คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : EP.1 ศาลเจ้าเฒ่าจันทรา ชั้นมาลองของ!!!!
“ไฉไฉเร็วๆสิแก อย่ามาทำเป็นลีลา โน่นๆ รถทัวร์มาโน่นแล้ว เดี๋ยวคนเยอะ”
“อาจู ขาชั้นสั้นแค่นี้ แกจะให้ชั้นรีบไปไหน เดินอีกแค่ไม่กี่เมตรก็ถึงแล้ว”
ไฉไฉ ตอบโต้ ขณะที่เพื่อนสาว กำลังกึ่งลากกึ่งจูงพาเธอฝ่าฝูงชน
ลัดเลาะไปจากอาคารไม้เก่าแก่หลังใหญ่ที่เป็นที่ประดิษฐานของรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม เพื่อเข้าไปสักการะเทพองค์อื่นๆ ในอาคารไม้ด้านหลัง
“นี่นะ เราต้องไหว้ตามลำดับ 4 5 6 7 แบบนี้” อาจูก้มหน้าก้มตาอ่านคู่มือการไหว้พระขอพรจากกระทู้รีวิวการท่องเที่ยวไต้หวันพร้อมกับพาเพื่อนรักตัวเล็กของเธอ เดินไปสักการะตามจุดต่างๆ
“ถึงแล้วๆ ไฮไลท์ของทริปนี้ ศาลเทพจันทราแห่งวัดหลงซาน แกต้องไหว้ตรงนี้ แล้วก็อธิษฐาน เสี่ยงทาย ถ้ามันออกสลับกันสามที แกค่อยหยิบด้ายแดงในกล่อง อ่าวเฮ้ย!!! ไอ้จุก ชั้นบอกให้แกไหว้ตรงนึ้ก่อน”
อาจูร้องเสียงหลง เมื่อเพื่อนรักของเธอ หยอดแบงค์ร้อยเหรียญลงกล่องรับบริจาคตรงหน้ารูปปั้นเฒ่าจันทรา
แล้วหยิบด้ายแดงในกล่องข้างที่ทางวัดเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยวนำกลับไปเป็นเป็นเครื่องรางนำโชคออกมาสองเส้น แทนที่จะทำตามลำดับที่เธอบอก
“ชั้นจะฟ้องอากง ว่าแกมาลองของ” ไฉไฉว่าแล้วก็กำด้ายแดงไว้ในมือแล้วหันไปพนมมือ บอกกับรูปปั้นท่านเฒ่าจันทรา หรือเทพด้ายแดงอย่างตั้งอกตั้งใจ
“อากงขา อาจูมันพาหนูมาลองของ มันไม่เชื่อแล้วมันยังลบหลู่อีกต่างหากค่ะ อากงจดชื่อลงเดตโน้ตได้เลยนะคะ ว่า
อาจู มาลองของให้อากงเสื่อมเสียเกียรติ ต้องลงโทษ เลื่อนเวลาเจอเนื้อคู่ออกไปอีกยี่สิบปี”
อาจูได้ยินก็รีบพนมมือบอกท่านเทพบ้าง
“อากงขา อย่าไปฟังมัน ไอ่จุกเพื่อนหนูมันเป็นโรคประหลาด ดวงความรักเหี่ยวแห้ง รักใครชอบใคร ก็ไม่ยอมบอก พอบอกเค้าก็ย้ายบ้านหนีไปกันหมด พอมีคนแนะนำหนุ่มหล่อให้ ก็ดันไปปิ๊งกับแม่สื่อซะทุกคน จนเค้าจะยกย่องให้มันเป็นหมอทำเสน่ห์ประจำมหาลัยแล้วค่ะอากง จริงๆแล้วมันก็น่ารัก ปากนิดจมูกหน่อย แค่ชอบทำหน้าตากวนประสาทเท่านั้นเองค่ะ จะปล่อยให้ขึ้นคานตายอย่างโดดเดี่ยวก็สงสารมัน อากงช่วยรักษามันด้วยนะคะ”
“ไอ้จู ไอ้หยอยบ้า แกต้องแฉเรื่องชั้นให้สิ่งศักด์สิทธิ์ฟังด้วยเหรอ”
เรื่องน่าอายของเพื่อน แกยังเอามาเล่าได้เป็นตุเป็นตะ T-T
“แกมาหาหมอ ต้องเล่าอาการให้ละเอียดดิ อากงจะได้รักษาให้ถูกโรคไง”
ต่างฝ่ายต่างก็ตอบโต้ไม่ยอมลดละอยู่พักใหญ่
จู่ๆ ไฉไฉ ก็ลดมือลง ทำสีหน้าเจื่อนๆ หันไปกระตุกแขนเสื้อเพื่อน
“แกพอเหอะ อายเค้า คุณตาหัวเราะใหญ่แล้ว”
“คุณตาไหน” อาจูเหลียวมอง ซ้ายที ขวาที จากจุดที่ยืนตรงนี้ ไม่เห็นมีคุณตาที่ไหนเลยนี่นา
“ไม่เห็นมีคุณตาสักคน แล้วนี่แก ชั้นพูดภาษาไทย ใครจะฟังออก กรุ๊ปทัวร์ไทยก้อไปโน่นแล้วป่ะ”
“นี่ไง… อ้าว ไปไหนแล้ว คุณตาหนวดขาวๆ ใส่ชุดเทาๆ ยืนอยู่ตรงเนี้ยอ่ะ เมื่อกี้นี้” ไฉไฉถึงกับเหวอ ลานโล่งกว้างขนาดนี้ คุณตาจะหลบไปไหนได้ เอ หรือว่าเราตาฝาด
“ถ้ามีคุณตาจริง เค้าก็คงหัวเราะท่าทางประหลาดของแกน่ะแหละ เอาล่ะ ชั้นสมใจอยากละ ไปที่อื่นต่อมั้ย”
อาจูเอ่ยขึ้นอย่างไม่ใส่ใจนัก
“ไปๆ หาไรกินแล้วไปกู้กงกันเนอะ”
เมื่อยกเรื่องกินเรื่องเที่ยว ขึ้นมาพูด ปริศนาคุณตาเมื่อครู่ก็หมดความน่าสนใจไปทันที สองสาวพากันเดินออกไป ระหว่างทางแวะดูโน่นดูนี่ ถ่ายรูปเล่นกันอย่างสนุกสนาน
“ท่านอาจารย์ ยิ้มทำไมเหรอขอรับ เด็กสองคนเมื่อครู่ มีอะไรน่าสนใจหรือขอรับ”
เสียงชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อสองสาวเดินห่างออกไป
“นังหนูไฉไฉ นี่น่าสนใจ เสี่ยวหมิงเจ้าว่าดวงชะตาของนาง เหมือนใครสักคนหรือเปล่า” ชายชราในชุดสีเทา เอ่ยยิ้มๆพลางเอามือลูบเคราสีขาวที่ยาวเกือบถึงหน้าอกอย่างอารมณ์ดี
“อืม….." ชายหนุ่มหวลนึกถึงบทสนทนาของสองสาวเมื่อครู่
"ดวงชะตา อาภัพคู่ ได้แต่คอยจับคู่ให้คนอื่น…. เหมือน….ข้าน้อยกับท่านอาจารย์หรือขอรับ ถ้าเช่นนั้นนางก็คือ….”
คุณตาหนวดขาวอมยิ้ม ไม่ตอบอะไร หันไปสั่งชายชราชุดสีเทาอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก
“เจ้าที่ ฝากจดชื่อคนที่มาขอพรด้วยนะ ข้าจะพาเจ้าหนูไปทำธุระของสำนักสักหลายวัน”
“ขอรับท่านเทพ” ชายชรา ค้อมตัวลงอย่างนอบน้อม ขณะที่ร่างของสองศิษย์อาจารย์ค่อยๆเลือนหายไป… จุดมุ่งหมายคือกู้กง!!!
เมื่อเดินเที่ยวกันจนหนำใจแล้ว ทั้งสองสาวก็ตกลงใจมาฝากท้องที่ร้านชาบูเจ้าอร่อยชื่อดัง และ แน่นอน อาจูมาตามรีวิวอีกเช่นเคย
หม่าล่าชาบูบุฟเฟ่ต์กินไม่อั้น เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองไทเป
ซุปหม่าล่าร้อนๆ ทั้งเผ็ดทั้งชาลิ้น ทั้งเนื้อแพะ หอยเชลส์ อาหารทะเล ไม่ได้ทำให้สองสาวไทยเชื้อสายจีนมือวางอันดับหนึ่งสายกินบุฟเฟต์ย่อท้อ
“เฮ่อ………..” ไฉไฉถอนหายใจ ขณะวนทัพพีตักซุปในหม้อต้ม
“ไฉไฉ อย่าปอดดิวะ เหลืออีกชั่วโมงครึ่ง แกไปตักสัปปะรดมาช่วยย่อยก่อน แล้วกินต่อ” อาจูบอกขณะละเลียดทานไอศกรีมรสชาเขียวของโปรด
ไฉไฉทำหน้ามุ่ย….. หยามเรื่องไหนก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่เรื่องกิน!!
“ชั้นไม่ได้กลุ้มเรื่องกินเฟ้ย แต่วันนี้มันแปลกๆน่ะ แกจำที่ชั้นบอกว่า มีคุณตายืนหัวเราะตอนที่เราคุยกันในวัดได้ป่ะ “
อาจูพยักหน้าหงึกหงัก
“วันนี้ชั้นเห็นคุณตาทั้งวันเลย ตอนเดินเที่ยวกู้กงก็เจอ ไปซื้อของก็เจอ ที่ตึกแดงเมื่อกี้ก็เจอเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีหลานแกมาด้วย”
ว่าแล้วภาพคุณตาที่คอยผลุบๆโผล่ๆ ตรงโน้นที ตรงโน้นทีก็แว่บกลับมาหลอกหลอนอีก
“มีหลานเพิ่มมาด้วยเหรอ” เอ… นี่มันชักจะแปลกๆแล้วสิ
“อืม ดูอายุพอๆกะเรานี่แหละ หน้าตี๋ๆ ตาขวางๆ” เธอจำได้แม่นเลยล่ะ คิ้วเข้มๆ หางตายาวๆ ที่จ้องเธออย่างไม่ลดละ อึ๋ยยยย น่าขนลุก ว่าแล้วก็ขนลุกขึ้นมาจริง ๆ
“ไอ้จุก.. นี่มันเมืองท่องเที่ยวป่ะวะ คุณตากะคุณหลานเค้าอาจจะอ่านรีวิวเดียวกะเรา เวลาจัดตารางเที่ยวก็เลยออกมาคล้ายๆกันไง”
“มันจะบังเอิญไปป่ะ โผล่มาที่เดียวกันตลอด”
“ก็แหงสิ บอกว่าบังเอิญก็คือบังเอิญ แกไม่ต้องคิดเยอะ กินๆเข้าไป พรุ่งนี้ก็กลับบ้านละ คุณตาไม่คงตามแกกลับไปหรอก”
คุณหนูอาจูผู้มาดมั่น เลื่อนจานเนื้อที่เหลือ มาตรงหน้า สองสาวมองตากันปริบๆ แล้วก็กลับมากระตือรือล้นในการกินกันต่อ
บอกแล้วไง ถ้ายกเรืองกินเรื่องเที่ยวมาพูด เรื่องอื่นๆก็ล้วนหมดความสำคัญ
==================================================================
ความคิดเห็น