคราวก่อนแล้ว
อาหารฝีมือไฉไฉนี่อร่อยจริง ถูกปากไปหมดทุกอย่าง อยากจะหลุดยิ้มอย่างบ้าคลั่งแต่ต้องเก็บอาการเอาไว้
อาหารอร่อย ข้างหน้ามีไฉไฉ กับ มะนาวให้ดูเป็นอาหารตา
นี่เขากำลังใช้โควต้าความสุขของปีนี้ทั้งปีหมดภายในวันเดียวหรือเปล่าหนอ
ฮึบ… “อร่อยมากครับ” ยังคงเคี้ยวตุ้ยๆๆ ก่อนจะหยิบพิซซ่าชิ้นใหญ่เข้าปาก
กองเชียร์ที่ลุ้นจนตัวโก่ง ต่างพากันโล่งใจ ….
“อืม…… พี่วินชอบอาหารฝรั่งนี่เอง….. คราวหน้าไฉไฉ จะเตรียมมาอีกนนะคะ” เจ้าของอาหารแสนอร่อย ที่ไม่ได้ทำเองถึงกับยิ้มกริ่ม เสี่ยวหมิง เรามาเปิดร้านอาหารกันดีไหม ไม่เกินสามปีต้องรวยเละแน่ๆ
ขณะที่วินกำลังสำลักน้ำหูน้ำตาไหลเพราะใจเต้นแรงเกินไป เสี่ยวหมิงก็นอนละเมอกระสับกระส่ายอยู่บนโซฟา
“อ๊าก……เจ้าเด็กปีศาจ ปล่อยข้านะ.”
มื้อเช้าจบลงด้วยความอิ่มเอม ขนาดมะนาวเองก็ทานพิซซ่าไปตั้งสามชิ้น จนตอนนี้ตาเริ่มปรือแล้ว … จะไปเรียนไหวมั้ย…..
แต่ใครจะมีความสุขไปมากกว่าท่านซีอีโอกับคุณเลขาอีกเล่า..
ขณะเดินไปเข้าห้องเรียน อาจูก็รั้งตัวแจ็คกี้ให้เดินข้างๆ เพื่อเว้นระยะห่างจากไฉไฉ และมะนาว
“เห็นมั้ย ๆ เราว่าเราไม่ได้คิดไปเองนะ พี่วินน่ะ กินไปก็มองหน้ามะนาวที มองหน้าไฉไฉที”
“ก็เราบอกแล้วไง ว่าสามคนนั้นนั้นดูแปลกๆ”
“อืม……เราต้องคอยจับตาดูดีๆนะ”
หืม ……อาจูก็เป็นห่วงเป็นใยเพื่อนนะเนี่ย แจ็คกี้ แอบตีหัวตัวเองในใจหลังจากที่สบประมาทเพื่อนไปว่าอาจูเอาแต่รอดูเรื่องสนุกอย่างกับดูรายการวาไรตี้เกาหลี
“เดี๋ยวพลาดเรื่องสนุก” …. ไม่ใช่สินะ นี่ไม่ได้เรียกว่าเป็นห่วงสินะ
ความคิดเห็น