ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Ocean&Orient
ร่างบางหันมามองร่างสูงอย่างนิ่งๆ แต่ซ่อนความไม่เข้าใจไว้ในแววตา
"ผมไม่ได้ต้องการพี่น้อง แต่ผมต้องการภรรยา"
รถสปอร์ตจอดลงอย่างสงบก่อนที่ร่างสูงจะหันหน้ามาประจันกับหญิงสาวร่างบาง
มือที่ปล่อยจากพวงมาลัยเลื่อนมาหาร่างบางอย่างรวดเร็ว
แต่หญิงสาวก็ขัดขึ้นด้วยเสียงอ่อนหวานที่ไม่สะทกสะท้าน
"คุณฮันคะ ก่อนที่คุณจะเข้าใจอะไรผิดไปมากว่านี้ ดิฉันขอเรียนให้ทราบว่า
ดิฉันไม่มีจิตพิศวาสคุณแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม
หนึ่งในนั้นจะเป็นเพราะดิฉันเหนื่อยมาก ต้องการพัก และเราเป็นพี่น้องกันตามกฎหมาย"
"กฎหมายไม่ได้ห้ามพี่น้องบุญธรรมแต่งงานกันครับ
และไม่ได้ห้ามไม่ให้เรารักกันด้วย"
สายตาของร่างสูงจริงจัง
"แล้วผมก็ไม่ได้พูดเล่นนะ เที่ยงคืนแล้วผมอยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่
กับคนที่ผมจะรักนับจากวินาทีนี้ไป เป็นแฟนกับผมนะ"
แววตาสีน้ำตาลอ่อนอมทองฉายแววออกมาอย่างเด่นชัด
แต่สำหรับนาราแล้ว ภาพที่ซ้อนขึ้นมาคือดวงตาสีม่วงของชายหนุ่ม
ที่พบเมื่อบ่ายนี้ต่างหาก
"คำถามปลายปิด สมแล้วที่เป็นนักกฎหมายนะคะ ตกลงค่ะ"
ร่างสูงถึงกับอึ้งเพราะไม่คิดว่าจะตอบรับง่ายขนาดนี้
แล้วก็ประทับริมฝีปากไปที่แก้มนวลอย่างยินดี
"งั้นผมพาไปส่งบ้านแล้วนะ พรุ่งนี้ผมจะไปทานข้าวด้วยและจะไปรอรับกลับ"
ดองวอนเอ่ยขึ้นอย่างปลื้ม เอาแล้วไง นาราเอ๊ย ทำไมไปรับปากง่ายๆนะ
เจอพวกจอมบงการเข้าแล้ว เอานะสามสิบแล้วนะอย่าเรื่องมาก
ถ้าไม่ใช่เดี๋ยวก็ไปเองแหละ
แล้วรถสปอร์ตคันสวยก็พาคู่รักใหม่ทั้งสองมาถึงบ้านพักของ CEO อย่างพอดี
"ผมจะเข้าไปในบ้านได้ไหมครับ"
ดองวอนเอ่ยอย่างออดอ้อน
"ฉันขอพักค่ะเหนื่อยมากจริงๆวันนี้"
ก่อนหญิงสาวจะบอกให้เขาขึ้นรถ เพื่อกลับไปพักผ่อนเช่นกัน
8.00 น. ที่สำนักงานสนามบิน
หลังจากที่เข้าพบกับตัวแทนสายการบินที่จะมาทำการเปิดสำนักงาน
ในสนามบินแล้ว
นาราก็ต้องประหลาดใจที่มีดอกไม้ช่อใหญ่เป็นลิลลี่สีขาว
ที่ส่งมาเป็นที่ฮือฮาแก่ทุกคนในสำนักงานCEO เพราะต่างรู้กันดีว่า ดุ เนี๊ยบ
แบบท่านกรรมการใหญ่ ไม่มีใครมาจีบนานแล้ว
ที่จริงการส่งดอกไม้มันก็ไม่แปลกเพียงแต่ว่าส่วนใหญ่จะเป็นกระเช้า
ไม่ได้เป็นช่อมาอวยพรตามโอกาสสำคัญต่างๆ
"คุณนาราคะ มีดอกไม้มาจากคุณฮันค่ะ"
เสียงยึลมีเลขาฯ รายงานก่อนจะนำดอกไม้มาส่งให้ที่โต๊ะ
หลังจากได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้
'แรงโน้มถ่วงของโลก ไม่อาจทำให้คนเราตกหลุมรักได้'
ฮันดองวอน
ข้อความในการ์ดที่สุดหวานนั่น แทนที่จะซึ้ง ทำเอาท่าน CEO สาวแทบเต้นไปเลย
ยึลมีถึงกับงงที่เห็นอาการมือไม้สั่น เป็นครั้งแรกในชีวิตของเจ้านายสาว
หลังจากที่ทำงานด้วยกันมาไม่เคยมีครั้งใดที่คุณนารา
ออกอาการหรือเก็บอาการไว้ไม่อยู่อย่างนี้มาก่อน
"อี๊ สุดๆ หน้าตาก็ดีทำไมเลี่ยนได้ขนาดนี้นะ"
ยึลมีทำหน้าเหรอหลา เพราะนาราพูดออกมาเป็นภาษาไทย
ก็นะฉันนางสาว นภสุรัสว์ นารา เป็นคนที่ไม่ชอบอาการหยอดคำหวาน
สื่อสารด้วยคำเลี่ยนๆอย่างนี้ มาโดยตลอดชีวิตสาวโสด เอาละสิทีนี้
ทำยังไงดี นี่ล่ะน้าไม่น่ารีบด่วนตัดสินใจอะไรเลย
ไม่น่าคิดที่จะเอาอย่างยัยโมโนเพื่อนสาว
ที่ตอนนี้กลายไปเป็นเซไรน์เยห์ของโคคาร์ลราสไปแล้ว
ก็ครั้งหนึ่ง เจ้านางโมโนเพื่อนรักคนนี้เคยตกปากรับคำชายหนุ่ม
ที่มาขอเป็นแฟนเธออย่างง่ายดายทั้งๆที่ได้คุยกันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ก่อนที่หนึ่งอาทิตย์ถัดมาจะเลิกกันไปอย่างรวดเร็ว
แต่โมโนก็ไม่เคยเอ่ยปากให้ฟังว่าเธอเลิกกับชายหนุ่มคนนั้นทำไมและเพราะอะไร
มีคนว่ากันว่า คนที่คล้ายๆกันจะคบกันและอยู่ร่วมกันได้
ฉันเองก็พึ่งจะแน่ใจในวันนี้นี่เอง สงสัยคงต้องลองไปถามดูซะทีแล้วว่าที่เลิกกัน
ไปต้องบทำอย่างไร แล้วก็จะได้ถามด้วยว่ามันสาเหตุคล้ายกันหรือเปล่า
หญิงสาวมองดอกไม้แสนสวยและการ์ดแสนเสี่ยวไว้ในมือ
ก่อนจะตัดสินใจสั่งยึลมีให้เข้ามาพบ
"คุณนารามีอะไรให้รับใช้คะ"
เลขานุการสาวยังคงความนอบน้อมไว้เสมอ
"คุณช่วยเอาดอกไม้นี่ไปจัดแจกันให้ทีนะ แล้วก็ช่วยส่งขนมหวานๆ
ที่ผู้ชายไม่ชอบให้คุณฮังดองวอน ตามที่อยู่นี้ แล้วก็ช่วยแนบการ์ดนี่
ไปด้วยนะคะ ขอบคุณ"
นาราสั่งอย่างสบายๆ ก่อนจะสั่งยึลมีอีกอย่างว่า
"ต่อโทรศัพท์หาเซไรน์เยห์ รอลมาห์นให้ด้วยนะ ตอนนี้เลย"
"คุณนาราคะ สิบโมงนี้ท่านประธานคิมอินจอง
กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่ม คิม คอร์ปอร์เรชั่น
จะขอเข้าพบนะคะ"
โซยึลมีรายงานอีกครั้งก่อนก้มตัวและหันหลังออกไป
นี่ก็อีกคน ตามที่ได้อ่านประวัติมาทั้งหมดผู้ชายคนนี้ก็อยู่ในกลุ่มคลื่นลูกใหม่
ของเศรษฐกิจของประเทศ แต่ที่ดูยังเป็นปริศนาก็คงเป็นอาการขึ้นลง
หรือเลือดจะไปลมจะมาของผู้ชายคนนี้ที่ทำให้ไม่เข้าใจสักที
ก่อนที่จะมีเสียงของเลขาฯดังขึ้น
"คุณนาราคะเซไรน์เยห์ อยู่ในสายแล้วค่ะ"
"ว่าไงจ๊ะ CEO สาว"
เสียงของเซไรน์เยห์ หรือโมโนที่เป็นเพื่อนรักยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
"สบายดีเพค่ะ แล้วนี่หลานชายรัชทายาทของหม่อมฉันเป็นอย่างไรแล้วบ้างเพคะ"
นารายังคงล้อเพื่อนอยู่อย่างอารมณ์ดีก็เพื่อนเราโชคดีมีวาสนา
ไปเป็นเจ้านางของท่านชี้ค รูปงามหาตัวจับยากขนาดนั้น ก็ต้องยินดีกันสุดๆ
แถมตอนนี้ก็มีลูกชายให้ท่านชี้คแล้วต่างหาก ท่านชี้คก็ดีใจไม่น้อย
นี่ล่ะน้า หนึ่งในสาวมั่นที่กะว่าไม่แต่งๆ แต่สุดท้ายก็มีลูกไปแล้วหนึ่ง
"อัคห์เหม็ด สบายดีจ๊ะเลี้ยงง่ายนี่ก็บ่นๆคิดถึงป้าเค้าอยู่เหมือนกันนะ"
โมโนตอบด้วยเสียงเปี่ยมสุข
"ป้า เป้อ ที่ไหนกัน กับชั้นต้องเรียกพี่สาว แล้วก็บอกหลานเจ้าชาย
ที่น่าจะหล่อเหมือนพ่อด้วยนะว่าวันที่ 10 เดือนหน้าจะไปเยี่ยม
แล้วก็ฉลองวันเกิดของพี่สาวกับหลานเจ้าชายด้วยเลย"
เสียงหัวเราะอย่างร่าเริงดังมาตามสาย
"พี่สาวเลยเหรอไม่ไหวมั้งลูกสาวฉันไม่หน้าแก่กว่าฉันแน่ๆ"
นั่นยังกัดได้ไม่ปล่อยเหมือนเดิม
"พอๆเลิกเถอะอายุก็ขนาดนี้แล้ว แต่โมโน เราขอถามอะไรสักอย่างได้ไหม"
"อะไรเหรอ"
"เธอยังจำตอนปีหนึ่งที่เธอคบกับเด็กต่างคณะ แล้วแค่อาทิตย์เดียวก็เลิกได้ป่าว
เราอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เธอถึงได้เลิกกับเค้า แล้วก็ตอนเลิก น่ะ เลิกกันยังไง"
"โห เกือบสิบปีนะ แต่ก็ยังจำได้นะ ก็ตอนนั้นเราเองยังเด็ก ไม่ทันยั้งคิดน่ะ
ก็พอเค้ามาขอก็เลยตกลง แต่พอคบไป พี่แกก็เริ่มที่จะบอกเราเป็นนัยๆ
ว่าผู้หญิงที่แกเคยคบเนี่ยะนะ จะจ่ายให้แกทั้งหมด ไม่ว่าจะไปไหน
ทำอะไร กินอะไร เราก็เลยรู้สึกว่ามันแปลกๆน่ะ
ก็เลยหาทางออกด้วยการบอกว่าเรา ไม่ว่างบ้าง เรียนไม่ตรงบ้าง
แล้วก็สุดท้ายไม่จ่าย หนึ่งอาทิตย์เท่านั้นรู้เรื่องเพราะว่ามันเป็นสิ่งเค้ารับไม่ได้
หรือก็คืออะไร ที่แกไม่ต้องการเราจะทำให้"
โมโนอธิบายเป็นฉากๆ ด้วยน้ำเสียงสบายๆ ไม่เดือดร้อนอะไร
"ไม่น่าเชื่อนะว่าผู้ชายแบบนี้ก็มีด้วย ที่จริงนะ ช่วยกันจ่ายก็ยังโอนะ
ไม่ใช่พูดออกมาแบบนี้"
นาราเอ่ยอย่างจริงจัง
"ก็นะ คนเรามันร้อยพ่อพันแม่ จะให้เหมือนกันมันยาก ว่าแต่ไปเจออะไรมา
อย่าบอกนะว่าแบบเดียวกัน"
"ก็แค่ดอกไม้สวยๆ ที่มากับคำพูดเสี่ยวๆ เลี่ยนๆน่ะ"
นาราตอบเสียงเนื่อย โมโนถึงบางอ้อทันทีก็เพื่อนสาวของเธอคนนี้เหมือนเป็นร่างกลับด้านของเธอแน่นอนถ้าเป็นคำหวานที่เธอไม่ค่อยปฏิเสธ
นาราจะบอกว่าไม่ทันที ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ที่แน่ๆ
ผู้ชายคนนี้คงไม่มีวาสนาต่อนาราแล้วชัวร์
"ก็จัดการแบบที่บอกนั่นแหละรับรองไม่เกินหนึ่งอาทิตย์
หรือไม่ก็ไปหาผู้ชายคนใหม่เลย ถ้าไม่ได้เดี๋ยวส่งไปให้ที่เกาหลีexport
จากโคคาร์ลราสไปให้"
เจ้านางอดีตนักบินหญิงยังคงเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
"สมแล้วที่เป็นเพื่อนชั้น เพราะชั้นก็ทำอย่างที่เธอบอกไปเรียบร้อยแล้ว
เธอก็รู้ว่าชั้นไม่ชอบคำพูดเลี่ยนๆหวานเลยแม้แต่น้อย"
หญิงสาวยิ้มกับตัวเองอย่างอารมณ์ดีที่มีคนเห็นด้วยกับความคิดของตน
"ว่าแต่เธอสบายดีนะ หายเหงาแล้วสิ แล้วท่านชี้คสุดหล่อ
เอาพระทัยเจ้านางดีอยู่หรือเพคะแล้วมีอะไรรับขวัญลูกชายบ้าง"
"เลิกล้อไปได้เลยนะ เราเพื่อนกันนะ ไม่ต้องราชาศัพท์เลย ก็นะระดับท่านชี้ค
รับขวัญลูกคนแรก ก็เป็นหุ้นในสายการบินกับ trust fund
เริ่มต้นที่ 50 ล้าน USD เท่านั้นเองจริงๆนะ"
ประโยคยั่วเย้าที่ยังคงมีอยู่ในน้ำเสียง
"จ้า แหมนะ สงสัยถ้าไม่แต่งกับเศรษฐี ลูกฉันคงเป็นยาจกเวลาไปอยู่กับลูกเธอ"
นาราเอ่ยแกมประชด
"น้อยๆหน่อยนะ อย่างเธอ นะยาจก ผิดแล้วมั้ง
เงินเดือนที่เค้าจ้างเธอนี่ก็เหยียบล้านนะ
แถมเป็นล้านUS dollas ด้วยนะ ไม่รวม โบนัสทุกสามเดือน
อย่ามาทล่มตัวหน่อยเลย ทำงานการท่าอากาศยานน่ะ เสือนอนกินอยู่แล้ว
เงินเดือนฉันยังได้ไม่เท่าเธอเลยนะ"
โมโนเอ่ยอีกครั้ง
"พอๆไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวต้องพบท่านประธานคิม Prince of ocean
ปกล่าสุดของ times นะคิดว่าเธอคงอ่านแล้ว"
นาราเอ่ยถึงชายหนุ่มตาสีม่วงที่ลอยเข้ามาในห้วงคำนึง
"ตาสีม่วงนี่น่า อุ๊ยๆๆๆ นี่มันเนื้อคู่เธอแน่ๆ อย่ามาทำลืมนะ
เธอพูดเองนะว่าถ้ามีผู้ชายตาสีม่วงเมื่อไหร่จะแต่งงานน่ะ
อุ๊ยๆๆๆ สงสัยฉันต้องเตรียมชุดแต่งงานใหม่ เอ๊ย ชุดไปงานใหม่ซะแล้ว"
แล้วเสียงหัวเราะอย่างร่าเริงก็มาตามสายโทรศัพท์ข้ามประเทศ
"พอๆแค่นี้ก่อนนะแล้วเจอกันเดือนหน้านะ คิดถึงนะ
แล้วก็ฝากความระลึกถึงทุกคนที่นั่นด้วยนะ"
ทุกคนที่นาราหมายถึงก็คือท่านชี้ค สวามีของโมโนและกัปตันภูบินทร์
ที่เคยรู้จักกันมาก่อน
"จ้าๆ งั้นดูแลตัวเองดีๆนะ อย่าทำงานหักโหมมากนักนะ
แล้วเราก็คิดถึงเธอเหมือนกัน บายๆ"
"อืม บายๆจ๊ะ"
นาราตอบน้ำเสียงเหงาเล็กน้อย หลังจากวางสายหญิงสาวก็จัดเสื้อผ้าตัวเอง
ให้เข้าที่ก่อนจะออกไปที่ห้องรับรองแขกCEOเพื่อพบกับท่านประธานคิมอินจอง
ที่คงต้องหน้าแตกแน่ๆ
"ประธานคิมค่ะ สวัสดีค่ะดิฉัน นภสุรัสว์ กาญจนปรีดี
ประธานกรรมการฝ่ายบริหารท่าอากาศยาน
ยินดีที่ได้พบค่ะ"
ร่างบางในชุดสีกรมท่า ที่แลกะทัดรัด หน้าผากมน คิ้วคมสีดำสนิท เช่นเดียวกับนัยน์ตา มูกโด่งได้รูปสวย ริมฝีปากอิ่ม และผมดำหนาดูนุ่มแล้วคล้ายแพรไหม
เกล้ารวบอย่างเรียบร้อย ดูสง่างามทุกอิริยาบถ
"สวัสดีครับผม คิมอินจอง กรรมการผู้จัดการ กลุ่ม คิม คอร์ปอร์เรชั่น"
ดวงตาสีม่วง ไวโอเล็ต จุดเด่นของชายร่างสูงที่วันนี้อยู่ในชุดสูทของ วาเลนติโน
สีเทาเข้มทำให้ผิวขาวที่พ้นออกมาดูเด่น น่ามอง ชุดที่พอดีกับรูปร่าง
ทำให้ดูน่าค้นหา ว่าภายใต้ชุดสูทหรูนี้ ภายในเป็นเช่นไร
"ไม่ทราบว่า..."
ทั้งสองคนเอ่ยออกมาพร้อมกัน
"เชิญคุณ ... พูดก่อนเถอะครับ"
ร่างสูงอึกอักเล็กน้อยเพราะพูดชื่อของสาวไทยไม่ถูก
และก็ถ้าเอ่ยไปผิดๆจะเสียมารยาทได้ โดยเฉพาะกับผู้บริหารระดับสูง
"ขอบคุณค่ะ ก่อนอื่นคงต้องบอกว่าเป็นเกียรติ
ที่ได้พบท่านประธาน คิม และหากมีสิ่งใดที่ดิฉันและ
ทางท่าอากาศยานได้รับใช้ขอให้แจ้งมาได้นะคะ ดิฉันยินดี
และต้องของแสดงความยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งใหม่ด้วย
แม้ว่าจะช้าไปสักระยะแล้วก็ตาม อีกประการดิฉัน มีชื่อที่ได้รับเป็นภาษาเกาหลีว่า "นารา"
คุณเรียกชื่อนี้ได้ค่ะ"
หญิงสาวกล่าวอย่างยิ้มแย้ม ราวกับโลกจะยิ้มไปกับเธอ
ร่างสูงมองอย่างพึงใจ และยิ้มออกมาในที่สุด
"ผมก็รู้สึกเป็นเกียรติเช่นกัน และผมเองก็ขอแสดงความยินดี
กับการรับตำแหน่งใหม่ด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะช้าไปสักระยะหนึ่งก็ตาม
อีกประการผมคงต้องขอโทษคุณที่ผมแสดงกิริยา
ที่ไม่สุภาพเป็นอย่างมากไว้เมื่อวันก่อน
และถ้าคุณจะกรุณากลางวันนี้ผมขอโอกาส
เลี้ยงอาหารคุณเป็นการแสดงความเสียใจได้ไหมครับ"
ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพเรียบร้อยและรอยยิ้ม
"ขอบคุณมากนะคะ ท่านประธานคิมแต่ว่าเที่ยงนี้ดิฉันมีนัดเรียบร้อยแล้วค่ะ"
หญิงสาวตอบปฏิเสธตามตรง
"ถ้างั้นเป็นมื้อเย็นได้ไหมครับ แล้วก็เย็นนี้มีงานแสดงคอนเสิร์ต
ที่โรงแรมแกรนด์ เอสเอช แล้วก็ผมทราบมาว่าเค้าเชิญคุณด้วย ไปกับผมนะครับ"
"แต่ดิฉันว่าคงจะไม่เหมาะเท่าไหร่ และดิฉันก็คิดว่าจะไม่ไปด้วยน่ะค่ะ"
"ถ้าคุณไม่ไปแสดงว่าคุณยังไม่หายโกรธผม นะครับผมขอร้อง
ที่สำคัญผมเองก็ยังไม่มีคู่ไปงานนี้"
"ดิฉันไม่ถือโกรธคุณแล้วนะคะแต่ก็ไม่อยากควงprince of ocean ออกงานด้วยค่ะ
กลัวมีปัญหากับแฟนคลับของคุณ น่ะค่ะ"
หญิงสาวแย้งยิ้มๆ เพราะเธอยังไม่เห็นประโยชน์อะไร
กับการควงผู้ชายคนนี้ออกงานแล้วเธอก็ไม่อยากไปจริงๆ
"ผมไม่อยากเป็นเจ้าชายแห่งมหาสมุทรหรอกครับมันดูเค็มๆ
คนไทยเค้าว่าเค็มนี่แปลว่างกใช่ไหมครับ"
"ค่ะ แต่คุณรู้ได้ยังไงคะ"
หญิงสาวยิ้มอย่างอ่อนหวาน
"ผมเคยแอบหนีไปเที่ยวเมื่อไทยน่ะครับ แล้วก็เลยติดใจอะไรหลายๆอย่างๆ"
"รวมไปถึงผู้หญิงไทยด้วยหรือเปล่าค่ะ"
หญิงสาวแซวยิ้มๆ
"ถ้าหมายถึงสุภาพสตรีที่อยู่ด้านหน้าผมตอนนี้ ไม่ว่าใครก็ชอบครับ"
ทั้งสองคนคุยกันอย่างออกรสจนเที่ยง ชายหนุ่มจึงขอตัวกลับ
และขอเป็นครั้งสุดท้ายว่า
"ไปงานคืนนี้กับผมนะครับแล้วผมจะไปรับ"
"ก็ได้ค่ะ แล้วเจอกัน"
ที่จริงแล้วนาราไม่ใช่คนที่ชอบปฏิเสธเท่าใดนักเพราะมันดูใจร้าย
และครั้งนี้ก็เช่นกัน ชายหนุ่มเดินออกไปจากห้องพักรับรอง
แต่ว่าตกลงเค้าจะมาพบเรื่องงานหรือเปล่านี่
ไม่เป็นไรค่อยคุยกันตอนเย็นก็ได้หญิงสาวคิดก่อนที่ยึลมีเลขาฯจะเข้ามา
"คุณนาราคะ คุณดองวอนมาขอพบคะ"
"อืม ขอบคุณนะแล้วก็ไปทานข้าวกลางวันเถอะ เจอกันอีกทีบ่ายตรงนะคะคุณยึลมี"
นารากล่าวจบร่างสูงของเจ้าชายตะวันออกก็เข้ามาแทนที่ทันทีที่ยึลมี
พ้นสายตา ออกไป
"สิบสองชั่วโมงแล้วนะที่เราเป็นแฟนกัน คุณคิดถึงผมบ้างหรือเปล่า"
"ผมไม่ได้ต้องการพี่น้อง แต่ผมต้องการภรรยา"
รถสปอร์ตจอดลงอย่างสงบก่อนที่ร่างสูงจะหันหน้ามาประจันกับหญิงสาวร่างบาง
มือที่ปล่อยจากพวงมาลัยเลื่อนมาหาร่างบางอย่างรวดเร็ว
แต่หญิงสาวก็ขัดขึ้นด้วยเสียงอ่อนหวานที่ไม่สะทกสะท้าน
"คุณฮันคะ ก่อนที่คุณจะเข้าใจอะไรผิดไปมากว่านี้ ดิฉันขอเรียนให้ทราบว่า
ดิฉันไม่มีจิตพิศวาสคุณแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลประการใดก็ตาม
หนึ่งในนั้นจะเป็นเพราะดิฉันเหนื่อยมาก ต้องการพัก และเราเป็นพี่น้องกันตามกฎหมาย"
"กฎหมายไม่ได้ห้ามพี่น้องบุญธรรมแต่งงานกันครับ
และไม่ได้ห้ามไม่ให้เรารักกันด้วย"
สายตาของร่างสูงจริงจัง
"แล้วผมก็ไม่ได้พูดเล่นนะ เที่ยงคืนแล้วผมอยากจะเริ่มต้นชีวิตใหม่
กับคนที่ผมจะรักนับจากวินาทีนี้ไป เป็นแฟนกับผมนะ"
แววตาสีน้ำตาลอ่อนอมทองฉายแววออกมาอย่างเด่นชัด
แต่สำหรับนาราแล้ว ภาพที่ซ้อนขึ้นมาคือดวงตาสีม่วงของชายหนุ่ม
ที่พบเมื่อบ่ายนี้ต่างหาก
"คำถามปลายปิด สมแล้วที่เป็นนักกฎหมายนะคะ ตกลงค่ะ"
ร่างสูงถึงกับอึ้งเพราะไม่คิดว่าจะตอบรับง่ายขนาดนี้
แล้วก็ประทับริมฝีปากไปที่แก้มนวลอย่างยินดี
"งั้นผมพาไปส่งบ้านแล้วนะ พรุ่งนี้ผมจะไปทานข้าวด้วยและจะไปรอรับกลับ"
ดองวอนเอ่ยขึ้นอย่างปลื้ม เอาแล้วไง นาราเอ๊ย ทำไมไปรับปากง่ายๆนะ
เจอพวกจอมบงการเข้าแล้ว เอานะสามสิบแล้วนะอย่าเรื่องมาก
ถ้าไม่ใช่เดี๋ยวก็ไปเองแหละ
แล้วรถสปอร์ตคันสวยก็พาคู่รักใหม่ทั้งสองมาถึงบ้านพักของ CEO อย่างพอดี
"ผมจะเข้าไปในบ้านได้ไหมครับ"
ดองวอนเอ่ยอย่างออดอ้อน
"ฉันขอพักค่ะเหนื่อยมากจริงๆวันนี้"
ก่อนหญิงสาวจะบอกให้เขาขึ้นรถ เพื่อกลับไปพักผ่อนเช่นกัน
8.00 น. ที่สำนักงานสนามบิน
หลังจากที่เข้าพบกับตัวแทนสายการบินที่จะมาทำการเปิดสำนักงาน
ในสนามบินแล้ว
นาราก็ต้องประหลาดใจที่มีดอกไม้ช่อใหญ่เป็นลิลลี่สีขาว
ที่ส่งมาเป็นที่ฮือฮาแก่ทุกคนในสำนักงานCEO เพราะต่างรู้กันดีว่า ดุ เนี๊ยบ
แบบท่านกรรมการใหญ่ ไม่มีใครมาจีบนานแล้ว
ที่จริงการส่งดอกไม้มันก็ไม่แปลกเพียงแต่ว่าส่วนใหญ่จะเป็นกระเช้า
ไม่ได้เป็นช่อมาอวยพรตามโอกาสสำคัญต่างๆ
"คุณนาราคะ มีดอกไม้มาจากคุณฮันค่ะ"
เสียงยึลมีเลขาฯ รายงานก่อนจะนำดอกไม้มาส่งให้ที่โต๊ะ
หลังจากได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้
'แรงโน้มถ่วงของโลก ไม่อาจทำให้คนเราตกหลุมรักได้'
ฮันดองวอน
ข้อความในการ์ดที่สุดหวานนั่น แทนที่จะซึ้ง ทำเอาท่าน CEO สาวแทบเต้นไปเลย
ยึลมีถึงกับงงที่เห็นอาการมือไม้สั่น เป็นครั้งแรกในชีวิตของเจ้านายสาว
หลังจากที่ทำงานด้วยกันมาไม่เคยมีครั้งใดที่คุณนารา
ออกอาการหรือเก็บอาการไว้ไม่อยู่อย่างนี้มาก่อน
"อี๊ สุดๆ หน้าตาก็ดีทำไมเลี่ยนได้ขนาดนี้นะ"
ยึลมีทำหน้าเหรอหลา เพราะนาราพูดออกมาเป็นภาษาไทย
ก็นะฉันนางสาว นภสุรัสว์ นารา เป็นคนที่ไม่ชอบอาการหยอดคำหวาน
สื่อสารด้วยคำเลี่ยนๆอย่างนี้ มาโดยตลอดชีวิตสาวโสด เอาละสิทีนี้
ทำยังไงดี นี่ล่ะน้าไม่น่ารีบด่วนตัดสินใจอะไรเลย
ไม่น่าคิดที่จะเอาอย่างยัยโมโนเพื่อนสาว
ที่ตอนนี้กลายไปเป็นเซไรน์เยห์ของโคคาร์ลราสไปแล้ว
ก็ครั้งหนึ่ง เจ้านางโมโนเพื่อนรักคนนี้เคยตกปากรับคำชายหนุ่ม
ที่มาขอเป็นแฟนเธออย่างง่ายดายทั้งๆที่ได้คุยกันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ก่อนที่หนึ่งอาทิตย์ถัดมาจะเลิกกันไปอย่างรวดเร็ว
แต่โมโนก็ไม่เคยเอ่ยปากให้ฟังว่าเธอเลิกกับชายหนุ่มคนนั้นทำไมและเพราะอะไร
มีคนว่ากันว่า คนที่คล้ายๆกันจะคบกันและอยู่ร่วมกันได้
ฉันเองก็พึ่งจะแน่ใจในวันนี้นี่เอง สงสัยคงต้องลองไปถามดูซะทีแล้วว่าที่เลิกกัน
ไปต้องบทำอย่างไร แล้วก็จะได้ถามด้วยว่ามันสาเหตุคล้ายกันหรือเปล่า
หญิงสาวมองดอกไม้แสนสวยและการ์ดแสนเสี่ยวไว้ในมือ
ก่อนจะตัดสินใจสั่งยึลมีให้เข้ามาพบ
"คุณนารามีอะไรให้รับใช้คะ"
เลขานุการสาวยังคงความนอบน้อมไว้เสมอ
"คุณช่วยเอาดอกไม้นี่ไปจัดแจกันให้ทีนะ แล้วก็ช่วยส่งขนมหวานๆ
ที่ผู้ชายไม่ชอบให้คุณฮังดองวอน ตามที่อยู่นี้ แล้วก็ช่วยแนบการ์ดนี่
ไปด้วยนะคะ ขอบคุณ"
นาราสั่งอย่างสบายๆ ก่อนจะสั่งยึลมีอีกอย่างว่า
"ต่อโทรศัพท์หาเซไรน์เยห์ รอลมาห์นให้ด้วยนะ ตอนนี้เลย"
"คุณนาราคะ สิบโมงนี้ท่านประธานคิมอินจอง
กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่ม คิม คอร์ปอร์เรชั่น
จะขอเข้าพบนะคะ"
โซยึลมีรายงานอีกครั้งก่อนก้มตัวและหันหลังออกไป
นี่ก็อีกคน ตามที่ได้อ่านประวัติมาทั้งหมดผู้ชายคนนี้ก็อยู่ในกลุ่มคลื่นลูกใหม่
ของเศรษฐกิจของประเทศ แต่ที่ดูยังเป็นปริศนาก็คงเป็นอาการขึ้นลง
หรือเลือดจะไปลมจะมาของผู้ชายคนนี้ที่ทำให้ไม่เข้าใจสักที
ก่อนที่จะมีเสียงของเลขาฯดังขึ้น
"คุณนาราคะเซไรน์เยห์ อยู่ในสายแล้วค่ะ"
"ว่าไงจ๊ะ CEO สาว"
เสียงของเซไรน์เยห์ หรือโมโนที่เป็นเพื่อนรักยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
"สบายดีเพค่ะ แล้วนี่หลานชายรัชทายาทของหม่อมฉันเป็นอย่างไรแล้วบ้างเพคะ"
นารายังคงล้อเพื่อนอยู่อย่างอารมณ์ดีก็เพื่อนเราโชคดีมีวาสนา
ไปเป็นเจ้านางของท่านชี้ค รูปงามหาตัวจับยากขนาดนั้น ก็ต้องยินดีกันสุดๆ
แถมตอนนี้ก็มีลูกชายให้ท่านชี้คแล้วต่างหาก ท่านชี้คก็ดีใจไม่น้อย
นี่ล่ะน้า หนึ่งในสาวมั่นที่กะว่าไม่แต่งๆ แต่สุดท้ายก็มีลูกไปแล้วหนึ่ง
"อัคห์เหม็ด สบายดีจ๊ะเลี้ยงง่ายนี่ก็บ่นๆคิดถึงป้าเค้าอยู่เหมือนกันนะ"
โมโนตอบด้วยเสียงเปี่ยมสุข
"ป้า เป้อ ที่ไหนกัน กับชั้นต้องเรียกพี่สาว แล้วก็บอกหลานเจ้าชาย
ที่น่าจะหล่อเหมือนพ่อด้วยนะว่าวันที่ 10 เดือนหน้าจะไปเยี่ยม
แล้วก็ฉลองวันเกิดของพี่สาวกับหลานเจ้าชายด้วยเลย"
เสียงหัวเราะอย่างร่าเริงดังมาตามสาย
"พี่สาวเลยเหรอไม่ไหวมั้งลูกสาวฉันไม่หน้าแก่กว่าฉันแน่ๆ"
นั่นยังกัดได้ไม่ปล่อยเหมือนเดิม
"พอๆเลิกเถอะอายุก็ขนาดนี้แล้ว แต่โมโน เราขอถามอะไรสักอย่างได้ไหม"
"อะไรเหรอ"
"เธอยังจำตอนปีหนึ่งที่เธอคบกับเด็กต่างคณะ แล้วแค่อาทิตย์เดียวก็เลิกได้ป่าว
เราอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เธอถึงได้เลิกกับเค้า แล้วก็ตอนเลิก น่ะ เลิกกันยังไง"
"โห เกือบสิบปีนะ แต่ก็ยังจำได้นะ ก็ตอนนั้นเราเองยังเด็ก ไม่ทันยั้งคิดน่ะ
ก็พอเค้ามาขอก็เลยตกลง แต่พอคบไป พี่แกก็เริ่มที่จะบอกเราเป็นนัยๆ
ว่าผู้หญิงที่แกเคยคบเนี่ยะนะ จะจ่ายให้แกทั้งหมด ไม่ว่าจะไปไหน
ทำอะไร กินอะไร เราก็เลยรู้สึกว่ามันแปลกๆน่ะ
ก็เลยหาทางออกด้วยการบอกว่าเรา ไม่ว่างบ้าง เรียนไม่ตรงบ้าง
แล้วก็สุดท้ายไม่จ่าย หนึ่งอาทิตย์เท่านั้นรู้เรื่องเพราะว่ามันเป็นสิ่งเค้ารับไม่ได้
หรือก็คืออะไร ที่แกไม่ต้องการเราจะทำให้"
โมโนอธิบายเป็นฉากๆ ด้วยน้ำเสียงสบายๆ ไม่เดือดร้อนอะไร
"ไม่น่าเชื่อนะว่าผู้ชายแบบนี้ก็มีด้วย ที่จริงนะ ช่วยกันจ่ายก็ยังโอนะ
ไม่ใช่พูดออกมาแบบนี้"
นาราเอ่ยอย่างจริงจัง
"ก็นะ คนเรามันร้อยพ่อพันแม่ จะให้เหมือนกันมันยาก ว่าแต่ไปเจออะไรมา
อย่าบอกนะว่าแบบเดียวกัน"
"ก็แค่ดอกไม้สวยๆ ที่มากับคำพูดเสี่ยวๆ เลี่ยนๆน่ะ"
นาราตอบเสียงเนื่อย โมโนถึงบางอ้อทันทีก็เพื่อนสาวของเธอคนนี้เหมือนเป็นร่างกลับด้านของเธอแน่นอนถ้าเป็นคำหวานที่เธอไม่ค่อยปฏิเสธ
นาราจะบอกว่าไม่ทันที ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ที่แน่ๆ
ผู้ชายคนนี้คงไม่มีวาสนาต่อนาราแล้วชัวร์
"ก็จัดการแบบที่บอกนั่นแหละรับรองไม่เกินหนึ่งอาทิตย์
หรือไม่ก็ไปหาผู้ชายคนใหม่เลย ถ้าไม่ได้เดี๋ยวส่งไปให้ที่เกาหลีexport
จากโคคาร์ลราสไปให้"
เจ้านางอดีตนักบินหญิงยังคงเอ่ยอย่างอารมณ์ดี
"สมแล้วที่เป็นเพื่อนชั้น เพราะชั้นก็ทำอย่างที่เธอบอกไปเรียบร้อยแล้ว
เธอก็รู้ว่าชั้นไม่ชอบคำพูดเลี่ยนๆหวานเลยแม้แต่น้อย"
หญิงสาวยิ้มกับตัวเองอย่างอารมณ์ดีที่มีคนเห็นด้วยกับความคิดของตน
"ว่าแต่เธอสบายดีนะ หายเหงาแล้วสิ แล้วท่านชี้คสุดหล่อ
เอาพระทัยเจ้านางดีอยู่หรือเพคะแล้วมีอะไรรับขวัญลูกชายบ้าง"
"เลิกล้อไปได้เลยนะ เราเพื่อนกันนะ ไม่ต้องราชาศัพท์เลย ก็นะระดับท่านชี้ค
รับขวัญลูกคนแรก ก็เป็นหุ้นในสายการบินกับ trust fund
เริ่มต้นที่ 50 ล้าน USD เท่านั้นเองจริงๆนะ"
ประโยคยั่วเย้าที่ยังคงมีอยู่ในน้ำเสียง
"จ้า แหมนะ สงสัยถ้าไม่แต่งกับเศรษฐี ลูกฉันคงเป็นยาจกเวลาไปอยู่กับลูกเธอ"
นาราเอ่ยแกมประชด
"น้อยๆหน่อยนะ อย่างเธอ นะยาจก ผิดแล้วมั้ง
เงินเดือนที่เค้าจ้างเธอนี่ก็เหยียบล้านนะ
แถมเป็นล้านUS dollas ด้วยนะ ไม่รวม โบนัสทุกสามเดือน
อย่ามาทล่มตัวหน่อยเลย ทำงานการท่าอากาศยานน่ะ เสือนอนกินอยู่แล้ว
เงินเดือนฉันยังได้ไม่เท่าเธอเลยนะ"
โมโนเอ่ยอีกครั้ง
"พอๆไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวต้องพบท่านประธานคิม Prince of ocean
ปกล่าสุดของ times นะคิดว่าเธอคงอ่านแล้ว"
นาราเอ่ยถึงชายหนุ่มตาสีม่วงที่ลอยเข้ามาในห้วงคำนึง
"ตาสีม่วงนี่น่า อุ๊ยๆๆๆ นี่มันเนื้อคู่เธอแน่ๆ อย่ามาทำลืมนะ
เธอพูดเองนะว่าถ้ามีผู้ชายตาสีม่วงเมื่อไหร่จะแต่งงานน่ะ
อุ๊ยๆๆๆ สงสัยฉันต้องเตรียมชุดแต่งงานใหม่ เอ๊ย ชุดไปงานใหม่ซะแล้ว"
แล้วเสียงหัวเราะอย่างร่าเริงก็มาตามสายโทรศัพท์ข้ามประเทศ
"พอๆแค่นี้ก่อนนะแล้วเจอกันเดือนหน้านะ คิดถึงนะ
แล้วก็ฝากความระลึกถึงทุกคนที่นั่นด้วยนะ"
ทุกคนที่นาราหมายถึงก็คือท่านชี้ค สวามีของโมโนและกัปตันภูบินทร์
ที่เคยรู้จักกันมาก่อน
"จ้าๆ งั้นดูแลตัวเองดีๆนะ อย่าทำงานหักโหมมากนักนะ
แล้วเราก็คิดถึงเธอเหมือนกัน บายๆ"
"อืม บายๆจ๊ะ"
นาราตอบน้ำเสียงเหงาเล็กน้อย หลังจากวางสายหญิงสาวก็จัดเสื้อผ้าตัวเอง
ให้เข้าที่ก่อนจะออกไปที่ห้องรับรองแขกCEOเพื่อพบกับท่านประธานคิมอินจอง
ที่คงต้องหน้าแตกแน่ๆ
"ประธานคิมค่ะ สวัสดีค่ะดิฉัน นภสุรัสว์ กาญจนปรีดี
ประธานกรรมการฝ่ายบริหารท่าอากาศยาน
ยินดีที่ได้พบค่ะ"
ร่างบางในชุดสีกรมท่า ที่แลกะทัดรัด หน้าผากมน คิ้วคมสีดำสนิท เช่นเดียวกับนัยน์ตา มูกโด่งได้รูปสวย ริมฝีปากอิ่ม และผมดำหนาดูนุ่มแล้วคล้ายแพรไหม
เกล้ารวบอย่างเรียบร้อย ดูสง่างามทุกอิริยาบถ
"สวัสดีครับผม คิมอินจอง กรรมการผู้จัดการ กลุ่ม คิม คอร์ปอร์เรชั่น"
ดวงตาสีม่วง ไวโอเล็ต จุดเด่นของชายร่างสูงที่วันนี้อยู่ในชุดสูทของ วาเลนติโน
สีเทาเข้มทำให้ผิวขาวที่พ้นออกมาดูเด่น น่ามอง ชุดที่พอดีกับรูปร่าง
ทำให้ดูน่าค้นหา ว่าภายใต้ชุดสูทหรูนี้ ภายในเป็นเช่นไร
"ไม่ทราบว่า..."
ทั้งสองคนเอ่ยออกมาพร้อมกัน
"เชิญคุณ ... พูดก่อนเถอะครับ"
ร่างสูงอึกอักเล็กน้อยเพราะพูดชื่อของสาวไทยไม่ถูก
และก็ถ้าเอ่ยไปผิดๆจะเสียมารยาทได้ โดยเฉพาะกับผู้บริหารระดับสูง
"ขอบคุณค่ะ ก่อนอื่นคงต้องบอกว่าเป็นเกียรติ
ที่ได้พบท่านประธาน คิม และหากมีสิ่งใดที่ดิฉันและ
ทางท่าอากาศยานได้รับใช้ขอให้แจ้งมาได้นะคะ ดิฉันยินดี
และต้องของแสดงความยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งใหม่ด้วย
แม้ว่าจะช้าไปสักระยะแล้วก็ตาม อีกประการดิฉัน มีชื่อที่ได้รับเป็นภาษาเกาหลีว่า "นารา"
คุณเรียกชื่อนี้ได้ค่ะ"
หญิงสาวกล่าวอย่างยิ้มแย้ม ราวกับโลกจะยิ้มไปกับเธอ
ร่างสูงมองอย่างพึงใจ และยิ้มออกมาในที่สุด
"ผมก็รู้สึกเป็นเกียรติเช่นกัน และผมเองก็ขอแสดงความยินดี
กับการรับตำแหน่งใหม่ด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะช้าไปสักระยะหนึ่งก็ตาม
อีกประการผมคงต้องขอโทษคุณที่ผมแสดงกิริยา
ที่ไม่สุภาพเป็นอย่างมากไว้เมื่อวันก่อน
และถ้าคุณจะกรุณากลางวันนี้ผมขอโอกาส
เลี้ยงอาหารคุณเป็นการแสดงความเสียใจได้ไหมครับ"
ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพเรียบร้อยและรอยยิ้ม
"ขอบคุณมากนะคะ ท่านประธานคิมแต่ว่าเที่ยงนี้ดิฉันมีนัดเรียบร้อยแล้วค่ะ"
หญิงสาวตอบปฏิเสธตามตรง
"ถ้างั้นเป็นมื้อเย็นได้ไหมครับ แล้วก็เย็นนี้มีงานแสดงคอนเสิร์ต
ที่โรงแรมแกรนด์ เอสเอช แล้วก็ผมทราบมาว่าเค้าเชิญคุณด้วย ไปกับผมนะครับ"
"แต่ดิฉันว่าคงจะไม่เหมาะเท่าไหร่ และดิฉันก็คิดว่าจะไม่ไปด้วยน่ะค่ะ"
"ถ้าคุณไม่ไปแสดงว่าคุณยังไม่หายโกรธผม นะครับผมขอร้อง
ที่สำคัญผมเองก็ยังไม่มีคู่ไปงานนี้"
"ดิฉันไม่ถือโกรธคุณแล้วนะคะแต่ก็ไม่อยากควงprince of ocean ออกงานด้วยค่ะ
กลัวมีปัญหากับแฟนคลับของคุณ น่ะค่ะ"
หญิงสาวแย้งยิ้มๆ เพราะเธอยังไม่เห็นประโยชน์อะไร
กับการควงผู้ชายคนนี้ออกงานแล้วเธอก็ไม่อยากไปจริงๆ
"ผมไม่อยากเป็นเจ้าชายแห่งมหาสมุทรหรอกครับมันดูเค็มๆ
คนไทยเค้าว่าเค็มนี่แปลว่างกใช่ไหมครับ"
"ค่ะ แต่คุณรู้ได้ยังไงคะ"
หญิงสาวยิ้มอย่างอ่อนหวาน
"ผมเคยแอบหนีไปเที่ยวเมื่อไทยน่ะครับ แล้วก็เลยติดใจอะไรหลายๆอย่างๆ"
"รวมไปถึงผู้หญิงไทยด้วยหรือเปล่าค่ะ"
หญิงสาวแซวยิ้มๆ
"ถ้าหมายถึงสุภาพสตรีที่อยู่ด้านหน้าผมตอนนี้ ไม่ว่าใครก็ชอบครับ"
ทั้งสองคนคุยกันอย่างออกรสจนเที่ยง ชายหนุ่มจึงขอตัวกลับ
และขอเป็นครั้งสุดท้ายว่า
"ไปงานคืนนี้กับผมนะครับแล้วผมจะไปรับ"
"ก็ได้ค่ะ แล้วเจอกัน"
ที่จริงแล้วนาราไม่ใช่คนที่ชอบปฏิเสธเท่าใดนักเพราะมันดูใจร้าย
และครั้งนี้ก็เช่นกัน ชายหนุ่มเดินออกไปจากห้องพักรับรอง
แต่ว่าตกลงเค้าจะมาพบเรื่องงานหรือเปล่านี่
ไม่เป็นไรค่อยคุยกันตอนเย็นก็ได้หญิงสาวคิดก่อนที่ยึลมีเลขาฯจะเข้ามา
"คุณนาราคะ คุณดองวอนมาขอพบคะ"
"อืม ขอบคุณนะแล้วก็ไปทานข้าวกลางวันเถอะ เจอกันอีกทีบ่ายตรงนะคะคุณยึลมี"
นารากล่าวจบร่างสูงของเจ้าชายตะวันออกก็เข้ามาแทนที่ทันทีที่ยึลมี
พ้นสายตา ออกไป
"สิบสองชั่วโมงแล้วนะที่เราเป็นแฟนกัน คุณคิดถึงผมบ้างหรือเปล่า"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น