ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ศิษย์เฒ่าจันทรา มาแจกรักแล้วจ้า

    ลำดับตอนที่ #6 : EP.6 เทพเซียนฝึกหัด

    • อัปเดตล่าสุด 7 มี.ค. 60


    来了!! 来了!!!


    เมื่อนิยายเราผ่านการหมักบ่มจนได้ที่แล้ว เราก็พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้า

    หลงเข้ามาอ่านกันเยอะ ๆ นะตัวเอง


    ชอบไม่ชอบ บอกกันให้ได้รู้บ้างนะคะ

    =====================================================


    “นี่ย่ามประจำตัวของเจ้า” เสี่ยวหมิงยื่นย่ามขนาดย่อมสีขาวให้ไฉไฉในเช้าวันหนึ่ง


    “เป็นชุด KIT สำหรับแม่สื่อหรือไง” ไฉไฉรับย่ามมาสำรวจ


    “น่ารักอ่ะ เดินด้ายสีแดงเก๋เชียว ปักลายรูปพระจันทร์ด้วย กุ๊กกิ๊กมากอ่ะ …. แต่สายยาวไปหน่อยเนอะ”


    “เจ้าเอาไปเย็บให้สั้นขึ้นอีกหน่อย…ข้า…...ไม่เคยเย็บกระเป๋าให้คนอื่น อาจจะกะความยาวได้ไม่พอดี…”.


    “นะ…. นายเย็บเอง ??"  เนื้อผ้าชั้นดี ฝีเข็มเรียบร้อย ลายปักน่ารัก ประณีตสุดๆ


    เสี่ยวหมิงทำหูทวนลม ไม่สนใจคำถามกึ่งล้อเลียน มือควานเข้าไปในย่าม หยิบของข้างในออกมาอธิบายทีละชิ้นๆ


    “สมุดนี่ไว้ให้เจ้าจดดวงชะตาคู่รักที่เจ้าผูกด้ายแดงให้” หายใจเข้าลึกๆ พร้อมอธิบายอย่างใจเย็น


    “นี่ นายเย็บของพวกนี้เป็นงานอดิเรกเหรอ”  ยัง… ยังไม่หยุด


    “นี่ด้ายแดง ไม่ต้องมัดจริงๆหรอก แค่จิตนาการว่าเจ้ากำลังใช้ด้ายนี่มัดนิ้วก้อยพวกเขา ผู้หญิงข้างซ้าย ผู้ชายข้างขวา“


    “นอกจากเย็บกระเป๋าแล้วนาย ทำอย่างอื่นอีกรึเปล่า ถักโครเชต์ ถักนิตติ้งล่ะ”


    “โว้ยยยยยยย!!!!! เจ้าจะเซ้าซี้ไปถึงถึงไหน บอกอะไร ก็ไม่ตั้งใจฟัง ไม่เอาใช่มั้ย ถ้าไม่เอาข้าจะเก็บคืน”

    หมดแล้ว ความอดกลั้นของเสี่ยวหมิง จบลงแล้วในที่สุด โมโหๆๆๆๆ จนรู้สึกว่าเส้นเลือดข้างขมับด้านซ้ายกำลังเต้นตุบๆๆ


    “..............” ไฉไฉ สูดหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่


    เฒ่าจันทราที่กำลัง กำลังงัวเงีย ลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อบิดขี้เกียจ


    “นังหนู” เจ้าอย่าไปแกล้งเสี่ยวหมิงแบบนั้น ศิษย์พี่ของเจ้า ถึงจะเป็นคนขี้โมโห แต่ก็ละเอียดอ่อนทีเดียว

    วันไหนถ้าอารมณดี เขาอาจจะทำของว่างให้เจ้ากินก็ได้นะ วันก่อนทำเสี่ยวหลงเปาเป็นรูปกระต่ายน้อย น่ารักมาก”


    “ท่านอาจารย์…….. ไม่ต้องเล่าก็ได้นะขอรับ”  เสี่ยวหมิงได้แต่กัดฟันกรอดๆ … คิ้วขมวดขึ้ง ตาจ้องเขม็งไปยังเจ้าเด็กตัวแสบที่ยังเอาแต่หัวเราะไม่หยุด

    พรึ่บ ด้ายแดงกลุ่มใหญ่ปรากฏขึ้นในมือ จับยัยเด็กนี่มัดไว้แล้วเอาไปโยนทิ้งทะเลท่าจะดี


    เมื่อเห็นอีกฝ่ายเตรียมอาวุธพร้อมลงมือ เธอก็รีบวิ่งแจ้นไปหาท่านผู้เฒ่าเพื่อหาที่พึ่ง ปากก็ร้องไม่หยุด


    “ท่านอากงเจ้าขา..ช่วยด้วยยย หนูอยากกิน เสี่ยวหลงเปากระต่ายน้อย”

    ………………………………………………………………………...


    เป็นอีกเช้าวันหนึ่งที่จบลงด้วยความชลมุนวุ่นวาย ท่านผู้เฒ่ากลับไปทำหน้าที่ที่ไต้หวัน ฝากฝังเสี่ยวหมิงให้ดูแลไฉไฉให้ พร้อมๆกับให้รับหน้าที่ดูแลศาลท่านผู้เฒ่าจันทราในวัดจีนละแวกนั้น


    ไฉไฉมาถึงห้องเรียนก่อนเริ่มเรียนเพียงสิบนาที คาบเรียนจิตวิทยาเป็นวิชาเรียนรวม มีนักศึกษาจากหลายสาขา หลายชั้นปีลงทะเบียนเรียนในเทอมนี้ ในห้องเรียนจึงคึกคักมากเป็นพิเศษ


    “ไฉไฉ ทางนี้” เธอหันไปตามเสียงเรียกก่อนเดินไปที่นั่งแถวที่สามใกล้ทางเดิน เพื่อนๆจองที่นั่งไว้แล้ว อาจู แจ๊คกี้ และมะนาว แต่ละคนโดดเด่นสะดุดตา จึงหาเจอได้ไม่ยาก


    “ชั้นพนันกับแจ็คกี้ไว้ว่า แกจะโดด…… แต่แกดันมาจนได้” อาจูเอ่ยเสียงยานคราง ส่งกล่องขนมปังกรอบแท่งรสชาเขียวให้แจ็คกี้ที่ ยิ้มระรื่น


    “ไฉไฉ เป็นหุ้นส่วนเรา เดี๋ยวแบ่งให้ครึ่งนึง” แจ็คกี้ผู้ร่าเริงโบกกล่องขนมตรงหน้าเธอ ไม่สนใจคุณหนูอาจูที่มองค้อนอยู่


    เธอนั่งลงตรงที่ว่างข้างๆ มะนาว คุณชายสาม หันมายิ้มให้เธอก่อนจัดกระเป๋าให้ แล้วเลื่อนเก้าอี้ให้เข้ามาชิดกันมากขึ้น


    เป็นเพราะทั้งสามคนนี้โดดเด่นมากเกินไป ทุกคนล้วนให้ความสนใจ แต่ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามานั่งใกล้ๆ

    ในแถวที่พวกเธอนั่งนั้นจึงมีเก้าอี้สองสามตัวว่างอยู่


    ไฉไฉ เหลือบตามองรอบๆ พร้อมส่งข้อความในใจให้หลายๆคนที่กำลังมองมา

    ชั้นก็เหมือนพวกนายน่ะแหละ อยู่กับสามคนนี้แล้ว รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นต้นคะน้าท่ามกลางสวนกุหลาบ


    เมื่ออาจารย์เดินเข้ามาในห้องเรียน เสียงพูดคุยก็ค่อยๆเบาลง คาบเรียนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เพียงไม่นานนัก เธอได้ยินเสียงขยับเก้าอี้ใกล้ๆตัว หันไปดูจึงพบว่าพี่วิน รุ่นพี่ที่อาจูแอบชอบ กำลังนั่งลงที่เก้าอี้ตัวริมสุดข้างๆมะนาว


    “พี่วิน” อาจูร้องทักพร้อมโบกมือให้


    พี่วินหันมายิ้มให้อาจูและเพื่อน แล้วหันไปจดจ่อกับบทเรียนที่อาจารย์กำลังสอน


    “ตอนตั้งใจเรียนก็เท่ห์มากเลยเนอะ” เสียงเพ้อมาจากอาจู ไม่ดังมาก แต่ก็ไม่เบานัก คนที่นั่งใกล้ๆนี้น่าจะได้ยินกันชัดเจน รวมถึงพี่วินด้วย


    ….. ทั้งสามคนที่เหลือได้แต่หันมามองสบตากัน … นี่แม่คุณจะไม่ปกปิดอาการสักนิดเลยเหรอ….


    ไฉไฉรู้สึกได้ว่าวันนี้บรรยากาศในห้องเรียนดูแปลกๆไป ไม่ใช่เพราะคนเยอะขึ้น แต่เป็นเพราะ………


    อาจู ที่คอยแต่จะมองมาทางนี้ด้วยสายตาคมกล้าเป็นประกายวิบวับจนเธอกับแจ๊คกี้ที่นั่งคั่นอยู่ต้องเบี่ยงตัวหลบ

    กับ........

    มะนาว แล้วก็พี่วิน ที่นั่งนิ่ง ทำหน้าตาขึงขังกันทั้งคู่ จนเธอไม่กล้าขยับตัวเสียงดัง…..


    มะนาวเป็นคนเรียนเก่ง ตั้งใจเรียน แต่ไม่คิดว่าจะตั้งใจขนาดนี้ เธอสงสัยว่ามะนาวอาจจะตั้งใจเรียนมากไปจนลืมหายใจ  


    หนึ่งชั่วโมงอันแสนอึดอัดได้ผ่านพ้นไป อาจารย์กล่าวปิดคาบเรียนแล้วเดินออกจากห้อง


    นักศึกษาต่างทะยอยเดินออกจากห้องไป ไฉไฉและเพื่อนๆ มีเรียนเพียงวิชาเดียวในช่วงเช้า จึงไม่ได้รีบร้อนนัก ยังคงเก็บเอกสาร สมุดปากกา ลงกระเป๋าอย่างเอ้อระเหย


    พี่วินที่นั่งปะปนอยู่ในกลุ่มนี้ เป็นฝ่ายลุกขึ้นยืนก่อน  ก่อนจากไปได้พูดกับมะนาวเสียงเบาคล้ายจงใจจะให้ได้ยินเพียงสองคน  


    “แล้วเจอกันนะครับ”

    มะนาวพยักหน้าตอบแล้วก้มหน้างุด สีหน้ายังคงเคร่งเครียด…. หายใจเข้า .. หายใจออก  ฟู่ว์ว์ หายใจเข้า…. หายใจออก ฟู่ว์ว์ว์


    “มะนาว”....... ไฉไฉส่งเสียงเรียกเบาๆ


    มะนาวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนหันมาสบตาเธอ… แววตากลัดกลุ้มไม่ดูร่าเริงผ่อนคลายแบบทุกวัน มีอะไรในใจหรือเปล่านะ  ระยะหลังนี้เธอมักจะขบคิดเรื่องอื่นจนลืมที่จะใส่ใจเพื่อนคนนี้ไปสนิท


    “ไฉไฉ เรามีเรื่องจะปรึกษา” มะนาวกระซิบกับเธอ… เธอจึงชวนมะนาวออกห้องเรียนไปก่อน แล้วบอกอีกสองคนให้ไปเจอกันที่โต๊ะไม้ข้างอาคารเรียนตัวเดิม


    ระหว่างที่ทั้งคู่เดินออกมาจากตัวอาคารเรียนรวมเพื่อเดินไปตึกคณะ


    “ขอโทษนะคะ”

     นักศึกษาสาวหน้าตาน่ารัก กำลังยืนรอเธออยู่ที่เบื้องหน้า ผิวขาวละเอียด แต่งหน้าบางๆ ผมถูกม้วนเป็นเกลียวสวย


    ไฉไฉอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง อีกฝ่ายจึงถามว่า


    “ไฉไฉ ใช่หรือเปล่าคะ”


    “ใช่ค่ะ”


    “เราชื่อแป้งนะคะ อยู่เอกภาษาอังกฤษปีสอง” แป้งยิ้มน้อยๆก่อนมองไปทางมะนาวอย่างชั่งใจ


    จะเพราะด้วยสัญชาตญาณ หรือด้วยพลังของท่านผู้เฒ่าที่ถ่ายทอดมาให้ก็ตามแต่ เธอรู้สึกว่าแป้งผู้น่ารักคนนี้ คือคนที่กำลังมาขอพรเรื่องความรักจากเธอนั่นเอง


    “คนนี้ผู้ช่วยเรา พูดมาเถอะ ไม่เป็นไรหรอก”


    มะนาวที่กลายเป็นผู้ช่วยอย่างกระทันหัน ได้แต่งง แต่ก็พอจะคาดเดาสถานการณ์ได้ เพราะอาจูเคยบ่นให้ฟังบ่อยๆ เรื่องความป๊อปปูล่าของแม่หมอคนนี้

    “จะเดินไปไหนกับไฉไฉ ต้องเผื่อเวลาไว้นานๆ เดี๋ยวคนนี้ลากไป คนนี้ลากมา”


    “แป้งมีเรื่องที่ต้องตัดสินใจค่ะ แต่ว่า ยังลังเลอยู่ เพื่อนแนะนำว่าให้มาหาไฉไฉน่ะค่ะ เพื่อนบอกว่าไฉไฉช่วยได้”


    “ลองเล่ามาสิ …”


    แป้งเล่าให้ทั้งคู่ฟัง เรื่องที่เธอแอบปลื้มเพื่อนต่างคณะคนหนึ่ง เธอสารภาพรักกับเขาเมื่ออาทิตย์ก่อน เขาดูเหมือนจะมีใจให้ ฟังดูน่าจะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง แต่.. มันเหมือนมีอะไรบางอย่างไม่ถูกต้องอยู่นะ


    ภาพใบหน้าคมเข้มของชายหนุ่มคนหนึ่งแว่บมาในหัว ไฉไฉกระพริบตาปริบๆ ปรับภาพที่เธอเห็นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น…


    ว้าว…. มีจอแสดงผลแถมมาให้ด้วยเหรอ…..ร้ายกาจๆ ท่านผู้เฒ่านี่เป็นเทพเซียนจริงๆด้วยแฮะ…


    “ผู้ชายคนนั้นน่ะ สเป็คของแป้งสินะ ขาวหล่อ เรียนดี สุภาพ ปากหวาน แล้วก็ใจดี มีลักยิ้มด้วย”


    “เอ่อ…. หมายถึง ท็อปน่ะเหรอ”  ท็อปคือผู้ชายที่เธอเพิ่งสารภาพรักไป ทั้งคู่เจอกันตอนไปช่วยงานรับน้องของมหาวิทยาลัยเมื่อต้นเทอมที่แล้ว


    “แต่ว่านะ แป้ง…. คนอ่อนโยน สุภาพ ใจดี ไม่ได้หมายความว่าเค้าเหมาะกับเราเสมอไปหรอกนะ” เธอนึกถึงชายหนุ่มมาดเข้มใบหน้าเย็นชาเมื่อครู่


    “คนบางคน ไม่ได้หล่อมาก ไม่ดูใจดีมาก แถมพูดจาหวานๆก็ไม่เป็น แต่เอาใจใส่เรา  ทำให้เราสบายใจ และเป็นตัวของตัวเอง น่าจะทำให้มีความสุขในระยะยาวได้มากกว่า”


    แป้งนิ่งอึ้งไป เธอแค่จะมาขอให้ไฉไฉช่วยเป็นแม่สื่อเรื่องท็อป ไม่คิดว่า ความลับเล็กๆในใจจะถูกเปิดเผยออกมาง่ายดายเพียงนี้


    “เรื่อง ท็อป เราคงช่วยไม่ได้ เพราะความเป็นไปได้น้อยมาก แต่ถ้าแป้งพร้อมจะเปิดใจยอมรับอีกคนแล้ว ก็มาหาเราใหม่นะ “ ไฉไฉทิ้งท้ายเอาไว้ แล้วจึงชวนมะนาวเดินจากมา


    “มะนาว”......


    “หืม….”


    “เลิกจ้องหน้าเราได้แล้ว”มะนาวยังไม่เลิกจ้องหน้าเธอตั้งแต่ที่ทั้งคู่แยกจากแป้ง จนมาถึงโต๊ะไม้ข้างตึกคณะ


    “อ้อ….. โทษทีนะ เราแค่กำลังคิดว่า ไฉไฉ น่าทึ่งมากเลย”


    “มะนาวชมเราแบบนี้ ต้องหาเชือกผูกข้อเท้า เราด้วยนะ เดี๋ยวลอยกลับลงมาเรียนวิชาอาจารย์แม่ตอนบ่ายไม่ทัน 55 ว่าแต่ มะนาวจะปรึกษาอะไรเราเหรอ”


    "เรื่องที่เป็นแม่สื่อน่ะ”


    “มะนาวก็เชื่อเหรอว่าเราทำได้จริง”


    มะนาวพยักหน้าหงึกหงัก จากที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ เมื่อได้ลองทบทวน "เรื่องบังเอิญ" หลายๆเรื่องอย่างละเอียดแล้ว ทำให้เขาเชื่ออย่างสนิทใจ


    “ไฉไฉเคยเผลอ…..จับคู่ให้ใครที่ไม่สมควรจะรักหรือเปล่า……” มะนาวเอ่ยเสียงเบา


    “ไม่สมควรจะรักเหรอ…..”


    “ใช่ แบบที่ไม่น่าจะได้คู่กันน่ะ “ ยังคงวกไปวนมา


    “คนที่ไม่สมควรจะรักสำหรับมะนาวเป็นยังไงเหรอ"


    ไฉไฉหยุดมองหน้าเพื่อนรักครู่หนึ่งจึงเอ่ยต่อ


    "สำหรับเราคือคนที่ไม่จริงใจต่อความรัก ใช้ความรักของคนอื่นหาประโยชน์ แล้วอีกอย่างนึง.. ที่เราทำน่ะ ไม่ได้จับคู่ซะหน่อย เราทำให้ใครรักกันเองโดยตามอำเภอใจไม่ได้หรอก เราแค่ช่วยให้เค้าเจอคนที่ใช่เร็วขึ้น หรือไม่ก็.....รู้ใจตัวเองเร็วขึ้น…”


    “งั้นเหรอ” เป็นอย่างนั้นเองเหรอ… หรือว่าที่จริงแล้วเขา…


    “ที่สำคัญ จะสมควรรัก หรือไม่สมควร ดูที่ความรู้สึกดีกว่า ว่ารักหรือเปล่า”


    มะนาวถึงกับอึ้งไป… นั่นสินะ สำคัญว่า เขารู้สึกยังไงต่างหาก


    “มะนาวคิดว่าไฉไฉ จับคู่ให้ใครที่ไม่เหมาะกันเหรอ…”


    ลางสังหรณ์แปลกๆ ผุดขึ้นมาในหัว เธอค่อยๆหยิบมือข้างขวามะนาวขึ้นมา ค่อยๆเพ่งไปทีละนิ้ว … จนถึงนิ้วก้อย.. รอยสีแดงจางๆ ที่ข้อนิ้วทำให้ไฉไฉ สะดุดกึก มองหน้าเพื่อนชายตรงหน้า ใบหน้าขาวของมะนาวเป็นสีอมชมพูระเรื่อ


    “เป็นมะนาวเองหรอกเหรอ…!!!!!???!!!!!!!”


    =======================================================

    คุยกัน ๆ
    ช่วงนี้อากาศเย็นลงเรื่อยๆ จะยิ่งเย็นมากขึ้นเพราะอยู่คนเดียวรึเปล่านะ
    เขียนเรื่องรักๆนี่..เขียนไปเขียนมาก็ชักอิจฉาตัวละครขึ้นมา ฮึ่ย!!!

    ดึงผ้าห่มขึ้นมา... จำศีลต่อดีกว่า T-T

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×