ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อย่าหลงรักป้าก็แล้วกัน

    ลำดับตอนที่ #2 : ep2

    • อัปเดตล่าสุด 9 ต.ค. 65


    กลางดึก ณ คฤหาสน์สกุลหลี่แถบชานเมือง แคว้นต้าโจว

    "พี่รอง พี่สาม ช่วยด้วยยยยยย!!!"

    หนุ่มน้อยหน้ามน ผู้หนึ่งวิ่งกระหืดกระหอบผ่านเรือนส่วนหน้าเข้ามาทางห้องหนังสือซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าของบ้านด้วยความรีบเร่ง ปากก็ร้องตะโกน ขอความช่วยเหลือไม่ได้ขาด ทำเอาองครักษ์ที่ยืนอยู่หน้าห้องหนังสือเขม้นมองด้วยความประหลาดใจ ใบหน้านี้ดูแล้วแล้วคุ้นตายิ่งนัก ดูเหมือนจะเป็นคุณชายโจวลู่เสียน ศิษย์น้องเล็กของนายท่าน แต่ผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้ายับยู่ยี่แถมในมือยังหอบแจกันไม้ใบใหญ่มาอีก ดูแล้วก็ช่างพิลึกนัก เขาได้แต่ข่มความสงสัยไว้ในใจแล้วเปิดประตูให้อีกฝ่ายเข้าไปแต่โดยดี



    "พี่รอง พี่สาม ช่วยข้าด้วยยยยย" น้องเล็กของกลุ่มเอ่ยร้องทุกข์เสียงเครือ น้ำตาแทบจะหยดแหมะอยู่รอมร่อ

    ในห้องนั้น ชายหนุ่มสองคนกำลังนั่งเล่นหมากรุกอยู่ที่โต๊ะเตี้ยกลางห้อง ทั้งสองรูปร่างสูงใหญ่ ไล่เลี่ยกัน คนหนึ่งดูเคร่งขรึม จริงจัง ส่วนอีกคนดูท่าทางคล่องแคล่วเปิดเผย มีกลิ่นอายชาวยุทย์ ทั้งสองย่อมเป็น พี่รอง และพี่สามของหนุ่มน้อยผู้นี้



    "น้องเล็กเจ้าไปทำอะไรมา ทำไมมีสภาพเยี่ยงนี้เล่า แล้วนี่เจ้าแบกอะไรมาด้วย"



    'น้องเล็ก' มองตามสายตาของพี่สาม แล้วรีบโยนแจกันไม้ออกไปให้พ้นตัว



    "พี่ใหญ่ให้เจ้าไปสืบข่าวในหอดอกเหมยไม่ใช่รึ ทำไมถึงได้กลับมาช้านัก เกิดอะไรขึ้น" หลี่เจี๋ย หรือพี่รองผู้เคร่งขรึมเอ่ยถาม



    "พี่รอง… ข้าแย่แล้ว"



    "เกิดอะไรขึ้น .. หรือว่า… นางทำอะไรเจ้า?? "



    "นะ…นาง…."



    "นางล่วงเกินเจ้ารึ!!!" พี่สามโพล่งด้วยความเดือดดาล



    "ปะ..เปล่า… เป็นข้าเอง.. "

    "ข้าฆ่านางไปแล้ว … พี่รอง พี่สาม ข้าพลั้งมือฆ่าคนไปแล้วววววว" ว่าแล้วก็ปล่อยโฮเสียงดังลั่น



    "เจ้าเล่ามาให้ละเอียดซิ ว่าเกิดอะไรขึ้น"



    "เถ้าแก่เนี้ยคนนั้น ..นางดื่มไปเยอะมาก ข้าถามอะไร นางล้วนตอบวกไปวนมาฟังไม่รู้เรื่อง แล้วก็ไม่ยอมให้ข้ากลับ ฉุดข้าไปที่ห้องของนาง ข้าขัดขืนก็แล้ว อ้อนวอนก็แล้ว แต่นางก็ไม่ยอม แถมยังจะมาถอดเสื้อนอกของข้าออกด้วย ข้าเลยตกใจคว้าอะไรได้ก็หยิบมาป้องกันตัว ไม่นึกว่าจะเป็นแจกันไม้อันใหญ่นี้"



    "แล้วผงยาสลบที่ข้าให้เจ้าล่ะ"



    "… ข้า..กลัวจะลืม...เลยห้อยไว้กับถุงหอม….มันคงหล่นหายไปตอนที่นางพยายามถอดเสื้อข้า"  

    โจวลู่เสียนตอบอย่างขลาดๆ พลางยกมือขึ้นมาป้องหมัดพี่สามที่กำลังเงื้อมาอย่างหมั่นเขี้ยว




    "หรือนางจงใจ?!? "



    "พี่รอง ท่านหมายความว่า นางรู้แล้วว่าน้องเล็กปลอมตัวเข้าไปสืบ จึงจงใจดึงถุงยาสลบทิ้งไป"



    "..แต่นางดูไม่ฉลาดขนาดนั้นนี่นา.." น้องสี่แย้งขึ้นเบาๆ



    "นางดูไม่ฉลาด แต่เจ้าพลาดท่าให้นาง นี่นับเป็นอะไร"



    "พี่รอง….. โฮ… งานแรกของข้าแท้ๆ ข้ากลับทำพลาด ท่านพี่ใหญ่ต้องผิดหวังมากแน่ๆ "



    "แล้วเจ้าเห็นกับตารึ ว่านางตายแล้ว"



    "ข้าก็ไม่รู้ .. ตอนเห็นหน้านางอาบไปด้วยเลือดข้าก็ขวัญกระเจิงแล้ว ได้แต่วิ่งหนีออกมา"



    "แล้วอุตส่าห์หอบแจกันออกมาด้วย? "



    "โธ่ พี่สาม ข้ากลัวจะทิ้งหลักฐานไว้นี่นา"



    "เจ้าสาม เจ้าให้คนไปรายงานศิษย์พี่ใหญ่ แล้วหาคนไปเฝ้าหน้าหอนางโลมนั่น หากมีข่าวว่านางตายแล้ว เราจะได้เตรียมแผนการรับมือต่อไป"



    "ได้" เจ้าสาม หรือ คุณชายโม่เฉินรับคำแล้วผลุบหายออกไป



    "พี่รอง..หากนางยังไม่ตายเล่า"



    หลี่เจี๋ยหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเรียกองครักษ์เข้ามาสั่งการ

    "เจ้าให้คนไปเฝ้าโรงหมอไว้ กำชับว่าหากมีคนจากหอดอกเหมยมาเรียก ไม่ต้องออกไป แล้วให้คนมารายงานข้า"

    เมื่อองครักษ์รับคำสั่งแล้วออกไป ดำเนินการตามแผน หลี่เจี๋ยจึงหันมากล่าวกับน้องเล็กของตน



    "ถ้านางยังไม่ตาย.. พรุ่งนี้เจ้าก็ไปพบนางพร้อมข้า พาท่านหมอไปด้วย บอกนางว่าเจ้าเมามาก ควบคุมสติไม่อยู่ นึกได้รางๆ ว่าได้ทะเลาะวิวาท ล่วงเกินคนผู้หนึ่งไป เช้ามาได้สติจึงมาขอขมา"



    "สมกับเป็นพี่รอง ..อุบายเช่นนี้ยังคิดออกมาได้"



    "......"




    เช้าวันต่อมา ณ หอดอกเหมย



    "นางหญิงๆๆ อย่าเพิ่งตายนะเจ้าคะ ท่านรีบตื่นเถิด"



    เสียงร้องไห้ของสาวน้อยวัยสิบสี่สิบห้า ปลุกตันหยงให้ตื่น นี่เช้าแล้วเหรอ เรายังอยู่ในห้องเมื่อคืนนี่นา แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้างนะ หัวก็ปวดตุบๆ แถมปวดเมื่อยไปทั้งตัว



    "อือ.." ตันหยงพยายามจะเอ่ยถามถึงหญิงสาวที่ถูกแจกันทุบหัวเมื่อคืน แต่ลำคอแห้งผาก เอ่ยออกมาได้แค่เสียงอืออา



    "นายหญิงฟื้นแล้วววววว!!" สาวน้อยดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ กระโดดพรวดขึ้นมานั่งบนเตียง จับไหล่เธอเขย่าไปมา ปากก็พร่ำพูด

    "ดียิ่งนัก ท่านยังไม่ตายๆ "



    แม่สะ..สาวน้อยยยย เบาได้เบา อาเจ้ยังไม่ตาย แต่ก็กำลังจะตายตอนนี้แหละ มือหนักแท้ แม่คุณ



    "หยุด..ก่อน"



    "อ้าาาา .. นายหญิง ข้าขอโทษ ข้าดีใจจนลืมตัว"



    "มะ..ไม่เป็นไร.. แล้วนี่พี่อยู่ที่ไหนเหรอ แล้วผู้หญิงคนเมื่อคืนล่ะ"



    "ท่านก็อยู่ในห้องท่านนี่เจ้าคะ"



    "ห้องพี่เหรอ… แล้วน้องมาได้ยังไง น้องอยู่แถวนี้เหรอ"




    "..... ข้าก็…เป็นสาวใช้ของท่านไงเจ้าคะ"



    "สาวใช้?? "

    สาวน้อยพยักหน้าตอบ



    "ของชั้นเหรอ?? " เธอเอามือจิ้มที่อกตัวเอง



    สาวน้อยพยักหน้าตอบขึงขังกว่าเดิม …



    "แล้วผู้หญิงที่โดนทุบหัวเมื่อคืนล่ะ ยังอยู่มั้ย มีใครโทรเรียกรถพยาบาลหรือยัง??



    "ผู้หญิงที่โดนทุบหัวเมื่อคืน..ก็คือท่านยังไงล่ะเจ้าคะ" สาวใช้ตัวน้อยของเธอตอบด้วยแววตาใสซื่อ



    ตันหยงรู้สึกขนลุกซู่ .เธอค่อยๆ เอื้อมมือไป กดตรงตำแหน่งที่จำได้คร่าวๆ



    "อ๊ากกกก เจ็บๆๆๆ "



    "นายหญิง … ท่านอย่ากดแผลแรงแบบนั้นสิเจ้าคะ ท่านหมอเพิ่งใส่ยาให้เมื่อเช้านี้เอง"

    "ท่านโชคดีแค่ไหนที่คุณชายหมอ กลับมาจากนอกด่านได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้น ท่านก็ได้แต่นอนจมกองเลือดแล้ว ท่านก็รู้ หอนางโลมเช่นนี้ ท่านหมอคนไหนจะยอมเข้ามารักษา มีแค่คุณชายหมอ ท่านนั้นที่มีเมตตากับพวกเรา"




    "หอนางโลม??? ที่นี่คือหอนางโลม?? "



    "ใช่เจ้าค่ะ"



    "แล้วทำไม ชั้นถึงมาอยู่ในหอนางโลมได้ล่ะ"



    "ก็ท่านเป็นเจ้าของนี่เจ้าคะ"



    "เป็นเจ้าของด้วย!!!??!!"

    ถ้าไอ้ไม้ไอ้โยอยู่ คงแซวว่า 'ไม่ใช่แค่เสพธรรมดา แต่เป็นผู้ค้าซะด้วย' แน่ๆ



    โอ้วววว มันชักจะยังไงๆ ซะแล้ว เริ่มตั้งแต่ตื่นมาก็มีแม่หนูน้อยส่งเสียงเจื้อยแจ้ว บอกว่าเราคือคนที่ถูกตีหัวเมื่อคืน แถมตำแหน่งแผลที่ถูกพันผ้าเอาไว้ก็ดันตรงกับของแผลของผู้หญิงคนนั้นอีก

    นี่มันพล็อตทะลุมิติในตำนาน!!

    แต่ตำนานบ้าอะไรก่อน ถึงมาทะลุอยู่ในซ่อง เอ๊ย! หอนางโลมซะได้



    เกลือในเกลือในเกลือที่แท้ทรู ทำไมไม่สุ่มได้อาชีพดีๆ อย่างนักเวทย์หรือนักรบนะ นักบวชก็ไม่แย่ ถึกทนแถมฮีลได้อีก เฮ้อ…..

    แล้วถ้าตอนนี้เราอยู่ในโลกต่างมิติ สาวน้อยคนนี้ก็อาจจะเป็น NPC ที่ระบบส่งมาก็ได้นะ



    " พี่ชื่ออะไรเหรอ หมายถึงพี่คนนี้น่ะ" ตันหยงเอามือจิ้มอกตัวเอง



    "ท่านคือ นายหญิงเสี่ยวจิ่วไงเจ้าคะ"



    "ออ…ชื่อ เสี่ยวจิ่วสินะ.. แล้วน้องล่ะ ชื่ออะไร น้องน่ะ"



    ตันหยงเอามือจิ้มไปที่แขนของเด็กสาว ที่ตอนนี้กำลังช็อคจนอ้าปากค้าง ตาแทบจะถลนออกมาแล้ว



    "ท..ท่านจำอาจูไม่ได้เหรอเจ้าคะ..ฮรึก..ก.. "



    กำ จะร้องไห้ซะแล้ว อย่าว่าแต่จำน้องไม่ได้เลยจ้า ตัวละครที่พี่กำลังเล่นอยู่นี้ พี่ยังไม่รู้จักเลยจ้าาาา



    "อย่าร้องๆ พี่จำได้นิดๆ แล้ว น้องอาจู"



    "นายหญิงจำได้จริงๆ นะเจ้าคะ"



    เธอพยักหน้ายืนยัน พร้อมกับเอานิ้วไหว้กันซ่อนไว้ข้างหลัง



    "แล้ว หอ.. นางโลมนี้ยังเปิดอยู่มั้ย หมายถึงว่ายังเปิด…รับ..แขกอยู่มั้ย? "



    สาวน้อยเพิ่งหายสะอึกสะอื้นตอนนี้เริ่มหน้าเบ้อีกแล้ว



    " พี่จำได้รางๆ แล้วน่ะ น่าจะเพราะโดนตีหัว ก็เลยยังมึนๆ อยู่"

    เอานิ้วไขว้กันอีกรอบ คาดว่ากว่าจะรู้เรื่องครบถ้วน ก็น่าเป็นนิ้วล็อคพอดี



    "ออ … " อาจูเป็นคนซื่อๆ แถมความคิดไม่ซับซ้อน เมื่อได้ฟังตันหยงอธิบายก็เชื่อสนิทใจ



    "ก็เปิดรับแขกอยู่เช่นเดิมแหละเจ้าค่ะ อย่างที่ท่านทราบ ตอนนี้หอดอกเหมยนี้มีพี่สาวที่ 'รับแขก' แบบนั้นน้อยเต็มทีแล้ว ส่วนใหญ่ที่มาก็ล้วนติดใจรสชาดอาหารแล้วก็มานั่งฟังเพลงผ่อนคลาย"



    "ดีจริง … เสี่ยวจิ่วคนนี้ไม่เลวเลย.. ยังคิดจะทำมาหากินแบบปกติอยู่บ้าง"



    "มีเรื่องดีงามเช่นนั้นที่ไหนกันล่ะเจ้าคะ!!" สาวน้อยขัดขึ้น



    "เอ๋!?!!?? "



    "ก็นายหญิงชอบคุณชายโจวมาก ไม่ใช่หรือเจ้าคะ คุณชายโจวกับพรรคพวกนั่นก็แวะเวียนมาที่หอดอกเหมยไม่ได้ขาด แต่ว่า.." เธอมองมาที่ตันหยงแล้วเอ่ยขึ้นอย่างลังเล



    "ท่านหึงหวงรุนแรงยิ่งนัก ไม่ว่าคุณชายโจวจะเรียกพี่สาวคนไหนเข้าไปปรนณิบัติ เช้าวันต่อมาพวกนางล้วนถูกท่านย้ายให้ไปทำงานอื่นทั้งสิ้น "



    .....ห๊ะ!!



    "งานในครัว งานทำสวน คนที่ยอมก็ดีไป แต่คนที่ดื้อดึงจะเข้าไปพัวพันกับคุณชายโจวให้ได้นั้น…."




    นั้นยังไง….. นั้นยังไงต่อ….



    "ก็ถูกท่านขายให้หอนางโลมในย่านเสื่อมโทรมกันถ้วนหน้าเจ้าค่ะ"



    … โอยยย จะเป็นลม…



    ยัยเสี่ยวจิ่ว ชั้นนึกว่าหล่อนจะเป็นคนดิบคนดี



    พระเจ้า ถ้าท่านได้ยินเสียงตามสายนี้ ลูกขอสุ่มใหม่ได้มั้ยคะ!!

    ลูกไม่เอาร่างยัยคนนี้แล้วว!!!

    ________________________________________

    มีคำผิดปนบ้าง ขออภัย เพราะแต่งไปโพสไป เพื่อนกดดันอยู่ 























    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×