คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : EP.2 ด้ายแดงผูก...รัก
“โอย… อึดอัด กินเยอะไปใช่มั้ยเนี่ย…”
ไฉไฉโอดครวญเมื่อตื่นขึ้นมากลางดึกพร้อมอาการปวดมวนท้อง อาหารไม่ย่อยแน่ๆเลย หันไปมองเตียงข้างๆ คุณหนูอาจูยังนอนหลับสบายอุรา น่าอิจฉาจริงๆ ชาบูหม้อยักษ์ที่จัดกันไปเมื่อตอนเย็น ไม่ได้ระแคะระคายกระเพาะนางเลยสักนิด
โอย ปวดท้องงง เอายาวางไว้ตรงไหนเนี่ย.. เธอค่อยๆเพ่งสายตามองโดยรอบ อาศัยแสงไฟสลัวจากห้องน้ำที่แง้มประตูเอาไว้ มือก็เริ่มควานหากระปุกยาช่วยย่อยบนโต๊ะเล็กข้างเตียง
“เอ้ายา” เสียงดังขึ้นจากด้านข้างพร้อมกับยื่นกระปุกยามาให้
ไฉไฉรับกระปุกยาแล้วรีบเทออกมาเคี้ยวอย่างรวดเร็ว
“ดื่มน้ำด้วยสิ”
“ออบใอ” เธอรีบรับน้ำมาดื่มเพื่อกลืนยาลงไปอึกใหญ่
หืม…. อาจูนอนอยู่… แล้ว…. ใคร หันไปเพ่งดูดีๆอีกที
“แว้กกกก คะๆๆๆ คุ..คุณตา มาอยู่ในห้องนี้ได้ยังไง อาจูๆๆ ตื่นเร็วๆ” ทำไมขามันก้าวไม่ออกเล่า
คุณตายิ้มอย่างใจเย็น “ร้องไปก็เปล่าประโยชน์นังหนู เสี่ยวหมิง เอาด้ายมา ต้องรีบโจมตีตอนนางกำลังอ่อนแอ!!!”
“ขอรับอาจารย์”
ชายหนุ่มโผล่ออกมาจากมุมมืด พร้อมกลุ่มไหมสีแดงก้อนใหญในมือ่ หางตาเรียวยาวชี้ขึ้น มองเธอด้วยความมุ่งมั่น
“ผูกนิ้วก้อยนางไว้” คุณตาร้องสั่ง
“ขอรับ !!!“
ทั้งอาจารย์และศิษย์พุ่งเข้าหาข้อมือไฉไฉด้วยความรวดเร็ว เธอปัดป้องพัลวัน ทั้งเตะทั้งถีบ ผู้บุกรุกทั้งคู่ต้องยั้งมือจากการโจมตีมาป้องกันตัวเอง
”นางแรงเยอะขนาดนี้ ดูไม่เหมือนกำลังอ่อนแอสักนิดนะขอรับ“ เสี่ยวหมิง บอกขณะที่พยายามคว้ามข้อมือไฉไฉ
”นังหนูนี่แรงดี พลังชีวิตเข้มข้น“ เสี่ยวหมิง เจ้าจับนาง ข้าจะผูกเอง
“ขอรับ” ว่าแล้วก็พุ่งตัวรวบข้อมือดึงเข้ามาหาตัวแล้วใช้แขนแข็งแรงกักเธอเอาไว้
กลิ่นหอมประหลาดปะทะเข้าโสตประสาทอย่างจัง กลิ่นหอมเย็นๆ เหมือนอะไรนะ เหมือนที่เค้าว่าเวลาเจอผีใช่มั้ย ไฉไฉชะงักไปชั่วครู่ ทำให้ฝ่ายที่กักตัวเธอไว้ฉวยโอกาสรัดเธอได้แน่นกว่าเดิม
“ได้แล้วขอรับ ลงมือได้เลย”
ชายชราตรงเข้ามาฉวยข้อมื แต่ไฉไฉแม้จะถูกล็อคตัวไว้แน่นหนา ก็ใช้กำลังเฮือกสุดท้ายสะบัดจนหลุดรอดมาได้
“ฤทธิ์เยอะนักนะ อย่าหาว่าข้าใจร้ายล่ะ”
ชายชรากวัดแกว่งด้ายแดงในมือ ด้ายไหมเส้นบางๆขยายขนาดขึ้นเรื่อยๆ จนขนาดเท่าเชือก
เส้นเชือกไหมสีแดงสุดพุ่งตรงเข้ามารัดตัวเธออย่างรวดเร็ว พันรอบแล้วรอบเล่าราวกับความยาวไม่มีที่สิ้นสุด
เชือกไหมค่อยๆสงบลง เมื่อชายชราส่งเสียงหึๆ ด้วยความพอใจ
“นี่มันอาราย.. ปล่อยช้านนน ชั้นไม่ใช่มัมมี่นะ”
ไฉไฉส่งเสียงอูอี้ผ่านโพรงมัมมี่.. หรือโพรงดักแด้สีแดงเพลิง จะเป็นอะไรก็ช่างเถอะ
เธอก้มลงมองด้านล่าง ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าถูกพันด้วยเชือกแดงอย่างแน่นหนา เว้นแค่ตากับจมูกให้เธอหายใจ
“อาจูๆๆ ช่วยด้วยๆๆๆๆ”
“เจ้าหนู จะร้องทำไม ท่านอาจารย์ อุตส่าห์เมตตาเจ้า อยู่นิ่งๆเป็นเด็กดีซะ”
เสียงเข้มดังจากด้านหลัง ไฉไฉเหลือบตามอง ดวงตาเรียวยาว จับจ้องเธอ มุมปากมีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“นังหนู ข้ากับเจ้าามีวาสนา จึงได้พบกัน ชะตาไร้รักของเจ้า ใช่ว่าจะถูกกำหนดขึ้นมาลอยๆ มันคือพรหมลิขิตเชียวนะ”
คุณตาหันมาพูดเอ่ยกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“คุกเข่าลงสิ”
“.......” !!!!
“คุกเข่าลง”
“......” !!!!
“คุกเข่าลงสิ นังหนู”
“ไม่ !!! 。(>_<;=;>_<)
“เจ้าหนู คุกเข่าลง”!!! เสี่ยวหมิงเองก็รบเร้า
“นังหนู ข้าเหลือเวลาอีกไม่มาก กว่าจะหาคนอย่างเจ้าเจอไม่ใช่เรื่องง่าย เรามีวาสนาต่อกัน คุกเข่าเป็นศิษย์ข้า ติดตามข้า สร้างกุศลร่วมกันเถิด”
“เจ้าหนู ท่านอาจารย์เป็นถึงเทพเซียน สร้างกุศลช่วยมวลมนุษย์มานับไม่ถ้วน
ใครๆก็อยากล้วนอยากติดตาม ท่านเมตตาเจ้า ถือเป็นโชคใหญ่หลวงแล้ว”
“นี่คุณพี่ อย่าว่าแต่เป็นท่งเป็นเทพอะไรเลย อยู่ๆก็โผล่พรวดพราดมาแบบนี้ใครก็ตกใจ บุกรุกกลางดึกนี่ต้องเรียกตำรวจแล้วป้ะ แล้วมาจับมัดเป็นแหนมตุ้มจิ๋วแบบนี้ จะให้คุกเข่าลงท่าไหนมิทราบ”
ไฉไฉตวาดแหว นี่มันอะไรก๊านนน คนพวกนี้ จู่ๆโล่มากลางดึก เรียกร้องจะเอาโน่นนี่
ชายชราถอนหายใจอย่างจนใจ
“เสี่ยวหมิงปล่อยตัวนาง” คุณตาสบตาเธอด้วยแววตาเอ็นดู
“นังหนู เป็นข้าที่รีบร้อนตามเจ้ามา ให้อภัยตาแก่อย่างข้าเถิด”
เมื่อเสี่ยวหมิงคลายมือออกจากแขนเธอเล็กน้อย พอหายใจคล่องขึ้นหน่อย แต่เชือกนี่ก็ยังพันแน่นหนาเหมือนเดิม
“ข้าคือเฒ่าจันทรา หรือเทพด้ายแดง นี่คือหมิงเยวี่ย เซียนชั้นต้น ศิษย์ของข้า ข้าบำเพ็ญเพียรมาเป็นเวลายาวนาน
จนใกล้ครบกำหนดเวลาพ้นจากหน้าที่แล้ว จำต้องหาศิษย์มาสืบทอดตำแหน่ง”
“ลูกศิษย์อากงก็อยู่นี่ไม่ใช่เหรอไง” ไฉไฉพยักเพยิดไปทางด้านหลัง
“ข้าอยากมีศิษย์สองคน”
“หืม….สองคน”??
“อะแฮ่ม…... ใช่ ใครๆก็มีศิษย์สองคนกันทั้งนั้นแหละ.”
หา!!!! T-T ...... เหตุผล...... แบบนี้ก็ได้เหรอ
“ไฉไฉๆๆ” เสียงอาจูดังขึ้นพร้อมแรงกระชากจากด้านหลัง เธอสะดุ้งสุดตัว
“อาจู ช่วยด้วยๆๆ”
“ไฉไฉ แกเป็นอะไร ร้องโอดโอยอยู่ตั้งนาน ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า” อาจูว่าพลางเอามืออังหน้าผาก อังแก้มไฉไฉเพื่อวัดไข้
เธอรีบก้มสำรวจตัวเอง ทั้งแขนขา เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ เชือกแดงที่พันเธอแน่นเป็นมัมมี่ก็ไม่มี สองตาหลานก็หายไป อาการปวดท้องก็หายเป็นปลิดทิ้ง แน่ล่ะ เธอกินยาไปแล้วนี่นา..
เอ……..แล้วกินในฝัน หรือว่ากินในความจริงกันล่ะ
“สงสัยชั้นจะกินเยอะไป เลยฝันประหลาด…..ชั้นฝันว่าปวดท้อง แล้วก็ กินยาแล้วก็……”
เมื่อกี้ …. คือฝันใช่มั้ย ก็ต้องเป็นความฝันแน่ๆอยู่แล้ว
“แล้วก็………???”
“หายปวดท้อง…” เรื่องหลังจากนี้… จะอธิบายยังไงดีล่ะ
“ออออออ แกฝันว่า ปวดท้อง เลยกินยา แล้วตอนนี้ก็หายดีแล้วใช่มั้ย”
“อืมมมม” คุณหนูอาจูพยักหน้าช้าๆ “อย่างน้อยแกก็เอาตัวรอดในฝันได้ เป็นเรื่องดีนะ.”
“…………”
ในโลกของคุณหนูอาจู จะมีอะไรที่คุณเธอรับไม่ได้อยู่บ้างมั้ยนะ
เรื่องประหลาดแค่ไหนเธอก็แค่พยักหน้าเฉยๆเหรออาจู นี่มันพึลึกพิลั่นระดับสิบกระโหลกเชียวนะ….ช่วยไม่ได้นี่ ชั้นไม่ได้เล่าให้เธอฟังหมดนี่นา
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว นี่เจ็ดโมงกว่าแล้ว วันนี้แกอยากไปไหนก่อนกลับรึเปล่ามีเวลาตั้งหลายชั่วโมง” เมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่เป็นอะไรแล้ว อาจูก็คว้ามือถือข้างตัว เพื่อเช็คเวลา
“อืม.. อยากไปดู ของฝากแถวไทเปเมนแค่นั้นแหละ”
“เอาดิ งั้นอาบน้ำแล้วออกไปหาข้าวเช้า สายๆค่อยออกไปไทเปเมนละกัน”
ไฉไฉ เออออตาม จะจริงหรือจะฝันก็ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่มีคุณตาอยู่ในห้องก็ถือว่าเป็นเรื่องดีแล้ว วันนี้จะก็กลับกรุงเทพแล้ว เรื่องบ้าๆนี่ก็คงจะไม่มีแล้วล่ะ
=====================================================
ฝากอ่าน ฝากคอมเม้นท์ด้วยนะคะ ^^
ความคิดเห็น