คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : EP.3 ของฝากจากไทเป
#เปล่าหรอก แกแค่เพ้อน่ะ อาจูกล่าว
ภายในโซนร้านค้าชั้นใต้ดินของสถานีรถไฟไทเปเมนสเตชั่น ร้านค้ายาวเหยียดตลอดทางเดินกว่าร้อยเมตร
สองสาวเดินเลือกซื้อของฝากอย่างสนุกสนาน ก่อนไฉไฉจะเดินมาหยุดที่ตู้กระจกหน้าร้านโมเดลแห่งหนึ่ง
“อาจู แกว่าโมเดลวันพีชเซ็ตนี้น่ารักป่ะ ชั้นว่าจะเอาไปฝากมะนาว…”
หึๆ เสียงหัวเราะในลำคอพร้อมกับกลิ่นหอมประหลาดลอยมาจากด้านหลังพาให้ขนลุกเกรียว
ทันทีที่เงยหน้าขึ้น สายตาก็ดันเห็นภาพดวงตาที่สะท้อนจากตู้กระจกเข้าอย่างจัง
เฮือก!!!!!! ━━Σ(゚Д゚|||)━━ン!!
คิ้วเรียวยาวหางตาเฉียงขึ้น รอยยิ้มเจ้าเล่ห์นั่น ….
เงาสะท้อนในกระจกดูเหมือนจะเข้าใกล้เธอเข้ามาเรื่อยๆ เสียงหัวเราะหึๆ ก็ดังใกล้เข้ามาทุกขณะ
โอยยย ก้าวขาไม่ออก กลางวันแสกๆ นี่ก็ไม่ได้ละเว้นกันเลย นี่เป็นความฝันประเภทไหนกันนะ
“อยากรู้,,,, ทำไมเจ้าไม่ลองพิสูจน์ล่ะ “
น้ำเสียงดังขึ้นแม้อีกฝ่ายจะไม่ได้ขยับริมฝีปาก ร่างสะท้อนของชายหนุ่มในกระจกค่อยๆลอยห่างออกไป จนไปหยุดยิ้มยียวนหน้าทางเข้าสถานีรถไฟฟ้า นิ้วโป้งชี้ไปยังทางเข้าสถานีแล้วร่างสูงก็ค่อยๆจางหายไป
“ไฉไฉ ได้ของฝากมะนาวแล้วเหรอ” อาจูที่กำลังยืนต่อรองราคากับเจ้าของร้านร้องทัก เมื่อเห็นเธอยืนจ้องตู้กระจกเขม็ง
“ได้แล้วๆ I want this one” เธอชี้โมเดลวันพีซในตู้กระจก เจ้าของร้านรีบหยิบออกมาใส่กล่องให้เธอ
สองสาวเดินดูของต่ออีกครู่ใหญ่ ไฉไฉก็เอ่ยถามอาจูอย่างชั่งใจ
“ยังพอมีเวลาเหลือก่อนไปขึ้นเครื่องมั้ย”
อาจูพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู “มีเวลาเหลืออีกสามชั่วโมง นั่งรถบัสจากนี่ไป ก็น่าจะพอดีกับเวลาเช็คอิน”
“แก.. ขอโทษนะ ชั้นมีเรื่องต้องทำ ธุระสำคัญมากๆๆๆๆๆ…... แกขึ้นรถบัสไปก่อนเลยนะ ชั้นจะรีบตามไป ไม่ตกเครื่องแน่นอน”
เมื่อหาคำอธิบายให้อาจูไม่ได้ ก็คงต้องทำแบบนี้แหละ ไฉไฉรู้สึกผิดอยู่ในใจ ขณะที่เร่งฝีเท้ามุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟฟ้า โดยมีอาจูที่ยังคงยืนอึ้งอยู่มองตามอย่างเป็นห่วง
ใช้เวลาเพียงไม่ถึงสิบนาที ไฉไฉก็มาถึงปลายทางที่สถานีรถไฟฟ้าวัดหลงซาน
ตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงเย็น นักท่องเที่ยวเริ่มบางตาลงแล้ว เธอเดินลัดเลาะไปตามทางที่อาจูพาไปเมื่อวาน
นี่ชั้นคงจะเสียสติไปแล้วจริงๆ ถึงได้ถ่อมาที่นี่ทั้งๆที่ได้เวลาที่ต้องไปสนามบินแล้ว
ไฉไฉหยุดยืนตรงหน้าศาลเจ้าเฒ่าจันทราอย่างเก้ๆกังๆ
“เจ้าจะกลับมา ข้ารู้” น้ำเสียงชราแฝงด้วยความเมตตาดังออกมาจากหลังรูปปั้น เฒ่าจันทราเดินออกมาหาเธอ
“ข้าไม่บังคับเจ้าหรอกนังหนู ค่อยๆคิดไป”
“นี่ไม่ใช่ฝันใช่มั้ย พะ……….. พวกคุณ มีตัวตนจริงๆใช่มั้ย”
ทันใดนั้นก็มีมือลึกลับยื่นมาหยิกแก้มเธอจากทางด้านหลัง
“โอ๊ยยยยย เจ็บ”~(>_<。)\
“ถ้าเจ็บ แสดงว่าเจ้าไม่ได้กำลังฝันน่ะสิ เจ้าหนู” เสียงกลั้วหัวเราะคุ้นหูเสียจนเธอไม่ต้องหันไปมองว่าใคร
แต่นี่ไม่ใช่เวลามาทะเลาะขิงข่า เธอจงใจเมินเจ้าของมือเกเรนั่นแล้ว แล้วพูดกับคุณตา
“แล้วคนธรรมดาจะเป็นลูกศิษย์ท่านเซียนได้ยังไงคะ หรือว่าหนูใกล้จะตายแล้ว ถึงได้มาบอกล่วงหน้าแบบนี้”
โอววว โน่...... ที่เค้าว่ากันว่า คนใกล้ตายจะมองเห็นวิญญาณใช่มั้ย
“ฮ่าๆๆๆๆ เจ้าตัวเล็กนี่ คิดไปถึงไหนแล้ว ทำไมจะเป็นไม่ได้ ไม่มีกฏข้อไหนห้ามคนธรรมดาเป็นลูกศิษย์ท่านเซียนเสียหน่อย”
เสี่ยวหมิงพูดพลางกลั้นหัวเราะ
“เจ้าหนู จะทำให้คนรักกัน ใช่ว่าจะจับใครคู่ใครได้ตามใจชอบ พวกเขาล้วนต้องมีวาสนาอันดีต่อกัน หาไม่แล้ว จะกลายเป็นการสร้างกรรม ก่อบาปให้มนุษย์แทน
ค่อยๆใช้เวลาที่เจ้ามี พิสูจน์จนพอใจเถิด ว่าอยากจะมาติดตามข้า บำเพ็ญกุศลร่วมกันหรือไม่”
ชายชราหยุดให้เธอได้ใช้ความคิดสักครู่
“ที่พวกเรายืนพูดคุยอยู่กับเจ้า เพื่อยืนยันว่านี่เป็นความจริง เจ้าไม่ได้ฝันไปเอง แต่ตอนนี้ เจ้ารีบกลับไปเถิด ค่อยกลับไปคิด ชักช้า จะไม่ทันเดินทาง เพื่อนเจ้าเป็นกังวลแล้ว”
“เมื่อมีวาสานาต่อกัน ระยะทางก็ไม่ใช่อุปสรรคหรอกนะนังหนู”
รอยยิ้ม และเคราขาวๆยาวๆ ค่อยๆเลือนหายไป เธอหันไปมอง รอบๆ ตัว เสี่ยวหมิงเองก็หายไปแล้ว
ท่าทางสองศิษย์อาจารย์นี่จะชำนาญมากๆในเรื่องวาร์ปไป วาร์ปมาให้ชาวบ้านเค้าตกใจเล่น
“คุณหนูไฉไฉขอรับ”
เธอหันไปตามเสียงเรียก ชายชราแปลกหน้ารูปร่างผอมบางในชุดผ้าฝ้ายสีเทา กำลังมองเธออยู่ไม่ไกลจากศาลเจ้าเฒ่าจันทรานัก
“คุณตาเรียกหนูเหรอคะ”
“91”
“คะ ???”,,,
“หมายเลข 91 “
คุณตาบอกเธอก่อนจะค่อยๆ เลือนหายไป
อะไร คือ 91 ใบ้หวยรึ จะไม่อธิบายอะไรเพิ่มอีกสักนิดเลยเหรอ….
เสี่ยวหมิงที่หายไปเมื่อครู่ ก็แว่บบบบ โผล่มายืนข้างๆเธอ
“โน่น ท่านเจ้าที่บอกให้เจ้าไปที่โน่น” ชายหนุ่มมือชี้ไปทาง อาคารไม้ชั้นเดียวหลังเล็กๆใกล้ประตูทางออก
ป้ายสีแดงสดเห็นชัดเจน
“ร้านขายของที่ระลึก”
=========================================
“นึกว่าแกจะมาไม่ทันซะแล้ว” อาจูรีบตรงเข้ามาหาเมื่อเห็นไฉไฉวิ่งกระหืดกระหอบมาที่เคาเตอร์เช็คอิน
“เอ้า นี่ตั๋วแก ชั้นไปกดตู้มาให้แล้ว”
อาจูได้แต่ร้อนใจ อย่างเดียวที่ทำได้ ก็คือรอๆๆๆ แล้วก็ไปกดตั๋วที่ตู้ Self Check In ออกมาเตรียมไว้ให้ไฉไฉ
ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะมาทันหรือเปล่า เตรียมพร้อมไว้ดีที่สุด
ไฉไฉรับตั๋วมา มองสบตาอาจูอย่างซาบซึ้ง
“ไม่ต้องมาซาบซึ้ง กลับไปก็เลี้ยงข้าวชั้นมื้อใหญ่ละกัน โทษฐานที่ทำให้เป็นห่วง”
ทั้งคู่เดินผ่านเข้าด่าน ตม. เพื่อตรวจกระเป๋า
ผ่านขั้นตอนต่างๆไปอย่างราบรื่น จนตอนนี้…. ล้อของเครื่องบินโดยสารลำสีเขียว ค่อยๆ ลอยพ้นจากพื้นรันเวย์…
อาจูคว้าไดอารี่ขึ้นมา มือนึงกำลังงอนิ้วทีละนิ้วเพือช่วยทดเลขในใจ อีกมือนึง จดขยุกขยิก
นี่คงกำลังสรุปยอดค่าใช้จ่าย กับเช็ครายการของฝากสินะ สมกับเป็นคุณหนูอาจูผู้เฉียบขาด
ไฉไฉค่อยๆหลับตาลง ผ่อนลมหายใจช้าๆ กลับถึงเมืองไทยแล้ว เรื่องพวกนี้จะหายไปมั้ยนะ…
มือข้างหนึ่งของเธอสอดเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแจกเก็ตตัวโคร่ง…
กำตุ๊กตาตัวเล็กในกระเป๋าเสื้อพร้อมกับทบทวนเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ
เธอยืนอยู่หน้าร้านขายของที่ระลึกวัดหลงซานด้วยความงุนงง
หันกลับไปมองทางศาลเจ้า เสี่ยวหมิงก็ยังคงชี้ให้เธอเดินเข้าไป เมื่อเธอก้าวเข้ามาที่หน้าเคาเตอร์ พนักงานขายของก็ร้องทักเธออย่างร่าเริง
แล้ว….. เธอมาทำอะไรตรงนี้ล่ะ….นึกทบทวนคำพูดของท่านเจ้าที่ แล้วจึงบอกอีกฝ่ายอย่างไม่มั่นใจนัก
“91… Number 91”
“91 ??? I got it. Wait a minute please” พนักงานขายผลุบหายเข้าไปในหลังร้าน ชั่วอึดใจก็กลับมาพร้อมกับถุงกระดาษสีครีมพิมพ์รูปศาลเจ้าสัญลักษณ์ของวัดหลวงซานใส่ถุงพลาสติกไว้เรียบร้อย
“200 ” พร้อมกับยื่นเครื่องคิดเลขในมือที่มีตัวเลข 200 โชว์หราที่หน้าจอให้เธอดู
เธอจ่ายเงินสองร้อยเหรียญไปด้วยความมึนงง
ค่อยๆแกะห่อกระดาษออกมาดูขณะเดินออกมาเรียกแท็กซี่ที่หน้าวัด
อยากจะยืมประโยคสุดฮิตของพวกคลิกเบทมาใช้ซะจริง เสียเงินไปตั้งสองร้อย เมื่อเปิดถุงออกมาแล้วถึงกับอึ้ง!!!!
นี่มัน……… ตุ๊กตาห้อยมือถือ รูปคุณตาเฒ่าจันทรากำลังยิ้มแฉ่ง ในมือมีอุปกรณ์ประจำตัวครบครัน ทั้งไม้เท้า ถุงย่าม และด้ายแดง!!!!!
กรอดดดดด…. (*__ _。)
สมแล้วที่เป็นเมืองท่องเที่ยว แม้แต่คุณเจ้าที่ก็ยังไม่ยอมเสียดุลการค้านักท่องเที่ยวเลยสินะ สองร้อยเรียญก็ยังจะเอา ฮึ่ย!!!!!!!!!!
=================================================
ความคิดเห็น