ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : พบกัน
“วันนี้มีประชุมกับIATA เกี่ยวกับเรื่องcontour ของเสียงที่อยู่รอบสนามบินค่ะท่าน
แล้วก็มีนัดทานอาหารค่ำกับท่านรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม” เสียงเลขานุการสาวชาวเกาหลีบอกกับ
ผู้บริหารท่าอากาศยานอย่างคล่องแคล่ว หลังจากเข้าพบในตอนเช้าเพื่อรายงานรายละเอียดในแต่ละวัน
ร่างบางกะทัดรัด ผิวสีนวลออกแทนนิดๆทำให้ดูไม่แบบบางเกินไปนัก ริมฝีปากอิ่มได้รูป ตากลมโต
นัยน์ตาสีดำสนิท และที่เด่นที่สุดคือผมยาวสีดำสลวยที่ถูกเก็บไว้อย่างเรียบร้อยเป็นมวย งดงาม
ไม่เคยมีใครรู้ว่ามันยาวแค่ไหน แต่ทุกคนต่างยอมรับว่ามัน เงา สวยงาม และดูหนา น่าสัมผัสยิ่งนัก
“โอเค งั้นคุณก็ไปทำงานต่อเถอะแล้วก็เที่ยงนี้ ออกไปตรวจรอบสนามบินด้วยกันนะ คุณยึลมี”
หญิงสาวตอบกลับด้วยภาษาเกาหลีที่สมบรูณ์
“ค่ะคุณนารา” เลขานุการสาวตอบรับก่อนหันหลังออกไป
    นารา หรือ นภสุรัสว์  กาญจนปรีดี หญิงไทยรูปร่างสมส่วน กะทัดรัด เจ้าของผมงามที่น่าสัมผัส
หญิงสาวผู้นี้เป็นผู้ บริหารระดับสูงของสนามบินนานาชาติของเกาหลีแห่งนี้มาได้ หนึ่งปีแล้ว
หลังจากที่เรียนจบการศึกษาทางด้านการจัดการท่าอากาศยานจาก สถาบัน ภายใต้กำกับของ
International Civil Aviation Organization (ICAO) แล้วก็ทำการศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง
กับการบริการท่าอากาศยานโดยเฉพาะต่อในประเทศอังกฤษเพื่อให้สำเร็จปริญญาโทและเอก
และเลือกมาทำวิทยานิพนธ์ เกี่ยวกับสนามบินใหม่ ที่จะทำการเปิด และต้องวางแผนเกี่ยวกับโครงสร้าง
ขีดความสามารถการรองรับ ทั้งอากาศยาน ผู้โดยสาร และสินค้าที่จะนำเข้าประเทศผ่านสนามบินแห่งนี้
เนื่องจากว่าอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอเป็นหนึ่งในคณะกรรมการจาก IATA
( International Air Transport Association) ที่มาทำการตรวจสอบการสร้างสนามบินแห่งนี้
ให้อยู่ในมาตรฐานที่ ทางสมาคมได้กำหนดไว้ วิทยานิพนธ์เล่มนั้น
บวกกับการทำงานอย่างเอาจริงเอาจัง ความสามารถในการแก้ไขปัญหา
และความอ่อนหวานเรียบร้อยแต่ในการทำงานที่รวดเร็ว
และ สัมฤทธิ์ผลอย่างมาก ทำให้ท่านรัฐมนตรีคมนาคม ถูกใจ หญิงสาวผู้นี้เป็นอย่างมาก
จนในที่สุดวันที่เธอเรียนสำเร็จการศึกษา ท่านก็ติดต่อไปว่าถ้ายังไม่มีงานทำก็ให้มาหาท่าน
ท่านมีงานให้ทำ ตอนแรก หญิงสาวคิดว่าน่าจะเป็นที่ปรึกษาด้านการคมนาคมทางอากาศ
แต่ก็เพียงแค่ตอนแรก เพียง หนึ่งปีเท่านั้น เพราะในที่สุดหลังจากที่สนามบินทำการแปรรูป
ออกไปเป็นบริษัทที่มีรัฐถือหุ้น 60 % โครงสร้างด้านการบริหารแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ
ฝ่ายปฏิบัติการ และ ฝ่ายบริหาร และ แน่นอนว่าผู้ที่ได้รับเลือกให้มาเป็น
กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหาร(CEO)ก็คือสาวไทยผู้นี้ ด้วยความที่เคยทำงาน
และอยู่มาตั้งแต่เริ่มวางแผนสนามบินทำให้ไม่มีปัญหาใดๆเกินขึ้น
แม้แต่น้อย การบริหารทุกอย่างราบรื่นสมบรูณ์ ความเป็นคนต่างชาติถูกกลืน
หายไปจากความรู้สึกของคนที่นี่นานแล้ว ตอนนี้ CEO สาวมั่น ที่สง่างาม ดูภูมิฐาน
เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสนามบินแห่งนี้ไปแล้ว
เพราะด้วยความที่เป็นสาวมั่นของเธอ เก่งไปซะหลายๆด้าน
ทำให้มิมีชายใดกล้ามายุ่งวุ่นวาย เพราะภายใต้การบริหารงานต้องมีความเด็ดขาด
และความฉลาดที่ประดุจดังดาบ ทำให้ชายหนุ่มหลายคน
ต้องยอมถอยทัพกลับเพราะความที่พ่ายแพ้แก่ความฉลาดของเธอ
ครั้งแรกที่การประชุม ส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชายและก็ทำท่าทางไม่ยอมรับฟัง
เพียงเพราะการที่ CEO คนนี้เป็นผู้หญิง แต่ก็นั่นแหละ ความฉลาด และความสวย
ที่เป็นอาวุธร้ายแรงของหญิงสาวผู้นี้ ทำให้บรรดาผู้ร่วมประชุมต้องยอมจำนนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
นาราเป็นหญิงสาวที่สามารถดึงประโยชน์ของความเป็นหญิงมาใช้
แล้วก็ทำให้บรรดาชายทั้งหนุ่มและมีอายุ นับถือ และเอ็นดูเธอได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ด้วยเหตุนี้เองจึงไม่มีผู้ชายใดกล้ามาแหยม และแน่นอนกล้ามาจีบด้วยกลัวเดชแห่งพระนาง
    หลังจากเซ็นต์ แฟ้มสุดท้ายเสร็จ นารา กดอินเตอร์คอมเพื่อบอกให้
คุณยึลมีเลขานุการเตรียมตัวเดินรอบสนามบินกัน ก่อนจะจัดชุดให้เข้าที่และออกมาจากOffice
ในการตรวจรอบนี้จะมีตั้งแต่เดิน ขึ้นรถไฟ และรถ กอล์ฟ ตั้งแต่Terminal แรก
ที่ฝั่ง Domestic ไปจนถึง Last Terminal  ที่ฝั่ง International ก็สนามบินน่ะไม่ใช่แคบๆนะคะ
ไม่ผิดหรอกที่บอกว่าต้องขึ้นรถไฟ และก็เป็นรถไฟฟ้าด้วยเพราะ Terminal International
กับ Domestic ห่างกันเกือบ 3 กิโลเมตร
ดังนั้นจึงต้องมีการนั่งรถไฟฟ้าไปสำรวจ ที่จริงจะนั่งรถส่วนตัวไปก็ได้
แต่ว่าถ้าทำแบบนั้น ท่าน CEO ว่ามันจะไม่รู้ว่าผู้โดยสารได้รับการบริการเช่นไร
และมีจุดใดที่พอจะทำเงินให้สนามบินได้อีก เช่นพื้นที่ว่างต่างๆใน อาคาร
ผนังที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ด้วยการให้ติดโฆษณา วันนี้ที่แรกที่จะไปทำการตรวจคือ
ผู้โดยสารขาออก ระหว่างประเทศ  วันนี้ที่ห้องใหญ่ไม่มีการเปิดใช้ มีเพียงห้องกลาง
ที่ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจที่ค่อนข้างมีอิทธิพล และไม่ต้องการอยู่รวมกับคนอื่น
ในห้องรับรองพิเศษของสายการบิน อืมนี่ล่ะคนมีเงิน แต่นาราก็เฉยๆเพราะว่า
คนที่ต้องการบริการที่ยอดเยี่ยมก็ยินดีที่ต้องจ่ายแพงกว่าอย่างยอดๆด้วยเช่นกัน
    ร่างสูงในชุดสูท ของArmani collection ล่าสุดสีขาวดูอย่างกับเจ้าบ่าวมากกว่านักธุรกิจ
ผิวขาว รูปร่างไม่หนามากนัก ไหล่กว้าง จมูกที่โด่งมาก ตาเรียว แต่คม ขนตางอน และยิ่งกว่าอื่นใด
นัยน์ตาสีม่วง
  ผู้ชายคนนี้เหมือนจะเคยให้สัมภาษณ์ ลงนิตยสารหลายฉบับในเกาหลี และก็เป็นปกล่าสุดของ Times
นิตยสารระดับโลก ชายหนุ่มคนนี้ คิมอินจอง กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัท คิม คอร์ปอเรชั่น 
บุตรชายของนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในเศรษฐกิจเกาหลี คิมแจอิน และภรรยาชาวโรมาเนีย
ผู้มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงเลดี้ โจเซฟิน ดัชท์ดอฟ  กลุ่มบริษัทคิม คอร์ปอเรชั่น
ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องจักรในงานอุตสาหกรรมต่างๆ  มีธุรกิจหลักเกี่ยวกับการเดินเรือ
และมีสมญานามว่า Prince of  Ocean  เจ้าชายแห่งมหาสมุทร
กิจการเดินเรือของคิม คอร์ปอร์เรชั่น รายละเอียดต่างๆของร่างสูง
ถูกโหลดอย่างรวดเร็วในสมองของนารา ก่อนที่ร่างสูงจะส่งเสียงฉุนเฉียวว่า
“นี่มันอะไรกัน ทำไมมีน้ำหยดลงมาจากช่องแอร์ล่ะ แย่มาก”
ก่อนที่จะหันมาหาร่างบาง ที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ชุดสีกรมท่าแบบนี้
แบบที่ตัดเย็บอย่างเป็นทางการ ทำให้ชายหนุ่มคิดว่า ร่างบางน่าจะเป็นผู้ดูแล
และรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นได้ 
“สูทตัวนี้ราคาเท่าไหร่ คุณรู้ไหมสีขาว แล้วก็การไม่ดูแลเอาใจใส่สถานที่ของคุณ
ทำให้มันเปื้อน คุณจะรับผิดชอบหรือเปล่า” น้ำเสียงยังคงไม่อ่อนลงเลย ดวงตาสีม่วงนั่นคมกล้า
จนยึลมี เลขานุการของนาราถึงกับสะดุ้ง แต่สำหรับนาราแล้ว นี่เล็กน้อยมาก
“ในนามท่าอากาศยาน ดิฉันต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งและดิฉันยินดี
ที่จะทำการชดใช้ค่าเสียหายตามที่เหมาะสมค่ะ” เสียงหวานเอ่ยอย่างเรียบเย็น
พร้อมรอยยิ้มที่แสนหวาน “แต่ผมต้องใช้ชุดนี้ เดี๋ยวนี้ คุณจะจัดการยังไง ไม่ทราบ”
เสียงที่ออกมายังมีแววคุกกรุ่นอยู่ “ตามหลักการ เราจะชดเชยสูงสุดที่
100,000 วอนค่ะในกรณีที่มีการฉีกขาดเกิดขึ้น แต่ว่าครั้งนี้...”
ก่อนที่จะได้พูดต่อนาราก็ถูกขัดขึ้น
“แสนวอน คุณไม่รู้เหรอว่าชุดนี้มันเท่าไหร่ กระดุมเม็ดเดียวเองมั้ง”
ร่างสูงเอ่ยอย่างเหยียดๆ อืม ผู้ชายคนนี้ดูท่าทางดี เป็นนักธุรกิจ
แต่น่าแปลกที่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์เอาเสียเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูง
สงสัยจะเป็นบารมีพ่อกระมัง แย่จริง นาราเอ่ยน้ำเสียงเยียบเย็นว่า
“ Armani collection ล่าสุด สูท 2,500,000 วอนราคาduty free
แต่ดิฉันก็ขอเรียนให้ทราบว่าดิฉันและทางท่าอากาศยานชดเชยให้ได้เพียงแค่ค่าซักรีดเท่านั้นค่ะ”
ที่จริงเธอจะจ่ายเต็มจำนวนราคาชดเชย หรือจะซื้อให้ใหม่ก็ยังได้
แต่นิสัยแบบนี้ไม่สบอารมณ์ คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายประเมินความเสียหาย
ของทางสถานที่แล้วกระมัง
“ผมไม่เอาเรื่องก็ได้แต่คุณต้องไปซื้อสูทตัวใหม่กับผม”
ร่างสูงเอ่ยอย่างเด็ดขาด สายตาที่มองราวกับจะตัดนาราออกเป็นชิ้นๆ
“ขออภัยอีกครั้งนะคะ แต่ดิฉันไม่ใช่ผู้ประเมินความเสียหาย และไม่ใช่เพื่อน shopping”
ก่อนที่จะหันไปหาเลขานุการเพื่อสั่งให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาจัดการ
แต่ร่างบางก็ต้องชะงักเข้าสู่อ้อมแขนของร่างสูงทันที
เพราะมือหนาเข้าไปคว้าแขนไว้อย่างถือวิสาสะ ก่อนจะกระซิบลงที่ข้างหูว่า
“ผมขอร้องนะ ช่วยผมสักครั้งเถอะ”
แววตาสีม่วงดูเว้าวอนอย่างประหลาด
นาราประหลาดใจเพียงชั่วครู่ก่อนจะตอบไปด้วยน้ำเสียงเรียบ
“ดิฉันจะนำทางไปที่ duty free shop ค่ะ”
ท่ามกลางความมืนงงของทั้งเลขานุการ และเหล่าการ์ดที่อยู่รอบตัวของชายหนุ่ม
ก่อนที่ร่างสูงจะหันไปสั่งว่า เจอกันบนเครื่องบิน
   
แล้วก็มีนัดทานอาหารค่ำกับท่านรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม” เสียงเลขานุการสาวชาวเกาหลีบอกกับ
ผู้บริหารท่าอากาศยานอย่างคล่องแคล่ว หลังจากเข้าพบในตอนเช้าเพื่อรายงานรายละเอียดในแต่ละวัน
ร่างบางกะทัดรัด ผิวสีนวลออกแทนนิดๆทำให้ดูไม่แบบบางเกินไปนัก ริมฝีปากอิ่มได้รูป ตากลมโต
นัยน์ตาสีดำสนิท และที่เด่นที่สุดคือผมยาวสีดำสลวยที่ถูกเก็บไว้อย่างเรียบร้อยเป็นมวย งดงาม
ไม่เคยมีใครรู้ว่ามันยาวแค่ไหน แต่ทุกคนต่างยอมรับว่ามัน เงา สวยงาม และดูหนา น่าสัมผัสยิ่งนัก
“โอเค งั้นคุณก็ไปทำงานต่อเถอะแล้วก็เที่ยงนี้ ออกไปตรวจรอบสนามบินด้วยกันนะ คุณยึลมี”
หญิงสาวตอบกลับด้วยภาษาเกาหลีที่สมบรูณ์
“ค่ะคุณนารา” เลขานุการสาวตอบรับก่อนหันหลังออกไป
    นารา หรือ นภสุรัสว์  กาญจนปรีดี หญิงไทยรูปร่างสมส่วน กะทัดรัด เจ้าของผมงามที่น่าสัมผัส
หญิงสาวผู้นี้เป็นผู้ บริหารระดับสูงของสนามบินนานาชาติของเกาหลีแห่งนี้มาได้ หนึ่งปีแล้ว
หลังจากที่เรียนจบการศึกษาทางด้านการจัดการท่าอากาศยานจาก สถาบัน ภายใต้กำกับของ
International Civil Aviation Organization (ICAO) แล้วก็ทำการศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง
กับการบริการท่าอากาศยานโดยเฉพาะต่อในประเทศอังกฤษเพื่อให้สำเร็จปริญญาโทและเอก
และเลือกมาทำวิทยานิพนธ์ เกี่ยวกับสนามบินใหม่ ที่จะทำการเปิด และต้องวางแผนเกี่ยวกับโครงสร้าง
ขีดความสามารถการรองรับ ทั้งอากาศยาน ผู้โดยสาร และสินค้าที่จะนำเข้าประเทศผ่านสนามบินแห่งนี้
เนื่องจากว่าอาจารย์ที่ปรึกษาของเธอเป็นหนึ่งในคณะกรรมการจาก IATA
( International Air Transport Association) ที่มาทำการตรวจสอบการสร้างสนามบินแห่งนี้
ให้อยู่ในมาตรฐานที่ ทางสมาคมได้กำหนดไว้ วิทยานิพนธ์เล่มนั้น
บวกกับการทำงานอย่างเอาจริงเอาจัง ความสามารถในการแก้ไขปัญหา
และความอ่อนหวานเรียบร้อยแต่ในการทำงานที่รวดเร็ว
และ สัมฤทธิ์ผลอย่างมาก ทำให้ท่านรัฐมนตรีคมนาคม ถูกใจ หญิงสาวผู้นี้เป็นอย่างมาก
จนในที่สุดวันที่เธอเรียนสำเร็จการศึกษา ท่านก็ติดต่อไปว่าถ้ายังไม่มีงานทำก็ให้มาหาท่าน
ท่านมีงานให้ทำ ตอนแรก หญิงสาวคิดว่าน่าจะเป็นที่ปรึกษาด้านการคมนาคมทางอากาศ
แต่ก็เพียงแค่ตอนแรก เพียง หนึ่งปีเท่านั้น เพราะในที่สุดหลังจากที่สนามบินทำการแปรรูป
ออกไปเป็นบริษัทที่มีรัฐถือหุ้น 60 % โครงสร้างด้านการบริหารแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ
ฝ่ายปฏิบัติการ และ ฝ่ายบริหาร และ แน่นอนว่าผู้ที่ได้รับเลือกให้มาเป็น
กรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหาร(CEO)ก็คือสาวไทยผู้นี้ ด้วยความที่เคยทำงาน
และอยู่มาตั้งแต่เริ่มวางแผนสนามบินทำให้ไม่มีปัญหาใดๆเกินขึ้น
แม้แต่น้อย การบริหารทุกอย่างราบรื่นสมบรูณ์ ความเป็นคนต่างชาติถูกกลืน
หายไปจากความรู้สึกของคนที่นี่นานแล้ว ตอนนี้ CEO สาวมั่น ที่สง่างาม ดูภูมิฐาน
เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสนามบินแห่งนี้ไปแล้ว
เพราะด้วยความที่เป็นสาวมั่นของเธอ เก่งไปซะหลายๆด้าน
ทำให้มิมีชายใดกล้ามายุ่งวุ่นวาย เพราะภายใต้การบริหารงานต้องมีความเด็ดขาด
และความฉลาดที่ประดุจดังดาบ ทำให้ชายหนุ่มหลายคน
ต้องยอมถอยทัพกลับเพราะความที่พ่ายแพ้แก่ความฉลาดของเธอ
ครั้งแรกที่การประชุม ส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชายและก็ทำท่าทางไม่ยอมรับฟัง
เพียงเพราะการที่ CEO คนนี้เป็นผู้หญิง แต่ก็นั่นแหละ ความฉลาด และความสวย
ที่เป็นอาวุธร้ายแรงของหญิงสาวผู้นี้ ทำให้บรรดาผู้ร่วมประชุมต้องยอมจำนนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
นาราเป็นหญิงสาวที่สามารถดึงประโยชน์ของความเป็นหญิงมาใช้
แล้วก็ทำให้บรรดาชายทั้งหนุ่มและมีอายุ นับถือ และเอ็นดูเธอได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ด้วยเหตุนี้เองจึงไม่มีผู้ชายใดกล้ามาแหยม และแน่นอนกล้ามาจีบด้วยกลัวเดชแห่งพระนาง
    หลังจากเซ็นต์ แฟ้มสุดท้ายเสร็จ นารา กดอินเตอร์คอมเพื่อบอกให้
คุณยึลมีเลขานุการเตรียมตัวเดินรอบสนามบินกัน ก่อนจะจัดชุดให้เข้าที่และออกมาจากOffice
ในการตรวจรอบนี้จะมีตั้งแต่เดิน ขึ้นรถไฟ และรถ กอล์ฟ ตั้งแต่Terminal แรก
ที่ฝั่ง Domestic ไปจนถึง Last Terminal  ที่ฝั่ง International ก็สนามบินน่ะไม่ใช่แคบๆนะคะ
ไม่ผิดหรอกที่บอกว่าต้องขึ้นรถไฟ และก็เป็นรถไฟฟ้าด้วยเพราะ Terminal International
กับ Domestic ห่างกันเกือบ 3 กิโลเมตร
ดังนั้นจึงต้องมีการนั่งรถไฟฟ้าไปสำรวจ ที่จริงจะนั่งรถส่วนตัวไปก็ได้
แต่ว่าถ้าทำแบบนั้น ท่าน CEO ว่ามันจะไม่รู้ว่าผู้โดยสารได้รับการบริการเช่นไร
และมีจุดใดที่พอจะทำเงินให้สนามบินได้อีก เช่นพื้นที่ว่างต่างๆใน อาคาร
ผนังที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ด้วยการให้ติดโฆษณา วันนี้ที่แรกที่จะไปทำการตรวจคือ
ผู้โดยสารขาออก ระหว่างประเทศ  วันนี้ที่ห้องใหญ่ไม่มีการเปิดใช้ มีเพียงห้องกลาง
ที่ส่วนใหญ่จะเป็นนักธุรกิจที่ค่อนข้างมีอิทธิพล และไม่ต้องการอยู่รวมกับคนอื่น
ในห้องรับรองพิเศษของสายการบิน อืมนี่ล่ะคนมีเงิน แต่นาราก็เฉยๆเพราะว่า
คนที่ต้องการบริการที่ยอดเยี่ยมก็ยินดีที่ต้องจ่ายแพงกว่าอย่างยอดๆด้วยเช่นกัน
    ร่างสูงในชุดสูท ของArmani collection ล่าสุดสีขาวดูอย่างกับเจ้าบ่าวมากกว่านักธุรกิจ
ผิวขาว รูปร่างไม่หนามากนัก ไหล่กว้าง จมูกที่โด่งมาก ตาเรียว แต่คม ขนตางอน และยิ่งกว่าอื่นใด
นัยน์ตาสีม่วง
  ผู้ชายคนนี้เหมือนจะเคยให้สัมภาษณ์ ลงนิตยสารหลายฉบับในเกาหลี และก็เป็นปกล่าสุดของ Times
นิตยสารระดับโลก ชายหนุ่มคนนี้ คิมอินจอง กรรมการผู้จัดการใหญ่กลุ่มบริษัท คิม คอร์ปอเรชั่น 
บุตรชายของนักธุรกิจที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งในเศรษฐกิจเกาหลี คิมแจอิน และภรรยาชาวโรมาเนีย
ผู้มีบรรดาศักดิ์เป็นถึงเลดี้ โจเซฟิน ดัชท์ดอฟ  กลุ่มบริษัทคิม คอร์ปอเรชั่น
ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องจักรในงานอุตสาหกรรมต่างๆ  มีธุรกิจหลักเกี่ยวกับการเดินเรือ
และมีสมญานามว่า Prince of  Ocean  เจ้าชายแห่งมหาสมุทร
กิจการเดินเรือของคิม คอร์ปอร์เรชั่น รายละเอียดต่างๆของร่างสูง
ถูกโหลดอย่างรวดเร็วในสมองของนารา ก่อนที่ร่างสูงจะส่งเสียงฉุนเฉียวว่า
“นี่มันอะไรกัน ทำไมมีน้ำหยดลงมาจากช่องแอร์ล่ะ แย่มาก”
ก่อนที่จะหันมาหาร่างบาง ที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ชุดสีกรมท่าแบบนี้
แบบที่ตัดเย็บอย่างเป็นทางการ ทำให้ชายหนุ่มคิดว่า ร่างบางน่าจะเป็นผู้ดูแล
และรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นได้ 
“สูทตัวนี้ราคาเท่าไหร่ คุณรู้ไหมสีขาว แล้วก็การไม่ดูแลเอาใจใส่สถานที่ของคุณ
ทำให้มันเปื้อน คุณจะรับผิดชอบหรือเปล่า” น้ำเสียงยังคงไม่อ่อนลงเลย ดวงตาสีม่วงนั่นคมกล้า
จนยึลมี เลขานุการของนาราถึงกับสะดุ้ง แต่สำหรับนาราแล้ว นี่เล็กน้อยมาก
“ในนามท่าอากาศยาน ดิฉันต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งและดิฉันยินดี
ที่จะทำการชดใช้ค่าเสียหายตามที่เหมาะสมค่ะ” เสียงหวานเอ่ยอย่างเรียบเย็น
พร้อมรอยยิ้มที่แสนหวาน “แต่ผมต้องใช้ชุดนี้ เดี๋ยวนี้ คุณจะจัดการยังไง ไม่ทราบ”
เสียงที่ออกมายังมีแววคุกกรุ่นอยู่ “ตามหลักการ เราจะชดเชยสูงสุดที่
100,000 วอนค่ะในกรณีที่มีการฉีกขาดเกิดขึ้น แต่ว่าครั้งนี้...”
ก่อนที่จะได้พูดต่อนาราก็ถูกขัดขึ้น
“แสนวอน คุณไม่รู้เหรอว่าชุดนี้มันเท่าไหร่ กระดุมเม็ดเดียวเองมั้ง”
ร่างสูงเอ่ยอย่างเหยียดๆ อืม ผู้ชายคนนี้ดูท่าทางดี เป็นนักธุรกิจ
แต่น่าแปลกที่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์เอาเสียเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นผู้บริหารระดับสูง
สงสัยจะเป็นบารมีพ่อกระมัง แย่จริง นาราเอ่ยน้ำเสียงเยียบเย็นว่า
“ Armani collection ล่าสุด สูท 2,500,000 วอนราคาduty free
แต่ดิฉันก็ขอเรียนให้ทราบว่าดิฉันและทางท่าอากาศยานชดเชยให้ได้เพียงแค่ค่าซักรีดเท่านั้นค่ะ”
ที่จริงเธอจะจ่ายเต็มจำนวนราคาชดเชย หรือจะซื้อให้ใหม่ก็ยังได้
แต่นิสัยแบบนี้ไม่สบอารมณ์ คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายประเมินความเสียหาย
ของทางสถานที่แล้วกระมัง
“ผมไม่เอาเรื่องก็ได้แต่คุณต้องไปซื้อสูทตัวใหม่กับผม”
ร่างสูงเอ่ยอย่างเด็ดขาด สายตาที่มองราวกับจะตัดนาราออกเป็นชิ้นๆ
“ขออภัยอีกครั้งนะคะ แต่ดิฉันไม่ใช่ผู้ประเมินความเสียหาย และไม่ใช่เพื่อน shopping”
ก่อนที่จะหันไปหาเลขานุการเพื่อสั่งให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาจัดการ
แต่ร่างบางก็ต้องชะงักเข้าสู่อ้อมแขนของร่างสูงทันที
เพราะมือหนาเข้าไปคว้าแขนไว้อย่างถือวิสาสะ ก่อนจะกระซิบลงที่ข้างหูว่า
“ผมขอร้องนะ ช่วยผมสักครั้งเถอะ”
แววตาสีม่วงดูเว้าวอนอย่างประหลาด
นาราประหลาดใจเพียงชั่วครู่ก่อนจะตอบไปด้วยน้ำเสียงเรียบ
“ดิฉันจะนำทางไปที่ duty free shop ค่ะ”
ท่ามกลางความมืนงงของทั้งเลขานุการ และเหล่าการ์ดที่อยู่รอบตัวของชายหนุ่ม
ก่อนที่ร่างสูงจะหันไปสั่งว่า เจอกันบนเครื่องบิน
   
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น